Fanboi Channel

ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับปฏิบัติการปลูกไร่กัญชาบนดาวเคราะห์ดวงที่ 5

Last posted

Total of 1000 posts

466 Nameless Fanboi Posted ID:F5MP/cM/P

Ky เล็กน้อยนะคะ ต่อจาก >>293-294 ฟิคคู่หูทะลุมิติ
ต่อเรือคาบุรากิมาทั้งฟิคแล้ว ตอนนี้แทรกของเอ็นโจนิดหนึ่ง (?) นะคะ 5555 ไม่รู้ว่าโอเคหรือเปล่า นั่งเขียนบนรถเมล์ สติอาจจะกระเด็นไปบ้าง ไม่กล้าลงฟิค เห็นมีต่อฟิคไล่ลงกันรัวๆอยู่ กลัวดันโผล่ไปคั่นกลางฟิคคนอื่น 555 เลยรอสักพัก แต่ดีนะ มาให้อ่านเรื่อยๆเลย เราพร้อมทั้งค้าและเสพ 5555
…………………………………………
(มุมมองเรย์กะ)

น่ากลัวจังเลยค่ะ นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว...

ฉันเคยพูดกับเอ็นโจบ่อยๆ แม้เขาจะทำตัวจอมมารใส่ แต่ว่าก็มาพร้อมรอยยิ้ม เหมือนแกล้งหยอกล้อไม่ได้จริงจังเท่าไหร่ แต่ครั้งนี้รอยยิ้มของเขาเย็นชา สายตาเหมือนกดให้ฉันจมดิน จนฉันพูดตอบรับอะไรไม่ถูกเลยค่ะ

“เมื่อไหร่คุณจะสำนึกซะทีว่าสิ่งที่คุณทำมีแต่ทำให้มาซายะรังเกียจคุณ” เอ็นโจพูด น้ำเสียงเย็นยะเยือกจนฉันหนาวสั่น “ผมรู้ว่าคุณทำอะไรกับคุณทาคามิจิบ้าง ถามจริง สมองของคุณคิดได้แค่นั้นงั้นหรอ คุณคิดว่าการแกล้งขัดขวางคนอื่นจะทำให้มาซายะหันมาชอบคุณงั้นหรือไง”

คำพูดเชือดเฉือนหัวใจทำเอาฉันใจสั่นกลัว เริ่มนับถือเรย์กะแล้วสิคะที่เจอคำพูดแบบนี้เข้าไปแล้วยังตอบกลับและไม่สนใจได้ ตัวฉันผู้ขี้ขลาดในตอนนี้ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแล้วค่ะ...

“มาซายะไม่มีทางชอบคนอย่างคุณได้หรอก คุณก็แค่ผู้หญิงที่หัวใจบิดเบี้ยว” เอ็นโจพูดต่อไป “เลิกแกล้งทำเป็นกลัวได้แล้ว เธอคิดว่าจะเสแสร้งให้ใครดูกัน เมื่อไหร่จะเข้าใจว่าวิธีการของคุณมีแต่จะทำให้น่าขายหน้า”

แงงง ฉันกลัวจริงๆนะ นี่มันน่ากลัวกว่าจอมมารปกติอีกนะคะ... ฉันอยากรีบบอกว่าจะไม่ยุ่งกับวาคาบะจังอีกแล้ว ไม่แกล้งใครอีกแล้วค่ะ ได้โปรดไว้ชีวิตฉันด้วย แต่ว่าฉันได้แต่คิดในใจ ฉันลืมวิธีพูดไปแล้วค่ะ...

“ชูสุเกะ ทำอะไรอยู่น่ะ ไปกินข้าวกัน” เสียงทักของคาบุรากิชะงักไปเมื่อเขาเห็นฉันอยู่กับเอ็นโจด้วย

“นั่นสินะ ไปกันเถอะ” เอ็นโจพูด ทั้งๆที่มองฉันอย่างเย็นชาจากหางตา แล้วหันไปยิ้มแย้มปกติกับคาบุรากิ และเดินจากไป...

ขณะที่ฉันกำลังเรียกขวัญที่ถูกเป่ากระเด็นกลับมา เมลล์ก็เด้งขึ้น มาจากคาบุรากิ ซึ่งเพิ่งแลกเมลล์กันเมื่อกี้เพื่อปรึกษาปัญหาทะลุมิติ ก็ได้เห็นข้อความที่ดูตื่นเต้นว่า “นี่ๆ คิโชวอินเห็นหรือเปล่า เมื่อกี้ฉันเห็นรอยยิ้มเย็นชาชั่วร้ายของชูสุเกะด้วย หมอนั่นเริ่มกลับมาเป็นคนที่ฉันรู้จักแล้วสินะ ยอดไปเลยที่เธอทำให้เขาแสดงท่าทางอย่างงั้นได้”

ฉันเลยพูดอะไรไม่ออกตามเดิม...

…………………………………………

(มุมมองเอ็นโจ)

มาซายะเริ่มแปลกไป ไม่รู้เพราะอะไร เขาที่ถูกคิโชวอินมากระแซ ก็ไม่ได้ออกปากไล่ไป หรือต่อว่าเหมือนแต่ก่อน บางครั้งคิโชวอินเรียกหาหรือทักทาย มาซายะก็ตอบรับซะด้วย แม้หลังๆจะดูลังเลที่จะทำอย่างงั้นก็ตาม แต่ท่าทางของหมอนั่นบ่งบอกชัดเจนเลยว่าไม่อยากทำเป็นเฉยๆเมินใส่คิโชวอิน

มาซายะเริ่มชอบคิโชวอินขึ้นมางั้นหรอ?

ผมเองก็แอบสังเกตคิโชวอินมาตลอด เพราะงั้นบอกได้เลยว่าไม่มีอะไรที่ทำให้มาซายะเปลี่ยนไปแบบนั้น หรือว่าจะอยู่ในช่วงอื่นที่ผมไม่ได้ดูอยู่... แต่สายข่าวของผมก็ยืนยันว่าไม่มีอะไรผิดปกติอยู่ดี

ผมพยายามแอบถามมาซายะเหมือนกัน แต่อีกฝ่ายบอกแค่ไม่มีอะไร ถึงอย่างงั้นก็มานั่งซึม นายมันอ่านง่ายเกินไปแล้วนะ

แต่อย่างไรก็ตาม นั่นทำให้คิโชวอินได้ใจยิ่งขึ้น รังแกทาคามิจิหนักกว่าเดิม มาซายะเมื่อรู้เรื่องก็เศร้าสลด ขณะที่หมอนั่นพูดต่อว่าคิโชวอิน ผมเห็นว่าเขาดูฝืนพอควรเลย

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

นอกจากเรื่องท่าทีที่มาซายะปฎิบัติกับคิโชวอินที่เปลี่ยนไปแล้ว นิสัยหมอนั่นเริ่มจะแปลกๆ ถึงแม้เรื่องกีฬาการเรียนก็ยังไร้ที่ติเหมือนเดิม แต่ก็เหมือนมีมุมมองต่อโลกที่ต่างออกไป จริงจังกับทุกเรื่องไม่เว้นแม้แต่เรื่องไร้สาระ ไม่รู้ว่ามีอะไรเข้าสิง หรือหัวไปกระแทกมาหรือเปล่า แต่ว่าก็ตลกดีล่ะมั้ง

สองสามวันมานี้ ผมก็สังเกตว่าคิโชวอินก็เปลี่ยนไปเช่นกัน อยู่ๆเธอก็บอกให้ทุกคนหยุดแกล้งทาคามิจิ ผมที่บังเอิญไปเช้าพอดี ก็เห็นเธอทักทายกับทาคามิจิอย่างร่าเริงว่า "วาคาบะจัง~" ด้วย ทาคามิจิดูตกใจจนสมองเกือบหยุดทำงานเลยล่ะ แต่นอกจากการหลุดปากครั้งนั้น ก็ไม่เข้าใกล้ทาคามิจิอีกเลย

ดูเหมือนว่าการที่ทาคามิจิตกใจใส่จะทำเอาคิโชวอินจ๋อยไป ผมไม่เข้าใจจริงๆ... และวันต่อมาไม่มาดักรอมาซายะเหมือนทุกที

แต่ขณะที่ผมกับมาซายะเดินจากสโมสรจะเข้าห้องเรียน มาซายะก็บอกว่าขอไปห้องน้ำหน่อย ให้ผมไปเรียนก่อนได้เลย

ผมพอเข้าใจทันที เลยไม่เป็นก้างขวางคอ หลังๆมาซายะเริ่มจับโอกาสถูก ได้ยินเสียงคนร้องไห้ในห้องน้ำ เดาได้เลยว่าเป็นทาคามิจิที่ถูกแกล้ง มาซายะถือโอกาสนั้นเข้าไปปลอบทำคะแนนอยู่บ่อยๆ

467 Nameless Fanboi Posted ID:F5MP/cM/P

แต่ทาคามิจิร้องไห้แบบนี้ คิโชวอินไปทำอะไรมาอีกแล้วงั้นหรอ ผมรู้สึกโกรธผู้หญิงคนนี้ขึ้นมา บางทีเธออาจจะฉลาดขึ้นโดยการไม่ทำทุกอย่างโจ่งแจ้ง ผู้หญิงคนนี้หลงรักมาซายะจนน่าโมโห ทำเรื่องร้ายๆมากมาย เพื่อเรียกร้องความสนใจจากมาซายะ และแกล้งคนอื่นเพราะความอิจฉา

ผมวางแผนในใจ ต้องรวบรวมหลักฐานอะไรให้มากพอ ก่อนจัดการกับเธอซะที

ขณะที่ผมกำลังคิดเรียบเรียงเรื่องต่างๆ ก็ชะงักทันทีที่เข้ามาในห้อง ทาคามิจินั่งพร้อมเรียนอย่างตั้งใจ หยิบหนังสือขึ้นมาเตรียมเนื้อหาล่วงหน้า

แสดงว่าคนที่อยู่ในห้องน้ำนั่น ไม่ใช่ทาคามิจิงั้นหรอ...

ผมรีบออกจากห้อง ถ้ามาซายะไปเจอใครไม่รู้คงไม่ดี ผมคงต้องตามไปช่วยดึงเขาออกจากสถานการณ์พวกนั้นล่ะนะ...

เมื่อผมไปถึง ก็เห็นคิโชวอินเดินออกมาเจอมาซายะพอดี ทั้งผมทั้งมาซายะหรือแม้แต่คิโชวอินเองก็ตกใจ ผมซ่อนตัวอย่างรวดเร็วเพื่อดูสถานการณ์

ทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงร้องไห้ เกิดอะไรขึ้นงั้นหรอ หรือว่า...นี่เป็นวิธีเรียกร้องความสนใจแบบใหม่

คิโชวอินดูระแวงมาซายะอย่างเห็นได้ชัด ดูน้อมโน้ม และหวาดกลัว ท่าทางเหมือนต้องการออกห่างมาซายะให้มากที่สุด

แต่หลังจากทั้งคู่คุยๆกันสักพัก ก็ได้เห็นท่าทางคิโชวอินที่แปลกไป ทั้งตกตะลึง ทั้งดีใจ ทั้งเสียใจ

รอยยิ้มของคิโชวอินขณะคุยกับมาซายะครั้งนี้ดูต่างออกไป มันดูจริงใจกว่าครั้งไหนๆ ทำให้ผมยิ่งไม่เข้าใจกว่าเดิม

หัวใจผมเต้นแรงขึ้นมา นี่มันเกิดอะไรกันแน่!?!

มาซายะตบไหล่คิโชวอินอย่างสนิทสนม แล้วก็โดดเรียนไปคุยต่อที่ห้องสมุด ผมแอบตามไป แต่โชคร้ายที่ผมมัวสงสัยจนไม่ทันระวังตัว โดนอาจารย์จับได้ และลากผมไปห้องเรียน... ถึงผมจะหาข้อแก้ตัวไม่ให้โดนดุได้ก็ตาม แต่ว่าผมก็ต้องไปเข้าเรียน และไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง

ผมไปดูช่วงพัก ทั้งคิโชวอินและมาซายะโดดเรียนไปกันทั้งคู่และยังไม่กลับมา ผมรู้สึกไม่ดีเลยจริงๆ...

จนถึงเวลาพักทั้งคู่ก็ยังไม่กลับมา ผมจึงพุ่งตรงไปห้องสมุด แต่บังเอิญเจอกับคิโชวอินเสียก่อน

"คุณคิโชวอิน ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม"

จริงๆผมกะจะทำแบบนี้อย่างระมัดระวัง และอยู่ในที่ที่ไร้คน แต่ตอนนี้ผมทนไม่ได้แล้ว

คิโชวอินไม่ได้โต้เถียงหรือพูดอะไรเจ็บแสบไร้หัวคิดแบบแต่ก่อน ทำให้ผมระแวงอีกฝ่ายเพิ่มยิ่งขึ้น

"เมื่อไหร่คุณจะสำนึกซะทีว่าสิ่งที่คุณทำมีแต่ทำให้มาซายะรังเกียจคุณ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ผมรู้ว่าคุณทำอะไรกับคุณทาคามิจิบ้าง ถามจริง สมองของคุณคิดได้แค่นั้นงั้นหรอ คุณคิดว่าการแกล้งขัดขวางคนอื่นจะทำให้มาซายะหันมาชอบคุณงั้นหรือไง”

ผมรอให้คิโชวอินตอบโต้กลับมา แต่เธอกลับมองผมอย่างหวาดกลัว ตัวสั่นๆราวกับกระต่ายน้อยที่โดนหมาป่าต้อนจนจนมุม

เวลาแบบนี้เป็นช่วงเดียวที่คิโชวอินจะสนใจและคุยกับผม พอเธอไม่แม้แต่จะพูดอะไรสักคำทำเอาผมหงุดหงิดนิดหน่อย

"มาซายะไม่มีทางชอบคนอย่างคุณได้หรอก คุณก็แค่ผู้หญิงที่หัวใจบิดเบี้ยว" ผมพูดต่อไป น้ำเสียงเยือกเย็นแฝงความโกรธไปเล็กน้อย “เลิกแกล้งทำเป็นกลัวได้แล้ว เธอคิดว่าจะเสแสร้งให้ใครดูกัน เมื่อไหร่จะเข้าใจว่าวิธีการของคุณมีแต่จะทำให้น่าขายหน้า”

คิโชวอินทำปากพะงับๆเหมือนพยายามจะพูดอะไรสักอย่าง แต่พูดไม่ออก ท่าทางของเธอดูไม่ได้เหมือนแกล้งทำซะด้วย...

อะไรทำให้เธอเปลี่ยนไปขนาดนี้ในเวลาสั้นๆ...

“ชูสุเกะ ทำอะไรอยู่น่ะ ไปกินข้าวกัน” เสียงทักของมาซายะชะงักไปเมื่อเขาเห็นผมอยู่กับคิโชวอิน

“นั่นสินะ ไปกันเถอะ” ผมพยายามควบคุมสติตัวเอง แล้วหันไปยิ้มแย้มปกติกับมาซายะ เดินออกห่างจากผู้หญิงคนนั้น พยายามไม่หันกลับไป

ตอนกินข้าว ผมเห็นมาซายะเขียนเมลล์อย่างตื่นเต้นส่งหาใครสักคน เมื่อเขาละสายตาจากมือถือผมก็แอบดูไวๆ

คิโชวอิน เรย์กะงั้นหรอ...

ผมตกตะลึง ไม่คิดเลยว่ามาซายะจะแลกเมลล์กับผู้หญิงคนนั้น เสียดายผมไม่เห็นสิ่งที่เขาพิมพ์ เลยเดาไม่ได้ว่าอะไรทำให้พวกเขาคุยกัน และเปลี่ยนไปขนาดนั้น

แฮกมือถือดีไหมนะ นั่นจะผิดกฎหมายเกินไปหรือเปล่า ถ้าถูกจับได้จะเตรียมตัวแบบไหนดี หรือว่ามีวิธีอื่นที่ปลอดภัยกว่า

ขณะที่ผมกำลังนั่งคิดอย่างงั้นในสโมสร ผมก็เห็นมาซายะหยิบมือถือขึ้นมาอีกแล้ว ครั้งนี้ผมหลอกล่อชวนคุยให้เผลอ แล้วแอบดูข้อความแวบๆไวๆ

แล้วก็เจอข้อความประมาณ "แบบนี้เธอก็มีเวลาเพิ่มขึ้นในการเก็บนักษัตรให้ครบแล้วสินะ"

ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ...

468 Nameless Fanboi Posted ID:F5MP/cM/P

ป.ล. เป็นครั้งแรกที่เขียนมุมมองเอ็นโจ ไม่รู้ว่าแปลกๆไหมนะคะ ปกติเขียนแต่มุมมองของเรย์กะ คาบุรากิและไซซายะ 5555

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.