Ky เล็กน้อยนะคะ ต่อจาก >>293-294 ฟิคคู่หูทะลุมิติ
ต่อเรือคาบุรากิมาทั้งฟิคแล้ว ตอนนี้แทรกของเอ็นโจนิดหนึ่ง (?) นะคะ 5555 ไม่รู้ว่าโอเคหรือเปล่า นั่งเขียนบนรถเมล์ สติอาจจะกระเด็นไปบ้าง ไม่กล้าลงฟิค เห็นมีต่อฟิคไล่ลงกันรัวๆอยู่ กลัวดันโผล่ไปคั่นกลางฟิคคนอื่น 555 เลยรอสักพัก แต่ดีนะ มาให้อ่านเรื่อยๆเลย เราพร้อมทั้งค้าและเสพ 5555
…………………………………………
(มุมมองเรย์กะ)
น่ากลัวจังเลยค่ะ นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว...
ฉันเคยพูดกับเอ็นโจบ่อยๆ แม้เขาจะทำตัวจอมมารใส่ แต่ว่าก็มาพร้อมรอยยิ้ม เหมือนแกล้งหยอกล้อไม่ได้จริงจังเท่าไหร่ แต่ครั้งนี้รอยยิ้มของเขาเย็นชา สายตาเหมือนกดให้ฉันจมดิน จนฉันพูดตอบรับอะไรไม่ถูกเลยค่ะ
“เมื่อไหร่คุณจะสำนึกซะทีว่าสิ่งที่คุณทำมีแต่ทำให้มาซายะรังเกียจคุณ” เอ็นโจพูด น้ำเสียงเย็นยะเยือกจนฉันหนาวสั่น “ผมรู้ว่าคุณทำอะไรกับคุณทาคามิจิบ้าง ถามจริง สมองของคุณคิดได้แค่นั้นงั้นหรอ คุณคิดว่าการแกล้งขัดขวางคนอื่นจะทำให้มาซายะหันมาชอบคุณงั้นหรือไง”
คำพูดเชือดเฉือนหัวใจทำเอาฉันใจสั่นกลัว เริ่มนับถือเรย์กะแล้วสิคะที่เจอคำพูดแบบนี้เข้าไปแล้วยังตอบกลับและไม่สนใจได้ ตัวฉันผู้ขี้ขลาดในตอนนี้ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแล้วค่ะ...
“มาซายะไม่มีทางชอบคนอย่างคุณได้หรอก คุณก็แค่ผู้หญิงที่หัวใจบิดเบี้ยว” เอ็นโจพูดต่อไป “เลิกแกล้งทำเป็นกลัวได้แล้ว เธอคิดว่าจะเสแสร้งให้ใครดูกัน เมื่อไหร่จะเข้าใจว่าวิธีการของคุณมีแต่จะทำให้น่าขายหน้า”
แงงง ฉันกลัวจริงๆนะ นี่มันน่ากลัวกว่าจอมมารปกติอีกนะคะ... ฉันอยากรีบบอกว่าจะไม่ยุ่งกับวาคาบะจังอีกแล้ว ไม่แกล้งใครอีกแล้วค่ะ ได้โปรดไว้ชีวิตฉันด้วย แต่ว่าฉันได้แต่คิดในใจ ฉันลืมวิธีพูดไปแล้วค่ะ...
“ชูสุเกะ ทำอะไรอยู่น่ะ ไปกินข้าวกัน” เสียงทักของคาบุรากิชะงักไปเมื่อเขาเห็นฉันอยู่กับเอ็นโจด้วย
“นั่นสินะ ไปกันเถอะ” เอ็นโจพูด ทั้งๆที่มองฉันอย่างเย็นชาจากหางตา แล้วหันไปยิ้มแย้มปกติกับคาบุรากิ และเดินจากไป...
ขณะที่ฉันกำลังเรียกขวัญที่ถูกเป่ากระเด็นกลับมา เมลล์ก็เด้งขึ้น มาจากคาบุรากิ ซึ่งเพิ่งแลกเมลล์กันเมื่อกี้เพื่อปรึกษาปัญหาทะลุมิติ ก็ได้เห็นข้อความที่ดูตื่นเต้นว่า “นี่ๆ คิโชวอินเห็นหรือเปล่า เมื่อกี้ฉันเห็นรอยยิ้มเย็นชาชั่วร้ายของชูสุเกะด้วย หมอนั่นเริ่มกลับมาเป็นคนที่ฉันรู้จักแล้วสินะ ยอดไปเลยที่เธอทำให้เขาแสดงท่าทางอย่างงั้นได้”
ฉันเลยพูดอะไรไม่ออกตามเดิม...
…………………………………………
(มุมมองเอ็นโจ)
มาซายะเริ่มแปลกไป ไม่รู้เพราะอะไร เขาที่ถูกคิโชวอินมากระแซ ก็ไม่ได้ออกปากไล่ไป หรือต่อว่าเหมือนแต่ก่อน บางครั้งคิโชวอินเรียกหาหรือทักทาย มาซายะก็ตอบรับซะด้วย แม้หลังๆจะดูลังเลที่จะทำอย่างงั้นก็ตาม แต่ท่าทางของหมอนั่นบ่งบอกชัดเจนเลยว่าไม่อยากทำเป็นเฉยๆเมินใส่คิโชวอิน
มาซายะเริ่มชอบคิโชวอินขึ้นมางั้นหรอ?
ผมเองก็แอบสังเกตคิโชวอินมาตลอด เพราะงั้นบอกได้เลยว่าไม่มีอะไรที่ทำให้มาซายะเปลี่ยนไปแบบนั้น หรือว่าจะอยู่ในช่วงอื่นที่ผมไม่ได้ดูอยู่... แต่สายข่าวของผมก็ยืนยันว่าไม่มีอะไรผิดปกติอยู่ดี
ผมพยายามแอบถามมาซายะเหมือนกัน แต่อีกฝ่ายบอกแค่ไม่มีอะไร ถึงอย่างงั้นก็มานั่งซึม นายมันอ่านง่ายเกินไปแล้วนะ
แต่อย่างไรก็ตาม นั่นทำให้คิโชวอินได้ใจยิ่งขึ้น รังแกทาคามิจิหนักกว่าเดิม มาซายะเมื่อรู้เรื่องก็เศร้าสลด ขณะที่หมอนั่นพูดต่อว่าคิโชวอิน ผมเห็นว่าเขาดูฝืนพอควรเลย
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
นอกจากเรื่องท่าทีที่มาซายะปฎิบัติกับคิโชวอินที่เปลี่ยนไปแล้ว นิสัยหมอนั่นเริ่มจะแปลกๆ ถึงแม้เรื่องกีฬาการเรียนก็ยังไร้ที่ติเหมือนเดิม แต่ก็เหมือนมีมุมมองต่อโลกที่ต่างออกไป จริงจังกับทุกเรื่องไม่เว้นแม้แต่เรื่องไร้สาระ ไม่รู้ว่ามีอะไรเข้าสิง หรือหัวไปกระแทกมาหรือเปล่า แต่ว่าก็ตลกดีล่ะมั้ง
สองสามวันมานี้ ผมก็สังเกตว่าคิโชวอินก็เปลี่ยนไปเช่นกัน อยู่ๆเธอก็บอกให้ทุกคนหยุดแกล้งทาคามิจิ ผมที่บังเอิญไปเช้าพอดี ก็เห็นเธอทักทายกับทาคามิจิอย่างร่าเริงว่า "วาคาบะจัง~" ด้วย ทาคามิจิดูตกใจจนสมองเกือบหยุดทำงานเลยล่ะ แต่นอกจากการหลุดปากครั้งนั้น ก็ไม่เข้าใกล้ทาคามิจิอีกเลย
ดูเหมือนว่าการที่ทาคามิจิตกใจใส่จะทำเอาคิโชวอินจ๋อยไป ผมไม่เข้าใจจริงๆ... และวันต่อมาไม่มาดักรอมาซายะเหมือนทุกที
แต่ขณะที่ผมกับมาซายะเดินจากสโมสรจะเข้าห้องเรียน มาซายะก็บอกว่าขอไปห้องน้ำหน่อย ให้ผมไปเรียนก่อนได้เลย
ผมพอเข้าใจทันที เลยไม่เป็นก้างขวางคอ หลังๆมาซายะเริ่มจับโอกาสถูก ได้ยินเสียงคนร้องไห้ในห้องน้ำ เดาได้เลยว่าเป็นทาคามิจิที่ถูกแกล้ง มาซายะถือโอกาสนั้นเข้าไปปลอบทำคะแนนอยู่บ่อยๆ