ร้านที่ฉันพาเอ็นโจมาเป็นร้านสามัญชนบ้านๆ ร้านก็เล็กและแคบมีโต๊ะนั่งไม่กี่ที่แต่รสชาติอร่อยล้ำ เนื่องจากแอบมาทานกับวาคาบะจังก่อนหน้าจึงได้รู้ว่ามีร้านดีๆแบบนี้อยู่ในซอกซอยด้วย ดีใจเหมือนได้ค้นพบเห็ดมัตสึทาเกะในป่าเลยล่ะค่ะ
ฉันเหลือบมองเอ็นโจที่นั่งอ่านเมนู ทีแรกก็คิดว่าคุณชายอย่างหมอนี่จะกินร้านพวกนี้ได้รึเปล่านะ แต่ร้านข้าวหน้าไก่กับไข่นี่เป็นหนึ่งในสิ่งที่ฉันใฝ่ฝันจะมาทานตั้งแต่จำความได้ว่าเป็นคิโชวอิน เรย์กะเลยล่ะค่ะ มีโอกาสแล้วก็ต้องมาทานให้ได้
ดูเหมือนคุณลุงคุณป้าเจ้าของร้านจะจำได้ว่าฉันเคยมาทานที่นี่ จึงเพิ่มไข่ต้มมาให้อีกฟองโดยไม่ต้องเอ่ยปากสั่ง แล้วก็แถมให้เอ็นโจด้วยคน
"แฟนเหรอคะ" คุณป้าถามฉันด้วยน้ำเสียงร่าเริง "เป็นคู่ที่เหมาะสมกันมากเลยค่า"
"ขอบคุณครับ" นายจะไปขอบคุณเขาทำไมล่ะค้า แล้วก็ไม่ใช่แฟนซักหน่อยนะคะคุณป้า!!!
ฉันเถียงในใจอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่พูดออกไปไม่ได้เพราะเอ็นโจที่โปรยยิ้มมาให้
คุณป้าคุยกับพวกเราอีกนิดหน่อยแล้วไปต้อนรับลูกค้ารายอื่นที่เพิ่งเข้ามาในร้าน รู้สึกว่าทุกสายตามองมาทางนี้เป็นตาเดียวเลยล่ะค่ะ
"คุณคิโชวอินเคยมาที่นี่เหรอ"
"เอ่อ ค่ะ" ฉันพยักหน้า "มากับคุณวาคาบะน่ะค่ะ"
"หืม" เอ็นโจทำหน้าแปลกใจ "สนิทกับคุณทาคามิจิขนาดนั้นเลยเหรอ"
เอ๊ะ ฉันจะสนิทกับใครมันก็เรื่องของฉันนี่คะ
"คุณวาคาบะเคยช่วยเหลือฉันไว้น่ะค่ะ แล้วเธอก็เป็นคนอัธยาศัยดีด้วย" เรื่องที่วาคาบะจังเคยช่วยเหลือนี่ ถ้าไปเล่าให้ใครฟังก็อายตายชัก ถึงนายจะมองด้วยสายตาแบบนั้นก็ไม่ยอมเปิดปากแน่นอนค่ะ ฉันรีบเปลี่ยนเรื่องทันที "เห็นอาหารสามัญแบบนี้ก็น่าจะชวนท่านคาบุรากิมาทานด้วยกันนะคะ"
"มาซายะไม่ว่างหรอก" เอ็นโจตอบพร้อมกับรอยยิ้ม "ป่านนี้คงไปช่วยงานคุณทาคามิจิอยู่ล่ะมั้ง"
"ช่วยงาน!?" ฉันกระพริบตาปริบๆ แล้วก็หยิบมือถือขึ้นมาพิมพ์เมล์หาวาคาบะจังแบบร้อนใจ เพื่อจะเช็คว่าตาบ้านั่นไม่ได้ไปทำความเดือดร้อนยุ่งยากให้ วาคาบะจังยังไม่ตอบกลับมาเลย สงสัยจะยุ่งหัวปั่นกับการจัดการปัญหาของคาบุรากิอยู่ล่ะมั้ง
พอเงยหน้าขึ้นจากมือถือก็เห็นเอ็นโจยิ้มอยู่เหมือนเดิม แต่พอจับความรู้สึกได้รางๆว่ากำลังไม่พอใจ
เอ๋ ฉันทำอะไรพลาดไปงั้นเหรอคะ
วาคาบะจังตอบเมล์มาพอดี ฉันเลยปัดเรื่องนั้นออกจากหัวไปก่อน เนื้อหาเมล์ก็ประมาณว่าเพราะคาบุรากิมาช่วยงานขายของ วันนี้ก็เลยขายดีสุดๆไปเลยล่ะ ลูกค้าสาวๆเข้าร้านแบบมืดฟ้ามัวดิน เค้กบางชิ้นก็เลยหมดเกลี้ยงแทบไม่เหลือ เพิ่งมีเวลาได้พักเมื่อครู่นี้เอง
ดีจัง ดูเหมือนจะไม่ได้ทำความเดือดร้อนให้สินะ
นอกจากนี้ก็ยังมีรูปถ่ายที่คาบุรากิใส่ชุดซานต้าที่แต่เดิมจะเป็นหน้าที่ของพ่อวาคาบะจังจะสวมใส่ชุดนี้ทุกปี ทีแรกหมอนี่ยืนยันว่าจะติดเคราปลอม ผมปลอมสีขาวและยัดของทำเป็นพุงกลมๆด้วย แต่ว่าคุณแม่ของวาคาบะจังไม่ยอม คาบุรากิก็เลยต้องโชว์หน้าหล่อๆ ถือป้ายเพื่อเรียกลูกค้าต่อไป
โอ๊ย อีตาคนนี้ แค่แต่งชุดซานต้าก็ยังเรื่องมากอีกงั้นเหรอคะ ฉันรู้ว่าเจ้าบ้านี่ต้องขัดใจมากแน่นอนที่ไม่ได้แต่งแบบเต็มยศ
ความซวยไปเยือนน้องชายของวาคาบะจังที่แต่งตัวเป็นกวางเรนเดียร์ค่ะ เห็นสีหน้าระทมทุกข์ของหนุ่มน้อยที่ติดจมูกกวางและเขากวาง ยืนข้างๆกับซานต้าคาบุรากิ ฉันก็รู้ว่าต้องผ่านการเคี่ยวเข็ญอย่างหนักแน่นอน เพื่อการเป็นกวางได้สมบูรณ์แบบ คุณน้องชายทั้งน่าสงสารและตลกไปในเวลาเดียวกันจนฉันอดเห็นใจไม่ได้ อีตาคาบุรากินี่น้า
"ดูสิคะ ท่านเอ็นโจ" ฉันยื่นมือถือไปให้เอ็นโจดูข้อความและรูปถ่ายที่ส่งมาจากวาคาบะจัง "ท่านคาบุรากิล่ะ"
เอ็นโจก็ยิ้มกว้างออกมาด้วยเหมือนกัน คงคิดแบบเดียวกับที่ฉันคิดอยู่สินะ
"ท่านคาบุรากินี่เคร่งครัดจริงๆเลยนะคะ" ฉันตักเต้าฮวยนมสดอันเป็นของหวานประจำร้านเข้าปาก "ตอนนั้นก็บังคับให้ฉันใส่จมูกหนูกับจมูกแกะอยู่ได้"
"มาซายะชอบความสมบูรณ์แบบน่ะ" เอ็นโจส่ายหน้าอย่างระอานิดหน่อย "มีโอกาสทำทั้งทีก็ต้องจัดเต็มไปเลย"
ฉันว่าเจ้าหมอนี่มันบ้ามากกว่าค่ะ
"คุณคิโชวอินดูใส่ใจมาซายะจังเลยน้า" เอ็นโจมองยิ้มๆ
"ก็อดเป็นห่วงไม่ได้น่ะค่ะ" ความรู้สึกของฉันที่มีต่อคาบุรากิก็เป็นความรู้สึกแบบเดียวกับคุณแม่ที่เป็นห่วงลูกชายไม่เอาไหนมั้งคะ "กลัวว่าบ้านของคุณวาคาบะจะลำบากใจ ถ้าท่านคาบุรากิไป...เอ่อ ขอโทษค่ะ"
จะนินทาเขาทั้งที่เพื่อนเขานั่งอยู่ตรงนี้มันก็แปลกๆอยู่นะ ฉันก็เลยตักเต้าฮวยเข้าปากต่อ
"ถ้าเป็นห่วงขนาดนั้นจะไปดูหน่อยรึเปล่าล่ะ" เอ็นโจถามยิ้มๆ