ถึงแม้จะได้ยินคำพูดเสียดสีของพวกผู้หญิงทำนองว่า ‘ทำไมท่านเอ็นโจมากับแม่นั่นได้’ อะไรเทือกนั้น แค่ปรายตาไปคำพูดพวกนั้นก็หยุดไปโดยปริยาย ฉันไม่ใช้อำนาจอะไรเลยนะคะ แค่มองพวกปลาซิ่วปลาสร้อยเท่านั้นเอง
การเดินโดยพยายามใช้รองเท้านายตัวสำรองนี่ไม่สะดวกเลย เป็นเพราะหลวมทั้งต้องคอยหนีบเอาไว้ การเดินเลยเกร็งไปด้วยความที่ไม่อยากให้สะดุด แต่อยู่ๆ เอ็นโจก็หยุดเดินระหว่างขั้นบันได ทำให้ฉันที่ก้าวขาไปแล้วถึงกับเสียการทรงตัว
“...อะ”
กรี๊ด นี่ฉันจะตกบันไดอีกแล้วเรอะ…
ฉันหลับตาแน่น มือขวานหาที่เกาะโดยอัตโนมัติอย่างไม่รู้สึกตัวถึงระบบป้องกันตัวของร่างกาย ในหูได้ยินเสียงดังผลัก แต่ทว่าฉันกลับไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น ทั้งที่น่าจะเจ็บ แต่ทำไมรู้สึกได้ถึงสัมผัสที่นุ่มละมุนตรงริมฝีปากล่ะ? แล้วกลิ่นหอมสะอาดนี่มาจากไหนกันคะ พอลืมตาขึ้นมองกลับพบกับนัยน์ตาอีกคู่ที่สั่นระริกอยู่ใต้ร่างของฉัน ในตอนที่กำลังจะผละออก ก่อนที่จะได้คิดอะไร คนที่อยู่ใต้ร่างฉันกลับจับหัวของฉันกลับไปสัมผัสอีก
อื๋อ เดี๋ยวก่อนค่ะ นี่มันอะไรกันคะ!? ได้โปรดขอเวลานอกให้ฉันประมวลผลด้วยเถอะค่ะ! แต่เหมือนกับคนคนนั้นจะไม่รับรู้นอกจากจูบที่หนักแน่นที่แม้เขาจะพยุงตัวฉันลุกขึ้นแล้ว แต่ก็ไม่หยุดที่จะรุกไร้คืบคลานเข้ามาต่อ จนหลังของฉันถูกดันติดกับกำแพง
มือทั้งสองข้างของเขาแนบกับแก้มของฉันอย่างทนุถนอม นัยน์ตาคู่นั้นไม่ได้มีแววชิงชัง เย็นชาหรืออะไรเลย ทำเอาหัวใจพาลรู้สึกเต้นแปลกประหลาด
“เปิดปากสิ”
“เอ๋... อื๋อ!” ไม่ทันให้ตั้งตัว เอ็นโจก็โน้มหน้าเข้ามา เหมือนมีอะไรเข้ามาในปากด้วย ลิ้นเรอะคะ! หยุดก่อนสิ นี่นายไปเรียนการจูบแบบนี้มาจากไหนกันคะ?!
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่ รู้สึกตัวอีกทีก็เป็นตอนที่หายใจหอบแฮ่กๆ และเจอกับนัยน์ตาคู่นั้นที่มองมาอย่างสับสนเท่านั้น มันอะไรกัน
“...อึก...ท่านเอ็นโจ?”
“ติดกระดุมซะ”
“เอ๊ะ?” พอก้มลงไปมองก็พบว่ากระดุมเสื้อถูกปลดไปสองเม็ด เหมือนมีอะไรแดงจางๆ อยู่ตรงเนินไหปลาร้า แค่นั้นฉันก็ยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาปิด เดี๋ยวค่ะ นี่นายคิดจะทำอะไรกับฉันกันแน่!?????
“ขอโทษที ผมวู่วามเกินไปหน่อย” ไม่เรียกว่าหน่อยแล้ว เก็บคำขอโทษไปเลยค่ะ! อย่างน้อยก็ยังดีที่คิดเป็นสุภาพบุรุษปลดเสื้อสูทมาให้ฉันที่ขวัญผวาคลุม
ฉันมองเอ็นโจที่นั่งจ้องหน้าฉัน เหมือนเขาอ้าปากจะพูดอะไรแต่ก็ไม่ได้พูด แล้วลุกขึ้นยืนพร้อมกับส่งมือมา
“สภาพนี้คงกลับห้องไม่ได้แล้ว ไปที่อื่นเถอะ”
“อะ ค่ะ”
ฉันลุกขึ้น แต่ไม่รับน้ำใจที่หยิบยื่นมาให้ มองหารองเท้านายตัวสำรอง ข้างที่กระเด็นไปตอนตกบันไดมาสวม ขืนหายไปล่ะก็ นายตัวสำรองได้ฆ่าฉันแน่
“ทำไมถึงเอารองเท้าของประธานมาใส่ได้?”
“คะ?”
“รองเท้าที่คุณสวม”
“อ๋อ พอดีว่ารองเท้าดิฉันสกปรกน่ะคะ มิซึซากิคุงที่ผ่านมาเห็นพอดีเลยกรุณาให้ยืมใส่วันนึงน่ะค่ะ” ฉันตอบออกไปตามความจริง เหมือนได้ยินเอ็นโจพึมพำว่า อะไรคุงๆ แต่คงคิดไปเองสินะคะ
“ท่านเอ็นโจมีเรื่องอะไรหรือคะ” แม้ว่าจะเพิ่งผ่านเหตุการณ์ขวัญผวา แต่ฉันก็แสร้งทำเป็นใจกล้า ปิดบังความสับสนของตัวเอง ถามออกไป
“ยูกิโนะ ฝากมาให้ แล้วก็ถ้าเป็นเรื่องยูกิโนะจะไปหาก็ได้ ผมไม่ได้ว่าอะไร”
“ค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะ ท่านเอ็นโจ”
“แล้วก็ เอารองเท้าไปคืนซะ” พูดขึ้นเร็วๆ แล้วก็รีบเดินจากไปเหมือนกับไม่มีอะไร ส่วนฉันได้แต่ยื่นนิ่งค้างไปนานสองนาน กว่าจะรู้สึกตัวแล้วเอามือแตะที่ริมฝีปาก สัมผัสนั้นยังคงอยู่เลย
********************************************
มันเกิดอะไรขึ้นกับกู กูต้องการความหวานในนิยายมากใช่ไหมเนี้ย ถึงได้เขียนออกมาแบบนี้ ฮือๆ