ต่อจาก https://fanboi.ch/webnovel/3543/844-846/ ฟิคคู่หูทะลุมิติ
สารภาพตามตรงว่าแต่งฟิคนี้ พอไปอ่านอฟช.แล้วมึนเบลอ เหมือนเมากาวตัวเอง คาบุรากิ...นายอย่าทำอะไรอย่างงี้สิ อ่าน อฟช.ทีจะแต่งฟิคตัวเองแล้วชะงัก 5555
ป.ล. ช้ำใจจากการเผลอลบฟิคเองกับมือ... เขียนอีกรอบแล้วบทเปลี่ยนไปเยอะเลยแหะ สงสัยผสมความรู้สึกตัวเองเพิ่มเข้าไป 555
..............…….....
“ท่านเอ็นโจ ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหมคะ”
ฉันหวังว่าจะไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับเอ็นโจในโลกนี้อีก เขาเป็นพวกที่น่ากลัวกับศัตรูเอามากๆเลยค่ะ เพราะฉะนั้นมีทางไหนหลีกเลี่ยงได้ก็ควรหลีกเลี่ยง
ถึงฉันจะหวาดกลัว แต่ครั้งนี้ก็รู้สึกว่าควรทำอะไรสักอย่างค่ะ
เอ็นโจไม่ตอบ แต่ยังคงจ้องมองฉันด้วยสายตาเย็นชาเช่นเดิม เขากดสายตาให้น่ากลัวมากยิ่งขึ้น ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ ฉันถอยหลังอัตโนมัติ
“สะใจที่ลบล้างสิ่งที่ผมเคยพูดได้งั้นหรอ”
ฉันชะงักอย่างงงๆ ก่อนจะนึกขึ้นได้ เอ็นโจเคยพูดว่าคาบุรากิรักเกียจและไม่มีทางมาชอบฉันได้อะไรทำนองนี้ตอนเจอกันครั้งก่อน ฉันกลัวมากเกินไปจนพยายามลบความทรงจำนั้นออกจากสมอง เลยนึกไม่ออกในทันที
“เปล่าหรอกค่ะ ฉันไม่ต้องการพูดเรื่องนั้น” ฉันรีบยืนยันทันทีที่ได้สติ รู้สึกใจฉันสั่นพร้อมจะหล่นวูบไปทุกเมื่อเวลาที่ต้องมองสายตาเชือดเฉือนของเอ็นโจ หมอนั่นมีพรสวรรค์มากพอที่จะฆ่าคนจิตอ่อนด้วยการมองเลยนะคะ
ฉันตั้งสติ พยายามรวบรวมความกล้า
“ท่านเอ็นโจทะเลาะกับท่านคาบุรากิเพราะฉันหรือเปล่าคะ”
“คุณมั่นใจว่าคุณมีค่าพอที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนั้นงั้นหรอ”
“ฉันก็หวังว่าตัวเองจะไม่มีค่าพอที่ทำให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นเหมือนกันค่ะ”
ฉันตอบกลับไป พยายามจินตนาการว่าคุยกับเอ็นโจโลกก่อนอยู่ ท่องไว้ว่าไม่น่ากลัวๆ แม้ตอนนี้รอยยิ้มเอ็นโจจะเย็นยะเยือกก็ตาม...
“คุณทำอะไรกับมาซายะ” เอ็นโจถาม และเดินเข้ามาใกล้อีก ฉันถอยหลังหนีแต่ก็ติดผนัง
จอมมารที่น่ากลัวในโลกก่อนดูเทียบไม่ได้กับโลกนี้เลยค่ะ... จอมมารโลกนี้ทั้งท่าทาง สายตา และรอยยิ้มมารวมกันแล้วดูน่ากลัวจนไม่กล้าเถียงไม่กล้าต่อสู้
“ฉันไม่ได้ทำอะไรค่ะ...”
ฉันอยากให้รถบรรทุกพุ่งทะลุกำแพงมาชนฉันหนีออกสถานการณ์ตอนนี้ แต่มันคงเป็นไปไม่ได้... จึงได้แต่รวบรวมความกล้าและพูดต่อ
“ฉันเข้าใจค่ะว่าสิ่งที่ฉันเคยทำมันเลวร้ายมากๆ ไม่แปลกที่ท่านเอ็นโจจะระแวงฉัน” ฉันกลั้นใจพูดไป “ฉันเองก็รับตัวเองในตอนนั้นไม่ได้เหมือนกันค่ะ...”
เอ็นโจมองฉัน แม้จะยิ้ม แต่ดวงตาไม่ยิ้มตามไปด้วย
“ต่อให้คุณไม่ได้โกหก แต่ความผิดที่คุณเคยทำมาก็ไม่หมายความว่าจะถูกลบล้างได้” เขาพูดอย่างสงบนิ่ง แต่ฉันรู้สึกเหมือนเวลาทะเลสงบก่อนมีพายุเลยค่ะ “อีกอย่างต่อให้ตอนนี้คุณอาจจะรู้สึกผิดจริง แต่วันหนึ่งเมื่อความทรงจำของคุณกลับมา คุณก็อาจจะกลับไปเป็นเช่นเดิม”
เอ็นใจค่อนข้างมองสถานการณ์ได้ทะลุปรุโปรงดีจริงๆค่ะ แต่ว่าคงเดาไม่ได้หรอกนะคะว่าฉันทะลุมิติมา...
“ถ้าเป็นแบบนั้น บางทีฉันอาจจะกลับไปทำตัวแย่ๆกับท่านคาบุรากิก็ได้ เพราะฉะนั้น...ท่านเอ็นโจ ได้โปรด คืนดีกับท่านคาบุรากิได้ไหมคะ... ฉันรู้ดีว่าไม่สิทธิ์ก้าวก่าย แต่ว่าตราบใดที่ฉันยังเป็นตัวฉันในตอนนี้ ฉันขอร้องเถอะนะคะ”
เอ็นโจยังไม่ตอบอะไร ฉันจึงรู้สึกใจสั่นรัว ไม่รู้จะถูกหมายหัวประหารชีวิตไว้หรือเปล่า...
“ท่านคาบุรากิเสียใจจริงๆนะคะที่ทะเลาะกับท่านเอ็นโจ” ฉันพูดย้ำไป “ถ้าเป็นเรื่องของฉันล่ะก็ แทนที่จะแตกแยกกันเอง มาร่วมกันคิดอะไรแก้ปัญหาหรือสู้กับฉันแบบนั้นไม่ดีกว่าหรอคะ...”
ลิ้นฉันเริ่มชาแล้ว... ฉันว่าฉันพูดภาษาได้แปลกๆขึ้นเรื่อยๆตามจังหวะหัวใจเต้นที่เต้นแรงขึ้นทุกที
เอ็นโจยังคงรอยยิ้มเย็นชาไว้เช่นเดิม แต่ฉันแอบเห็นว่าเขารอยยิ้มกระตุกนิดหน่อย
“ไม่รู้เลยสินะว่ามาซายะ...”