Fanboi Channel

ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับปฏิบัติการปลูกไร่กัญชาบนดาวเคราะห์ดวงที่ 5

Last posted

Total of 1000 posts

568 Nameless Fanboi Posted ID:LchX7LC4W

เมื่อเจ้าร้องขอกาว เจ้าก็จะได้กาว >>>/webnovel/3451/421-423
คริสต์มาสเดทแจ้
-------------------

เพราะเห็นว่าฉันขาเจ็บอยู่นิดหน่อยจากการเต้นรำเมื่อวาน สถานที่ที่ต้องเดินเยอะๆแบบสวนสนุกหรือพิพิธภัณฑ์ใหญ่ๆทั้งหลายก็เป็นอันต้องตัดออกไป สุดท้ายก็ลงตัวที่ท้องฟ้าจำลองและดูหนัง เพราะไม่ต้องขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวตัวมาก นั่งดูกันอย่างเดียว

หลังจากไปทานอาหารเช้ากันมา ฉันกับเอ็นโจก็มายืนมองบิลบอร์ดหน้าโรงหนัง ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสแบบนี้แท้ๆ ดันมีแต่หนังรักกับหนังผีเนี่ยนะ หนังแฟนตาซี หนังแอ็คชั่นไปไหนหมดล่ะ หา!! เอาไปฉายตั้งรอบเย็นเลยเหรอ ไม่คิดเผื่อว่าคนเขาอยากดูรอบเช้ารึไง

เอ็นโจเหล่มองโปสเตอร์หนังผีแล้วก็มองฉัน รู้นะยะว่าคิดอะไรอยู่ อยากดูก็ดูไปคนเดียวสิ

ไม่มีทางเลือก ก็เลยต้องดูหนังรักกันไปโดยปริยาย

เอ็นโจเลี้ยงตั๋วหนัง ฉันก็เลยซื้อป็อบคอร์นให้เป็นการตอบแทน ว่าไปก็ตื่นเต้นนะคะ เพราะฉันก็ไม่ได้เข้าโรงหนังมานานมากแล้ว คิดถึงบรรยากาศแบบนี้จัง คิดถึงป็อบคอร์นกับน้ำอัดลมด้วย อร่อยสุดๆไปเลยล่ะค่ะ

ฉันเหล่มองเอ็นโจที่กำลังหยิบป็อบคอร์นเข้าปาก ทีแรกนึกว่าจะปฏิเสธไม่กินของถูกๆแบบนี้เสียอีก แล้วน้ำอัดลมอีก หมอนี่เพิ่งจะเคยกินรึเปล่า จะท้องเสียมั้ยนะ

พอรู้ว่าฉันมอง เอ็นโจก็หันมายิ้มให้ ฉันรีบเพ่งความสนใจไปที่จอหนังต่อ

หนังเป็นหนังย้อนยุคไปสมัยโชวะ คิจูอิน เรย์นะ คุณหนูที่ฐานะทางบ้านกำลังย่ำแย่ แต่ได้นิโจ ชูจิ มหาเศรษฐีหนุ่มรูปงามได้เข้ามาช่วยเหลือโดยมีเงื่อนไขว่าเธอต้องแต่งงานกับเขา แต่ละวันผ่านไปด้วยความอลเวงอลหม่านปนกุ๊กกิ๊กตามสไตล์หนังเลิฟคอมเมดี้

นั่งดูไปจนถึงกลางเรื่อง จากเลิฟคอมเมดี้ อยู่ๆหนังเรื่องนี้ก็หักมุมเป็นดราม่าเฉยเลยค่ะ

อะไรกันคะเนี่ย ต้นเรื่องพระเอกยังจีบนางเอกน่ารักๆอยู่เลยไม่ใช่เหรอ แล้วยัยนางเอกทำไมมัวแต่ใจแข็งอยู่ได้ล่ะยะ! คุณชูจิเขาตกหลุมรักเธอเข้าเต็มเปาขนาดนี้ยังจะมัวซื่อบื้อหวาดระแวง คิดว่าเขาทำให้บ้านเธอเป็นแบบนี้ตามที่ตัวร้ายเป่าหูอยู่ได้

ฉันดูไปขัดใจไปสุดๆ จ้วงป็อบคอร์นเข้าปากรัวๆอย่างนึกโมโห

โอ๊ยยย!! สายตาของคุณชูจิเศร้าขนาดนี้ เธอมองไม่เห็นความดีเขาเลยเหรอยะ!!! ทนไม่ไหวแล้วนะ ยัยเรย์นะ!!!! อยากจะเข้าไปกระชากคอเสื้อยัยนี่แล้วเขย่าๆให้รู้สึกตัวจริงๆเลย!!!!!

พอถึงตอนจบ ฉันที่ตั้งใจว่าจะถ่มถุยชะตากรรมของยัยเรย์นะอย่างเต็มที่ กลับต้องน้ำตาไหลพรากๆไม่หยุด เมื่อเรย์นะนั่งร้องไห้ท่ามกลางกองข้าวของมากมายที่มีแต่ความทรงจำร่วมกับคุณชูจิคนนั้น

ยัยโง่เอ้ย ถึงเธอจะกอดกิโมโนเขาไว้ บอกรักเขาเป็นพันๆหน แต่ตายไปแล้วเขาก็ไม่ได้ยินหรอกย่ะ สมน้ำหน้า ตอนมีชีวิตอยู่ทำไมไม่ยอมทำดีกับเขาล่ะ ทำไมที่เขาบอกรักเธอถึงไม่เชื่อ หา!!

ในวาระสุดท้าย คุณชูจิก็ต้องจากไปด้วยความขมขื่นที่คิดว่าเรย์นะรักใครที่ไม่ใช่ตัวเขาอีก มันจะเศร้าเกินไปแล้วนะคะ แง้

เอ็นโจยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้ฉันที่นั่งสะอึกสะอื้นอยู่ จูงมือฉันออกจากโรงหนังอย่างเงียบๆ ตอนออกมาก็เห็นหลายๆคนเช็ดน้ำตากันใหญ่ หนังเศร้ามากจริงๆสินะคะ นึกว่าฉันอ่อนไหวไปเองคนเดียวเสียอีก

ฉันเหลือบมองเอ็นโจ ดูเหมือนหมอนี่จะไม่ร้องไห้แฮะ แต่น้ำตาลูกผู้ชายไหลให้เห็นได้ง่ายๆก็คงไม่ดีสินะ

“ขอโทษด้วยนะ ไม่รู้ว่าหนังจะเศร้าขนาดนี้” เอ็นโจยื่นขวดน้ำดื่มจากตู้กดอัตโนมัติให้ ฉันรับมาแล้วขอบคุณเบาๆ

“ไม่ใช่ความผิดท่านเอ็นโจหรอกค่ะ” นั่นสิ ถ้าเลือกดูหนังผี ฉันอาจจะไม่ต้องมานั่งร้องไห้ต่อหน้าเอ็นโจแบบนี้ก็ได้ “หนังก็สนุกด้วย”

“นั่นสินะ ถึงจะเศร้าแต่เรย์นะก็ยังได้รู้ตัวว่ารัก” เอ็นโจยิ้มขื่นๆ “ชูจิคงดีใจถ้าได้รู้”

ดีใจอะไรกันล่ะคะ ตายไปแล้วก็คือสูญเปล่าไม่รับรู้อะไรไม่ใช่เหรอ คุณชูจิคะ เป็นผีมาหลอกยัยเรย์นะให้ผมหงอกแบบโปสเตอร์หนังผีข้างๆกันไปเลยค่ะ

พอฉันทำหน้าแค้นเคืองใส่โปสเตอร์หนัง เอ็นโจก็หัวเราะ

“งั้นจะดูหนังผีด้วยมั้ย จะได้คลายเศร้าไง” เอ็นโจจับมือฉันแล้วบีบเบาๆ พูดยิ้มๆ พอเห็นสีหน้าฉันก็หัวเราะ “ล้อเล่นน่ะ”

หมอนี่รู้ว่าฉันกลัวผีก็ยังจะล้อเล่นอีกเหรอคะ ให้ตายสิ ทำไมเหมือนคุณชูจิตอนแกล้งเรย์นะขนาดนี้เนี่ย แต่คุณชูจิทำแล้วน่ารัก อีตานี่ทำแล้วน่าเสยปลายคางจริงๆ

569 Nameless Fanboi Posted ID:LchX7LC4W

เอ็นโจจับมือฉันพาเดินไปที่ร้านขนมที่ดูน่ารักๆ บรรยากาศสดใสเหมาะกับช่วงคริสต์มาส ฉันที่คิดว่าจะทานอะไรไม่ค่อยลงเพราะหนัง แต่พอแพนเค้กที่สั่งไปมาเสิร์ฟ กลิ่นหอมๆของนมและเนยก็ทำให้ฉันตักเข้าปากแบบลืมตัวว่ากำลังเศร้าอยู่

อร่อย อร่อยชะมัดเลยล่ะค่ะ เวลาเศร้าก็ต้องทานของหวานๆนี่ล่ะน้า จะช่วยให้หายเศร้า

ฉันเหลือบมองเอ็นโจที่นั่งจิบชา แล้วก็เผลอนึกถึงเรื่องในความฝันขึ้นมา

ถ้าความฝันนั้นได้ดำเนินต่อ ก็คงมีบรรยากาศคล้ายๆแบบนี้ล่ะมั้ง นุ่มละมุนและอ่อนโยนเหมือนหิมะตกใหม่ในคืนคริสต์มาส

ว่าแต่ฉันจะนึกถึงความฝันนั้นขึ้นมาทำไมกันล่ะคะ ลามกที่สุดเลย เดี๋ยวเลือดกำเดาก็ไหลอีกหรอก

เอ็นโจก็หัวเราะอีกแล้ว มีอะไรน่าขำรึไงค้า

หลังดื่มชาเสร็จ เราสองคนก็ไปต่อคิวขึ้นชิงช้าสวรรค์ ดีที่มาช่วงเที่ยง ถ้าเป็นตอนกลางคืนคงคิวยาวกว่านี้ แต่ระหว่างยืนรอเอ็นโจก็ถามตลอดเลยว่าเจ็บเท้ามั้ย เมื่อยรึเปล่า ไม่ไหวก็นั่งพักได้นะ แบบเดียวกับที่เคยได้ยินในฝันเลยล่ะค่ะ

เอ๊ะ ทำไมฉันจำเรื่องความฝันได้แม่นขนาดนี้เลยล่ะ

แล้วเอ็นโจก็ทำตัวเหมือนคุณชูสุเกะในฝันด้วย อย่าบอกนะว่าหมอนี่ฝันเรื่องเดียวกับฉัน บ้าน่า พระเจ้าเล่นตลกอะไรอยู่งั้นเหรอคะ

ชิงช้าลอยสูงขึ้นไปจนเห็นได้ทิวทัศน์ถ้วนทั่ว มองจากมุมสูงนี่สวยมากเลยล่ะค่ะ แสงแดดก็ส่องประกายระยิบระยับเหนือผิวน้ำของทะเลสาบที่กลายเป็นสีเงินเหมือนในภาพวาด เห็นเรือพายที่จอดเรียงรายอยู่ ก็นึกถึงเรื่องที่แนะนำให้ซากุระจังไปพายเรือที่สวนสาธารณะกับอาคิสะวะคุงขึ้นมา

ไม่รู้ว่าได้ไปกันรึยัง แต่ดูท่าซากุระจังคงไม่ต้องพึ่งเทพแห่งความรักอะไรแล้วล่ะมั้ง

หลังจากงานโรงเรียนปีที่แล้ว ซากุระจังกับอาคิสะวะคุงคงจะพูดความในใจกันไปเรียบร้อย สีหน้าดูมีความสุขและอิ่มเอิบด้วยกันทั้งคู่

ดีจังเลยนะคะที่ใจตรงกัน ดีจังที่ได้พูดออกไป ไม่อย่างนั้นต่างฝ่ายต่างคิดว่าไม่ได้รักกันแบบเรย์นะและคุณชูจิ อาจจะต้องลงเอยกันด้วยโศกนาฏกรรมแบบในหนังก็ได้

“คิดอะไรอยู่เหรอ” เอ็นโจนั่งฝั่งตรงข้าม มองมาที่ฉันด้วยรอยยิ้มน้อยๆ

“เอ่อ...ก็...คิดเรื่องหนังเมื่อครู่นี้นิดหน่อยค่ะ” พอเห็นสายตาที่มองแบบยิ้มๆแต่ดูกดดันอยู่ในที ฉันที่หัวใจนกกระจิบก็เปิดปากพูด “แหม ถ้าสองคนนั้นหันหน้ามาพูดกันดีๆล่ะก็ ถึงชีวิตจะแสนสั้น ถึงจะต้องจากกัน แต่ก็สามารถสร้างความทรงจำที่มีความสุขได้ไม่ใช่เหรอคะ”

เอ็นโจเลิกคิ้วขึ้น แล้วก็ยิ้มออกมา

“นั่นสินะ” สายตานั้นก็อ่อนโยนมากจนฉันรู้สึกหน้าร้อนผ่าว “งั้น จากนี้ไปมาสร้างความทรงจำที่มีความสุขด้วยกันเยอะๆเถอะนะ”

เอ๊ะ!!

ฉันจะถามว่าหมายความว่าอย่างไร แต่ชิงช้าสวรรค์หมดรอบเสียก่อน พนักงานเปิดประตูให้ เอ็นโจจับมือฉันก้าวเดินออกมาจากกระเช้าชิงช้า ทุกอย่างเป็นไปด้วยความนุ่มนวลและอบอุ่นอ่อนโยน ไม่ต่างอะไรจากในฝันเลยสักนิด

แว้บหนึ่ง ฉันใจเต้นแรงขึ้นมา และคิดว่าไม่อยากจะปล่อยมือคู่นี้ไปเลย

------------------

ที่ท้องฟ้าจำลองนี่ก็มีคู่รักพากันมาดูดาวจนเต็มห้องจัดแสดง แต่สาวๆบางคนที่มากับแฟนก็ยังมองเอ็นโจที่นั่งอยู่ข้างๆฉันตาปรอยเลยล่ะ

เฮ้ๆ สนใจแฟนของเธอที่มาด้วยกันสิค้า มันจะผิดต่อเขาไม่ใช่รึยังไงกันน่ะ ถ้ามัวแต่สนใจผู้ชายคนอื่นแบบนี้

เอ็นโจไม่ได้มีปฎิกริยาอะไร แต่เอื้อมมือมาจับมือของฉันไปกุมไว้แล้วจูบปลายนิ้วเบาๆ รู้สึกถึงความร้อนผ่าวที่แผ่ออกมาจากบริเวณนั้นจนถึงข้างแก้ม

ทำอะไรน่ะค้าาา นี่มันที่สาธารณะน้าาาาา!!!!

สาวๆพวกนั้นสะบัดหน้าหนีไปเลย หรือไม่ก็ส่งสายตาทิ่มแทงให้ฉัน

พอฉันมองค้อนไปนิดหน่อย เอ็นโจก็ยิ้ม แต่ก็ยังจับเอาไว้อยู่ ฉันขี้เกียจจะท้วงอะไรแล้วก็เลยยอมๆไป

พิธีกรเข้ามาบรรยายแนะนำเรื่องราวต่างๆคร่าวๆ แล้วห้องก็ค่อยๆมืดลง ปรากฎภาพของดวงดาวมากมายที่อยู่บนฟ้า

หวา สวยจังเลยค่ะ

มิน่าล่ะคะ คู่รักถึงอยากมาดูดาวกันขนาดนี้ ดวงดาวที่พราวแสงระยิบระยับบนฟ้า ให้ความรู้สึกงดงามเกินบรรยาย ดวงดาวทั้งหลายผ่านพวกเราไปมากมาย ไม่ว่าจะเป็นซิริอุสที่ส่องสว่าง ซิกนัสที่เป็นหนึ่งในกลุ่มดาวสามเหลี่ยมฤดูร้อน หรือพอลลักซ์กับคาสเตอร์ที่เป็นกลุ่มดาวคนคู่ ข้ามผ่านวงแหวนดาวเสาร์ ยูเรนัส เนปจูน ลอยละลิ่วจากทางช้างเผือกไปยังกาแลกซี่อันโดรเมด้าและกาแลกซี่อื่นๆที่ไร้ขอบเขต

ฉันมองดวงดาวพร้อมกับฟังบรรยายไปอย่างเพลิดเพลิน

จบการบรรยาย เอ็นโจจับมือฉันเดินออกไปจากห้อง อา--รู้สึกว่ามีสายตาทิ่มแทงรอบทิศเลยล่ะค่ะ ถ้าสายตาเป็นมีดฉันคงจะตายไปแล้ว

เอ็นโจไม่ได้ใส่ใจสายตาพวกนั้น แต่หันมาถามใกล้ๆ "คุณคิโชวอิน หิวรึยัง อยากทานอะไรเป็นพิเศษรึเปล่า"

ถ้าให้เอ็นโจพาไป อย่างหมอนี่ฉันนึกออกแต่ร้านสุดหรูที่นั่งกินไปตัวเกร็งไปเท่านั่นล่ะค่ะ แต่เอ๊ะ จะให้ฉันเลือกร้านเองเหรอค้า

ฉันยิ้มกริ่มแล้วตอบชัดถ้อยชัดคำว่าร้านข้าวหน้าไก่

570 Nameless Fanboi Posted ID:nM8yy8wy0

กูนั่งตามอ่านยาวมากกกกกกกกก
ฟิคแม่งดีงาม กูเขิน รูปแฟนอาร์ตท่านเอ็นโจก็สวย ตอนดิบได้อ่านสปอยก็ลุ้นหนักไปอีก ท่านพี่ก็เป็นซิสค่อนจริงๆอะเเหละ กูปลิ่มจริงๆ

571 Nameless Fanboi Posted ID:LchX7LC4W

ร้านที่ฉันพาเอ็นโจมาเป็นร้านสามัญชนบ้านๆ ร้านก็เล็กและแคบมีโต๊ะนั่งไม่กี่ที่แต่รสชาติอร่อยล้ำ เนื่องจากแอบมาทานกับวาคาบะจังก่อนหน้าจึงได้รู้ว่ามีร้านดีๆแบบนี้อยู่ในซอกซอยด้วย ดีใจเหมือนได้ค้นพบเห็ดมัตสึทาเกะในป่าเลยล่ะค่ะ

ฉันเหลือบมองเอ็นโจที่นั่งอ่านเมนู ทีแรกก็คิดว่าคุณชายอย่างหมอนี่จะกินร้านพวกนี้ได้รึเปล่านะ แต่ร้านข้าวหน้าไก่กับไข่นี่เป็นหนึ่งในสิ่งที่ฉันใฝ่ฝันจะมาทานตั้งแต่จำความได้ว่าเป็นคิโชวอิน เรย์กะเลยล่ะค่ะ มีโอกาสแล้วก็ต้องมาทานให้ได้

ดูเหมือนคุณลุงคุณป้าเจ้าของร้านจะจำได้ว่าฉันเคยมาทานที่นี่ จึงเพิ่มไข่ต้มมาให้อีกฟองโดยไม่ต้องเอ่ยปากสั่ง แล้วก็แถมให้เอ็นโจด้วยคน

"แฟนเหรอคะ" คุณป้าถามฉันด้วยน้ำเสียงร่าเริง "เป็นคู่ที่เหมาะสมกันมากเลยค่า"

"ขอบคุณครับ" นายจะไปขอบคุณเขาทำไมล่ะค้า แล้วก็ไม่ใช่แฟนซักหน่อยนะคะคุณป้า!!!

ฉันเถียงในใจอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่พูดออกไปไม่ได้เพราะเอ็นโจที่โปรยยิ้มมาให้

คุณป้าคุยกับพวกเราอีกนิดหน่อยแล้วไปต้อนรับลูกค้ารายอื่นที่เพิ่งเข้ามาในร้าน รู้สึกว่าทุกสายตามองมาทางนี้เป็นตาเดียวเลยล่ะค่ะ

"คุณคิโชวอินเคยมาที่นี่เหรอ"

"เอ่อ ค่ะ" ฉันพยักหน้า "มากับคุณวาคาบะน่ะค่ะ"

"หืม" เอ็นโจทำหน้าแปลกใจ "สนิทกับคุณทาคามิจิขนาดนั้นเลยเหรอ"

เอ๊ะ ฉันจะสนิทกับใครมันก็เรื่องของฉันนี่คะ

"คุณวาคาบะเคยช่วยเหลือฉันไว้น่ะค่ะ แล้วเธอก็เป็นคนอัธยาศัยดีด้วย" เรื่องที่วาคาบะจังเคยช่วยเหลือนี่ ถ้าไปเล่าให้ใครฟังก็อายตายชัก ถึงนายจะมองด้วยสายตาแบบนั้นก็ไม่ยอมเปิดปากแน่นอนค่ะ ฉันรีบเปลี่ยนเรื่องทันที "เห็นอาหารสามัญแบบนี้ก็น่าจะชวนท่านคาบุรากิมาทานด้วยกันนะคะ"

"มาซายะไม่ว่างหรอก" เอ็นโจตอบพร้อมกับรอยยิ้ม "ป่านนี้คงไปช่วยงานคุณทาคามิจิอยู่ล่ะมั้ง"

"ช่วยงาน!?" ฉันกระพริบตาปริบๆ แล้วก็หยิบมือถือขึ้นมาพิมพ์เมล์หาวาคาบะจังแบบร้อนใจ เพื่อจะเช็คว่าตาบ้านั่นไม่ได้ไปทำความเดือดร้อนยุ่งยากให้ วาคาบะจังยังไม่ตอบกลับมาเลย สงสัยจะยุ่งหัวปั่นกับการจัดการปัญหาของคาบุรากิอยู่ล่ะมั้ง

พอเงยหน้าขึ้นจากมือถือก็เห็นเอ็นโจยิ้มอยู่เหมือนเดิม แต่พอจับความรู้สึกได้รางๆว่ากำลังไม่พอใจ

เอ๋ ฉันทำอะไรพลาดไปงั้นเหรอคะ

วาคาบะจังตอบเมล์มาพอดี ฉันเลยปัดเรื่องนั้นออกจากหัวไปก่อน เนื้อหาเมล์ก็ประมาณว่าเพราะคาบุรากิมาช่วยงานขายของ วันนี้ก็เลยขายดีสุดๆไปเลยล่ะ ลูกค้าสาวๆเข้าร้านแบบมืดฟ้ามัวดิน เค้กบางชิ้นก็เลยหมดเกลี้ยงแทบไม่เหลือ เพิ่งมีเวลาได้พักเมื่อครู่นี้เอง

ดีจัง ดูเหมือนจะไม่ได้ทำความเดือดร้อนให้สินะ

นอกจากนี้ก็ยังมีรูปถ่ายที่คาบุรากิใส่ชุดซานต้าที่แต่เดิมจะเป็นหน้าที่ของพ่อวาคาบะจังจะสวมใส่ชุดนี้ทุกปี ทีแรกหมอนี่ยืนยันว่าจะติดเคราปลอม ผมปลอมสีขาวและยัดของทำเป็นพุงกลมๆด้วย แต่ว่าคุณแม่ของวาคาบะจังไม่ยอม คาบุรากิก็เลยต้องโชว์หน้าหล่อๆ ถือป้ายเพื่อเรียกลูกค้าต่อไป

โอ๊ย อีตาคนนี้ แค่แต่งชุดซานต้าก็ยังเรื่องมากอีกงั้นเหรอคะ ฉันรู้ว่าเจ้าบ้านี่ต้องขัดใจมากแน่นอนที่ไม่ได้แต่งแบบเต็มยศ

ความซวยไปเยือนน้องชายของวาคาบะจังที่แต่งตัวเป็นกวางเรนเดียร์ค่ะ เห็นสีหน้าระทมทุกข์ของหนุ่มน้อยที่ติดจมูกกวางและเขากวาง ยืนข้างๆกับซานต้าคาบุรากิ ฉันก็รู้ว่าต้องผ่านการเคี่ยวเข็ญอย่างหนักแน่นอน เพื่อการเป็นกวางได้สมบูรณ์แบบ คุณน้องชายทั้งน่าสงสารและตลกไปในเวลาเดียวกันจนฉันอดเห็นใจไม่ได้ อีตาคาบุรากินี่น้า

"ดูสิคะ ท่านเอ็นโจ" ฉันยื่นมือถือไปให้เอ็นโจดูข้อความและรูปถ่ายที่ส่งมาจากวาคาบะจัง "ท่านคาบุรากิล่ะ"

เอ็นโจก็ยิ้มกว้างออกมาด้วยเหมือนกัน คงคิดแบบเดียวกับที่ฉันคิดอยู่สินะ

"ท่านคาบุรากินี่เคร่งครัดจริงๆเลยนะคะ" ฉันตักเต้าฮวยนมสดอันเป็นของหวานประจำร้านเข้าปาก "ตอนนั้นก็บังคับให้ฉันใส่จมูกหนูกับจมูกแกะอยู่ได้"

"มาซายะชอบความสมบูรณ์แบบน่ะ" เอ็นโจส่ายหน้าอย่างระอานิดหน่อย "มีโอกาสทำทั้งทีก็ต้องจัดเต็มไปเลย"

ฉันว่าเจ้าหมอนี่มันบ้ามากกว่าค่ะ

"คุณคิโชวอินดูใส่ใจมาซายะจังเลยน้า" เอ็นโจมองยิ้มๆ

"ก็อดเป็นห่วงไม่ได้น่ะค่ะ" ความรู้สึกของฉันที่มีต่อคาบุรากิก็เป็นความรู้สึกแบบเดียวกับคุณแม่ที่เป็นห่วงลูกชายไม่เอาไหนมั้งคะ "กลัวว่าบ้านของคุณวาคาบะจะลำบากใจ ถ้าท่านคาบุรากิไป...เอ่อ ขอโทษค่ะ"

จะนินทาเขาทั้งที่เพื่อนเขานั่งอยู่ตรงนี้มันก็แปลกๆอยู่นะ ฉันก็เลยตักเต้าฮวยเข้าปากต่อ

"ถ้าเป็นห่วงขนาดนั้นจะไปดูหน่อยรึเปล่าล่ะ" เอ็นโจถามยิ้มๆ

572 Nameless Fanboi Posted ID:LchX7LC4W

เอ๊ะ เอาจริงเหรอ เยี่ยมเลย ฉันอยากทานเค้กคริสต์มาสของบ้านวาคาบะจังอยู่พอดี แล้วก็อยากเห็นคาบุรากิใส่ชุดซานต้าด้วยล่ะ ถ้าถ่ายรูปไปให้คนอื่นๆในโรงเรียนดู ต้องเป็นที่ฮือฮาอย่างแน่นอน อุฮุฮุฮุ แค่คิดก็น่าสนุกแล้วล่ะค่ะ

"ก็ดีนะคะ" ฉันบอกอย่างกระตือรือร้น "ท่านเอ็นโจเคยทานเค้กของบ้านคุณวาคาบะรึเปล่าคะ ถึงจะเป็นเค้กธรรมดาๆ ไม่หรูหราแบบในโรงแรม แต่ก็รสชาติดีมากเลยล่ะ"

"มาซายะเคยเอามาฝากน่ะ ก็อร่อยดีนะ" เอ็นโจหัวเราะเบาๆ "ไปเหมาเค้กมาให้เพียบจนต้องแบ่งไอระกับยูริเอะด้วย ยูกิโนะเองก็ชอบมากเลย"

บ้านวาคาบะจังอยู่ใกล้กับร้านข้าวนี่มาก เอ็นโจกับฉันเลยเดินไปเป็นการย่อยอาหารในท้องไปในตัว พอใกล้ๆจะถึงร้านก็เห็นซานต้าชุดแดงเด่นเป็นสง่ามาแต่ไกล

"สวัสดีค่ะ ท่านคาบุรากิ" ฉันก้าวไปยืนตรงหน้าคาบุรากิ หมอนี่ดูแปลกใจมากที่ฉันปรากฎตัวในที่แบบนี้

"เฮ้ย เธอมาได้ยังไงเนี่ย คิโชวอิน" คาบุรากิหันขวับไปมองเพื่อน "นายบอกยัยนี่เหรอ ชูสุเกะ"

"ก็น้า คุณคิโชวอินเขาอยากจะเห็นมาซายะในชุดซานต้าน่ะสิ ก็เลยแวะมาดูหน่อย"

วาคาบะจังกับน้องชายในชุดกวางเรนเดียร์เดินออกมาพอดี เห็นฉันกับเอ็นโจก็ก้มหัวทักทายทั้งคู่

"ได้ยินจากท่านเอ็นโจว่าท่านคาบุรากิมาช่วยงานคุณวาคาบะก็เลยอยากจะมาดูให้ได้น่ะค่ะ" ฉันมองไปข้างในร้าน เห็นสาวๆต่อคิวเลือกซื้อเค้กให้เพียบไปหมด "แหม มารบกวนเวลาทำงานรึเปล่าคะ"

"อ๋อ ไม่ค่ะ ไม่เลยสักนิด" วาคาบะจังโบกมือไปมา "เอ่อ เข้ามาข้างในก่อนมั้ยคะ อากาศหนาวๆแบบนี้ยืนข้างนอกนานๆไม่ดีเท่าไหร่ ท่านคาบุรากิคะ มาพักก่อนเถอะค่ะ"

งานถือป้ายเรียกลูกค้ามีน้องชายของวาคาบะจังรับช่วงต่อ ฉัน เอ็นโจ คาบุรากิก็ได้เข้ามานั่งข้างในบ้านของวาคาบะจัง ที่โต๊ะรับประทานอาหารตัวเดิมที่ฉันเคยนั่ง

ตอนนี้เจ้าตัวกระวีกระวาดไปชงชามาต้อนรับแขก ฉันก็เลยลุกไปช่วยด้วยคน แม้จะถูกบอกให้ไปนั่งที่แค่ไหนก็ตาม

"มีแต่ของแบบนี้นะคะ อาจจะไม่ถูกปากพวกคุณเท่าไหร่" วาคาบะจังวางแก้วชาแจกทุกคนแล้วก็ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง "เอ่อ เดี๋ยวแป๊บนึงนะคะ จะไปเอาเค้กมาให้ คุณเรย์กะ ท่านเอ็นโจ ท่านคาบุรากิชอบชีสเค้กรึเปล่าคะ กำลังอบอยู่เลย ตอนนี้น่าจะเสร็จแล้วล่ะ"

ฉันกับเอ็นโจพยายามจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่วาคาบะจังก็หายลับไปหลังบานประตูที่นำไปสู่ร้านแล้ว

คาบุรากิมองฉันแล้วก็มองเอ็นโจ "เธอไปสนิทกับทาคามิจิขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันน่ะ"

"ก็นานพอสมควรแล้วน่ะค่ะ" ฉันตอบพลางดื่มชามุกิไปด้วย "แต่สาเหตุขอปิดเป็นความลับก็แล้วกันนะคะ แล้วฉันกับคุณวาคาบะก็สัญญากันไว้แล้วด้วยว่าจะไม่พูดเด็ดขาด"

คาบุรากิทำหน้าอยากรู้อยากเห็นสุดๆ แต่ฉันยิ้มแบบคนที่ถือไพ่เหนือกว่า จิบชาไปเรื่อยๆไม่ทุกข์ไม่ร้อน

วาคาบะจังกลับมาพร้อมกับชีสเค้กขนาดน่ารักๆสี่ชิ้น "เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆเลยค่ะ หน้าตาออกมาใช้ได้เลยน้า"

คุณแม่ของวาคาบะจังโผล่หน้ามาดูพวกเรา "อ้าว สวัสดีค่ะคุณเรย์กะ แล้วเอ่อ...คุณ..."

"เอ็นโจ ชูสุเกะครับ เป็นเพื่อนที่โรงเรียนของคุณทาคามิจิเหมือนคุณเรย์กะ" เอ็นโจตอบพร้อมกับรอยยิ้มที่ทำให้คุณแม่ของวาคาบะจังหน้าแดง "ต้องขอโทษที่มารบกวนกระทันหันนะครับ"

"แหม รบกวนอะไรกันคะ ไม่รบกวนเลย" คุณแม่โบกมือไปมา ท่าทางแบบเดียวกับวาคาบะจังเลยค่ะ "วาคาบะต่างหากล่ะคะ ไปสร้างความเดือดร้อนอะไรให้พวกคุณรึเปล่า บอกมาได้เลยนะคะ ฉันจะจัดการให้เอง"

เอ็นโจพูดคุยกับคุณแม่ของวาคาบะจังอยู่ครู่หนึ่ง คุณแม่ก็ขอตัวไปขายของต่อ แต่ก็ไม่ลืมกำชับให้วาคาบะรับรองแขกให้ดีๆ ส่วนฉันตักชีสเค้กเข้าปาก อืม อร่อยมากเลยล่ะค่ะ ซื้อกลับไปฝากท่านพี่ด้วยดีกว่า เอ็นโจกับคาบุรากิเองก็ชมว่าอร่อยด้วย

"วันนี้ขายดีมากเลยสินะคะ" ฉันถามวาคาบะจัง

"เป็นเพราะท่านคาบุรากิน่ะค่ะ" วาคาบะจังก้มหัวให้คาบุรากิ "ต้องขอบพระคุณอีกครั้งนะคะ ที่ทำให้ร้านเล็กๆของเรามีลูกค้าคึกคักขนาดนี้"

"เรื่องเล็กน้อยน่า" คาบุรากิโบกมือแบบไม่ใส่ใจ แต่ฉันแอบเห็นว่าสองข้างแก้มนั้นเป็นสีชมพู

อุหวา เขินสินะคะที่ได้รับคำชมจากสาวที่ชอบ

573 Nameless Fanboi Posted ID:LchX7LC4W

"เห็นท่านเอ็นโจบอกว่าท่านคาบุรากิมาช่วยงานที่ร้านเค้ก ฉันเองก็ตกใจแทบแย่แน่ะค่ะ" ฉันยกมือป้องปากกลั้นหัวเราะ "แต่ดูเหมือนผลลัพธ์จะออกมาดีสินะคะ แหม ดีจังเลย"

"เฮ้ เธอ หมายความว่ายังไงน่ะหา" คาบุรากิถลึงตามองฉัน "มีฉันช่วย มันก็ต้องออกมาดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ"

"ฉันก็ตกใจเหมือนกันค่ะ" วาคาบะจังหัวเราะ "ท่านคาบุรากิมาตั้งแต่ร้านยังไม่เปิด พอบอกว่าจะมาช่วยงาน ทางบ้านก็ตกอกตกใจกันใหญ่ ไม่ว่ายังไงก็ยืนกรานว่าจะช่วยให้ได้ท่าเดียว"

อุหวา เจ้าเด็กนี่มันบ้าจริงๆเลยนะคะ

"แต่ว่าจะให้ท่านคาบุรากิมายกของหนักๆหรือใช้แรงงาน พวกเราก็ค่อนข้างจะลำบากใจ ก็เลยให้เป็นคนถือป้ายก็พอค่ะ แต่ก็ทำหน้าที่ได้ดีมากเลยนะคะ เค้กก็หมดไปหลายรอบต้องทำใหม่ แต่แค่นี้ไม่เป็นไรหรอกค่า สบายๆ" คาบุรากิดูยืดขึ้นมาเล็กน้อยเพราะได้รับคำชม

เห็นวาคาบะจังยังหัวเราะแหะๆได้ฉันก็ทึ่งอยู่เหมือนกันนะคะ

"แล้วนี่คุณเรย์กะมากับท่านเอ็นโจแบบนี้ หรือว่าจะเป็น...เดทสินะคะ" คำพูดของวาคาบะจังทำให้ฉันที่กำลังจิบชาอยู่สำลักค่อกแค่ก ดีที่ไม่หกเลอะเทอะให้ขายหน้า

วาคาบะจัง!! อย่าหัวไวในเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้สิคะ!!!

"ครับ" เอ็นโจรับคำ "แต่ว่าคุณเรย์กะเจ็บขาอยู่ ก็เลยไปมาไม่กี่ที่เอง"

"เอ๋ เป็นอะไรมากรึเปล่าคะ" วาคาบะจังทำตาโตอย่างตกใจ ฉันเลยรีบส่ายหน้าปฎิเสธเป็นพัลวัน "รู้สึกฉันจะมียานวดอยู่ ถ้าคุณเรย์กะไม่รังเกียจจะเอาไปใช้ก็ได้นะคะ"

วาคาบะจังลุกขึ้นไปหายานวดมาให้ฉัน วางลงบนโต๊ะ "ท่านคาบุรากิถ้าปวดเมื่อยก็ใช้ได้เลยนะคะ ไม่ต้องเกรงใจ"

คาบุรากิเหล่มองฉัน กะอีแค่ยานวดก็ทำเป็นหวงของเหรอยะ แต่แน่ล่ะ เป็นของที่ได้จากวาคาบะจังนี่นะ ไม่เอาก็ได้ย่ะ

"แล้วไปที่ไหนกันมาบ้างเหรอคะ ฉันเองก็พอจะรู้จักที่เที่ยวดีๆอยู่นะคะ" วาคาบะจังหันไปคุยกับเอ็นโจต่อ

"ก็ไปดูหนัง ขึ้นชิงช้าสวรรค์ ไปท้องฟ้าจำลอง แล้วก็ร้านข้าวหน้าไก่น่ะ"

"ท้องฟ้าจำลองเหรอคะ วิเศษไปเลยเนอะคุณเรย์กะ" พอได้ยินแบบนี้ คาบุรากิหันขวับไปมองวาคาบะจังแล้วก็ทำหน้าครุ่นคิดบางอย่าง

คงอยากไปกับวาคาบะจังสินะคะ

เอ็นโจกับวาคาบะจังคุยเรื่องสถานที่เที่ยวอยู่อีกครู่หนึ่งก็ได้เวลาร่ำลา จะกักตัววาคาบะจังไว้นานกว่านี้ก็ไม่ได้ด้วยเพราะต้องช่วยทำเค้กที่บ้าน พอเสนอตัวว่าจะช่วยงานด้วยเช่นกัน คุณแม่ของวาคาบะจังกลับโบกไม้โบกมือไปมา

"ไม่กล้ารบกวนการเดทของคู่รักหนุ่มสาวหรอกค่ะ แค่แวะมาหาก็ดีใจแล้วล่ะ ไปเที่ยวให้สนุกกันเถอะ"

คู่รักอะไรกันค้าาาา ไม่ใช่เลยนะคะ

พอจะจ่ายเงินค่าชีสเค้ก วาคาบะจังก็ไม่ยอมรับไว้ ฉันกับเอ็นโจเลยสั่งเค้กคริสต์มาสกลับไปฝากคนที่บ้าน คุณแม่ของวาคาบะจังก็ทำท่าจะไม่ยอมรับเงินอีกจนต้องต้องคะยั้นคะยอให้รับไป บ้านทาคามิจิจะขี้เกรงใจกันเกินไปแล้วนะคะ

เราสองคนอำลาวาคาบะจังและคาบุรากิ เดินไปขึ้นรถที่มาจอดรออยู่หน้าร้านแล้ว คนมองกันให้เพียบเลยล่ะค่ะ

-----------------------------

ยังไม่จบ หั่นเป็นสองพาร์ท
กูต้องดูหนังรักบิลด์ตัวเองมากมายมหาศาล ตอนหน้าพวกมึงอาจสำลักความหวานตายกันได้

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.