ต่อจาก >>124-125
ช่วงนี้เมากาวหนักมาก งานกองดองไว้เต็มเปี่ยม รู้สึกผิดนะ แต่เดี๋ยวค่อยกังวลตอนใกล้ๆส่งล่ะกัน 5555 ว่าแต่เมื่อไหร่อฟช.จะมีฉากคาบุรากิที่สภาพดีๆออกมาบ้างน่ะ ตอนล่าสุดนี่อาชญากรเหลือเกินนน
..............…….....
หลังจากเอ็นโจเดินออกห่างไปในระยะที่มากพอแล้ว ฉันรีบขอโทษคาบุรากิทันทีที่ทำให้เดือดร้อน...
“อ้า ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไรหรอก”
ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรคะ ทะเลาะกับเพื่อนสนิทที่สุดของตัวเอง แถมยังต้องทำสัญญากับจอมมารอีกด้วย...
“แต่ว่าเงื่อนไขนั่น...”
“อ้อ ไม่ต้องคิดมากหรอก ชูสุเกะก็ชอบทำแบบนั้นบ่อยๆที่โลกเก่าน่ะ”
“เอ๋!?!”
คาบุรากินี่นายโดนจอมมารโลกก่อนข่มขู่จนเคยชิน และถูกล้างสมองไปแล้วหรอ... อย่ามาทำหน้าดีใจกับเรื่องพรรค์นี้สิ
“แต่ชูสุเกะก็รักษาสัญญาเสมอล่ะนะ”
“พูดถึงเรื่องนั้น... มันเรื่องอะไรหรอคะที่ท่านคาบุรากิพยายามไม่ให้ท่านเอ็นโจเข้าไปยุ่งน่ะ”
คาบุรากิชะงักไป ขมวดคิ้วคิดสักพัก ก่อนจะพูด
“จะว่าไป ในเรื่องนี้เธอก็ถือว่าติดหนี้ฉันอยู่นะ”
“เอ๊ะ?” ฉันงงๆ มองคาบุรากิอย่างระแวง แต่ว่าเขาคงไม่ชั่วร้ายเผด็จการเลือดเย็นแบบจอมมารหรอก ฉันเลยตัดสินใจยอมรับ “จะพูดอย่างนั้นก็ล่ะมั้งคะ...”
“ถ้างั้นฉันขออะไรเธอได้อย่างหนึ่งใช่ไหม”
“อ่า...ค่ะ”
ฉันพูดอย่างเสี่ยงดวง หมอนั่นจะให้ฉันทำอะไรแปลกๆหรือเปล่าน่ะ... แต่ว่าทำให้เขาเดือดร้อนขนาดนั้น แค่ทำอะไรให้นิดๆหน่อยๆคงไม่เป็นไรมั้งคะ
“ถ้างั้นฉันขอห้ามไม่ให้เธอตามหาความจริงเรื่องนี้อีก”
“หะ!?!”
“ช่วยรักษาสัญญาด้วยนะ” คาบุรากิพูดแล้วรีบจากไป ไม่กล้าต่อบทสนทนาทีไรก็หนีไปตลอดเลยนะคะ...
ฉันนิ่งค้างอย่างคาดไม่ถึง ฉันไม่คิดเลยว่าเขาจะอยู่ๆสร้างเงื่อนไขเพื่อทำอะไรแบบนั้น! หมอนั่นนานๆทีก็ฉลาดอยู่ล่ะนะคะ...
หัวใจฉันทั้งอบอุ่นและเจ็บปวดไปพร้อมๆกันเลยค่ะ ตอนคาบุรากิพยายามปกป้องฉันรู้สึกดีจริงๆนะคะ ฉันทำอะไรเองแบกรับสิ่งต่างๆเองแทบทุกอย่าง นานๆจะมีคนออกตัวทำอะไรแบบนี้ที แต่จะยังไงก็เจ็บอย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะที่ต้องเขาลำบาก
ฉันรีบกลับไปเข้าเรียนเพราะเลยเวลามานิดหน่อยแล้ว แต่ครั้งนี้กลับไม่มีสมาธิเรียนเลยค่ะ...
..............…….....
ผลสอบที่สูงขึ้นขนาดนี้ทำให้ฉันได้รับคำชื่นชมอย่างมากเลยค่ะจากทั้งเพื่อนๆ ครูอาจารย์ ท่านพ่อท่านแม่เองก็มาแสดงความยินดีด้วยเช่นกัน ถึงแม้จะเป็นเพราะการที่คะแนนสูงขึ้นแบบนี้ทำให้คาบุรากิดูสนิทสนมกับฉันมากขึ้น... ท่านแม่ไปเอาข่าวนั้นมาจากไหนหรอคะ
มีพวกที่คิดว่าฉันโกงข้อสอบ ติดสินบนอะไรทำนองนั้นด้วยค่ะ แต่ว่าทันทีที่ฉันเกือบจะแว่วๆถึงหู เซริกะจังกับคุคิโนะจังก็ช่วย “จัดการ” ไปเรียบร้อยแล้วค่ะ ไม่ต้องถึงมือฉันเลยสักนิด
แต่มันก็น่าสงสัยจริงๆนั่นแหละค่ะที่อยู่ดีๆฉันก็คะแนนพุ่งขนาดนี้ ถึงอย่างนั้นการพูดในที่สาธารณะแบบนั้นไม่ฉลาดเลยนะคะ ถ้าเป็นเรย์กะคนเดิมล่ะก็คงไม่ปล่อยไปง่ายๆขนาดนั้นหรอกค่ะ
ฉันมีเป้าหมายว่าจะตั้งใจเรียนและรักษาคะแนนให้ได้ไปเรื่อยๆค่ะ สักวันก็จะพิสูจน์ได้ว่านี่เป็นความสามารถของฉันเอง แต่ว่าถ้าข้อสอบเริ่มไม่เหมือนเดิมแล้วคงจะลำบากเหมือนกันนะคะ...
ฉันตรวจกำหนดการของท่านพี่ที่แนบมาในซองซึ่งคาบุรากิให้มาแล้ว กว่าจะหาวันว่างตรงกันน่าจะอีกสักพัก ฉันยังไม่กล้าที่จะโทรไปหาเขาซะด้วยสิคะ ดูเหมือนเรย์กะไม่ใช่น้องที่ดีเท่าไหร่ ถ้าจะทำอะไรสักอย่างควรจะไปพาแบบเจอหน้ากันมากกว่าน่ะค่ะ
ช่วงนี้คาบุรากิไม่ได้พูดเรื่องวาคาบะจังมาในเมลล์เหมือนปกติ ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นกันบ้าง ฉันไม่สบายใจเลยค่ะ...
ฉันเองก็ไม่ค่อยได้เจอวาคาบะจังเหมือนกันค่ะ ราวกับว่าเธอหลบหน้าฉันอยู่เลย...
แต่ว่าเหมือนฉันก็คิดไปเอง เพราะวันต่อมาขณะฉันกำลังเดินออกจากประตูโรงเรียนเพื่อขึ้นรถกลับบ้านก็เห็นกลุ่มผู้หญิงประมาณห้าหกคนกำลังยืนล้อมวาคาบะจังอยู่ ท่าทางไม่เป็นมิตรเท่าไหร่เลยด้วยค่ะ ฉันเลยแอบเดินเข้าไปใกล้
“แหม ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนอย่างเธอยังกล้ามาที่โรงเรียนอีก”
“นั่นสิ ไร้จิตสำนึกสุดๆ”
“สงสัยต้องสั่งสอนหน่อยแล้ว”
ผู้หญิงกลุ่มนั้นหัวเราะคิกคักให้กับท่าทางรนรานหวาดกลัวของวาคาบะจัง
ฉันที่แอบอยู่ก็กรีดร้องในใจ คาบุรากิ นายอยู่ไหนน่ะ! นี่ถึงฉากที่พระเอกต้องปกป้องนางเอกแล้วไม่ใช่หรอ รีบโผล่มาทำคะแนนเร็วเข้าสิ! ! !
มีคนหนึ่งในกลุ่มนั้นดึงผมวาคาบะจัง คนที่ดูจะเป็นหัวโจกในกลุ่มนั้นแสยะยิ้ม แล้วเปิดฝาแก้วกาแฟที่พกมา ฉันเดาได้ทันทีว่าจะเกิดอะไรขึ้น…
“เอาล่ะ ถึงเวลาลงโทษแล้วสินะ”
หัวโจกสาวสาดกาแฟร้อนๆอย่างเต็มแรง ก่อนชะงักกันไป ฉันแอบเห็นว่าผู้หญิงบางคนในกลุ่มดูขาอ่อนจนแทบยืนไม่ไหวด้วยค่ะ
“ทะ...ท่านเรย์กะ”
“แหม รู้จักฉันด้วยหรอคะ” ฉันพูด “แต่ก็น่าสงสัยว่าถ้าเป็นอย่างงั้นจริง ทำไมถึงกล้าทำเรื่องแบบนี้”