************************
“...อ๊ะ ตัวสำ..ไม่สิ มิซึซากิคุง!”
“เอ๊ะ? หา?”
อุหวาา ผมสีเงินด้วยล่ะค่ะ! ไม่สิต้องพูดว่าที่ออกเงินๆเวลาโดนแสงมากกว่าค่ะ ตอนนี้นายตัวสำรองมองฉันแปลกๆ ด้วยล่ะค่ะ ไม่สิ ในตอนนี้เขาไม่ใช่คนที่ฉันรู้จักนี่นา ต้องขอโทษแล้วล่ะ
“ขอโทษค่ะ ที่เสียมารยาททักไปอย่างนั้น”
“อ่า ไม่เป็นไร”
ฉันมองใบหน้าตกตะลึงของนายตัวสำรอง ที่คิดว่าน่าจะจำได้แล้วว่าฉันคือ คิโชวอิน เรย์กะ เหมือนได้ยินพึมำพว่าเมดๆ ไรสักอย่าง ฉันจะทำหูทวนลมไปนะคะ
“จะนำทางไปที่โต๊ะนะคะ” ฉันพูดพลางเดินนำนายตัวสำรองที่เดินตามฉันมาในสภาพแข็งทื่อ
“ขออภัยอีกครั้งค่ะ เอ่อ แล้วคุณลูกค้าจะรับอะไรดีคะ?” พูดจบก็ส่งยิ้มให้ พลางรอรับออเดอร์ตามปกติ
“หา?”
ตกใจอะไรขนาดนั้นคะ ฉันแค่ทำงานเลี้ยงปากเลี้ยงท้องตัวเองอยู่เท่านั้นเองค่ะ ฉันยกยิ้มให้เขาอีกครั้ง
“เธอ...เอ่อ คุณคิโชวอิน เรย์กะ?”
“ค่ะ”
“ทำงานพิเศษ?”
“ใช่แล้วล่ะค่ะ จะรับอะไรดีคะ?”
“...ละ เลม่อนโซดา กับฮันนีโทส”
“เลม่อนโซดากับฮันนีโทสนะคะ อีกสิบนาทีของที่สั่งไว้จะมาเสิร์ฟที่โต๊ะนะคะ คุณลูกค้า”
“อะอื้อ”
เหมือนนายตัวสำรองจะทำหน้าแปลกๆ แต่จะว่าไปแล้วเลม่อนโซดากับฮันนีโทสนี่กินด้วยกันมันไม่รู้สึกแปลกๆ เหรอคะ?
พอเสิร์ฟชุดของหวานให้นายตัวสำรองเสร็จ ก็ทำงานต่อค่ะ
ประมาณสิบนาทีหลังจากนั้นฉันก็ได้เวลาเลิกกะพอดี ฉันบอกลาเจ้าของร้าน และพนักงานคนอื่นๆ แล้วเดินออกจากร้านไป ดูเหมือนนายตัวสำรองกำลังนั่งจดจ่อกับหนังสือสอบ ขยันจังเลยค่ะ
*************************************************
เช้าวันไปโรงเรียนฉันไม่ได้ม้วนผมไป แต่ปล่อยให้ผมยาวเรียบตรงเหมือนเดิม เพราะพอลองม้วนแล้วดูเหมือนผมจะยิ่งเสียเข้าไปใหญ่เลยค่ะ แย่จังเลยน้า~
เพราะว่าสถานีรถไฟคนจะแน่นมาก ฉันเลยเผื่อเวลาไปโรงเรียนเช้าหน่อย จะได้ไม่ต้องไปเบียดกับใครเค้าค่ะ
อีกอย่างฉันไม่อยากให้ใครมามองตอนเข้าโรงเรียนด้วยค่ะ ลองนึกภาพมีคนมองมาแบบเกลียดชังดูสิคะ แค่คิดก็สยดสยองแล้วล่ะค่ะ ฮือ…
แต่ดูเหมือนฉันจะคิดตื้นๆ ไปสินะคะ แค่เปิดตู้รองเท้าเพื่อหยิบรองเท้าออกมา ก็เห็นว่าในรองเท้านั้นเต็มไปขี้ดินแห้งๆ แถมเหม็นด้วย ท่าทางว่าจะทำไว้ก่อนที่จะปิดเทอมฤดูร้อนแล้ว แย่จังเลย ไม่มีรองเท้าสำรองด้วย
…ช่วยไม่ได้นะ
ฉันใช้ทิชชู่ค่อยๆหยิบรองเท้าที่เปื้อนไปด้วยดินทั้งคู่ออกมา แล้วเดินไปยังก๊อกน้ำ ใช้แฟ๊บที่วางอยู่ตรงนั้นเอาออกมาซักรองเท้า ขัดๆ มันไปเรื่อยๆ ถึงจะมีที่ขัดรองเท้าอยู่ด้วย แต่มือที่ไม่เคยสัมผัสกับสารเคมีแรงๆ แบบนี้ทำให้ถูกแฟ็บกัดจนเป็นรอยแดงกล่ำ แถมคันยุบยิบ สงสัยหลังจากทำความสะอาดรองเท้าเสร็จคงต้องไปขอพาสเตอร์จากห้องพยาบาลมาแล้วล่ะ
ในตอนนั้นเองก็สังเกตเห็นใครคนหนึ่งกำลังจะเดินมาตรงนี้
ผมสีเงินที่สะท้อนแสงแดด ทำให้ดูแปลกตา แต่ว่าใบหน้านั้นเป็นใบหน้าของนายตัวสำรองแน่ๆ ค่ะ เพียงแต่ว่าเขาคงจะไม่สนใจคนที่กลั่นแกล้งคนที่เขารักแบบฉันหรอกค่ะ ฉันเลยก้มหน้าก้มตาเอาแฟ๊บในมือขัดรองเท้าต่อไปโดยไม่สนใจใคร
“...ทำอะไรน่ะ”
“...!”
ไม่คิดว่าคนอย่างนายตัวสำรองจะมาถามฉันด้วย ฉันเงยหน้าขึ้น มองนายตัวสำรองที่มองของในมือฉันแล้วขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ
“รองเท้าเปื้อนเลยเอามาซักน่ะค่ะ มิซึซากิคุง”
“เธอโดนแกล้งเหรอ?”
พอถูกถามตรงๆ แบบนั้นฉันก็เม้มปากแน่น ไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่ขัดรองเท้าอีกครั้ง อื๋อ เริ่มขาวขึ้นนิดนึงแล้วล่ะ
“เป็นเพราะกรรมตามสนองน่ะค่ะ” ฉันกล่าวกับนายตัวสำรอง “...แต่ว่าเป็นอย่างนี้ก็ดีเหมือนกันค่ะ” แล้วเค้นยิ้มให้
“รองเท้านั่นน่ะ น่าจะใช้ไม่ได้แล้วนะ ตามมาสิจะเอารองเท้าในห้องกรรมการนักเรียนให้ยืมก่อน”
“เอ๋? แต่ว่านั่นมัน…”
“ฉันปล่อยให้มีคนใส่ถุงเท้าเดินไปมาไม่ได้หรอกนะ”
“เอ่อ เดี๋ยวค่ะ คุณมิซึซากิ”
“มีอะไร?”
“ถึงฉันจะแกล้งคนที่คุณรัก คุณก็ช่วยฉันรึคะ? ทำไม?”
“...เพราะเธอเป็นนักเรียนของซุยรัน และฉันมีหน้าที่ต้องดูแลนักเรียนของซุยรันทุกคน ไม้เว้นแต่คนที่ถูกไล่ออกจากPivoine ก็ด้วยเหมือนกัน” นายตัวสำรองพูดด้วยน้ำเสียงไม่ยินดียินร้าย ทำเอารู้สึกซ้อนทับกับนายตัวสำรองในโลกของฉันเลยค่ะ ไม่ว่ายังไงก็มีทัศนคติเหมือนกันสินะคะ ดูน่านับถือจังเลยค่ะ
ช่างดีเหลือเกิน
“ถ้างั้น ฉันขอรบกวนด้วยนะคะ มิซึซากิคุง”
“อื้ม”
ฉันเดินตามนายตัวสำรองเข้าไปเอารองเท้า แต่ดูเหมือนว่าจะมีเบอร์ใหญ่กว่าขนาดของฉันเยอะเลยค่ะ
“เอาของฉันไปใส่ซะ”