ฉันมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเย็นชาซึ่งเพิ่งเรียนรู้มาจากเอ็นโจ ผู้หญิงคนนั้นก็แทบทรุดตัวลงกับพื้น
“คือ...ฉันแค่จะ...ทาคามิจิ...”
ฉันยิ้มเยือกเย็นให้ ไม่มีใครกล้าพูดอะไรอีกเลย
“อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก” ฉันพูดอย่างเฉียบขาด ทุกคนตรงนั้นก็หวาดกลัวตัวสั่นรีบวิ่งหนีกันออกไป
อ้า เรย์กะ คิโชวอินก็มีประโยชน์เหมือนกันนะ ภาพลักษณ์ของเรย์กะคนเก่าไม่ค่อยดีอย่างมาก จะจัดการกับคนที่หมายหัวอย่างถึงที่สุด โดยไม่สนเหตุผลอะไรทั้งนั้น ทำให้เรื่องนี้มันง่ายขึ้นเยอะเลยนะคะ
อาจจะควรขอบคุณเอ็นโจสำหรับหลักสูตรเรียนรู้วิธีทำสายตาให้น่ากลัว โดยเห็นจากประสบการณ์จริง...
ว่าแต่ร้อนชะมัดเลยค่ะ กล้าสาดของแบบนี้ใส่คนอื่นได้ไงคะ นี่มันอาชญากรรมชัดๆ! อ้า แต่เรย์กะก็เคยราดชาเย็นใส่วาคาบะจังครั้งหนึ่งในมังงะล่ะนะคะ อย่างน้อยเย็นก็เจ็บน้อยกว่าร้อนนะคะ... น้ำร้อนนี่มันแสบลวกจริงๆ เมื่อกี้พยายามกลั้นน้ำตารับบทโหดแทบตายเลยค่ะ
“คุณคิโชวอิน ใช้นี่ก่อนเถอะค่ะ” วาคาบะจังรีบยื่นผ้าเช็ดหน้าชุบน้ำเย็นมาให้
“อะ...ขอบคุณค่ะ” ฉันรับคำ ไม่รู้ควรพูดอะไรดี แต่ผ้าเย็นๆนี่ช่วยได้มากเลยค่ะ ความแสบเมื่อกี้เริ่มหายๆไปแล้ว
“ฝ่ายฉันต่างหากล่ะคะที่ต้องขอบคุณ” วาคาบะจังรีบพูดพร้อมก้มหัว
รู้สึกแปลกๆเหมือนกันนะคะ ตามหลักแล้วเรย์กะก็แกล้งวาคาบะมาโดยตลอด อยู่ๆมารับบทช่วยเหลือนี่ก็น่าขนลุกพอๆกับจอมมารเอ็นโจอยู่ๆก็กลายเป็นคนดีเลยค่ะ
แต่ว่านะ คราบกาแฟมันเลอะติดนานนี่คะ ถ้าเป็นฉันพอโดนแล้วจะซื้อใหม่ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร แต่สำหรับวาคาบะจังที่ต้องเก็บเงินช่วยเหลือที่บ้านแล้วคงลำบากกว่าฉันเยอะเลยค่ะ
“ไม่ต้องขอบคุณหรอกค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะช่วยคุณแต่แรกอยู่แล้ว” ฉันพูด พลางเอาผ้าเช็ดหน้าคืนวาคาบะจัง
“เอ๋?”
“มันเป็นแค่เรื่องบังเอิญเท่านั้นแหละค่ะ”
“อ้า...ค่ะ”
“เพราะงั้นก็ขอบคุณที่ช่วยเอาผ้าชุบน้ำให้ฉันนะคะ”
“ค่ะ...”
ฉันรีบเดินหนีวาคาบะจังที่กำลังยืนงงๆอยู่ เริ่มเข้าใจแล้วค่ะว่าทำไมคาบุรากินิยมวิธีนี้หนีปัญหาจัง มันไม่ต้องหันกลับไปมอง ไม่ต้องรับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจากนั้น
อายจังค่ะ ฉันทำอะไรลงไปอีกแล้วนะคะ
ฉันกลับมาถึงบ้าน กะจะส่งเมลล์หาคาบุรากิว่าหันทำคะแนนอย่างสม่ำเสมอหน่อยสิ พลังสโตรกเกอร์ของนายช่วงนี้หายไปไหนหมด แต่มีเมลล์จากคาบุรากิส่งมา ฉันเลยเปิดอ่านก่อน
“ถ้าฉันเป็นอะไรไป ผู้ต้องสงสัยรายแรก คือ ชูสุเกะนะ ฝากบอกตำรวจด้วย...”
เกิดอะไรขึ้นคะ...