Last posted
Total of 1000 posts
>>401 โอย กูขำในความเป็นคู่ตบมุกมากมาย มันต้องมีซักวันที่นางหลุดปากที่คิดในใจออกมาแน่ๆ5555555555555555555555
เอาจริงๆตอนแรกกูก็เห็นคาบุรากิเป็นเด็กนิสัยเสียนะ โตๆมาก็ไอบ้าอ่ะ แม่ง5555555555 ซีรี่ย์นักษัตรอะไรของมึ๊งงงง ล่าสุดผมทรงจาไมก้า กูเป็นเรย์กะคงแม่งนอยด์แดก ไม่อยากคุยกะมึงอีกต่อไป 5555555555
สุดท้ายนี้อยากจะบอกเหล่าโม่งนะ ตอนแรกกุติ่งเรื่องนี้มากกก แต่แม่งเงียบสัสเงียบเหี้ยๆจนมีคนมาแปะในแมวดุ้นว่าในโม่งมีมู้นี้ กุนี่ตามอ่านทุกมู้หมดก็4วันพอดี แม่งโดนป้อนกาวๆไปเป็นตันๆ นั่งตาเยิ้มเลยห่า 5555555555555
รอให้พวกมึงมาป้อนฟิคอร่อยๆให้นะ พวกมึงแต่งดีมากกกก สนุกเหี้ยๆ สายวาดก็วาดงามเหลือเกิน กุรักทุกคนนนนนน
>>408 "เฮือกกก!!"คาบุรากิสะดุ้งตื่นขึ้นมาแบบกับอาการหอบหายใจ ในตอนเช้าตรู่กว่าปกติ
ความฝันอะไรน่ากลัวจริงๆ ชูสุเกะจะฆ่าเขาเพราะ คิโชวอิน งั้นหรอ?
"ว่างๆก็ไปสะเดาะเคราะห์ที่ศาลเจ้าหน่อยดีกว่า..."เขาตัดสินใจ ก่อนเข้าเว็บไซต์เพื่อเสิร์ชหาจำพวกวัดและศาลเจ้าชื่อดัง
จริงสิชวนคิโชวอินไปด้วยดีกว่า ในอนาคตอาจได้ไปบวชเข้าหาทางธรรมด้วยกัน
ที่ขาดไม่ได้คือชูสุเกะ ถึงหมอนี่จะไม่มีวี่แววอยากบวชด้วยกันกับพวกเขา
แต่คาบุรากิก็มักจะชวนเพื่อนคนนี้ไปไหนมาไหนด้วยเสมอ ไม่ใช่ว่าไม่มีเพื่อนแล้วหรอกนะ ไม่ใช่จริงๆนะ...
---------------------------------------------------------------
ต่อข้างล่าง
ต่อจาก >>422
---------------------------------------------------------------
"เอ๊ะ ไปศาลเจ้าดาไซฟุงั้นหรือคะ?"คิโชวอิน เบิ่งตากว้างพร้อมกรอกไปมาอย่างลอกแลกในตอนที่เขาเอ่ยปากชวน
"ใช่ไง ชูสุเกะเองก็จะไปด้วยนะ เธออยากเก็บซีรี่ย์นักษัตรไม่ใช่หรอ?"เขาเอ่ยถึงซีรี่ย์นักษัตรเพื่อดึงดูดความสนใจจากคิโชวอิน
ยัยนี่เก็บซีรี่ย์นักษัตรอยู่ต้องสนใจแน่ๆ แถมที่นั่นยังมีเคล็ดเพิ่มโชคในการเรียนอีกด้วย
"หืม?"ชูสุเกะส่งเสียงขึ้นมา เมื่อได้ยินเรื่องนี้เป็นครั้งแรก แต่คาบุรากิก็บอกว่าเขาเป็นผู้ร่วมเดินทางซะแล้ว
"ซีรี่ย์..นักษัตร..?"คิโชวอินทวนด้วยอาการตื่นงง คงจะดีใจแน่ๆที่การสะสมซีรี่ย์คืบหน้า ไม่ต้องห่วงฉันจะช่วยเธอเอง!
"ที่หน้าทางเข้ามีรูปปั้นเทพเจ้าวัวนอนอยู่..."เขาจะบรรยายสรรพคุณต่อ แต่ก็ลืมซะได้เลยหยิบใบปลิวที่พิมพ์ออกมาจากอินเทอร์เน็ตมาอ่าน
"ไหนๆดูสิ..หากได้ลูบหัวและเขาของรูปวัวจะทำให้มีโชค หายจากอาการเจ็บป่วยและประสบความสำเร็จในการเรียน"
"เห็นไหมล่ะ ทีนี้เธอก็จะได้ขึ้นบอร์ดรายชื่อตอนประกาศผลสอบแถมได้เก็บนักษัตรปีฉลูด้วย!"เขาอวดอ้างผลประโยชน์จากการเดินทางอย่างภาคภูมิใจ
"..."ชูสุเกะทำเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่คิโชวอินก็พูดขัดขึ้นมาเสียก่อน
"ตะ-แต่ว่า...---"คิโชวอินทำท่าจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เขาก็นึกขึ้นมาได้ว่าต้องไปเคลียร์ตารางเวลาเพื่อหาเวลาว่างไปศาลเจ้า
"แล้วเจอกันวันเสาร์หน้านะ คิโชวอินทำตัวให้ว่างล่ะ! ถึงไม่ว่างก็ต้องว่าง เข้าใจไหม? ไปกันชูสุเกะ!"เขาพูดพร้อมลากชูสุเกะไป
"อาเร๊ะะะะะ"เสียงคิโชวอินโหนหวนตามมา แต่คาบุรากิก็ไม่ได้ยินมัน
---------------------------------------------------------------
ณ วันนัด
"อะไรของตาบ้านั่นกันนะ! มัดมือชกแล้วยังมาช้าอีก แย่จริงๆเลย!! ไหนท่านเอ็นโจยังจะ---"เรย์กะในชุดเดรสยาวพร้อมเสื้อคลุมดูเรียบร้อยบ่นกระปอดกระแปด พร้อมก้มดูนาฬิกามือถือ ทว่าก็มีเสียงของใครคนหนึ่งพร้อมเสียงหวีดว้ายของสาวๆดังขึ้นเสียก่อน
"ขอโทษที่ต้องทำให้รอนะครับ..คุณคิโชวอิน"เอ็นโจ ชูสุเกะเดินตรงมาที่เธอในชุดไปรเวท บรรยากาศรอบข้างเหมือนหยุดนิ่งไป
ไม่รู้ว่าเพราะเขาในชุดไปรเวทมันดูแปลกตาหรือว่าอากาศร้อนกันแน่ เธอรู้สึกว่าใจมันเต้นเร็วแถมหน้ามันร้อนๆอีก
สงสัยจะป่วยเพราะหลบแดดไม่พ้นแน่ๆ ทำไมท่านเอ็นโจดูส่องประกายจังล่ะเนี่ย เป็นเพราะแดดงั้นหรอ? แดดจะแรงเกินไปแล้วนะยะ!!
หน็อย! ตาคาบุรากิ ปล่อยให้ฉันตากแดดจนเหมือนจะเป็นไข้ แล้วยังไม่มาอีกนะ!!
"คุณคิโชวอิน...?"ท่านเอ็นโจวยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนได้ยินเสียงกรี๊ดของสาวๆที่แอบมองอยู่ มือของเขาโบกไปมาตรงหน้าฉัน
"ท่านเอ็นโจว! เอ่ออ..แล้วท่านคาบุรากิล่ะคะ?"เรย์กะเผลอถอยหลังอัตโนมัติ แต่ด้วยความลนลานทำให้สะดุดส้นสูงของตัวเองเสียอย่างนั้น
"ว้ายยย---"ในจังหวะที่คิดว่าคงได้ล้มหัวคะมำจนเจ็บตัวหรือป่วยจริงๆเข้า ก็มีมืออ้อมแขนแข็งแรงมาโอบไหล่เธอไว้
"เป็นอะไรไหมครับคุณคิโชวอิน?"เอ็นโจดึงเธอกลับขึ้นมายืนได้ในที่สุด ใบหน้ายังเปื้อนยิ้มเหมือนอย่างเคย
"ขอบคุณมากค่ะท่านเอ็นโจ ดิฉันไม่เป็นไรค่ะ"เธอสั่นหัวปฏิเสธ ซึ่งความจริงแล้วเธอตกใจจนสั่นไปทั้งตัว
"ไม่เป็นไรครับ คุณคิโชวอินปลอดภัยก็ดีแล้ว..."นัยน์ตาเขาดูเจ้าเล่ห์ขึ้นมาชั่วประเดี๋ยว
"แต่คุณติดหนี้ผมอีกอย่างแล้วนะครับ คุณคิโชวอิน"เขาหัวเราะเบาๆในลำคอ
เสียทีจอมมารเสียแล้ว! เรย์กะได้แต่ด่าทอความซุ่มซ่ามของตัวเอง แย่จริงๆมาพลาดกับใครไม่พลาด กับจอมมารเนี่ยนะ...
เริ่มจะเหงื่อแตกแล้ว ดูซิ ขนาดพัดที่พกมายังเอาไม่อยู่ เธอพกร่มมาด้วยแต่ดันลืมไว้ในรถซะนี่ เพราะตาบ้าคาบุรากินั่นแหละ!!
พอนึกขึ้นได้เธอจึงถามหาตาบ้า เอ๊ย! จักรพรรดิ"เอ่อ..ท่านเอ็นโจคะ แล้วท่านคาบุรากิล่ะค่ะ?"เธอสอดส่องสายตามองหาแต่ก็ไม่เห็นว่าจะมีใครตามเอ็นโจมา ไม่ได้มาด้วยกันงั้นหรอ?
"มาซายะน่ะหรอครับ? เผอิญว่าเขาท้องเสียกระทันหันน่ะครับ"เอ็นโจตอบด้วยสีหน้าปกติไม่ได้มีความแปลกใจหรือตกใจอะไรกับเรื่องนี้
"อะ---"เรย์กะอ้าปากค้าง ถ้าท่านคาบุรากิไม่มาเธอก็ต้องอยู่กับท่านเอ็นโจสองคนน่ะสิ!! หวาแย่แล้วค่าาา
"ว่าแต่...ชุดเดรสเหมาะจังเลยนะครับ คุณคิโชวอินใสแล้วดูสวยมากเลย.."ท่านเอ็นโจก็ยิ้มเหมือนเดิมแต่ทำไมฉันใจเต้นแรงมากขึ้นล่ะเนี่ย!
ตาบ้าคาบุรากิ!! นายอยู่ที่ไหนยะ!! ขอสาปแช่งให้ไปโกนหัวบวชเร็วๆนี้เลยไป๊!!
---------------------------------------------------------------
ต่อจาก >>423
---------------------------------------------------------------
ทางด้านคาบุรากิ
"โอ๊ย..."เขาโอดครวญขณะ คลานออกมาจากห้องน้ำ
ในตอนแรกแม่ของเขาเป็นห่วงมากเสียจะส่งเขาเข้ารพ.แต่เขายืนกรานปฏิเสธ จึงเรียกหมอประจำตระกูลเข้ามาตรวจแทน
ผลก็คือ อาหารเป็นพิษ! ก่อนหน้านี้เขากินอะไรเข้าไปตั้งหลายอย่าง
แต่ขนมที่สโมสรก็ตั้งแต่วันศุกร์แล้ว แถมน่าจะมีเขาเพียงคนเดียวที่มีอาการท้องเสีย นึกให้ออกสิ อะไรกันแน่?
ฉับพลันภาพที่เขาแย่งขนมจากชูสุเกะมากินก็แล่นเข้ามาในหัว ต้องใช่แน่ๆ ขนมปริศนานั่น!!
พอได้ยินว่าชูสุเกะได้มันมาจากทาคามิจิเขาก็อดไม่ได้ที่แย่งมากินโดยไม่ฟังเสียงห้ามของเพื่อนสนิท
แล้วทำไมทาคามิจิถึงได้ให้เน่าเสียกับชูสุเกะละเนี่ยยยย!?
อนิจจาคาบุรากิ มาซายะไม่อาจรู้ได้เลยว่า
เอ็นโจ ชูสุเกะเพื่อนของเขาเพิ่งไปช่วยทาคามิจ วาคาบะ จากการกลั่นแกล้งของคนนักเรียนคนอื่นที่เอาขนมใส่ยาให้วาคาบะ
พอจะชูสุเกะจะเอาเก็บ คาบุรากิเดินมาเจอกับเขาเข้าพอดีแถมยังไม่ทันจะอธิบายให้ละเอียด คาบุรากิก็กลืนขนมลงท้องไปซะแล้ว...
หลักฐานที่จะมัดตัวคนที่มารังแกทาคามิจิ วาคาบะจึงลงไปย่อยในกระเพาะของท่านจักรพรรดิอย่างช่วยไม่ได้
คาบุรากิก็ยังคงเข้าๆออกๆห้องน้ำ ทำได้แค่จิบน้ำเกลือแร่ไปพลางๆ
อีกสิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือ ชูสุเกะจงใจจะพูดเรื่องวาคาบะให้เขาสนใจเสียก่อน ทำให้ท้ายที่สุดแล้ว ชูสุเกะก็จะได้ไป 'เดท' คิโชวอินแค่สองต่อสอง...
---------------------------------------------------------------
กาวกุหมดละ
กุเรือคาบุรากินะ สาบานได้ 5555555 แต่อยากแกล้งมัน
แต่งเร็วๆ ว่าจะต่อสั้นๆแต่ดันยาวจนต้องแยกซะงั้น
บากะรากิเอ้ย!!!! ไปสะเดาะเคราะห์พร้อมโกนหัวบวชเถอะ!!!
>>422 >>423 >>424 กุแต่งต่อจาก >>408 นะ
สาเหตุที่ต้องเคลียร์ตารางเวลา เพราะศาลเจ้ามันอยู่ตจว.ไม่ใช่เมืองหลวง (กุไม่รู้ว่า จังหวัดที่โรงเรียนซุยรันกับบ้านพวกตัวเอกอยู่มันจังหวัดอะไร)
ถึงการเดินทางของญี่ปุ่นจะสะดวกรวดเร็วแต่มันก็ต้องใช้เวลาอยุ่ดีแหละ แถมไม่รู้ว่าพวกลุกคนรวยมันเดินทางยังไง
ฉะนั้นจะกลับไปเฉยๆก็คงเสียที เรย์กะกับเอ็นโจเลยน่าจะได้เที่ยวกันสองคน 5555
และแล้วเรือคาบุก็แต่ง
>>401 มาต่อ กูแต่งอะไรของกูเนี่ย อห. 55555555555
ฝันร้ายของฉันมันก็เริ่มประมาณนี้ล่ะค่ะ มันมี ว่าที่คู่หมั้น ตาบ้าคาบุรากิ และคิโชวอิน เรย์กะอย่างฉันเป็นตัวละครหลักแหละค่ะ หลังจากที่หมอนั่นพ่นอะไรประมาณนั้นออกมาแล้วก็ตบไหล่ฉันปั่กๆก่อนเดินจากไปอย่างพออกพอใจในตัวเอง ทิ้งฉันไว้ที่ทางเดินพร้อมกับวิญญาณที่ออกจากร่างไปแล้ว ส่วนตอนนี้ฉันกำลังนั่งอยู่กลางห้องท่องสวดบทสวดไล่ปีศาจอยู่น่ะค่ะ โรยเกลือไว้ที่ประตูห้อง แล้วอมลูกอมรสท้อด้วยแหละค่ะ ฉันล็อกประตูห้องเอาไว้แล้วแต่ได้ยินเสียงแว่วๆของท่านแม่กับทานูกิกำลังฉลองกันอยู่ด้วย ส่วนท่านพี่นั้นไม่กลับบ้านมาสองสามวันแล้ว เหมือนว่าจะบินไปติดต่องานธุรกิจแทนตาแก่ทานุกิกับท่านอิมาริ ท่านพี่คะ ได้โปรดกลับมาเร็วๆเถอะค่ะ น้องสาวคนนี้กำลังจะถูกปีศาจร้ายรังควานชีวิตนะคะ อัปมงคล อัปมงคล
เช้าวันต่อมา
เมื่อคืนฉันเครียดจนนอนไม่หลับเลยแหละค่ะ.. แม้แต่ผมหลอดประจำตัวยังไม่ค่อยมีอารมณ์จะม้วนเลยล่ะ ฉันเดินเข้ามาในห้องเรียนอย่างงกๆเงิ่นๆ แต่ทุกคนยังดูปกติดี ไม่มีใครกำลังซุบซิบหรือมองมาทางฉันอย่างแปลกๆ ละ..โล่งอกไปทีค่าา พวกเซริกะจังก็กริ๊ดกร๊าดเรื่องคาบุรากิเหมือนกับทุกๆวัน ทุกคนยังไม่รู้เรื่องนี้กันสินะ ในขนาดที่ฉันกำลังลอบถอนหายใจอย่างยินดี เสียงกริ๊ดที่ดังขึ้นกระทันหันก็ทำให้ใจลงตุบไปที่ตาตุ่ม
"คิโชวอิน! ฉันขอคุยด้วยหน่อยสิ" อุกี้!! นายมาทำบ้าอะไรที่ห้องฉันกัน ถ้าคนอื่นสงสัยขึ้นมาจะทำยังไงยะ!
"ค่ะ ท่านคาบุรากิ" อ๊าย!! หลังจากเรียกชื่อตานี่ฉันต้องกินลูกอมรสท้อล้างหรือเปล่าคะ ฉันตีหน้านิ่งก่อนจะเดินตามเดินตามหมอนั่นไปที่ห้องเรียนที่ยังว่างอยู่ไม่ไกล
"ในฐานะว่าที่คู่หมั้น ฉันเพิ่งนึกได้ว่าควรจะให้ของขวัญเธอหน่อย"
"เอ่อ..ก็ไม่จำเป็นต้องให้อะไรหรอกนะคะ" ... แค่หนังสือบทกวีตอนนั้นก็ทำให้ฉันหน้ามืดแล้วล่ะค่ะ
"พอฉันเห็นไอ้นี่ก็นึกถึงเธอขึ้นมาเลยล่ะ!" ชักรู้สึกแหม่งๆในใจเลยล่ะค่ะ...
"หัวม้านี่ไงล่ะ!!" หัวม้า...กับฉันเนี่ยนะ หัวม้ากับราชินีโรโคโค่อย่างฉันเนี่ยนะยะ!!
"เธอก็รู้ใช่ไหมว่าฉันชนะกีฬาขี่ม้าส่งเมืองน่ะ แต่ฉันก็ไม่อยากพูดอะไรมากหรอกนะ" คาบุรากิโบกไม้โบกมือเหมือนไม่ใส่ใจ แต่นี่ก็กำลังพูดถึงอยู่ไม่ใช่หรอกเหรอ คงรู้สึกภาคภูมิใจกับมันจริงๆสินะยะ เจ้าบ้ากีฬาสีเอ๊ย!!
"ในฐานะที่เธอเป็นว่าที่คู่หมั้นของฉัน ถึงเธอจะเป็นผู้หญิงแต่ควรมีส่วนร่วมด้วยล่ะนะ" ฉันควรจะทำอย่างไรในสถานการณ์นี้ดีคะ..
"ถือว่าฉันช่วยเธอเก็บเซ็ตซีรี่ย์นักษัตรแล้วกันนะ" หมอนั่นยัดหัวม้าใส่มือของฉัน อะ...อัปมงคง!! อัปมงคล!!
"เอ่อ ท่านคาบุรากิค่ะ คือว่าเรื่องคู่หมั่.."
"อ้อ ไม่ต้องขอบใจหรอกนะ ฉันรู้ว่าว่าเธอซาบซึ้งแต่ไม่ต้องขอบคุณหรอก" พูดจบก็ตบไหล่ฉันปั่กๆ ก่อนจะเดินออกไปอย่างอารมณ์ดี ... อัปมงคล อัปมงคลอีกแล้วค่ะ!!
ตอนเย็นของวันนั้น (แถม)
ทุกคนคะ ในขณะที่ฉันกำลังเช็ดผมอยู่นั้น สายตาก็ได้เล็งเห็นเส้นผมสีขาวกระจุกหนึ่งที่ซ่อนตัวอยู่ตรงผมด้านใน... ไอ้บ้าคาบุรากิเอ๊ย!! ฉันจะไม่ทนแล้วนะ!!
>>430 ทำไมนายโอเระซามะได้ขนาดนี้ คาบุรากี้ เหมือนชีวิตเรย์กะในฟิคหนีและอาจอฟช.ด้วยหนีไม่พ้นอ่ะ ถ้าสมมตินี่คือเกมจีบหนุ่มก็มีช้อยส์ให้เลือกจักรพรรดินิสัยเพี้ยน ชอบคิดอะไรไปเอง กับจอมมารขยันยิ้มที่เดาทางไม่ถูกว่ากำลังจะวางแผนอะไร ต่อให้กินลูกอมท้อจนหมดโลกก็ไม่ได้ช่วยอะไรหรอก นอกจากเป็นโรคเบาหวาน
หลังจากแต่งฟิคให้คาบุรากิท้องเสียไปแล้ว กุไปวาดดูเดิ้ลคาบุรากิมาขอขมา
จำไม่ได้ว่าคาบุรากิเริ่มแข่งขี่ม้าส่งเมืองตอนอยู่ชั้นไหน แต่ขอมโนว่าในรูปคือตอนเริ่มลงแข่งครั้งแรกๆเลยละกัน
https://drive.google.com/file/d/0B5wqTNdLnv19b09nbVVfamktOEE/view?usp=sharing
ปกติกูอยู่หน้าคอม เกาะกระทู้ตลอด ฟิคไหนมาก็อัพเดทสารบัญชิวๆ
แต่วันนี้พอลงฟิคคบรก.นั่นก็ออกไปทำธุระ ... ทำไมมันงอกอะไรออกมาเพียบเลยวะ กูตกใจ กูเพิ่งเข้าใจความรู้สึกของคนที่นานๆเข้ากระทู้ที 55555555555
>>391 สั้นๆ แต่กูชอบมาก กูจะใส่ไว้สารบัญด้วยเลย 555555555
>>403 กูก็อยากอ่านนายตัวสำรองงงงง
กูรักความบ้าบอในฟิคของทุกคนๆนะ รู้สึกได้ถึงความรักและเอ็นดูในตัวมันกันมากเลย 5555555
อนึ่งที่กูอยากจะบอกโม่งฟิคทุกๆคน ว่าในการเม้นท์แต่ละอันในโม่งได้จำกัดที่ 4,000 ตัวอักษร ก่อนจะลงมึงเอาฟิคไปนับตัวอักษรใน lettercount.com แล้วตัดแบ่งให้พอดีๆเม้นท์เลยก็ได้นะ เห็นบางคนตัดถี่ๆ กูอ่านแล้วมันสะดุดงะ
ฟิคชื่ออะไรไม่รู้กูอยากแต่ง
-------------------------------------------------------------
เมื่อฉันลืมตาขึ้นก็พบกับเพดานห้องที่ไม่คุ้นเคย....ที่นี่ที่ไหนกัน?
ฉันจำได้ว่าก่อนหน้านี้ฉันกำลังอ่านหนังสือเตรียมสอบอยู่จนหลับคาโต๊ะไป
โอ๊ย!
อยู่ดีๆก็รู้สึกเจ็บแปลบๆที่หัวจนต้องร้องออกมา เกิดอะไรขึ้นกับฉันกัน? แต่พอเอามือไปจับบริเวณที่เจ็บดูก็รู้สึกว่ามีอะไรติดอยู่
เอ๋? ผ้าพันแผลเหรอ? แล้วทำไมฉันถึงใส่ชุดขนไข้อยู่ล่ะ?
เมื่อมองไปรอบๆห้องฉันก็รู้ได้ทันทีว่าที่นี่คือโรงพยาบาล
ฉันหันไปมองยังข้างเตียงก็พบวาคาบะจังที่กำลังนอนฟุบอยู่
"คุณ...ทาคามิจิ?
"อือ~~ เอ๋! ตื่นแล้วเหรอค่ะ"
วาคาบะจังตะโกนออกมาเสียงดังอย่างดีใจที่เห็นฉันตื่นขึ้นมา มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะฉันงงไปหมดแล้ว!!
ในตอนนั้นก็ท่านแม่ก็เปิดประตูและวิ่งเข้ามาฉันอย่างรวดเร็ว
"ลูกแม่ไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหม? "
ท่านแม่ดูตื่นตระหนกจนไม่อาจรักษาท่าทางหญิงสาวผู้สูงศักดิ์ไว้
"อ่า.....ยังปวดหัวอยู่นิดหน่อยน่ะค่ะ "
ท่านแม่ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ ส่วนวาคาบะจังก็ยังนั่งยิ้มอยู่ข้างๆ
ฉันที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรก็ได้แต่สงสัยจึงได้ถามท่านแม่ออกไป
"เกิดอะไรขึ้นเหรอค่ะท่านแม่?
"นี่จำไม่ได้จริงเหรอ?
"คะ? "
คำถามของท่านแม่ทำเอาฉันงงยิ่งกว่าเดิมอีก ก็จำได้สิว่าฉันกำลังอ่านหนังสืออยู่ในห้องไงล่ะ
"ลูกไปซุ่มซ่ามตกบันไดจนสลบไป ถ้าหากไม่คุณทาคามิจิล่ะก็ป่านนี้ไม่รู้จะเป็นยังบ้าง"
เอ๋!!!!!
อะไรกันทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ ฉันยังจำได้เลยว่าฉันกำลังอ่านหนังสืออยู่ในห้อง แล้วฉันจะไปตกบันไดได้ยังค่ะ!!
แต่ทันไดนั้นก็มีความทรงจำมากมายเข้ามาในหัว....!?
นี่ฉัน....เข้ามาอยู่ในร่างของเรย์กะในKimiDolceซะแล้ว นี่มันบ้าอะไรกัน!!
ไม่นะหากเป็นแบบนี้ล่ะก็ชีวิตฉันคงจบไม่สวยแน่!
อ้า!!หมดกันที่ทำมา
ทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นด้วย ทำยังไงดีล่ะ?
แต่ว่า...ทำไมล่ะ? ทำไมวาคาบะจังถึงช่วยฉันกัน? ทั้งที่ฉันกลั่นแกล้งเธอขนาดนั้นแท้ๆ เธอมันจะใจดีเกินไปแล้วนะ...
ฉันหันไปทางวาคาบะจังและก้มหัวลงขอบคุณ
"คุณทาคามิจิ ขอบคุณมากเลยนะค่ะ…"
เอ๋! ท่าทางตกใจนั่นมันอะไรกันค่ะ อ๋อ..คงเป็นเพราะตัวฉันในโลกนี้เธอจึงคาดไม่ถึงว่าฉันจะขอบคุณเธอสินะ
"ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะก็เราเป็นเพื่อร่มชั้นกันนี่ค่ะ "
วาคาบะจังตอบด้วยรอยยิ้ม
ไม่ว่ากับใครเธอก็ดีด้วยเสมอเลยสินะ? ขนาดที่ฉันแกล้งเธอไปตั้งมากมายขนาดนั้นแต่กลับ....
ทำไมเรย์กะในKimiDolceถึงเกลียดคนแสนดีขนาดนี้ได้ลงนะไม่เข้าใจจริงๆ
"งั้นฉันขอตัวกลับก่อนนะค่ะ
"คุณทาคามิจิ เดี๋ยวทางเราจะช่วยพาไปส่งเองนะคะ
ท่านแม่ดูเหมือนว่าอยากจะตอบแทนวาคาบะจังสิ แล้วก่อนหน้านี้คงบิกว่าจะตอบแทนไปแล้วด้วยแต่ตามนิสัยของวาคาบะจังแล้วคงไม่รับสินะ...
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะฉันจะกลับเอง "
วาคาบะจังโค้งตัวให้ท่านแม่ละหันหลังเดินจากไป
"เดี๋ยวก่อน! "
ฉันตะโกนเรียกวาคาบะจัง
ฉันโค้งตัวลงและพูด
"เรื่องที่ผ่านมา...ขอโทษด้วยนะคะ!
มันก็พูดยากนะ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้ทำเองก็ตามแต่ยังไงเราก็เป็นคนๆเดียวกัน
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะเรื่องเล็กน้อยแค่นี้เอง"
จากนั้นวาคาบะจังก็เดินออกจากห้องไป
ถึงแม้ว่าฉันจะทำผิดมากขนาดไหนแต่เธอก็ยังไม่ถือสาฉันนี่นับถือเธอจริงๆ......
>>437 ต่อ
-----------------------
ฉันนอนโรงพยาบาลไปหนึ่งอาทิตย์จึงต้องหยุดไปด้วยเลย ระหว่างนั้นฉันก็คิดหาวิธีแก้ปัญหาเรื่องการล้มละลายไปด้วย
นั้นคือปัญหาใหญ่ที่สุดเลยล่ะ!
ฉันไม่คิดว่าท่านพ่อจะเป็นคนแบบนั้นหรอกท่านต้องโดนใส่ร้ายแน่นอน!
ในที่สุดฉันก็ผุดไอเดียขึ้นมาล่ะ ฉันบอกท่านแม่ไปว่าฉันฝันว่าเห็นบริษัทโดนใส่ร้ายจนล้มละลาย และเมื่อท่านแม่ได้ยินก็หน้าซีดทันที
ท่านแม่ได้เล่าเรื่องฝันของฉันให้ทานูกิฟัง เมื่อได้ฟังเองแล้วทานูกิก็รู้สึกระแวงขึ้นมาจนได้ทำการตรวจสอบขึ้นและสุดท้ายก็พบว่ามีคนพยายามโกงในบริษัท
โชคดีที่บริษัทไม่เสียหายมากนักถือว่าเป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลมไปเลย
เย้! ในที่สุดก็แก้ปัญหาการใหญ่ได้แล้วค่ะ
ส่วนท่านพี่นั้นแม้จะไม่ค่อยถูกกับฉันก็ตามแต่ยังไงก็เป็นน้องสาวจึงต้องมาเยี่ยม
ฉันพยายามพูดกับท่านพี่ให้มากขึ้นจนท่านพี่ตกใจว่าฉันนั้นแปลกไปเลยล่ะ จากนั้นท่านพี่ก็มาเยี่ยมฉันทุกวันจนฉันเริ่มสนิทกับท่านมากขึ้นแล้วล่ะ
และแล้วก็สำเร็จไปอีกหนึ่ง ดีใจจังเลยค่ะ!
เวลาผ่านไปจนฉันออกจากโรงพยาบาล ในตอนนี้สิ่งที่ฉันจะทำต่อไปคือเปลี่ยนแปลงตัวเองค่ะ!
เรย์กะในKimiDolceนั้นแย่จริงๆ ทั้งเอาแต่แกล้งคนอื่น บ้าผู้ชาย และยังเรียนแย่อีกด้วย ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้ฉันต้องเปลี่ยนภาพลักษณ์ของฉันให้ดูดีสมเป็นคุณหนูตระกูลคิโชวอินอันสูงส่งสิถึงจะถูก!
ตอนนี้ฉันหายดีแล้วจึงสามารถไปโรงเรียนได้ ในวันนี้ฉันมาโรงเรียนเช้าจึงไม่ค่อยมีคนมากนัก
ฉันเดินไปยังตู้รองเท้าก็พบกับวาคาบะจังที่กำลังยืนอยู่หน้าชั้นรองเท้า
เอาไงดีจะเข้าไปทักดีไหมน่ะ?
เอ๋..ทำไมวาคาบะจังถึงสีหน้าดูเคร่งเครียดจัง
และแล้วฉันก็เห็นเท้าของเธอเลือดอออกอยู่ หรือว่าจะโดนแกล้ง!
ฉันไม่รอช้าวิ่งเข้าไปหาวาคาบะจังในทันที
"อรุณสวัสค่ะคุณทาคามิจิ "
"เอ๋ คุณคิโชอินหายดีแล้วสินะค่ะ"
ท่าทางแบบนั้นยังจะมาห่วงฉันอีกเหรอค่ะ?
"เป็นอะไรเหรอคะดูสีหน้าไม่ดีเลย? "
"ก็..นิดหน่อยน่ะ"
จากนั้นวาคาบะจังก็ยื่นมือมาให้
ตะปู!!
วาคาบะจังถูกแกล้งหนักขนาดนี้เลยเหรอ ใครกัน! ถึงแม้เรย์กะในKimiDolceจะกลั่นแกล้งหลายครั้งแต่ก็ไม่ร้ายแรงขนาดนี้เลยนะ อย่าให้รู้นะแม่จะฉีกมันเป็นชิ้นๆเลยคอยดู!!
"รีบไปห้องพยาบาลก่อนเถอะค่ะ! "
วาคาบะจังตกใจกับคำพูดของฉันและจากนั้นก็หัวเราออกมาเบาๆ
"หัวเราะอะไรเหรอค่ะ? "
"เปล่าค่ะ แค่ไม่คิดว่าคุณคิโชวอินก็เป็นห่วงฉันด้วย
อย่างนั้นเองสินะ มันคงแปลกที่คนที่รังแกเธอบ่อยอย่างฉันมาเป็นห่วงเธอแบบนี้
ฉันมองไปรอบๆก็เห็นนักเรียนหญิงกลุ่มหนึ่งกำลังยืนยิ้มอยู่ หรือว่าจะเป็นพวกนั้น?
บังอาจมากที่มารังแกวาคาบะจัง!
ฉันไม่อาจเก็บความโกรธเอาไว้ได้และเดินไปยังนักเรียนหญิงกลุ่มนั้น
"พวกเธอทำสินะ?
"ใช่แล้วค่ะ ยอดเยี่ยมไปเลยใช่ไหมค่ะท่านเรย์กะพอท่านเรย์กะไม่อยู่นังร่านนั้นก็เอาแต่เกาะท่านคาบุรากิไม่หยุดล่ะ สมควรแล้วที่... "
เพี้ยะ!.
ฉันตบกับคนที่พูดจนเกิดเสียงดังทำให้นักเรียนที่อยู่บริเวณนั้นหันมามอง
นักเรียนหญิงที่ถูกฉันตบก็มองอย่างไม่น่าเชื่อสายตาตัวเอง
"นี่ยังน้อยไปนะกับสิ่งที่เธอทำหากเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกล่ะก็ไม่จบแน่..คงเข้าใจสินะ"
ฉันพูดพลางเอามือลูบผมนักเรียนหญิงคนนั้น จนทำให้เธอเกิดอาการกลัวจนตัวสั่น
"ตอบสิ! "
ฉันตะโกนขึ้นเสียงดังพร้อมกระชากผมทำให้นักเรียนหญิงตรงหน้าฉันร้องให้ออกมา
"ขะ..เข้าใจค่ะ
อะไรนะไม่ได้ยิน
"อึก!!เข้าใจค่ะ ฮื้ออออ"
จากนั้นเธอก็ล้มลงร้องให้ ส่วนพวกของเธอนั้นก็เพียงยืนมองดูเท่านั้น และเมื่อฉันหันไปมองพวกเธอก็ตั่วสั่นขึ้นมาในทันที
จากนี้ไม่ฉันจะไม่ยอมให้ใครมารังแกวาคาบะจังผู้แสนดีอีกแล้ว เอาล่ะต้องทำให้มันเด็ดขาดซะที!
"ทุกคนฟังทางนี้"
ฉันตะโกนขึ้นจนทำให้ทุกคนหันมามองรวมถึงคาบุรากิและเอ็นโจที่เพิ่งมาถึงด้วย
"จากนี้ต่อไปใครก็ตามที่เป็นศัตรูกับทาคามิจิ วาคาบะ ก็เท่ากัว่าเป็นศัตรูกับฉัน..ไม่สิ! ต้องเป็นศัตรูกับตระกูลคิโชวอินด้วย! "
เฮ้ย พวกมึง กุกร๊าวฟิคมะหมามากอ่ะ กุตั้งชื่อน้องหมาตัวใหม่ของกุว่า ปอมกิโนะ เลยนะเว้ย ขอบคุณโม่งฟิคทั้งหลายที่แต่งเรื่องนี้ขึ้นมาจนเป็นแรงบันดาลใจให้กุตั้งชื่อนี้ แม้ว่ากุจะโดนครอบครัวมองด้วยสายตาแปลกประหลาดก็ตาม
>>438 ต่อๆ
----------------------------------
ข่าวที่ฉันออกตัวปกป้องวาคาบะจังแพร่สะพัดอย่างรวดเร็ว พวกนักเรียนก็ต่างพากันประหลาดใจ ก้แน่ล่ะสิ! จู่ๆฉันที่เป็นหัวโจกในการกลั่นแกล้งกลับออกตัมาปกป้องแบบนี้
แต่มันทนไม่ไหวจริงๆนั่นแหล่ะ มาแกล้งวาคาบะจังแบบนี้ได้ยังไงกัน ถ้าแค่แกล้งเล็กๆน้อยๆก็ยังพอให้อภัยได้แต่การมาทำร้ายร่างกายกันแบบนี้มันยอมไม่ได้จริงๆนั่นแหล่ะ
หลังที่ฉันพูดไปแบบนั้นก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครมารังแกวาคาบะจังอีกเลย ก็แน่ล่ะสิใครจะกล้าเป็นศัตรูกับตระกูลคิโชวอินกัน
จากนั้นฉันก็คุยกับวาคาบะจังทุกวันจนสนิทกันจนเรียกว่าเพื่อได้เลยล่ะ ส่วนนายตัวสำรองที่ปกป้องวาคาบะจังมาตลอดนั้นแม้จะไม่ได้ว่าอะไรฉันก็ตามแต่ก็ยังระแวงอยู่บ้าง
"นี่คิโชอิน "
ไม่นะเสียงนี้มัน...คาบุรากิ!! ไม่นะทั้งที่พยายามหลีกเลี่ยงแล้วแท้ๆ แต่โชคดีจริงๆที่ไม่มีเอ็นโจมาด้วย
"มีอะไรเหรอกับฉันคะท่านคาบุรากิ "
"ฉันต่างหากที่ต้องถามเธอ เธอน่ะวางแผนอะไรไว้กันแน่ถึงพยายามเข้าหาทาคามิจิขนาดนั้น "
"หา!! อย่ามากล่าวหาอะไรฉันแบบนี้นะ "
"ก็ไม่มีอะไรนี่คะ "
"อย่ามาโกหก เธอน่ะเป็นคนที่รังแกทาคามิจิมาตลอดแต่จู่ก็เปลี่ยนไปได้ขนาดนี้คงมีแผนอะไรล่ะสิท่า "
อ้า!! ฉันจะบ้าตายกับไอหมอนี่จริงๆคิดเองเออเองตลอดเลย แม้การบุคลิกจะไม่เหมือนแต่ไม่ว่าจะอยู่โลกไหนๆก็ยังนิสัยเหมือนเดิมสินะ
"จะเชื่อหรือไม่นั้นก็เรื่องของท่านคาบุรากิค่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวก่อนนะค่ะเดี๋ยวจะข้าเรียนสาย "
ฉันกำลังจะเดินจากไป แต่คาบุรากิก็มาขวางทางฉันไว้ก่อน
"เธอยังไปไหนไม่ได้จนกว่าจะให้คำตอบฉันก่อน "
อะไรอีกเนี่ยตื้อจริงๆ ไม่ต้องกลัวฉันแย่งวาคาบะจังไปจากนายหรอกน่ะเพราะฉันไม่มีรสนิยมแบบนั้นหรอก
แต่จู่ก็มีใครบางคนเดินมาทางฉัน
"คุณกำลังทำให้เธอลำบากใจนะครับ "
นายตัวสำรอง!! มาได้ถูกเวลาจริงๆเยี่ยมมาก
"หลีกไป นายดูไม่ออกเหรอว่ายัยนี่น่ะกำลังวางแผนบางอย่างอยู่ "
ฉันและนายตัวสำรองต่างก้รู้สึกเอือมระอากับความบ้าของตานี่แล้ว แผนการบ้าบออะไรกันย่ะ!
"คาบุรากิคุณนี่มันไม่เข้าใจอะไรจริงๆสินะ "
"หือ? พูดอะไรของนายน่ะ "
"คุณไม่รู้สึกเหรอว่าพักนี้คุณคิโชวอินกำลังเปลี่ยนแปลงตัวเองอยู่น่ะ "
"นายต้องการบอกอะไรฉันกันแน่? "
"คุณก็เห็นนี่พักหลังมานี้คุณคิโชวอินน่ะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ทั้งเลิกกลั่นแกล้งคุณทาคามิจิ เธอตั้งใจเรียนขึ้นและเธอก็ไม่ตามตอแยคุณแล้วด้วยแบบนั้นไม่ดีเหรอครับ "
เยี่ยมมากพูดได้ดี!
"ตั้งแต่เธอได้ถูกคุณทาคามิจิช่วยไว้คราวนั้นเธอก็เริ่มเปลี่ยนไป ก่อนหน้านี้ผมรู้สึกเกลียดเธอมากเลยล่ะ แต่คิโชวอินเรย์กะในตอนนี้นั้นไม่ใช่คนเดิมอีกแล้วคุณลองเปิดใจดูสิ "
หลังจากได้ยินคำพูดของนายตัวสำรองคาบุรากิก็คิดอยู่พักหนึ่ง
"งั้นฉันจะลองเชื่อเธอดูแล้วกันยังไงซะเธอก็เป็นเพื่อกับทาคามิจิ "
จากนั้นคาบุรากิก็เดินจากไปเหลือเพียงฉันกับนายตัวสำรอง
"ขอบคุณมากค่ะมิซึซากิคุง "
ฉันขอบคุณจากใจจริงเลยล่ะ หากไม่ได้นายล่ะก็ป่นนี้ฉันคงต้องโดนคาบุรากิกักตัวไว้แน่เลย
"ไม่เป็นอะไรหรอกมันเป็นหน้าที่ของประธานนักเรียนน่ะ "
สมกับเป็นประธานนักเรียนจริงๆ ทำเอานึกถึงรุ่นพี่โทโมเอะเลยล่ะ
"ไม่รู้หรอกนะว่าอะไรทำให้เธอเปลี่ยนไปได้ก็ขนาดนี้แต่เธอที่เป็นแบบนี้น่ะดีแล้วล่ะ อ้ะ! คาบเรียนเริ่มแล้วขอตัวก่อนนะ เธอก็อย่าสายล่ะ"
จากนั้นนายตัวสำรองก็เดินจากไป
ฉันมองดูแผ่นหลังของเขาที่จากไปหัวใจก็เต้นไม่เป็นจังหวะขึ้น ความรู้สึกที่จางหายไปนานก็เริ่มปะทุขึ้นมาอีกครั้ง มันเหมือนกับตอนรุ่นพี่โทโมเอะ.......ความรัก
----------------------------------------------------------------------------------------------
กูมาเพื่อทำลายเรือเอ็นโจ//ยิ้มชั่วร้าย
>>451 ต่อๆ
--------------------------------
มุมมองของนายตัวสำรอง
พักหลังมานี้คิโชวอิน เรย์กะเริ่มเปลี่ยน เธอเปลี่ยนไปมากจนผมคิดว่าเป็นคนละคนกันเลยเสียอีก…หรือว่าเพราะหัวกระแทกพื้นตอนนั้น
แค่ก็ยังวางใจไม่ได้หรอก คนเราน่ะมันไม่ใช่ว่าจะเปลี่ยนกันได้ง่ายๆหรอกเธอคงวางแผนอะไรไว้สินะ
ก่อนหน้านี้เธอนั้นเป็นตัวน่ารำคาญสำหรับผม แต่หลังจากที่เธอมาสนิทกับวาคาบะผมก็ได้คุยกับเธอบ้างเป็นครั้งคราวจึงทำให้สุดท้ายผมก็ยอมรับตัวเธอมากขึ้น
การเปลี่ยนแปลงของเธอนั้นทำให้เธอมีนิสัยดีขึ้น ดีจริงๆที่เธอตกบันใดในวันนั้น
ผมที่กำลังเดินอยู่ก็ได้เห็นเธอกำลังคุยอยู่กับคาราบุกิ มาซายะ
เกิดอะไรขึ้นกัน? ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องดีเลย
ผมเดินเข้าไปหาเธอก็พบเธอโดนคาบุรากิรังควานเพราะความไม่ไว้ใจ จากนั้นผมก็พูดแก้ต่างให้เธอ
ผมคิดว่าคิโชวอินเรย์กะคนใหม่นี้ได้เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นแล้ว ผมอยากให้ทุกคนได้รับรู้เรื่องนี้
จากนั้นผมก็แยกกับเธอกลับห้องเรียน
แต่ระหว่าทางผมก็ได้พบกับคนๆหนึ่งเข้า
"นี่ประธานนักเรียน "
เอ็นโจ ชูสุเกะ......
"มีอะไร "
"ผมขอบอกอะไรไว้อย่างนึงนะ นายน่ะไม่คู่ควรกับเธอหรอกเพราะฉะนั้นอยู่ห่างไว้จะดีกว่า "
เขาพูดกับผมและเดินจากไป
ถึงแม้ว่าผมจะไม่เข้าใจวามหมายที่เขาพูดก็ตาม แต่ผมนั้นสัมผัสได้ถึงความกดดันที่เขาปล่อยออกมา รอยยิ้มของเขานั้นทำให้ผมถึงกับสะท้านไปทั้งตัวเลยทีเดียวราวกับว่าคนที่ผมกำลังผะเชิญหน้าอยู่นี้ไม่ใช่มนุษย์
หากจะให้จำกัดความถึงตัวตนของคนๆนี้ล่ะ.....ปีศาจ
จะมาต่อไหมอะ //กำลังจะนอนกุนี่ตาค้างเลย
สรุปว่านายตัวสำรองชอบวาคาบะไหมอ่ะมึง
ใครรู้สปอยบ้างงง
Ky เล็กน้อยนะคะ ต่อจาก >>293-294 ฟิคคู่หูทะลุมิติ
ต่อเรือคาบุรากิมาทั้งฟิคแล้ว ตอนนี้แทรกของเอ็นโจนิดหนึ่ง (?) นะคะ 5555 ไม่รู้ว่าโอเคหรือเปล่า นั่งเขียนบนรถเมล์ สติอาจจะกระเด็นไปบ้าง ไม่กล้าลงฟิค เห็นมีต่อฟิคไล่ลงกันรัวๆอยู่ กลัวดันโผล่ไปคั่นกลางฟิคคนอื่น 555 เลยรอสักพัก แต่ดีนะ มาให้อ่านเรื่อยๆเลย เราพร้อมทั้งค้าและเสพ 5555
…………………………………………
(มุมมองเรย์กะ)
น่ากลัวจังเลยค่ะ นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว...
ฉันเคยพูดกับเอ็นโจบ่อยๆ แม้เขาจะทำตัวจอมมารใส่ แต่ว่าก็มาพร้อมรอยยิ้ม เหมือนแกล้งหยอกล้อไม่ได้จริงจังเท่าไหร่ แต่ครั้งนี้รอยยิ้มของเขาเย็นชา สายตาเหมือนกดให้ฉันจมดิน จนฉันพูดตอบรับอะไรไม่ถูกเลยค่ะ
“เมื่อไหร่คุณจะสำนึกซะทีว่าสิ่งที่คุณทำมีแต่ทำให้มาซายะรังเกียจคุณ” เอ็นโจพูด น้ำเสียงเย็นยะเยือกจนฉันหนาวสั่น “ผมรู้ว่าคุณทำอะไรกับคุณทาคามิจิบ้าง ถามจริง สมองของคุณคิดได้แค่นั้นงั้นหรอ คุณคิดว่าการแกล้งขัดขวางคนอื่นจะทำให้มาซายะหันมาชอบคุณงั้นหรือไง”
คำพูดเชือดเฉือนหัวใจทำเอาฉันใจสั่นกลัว เริ่มนับถือเรย์กะแล้วสิคะที่เจอคำพูดแบบนี้เข้าไปแล้วยังตอบกลับและไม่สนใจได้ ตัวฉันผู้ขี้ขลาดในตอนนี้ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแล้วค่ะ...
“มาซายะไม่มีทางชอบคนอย่างคุณได้หรอก คุณก็แค่ผู้หญิงที่หัวใจบิดเบี้ยว” เอ็นโจพูดต่อไป “เลิกแกล้งทำเป็นกลัวได้แล้ว เธอคิดว่าจะเสแสร้งให้ใครดูกัน เมื่อไหร่จะเข้าใจว่าวิธีการของคุณมีแต่จะทำให้น่าขายหน้า”
แงงง ฉันกลัวจริงๆนะ นี่มันน่ากลัวกว่าจอมมารปกติอีกนะคะ... ฉันอยากรีบบอกว่าจะไม่ยุ่งกับวาคาบะจังอีกแล้ว ไม่แกล้งใครอีกแล้วค่ะ ได้โปรดไว้ชีวิตฉันด้วย แต่ว่าฉันได้แต่คิดในใจ ฉันลืมวิธีพูดไปแล้วค่ะ...
“ชูสุเกะ ทำอะไรอยู่น่ะ ไปกินข้าวกัน” เสียงทักของคาบุรากิชะงักไปเมื่อเขาเห็นฉันอยู่กับเอ็นโจด้วย
“นั่นสินะ ไปกันเถอะ” เอ็นโจพูด ทั้งๆที่มองฉันอย่างเย็นชาจากหางตา แล้วหันไปยิ้มแย้มปกติกับคาบุรากิ และเดินจากไป...
ขณะที่ฉันกำลังเรียกขวัญที่ถูกเป่ากระเด็นกลับมา เมลล์ก็เด้งขึ้น มาจากคาบุรากิ ซึ่งเพิ่งแลกเมลล์กันเมื่อกี้เพื่อปรึกษาปัญหาทะลุมิติ ก็ได้เห็นข้อความที่ดูตื่นเต้นว่า “นี่ๆ คิโชวอินเห็นหรือเปล่า เมื่อกี้ฉันเห็นรอยยิ้มเย็นชาชั่วร้ายของชูสุเกะด้วย หมอนั่นเริ่มกลับมาเป็นคนที่ฉันรู้จักแล้วสินะ ยอดไปเลยที่เธอทำให้เขาแสดงท่าทางอย่างงั้นได้”
ฉันเลยพูดอะไรไม่ออกตามเดิม...
…………………………………………
(มุมมองเอ็นโจ)
มาซายะเริ่มแปลกไป ไม่รู้เพราะอะไร เขาที่ถูกคิโชวอินมากระแซ ก็ไม่ได้ออกปากไล่ไป หรือต่อว่าเหมือนแต่ก่อน บางครั้งคิโชวอินเรียกหาหรือทักทาย มาซายะก็ตอบรับซะด้วย แม้หลังๆจะดูลังเลที่จะทำอย่างงั้นก็ตาม แต่ท่าทางของหมอนั่นบ่งบอกชัดเจนเลยว่าไม่อยากทำเป็นเฉยๆเมินใส่คิโชวอิน
มาซายะเริ่มชอบคิโชวอินขึ้นมางั้นหรอ?
ผมเองก็แอบสังเกตคิโชวอินมาตลอด เพราะงั้นบอกได้เลยว่าไม่มีอะไรที่ทำให้มาซายะเปลี่ยนไปแบบนั้น หรือว่าจะอยู่ในช่วงอื่นที่ผมไม่ได้ดูอยู่... แต่สายข่าวของผมก็ยืนยันว่าไม่มีอะไรผิดปกติอยู่ดี
ผมพยายามแอบถามมาซายะเหมือนกัน แต่อีกฝ่ายบอกแค่ไม่มีอะไร ถึงอย่างงั้นก็มานั่งซึม นายมันอ่านง่ายเกินไปแล้วนะ
แต่อย่างไรก็ตาม นั่นทำให้คิโชวอินได้ใจยิ่งขึ้น รังแกทาคามิจิหนักกว่าเดิม มาซายะเมื่อรู้เรื่องก็เศร้าสลด ขณะที่หมอนั่นพูดต่อว่าคิโชวอิน ผมเห็นว่าเขาดูฝืนพอควรเลย
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
นอกจากเรื่องท่าทีที่มาซายะปฎิบัติกับคิโชวอินที่เปลี่ยนไปแล้ว นิสัยหมอนั่นเริ่มจะแปลกๆ ถึงแม้เรื่องกีฬาการเรียนก็ยังไร้ที่ติเหมือนเดิม แต่ก็เหมือนมีมุมมองต่อโลกที่ต่างออกไป จริงจังกับทุกเรื่องไม่เว้นแม้แต่เรื่องไร้สาระ ไม่รู้ว่ามีอะไรเข้าสิง หรือหัวไปกระแทกมาหรือเปล่า แต่ว่าก็ตลกดีล่ะมั้ง
สองสามวันมานี้ ผมก็สังเกตว่าคิโชวอินก็เปลี่ยนไปเช่นกัน อยู่ๆเธอก็บอกให้ทุกคนหยุดแกล้งทาคามิจิ ผมที่บังเอิญไปเช้าพอดี ก็เห็นเธอทักทายกับทาคามิจิอย่างร่าเริงว่า "วาคาบะจัง~" ด้วย ทาคามิจิดูตกใจจนสมองเกือบหยุดทำงานเลยล่ะ แต่นอกจากการหลุดปากครั้งนั้น ก็ไม่เข้าใกล้ทาคามิจิอีกเลย
ดูเหมือนว่าการที่ทาคามิจิตกใจใส่จะทำเอาคิโชวอินจ๋อยไป ผมไม่เข้าใจจริงๆ... และวันต่อมาไม่มาดักรอมาซายะเหมือนทุกที
แต่ขณะที่ผมกับมาซายะเดินจากสโมสรจะเข้าห้องเรียน มาซายะก็บอกว่าขอไปห้องน้ำหน่อย ให้ผมไปเรียนก่อนได้เลย
ผมพอเข้าใจทันที เลยไม่เป็นก้างขวางคอ หลังๆมาซายะเริ่มจับโอกาสถูก ได้ยินเสียงคนร้องไห้ในห้องน้ำ เดาได้เลยว่าเป็นทาคามิจิที่ถูกแกล้ง มาซายะถือโอกาสนั้นเข้าไปปลอบทำคะแนนอยู่บ่อยๆ
แต่ทาคามิจิร้องไห้แบบนี้ คิโชวอินไปทำอะไรมาอีกแล้วงั้นหรอ ผมรู้สึกโกรธผู้หญิงคนนี้ขึ้นมา บางทีเธออาจจะฉลาดขึ้นโดยการไม่ทำทุกอย่างโจ่งแจ้ง ผู้หญิงคนนี้หลงรักมาซายะจนน่าโมโห ทำเรื่องร้ายๆมากมาย เพื่อเรียกร้องความสนใจจากมาซายะ และแกล้งคนอื่นเพราะความอิจฉา
ผมวางแผนในใจ ต้องรวบรวมหลักฐานอะไรให้มากพอ ก่อนจัดการกับเธอซะที
ขณะที่ผมกำลังคิดเรียบเรียงเรื่องต่างๆ ก็ชะงักทันทีที่เข้ามาในห้อง ทาคามิจินั่งพร้อมเรียนอย่างตั้งใจ หยิบหนังสือขึ้นมาเตรียมเนื้อหาล่วงหน้า
แสดงว่าคนที่อยู่ในห้องน้ำนั่น ไม่ใช่ทาคามิจิงั้นหรอ...
ผมรีบออกจากห้อง ถ้ามาซายะไปเจอใครไม่รู้คงไม่ดี ผมคงต้องตามไปช่วยดึงเขาออกจากสถานการณ์พวกนั้นล่ะนะ...
เมื่อผมไปถึง ก็เห็นคิโชวอินเดินออกมาเจอมาซายะพอดี ทั้งผมทั้งมาซายะหรือแม้แต่คิโชวอินเองก็ตกใจ ผมซ่อนตัวอย่างรวดเร็วเพื่อดูสถานการณ์
ทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงร้องไห้ เกิดอะไรขึ้นงั้นหรอ หรือว่า...นี่เป็นวิธีเรียกร้องความสนใจแบบใหม่
คิโชวอินดูระแวงมาซายะอย่างเห็นได้ชัด ดูน้อมโน้ม และหวาดกลัว ท่าทางเหมือนต้องการออกห่างมาซายะให้มากที่สุด
แต่หลังจากทั้งคู่คุยๆกันสักพัก ก็ได้เห็นท่าทางคิโชวอินที่แปลกไป ทั้งตกตะลึง ทั้งดีใจ ทั้งเสียใจ
รอยยิ้มของคิโชวอินขณะคุยกับมาซายะครั้งนี้ดูต่างออกไป มันดูจริงใจกว่าครั้งไหนๆ ทำให้ผมยิ่งไม่เข้าใจกว่าเดิม
หัวใจผมเต้นแรงขึ้นมา นี่มันเกิดอะไรกันแน่!?!
มาซายะตบไหล่คิโชวอินอย่างสนิทสนม แล้วก็โดดเรียนไปคุยต่อที่ห้องสมุด ผมแอบตามไป แต่โชคร้ายที่ผมมัวสงสัยจนไม่ทันระวังตัว โดนอาจารย์จับได้ และลากผมไปห้องเรียน... ถึงผมจะหาข้อแก้ตัวไม่ให้โดนดุได้ก็ตาม แต่ว่าผมก็ต้องไปเข้าเรียน และไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ผมไปดูช่วงพัก ทั้งคิโชวอินและมาซายะโดดเรียนไปกันทั้งคู่และยังไม่กลับมา ผมรู้สึกไม่ดีเลยจริงๆ...
จนถึงเวลาพักทั้งคู่ก็ยังไม่กลับมา ผมจึงพุ่งตรงไปห้องสมุด แต่บังเอิญเจอกับคิโชวอินเสียก่อน
"คุณคิโชวอิน ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม"
จริงๆผมกะจะทำแบบนี้อย่างระมัดระวัง และอยู่ในที่ที่ไร้คน แต่ตอนนี้ผมทนไม่ได้แล้ว
คิโชวอินไม่ได้โต้เถียงหรือพูดอะไรเจ็บแสบไร้หัวคิดแบบแต่ก่อน ทำให้ผมระแวงอีกฝ่ายเพิ่มยิ่งขึ้น
"เมื่อไหร่คุณจะสำนึกซะทีว่าสิ่งที่คุณทำมีแต่ทำให้มาซายะรังเกียจคุณ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ผมรู้ว่าคุณทำอะไรกับคุณทาคามิจิบ้าง ถามจริง สมองของคุณคิดได้แค่นั้นงั้นหรอ คุณคิดว่าการแกล้งขัดขวางคนอื่นจะทำให้มาซายะหันมาชอบคุณงั้นหรือไง”
ผมรอให้คิโชวอินตอบโต้กลับมา แต่เธอกลับมองผมอย่างหวาดกลัว ตัวสั่นๆราวกับกระต่ายน้อยที่โดนหมาป่าต้อนจนจนมุม
เวลาแบบนี้เป็นช่วงเดียวที่คิโชวอินจะสนใจและคุยกับผม พอเธอไม่แม้แต่จะพูดอะไรสักคำทำเอาผมหงุดหงิดนิดหน่อย
"มาซายะไม่มีทางชอบคนอย่างคุณได้หรอก คุณก็แค่ผู้หญิงที่หัวใจบิดเบี้ยว" ผมพูดต่อไป น้ำเสียงเยือกเย็นแฝงความโกรธไปเล็กน้อย “เลิกแกล้งทำเป็นกลัวได้แล้ว เธอคิดว่าจะเสแสร้งให้ใครดูกัน เมื่อไหร่จะเข้าใจว่าวิธีการของคุณมีแต่จะทำให้น่าขายหน้า”
คิโชวอินทำปากพะงับๆเหมือนพยายามจะพูดอะไรสักอย่าง แต่พูดไม่ออก ท่าทางของเธอดูไม่ได้เหมือนแกล้งทำซะด้วย...
อะไรทำให้เธอเปลี่ยนไปขนาดนี้ในเวลาสั้นๆ...
“ชูสุเกะ ทำอะไรอยู่น่ะ ไปกินข้าวกัน” เสียงทักของมาซายะชะงักไปเมื่อเขาเห็นผมอยู่กับคิโชวอิน
“นั่นสินะ ไปกันเถอะ” ผมพยายามควบคุมสติตัวเอง แล้วหันไปยิ้มแย้มปกติกับมาซายะ เดินออกห่างจากผู้หญิงคนนั้น พยายามไม่หันกลับไป
ตอนกินข้าว ผมเห็นมาซายะเขียนเมลล์อย่างตื่นเต้นส่งหาใครสักคน เมื่อเขาละสายตาจากมือถือผมก็แอบดูไวๆ
คิโชวอิน เรย์กะงั้นหรอ...
ผมตกตะลึง ไม่คิดเลยว่ามาซายะจะแลกเมลล์กับผู้หญิงคนนั้น เสียดายผมไม่เห็นสิ่งที่เขาพิมพ์ เลยเดาไม่ได้ว่าอะไรทำให้พวกเขาคุยกัน และเปลี่ยนไปขนาดนั้น
แฮกมือถือดีไหมนะ นั่นจะผิดกฎหมายเกินไปหรือเปล่า ถ้าถูกจับได้จะเตรียมตัวแบบไหนดี หรือว่ามีวิธีอื่นที่ปลอดภัยกว่า
ขณะที่ผมกำลังนั่งคิดอย่างงั้นในสโมสร ผมก็เห็นมาซายะหยิบมือถือขึ้นมาอีกแล้ว ครั้งนี้ผมหลอกล่อชวนคุยให้เผลอ แล้วแอบดูข้อความแวบๆไวๆ
แล้วก็เจอข้อความประมาณ "แบบนี้เธอก็มีเวลาเพิ่มขึ้นในการเก็บนักษัตรให้ครบแล้วสินะ"
ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ...
ป.ล. เป็นครั้งแรกที่เขียนมุมมองเอ็นโจ ไม่รู้ว่าแปลกๆไหมนะคะ ปกติเขียนแต่มุมมองของเรย์กะ คาบุรากิและไซซายะ 5555
>>463 สปอยล์ว่านายตัวสำรองชอบวาคาบะมั้ย
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เป็นไปตามเนื้อเรื่องดั้งเดิมเลย คือ คาบุรากิหลงรัก วาคาบะ และนายตัวสำรองก็หลงรัก ด้วย
ท่านเรย์กะรู้ว่าจะเป็นแบบนี้อยู่แล้วตั้งแต่ต้น เลยเรียกว่า นายตัวสำรอง แล้วยังยกตำแหน่งรองหัวหน้าหมู่บ้าน(คานทอง)ให้ด้วยยังไงล่ะ
>>469 งั้นต้องรอดูว่าลงเอยแบบดั้งเดิมไหมสินะ ตัวสำรองจะยังคงเป็นตัวสำรองรึเปล่า
แต่คาบุรากิถ้าแห้วครั้งนี้ ก็คิดไม่ออกจริงๆว่าจะมีผู้หญิงแบบไหนเข้ามา
หรือจะไม่มี หรือจะเป็นผู้ชายแบบคู่ท่านพี่กับท่านอิมาริ----
ท่านพี่กับท่านอิมาริน่าจะแค่เพื่อน อ.ฮิโยโกะคงทำมาให้จิ้นเฉยๆ?
คำถามในหัวเพียบ
>>466-467 มันควรจะเป็นเรือคาบุรากิใช่มะ แต่กูกรี๊ดโมเมนต์เอ็นโจง่ะ กูขอโทษ อ่านไปกูยิ้มไปกับความร้อนรน(??)ของเอ็นโจ และความสตอล์กเกอร์อันไม่เสื่อมคลายไม่ว่าจะหัวสีอะไร กูรู้สึกได้ถึงความพยายามเรียกร้องความสนใจเอามากๆ พอเขาไม่พูดด้วยก็โกรธก็หงุดหงิด จนกูต้องหัวเราะฮุๆเลย
แถมช่วงท้ายแม่ง.....คาบุรากินี่มันบ้าบอจริงๆ เก็บแต้มนักษัตรอะไรของแก๊!!!
>>466-467 เป็นพาร์ทที่รู้สึกโอเคกับคาบุรากิมาตลอด จนกระทั่งเก็บแต้มนักษัตร 555555 บากะรากิก็คือบากะรากิจริงๆนั่นละ
ky นิดนึง เพิ่งย้อนอ่านไปตอนที่ 45 เป็นช่วงม.1 เรย์กะมีพูดว่า
"...(คาบุรากิ)เติบโตขึ้นจริงๆด้วยนะ แต่ในการ์ตูนเขาให้ความรู้สึกว่าถึงจะรุนแรงไปบ้าง แต่ก็เป็นคนที่มีกำลังใจแข็งกล้ามากกว่าจะเอาใจตัวเองแบบลูกคุณหนู ในเวลาอีก 3 ปีนี้เขาจะเข้าใกล้จักรพรรดิคนนั้นในการ์ตูนได้ซักแค่ไหนกันนะ..."
ผ่านมาร้อยกว่าตอน เข้าใกล้สักนิดบ้างมั้ยล่ะคะท่านเรย์กะ 555555555
แถมด้วยสารบัญเรือลำน้อย เผื่อใครจะมาแต่งฟิคให้กูอ่าน...
-------------------------
ไทม์ไลน์ของอุเมวากะ
Ch.88 ที่โรงเรียนสอนพิเศษสำหรับช่วงปิดเทอม เจอนายกุ๊ย(อุเมวากะ)ครั้งแรก
Ch.89 อุเมวากะมาทักและหยอกล้อ, โดนขโมยซูชิข้าวห่อไข่
Ch.91 อุเมวากะมาขอโทษที่ขโมยของกิน, อุเมวากะเริ่มออกตัวว่าเป็นคนบ้าหมา
Ch.92 อุเมวากะส่งสมุดรวมภาพ "เลิฟๆ เบียทริซ" ให้ท่านเรย์กะดู
Ch.93 โดนโมริยามะมาค่อนแคะว่าสนิทกับอุเมวากะจังนะ, เรย์กะเอาตัวรอดมาได้และได้เป็นเพื่อนกับแก๊งอุเมวากะ
Ch.100 เรย์กะบอกว่าอุเมวากะขอว่าให้เชิญไปงานโรงเรียนด้วย แต่เรย์กะไม่ได้เชิญ
Ch.105 คุยกันเรื่องช็อคโกแลตวาเลนไทน์กับพวกโมริยามะ
Ch.113 เรย์กะบ่นว่าได้แลกเมลล์กับอุเมวากะเข้า ก็เลยมีภาพเบียทริซส่งเข้าเมลล์ทุกวัน แถมแทนตัวเองเป็นเบียทริซอีกต่างหาก
Ch.132 เรย์กะคิดว่าจะทำตุ๊กตานิดเดิลเฟลท์เบียทริซโชว์ในงานโรงเรียน, ไปขออุเมวากะ อุเมวากะบอกว่าขอให้เบียทริซลดความอ้วนก่อนนะ ดอบเพอแกงเกอร์ของเรย์กะชัดๆ
Ch.134 อุเมวากะส่งเมลล์มาภาพเบียทริซจุ๊บแก้มตัวเองมาให้
Ch.135 กำหนดวันนัดเจอเบียทริซกับอุเมวากะ
Ch.136 นัดเจอพวกอุเมวากะและเบียทริซที่ด็อกแลนด์ อุเมวากะเปิดเผยความบ้าหมาเต็มที่จนโมริยามะเหวอ
Ch.137 เริ่มทำนีดเดิลเฟลท์, อุเมวากะมาถามความคืบหน้า
Ch.155 เรย์กะบอกว่ามีเมลล์จากเบียทริซส่งมาหารัวๆว่าอยากเห็นตุ๊กตาเร็วๆ
Ch.159 งานเทศกาลโรงเรียน อุเมวากะและผองเพื่อนมาเที่ยวงาน อุเมวากะปลดปล่อยความบ้าหมาออกมาอีกครั้ง
Ch.161 พวกอุเมวากะเดินเล่นเสร็จมาขอเรย์กะที่แต่งชุดจีนถ่ายรูป
ไอเทมบ้าหมาของนายบ้าหมา
ต่างหูอุ้งตีนหมา, แหวนเงินประทับตราอุ้งตีนหมา, กระเป๋าใส่เบียทริซสีฟ้าลายดอกทานตะวัน มีชื่อ"Asuka&Beatrice" (ของขวัญจากท่านเรย์กะ)
-------------
ไทม์ไลน์ของมิซึซากิ
Ch.45 เรย์กะดูรายชื่ออันดับคะแนนสอบเจอชื่อคุ้นๆ แล้วมองหาชายผมเงิน
Ch.62 เรย์กะพูดถึงนายผมเงิน ตำแหน่งสภานักเรียน ทีมแข่งวิ่งม้าทีมสุดท้ายคู่กับทีมคาบุรากิ สุดท้ายคาบุรากิชนะ
Ch.66 ประธานนักเรียนผมเงินโผล่มาว้ากใส่ซึรุฮานะ ทุกคนถามว่าปธ.นร.ชื่ออะไร เรย์กะตอบ"มึซึซากิ อาริมะ"
Ch.83 รุ่นพี่โทโมเอะเรียกมิซึซากิมาคุยพร้อมกับเรย์กะว่าอยากให้มาเป็นสภานักเรียนด้วยกัน
Ch.86 มิสึซากิเข้ามาคุยด้วยเพราะคิดว่าเรย์กะรังแกหัวหน้าห้อง
Ch.88 สอบปลายภาคมิซึซากิได้ที่7 เรย์กะที่86
Ch.96 เรย์กะเจอมิซึซากิคุยกันเรื่องงานกีฬาโรงเรียนร่วมกับรุ่นพี่โทโมเอะ มิซึซากิท่าทางระแวงเรย์กะ
Ch.130 มิซึซากิเข้ามาขอโทษเรย์กะที่มีอคติด้วย
Ch.151 มิซึซากิกับประธานโยโกะเปิดศึกกัน สุดท้ายโยโกะชนะ
Ch.152 งานกีฬาโรงเรียน มิซึซากิลงแข่งขี่ม้าส่งเมือง ดูเหมือนนายตัวสำรองจะป๊อปมาก ปรากฏฉายา"รัชทายาท"เป็นครั้งแรก
Ch.153 เรย์กะบ่นเรื่องฉายา"รัชทายาท", มิซึซากิโผล่มาคุยเรื่องอันดับสอบกลางภาคกับวาคาบะ ท่ามกลางสายตาโหดๆของแฟนคลับ
Ch.154 ประชุมงานเทศกาลโรงเรียน
Ch.157 มึสึซากิเข้าใจว่าเรย์กะโดนขู่เข็ญจากพวกอุเมวากะเข้ามาช่วยเหลือ
กูต้องการกาว เลยทำเป็นของบรรณาการ ฮือ ขายกาวกุที
คาบุรากิบทแม่งเยอะอะ กูขี้เกียจจัง...ถ้ากูว่างพออะนะ (ลูกรักลูกชังชิพ 55555555)
แต่ถ้าทำคาบุรากิอีก นี่กูว่ากูจะไปออกแฟนพันธุ์แท้ละ.......
ย้อนดูที่ตัวเองทำมาตั้งแต่สารบัญฟิค กูก็กลัวตัวเองนะเนี่ย กะงานทำไรแบบเน้บ้างมั้ยยย กรี๊ดดดดดดดด
กุคิดพล๊อตเรื่องเล่นๆนะ จากไอ้ฉายาทั้งหลายมันเอามาประกอบกันเป็น ตำนานรักต้องห้ามจอมมารกับจักรพรรดินีได้เลยน้า
จักรพรรดิผู้ครองอาณาจักรเอย องค์รัชทายาทเอย จอมมารเอย วาคาบะจังควรเป็นผู้กล้า นายบ้าหมาเป็นลูกสมุนจักรพรรดินีที่ถูกจอมมารลักพาตัวไป....//กุมาปล่อยความกาวมโนก่อนนอน
กรี๊ดดด ไปนอนแปปเดียวกลับมาฟิคบานเลย แถมมีฟิคนายตัวสำรองด้วย ดีงามมม
ขอบคุณสายผลิตทุกท่านค่ะ หิคทุกท่านสนุกแบะช่วยต่อชีวิตเราได้ดีมาก
>>466-467 กูฟินเรือเอ็นโจวตัวแตก มึงโลกฟิคเรือคาบุรากิอย่างเดียวกลายเป็น ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะได้ไหม ก๊ากกกก //โดนถีบบบ
กูชอบฟิคมึงมากเข้ามานี่ต้องส่องก่อนเลยว่ามึงมายัง 5555555
ตอนนี้กูประทับใจคาบึรากิมาก จนมาเจอตอนจบ ฮ่วยย ปาคอม 5555555555555555555555555 งงต่อไปนะท่านเอ็นโจว
ขอบคุณโม่งแปลสำหรับตอนใหม่
ท่านเรย์กะผู้น่าสงสาร นกแล้วนกอีกจนเพื่อนมีแหนไปหมดแล้วตัวเองก็ยังอยู่บนคาน
ซุยรันนี่แม่งโรงเรียนนกและสตอล์กเกอร์ศึกษาชัดๆ ทำไมมีแต่สตอล์กเกอร์กันเต็มไปหมด55555
ตาสัตว์เซลล์เดียว โอ๊ย คาบุรากิ 5555555555
ตอนนี้ไม่มีส่วนสปอยล์เหรอโม่งแปล~
นี่น้ำชาแอปเปิ้ลชินนาม่อน
https://sifu.unileversolutions.com/image/en-US/recipe-topvisual/2/1260-709/apple-cinnamon-tea-50202275.jpg
นี่หน้ากากละครโนห์ (หลอนเชี่ย!)
https://ae01.alicdn.com/kf/HTB1o9INJFXXXXaNXFXXq6xXFXXX3/-font-b-Japanese-b-font-font-b-Noh-b-font-Buddhism-Carnival-font-b-Mask.jpg
อ้าวอาโออิจังมีแฟนเฉยเบย อยากรู้จังท่านเรย์กะจะจัดการนักเรียนจอมตื้อนั่นยังไง
ว่าแต่ขึ้นรถมาด้วยกันเร๊อะ! เรือคาบุเรย์กะจะรู้สึกยังไงล่ะเนี่ย แต่ท่านเอ็นโจทำดีมากที่ถาม กำลังสงสัยอยู่เชียว คิดว่าจะเป็นปริศยาอีกซะแล้ว
แล้วจะเกิดอะไรขึ้นช่วงพักเที่ยงฟระ!!?
ดูเดิ้ลคาบุรากิเล่นซะหน่อย บากะจริงๆนั่นแหละ ทำวาคาบะเดือดร้อนอีกแล้ว
"ยูริเอะ~~" เห็นเคยบรรยายคำพูดของยุริไว้ว่า มาซายะน้องชายที่น่ารัก
https://drive.google.com/file/d/0B5wqTNdLnv19YWxOMk5YYWNqWnM/view?usp=sharing
>>334-336 มาต่อค่ะ สำหรับคนที่ต้องการความหวาน ขอให้อย่าเพิ่งเติมน้ำตาลจนกว่าจะอ่านจบ ไม่งั้นน้ำตาลในเลือดจะขึ้นสูงนะคะ
ปล. มันเกิดอะไรขึ้นกับฟิคที่ไม่มีทางเกิดขึ้นในความเป็นจริงเนี้ยยยย!!!!~
=========================================================
สุดท้ายฉันก็ไม่ได้ไปเที่ยวกับท่านแม่ ปล่อยให้ท่านพ่อไปแทนฉัน ถึงแม้ว่าพวกท่านจะไม่ค่อยเห็นด้วย แต่ฉันบอกไปว่าอยากให้ท่านทั้งสองคนได้พักด้วย แน่นอนว่าท่านพี่เองก็สนับสนุนเสียงของฉัน ยันกรานหนักแน่นว่าจะดูแลฉันให้เอง เพราะฉะนั้นฉันเลยอยู่บ้าน นอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงค่ะ
ได้ทานอาหารฝีมือท่านพี่ด้วยล่ะค่ะ ฝีมือของท่านพี่ยังอร่อยเหมือนเดิม
จะว่าไปเมื่อวานนี้ท่านพ่อเข้ามาหาฉันเป็นคนแรกที่โรงพยาบาล ท่านพ่อขอโทษที่ทำให้ฉันต้องมาเป็นแบบนี้ ถึงจะงง แต่ก็พอรู้ว่าท่านพ่อโทษตัวเองเรื่องที่ฉันออกมาลำบากเป็นเพราะเขา พอเห็นทานูกิเป็นแบบนี้ทำเอาฉันกลับยิ่งรู้สึกผิดเข้าไปใหญ่เลยค่ะ ทานูกิตัวเล็กลงไปแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันคะ มันไม่ใช่ความผิดของท่านพ่อเลยนี่คะ
ในตอนนั้นฉันไม่สามารถโต้ตอบอะไรกลับไปได้นอกจากคำว่า ‘ไม่ใช่ความผิดของท่านพ่อ’ เท่านั้นค่ะ เหมือนท่านพ่ออยากจะพูดอะไรต่อ แต่ตอนนั้นท่านพี่กับท่านแม่ก็มากันแล้ว พวกท่านก็เลยพาฉันกลับบ้านกันก่อน
เหมือนว่าท่านพี่จะรู้ว่าฉันกังวลเรื่องอะไร ท่านพี่เลยกล่าวกับฉันว่า ถึงแม้ค่ารักษาพยาบาลรอบนี้ทางบ้านเอ็นโจเป็นคนออกให้ แต่ว่าท่านพี่ก็ไม่คิดที่จะเป็นหนี้บุญคุณใคร ยืนยันว่าจะรับแค่คำขอบคุณที่ช่วยพาน้องสาวมาที่โรงพยาบาล และออกค่ารักษาให้เอง พร้อมกับลูบหัวปลอบโยนฉัน ทำเอาฉันรู้สึกใจชื้นขึ้น
ขอบคุณมากค่ะท่านพี่ น้องสัญญาว่าจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับทางนั้นอีกค่ะ ถึงแม้ยูกิโนะคุงจะเป็นโอเอซิสในใจ ก็จะใจแข็งไม่ยุ่งเด็ดขาดค่ะ!
หลังจากวันนั้นฉันก็ใช้ชีวิตวนเวียนอยู่กับงานพิเศษ คุยโทรศัพท์กับพวกเซริกะจังบ้าง คุคิโนะจังบ้าง และก็มีข่าวลือเข้ามาพูดให้ฉันฟังปละปลายว่าคาราบุกิไปพักร้อนที่อังกฤษพร้อมกับเอ็นโจ พอหลุดปากพูดออกมา พวกเธอก็ขอโทษฉันใหญ่เลยค่ะ
แหม นิดๆ หน่อยๆ ก็ไม่เป็นไรมั้งคะ
++++++++++++++++
วันนี้ท่านอิมาริและท่านพี่มาหาฉันที่คาเฟ่พร้อมกับท่านไอระค่ะ ตอนแรกที่ได้เห็นท่านไอระอีกครั้งทำเอาฉันอยากจะร้องไห้ขึ้นมาเลยค่ะ ยังเป็นคุณพี่สาวแสนเท่เหมือนกับที่โลกโน้นเลยค่ะ แถมยังดูเท่กว่าเดิมด้วยซ้ำค่ะ แต่ว่าไปไงมาไงถึงได้มาอยู่กับพวกท่านพี่ได้ล่ะคะ
พอเลียบๆ เคียงๆ ถาม ตอนหลังเลิกงานแล้วก็รู้ว่าท่านไอระนั้นเป็นรุ่นน้องชมรมยิงธนูของท่านพี่ตอนปีหนึ่งค่ะ อยู่ในช่วงที่กำลังจะหาที่ฝึกงานก็ได้ท่านพี่ของฉันช่วยแนะนำบริษัทให้ แล้วก็มาจบลงที่ทำงานกับบริษัทของท่านพ่อท่านอิมาริ แน่นอนว่าเป็นการทำงานหนักโดยไม่สนใจว่าเป็นคุณหนู ในแบบที่ท่านไอระชอบทีเดียว เพราะเธอไม่อยากให้ใครมองเธอว่าเป็นคุณหนูสักเท่าไหร่ แล้วก็เลยสนิทกันค่ะ
เรื่องนี้ทำเอาฉันรู้สึกช็อคนิดหน่อย แต่ท่านไอระบอกกับฉันว่า ท่านพี่พูดกับเธอว่า ‘ในเมื่อเสนอตัวมาแล้วก็ขอใช้งานให้คุ้มกับค่าจ้างนะ’ นั่นแหละค่ะ
หวังว่าคงไม่ใช้งานมากเกินไปนะคะ…
ท่านไอระบอกว่าฉันเปลี่ยนไปมากทีเดียว เธอสารภาพกับฉันว่าตอนแรกเธอไม่ค่อยชอบใจฉันเท่าไหร่นัก ถึงท่านอิมาริจะพูดถึงฉันยังไงก็ไม่อยากจะเชื่อ จนได้เจอตัวฉันเป็นๆ นี่แหละค่ะ
แต่ว่านะคะ พอได้คุยกับท่านไอระ รู้สึกสบายใจจริงๆ ค่ะ น่าจะเป็นเพราะท่านพี่เป็นห่วงฉันล่ะมั้งคะ ถึงได้ชวนท่านไอระมาด้วย
“เรย์กะจัง ไว้วันหลังมาคุยกันใหม่นะ พวกพี่ต้องเข้างานกันแล้วล่ะ” ท่านไอระพูดยิ้มๆ เธอแลกเบอร์และเมล์กับฉันเรียบร้อย หลังจากที่เดินมาส่งฉันที่สถานีรถไฟ ท่านพี่ ท่านอิมาริ และท่านไอระก็นั่งรถกลับไปที่ทำงานต่อ
ดูเหมือนว่าที่แวะมาคาเฟ่ที่ฉันทำงานอยู่ น่าจะเพื่อมารอเวลาคุยงานกับลูกค้าที่อยู่ย่านนี้ค่ะ
อีกอย่างฉันไปขอที่ทำงานพิเศษทั้งมินิมาร์ทและคาเฟ่ไว้ว่าจะเปลี่ยนกะเป็นช่วงหลัง 5 โมงเย็นถึง 3 ทุ่ม แทน เนื่องจากจะเปิดเทอมแล้ว
ถึงแม้จะเปิดเทอมแล้ว แต่ฉันก็ไม่มีทางเลิกทำงานพิเศษหรอกค่ะ ถึงท่านพ่อ ท่านแม่ และท่านพี่จะคัดค้าน ก็ไม่สนหรอก อะไรที่เลี้ยงปากเลี้ยงท้องได้ ต้องเก็บให้หมดค่ะ!
************************
************************
“...อ๊ะ ตัวสำ..ไม่สิ มิซึซากิคุง!”
“เอ๊ะ? หา?”
อุหวาา ผมสีเงินด้วยล่ะค่ะ! ไม่สิต้องพูดว่าที่ออกเงินๆเวลาโดนแสงมากกว่าค่ะ ตอนนี้นายตัวสำรองมองฉันแปลกๆ ด้วยล่ะค่ะ ไม่สิ ในตอนนี้เขาไม่ใช่คนที่ฉันรู้จักนี่นา ต้องขอโทษแล้วล่ะ
“ขอโทษค่ะ ที่เสียมารยาททักไปอย่างนั้น”
“อ่า ไม่เป็นไร”
ฉันมองใบหน้าตกตะลึงของนายตัวสำรอง ที่คิดว่าน่าจะจำได้แล้วว่าฉันคือ คิโชวอิน เรย์กะ เหมือนได้ยินพึมำพว่าเมดๆ ไรสักอย่าง ฉันจะทำหูทวนลมไปนะคะ
“จะนำทางไปที่โต๊ะนะคะ” ฉันพูดพลางเดินนำนายตัวสำรองที่เดินตามฉันมาในสภาพแข็งทื่อ
“ขออภัยอีกครั้งค่ะ เอ่อ แล้วคุณลูกค้าจะรับอะไรดีคะ?” พูดจบก็ส่งยิ้มให้ พลางรอรับออเดอร์ตามปกติ
“หา?”
ตกใจอะไรขนาดนั้นคะ ฉันแค่ทำงานเลี้ยงปากเลี้ยงท้องตัวเองอยู่เท่านั้นเองค่ะ ฉันยกยิ้มให้เขาอีกครั้ง
“เธอ...เอ่อ คุณคิโชวอิน เรย์กะ?”
“ค่ะ”
“ทำงานพิเศษ?”
“ใช่แล้วล่ะค่ะ จะรับอะไรดีคะ?”
“...ละ เลม่อนโซดา กับฮันนีโทส”
“เลม่อนโซดากับฮันนีโทสนะคะ อีกสิบนาทีของที่สั่งไว้จะมาเสิร์ฟที่โต๊ะนะคะ คุณลูกค้า”
“อะอื้อ”
เหมือนนายตัวสำรองจะทำหน้าแปลกๆ แต่จะว่าไปแล้วเลม่อนโซดากับฮันนีโทสนี่กินด้วยกันมันไม่รู้สึกแปลกๆ เหรอคะ?
พอเสิร์ฟชุดของหวานให้นายตัวสำรองเสร็จ ก็ทำงานต่อค่ะ
ประมาณสิบนาทีหลังจากนั้นฉันก็ได้เวลาเลิกกะพอดี ฉันบอกลาเจ้าของร้าน และพนักงานคนอื่นๆ แล้วเดินออกจากร้านไป ดูเหมือนนายตัวสำรองกำลังนั่งจดจ่อกับหนังสือสอบ ขยันจังเลยค่ะ
*************************************************
เช้าวันไปโรงเรียนฉันไม่ได้ม้วนผมไป แต่ปล่อยให้ผมยาวเรียบตรงเหมือนเดิม เพราะพอลองม้วนแล้วดูเหมือนผมจะยิ่งเสียเข้าไปใหญ่เลยค่ะ แย่จังเลยน้า~
เพราะว่าสถานีรถไฟคนจะแน่นมาก ฉันเลยเผื่อเวลาไปโรงเรียนเช้าหน่อย จะได้ไม่ต้องไปเบียดกับใครเค้าค่ะ
อีกอย่างฉันไม่อยากให้ใครมามองตอนเข้าโรงเรียนด้วยค่ะ ลองนึกภาพมีคนมองมาแบบเกลียดชังดูสิคะ แค่คิดก็สยดสยองแล้วล่ะค่ะ ฮือ…
แต่ดูเหมือนฉันจะคิดตื้นๆ ไปสินะคะ แค่เปิดตู้รองเท้าเพื่อหยิบรองเท้าออกมา ก็เห็นว่าในรองเท้านั้นเต็มไปขี้ดินแห้งๆ แถมเหม็นด้วย ท่าทางว่าจะทำไว้ก่อนที่จะปิดเทอมฤดูร้อนแล้ว แย่จังเลย ไม่มีรองเท้าสำรองด้วย
…ช่วยไม่ได้นะ
ฉันใช้ทิชชู่ค่อยๆหยิบรองเท้าที่เปื้อนไปด้วยดินทั้งคู่ออกมา แล้วเดินไปยังก๊อกน้ำ ใช้แฟ๊บที่วางอยู่ตรงนั้นเอาออกมาซักรองเท้า ขัดๆ มันไปเรื่อยๆ ถึงจะมีที่ขัดรองเท้าอยู่ด้วย แต่มือที่ไม่เคยสัมผัสกับสารเคมีแรงๆ แบบนี้ทำให้ถูกแฟ็บกัดจนเป็นรอยแดงกล่ำ แถมคันยุบยิบ สงสัยหลังจากทำความสะอาดรองเท้าเสร็จคงต้องไปขอพาสเตอร์จากห้องพยาบาลมาแล้วล่ะ
ในตอนนั้นเองก็สังเกตเห็นใครคนหนึ่งกำลังจะเดินมาตรงนี้
ผมสีเงินที่สะท้อนแสงแดด ทำให้ดูแปลกตา แต่ว่าใบหน้านั้นเป็นใบหน้าของนายตัวสำรองแน่ๆ ค่ะ เพียงแต่ว่าเขาคงจะไม่สนใจคนที่กลั่นแกล้งคนที่เขารักแบบฉันหรอกค่ะ ฉันเลยก้มหน้าก้มตาเอาแฟ๊บในมือขัดรองเท้าต่อไปโดยไม่สนใจใคร
“...ทำอะไรน่ะ”
“...!”
ไม่คิดว่าคนอย่างนายตัวสำรองจะมาถามฉันด้วย ฉันเงยหน้าขึ้น มองนายตัวสำรองที่มองของในมือฉันแล้วขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ
“รองเท้าเปื้อนเลยเอามาซักน่ะค่ะ มิซึซากิคุง”
“เธอโดนแกล้งเหรอ?”
พอถูกถามตรงๆ แบบนั้นฉันก็เม้มปากแน่น ไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่ขัดรองเท้าอีกครั้ง อื๋อ เริ่มขาวขึ้นนิดนึงแล้วล่ะ
“เป็นเพราะกรรมตามสนองน่ะค่ะ” ฉันกล่าวกับนายตัวสำรอง “...แต่ว่าเป็นอย่างนี้ก็ดีเหมือนกันค่ะ” แล้วเค้นยิ้มให้
“รองเท้านั่นน่ะ น่าจะใช้ไม่ได้แล้วนะ ตามมาสิจะเอารองเท้าในห้องกรรมการนักเรียนให้ยืมก่อน”
“เอ๋? แต่ว่านั่นมัน…”
“ฉันปล่อยให้มีคนใส่ถุงเท้าเดินไปมาไม่ได้หรอกนะ”
“เอ่อ เดี๋ยวค่ะ คุณมิซึซากิ”
“มีอะไร?”
“ถึงฉันจะแกล้งคนที่คุณรัก คุณก็ช่วยฉันรึคะ? ทำไม?”
“...เพราะเธอเป็นนักเรียนของซุยรัน และฉันมีหน้าที่ต้องดูแลนักเรียนของซุยรันทุกคน ไม้เว้นแต่คนที่ถูกไล่ออกจากPivoine ก็ด้วยเหมือนกัน” นายตัวสำรองพูดด้วยน้ำเสียงไม่ยินดียินร้าย ทำเอารู้สึกซ้อนทับกับนายตัวสำรองในโลกของฉันเลยค่ะ ไม่ว่ายังไงก็มีทัศนคติเหมือนกันสินะคะ ดูน่านับถือจังเลยค่ะ
ช่างดีเหลือเกิน
“ถ้างั้น ฉันขอรบกวนด้วยนะคะ มิซึซากิคุง”
“อื้ม”
ฉันเดินตามนายตัวสำรองเข้าไปเอารองเท้า แต่ดูเหมือนว่าจะมีเบอร์ใหญ่กว่าขนาดของฉันเยอะเลยค่ะ
“เอาของฉันไปใส่ซะ”
“เอ๋ แต่มัน” ไม่รู้ว่าเพราะอะไรมิซึซากิคุงถึงได้เอารองเท้าของเขาให้ฉัน ถึงจะพูดแบบนั้น แต่ว่ารองเท้าของเขามันก็ใหญ่เหมือนกันนะคะ
“อันอื่นมันเบอร์ใหญ่กว่า เธอใส่ไม่ได้”
“ถะ...ถ้างั้นตอนเย็นฉันจะเอามาคืนให้นะคะ”
“อื้อ”
“ขอบคุณค่ะ มิซึซากิคุง” ฉันยิ้มให้อีกหนด้วยท่าทีขัดเขิน ไม่คิดว่านายตัวสำรองจะเท่ขนาดนี้ด้วยล่ะค่ะ
แต่เอ...ทำไมหันหน้าเมินหน้าหนีเสียล่ะคะ?
“เอ่อ...มิซึซากิคุง?”
“ไม่มีอะไรแล้วก็กลับห้องไปเถอะ”
อ่าค่ะ ถ้าไล่ขนาดนั้นล่ะก็… ฉันมองนายตัวสำรองอย่างไม่เข้าใจ แต่ก็เดินออกไปทั้งที่ใส่รองเท้าของเขา แต่ว่าดันมีชื่อของนายตัวสำรองติดอยู่ด้วย
หวา~ หวา~ อันตราย รีบไปหาที่ตากรองเท้าให้แห้ง แล้วรีบเอาไปคืนดีกว่า
จริงสิ! ผมแบบนั้นไม่ผิดกฏโรงเรียนหรอกเหรอคะ?
ไม่สิ มีเอ็นโจแหกกฏอยู่ด้วยนี่นา คงไม่เป็นไรล่ะมั้ง แต่ว่าผมสีเงินแบบนี้ก็ดูเทีดีนะคะ~ ทำเอาใจเต้นตึกตักไปวูบนึงเลยล่ะค่ะ
ฉันใส่รองเท้าของนายตัวสำรองอย่างเก้ๆ กังๆ ยังไงก็ใหญ่ไปอยู่ดีนั้นแหละ ทำให้เดินเหมือนกับการลากเท้า ยังดีที่ไม่มีใครเห็น เข้าห้องพยาบาล ทายาแก้ผื่นคัน แล้วติดพาสเตอร์ตรงที่เริ่มถลอกเพราะโดนกัดเยอะไว้ แล้วรีบเดินเร็วๆ ไปที่ห้อง
ที่นั่งของฉันในความทรงจำนั้นได้นั่งติดหน้าต่างพอดิบพอดี ข้างหน้าก็เป็นที่นั่งของหัวหน้าห้อง จะว่าไปความรักของหัวหน้าห้องกับคุณฮอนดะเป็นยังไงบ้างนะ? โลกนี้จะได้คู่กันรึเปล่าคะเนี้ย?
ฉันนั่งหัวเราะคิกคัก คิดอย่างสนุกสนาน ในเวลาเช้าอย่างนี้ไม่มีคนอยู่นี่สบายใจจังเลยค่ะ แผนที่ฉันคิดไว้ก็คือจะต้องสนิทกับเพื่อนๆ ให้ได้เลยค่ะ!
ฉันทวนการบ้านไปเรื่อยๆ อย่างใจเย็น ไปพักใหญ่ จนกระทั่งได้ยินเสียงกรี๊ดจากหน้าประตูโรงเรียน พอมองออกไปก็เห็นรถหรูที่คุ้นตา และคนที่กำลังมาจากรถนั้นคือคาราบุกิ กับ เอ...วาคาบะจัง!
ถึงขั้นมาโรงเรียนด้วยกัน แล้ววาคาบะจังไม่ได้ทำสีหน้าไม่สบาย แต่กลับยิ้มแย้มแบบนั้น ถือว่าก้าวหน้าขึ้นเยอะเลยนะคะเนี้ย อยากให้คาราบุกิโลกโน้นเป็นสุภาพบุรุษแบบในโลกนี้จังเลยค่ะ ถึงภาพลักษณ์ภายนอกจะดูดี แต่ว่าข้างในมันกลวงเปล่ามีแต่ความบ้าเต็มขั้นซะอย่างนั้นนี่นะ
ถ้าคาราบุกิในโลกนี้ไม่เป็นแบบคาราบุกิในโลกของฉันก็ดีสิคะ! ไม่อย่างนั้นแฟนการ์ตูนเรื่องนี้ได้อกแตกตายแน่ๆ ค่ะ แต่ถึงจะพูดอย่างนั้นอย่างนี้ก็เถอะ แต่ฉันคงจะต้องหลีกเลี่ยงไม่ไปยุ่งกับสองคนนั้นเด็ดขาดเลย ไม่อย่างนั้นเอ็นโจได้หาทางเล่นงานฉันแน่ๆ
พอเผลอคิดชื่อเอ็นโจก็รู้สึกหดหู่อย่างบอกไม่ถูกเลย อุสาห์ไม่คิดถึงแล้วเชียวนะ เฮ้อ…
วันนี้พอทักพอส่งเสียงทักหัวหน้าห้องไปว่า ‘อรุณสวัสดิ์ค่ะ’ หัวหน้าห้องก็ตัวแข็งทื่อ ปฏิกิริยาแบบนี้นี่มันตลกดีจังค่ะ เหมือนนายตัวสำรองเลย
วันนี้ฉันพยายามที่จะไม่ขยับตัวไปไหนทั้งสิ้นนอกจากอยู่ที่โต๊ะเรียน และจะไปเข้าห้องน้ำหลังที่ทุกคนกลับมาในห้องหมดแล้วเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกกลั่นแกล้ง อีกอย่างนึง พวกคิคุโนะจังก็เข้ามาคุยเล่นกับฉันด้วย ทำให้ใจชื้นขึ้นมาหน่อยเลยค่ะ
พอพักคาบช่วงบ่ายคิดว่าคงจะไม่มีอะไรแล้วสำหรับการเปิดเรียนวันแรก ฉันตระเตรียมเก็บหนังสือใส่กระเป๋า เพราะคาบสุดท้ายเป็นคาบวาดรูปสบายๆ ไม่น่าจะมีอะไรมากนัก
เพียงแต่อยู่ๆ เสียงกรีดร้องก็ดังขึ้นมา ทำให้ฉันเงยหน้าขึ้นมองไปที่ตรงประตูโดยอัตโนมัติ เห็นเส้นผมสีน้ำผึ้งฮันนี่สะดุดตา ใบหน้ายิ้มแย้มสุภาพยังคงติดอยู่เป็นเอกลักษณ์ของชายหนุ่มที่ขึ้นชื่อว่าเป็นองค์ชายของโรงเรียนซุยรัน ทำเอาฉันชะงักมือที่เตรียมจะหยิบสมุดวาดภาพกึก มองคนคนนั้นเดินเข้ามาถึงที่โต๊ะ
“คุณคิโชวอิน ขอเวลาหน่อยสิ” ใบหน้ายิ้มแย้มที่เป็นเหมือนกับหน้ากากฉาบหน้าพูดขึ้น น้ำเสียงทุ้มต่ำที่ทำเอาฉันพูดไม่ออก
คงเป็นเพราะตั้งแต่วันนั้นฉันไม่ได้เจอทั้งเขา และก็ยูกิโนะคุงเลย ถึงแม้ยูกิโนะคุงจะส่งเมล์มาชวนออกไปเล่นด้วย แต่ฉันก็ปฏิเสธหมดเลย จนกระทั่งถึงวันนี้
“ค่ะ ท่านเอ็นโจ” ฉันว่าเบาๆ พอเงยหน้าสบก็เห็นว่าเขามองมือของฉันอยู่ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรค่ะ
ระหว่างที่เดินตามเอ็นโจออกจากห้องเหมือนกับถูกจอมมารสูบวิญญาณออกจากร่าง ฉันเผลอไปทำอะไรไม่ดีอีกรึเปล่าคะ? จะว่าไปก็ไม่ได้ไปยุ่งแล้วนี่นา… ปฏิเสธหมดทุกช่องทางด้วยนี่คะ!
ถึงแม้จะได้ยินคำพูดเสียดสีของพวกผู้หญิงทำนองว่า ‘ทำไมท่านเอ็นโจมากับแม่นั่นได้’ อะไรเทือกนั้น แค่ปรายตาไปคำพูดพวกนั้นก็หยุดไปโดยปริยาย ฉันไม่ใช้อำนาจอะไรเลยนะคะ แค่มองพวกปลาซิ่วปลาสร้อยเท่านั้นเอง
การเดินโดยพยายามใช้รองเท้านายตัวสำรองนี่ไม่สะดวกเลย เป็นเพราะหลวมทั้งต้องคอยหนีบเอาไว้ การเดินเลยเกร็งไปด้วยความที่ไม่อยากให้สะดุด แต่อยู่ๆ เอ็นโจก็หยุดเดินระหว่างขั้นบันได ทำให้ฉันที่ก้าวขาไปแล้วถึงกับเสียการทรงตัว
“...อะ”
กรี๊ด นี่ฉันจะตกบันไดอีกแล้วเรอะ…
ฉันหลับตาแน่น มือขวานหาที่เกาะโดยอัตโนมัติอย่างไม่รู้สึกตัวถึงระบบป้องกันตัวของร่างกาย ในหูได้ยินเสียงดังผลัก แต่ทว่าฉันกลับไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น ทั้งที่น่าจะเจ็บ แต่ทำไมรู้สึกได้ถึงสัมผัสที่นุ่มละมุนตรงริมฝีปากล่ะ? แล้วกลิ่นหอมสะอาดนี่มาจากไหนกันคะ พอลืมตาขึ้นมองกลับพบกับนัยน์ตาอีกคู่ที่สั่นระริกอยู่ใต้ร่างของฉัน ในตอนที่กำลังจะผละออก ก่อนที่จะได้คิดอะไร คนที่อยู่ใต้ร่างฉันกลับจับหัวของฉันกลับไปสัมผัสอีก
อื๋อ เดี๋ยวก่อนค่ะ นี่มันอะไรกันคะ!? ได้โปรดขอเวลานอกให้ฉันประมวลผลด้วยเถอะค่ะ! แต่เหมือนกับคนคนนั้นจะไม่รับรู้นอกจากจูบที่หนักแน่นที่แม้เขาจะพยุงตัวฉันลุกขึ้นแล้ว แต่ก็ไม่หยุดที่จะรุกไร้คืบคลานเข้ามาต่อ จนหลังของฉันถูกดันติดกับกำแพง
มือทั้งสองข้างของเขาแนบกับแก้มของฉันอย่างทนุถนอม นัยน์ตาคู่นั้นไม่ได้มีแววชิงชัง เย็นชาหรืออะไรเลย ทำเอาหัวใจพาลรู้สึกเต้นแปลกประหลาด
“เปิดปากสิ”
“เอ๋... อื๋อ!” ไม่ทันให้ตั้งตัว เอ็นโจก็โน้มหน้าเข้ามา เหมือนมีอะไรเข้ามาในปากด้วย ลิ้นเรอะคะ! หยุดก่อนสิ นี่นายไปเรียนการจูบแบบนี้มาจากไหนกันคะ?!
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่ รู้สึกตัวอีกทีก็เป็นตอนที่หายใจหอบแฮ่กๆ และเจอกับนัยน์ตาคู่นั้นที่มองมาอย่างสับสนเท่านั้น มันอะไรกัน
“...อึก...ท่านเอ็นโจ?”
“ติดกระดุมซะ”
“เอ๊ะ?” พอก้มลงไปมองก็พบว่ากระดุมเสื้อถูกปลดไปสองเม็ด เหมือนมีอะไรแดงจางๆ อยู่ตรงเนินไหปลาร้า แค่นั้นฉันก็ยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาปิด เดี๋ยวค่ะ นี่นายคิดจะทำอะไรกับฉันกันแน่!?????
“ขอโทษที ผมวู่วามเกินไปหน่อย” ไม่เรียกว่าหน่อยแล้ว เก็บคำขอโทษไปเลยค่ะ! อย่างน้อยก็ยังดีที่คิดเป็นสุภาพบุรุษปลดเสื้อสูทมาให้ฉันที่ขวัญผวาคลุม
ฉันมองเอ็นโจที่นั่งจ้องหน้าฉัน เหมือนเขาอ้าปากจะพูดอะไรแต่ก็ไม่ได้พูด แล้วลุกขึ้นยืนพร้อมกับส่งมือมา
“สภาพนี้คงกลับห้องไม่ได้แล้ว ไปที่อื่นเถอะ”
“อะ ค่ะ”
ฉันลุกขึ้น แต่ไม่รับน้ำใจที่หยิบยื่นมาให้ มองหารองเท้านายตัวสำรอง ข้างที่กระเด็นไปตอนตกบันไดมาสวม ขืนหายไปล่ะก็ นายตัวสำรองได้ฆ่าฉันแน่
“ทำไมถึงเอารองเท้าของประธานมาใส่ได้?”
“คะ?”
“รองเท้าที่คุณสวม”
“อ๋อ พอดีว่ารองเท้าดิฉันสกปรกน่ะคะ มิซึซากิคุงที่ผ่านมาเห็นพอดีเลยกรุณาให้ยืมใส่วันนึงน่ะค่ะ” ฉันตอบออกไปตามความจริง เหมือนได้ยินเอ็นโจพึมพำว่า อะไรคุงๆ แต่คงคิดไปเองสินะคะ
“ท่านเอ็นโจมีเรื่องอะไรหรือคะ” แม้ว่าจะเพิ่งผ่านเหตุการณ์ขวัญผวา แต่ฉันก็แสร้งทำเป็นใจกล้า ปิดบังความสับสนของตัวเอง ถามออกไป
“ยูกิโนะ ฝากมาให้ แล้วก็ถ้าเป็นเรื่องยูกิโนะจะไปหาก็ได้ ผมไม่ได้ว่าอะไร”
“ค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะ ท่านเอ็นโจ”
“แล้วก็ เอารองเท้าไปคืนซะ” พูดขึ้นเร็วๆ แล้วก็รีบเดินจากไปเหมือนกับไม่มีอะไร ส่วนฉันได้แต่ยื่นนิ่งค้างไปนานสองนาน กว่าจะรู้สึกตัวแล้วเอามือแตะที่ริมฝีปาก สัมผัสนั้นยังคงอยู่เลย
********************************************
มันเกิดอะไรขึ้นกับกู กูต้องการความหวานในนิยายมากใช่ไหมเนี้ย ถึงได้เขียนออกมาแบบนี้ ฮือๆ
เดี๋ยวเรือเอ็นโจจะน้อยใจ เลยแวะมาแปะ
ดูเดิ้ลอย่างรวดเร็ว พยายามประมวลผลภาพจอมมารยิ้ม แต่ก็ยังไม่ใช่แฮะ
https://drive.google.com/file/d/0B5wqTNdLnv19dmhtZ21QMHZpd2M/view?usp=sharing
ดิบตอนใหม่มาแล้ววว โคดอยากอ่านแต่ไม่กล้าดำน้ำกลางออฟฟิศ ลงแดงงงง ใครสปอยมาที
>>507 ตอน 275 ใช่มั้ยยยยย มาแล้ววววววว เล่าสั้นๆ ปนสปอยล์ดังนี้
.
.
.
.
.
.
เรื่องไปถึงวันปิดภาคเรียนเทอม 1 ของม.6 แล้ว ที่ Pivoine ก็มีงานเลี้ยงปิดภาคเรียน เรย์กะนางบ่นๆ ว่าทำให้นางอดไปเที่ยวกับเพื่อน แต่ก็ต้องไป ระหว่างทางก็เจอคาบุรากิกับเอ็นโจออกมายืนหล่อนิดหน่อย (อันนี้กูแอบขำ ไม่มีบทพูดอะไรเลย ออกมายืนเป็นประกายปิ๊งแว้บอย่างเดียวจริงๆ)
พอไปถึงห้องสโมสรก็ไปนั่งร่วมโต๊ะกับท่านซาราระกับท่านฟุยุโกะ แดกเอแคลร์ พอไปตักอาหาร นางก็คิดได้ว่า เฮ้อ อยากไปงานดูดอกไม้ไฟ แต่จริงๆ คืออยากไปเดินแดกร้านแผงลอยข้างทาง เลยหยิบมือถือขึ้นมาจิ้มๆ ดูข้อมูล แล้วก็มีเสียงคนทักมาจากข้างหลังว่า "จะไปเที่ยวเหรอ" ทำให้นางสะดุ้งหันหลังไป.... ตัดจบ!
สาธุ ขอให้เป็นเอ็นโจ! ขอให้เป็นเอ็นโจ! ขอให้เป็นเอ็นโจ!
ว่าแต่ท่านเรย์กะ เหลืออีกเทอมเดียวจะเรียนจบแล้วนะเฮ้ย เดทในชุดเครื่องแบบน่ะจะทันไหม รีบๆ หาแฟนเข้าซะทีสิเฟร้ยยยยยยย
คนที่น่าจะมาสนใจเรื่องท่านเรย์กะ ที่เป็นไปได้ที่สุดก็เอ็นโจล่ะนะ
ถ้าไปงานเทศกาลดูดอกไม้ไฟด้วยกันสองคน ก็ถือว่าเปิดตัวพระเอกแล้วล่ะ
//นั่งมองจากเรือลำอื่น
ขอให้เป็นเอ็นโจวววววววววววววววว กูตัดคาบุรากิไป นางคงไม่ถามหรอกว่าจะไปเที่ยวเหรอตามมารยาท นางต้องเข้าประเด็นไรสักอย่างที่เรย์กะอ่านอยู่ทันที 555555555555555555 แต่อาจเป็นคนอื่นได้เหมือนกัน แต่กูลุ้นเอ็นโจวววว ปิดเทอมหนึ่งแล้วเรย์กะ ฤดูใบไม้ผลิของเธออยู๋ไหนนนน
ท่านเอ็นโจแน่นอน
ถ้าเป็นบากะรากิต้องทักว่าจะไปเก็บนักษัตรที่นั่นรึ
>>524 กุก็สงสัยอยู่ ม.6ละ พวกมันไม่สนใจมหาลัยกันบ้างหรอวะ 55555
ไปมหาลัยจะได้เจอกับพวกตัวละครปัจจุบันหรอวะ เช่นเอ็นโจ คาบุรากิ อาริมะ
แบบมหาลัยญี่ปุ่นมันมีกี่คณะล่ะวะ คงไม่ใช่ว่าจะได้เข้าคณะเดียวกันหมดนะ
แล้วไหนจะวาคาบะ รู้สึกจะเป็นนักเรียนในระบบพิเศษของซุยรันนะ โควต้ามันหมดช่วงม.ปลายปะวะ
นึกว่าจะม.6เป็นร้อยๆตอนซะอีกแบบยาวไปจนตอน300งี้
>>526 ถ้าเฉลยพระเอกเร็วจะไม่กร่อยหรอวะ แต่ดูๆแล้วเอ็นโจนำมาไกลมากอะ
ปกติคนที่ทักอย่างนี้ก็มีแต่เอ็นโจอะะะะ แต่ไม่อยากหวังมากเลยกลัวโดนฮิโยโกะซามะตบหัวทิ่ม TT
อยากรู้คนอื่นที่มีโอกาสทักเรย์กะแบบนี้มีใครบ้างนอกจากเอ็นโจ อยากเผื่อใจไว้อะ ._.
รอคอยอีเว้นท์งานเทศกาลโรงเรียนที่เปรยๆไว้อะ เมื่อไหร่จะมา คิดว่าน่าจะต้องมีช็อตเด็ดแน่ๆ
แต่ตอนนี้คงต้องมาลุ้นกันว่าช่วงปิดเทอมหน้าร้อนนี้จะมีเหตุการณ์อะไรบ้าง ถ้าตอนหน้าเป็นเอ็นโจ จะมีอีเว้นท์งานดอกไม้ไฟมั้ยนะ
แล้วตอนก่อนหน้านั้นมียูกิโนะปูทางว่าอยากให้มาเที่ยวที่บ้านละ อาจจะมีอีเว้นท์ปะทะกะคุณ"ว่าที่"ก็ได้ซินะ
อีเว้นท์ช่วงปิดเทอมก็มีมาแต่ก่อนก็อีเว้นท์งานปาร์ตี้ฤดูร้อน, โปรแกรมไดเอท?, ปีนี้จะมีหิ่งห้อยอีกมั้ย งวดนี้อย่าให้แค่ตัวเดียวนะเอ็นโจ ต้องจัดงานแบบเฉพาะสองเราไปเลย! ถถถถ
แต่สำคัญสุดอาจจะเป็นตอนพิธีจบการศึกษาเลยก็ได้ เหมือนเป็นอีเว้นท์บังคับที่มีมาตลอด เรย์กะก็เคยคร่ำครวญว่าอยากมีคนมาสารภาพรักในวันนั้นนะ...
ภาษาญี่ปุ่นนี่มันมีคำลงท้ายหรือรูปประโยคแบบสุภาพไหมอะ
จะได้ดูจากคำพูด จะไปเที่ยวหรอ ปิดท้ายนั่นน่ะ
ถ้าห้วนๆก็คาบุ ถ้าสุภาพหน่อยก็เอ็นโจ
คาบุรากิ เป็นสัตว์เลี้ยงก็ดี เป็นน้องหมาก็ดี เป็นลูกชายก็ดี เป็นน้องชายก็ดี เป็นจักรพรรดิก็ดี
แต่ถ้าเป็นแฟนนี่... จุดที่ต้องปรับปรุงคือ เรื่องอารมณ์และความหึงหวงว่ะ มันเล่นอัดคนที่มาสารภาพรักยูริเอะจนสลบ(หรืออ่วม)ตั้งแต่มันอยู่ป.4เลยนะโว้ย
ไปอ่านดิบมาละ เมนชั่นถึงซัมเมอร์ปาร์ตี้ซักที ปีนี้คาดหวังไว้สูง อยากได้อีเว้นท์แรงๆเขย่าความสัมพันธ์กันหน่อย ปีนี้วาคาบะจังน่าจะมาด้วยสินะ เพราะในคิมิดอลมีฉากซัมเมอร์ปาร์ตี้อยู่ ทำยังไงถึงได้ไปอยากรู้มาก
ส่วนท้ายตอนนี่ดูจากรูปประโยคแล้วอาจจะเป็นเอ็นโจก็ได้ เพราะปกติเอ็นโจชอบใช้รูปกันเอง+คำสร้อย สูดกาวแรงมาก เค้าจะไปเที่ยวด้วยกันใช่มั้ยคะ!!!!!
>>529 สปอยนิดนึงนะ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
มีช่วงที่เรย์กะเคยกังวลเรื่องอนาคตนะ ถึงขั้นไปปรึกษาท่านพี่ว่าถ้าเข้ามหาลัยซุยรันแล้วเกิดเหตุสุดวิสัยจะมีตังค์จ่ายค่าเทอมมั้ย555555555555555555
แต่ท่านพี่ก็สมเปนซิสค่อนค่ะ ตอบว่าถึงบ้านเราจะล้มละลายแต่พี่มีเงินเก็บไว้พอสำหรับค่าเทอมน้องอยู่แล้วล่ะ
เรย์กะมันก็คิดว่าตังไม่พอ มันก็จะไปต่อมหาลัยข้างนอกไม่ใช่เหรอ
ซุยรันมีมหาลัย ตอน 105 เรย์กะพูดถึงว่ารุ่นพี่โทโมเอะติดคณะที่อยากเข้า แล้วก็เป็นการเลื่อนขั้นภายใน
จะว่าไปซุยรันนี่ก็คล้ายๆม.เคโอสินะ
ปล. กูโม่งสารบัญเอ็นโจเอง ที่มีคนบอกจะเลิกทำสารบัญคาบุรากิอะ มีใครทำอยู่มั้ย บอกกูด้วยนะ ถ้าไม่มีเดี๋ยวกูทำ
หลังๆคาบุรากิเริ่มเต๊าะวาคาบะจัง ถึงขั้นมาส่งด้วยรถแล้ว
กุเลยคิดว่าถ้าเป็นบากะรากิ อาจจะเกิดอีเว้นต์แบบนี้ก็ได้
แต่ก็นะ อย่างบากะรากิแล้วอาจจะแค่จ้องวาคาบะจังมากกว่า..
https://twitter.com/jsmtjyygyjbbjb/status/837186706608549888
>>496-499 ฟินข่าาาาาา ฟิคมึงเยียวยากูมากกกกกก ขอบคุณมมกน้าน้ำตาจิไหล อยากเห็นโมเม้นท์โป๊ะโป๊ะใน อฟช. กูหวังสูงไปมั้ย 5555555
>>500 ภาพสวยยยยย ให้ออร่าจอมมารมั่กกก
ปล. ลุ้นอฟช. กันต่อปายยยยย 55555 รอโมเม้นโดขิ ๆ แต่กุยอมแล้วท่านเรย์กะอยู่กะอะไรก็อร่อยกูฟินได้ทุกคู่จีจี เรื่องนี้ทำให้กูไม่เกี่ยงสาย ไม่ว่านอมอล วาย ลิลลี่ไรก็แล้วแต่แค่ท่านเรย์กะกูทำลายคานได้กูก็ฟินนนนนน 555555
>>558 เมื่อเช้ากูทำไปแค่นี้ https://justpaste.it/1425d และนี่กูเพิ่งได้งานมา3กอง คงไม่ได้ทำต่อละ...
โอย วันนี้กาวแรงมากค่ะ ปลื้ม ขอกาวอีกเยอะๆ
กาว....
เมื่อเจ้าร้องขอกาว เจ้าก็จะได้กาว >>>/webnovel/3451/421-423
คริสต์มาสเดทแจ้
-------------------
เพราะเห็นว่าฉันขาเจ็บอยู่นิดหน่อยจากการเต้นรำเมื่อวาน สถานที่ที่ต้องเดินเยอะๆแบบสวนสนุกหรือพิพิธภัณฑ์ใหญ่ๆทั้งหลายก็เป็นอันต้องตัดออกไป สุดท้ายก็ลงตัวที่ท้องฟ้าจำลองและดูหนัง เพราะไม่ต้องขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวตัวมาก นั่งดูกันอย่างเดียว
หลังจากไปทานอาหารเช้ากันมา ฉันกับเอ็นโจก็มายืนมองบิลบอร์ดหน้าโรงหนัง ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสแบบนี้แท้ๆ ดันมีแต่หนังรักกับหนังผีเนี่ยนะ หนังแฟนตาซี หนังแอ็คชั่นไปไหนหมดล่ะ หา!! เอาไปฉายตั้งรอบเย็นเลยเหรอ ไม่คิดเผื่อว่าคนเขาอยากดูรอบเช้ารึไง
เอ็นโจเหล่มองโปสเตอร์หนังผีแล้วก็มองฉัน รู้นะยะว่าคิดอะไรอยู่ อยากดูก็ดูไปคนเดียวสิ
ไม่มีทางเลือก ก็เลยต้องดูหนังรักกันไปโดยปริยาย
เอ็นโจเลี้ยงตั๋วหนัง ฉันก็เลยซื้อป็อบคอร์นให้เป็นการตอบแทน ว่าไปก็ตื่นเต้นนะคะ เพราะฉันก็ไม่ได้เข้าโรงหนังมานานมากแล้ว คิดถึงบรรยากาศแบบนี้จัง คิดถึงป็อบคอร์นกับน้ำอัดลมด้วย อร่อยสุดๆไปเลยล่ะค่ะ
ฉันเหล่มองเอ็นโจที่กำลังหยิบป็อบคอร์นเข้าปาก ทีแรกนึกว่าจะปฏิเสธไม่กินของถูกๆแบบนี้เสียอีก แล้วน้ำอัดลมอีก หมอนี่เพิ่งจะเคยกินรึเปล่า จะท้องเสียมั้ยนะ
พอรู้ว่าฉันมอง เอ็นโจก็หันมายิ้มให้ ฉันรีบเพ่งความสนใจไปที่จอหนังต่อ
หนังเป็นหนังย้อนยุคไปสมัยโชวะ คิจูอิน เรย์นะ คุณหนูที่ฐานะทางบ้านกำลังย่ำแย่ แต่ได้นิโจ ชูจิ มหาเศรษฐีหนุ่มรูปงามได้เข้ามาช่วยเหลือโดยมีเงื่อนไขว่าเธอต้องแต่งงานกับเขา แต่ละวันผ่านไปด้วยความอลเวงอลหม่านปนกุ๊กกิ๊กตามสไตล์หนังเลิฟคอมเมดี้
นั่งดูไปจนถึงกลางเรื่อง จากเลิฟคอมเมดี้ อยู่ๆหนังเรื่องนี้ก็หักมุมเป็นดราม่าเฉยเลยค่ะ
อะไรกันคะเนี่ย ต้นเรื่องพระเอกยังจีบนางเอกน่ารักๆอยู่เลยไม่ใช่เหรอ แล้วยัยนางเอกทำไมมัวแต่ใจแข็งอยู่ได้ล่ะยะ! คุณชูจิเขาตกหลุมรักเธอเข้าเต็มเปาขนาดนี้ยังจะมัวซื่อบื้อหวาดระแวง คิดว่าเขาทำให้บ้านเธอเป็นแบบนี้ตามที่ตัวร้ายเป่าหูอยู่ได้
ฉันดูไปขัดใจไปสุดๆ จ้วงป็อบคอร์นเข้าปากรัวๆอย่างนึกโมโห
โอ๊ยยย!! สายตาของคุณชูจิเศร้าขนาดนี้ เธอมองไม่เห็นความดีเขาเลยเหรอยะ!!! ทนไม่ไหวแล้วนะ ยัยเรย์นะ!!!! อยากจะเข้าไปกระชากคอเสื้อยัยนี่แล้วเขย่าๆให้รู้สึกตัวจริงๆเลย!!!!!
พอถึงตอนจบ ฉันที่ตั้งใจว่าจะถ่มถุยชะตากรรมของยัยเรย์นะอย่างเต็มที่ กลับต้องน้ำตาไหลพรากๆไม่หยุด เมื่อเรย์นะนั่งร้องไห้ท่ามกลางกองข้าวของมากมายที่มีแต่ความทรงจำร่วมกับคุณชูจิคนนั้น
ยัยโง่เอ้ย ถึงเธอจะกอดกิโมโนเขาไว้ บอกรักเขาเป็นพันๆหน แต่ตายไปแล้วเขาก็ไม่ได้ยินหรอกย่ะ สมน้ำหน้า ตอนมีชีวิตอยู่ทำไมไม่ยอมทำดีกับเขาล่ะ ทำไมที่เขาบอกรักเธอถึงไม่เชื่อ หา!!
ในวาระสุดท้าย คุณชูจิก็ต้องจากไปด้วยความขมขื่นที่คิดว่าเรย์นะรักใครที่ไม่ใช่ตัวเขาอีก มันจะเศร้าเกินไปแล้วนะคะ แง้
เอ็นโจยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้ฉันที่นั่งสะอึกสะอื้นอยู่ จูงมือฉันออกจากโรงหนังอย่างเงียบๆ ตอนออกมาก็เห็นหลายๆคนเช็ดน้ำตากันใหญ่ หนังเศร้ามากจริงๆสินะคะ นึกว่าฉันอ่อนไหวไปเองคนเดียวเสียอีก
ฉันเหลือบมองเอ็นโจ ดูเหมือนหมอนี่จะไม่ร้องไห้แฮะ แต่น้ำตาลูกผู้ชายไหลให้เห็นได้ง่ายๆก็คงไม่ดีสินะ
“ขอโทษด้วยนะ ไม่รู้ว่าหนังจะเศร้าขนาดนี้” เอ็นโจยื่นขวดน้ำดื่มจากตู้กดอัตโนมัติให้ ฉันรับมาแล้วขอบคุณเบาๆ
“ไม่ใช่ความผิดท่านเอ็นโจหรอกค่ะ” นั่นสิ ถ้าเลือกดูหนังผี ฉันอาจจะไม่ต้องมานั่งร้องไห้ต่อหน้าเอ็นโจแบบนี้ก็ได้ “หนังก็สนุกด้วย”
“นั่นสินะ ถึงจะเศร้าแต่เรย์นะก็ยังได้รู้ตัวว่ารัก” เอ็นโจยิ้มขื่นๆ “ชูจิคงดีใจถ้าได้รู้”
ดีใจอะไรกันล่ะคะ ตายไปแล้วก็คือสูญเปล่าไม่รับรู้อะไรไม่ใช่เหรอ คุณชูจิคะ เป็นผีมาหลอกยัยเรย์นะให้ผมหงอกแบบโปสเตอร์หนังผีข้างๆกันไปเลยค่ะ
พอฉันทำหน้าแค้นเคืองใส่โปสเตอร์หนัง เอ็นโจก็หัวเราะ
“งั้นจะดูหนังผีด้วยมั้ย จะได้คลายเศร้าไง” เอ็นโจจับมือฉันแล้วบีบเบาๆ พูดยิ้มๆ พอเห็นสีหน้าฉันก็หัวเราะ “ล้อเล่นน่ะ”
หมอนี่รู้ว่าฉันกลัวผีก็ยังจะล้อเล่นอีกเหรอคะ ให้ตายสิ ทำไมเหมือนคุณชูจิตอนแกล้งเรย์นะขนาดนี้เนี่ย แต่คุณชูจิทำแล้วน่ารัก อีตานี่ทำแล้วน่าเสยปลายคางจริงๆ
เอ็นโจจับมือฉันพาเดินไปที่ร้านขนมที่ดูน่ารักๆ บรรยากาศสดใสเหมาะกับช่วงคริสต์มาส ฉันที่คิดว่าจะทานอะไรไม่ค่อยลงเพราะหนัง แต่พอแพนเค้กที่สั่งไปมาเสิร์ฟ กลิ่นหอมๆของนมและเนยก็ทำให้ฉันตักเข้าปากแบบลืมตัวว่ากำลังเศร้าอยู่
อร่อย อร่อยชะมัดเลยล่ะค่ะ เวลาเศร้าก็ต้องทานของหวานๆนี่ล่ะน้า จะช่วยให้หายเศร้า
ฉันเหลือบมองเอ็นโจที่นั่งจิบชา แล้วก็เผลอนึกถึงเรื่องในความฝันขึ้นมา
ถ้าความฝันนั้นได้ดำเนินต่อ ก็คงมีบรรยากาศคล้ายๆแบบนี้ล่ะมั้ง นุ่มละมุนและอ่อนโยนเหมือนหิมะตกใหม่ในคืนคริสต์มาส
ว่าแต่ฉันจะนึกถึงความฝันนั้นขึ้นมาทำไมกันล่ะคะ ลามกที่สุดเลย เดี๋ยวเลือดกำเดาก็ไหลอีกหรอก
เอ็นโจก็หัวเราะอีกแล้ว มีอะไรน่าขำรึไงค้า
หลังดื่มชาเสร็จ เราสองคนก็ไปต่อคิวขึ้นชิงช้าสวรรค์ ดีที่มาช่วงเที่ยง ถ้าเป็นตอนกลางคืนคงคิวยาวกว่านี้ แต่ระหว่างยืนรอเอ็นโจก็ถามตลอดเลยว่าเจ็บเท้ามั้ย เมื่อยรึเปล่า ไม่ไหวก็นั่งพักได้นะ แบบเดียวกับที่เคยได้ยินในฝันเลยล่ะค่ะ
เอ๊ะ ทำไมฉันจำเรื่องความฝันได้แม่นขนาดนี้เลยล่ะ
แล้วเอ็นโจก็ทำตัวเหมือนคุณชูสุเกะในฝันด้วย อย่าบอกนะว่าหมอนี่ฝันเรื่องเดียวกับฉัน บ้าน่า พระเจ้าเล่นตลกอะไรอยู่งั้นเหรอคะ
ชิงช้าลอยสูงขึ้นไปจนเห็นได้ทิวทัศน์ถ้วนทั่ว มองจากมุมสูงนี่สวยมากเลยล่ะค่ะ แสงแดดก็ส่องประกายระยิบระยับเหนือผิวน้ำของทะเลสาบที่กลายเป็นสีเงินเหมือนในภาพวาด เห็นเรือพายที่จอดเรียงรายอยู่ ก็นึกถึงเรื่องที่แนะนำให้ซากุระจังไปพายเรือที่สวนสาธารณะกับอาคิสะวะคุงขึ้นมา
ไม่รู้ว่าได้ไปกันรึยัง แต่ดูท่าซากุระจังคงไม่ต้องพึ่งเทพแห่งความรักอะไรแล้วล่ะมั้ง
หลังจากงานโรงเรียนปีที่แล้ว ซากุระจังกับอาคิสะวะคุงคงจะพูดความในใจกันไปเรียบร้อย สีหน้าดูมีความสุขและอิ่มเอิบด้วยกันทั้งคู่
ดีจังเลยนะคะที่ใจตรงกัน ดีจังที่ได้พูดออกไป ไม่อย่างนั้นต่างฝ่ายต่างคิดว่าไม่ได้รักกันแบบเรย์นะและคุณชูจิ อาจจะต้องลงเอยกันด้วยโศกนาฏกรรมแบบในหนังก็ได้
“คิดอะไรอยู่เหรอ” เอ็นโจนั่งฝั่งตรงข้าม มองมาที่ฉันด้วยรอยยิ้มน้อยๆ
“เอ่อ...ก็...คิดเรื่องหนังเมื่อครู่นี้นิดหน่อยค่ะ” พอเห็นสายตาที่มองแบบยิ้มๆแต่ดูกดดันอยู่ในที ฉันที่หัวใจนกกระจิบก็เปิดปากพูด “แหม ถ้าสองคนนั้นหันหน้ามาพูดกันดีๆล่ะก็ ถึงชีวิตจะแสนสั้น ถึงจะต้องจากกัน แต่ก็สามารถสร้างความทรงจำที่มีความสุขได้ไม่ใช่เหรอคะ”
เอ็นโจเลิกคิ้วขึ้น แล้วก็ยิ้มออกมา
“นั่นสินะ” สายตานั้นก็อ่อนโยนมากจนฉันรู้สึกหน้าร้อนผ่าว “งั้น จากนี้ไปมาสร้างความทรงจำที่มีความสุขด้วยกันเยอะๆเถอะนะ”
เอ๊ะ!!
ฉันจะถามว่าหมายความว่าอย่างไร แต่ชิงช้าสวรรค์หมดรอบเสียก่อน พนักงานเปิดประตูให้ เอ็นโจจับมือฉันก้าวเดินออกมาจากกระเช้าชิงช้า ทุกอย่างเป็นไปด้วยความนุ่มนวลและอบอุ่นอ่อนโยน ไม่ต่างอะไรจากในฝันเลยสักนิด
แว้บหนึ่ง ฉันใจเต้นแรงขึ้นมา และคิดว่าไม่อยากจะปล่อยมือคู่นี้ไปเลย
------------------
ที่ท้องฟ้าจำลองนี่ก็มีคู่รักพากันมาดูดาวจนเต็มห้องจัดแสดง แต่สาวๆบางคนที่มากับแฟนก็ยังมองเอ็นโจที่นั่งอยู่ข้างๆฉันตาปรอยเลยล่ะ
เฮ้ๆ สนใจแฟนของเธอที่มาด้วยกันสิค้า มันจะผิดต่อเขาไม่ใช่รึยังไงกันน่ะ ถ้ามัวแต่สนใจผู้ชายคนอื่นแบบนี้
เอ็นโจไม่ได้มีปฎิกริยาอะไร แต่เอื้อมมือมาจับมือของฉันไปกุมไว้แล้วจูบปลายนิ้วเบาๆ รู้สึกถึงความร้อนผ่าวที่แผ่ออกมาจากบริเวณนั้นจนถึงข้างแก้ม
ทำอะไรน่ะค้าาา นี่มันที่สาธารณะน้าาาาา!!!!
สาวๆพวกนั้นสะบัดหน้าหนีไปเลย หรือไม่ก็ส่งสายตาทิ่มแทงให้ฉัน
พอฉันมองค้อนไปนิดหน่อย เอ็นโจก็ยิ้ม แต่ก็ยังจับเอาไว้อยู่ ฉันขี้เกียจจะท้วงอะไรแล้วก็เลยยอมๆไป
พิธีกรเข้ามาบรรยายแนะนำเรื่องราวต่างๆคร่าวๆ แล้วห้องก็ค่อยๆมืดลง ปรากฎภาพของดวงดาวมากมายที่อยู่บนฟ้า
หวา สวยจังเลยค่ะ
มิน่าล่ะคะ คู่รักถึงอยากมาดูดาวกันขนาดนี้ ดวงดาวที่พราวแสงระยิบระยับบนฟ้า ให้ความรู้สึกงดงามเกินบรรยาย ดวงดาวทั้งหลายผ่านพวกเราไปมากมาย ไม่ว่าจะเป็นซิริอุสที่ส่องสว่าง ซิกนัสที่เป็นหนึ่งในกลุ่มดาวสามเหลี่ยมฤดูร้อน หรือพอลลักซ์กับคาสเตอร์ที่เป็นกลุ่มดาวคนคู่ ข้ามผ่านวงแหวนดาวเสาร์ ยูเรนัส เนปจูน ลอยละลิ่วจากทางช้างเผือกไปยังกาแลกซี่อันโดรเมด้าและกาแลกซี่อื่นๆที่ไร้ขอบเขต
ฉันมองดวงดาวพร้อมกับฟังบรรยายไปอย่างเพลิดเพลิน
จบการบรรยาย เอ็นโจจับมือฉันเดินออกไปจากห้อง อา--รู้สึกว่ามีสายตาทิ่มแทงรอบทิศเลยล่ะค่ะ ถ้าสายตาเป็นมีดฉันคงจะตายไปแล้ว
เอ็นโจไม่ได้ใส่ใจสายตาพวกนั้น แต่หันมาถามใกล้ๆ "คุณคิโชวอิน หิวรึยัง อยากทานอะไรเป็นพิเศษรึเปล่า"
ถ้าให้เอ็นโจพาไป อย่างหมอนี่ฉันนึกออกแต่ร้านสุดหรูที่นั่งกินไปตัวเกร็งไปเท่านั่นล่ะค่ะ แต่เอ๊ะ จะให้ฉันเลือกร้านเองเหรอค้า
ฉันยิ้มกริ่มแล้วตอบชัดถ้อยชัดคำว่าร้านข้าวหน้าไก่
กูนั่งตามอ่านยาวมากกกกกกกกก
ฟิคแม่งดีงาม กูเขิน รูปแฟนอาร์ตท่านเอ็นโจก็สวย ตอนดิบได้อ่านสปอยก็ลุ้นหนักไปอีก ท่านพี่ก็เป็นซิสค่อนจริงๆอะเเหละ กูปลิ่มจริงๆ
ร้านที่ฉันพาเอ็นโจมาเป็นร้านสามัญชนบ้านๆ ร้านก็เล็กและแคบมีโต๊ะนั่งไม่กี่ที่แต่รสชาติอร่อยล้ำ เนื่องจากแอบมาทานกับวาคาบะจังก่อนหน้าจึงได้รู้ว่ามีร้านดีๆแบบนี้อยู่ในซอกซอยด้วย ดีใจเหมือนได้ค้นพบเห็ดมัตสึทาเกะในป่าเลยล่ะค่ะ
ฉันเหลือบมองเอ็นโจที่นั่งอ่านเมนู ทีแรกก็คิดว่าคุณชายอย่างหมอนี่จะกินร้านพวกนี้ได้รึเปล่านะ แต่ร้านข้าวหน้าไก่กับไข่นี่เป็นหนึ่งในสิ่งที่ฉันใฝ่ฝันจะมาทานตั้งแต่จำความได้ว่าเป็นคิโชวอิน เรย์กะเลยล่ะค่ะ มีโอกาสแล้วก็ต้องมาทานให้ได้
ดูเหมือนคุณลุงคุณป้าเจ้าของร้านจะจำได้ว่าฉันเคยมาทานที่นี่ จึงเพิ่มไข่ต้มมาให้อีกฟองโดยไม่ต้องเอ่ยปากสั่ง แล้วก็แถมให้เอ็นโจด้วยคน
"แฟนเหรอคะ" คุณป้าถามฉันด้วยน้ำเสียงร่าเริง "เป็นคู่ที่เหมาะสมกันมากเลยค่า"
"ขอบคุณครับ" นายจะไปขอบคุณเขาทำไมล่ะค้า แล้วก็ไม่ใช่แฟนซักหน่อยนะคะคุณป้า!!!
ฉันเถียงในใจอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่พูดออกไปไม่ได้เพราะเอ็นโจที่โปรยยิ้มมาให้
คุณป้าคุยกับพวกเราอีกนิดหน่อยแล้วไปต้อนรับลูกค้ารายอื่นที่เพิ่งเข้ามาในร้าน รู้สึกว่าทุกสายตามองมาทางนี้เป็นตาเดียวเลยล่ะค่ะ
"คุณคิโชวอินเคยมาที่นี่เหรอ"
"เอ่อ ค่ะ" ฉันพยักหน้า "มากับคุณวาคาบะน่ะค่ะ"
"หืม" เอ็นโจทำหน้าแปลกใจ "สนิทกับคุณทาคามิจิขนาดนั้นเลยเหรอ"
เอ๊ะ ฉันจะสนิทกับใครมันก็เรื่องของฉันนี่คะ
"คุณวาคาบะเคยช่วยเหลือฉันไว้น่ะค่ะ แล้วเธอก็เป็นคนอัธยาศัยดีด้วย" เรื่องที่วาคาบะจังเคยช่วยเหลือนี่ ถ้าไปเล่าให้ใครฟังก็อายตายชัก ถึงนายจะมองด้วยสายตาแบบนั้นก็ไม่ยอมเปิดปากแน่นอนค่ะ ฉันรีบเปลี่ยนเรื่องทันที "เห็นอาหารสามัญแบบนี้ก็น่าจะชวนท่านคาบุรากิมาทานด้วยกันนะคะ"
"มาซายะไม่ว่างหรอก" เอ็นโจตอบพร้อมกับรอยยิ้ม "ป่านนี้คงไปช่วยงานคุณทาคามิจิอยู่ล่ะมั้ง"
"ช่วยงาน!?" ฉันกระพริบตาปริบๆ แล้วก็หยิบมือถือขึ้นมาพิมพ์เมล์หาวาคาบะจังแบบร้อนใจ เพื่อจะเช็คว่าตาบ้านั่นไม่ได้ไปทำความเดือดร้อนยุ่งยากให้ วาคาบะจังยังไม่ตอบกลับมาเลย สงสัยจะยุ่งหัวปั่นกับการจัดการปัญหาของคาบุรากิอยู่ล่ะมั้ง
พอเงยหน้าขึ้นจากมือถือก็เห็นเอ็นโจยิ้มอยู่เหมือนเดิม แต่พอจับความรู้สึกได้รางๆว่ากำลังไม่พอใจ
เอ๋ ฉันทำอะไรพลาดไปงั้นเหรอคะ
วาคาบะจังตอบเมล์มาพอดี ฉันเลยปัดเรื่องนั้นออกจากหัวไปก่อน เนื้อหาเมล์ก็ประมาณว่าเพราะคาบุรากิมาช่วยงานขายของ วันนี้ก็เลยขายดีสุดๆไปเลยล่ะ ลูกค้าสาวๆเข้าร้านแบบมืดฟ้ามัวดิน เค้กบางชิ้นก็เลยหมดเกลี้ยงแทบไม่เหลือ เพิ่งมีเวลาได้พักเมื่อครู่นี้เอง
ดีจัง ดูเหมือนจะไม่ได้ทำความเดือดร้อนให้สินะ
นอกจากนี้ก็ยังมีรูปถ่ายที่คาบุรากิใส่ชุดซานต้าที่แต่เดิมจะเป็นหน้าที่ของพ่อวาคาบะจังจะสวมใส่ชุดนี้ทุกปี ทีแรกหมอนี่ยืนยันว่าจะติดเคราปลอม ผมปลอมสีขาวและยัดของทำเป็นพุงกลมๆด้วย แต่ว่าคุณแม่ของวาคาบะจังไม่ยอม คาบุรากิก็เลยต้องโชว์หน้าหล่อๆ ถือป้ายเพื่อเรียกลูกค้าต่อไป
โอ๊ย อีตาคนนี้ แค่แต่งชุดซานต้าก็ยังเรื่องมากอีกงั้นเหรอคะ ฉันรู้ว่าเจ้าบ้านี่ต้องขัดใจมากแน่นอนที่ไม่ได้แต่งแบบเต็มยศ
ความซวยไปเยือนน้องชายของวาคาบะจังที่แต่งตัวเป็นกวางเรนเดียร์ค่ะ เห็นสีหน้าระทมทุกข์ของหนุ่มน้อยที่ติดจมูกกวางและเขากวาง ยืนข้างๆกับซานต้าคาบุรากิ ฉันก็รู้ว่าต้องผ่านการเคี่ยวเข็ญอย่างหนักแน่นอน เพื่อการเป็นกวางได้สมบูรณ์แบบ คุณน้องชายทั้งน่าสงสารและตลกไปในเวลาเดียวกันจนฉันอดเห็นใจไม่ได้ อีตาคาบุรากินี่น้า
"ดูสิคะ ท่านเอ็นโจ" ฉันยื่นมือถือไปให้เอ็นโจดูข้อความและรูปถ่ายที่ส่งมาจากวาคาบะจัง "ท่านคาบุรากิล่ะ"
เอ็นโจก็ยิ้มกว้างออกมาด้วยเหมือนกัน คงคิดแบบเดียวกับที่ฉันคิดอยู่สินะ
"ท่านคาบุรากินี่เคร่งครัดจริงๆเลยนะคะ" ฉันตักเต้าฮวยนมสดอันเป็นของหวานประจำร้านเข้าปาก "ตอนนั้นก็บังคับให้ฉันใส่จมูกหนูกับจมูกแกะอยู่ได้"
"มาซายะชอบความสมบูรณ์แบบน่ะ" เอ็นโจส่ายหน้าอย่างระอานิดหน่อย "มีโอกาสทำทั้งทีก็ต้องจัดเต็มไปเลย"
ฉันว่าเจ้าหมอนี่มันบ้ามากกว่าค่ะ
"คุณคิโชวอินดูใส่ใจมาซายะจังเลยน้า" เอ็นโจมองยิ้มๆ
"ก็อดเป็นห่วงไม่ได้น่ะค่ะ" ความรู้สึกของฉันที่มีต่อคาบุรากิก็เป็นความรู้สึกแบบเดียวกับคุณแม่ที่เป็นห่วงลูกชายไม่เอาไหนมั้งคะ "กลัวว่าบ้านของคุณวาคาบะจะลำบากใจ ถ้าท่านคาบุรากิไป...เอ่อ ขอโทษค่ะ"
จะนินทาเขาทั้งที่เพื่อนเขานั่งอยู่ตรงนี้มันก็แปลกๆอยู่นะ ฉันก็เลยตักเต้าฮวยเข้าปากต่อ
"ถ้าเป็นห่วงขนาดนั้นจะไปดูหน่อยรึเปล่าล่ะ" เอ็นโจถามยิ้มๆ
เอ๊ะ เอาจริงเหรอ เยี่ยมเลย ฉันอยากทานเค้กคริสต์มาสของบ้านวาคาบะจังอยู่พอดี แล้วก็อยากเห็นคาบุรากิใส่ชุดซานต้าด้วยล่ะ ถ้าถ่ายรูปไปให้คนอื่นๆในโรงเรียนดู ต้องเป็นที่ฮือฮาอย่างแน่นอน อุฮุฮุฮุ แค่คิดก็น่าสนุกแล้วล่ะค่ะ
"ก็ดีนะคะ" ฉันบอกอย่างกระตือรือร้น "ท่านเอ็นโจเคยทานเค้กของบ้านคุณวาคาบะรึเปล่าคะ ถึงจะเป็นเค้กธรรมดาๆ ไม่หรูหราแบบในโรงแรม แต่ก็รสชาติดีมากเลยล่ะ"
"มาซายะเคยเอามาฝากน่ะ ก็อร่อยดีนะ" เอ็นโจหัวเราะเบาๆ "ไปเหมาเค้กมาให้เพียบจนต้องแบ่งไอระกับยูริเอะด้วย ยูกิโนะเองก็ชอบมากเลย"
บ้านวาคาบะจังอยู่ใกล้กับร้านข้าวนี่มาก เอ็นโจกับฉันเลยเดินไปเป็นการย่อยอาหารในท้องไปในตัว พอใกล้ๆจะถึงร้านก็เห็นซานต้าชุดแดงเด่นเป็นสง่ามาแต่ไกล
"สวัสดีค่ะ ท่านคาบุรากิ" ฉันก้าวไปยืนตรงหน้าคาบุรากิ หมอนี่ดูแปลกใจมากที่ฉันปรากฎตัวในที่แบบนี้
"เฮ้ย เธอมาได้ยังไงเนี่ย คิโชวอิน" คาบุรากิหันขวับไปมองเพื่อน "นายบอกยัยนี่เหรอ ชูสุเกะ"
"ก็น้า คุณคิโชวอินเขาอยากจะเห็นมาซายะในชุดซานต้าน่ะสิ ก็เลยแวะมาดูหน่อย"
วาคาบะจังกับน้องชายในชุดกวางเรนเดียร์เดินออกมาพอดี เห็นฉันกับเอ็นโจก็ก้มหัวทักทายทั้งคู่
"ได้ยินจากท่านเอ็นโจว่าท่านคาบุรากิมาช่วยงานคุณวาคาบะก็เลยอยากจะมาดูให้ได้น่ะค่ะ" ฉันมองไปข้างในร้าน เห็นสาวๆต่อคิวเลือกซื้อเค้กให้เพียบไปหมด "แหม มารบกวนเวลาทำงานรึเปล่าคะ"
"อ๋อ ไม่ค่ะ ไม่เลยสักนิด" วาคาบะจังโบกมือไปมา "เอ่อ เข้ามาข้างในก่อนมั้ยคะ อากาศหนาวๆแบบนี้ยืนข้างนอกนานๆไม่ดีเท่าไหร่ ท่านคาบุรากิคะ มาพักก่อนเถอะค่ะ"
งานถือป้ายเรียกลูกค้ามีน้องชายของวาคาบะจังรับช่วงต่อ ฉัน เอ็นโจ คาบุรากิก็ได้เข้ามานั่งข้างในบ้านของวาคาบะจัง ที่โต๊ะรับประทานอาหารตัวเดิมที่ฉันเคยนั่ง
ตอนนี้เจ้าตัวกระวีกระวาดไปชงชามาต้อนรับแขก ฉันก็เลยลุกไปช่วยด้วยคน แม้จะถูกบอกให้ไปนั่งที่แค่ไหนก็ตาม
"มีแต่ของแบบนี้นะคะ อาจจะไม่ถูกปากพวกคุณเท่าไหร่" วาคาบะจังวางแก้วชาแจกทุกคนแล้วก็ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง "เอ่อ เดี๋ยวแป๊บนึงนะคะ จะไปเอาเค้กมาให้ คุณเรย์กะ ท่านเอ็นโจ ท่านคาบุรากิชอบชีสเค้กรึเปล่าคะ กำลังอบอยู่เลย ตอนนี้น่าจะเสร็จแล้วล่ะ"
ฉันกับเอ็นโจพยายามจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่วาคาบะจังก็หายลับไปหลังบานประตูที่นำไปสู่ร้านแล้ว
คาบุรากิมองฉันแล้วก็มองเอ็นโจ "เธอไปสนิทกับทาคามิจิขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันน่ะ"
"ก็นานพอสมควรแล้วน่ะค่ะ" ฉันตอบพลางดื่มชามุกิไปด้วย "แต่สาเหตุขอปิดเป็นความลับก็แล้วกันนะคะ แล้วฉันกับคุณวาคาบะก็สัญญากันไว้แล้วด้วยว่าจะไม่พูดเด็ดขาด"
คาบุรากิทำหน้าอยากรู้อยากเห็นสุดๆ แต่ฉันยิ้มแบบคนที่ถือไพ่เหนือกว่า จิบชาไปเรื่อยๆไม่ทุกข์ไม่ร้อน
วาคาบะจังกลับมาพร้อมกับชีสเค้กขนาดน่ารักๆสี่ชิ้น "เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆเลยค่ะ หน้าตาออกมาใช้ได้เลยน้า"
คุณแม่ของวาคาบะจังโผล่หน้ามาดูพวกเรา "อ้าว สวัสดีค่ะคุณเรย์กะ แล้วเอ่อ...คุณ..."
"เอ็นโจ ชูสุเกะครับ เป็นเพื่อนที่โรงเรียนของคุณทาคามิจิเหมือนคุณเรย์กะ" เอ็นโจตอบพร้อมกับรอยยิ้มที่ทำให้คุณแม่ของวาคาบะจังหน้าแดง "ต้องขอโทษที่มารบกวนกระทันหันนะครับ"
"แหม รบกวนอะไรกันคะ ไม่รบกวนเลย" คุณแม่โบกมือไปมา ท่าทางแบบเดียวกับวาคาบะจังเลยค่ะ "วาคาบะต่างหากล่ะคะ ไปสร้างความเดือดร้อนอะไรให้พวกคุณรึเปล่า บอกมาได้เลยนะคะ ฉันจะจัดการให้เอง"
เอ็นโจพูดคุยกับคุณแม่ของวาคาบะจังอยู่ครู่หนึ่ง คุณแม่ก็ขอตัวไปขายของต่อ แต่ก็ไม่ลืมกำชับให้วาคาบะรับรองแขกให้ดีๆ ส่วนฉันตักชีสเค้กเข้าปาก อืม อร่อยมากเลยล่ะค่ะ ซื้อกลับไปฝากท่านพี่ด้วยดีกว่า เอ็นโจกับคาบุรากิเองก็ชมว่าอร่อยด้วย
"วันนี้ขายดีมากเลยสินะคะ" ฉันถามวาคาบะจัง
"เป็นเพราะท่านคาบุรากิน่ะค่ะ" วาคาบะจังก้มหัวให้คาบุรากิ "ต้องขอบพระคุณอีกครั้งนะคะ ที่ทำให้ร้านเล็กๆของเรามีลูกค้าคึกคักขนาดนี้"
"เรื่องเล็กน้อยน่า" คาบุรากิโบกมือแบบไม่ใส่ใจ แต่ฉันแอบเห็นว่าสองข้างแก้มนั้นเป็นสีชมพู
อุหวา เขินสินะคะที่ได้รับคำชมจากสาวที่ชอบ
"เห็นท่านเอ็นโจบอกว่าท่านคาบุรากิมาช่วยงานที่ร้านเค้ก ฉันเองก็ตกใจแทบแย่แน่ะค่ะ" ฉันยกมือป้องปากกลั้นหัวเราะ "แต่ดูเหมือนผลลัพธ์จะออกมาดีสินะคะ แหม ดีจังเลย"
"เฮ้ เธอ หมายความว่ายังไงน่ะหา" คาบุรากิถลึงตามองฉัน "มีฉันช่วย มันก็ต้องออกมาดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ"
"ฉันก็ตกใจเหมือนกันค่ะ" วาคาบะจังหัวเราะ "ท่านคาบุรากิมาตั้งแต่ร้านยังไม่เปิด พอบอกว่าจะมาช่วยงาน ทางบ้านก็ตกอกตกใจกันใหญ่ ไม่ว่ายังไงก็ยืนกรานว่าจะช่วยให้ได้ท่าเดียว"
อุหวา เจ้าเด็กนี่มันบ้าจริงๆเลยนะคะ
"แต่ว่าจะให้ท่านคาบุรากิมายกของหนักๆหรือใช้แรงงาน พวกเราก็ค่อนข้างจะลำบากใจ ก็เลยให้เป็นคนถือป้ายก็พอค่ะ แต่ก็ทำหน้าที่ได้ดีมากเลยนะคะ เค้กก็หมดไปหลายรอบต้องทำใหม่ แต่แค่นี้ไม่เป็นไรหรอกค่า สบายๆ" คาบุรากิดูยืดขึ้นมาเล็กน้อยเพราะได้รับคำชม
เห็นวาคาบะจังยังหัวเราะแหะๆได้ฉันก็ทึ่งอยู่เหมือนกันนะคะ
"แล้วนี่คุณเรย์กะมากับท่านเอ็นโจแบบนี้ หรือว่าจะเป็น...เดทสินะคะ" คำพูดของวาคาบะจังทำให้ฉันที่กำลังจิบชาอยู่สำลักค่อกแค่ก ดีที่ไม่หกเลอะเทอะให้ขายหน้า
วาคาบะจัง!! อย่าหัวไวในเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้สิคะ!!!
"ครับ" เอ็นโจรับคำ "แต่ว่าคุณเรย์กะเจ็บขาอยู่ ก็เลยไปมาไม่กี่ที่เอง"
"เอ๋ เป็นอะไรมากรึเปล่าคะ" วาคาบะจังทำตาโตอย่างตกใจ ฉันเลยรีบส่ายหน้าปฎิเสธเป็นพัลวัน "รู้สึกฉันจะมียานวดอยู่ ถ้าคุณเรย์กะไม่รังเกียจจะเอาไปใช้ก็ได้นะคะ"
วาคาบะจังลุกขึ้นไปหายานวดมาให้ฉัน วางลงบนโต๊ะ "ท่านคาบุรากิถ้าปวดเมื่อยก็ใช้ได้เลยนะคะ ไม่ต้องเกรงใจ"
คาบุรากิเหล่มองฉัน กะอีแค่ยานวดก็ทำเป็นหวงของเหรอยะ แต่แน่ล่ะ เป็นของที่ได้จากวาคาบะจังนี่นะ ไม่เอาก็ได้ย่ะ
"แล้วไปที่ไหนกันมาบ้างเหรอคะ ฉันเองก็พอจะรู้จักที่เที่ยวดีๆอยู่นะคะ" วาคาบะจังหันไปคุยกับเอ็นโจต่อ
"ก็ไปดูหนัง ขึ้นชิงช้าสวรรค์ ไปท้องฟ้าจำลอง แล้วก็ร้านข้าวหน้าไก่น่ะ"
"ท้องฟ้าจำลองเหรอคะ วิเศษไปเลยเนอะคุณเรย์กะ" พอได้ยินแบบนี้ คาบุรากิหันขวับไปมองวาคาบะจังแล้วก็ทำหน้าครุ่นคิดบางอย่าง
คงอยากไปกับวาคาบะจังสินะคะ
เอ็นโจกับวาคาบะจังคุยเรื่องสถานที่เที่ยวอยู่อีกครู่หนึ่งก็ได้เวลาร่ำลา จะกักตัววาคาบะจังไว้นานกว่านี้ก็ไม่ได้ด้วยเพราะต้องช่วยทำเค้กที่บ้าน พอเสนอตัวว่าจะช่วยงานด้วยเช่นกัน คุณแม่ของวาคาบะจังกลับโบกไม้โบกมือไปมา
"ไม่กล้ารบกวนการเดทของคู่รักหนุ่มสาวหรอกค่ะ แค่แวะมาหาก็ดีใจแล้วล่ะ ไปเที่ยวให้สนุกกันเถอะ"
คู่รักอะไรกันค้าาาา ไม่ใช่เลยนะคะ
พอจะจ่ายเงินค่าชีสเค้ก วาคาบะจังก็ไม่ยอมรับไว้ ฉันกับเอ็นโจเลยสั่งเค้กคริสต์มาสกลับไปฝากคนที่บ้าน คุณแม่ของวาคาบะจังก็ทำท่าจะไม่ยอมรับเงินอีกจนต้องต้องคะยั้นคะยอให้รับไป บ้านทาคามิจิจะขี้เกรงใจกันเกินไปแล้วนะคะ
เราสองคนอำลาวาคาบะจังและคาบุรากิ เดินไปขึ้นรถที่มาจอดรออยู่หน้าร้านแล้ว คนมองกันให้เพียบเลยล่ะค่ะ
-----------------------------
ยังไม่จบ หั่นเป็นสองพาร์ท
กูต้องดูหนังรักบิลด์ตัวเองมากมายมหาศาล ตอนหน้าพวกมึงอาจสำลักความหวานตายกันได้
>>568->>573 ว้ายยยยย กูรีเฟรชตามอ่านอยู่รัวๆ เลยค่ะ ท่านเรย์นะในหนังนี่แย่จริงๆ ไม่เคยเปิดใจให้ความรักของใครบางคนที่อยู่ใกล้ตัว //เหล่
มีจับมือจุ๊บปลายนิ้วกันด้วยอ่ะ กูเขินแท้ ตอนนี้กูนั่งอ่านอยู่บนรถเมล์ แต่ใบหน้ากรุ้มกริ่มยิ้มน้อยใหญ่ไปหมดแล้ว ฮว้ากกกกกกกก กูจะรอตอนต่อไปไม่ว่าจะนานเท่าไหร่ก็ตาม รักมึงนะ ม๊วบ
วันนี้มาสองฟิคเรือเอ็นโจจัดหนักจริงๆ อันนึงก็จูบ อันนึงก็เดท
หลังจากปล่อยให้บากะรากิวิ่งนำไปเมื่อวานนี้ 55555
พรุ่งนี้กระทู้จะเต็มไหมเนี่ย กลิ่นกาวหึ่งขนาดนี้
เพิ่งได้อ่านเรื่องนี้ โฮวววววว เราพลาดเรื่องนี้ไปได้ไง อ่านแบบอ่านรวดเดียว 2 วัน (วันที่แมวดุ้นล่มนั่นแล ตอนนั้นอ่านแบบสลับตอนระหว่างไทยอิ๊ง ฟฟฟ) แล้วอ่านฟิคกาวในโม่งต่อ แบบ แฟนด้อมอื่นไม่เห็นกาวเท่านี้เลย มีแต่เรากาวเงียบ ๆ อยู่คนเดียว
ตอนอ่านจบไม่ได้เชียร์จอมมารขนาดนั้นนะ แต่พอมาอ่านโม่งแล้วเหมือนจะโดนกาวจอมมารรม จะกาวจอมมารตามไปด้วยละ ปกติอยู่เรือท่านพี่ เกาะเรือท่านพี่ เชียร์ให้ค้ำคอรรรรร์ //โดนตรบ
ถ้าจะกาวเยอะขนาดนี้กุว่ากระทู้นี้อยู่ไม่เกิดวันเสาร์แน่
เสาร์อาทิตย์พวกมึงเงียบมาก ทำไมจันทร์ถึงพฤหัสที่ผ่านมายิ่งกว่าพี้ยา ถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถ เครียดจากงานการการเรียนมาเวิ่นกันใช่ไหมพวกมึง 55555
โม่งฟิควันนี้ขยันขันแข็งกันมากๆ แถมยังจัดคอมโบฉากฟินๆมาพร้อมกันอีกต่างหาก อ่านไปก็เขินไป 555
โม่งฟิคบางคนแม่งต้องพึ่งสอบเสร็จแน่ๆ ใช่มั้ย 555
ณ เมืองซุยรีน่า มหานครแห่งความมั่งคั่งของเหล่าผู้มีฐานะและฟุ้งเฟ้อ เบื้องหลังของสังคมชนชั้นสูงเหล่านั้น ถูกปกครองโดยกลุ่มแฟมิลี่ของมาเฟียผู้มีอิทธิพลลือชื่อของประเทศ 3 กลุ่มหลัก
"มาซิโอแห่งคาบุรากิโน" สมญานามจักรพรรดิ ชื่อเสียงและอำนาจที่แข็งแกร่งที่สุดอันได้มาตั้งแต่อดีตผู้นำรุ่นก่อนๆในยุคก่อตั้งเมือง บุคลิกความเย็นชาไม่แยแสสิ่งใดของเขา ทำให้ผู้คนทั่วทั้งเมืองต้องถึงกับสั่นสะท้าน ยามเมื่อสบนัยน์ตาดำมืดราวกับหุบเหวลึกนั้น ชื่อเสียงของเขายิ่งเป็นที่ประจักษ์มากยิ่งขึ้น เมื่อมีข่าวการลอบสังหารเจ้าพ่อและกวาดล้างแก็งมาเฟียต่างแดนที่ครั้งหนึ่งเคยมอบช่อดอกไม้ให้กับ "ยูเรีย" รักแรกของเขา จนล่มสลาย
"ชูโซเนแห่งเอ็นโซ" สมญานามเจ้าชาย หลังปัญหาการปะทะกันที่เกิดขึ้นภายในกลุ่มญาติด้วยกัน จนเกิดการล้างป่าช้าขับไล่สมาชิกออกไปเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันเป็นแฟมิลี่ที่ขาวสะอาดจนมีข่าวว่าได้ลามือจากวงการมาเฟียอย่างถาวรแล้ว ความเป็นเองและเป็นที่ปรึกษาที่พึ่งพิงที่ดีราวกับนักบุญของเขาทำให้ชาวเมืองต่างชื่นชมและนับถือราวกับก็อดฟาเธอร์ ทว่าภายใต้ความบริสุทธิ์เหล่านั้นมีเพียงเหล่าสมาชิกด้วยกันและบอสของแฟมิลี่ที่สนิทด้วยกันเท่านั้นที่ล่วงรู้ความจริง...
"เรย์เชลแห่งคิโชวอิน่า" สมญานามจักรพรรดินี แม้จะเป็นเพียงสตรี ผู้ดำรงตำแหน่งบอสชั่วคราวแทนพี่ชายที่ออกเดินทางไปต่างแดน แต่ชื่อเสียงถึงความน่าเกรงขามและเฉียบขาดก็ทำเอาชาวเมืองต้องหวาดผวา สตรีผู้มาพร้อมพัดจีนสีดำแดงเป็นดั่งอาวุธสังหาร จนมีคำพูดที่ว่า"ในยามที่เรย์เชลแห่งคิโชวอิน่าแฟมิลี่สะบัดพัดภูตพราย ฝนโลหิตจะพร่างพรมนองแผ่นดิน"
ทั้งสามแฟมิลี่ต่างคานอำนาจของเมืองซุยรีน่าไว้ในมือ ถึงขนาดที่แม้แต่ตำรวจก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้
แต่แล้ววันหนึ่ง "ทาคาซีนี วัลคาร่า" หญิงสาวสามัญชน ผู้เป็นหนึ่งในผู้อพยพจากต่างแดนก็ได้ย่างเท้าเข้ามาเปิดร้านเค้กเล็กๆที่ซุยรีน่าแห่งนี้....
----------
อะไรก็ไม่รู้ ตัดจบไม่มีต่อจ้ะ กูแค่หนีความจริง.........O]-[
ชื่อมีความอลัง พัดภูตพรายของเจ้าแม่ก็มาด้วย 555
Ky กูขอเสนอให้แยกห้องฟิคว่ะ อ่านในมือถือกว่าจะเลื่อนลงมาเจอสาระสำคัญ กูรำคาญ
ฟิคบางอันก็สปอยล์เลยแปลไทย ยังไม่มีบอกเลยว่าบ้านทาคามิจิมีน้องชาย
โม่งใหม่แนะนำตัวค่ะ // กราบโม่งแปลและกระโดดกอดโม่งฟิคทั้งหลาย ไม่เคยติด(กัญ)ชาขนาดนี้มาก่อนเลย 5555 รอฟิคนะ
>>599 ไม่แยกอ่ะ ไม่เกี่ยวกับห้องร้างไม่ร้าง แค่..มึงจะแยกทำไมอ่ะ ห้องนี้ก็เอาไว้คุยเรื่องเจ้าแม่อยู่แล้ว หลังมีคนลงฟิคสุดท้ายก็คุยเรื่องเจ้าแม่อยู่ดี กุเลยไม่เห็นด้วยที่จะแยกห้องอ่ะ แล้วก็ เรื่องสปอยล์ ทุกฟิคที่ผ่านมาเขียน ณ ตอนแปลไทยล่าสุดทุกครั้ง ข้อมูลไม่เกินแปลไทย ณ ขณะที่ลง คนที่ไปดำน้ำมาก็ใส่สปอยล์ทุกรอบ มึงอ่านพลาดหรืออ่านยังไม่ถึงแต่มามุดโม่งล่วงหน้าก่อนเองรึเปล่า?
>>598 ว้าว ฮัลโหลโม่งชาย กุก็นึกว่าโม่งซุยรันจะมีแต่สาวๆ ซะอีก ดีใจที่ได้รู้จัก
>>605 ยินดีต้อนรับสู่โลกแห่งความกาวค่ะมึง
จริงๆกระทู้มันไม่ใช่วงน้ำชาซุยรันหรอก เป็นโรงงานผลิตกาวชั้นดีมากกว่า5555
>>599 กูเป็นหนึ่งในคนที่ไม่อ่านฟิคว่ะ ยอมรับว่าก็แอบเบื่อที่ต้องเลื่อนหน้ารัวๆเหมือนกัน
แต่กูโหวตให้ไม่แยกเพราะคิดว่ารกห้อง กูว่าที่นี่เป็นบอร์ดรวมพูดคุยนิยายไง เรื่องที่ดังจริงๆก็แยกมู้กันไปแต่ถ้าจะให้เรื่องเดียวกันมีสองมู้อันนึงคุยเล่นอันนึงแต่งฟิคกูว่ามากไป
อีกอย่างกูว่ามันมีส่วนทับซ้อนกันระหว่างคุยเล่นกับคุยเรื่องฟิคว่ะ อย่างฟิคมะหมาที่ให้กำเนิดไซซายะ ก็เกิดจากการคุยเล่นว่าเอนโจเหมือนพ่อ เรย์กะเหมือนแม่ มาซายะเหมือนสัตว์เลี้ยง พองอกฟิคออกมา คงก็กรี๊ดหมาแล้วคุยว่าคนนู้นคนนี้จะเป็นไงต่อ หรือเวลาคุยโมเมนท์น่ารักๆที่อฟซชงหรือดมกาวเอง ถ้าแยกห้องเดี๋ยวคงต้องมานั่งเครียดอีกว่าเรื่องนี้ไปคุยมู้ไหนดีซึ่งกูว่าไม่ใช่เรื่องว่ะ
รู้สึกถึงกลิ่น(กาว)ที่อบอุ่นในการต้อนรับโม่งใหม่แบบกู อย่าแยกเหอะ กูว่าประเด็นสำคัญแม่งคือฟิคกาว หันไปดูชื่อห้องแล้วใึงจะได้คำตอบ
เพิ่งรู้ว่ามีคนไม่อ่านฟิค... ขอโทษจริงๆนะคะที่บางทีอาจจะเกะกะไปบ้าง...
ต่อจาก >>466-467
ตอนแรกเขียนฟิคนี้ก็กลัวๆนะคะว่าจะมีคนอ่านไหม เป็นเรือคาบุรากิเล็กๆท่ามกลางเรือเอ็นโจมากมาย
ตอนนี้เริ่มมีฟิคกับคนอื่นมาให้เห็นแล้ว สมกับชื่อกระทู้ "ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ" หน่อย 5555 เผื่อจะรอดพ้นคานอันน่ากลัวนั่นได้
ป.ล. พรุ่งนี้กำหนดส่งงานแล้ว อาจจะเขียนฟิคสั้นไป แต่ก็ควรหยุดเขียนฟิคไปปั่นงานแล้ว...
..............…….....
ตอนแรกฉันเครียดมากเลยค่ะว่าถ้าเข้าข้างวาคาบะจังมากเกินไป มีหวังเพื่อนๆต้องหันมาเป็นศัตรูแน่ๆ แต่ในโลกนี้ทุกคนดูเกรงฉันอยู่พอควร พอฉันบอกอย่างให้พวกเขาหยุด และเสริมว่า "ฉันรู้มาว่าจักรพรรดิไม่ชอบคนขี้แกล้งน่ะค่ะ" ทุกคนก็ยอมทำตามแต่โดยดี ไม่มีใครพูดถึงคดีเก่าฉันหรืออะไรเลยด้วย
แต่ว่าเหมือนทุกคนทำอะไรก็กลัวๆฉันไปหมดเลยค่ะ ฉันพอเข้าใจนะคะ เรย์กะ คิโชวอินมักจะเอาแต่ใจตัวเอง ใครไม่พอใจก็คว่ำบาตรกลั่นแกล้ง ใช้อำนาจของ Pivione ในทางผิดอย่างสุดๆ...
โลกก่อน มีแต่ผู้ชายเท่านั้นที่กลัวๆ ไม่กล้าสบตาฉัน โลกนี้มีผู้หญิงเองก็กลัวกันค่ะ แย่แล้วค่ะ ตอนนี้ฉันไร้เพื่อนเกินไปแล้ว
ตอนนี้คนเริ่มลือกันว่าฉันผีเข้า หัวกระแทก โดนคำสาปตุ๊กตาหินอะไรไม่รู้... ฉันเลยตัดบทข่าวลือบ้าบอหลุดโลกของทุกคนว่าฉันเสียความทรงจำบางส่วนค่ะ ซึ่งจะเรียกว่าเป็นความจริงก็ได้ เพราะฉันเองก็ไม่มีความทรงจำใดๆจากเจ้าของร่างเลยสักนิด ที่รู้ๆก็มาจากโลกก่อนทั้งนั้น ไปหาหมอตระกูลคิโชวอินก็ยืนยันเรื่องนี้มาให้ ตอนนี้ทุกคนเริ่มคลายความสงสัยว่าทำไมพฤติกรรมของฉันเปลี่ยนไป
ท่านพ่อกับท่านแม่ยิ่งเห็นดังนั้น ก็พยายามเอาความทรงจำฉันกลับมา เพราะฉันไปคัดค้านเรื่องฉ้อโกงล่ะมั้งคะ... เรายังทะเลาะกันหนักขึ้นอีก
ฉันเคยหวังว่าเรื่องทุจริตเป็นแค่การใส่ร้าย แต่ว่ามันคือเรื่องจริงงั้นหรอคะ... ได้โปรดบอกทีเถอะค่ะว่าฉันเข้าใจผิดไปเอง
เป็นอีกวันที่ฉันร้องไห้จนหลับไป...
..............…….....
ในวันงานเทศกาลมาถึงอย่างรวดเร็ว ครั้งนี้ฉันลงแข่งยืมของค่ะ ฉันนี้เป็นการแข่งที่ค่อยข้างพึ่งดวงมากกว่าออกกำลังกาย บางทีอาจจะดีกับเธอกว่าการแข่งอื่นๆล่ะนะคะ ฉันตั้งใจไว้ว่าจะปรับตัวมาดูดีในสายตาคนทั่วไปให้ได้ค่ะ เริ่มต้นด้วยการทำประโยชน์ให้กับห้อง
เป้าหมายแรก คือ ทุกคนไม่หลบหน้าหลบตาอย่างหวาดกลัวขนาดนี้ค่ะ
ฉันหวังว่าคงได้อะไรง่ายๆ ไม่ใช่โจทย์อะไรแปลกมาก ในวงกลุ่มคนในห้องฉัน มีคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า “มาพยายามกันเถอะนะ” ฉันรู้สึกอุ่นใจมากเลยค่ะ ดีจัง เหมือนทำกิจกรรมกับเพื่อนๆอยู่จริงๆเลยนะคะ
ฉันสวดภาวนาว่าจะได้ของที่หาได้ไม่ยาก เช่น แว่นตา หนังสือ แต่กลับได้ "คนเพศตรงข้ามที่สนิทที่สุด"
เอ๋! ! ! ยืมคนไม่ใช่ของงั้นหรอคะ! จะว่าไปในอีกโลกก็มีปีที่เป็นแบบนี้เหมือนกัน ฉันลืมไปเลยว่ามียืมคนในการแข่งยืมของด้วย...
แย่แล้วค่ะ ในโลกนี้ฉันไม่สนิทกับเพื่อนผู้ชายคนไหนเลย... อยู่ๆไปเอาคนที่ไม่เคยคุยด้วยมาจะดีไหมนะ แต่แบบนั้นก็ถือว่าผิดน่ะสิคะ ทำยังไงดี...
มีคนเข้าเส้นชัยไปแล้วคนหนึ่ง ฉันเริ่มตื่นตัวขึ้น จะยอมให้ห้องของฉันเป็นที่โหล่ไม่ได้หรอกนะคะ ฉันจะมัวแต่ยืนอึ้งแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว
ฉันตัดสินใจพุ่งตรงไปที่ผู้ชายคนเดียวที่นับว่าสนิทได้
"ท่านคาบุรากิคะ มากับฉันหน่อยได้ไหมคะ"
เสียงฮือฮาดังไปทั่วสนาม รู้สึกได้ถึงสายตาจับจ้องมา ประหม่าไปหมดแล้ว... รู้งี้ฉันน่าจะไปหาอาจารย์ผู้ชายดีกว่านะคะ ไม่น่าเพิ่งมานึกได้ตอนนี้เลย
"จะยืนนิ่งอีกนานไหม อยากเป็นที่โหล่หรือไง ฉันไม่เอาด้วยหรอกนะ"
คาบุรากิถามพลางจับมือฉันเตรียมพร้อมวิ่ง
"เอ๊ะ ค่ะ"
ฉันค่อยๆได้สติกลับคืนมา ก่อนที่คาบุรากิจะพาฉันวิ่งไปตามทาง ฉันรู้สึกเหมือนโดนกระชากไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว คล้ายๆกับถูกเหวี่ยงเลยค่ะ
เร็วไปแล้ว! แงงง ฉันหายใจไม่ทันแล้ว
"นี่เธอวิ่งหรือเดินกันแน่เนี้ย รีบหน่อยสิ อย่างน้อยจะได้ทันที่สอง"
ฉันหอบจนพูดตอบไม่ไหว
สุดท้ายหลังจากถูกลากจนตัวแทบปลิว ก็ได้ที่สองมาจริงๆค่ะ ความอยากเอาชนะของหมอนั่นยังสุดยอดเหมือนเคยเลยนะคะ...
เมื่อฉันเข้าเส้นชัย ก็ไม่มีแรงแม้แต่จะส่งการ์ดให้กรรมการ คาบุรากิเลยคว้ามาแล้วยื่นให้กรรมการแทนฉัน
เมื่อถูกประกาศว่าของที่ฉันต้องเอามาคืออะไร เสียงรอบทิศก็อืออึง แตกฮือกัน ฉันได้ยินเสียงเอะอะได้ทั่วที่จนจับคำพูดอะไรไม่ได้เลยค่ะ ฉันยืนพักอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะค่อยๆมีแรงพอจะประมวลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เดี๋ยวนะ! ! ! ฉันนึกถึงชัยชนะจนตาพล่ามัวไปหน่อย ความกลัวเป็นที่โหล่บังตาจนทำให้ทำเรื่องแบบนี้ขึ้น
เหหหหหหห มะ...เมื่อกี้ฉันทำอะไรลงไป!!!
ฉันมองหาวาคาบะจังอย่างรนราน แย่แล้วค่ะ ถ้าวาคาบะรักคาบุรากิขึ้นมาจริงๆ เธอต้องรู้สึกแย่แน่ๆที่เห็นคนที่รักวิ่งไปกับผู้หญิงที่ตามจีบคาบุรากิมาตลอดแบบฉัน
แต่ไม่ว่าพยายามแค่ไหนในการมองหา ฉันก็หาไม่เจอเลยค่ะ ส่วนหนึ่งคงเป็นเพื่อนของฉันมาล้อมบังรอบทิศแสดงความยินดีทั้งเรื่องกีฬาและความรัก...
จะว่าไป ทุกคนทั้งโรงเรียนมองฉันหลงรักคาบุรากินี่คะ แย่แล้ว พลาดไปแล้วจริงๆ...
คาบุรากิ... เมื่อนึกถึงสถานการณ์ปัจจุบัน นายควรจะปฏิเสธฉันนะคะ ฉันไม่รู้ว่าควรดีใจหรือเสียใจดี...
โลกนี้รู้จักเพื่อนผู้ชายแค่คนเดียวนี่ค่ะ ฮืออออ ทำให้เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว ไม่นะ สงสัยเพราะรถบรรทุกบ้าชนฉันแท้ๆ สติของฉันเลยขึ้นๆลงๆแบบนี้
หัวใจของฉันตอนนี้รู้สึกผิดแบบดำดิ่งมากค่ะ แม้คนรอบข้างจะดีใจกับฉันแค่ไหนก็ตาม...
กุเมากาวค่ะ ตอนนี้กุเริ่มแยกไม่ออกแล้วค่ะว่าฟิกไหนเป็นฟิกไหน
อ๊ะเรื่องแยกห้อง ขอโหวตอย่าแยกด้วยคนค่ะ
เรื่องครอบครัววาคาบะ มีพูดถึงสมาชิกครอบครัวไว้ตั้งแต่ตอนที่ 153แล้วนะ วาคาบะยังตบกะบาลมันอยู่เลย
ถ้าตัดฟิคไป กระทู้นี้ก็น่าหายไปอย่างน้อย1กระทู้ละ แล้วก็ถ้าแยกคุยแยกฟิคกันแบบนั้น มันจะต่างยังไงกะการไปเม้นคุยในเว็บแมวตรงๆไปเลยน่ะ? คุยตรงนั้นไม่ง่ายกว่าเหรอ?
>>622 ตัดฟิคไปกูว่าหายไปสามถึงสี่กะทู้เลยว่ะ เพราะ ฟิคก็มีราวๆหกสิบเรื่องแล้ว บวกกับเม้นกาวฟิคอีก แต่ละเรื่องเม้นตอบรับมิใช่น้อย มีเม้นสปอยกับวิชาการนิดเดียวเอง5555
>>619 กูรอฟิคมึงที่ท่าน้ำทุกวันเบย น่ารักมากก โมเม้นกีฬา ภาพเรย์กะโดนลากต้องตลกแน่ๆ ท่านเอ็นโจวก็คงอึ้งแดกเช่นกัล เลิฟมึงมาก มาจุ๊บเหม่งที แต่ตอนนี้สั้นว่ะ กูรู้สึกไม่เพียงพอ เอากาวไปรมเพิ่มซิ ฮู้วววว //ว่าแต่เขาฟิคกูยังไม่แต่งต่อ //นอนตาย
ขอไม่แยกอีกเสียง ตอนเข้ามาแรกๆก็มาตามหาสปอยให้ชุ่มชื้นหัวใจแหละ แต่พอเจอกาวเข้าก็หาทางกลับออกไปไม่ถูกละ
กูโม่งสารบัญเอ็นโจ อยากมาบอกว่า.. กดแก้ไข justpaste.it ตรงไหนง่ะ... กูไม่เคยใช้ แง55555
มายก้อด ไม่ได้มาแปปเดียวกาวกันขนาดนี้เลยเรอะ
สวัสดีค่ะ เราโม่งใหม่นะ พึ่งเคยโผล่มาแปะฟิคครั้งแรก ภาษาไม่สวยขออภัย ;-;
-----------------------------------------------------
บันทึกของผู้หญิงคนหนึ่ง(?) 1
ฉันเป็นลูกสาวของตระกูลขุนนางเก่าแก่จากเกียวโตที่ต้องย้ายเข้ามาในตัวเมืองเพราะว่าที่คู่หมั้นของฉันเรียนอยู่ที่โรงเรียนที่ชื่อว่าซุยรัน
ถึงแม้ว่าฉันจะเป็นบุตรคนโตในบ้านก็ไม่มีสิทธิ์ในการปฏิเสธข้อตกลงของพวกผู้ใหญ่ที่ให้สัญญาซะดิบดีว่าจะเอาลูกสาวลูกชายคนโตมาเกี่ยวดองกัน โดยไม่ถามความเห็นเจ้าตัวเลยซักนิด!
ทั้งๆที่เคยคิดวาดฝันไว้ว่าฉันอยากจะเป็นเจ้าหญิงเหมือนในนิทานแต่งตัวสวยๆมีทรงผมที่งดงาม แล้วจะมีเจ้าชายขี่ม้าขาวมาขอแต่งงานด้วยแท้ๆ กลับกลายเป็นต้องแต่งกับใครก็ไม่รู้ในอนาคต
ท่านแม่จูงมือฉันที่พึ่งลงจากรถคันหรูของตระกูลแล้วชี้ไปที่กำแพงสีอิฐสวยงามที่ตั้งตระหง่านตรงหน้า
"เดี๋ยวลูกจะได้มาเรียนที่ซุยรันแล้ว ลูกเข้าไปในPivoineจะได้เจอคู่หมั้นของลูก ตระกูลคิโชวอินเลยนะ ตื่นเต้นไหมจ้ะ"
จะตระกูลคิโชวอินหรือตระกูลบ้าอะไรก็แล้วแต่ ลูกจะไม่ยอมหมั้นกับใครถ้าไม่ใช่เจ้าชายหรอกนะคะ!
พอกลับมาถึงบ้านก็รีบเดินเร็วๆอย่างสง่างามตามที่ท่านแม่สอนตรงดิ่งไปที่ห้องนอนทั้งที สิ่งที่เยียวยาหัวใจอันบอบช้ำน้อยๆคงมีแต่พวกเธอเท่านั้น...
"ฉันกลับมาแล้ว" ร่างกายของฉันเหมือนมีแรงดึงดูดกับสิ่งเหล่านั้นที่อยู่บนเตียง รู้ตัวอีกทีก็นอนกอดพวกตุ๊กตาฝรั่งเศสที่แสนน่ารักไปซะเต็มอ้อมกอด
นี้ถ้าคุณคู่หมั้นรู้ว่าฉันเป็นเจ้าหญิงแห่งตุ๊กตาจะรับได้ไหมนะ เด็กผู้ชายน่าจะไม่ชอบอะไรแนวนี้ซะด้วยสิ ถ้าเราถือติดมือตอนไปเรียนต้องไม่กล้าเข้าใกล้เราแน่ๆ จากนั้นเค้าต้องเอ่ยปากขอถอนหมั้น แล้วฉันจะได้เป็นอิสระ!
ช่างเป็นแผนที่ดีเสียจริงๆ อุโฮะๆๆ อยากให้ถึงวันเปิดเทอมเร็วๆจัง จะได้รีบจบเรื่องนี้บ้าๆแบบนี้เร็วๆ....
//เดี๋ยวมาต่อพรุ่งนี้ ถ้ามีคนจะอ่านต่ออ่ะนะ
>>632 ท่านพ่อสมัยหนุ่มอาจจะเป็นเจ้าชาย หล่อปิ๊งแว้บ สาวติดตรึมคาสโนว่าอย่างท่านอิมาริ แต่พอแต่งงานกับท่านแม่ความคาสโนว่าก็หายไป เหลือแค่ความเป็นพ่อบ้านใจกล้าเท่านั้น
ปล. กูเพิ่งรู้ว่ามีโม่งบางคนไม่อ่านฟิคในกระทู้นี้ กูก็เป็นอีกคนที่ชอบลงฟิคยาวๆยืดๆเหมือนกัน ขออภัยพวกมึงด้วยนะที่ทำให้ต้องเลื่อนสไลด์นิ้วจนเมื่อยอะ กูหลงคิดไปว่าคนเข้ามาในกระทู้นี้จะมาเม้ามอย อ่านฟิคกันหมดทุกคนเลย สงสัยกูจะเอาตัวเองเป็นบรรทัดฐานมากไป
>>594 ขอมโนต่อสั้นๆก็แล้วกันนะ
****มุมมองของเรย์เชล****
วันนี้ฉันก็คงทำหน้าที่แทนท่านพี่ที่ไปต่างแดน ถึงแม้ในตอนแรกฉันไม่คิดจะเข้ามาทำงานด้านนี้ แต่เพราะสามเดือนก่อน ท่านพี่ขอร้องให้ฉันมาช่วยงานในขณะที่ท่านพี่ไปที่ต่างแดน เพราะว่าอยากจะตอบแทนท่านพี่ที่เคยช่วยเหลือแหละคอยให้คำแนะนำ ฉันจึงตอบรับ ถึงแม้ฉันจะไม่รู้อะไรเลยก็ตาม
แต่โชคดีที่ได้เลขาของท่านพ่อ และบอดี้การ์ด คุณ มาฮ่าร่าคอยแนะนำ หน้าที่ของฉันนั้น ไม่ได้มีอะไรมากนัก เพียงแค่อยู่ในห้องนี้ และรับซองจากคนในแฟมมิลี่ ที่ไปเก็บมา ถ้าถามดิฉันว่า พวกเขาเอาเงินจากไหนมาให้
เคยได้ยินจากคุณมาฮาร่าว่า รายได้ของแฟมมิลี่ของเรานั้น ส่วนใหญ่มาจากคาสิโน และการเก็บค่าคุ้มครอง และอสังหาริมทรัพย์ โดยคุณมาฮาร่านั้นบอกกับฉันว่าถึงแม้พวกเราจะไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับคนนอกแฟมมิลี่ ตำรวจ และแฟมมิลี่อื่นๆ แต่ถ้าพวกพวกคนที่เขาเช่าที่ของเราอยู่ ได้รับความเดือดร้อนไม่ว่าจากใครหน้าไหนทางแฟมมิลี่ก็จะไปจัดการกับปัญหาเหล่านี้ด้วยเช่นกัน
แต่ละคนในแฟมมิลี่ก็จะมีหน้าที่แตกต่างกันไปซึ่งฉันก็ไม่เข้าใจมากนัก แต่สิ่งที่พวกเขาจะต้องมีคือความตรงต่อเวลา ซึ่งท่านพีาเข้มงวดตรงนี้มาก
ไม่นานนัก เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
"เข้ามาได้เลยค่า" เอาล่ะ วันนี้เองเราก็ต้องทำเต็มที่
"สวัสดีครับ นี่ครับ นายหญิง" เป็นชายร่างโต ที่มักจะมาเวลานี้เป็นประจำ เขายื่นซองสีน้ำตาลมาให้ ข้างในมีเงินปึกใหญ่อยู่
"วันนี้ปรกดีไหมคะ ?" ฉันถามชายคนนั้น คุณมาฮาร่ากำชับไว้เสมอว่า อีกหน้าที่หนึ่งของคนในแฟมมิลี่ก็คือ เป็นหูเป็นตาให้กับฉัน และฉันควรที่จะถามทุกคนที่มายื่นซองให้
"มีคนนอกเข้ามาเปิดร้านเค้กในเมืองน่ะครับ เข้าของร้านชื่อ ทาคาซีนี วัลคาร่า ได้ยินว่าเค้กอร่อยจนคู่แข่งการค้าที่เป็นลูกสาวคนใหญ่คนโตของเมืองนั้นจนต้องออกมากเมือง
มาอยู่ในพื้นที่ของเราน่ะครับ แต่ก็โชคร้ายที่ลูกสาวคนดังคนนั้นตามราวีไม่เลิก"
เค้กเหรอคะ มีร้านเค้ก ในพื้นที่ของฉันด้วย? ทั้งที่ปรกติแล้วร้านเค้กทั้งหมดจะอยู่ในพื้นที่ของ เอ็นโซ และคาราบุกิโน่แท้ๆ ถ้าอย่างนั้น ฉันก็คงต้องไปลองแล้วล่ะค่าาาาา
"เดี๋ยวคุณต้องแวะไปหาคุณมาฮาร่าใช่ไหมคะ ช่วยบอกเขาทีว่าเย็นนี้ดิฉันจะไปร้านเค้กที่เปิดใหม่นั่นซักหน่อย"
"ค...ครับนายหญิง" ชายคนนั้นพูดเสียงสั่นก่อนจัะรีบออกจากห้องไป
****มุมมอง ของ สมาชิกแฟมมิลี่ผู้นิยมเสพมโนโซเดียมกลูตาเมทเกินขนาด****
น...ในที่สุดท่านจักรพรรดินีก็เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว ไม่ผิดแน่รอยยิ้มที่แทบจะเก็บเอาไว้ไม่อยู่ของจักพรรดินีคนนั้นหลังจากได้ยินเรื่องที่ คนในพื้นที่ที่ถูกคนนอกเมืองตามมารังแก งานนี้นองเลือดแน่ๆ
จักพรรดินีคงใช้เรื่องในคราวนี้ ป่าวประกาศว่า หากใครที่มายุ่มย่ามกับคนในพื้นที่ของคิโชวอิน่า มันจะต้องเจอกับอะไร? ก็แน่ล่ะ ฝนเลือดโปรยปรายแน่นอน ไม่มีใครหน้าไหนกล้าหยุดพัดถูติพรายของนายหญิงกันหรอก ขนาด มาซิโอแห่งคาบุรากิโนยังเคยโดนจักพรรดินีตะคอกใส่หลังจากนั้นไม่นาน ชูโซเนแห่งเอ็นโซ ก็ยังโดนหมัดของจักพรรดินีมาแล้วเพราะไปทำให้เธอโกรธ ถึงแม้จะมีการปิดข่าวแต่เรื่องเหล่านั้นต่างก็ถูกพูดกันอย่างลับๆในแฟมมิลี่ของเรา คิดเอาแล้วกันกับระดับบิ๊กของสองแฟมมีลี่ยังโดนขนาดนี้ คนนอกจะเละขนาดไหน ยังไงก็เถอะ ไว้อาลัย ลูกสาวคนใหญ่คนโตคนนั้นก่อนเลยก็แล้วกัน เธอซ่าส์ผิดที่แล้วอีหนู
ชิบหาย ลืมบอกไปว่า ไม่มีต่อแล้วนะ กับ ไม่ใช่คนแต่งออริจินอล เรย์เชล นะ แต่ขอมโนต่ออีกนิดแค่นั้นเอง ถ้าไม่ถูกใจก็ขอโทษนะ 5555
อันนี้ไม่ใช่ฟิค แต่กุฝันเห็น...
บทพูดอาจเว่อร์ๆหรือแปลกๆหน่อยแต่กุไม่อยากดัดแปลงจากในฝัน
อาริมะคือชื่อจริงของนายตัวสำรองนะ
-------------------------------------------------
ในอาณาจักรแห่งหนึ่ง มีองค์หญิงนามว่า เรย์กะ อายุ 7-8ปี
ในวันนี้ช่วงที่ท้องฟ้าฉาบไปด้วยแสงพระอาทิตย์ยามเย็น เธอได้เดินเล่นในสวนของราชวัง
จนกระทั่งเจอสุนัขตัวหนึ่งที่ไม่เคยเห็น วิ่งผ่านมาทางเธอ มันเองก็สังเกตุเห็นเธอเช่นกัน จึงหยุดแล้วยืนมองเหมือนหยั่งเชิง ปากอ้าเหมือนกำลังยิ้ม
'สุนัข? ตัวใหญ่จัง ขนท่าทางจะนุ่มนิ่มนะ...'องค์หญิงเรย์กะคิดขณะเดินเข้าไปหามัน ทว่ามีเสียงหนึ่งขัดขึ้นก่อน
"เดี๋ยวก่อนพะยะค่ะ องค์หญิงเรย์กะ!!"เสียงหนึ่งในพ่อบ้านคนสนิทของเชื้อพระวงศ์ดังขึ้น
พ่อบ้าน อาริมะ เขามีระดับเทียบเท่ากับหัวหน้าพ่อบ้านของราชวัง เป็นพ่อบ้านที่เข้มงวด เจ้าระเบียบ แต่ซื่อสัตย์และใจดี
"เจ้าตัวนั้น เป็นสุนัขที่หลุดมาจาก..."เขาพยายามห้ามด้วยเหตุผลบางอย่างแต่ก็ดูราวกับว่าไม่สามารถบอกเหตุผลกับองค์หญิงวัย8ขวบของอาณาจักรได้
"คือว่า สุนัขตัวนั้นเป็นอันตรายต่อท่านพะยะค่ะ ได้โปรด กรุณาให้กระหม่อมนำมันกลับไปปล่อยไว้ในที่ที่สมควรเถิดพะยะค่ะ"พ่อบ้านคุกเข่าลงพูดกับองค์หญิงเพื่อไม่ให้เป็นการยืนอยู่เหนือระดับศีรษะ
ใบหน้าของเขาดูจริงจังแต่แฝงไปด้วยความเป็นห่วง ผมที่เคยเสยขึ้นไปโชว์หน้าผากก็หล่นลงมาหมดราวกับไปผจญภัยที่ไหนมาจนผมเสียทรง แต่ด้วยทรงแบบนี้กลับทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ มากขึ้นจากอายุที่น่าจะราวๆ20เป็น18ปี
(ชุดพ่อบ้านอาริมะประมาณนี้ สีหน้าก็ใช่ http://img1.ak.crunchyroll.com/i/spire3/177ca02f4ca6485c28dea03b479032b91225314670_full.jpg)
"นำไปปล่อย!?! เจ้าว่าอะไรนะ? เจ้าจะนำสุนัขที่แสนน่ารักตัวนี้ไปปล่อยทิ้งไว้อย่างนั้นหรือ!!"องค์หญิงได้ยินว่าพ่อบ้านของเธออาริมะจะนำเจ้าหมาพันธ์ซามอยด์สีขาวขนฟูฟ่องตัวนี้ไปปล่อยทิ้งก็แทบลมจับ
'อะไรกัน ทั้งๆที่คิดว่าเป็นพ่อบ้านที่เข้มโหดแต่จริงๆแล้วใจดีมาตลอดแท้ๆ น่าผิดหวังจริงๆ!' องค์หญิงเรย์กะพร่ำบ่นในใจด้วยความคิดของเด็กๆที่ [ไม่รู้เรื่องอะไรเลย]
"ไม่ใช่อย่างนั้นพะยะค่ะองค์หญิง คือว่าเจ้าสุนัขตัวนี้มัน---"พ่อบ้านพยายามอธิบายต่อด้วยสีหน้าที่ลำบากใจ
"ข้าไม่ฟังคำแก้ตัวของเจ้าแล้วอาริมะ!! ไปกันเถอะเอ็นโจ!"องค์หญิงยกพัดป้องปากแล้วสะบัดหน้าใส่พ่อบ้านอาริมะ จากนั้นจึงหันไปเรียกเจ้าสุนัขพันธ์ซามอยด์ด้วยชื่อที่เพิ่งตั้งให้ โดยเดินไปด้วยกันราวกับเป็นสุนัขกับเจ้าของ
"องค์หญิง-----!!"พ่อบ้านอาริมะส่งเสียงเรียกตามมาแต่ไม่อาจจะขัดใจองค์หญิงได้
-------------------------------------------------
ต่อข้างล่างจ้ะมึง
ต่อจ้ะมึง
-------------------------------------------------
ในกลางดึก คืนนั้นเอง
"ข้าหิวจัง เอ็นโจเราไปหาอะไรกินกันเถอะ!"เจ้าหญิงพูดด้วยความกระตือรือร้นเมื่อนึกถึงของกิน
เธอเดินนำไปโดยมีสุนัขพันธ์ซามอยด์สีขาวนามเอ็นโจเดินตาม จนกระทั่งมาหยุดอยู่หน้ากำแพงขาวล้วนส่วนหนึ่งของปราสาท เธอไม่เคยเห็นกำแพงที่ไร้ลวดลายตกแต่งในปราสาทมาก่อนราวกับว่ามันซ่อนตัวอยู่
มันช่างรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาดราวกับว่าเธอรู้เรื่องบางอย่าง ในตอนนั้นเองสายตาของเธอก็ไปประสบเห็นตัวหนังสือข้างขอบกำแพงนั้น
[ประตู ----------] //*กุจำไม่ได้ ในฝันมันเลือนราง
องค์หญิงกดปุ่มใกล้ๆตัวหนังสือนั้น แล้วก็มีตัวอักษรขึ้นมาบนกำแพง [ประตูห้องของ-------------] //*จำไม่ได้ // เธอกดมันอีกครั้งตัวอักษรบนกำแพงก็เปลี่ยนไปอีกเรื่อยๆจนกระทั่ง...
[ประตูห้องอาริมะ] เธอหยุดกดเมื่อปรากฏอักษรนี้ "เป็นเทคโนโลยีที่สะดวกจังเน้อออ" เธอพึมพัมพร้อมกับใช้มือลูบตัวอักษร [ประตูห้องอาริมะ] ทันใดนั้น ตัวอักษรก็หมุนวนและเพิ่มจำนวนมาเรียงกันจนกลายเป็นประตูบานหนึ่ง
ด้วยสัญชาตญาณหรือสิ่งใดก็ไม่อาจทราบได้ องค์หญิงเรย์กะก็เปิดบานประตูนั้นเข้าไป
ข้างในห้องนั้นกลับไม่ใช่ภาพห้องส่วนตัวที่มีเตียงนอนของพ่อบ้านแต่อย่างใด แต่กับเป็นห้องโล่งสีขาวล้วนไม่สิ้นสุด
ที่กำแพงใกล้ๆกันกับตัวเจ้าหญิงมีลายคล้ายๆกับลิ้นชักอยู่ เมื่อเธอเพ่งมองดูก็ปรากฏตัวเลขขึ้นมา เธอสุ่มเลือกตัวเลขหนึ่งขึ้นมาในใจ
[ตอนที่ Ch.728/Ch.768/Ch.278/Ch.286] //*สักตัวกุจำไม่ได้ว่าเลขไหน มีสามตัวเลขเป็นหลักร้อยที่แน่ๆคือมีเลข7กับ8 ส่วนอีกตัวคือ2หรือ6กูไม่แน่ใจ
ข้อความที่ปรากฏอยู่ข้างล่างเลขตอนนั้นเขียนว่า [ปรากฏฉากที่พ่อบ้านอาริมะตาย]
"เอ๋!!!------"เธออุทานด้วยความตกใจ ทันใดนั้นสิ่งที่รุปร่างคล้ายๆฟิมล์ภาพยนตร์ก็ปรากฏขึ้นมากมายแล้วถูกดึงดูดรวมเข้าไปในตัวเธอ
ในตอนนี้องค์หญิงได้รู้แล้วว่า โลกใบที่เธออยู่นี้เป็นเป็นเพียงเรื่องในนิยายที่เธอเคยอ่าน โดยที่ตัวเธอเป็นบัคของโลกนี้นั่นเอง...
-------------------------------------------------
ฉับ! กูตื่นเพราะพัดลมหนาวมาก //สาบานว่าเบอร์1 ปอดกูจะบวมตายห่า
เพราะเป็นฝันของกู หมาพันธ์ซามอยด์เลยชื่อเอ็นโจ //ตอนเรย์กะเรียกเอ็นโจกูยังตกใจเลย ประมาณว่า 'เชี่ย! นั่นเอ็นโจหรอวะ?' ถ้าในฝันกุมีสติมากกว่านี้มันอาจชื่อชูสุมอยด์ก็ได้
ที่กูเคืองคือ ไม่มีคาบุรากิ!! กุเรือคาบุนะ แต่เจออาริมะในฝันแล้วกูกำลังคิดเรื่องย้ายเรือว่ะ อาริมะหล่อโคตร!
>>640 >>641 ชุดพ่อบ้านอาริมะ ลิงก์ไม่ติดเฉย http://img1.ak.crunchyroll.com/i/spire3/177ca02f4ca6485c28dea03b479032b91225287228_full.jpg
>>647 น่ากลัวสัส 5555555555555555 แต่ในฝันกูก็อยู่ในมุมมองท่าเรย์กะจริงๆนั่นแหละ เลยบรรยายไม่ได้ว่าเรย์กะหน้าตายังไง//ปกติมึงก็ไม่เห็นตัวเองนอกจากส่องกระจกใช่ไหมล่ะ แต่ก็มีบางฉากที่กุเห็นมุมมองบุคคลที่3
//จริงๆคือกูเคยฝันหวยล่วงหน้าว่ะ หลายครั้ง แต่พอซื้อเสือกไม่ออก พอไม่ซื้อแม่งเสือกออกอีก กุพอละ พระเจ้าแม่งเล่นตลกกับกู
เรื่องแยกห้อง กุว่าพอแยกไป สุดท้ายก็ไปนั่งเมาส์ ไปกาวอยู่ที่ห้องฟิคกัน เพราะมันมีไรให้คุย
แล้วมันก็จะมีคนแบบกุแน่ๆที่ขี้เกียจเปลี่ยนไปมา สิงแม่งที่เดียว คุย เมาส์มอย ต่อฟิค สปอย
เพราะงั้นแยกก็ได้ ไม่แยกก็ได้ กุไม่เดือดร้อนหรอก
สรุปแล้วก็ไม่ต้องแยกหรอกเนอะ ฟิคมันเป็นประเด็นใหญ่ๆให้คนคุยกันในกระทู้ด้วยล่ะมึง
เออกูว่าฟิคมันก็เยอะ แต่กูก็สิงห้องนี้อยู่ดีว่ะถึงแม้กูจะไม่ค่อยอ่านฟิคก็ตาม กูชอบกาวอฟช.มากกว่า แต่ฟิคพวกมึงบางเรื่องก็ดีนะ อร่อยยย
ยอมรับว่าถ้าฟิคยาวมากนี่ไถเหนื่อยฉิบหาย ถ้ามีแบบวางลิงก์กูคงโอเค แบบไถง่ายดี แต่ถ้าไปเปิดแอคพวกมึงคงโม่งแหกใช่มั้ย 5555
กูชอบถกเนื้อเรื่องนะ แต่มีฟิคให้อ่านแล้วเมากาวฟิคปนๆ ไปกับอฟช.ก็เพลินดี ที่สำคัญกูว่ามันอบอุ่นดี กูแอบไปส่องบอร์ด 2ch ที่เม้าท์เรื่องนี้ของญี่ปุ่น พบว่าบอร์ดเหมือนจะแม่งแตกไปรอบเพราะแต่ละเรือแม่งตีกันเองเละเทะต้องออกมาตั้งบอร์ดใหม่ที่ปรามๆ คู่ชิปน้อยลงหน่อย ส่วนบอร์ดเก่าก็ร้างไปเลย ไรงี้ ไปอ่านๆ ดูก็เพลินดี หวังว่าไม่ว่าลงเรือลำใด หมู่เฮาก็จะรักใคร่สมานฉันท์กันต่อไปนะ
กูสิงอยู่กับเรื่องนี้มาตั้งแต่แปลไทยยังมีไม่ถึงยี่สิบตอน มีคนพูดถึงบ้างในกระทู้ไลท์โนเวลสมัยที่ยังไม่แยกจากห้องอนิเมะเลย เห็นคนคุยเรื่องนี้แต่มีไม่กี่เมนท์กูก็ไม่กล้าเมนท์ต่อเพราะดูมันไม่ค่อยมีใครอ่าน กูจะไปแสดงความติ่งก็ใช่ที่ เดี๋ยวเขาจะกลัวเอา แม้ตอนนั้นจะคันปากยิบๆอยากเม้าก็ตามก็ต้องข่มใจไว้ จนมาที่ห้องลิทที่เม้ากันยาวเหยียดจนมาห้องนี้ กูชอบอ่านที่พวกมึงถกเนื้อเรื่องหรือคร่ำครวญกันนะ แม่งฮาสัสๆ กูก็เผลอมโนตามพวกมึงบ่อยมาก จนมาห้องนี้เหมือนได้ปลดปล่อยความกาว สาดกาวใส่กันไม่ยั้งเลย กูก็รมกาวตัวเองอย่างสนุกสนานด้วยคน แม่งอบอุ่นดี พวกมึงดีดกันสัสๆ จนกูเผลอดีดตาม เขียนฟิคไปร่วมแจมด้วย กูไม่ได้เขียนฟิคมาเป็นชาติแล้ว ต้องกลับมาเขียนเพราะเรื่องนี้และพวกมึงเลยนะ 5555555
เออ เพิ่งมาตั้งใจอ่านเรื่องแยกไม่แยก ส่วนตัวกูชอบแบบนี้อะ มันอบอุ่นดีจริงแหละ ที่สำคัญอ่านง่ายดี (สำหรับกู) เพราะทุกสิ่งรวมกันอยู่ที่เดียวไม่ต้องเปิดหลายหน้า รีเฟรชที่เดียวจบไม่เหนื่อยดี ฟิคบางเรื่องกูก็ไม่ได้อ่านนะ แต่ก็แค่ไถผ่านไปไง แป๊บๆ ก็พ้นละ คือในฐานะคนเสพอย่างเดียวแบบกู มีคนแต่งฟิคมาให้อ่านเยอะๆ ให้เลือกรักใครชอบใครได้ก็ดีใจแล้วนะ อฟชและกาวกูคุยได้หมด
อย่าแยกเลยมันจะอาจจะอ่านยากสำหรับคนที่ไม่ชอบฟิค แต่กุว่าฟิคมันเป็นส่วนนึ่งของวง(กัญ)ชาพวกเรานะ ขาดไปเหมือนขาดกาวเสพไม่แล้วเดี๋ยวไม่ถึงใจ
บางคนอาจจะไม่ชอบที่ไม่ใช่เรือตัวเองก็ข้ามๆไปก็ได้ แต่กุลงทุกลำที่ผ่านมาถ้าได้ฮาเร็มจะดีงามมากกกกก-.,- หลุดมาต่างโลกแบบนี้มันต้องฮาเร็มไปเลยดิว่ะ ทำไมเรย์กะกุยังขยันหักธงขนาดนี้
Ky กูๆๆ กูอยากรู้ว่าเรื่องนี้มีแฮชแท็กในทวิตเตอร์บ้างมั้ย อยากอ่านอยากหวีดในทวิตบ้าง ในทวิตกูไม่มีคนอ่านด้วยเลย 5555555
กุไม่ค่อยเล่นทวิต ทวิตนั้นกุตามสายเกา พวกนิยายจะมาโม่งมากว่า
ในทวิตกูยังมีไปหวีดๆบ้าง แต่เฟสบุ๊คนี่ต้องห้ามโคตรๆ 55555
บางทีก็อยากจะเม้นท์ในเว็บแมว เห็นคนถามว่าอาโออิคือใคร อยากจะเอาลิงก์ตัวละครไปแปะ แต่กลัวมันไปโผล่ในฟี้ด โม่งแตกอีก เลยไม่ได้โพสเลย 555555
กุก็หวีดในทวิตนะเว้ย แต่เงียบสงบมาก
คือเฟสกูนอกจากเพื่อนก็พวกลูกค้า เจ้านายไรงี้ไง นอกจากไม่อยากให้เขารู้ว่ากูเสพนิยายการ์ตูนแล้ว บางทีกูก็ดองงานเขาไง... อยากจะทำตัวหายสาปสูญประหนึ่งว่าทำงานอยู่ //แค่กๆๆ
เอาวะไหนๆก็ต่อให้จบเคส
งานของวันนี้เกือบจบลงแล้ว ฉันก็อาบน้ำและเปลี่ยนชุดใน เพื่อไปร้านเค้กที่ว่านั่น มีความสุขจังเลยค่าาาา
ฉันเปิดตู้เสื้อผ้าออกมา ฉันคิดไปคิดว่า ใส่ชุดที่เป็น"หน้าตา"ของแฟมมิลี่ ที่ริริน่าเป็นคนพาฉันไปตัดมา เป็นเสื้อสูทสีดำ เช่นเดียวกับเสื้อด้านในที่ริริน่าก็แนะนำว่าควรจะเป็นสีดำเหมือนกัน
เพื่อให้เนคไทสีแดงของฉันนั้นเด่นสะดุดตา กางเกงขายาวที่เข้ากับรูปร่างของฉันเป็นอย่างดี เข็มขัดหนังที่หัวเป็นรูปดอกโบตั๋นสั่งทำพิเศษเช่นเดียวกับต่างหู รองเท้าหนังส้นสูง หมวกฟีดอร่าสีดำคาดแดง และแว่นตาดำ
เอาล่ะ ใส่ชุดนี้ไปก็แล้วกันค่า แน่นอนว่าฉันก็ยังทำทรงผมม้วนลอนเหมือนเดิม แต่เพียงแต่ฉันออกจากห้อง เหล่าคนในแฟมมิลี่ต่างก็สะดุ้ง รึว่าจะโดนแมลงกัดกันคะนั่น เมื่อชั้นไปถึงหน้าบ้านรถก็มารอรับฉันอยู่แล้ว
คนขับรถก็คือเลขาของคุณพ่อ และมีคุณ มาฮาร่าที่เป็นบอดี้การ์ดของฉันตามไปด้วย เหตุผลก็เพราะความปลอดภัย รถขับออกมาไม่นานนักเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นมา
"ดิฉันเอง มีอะไรรึคะ คุณไซก้า" คุณไซก้านั้นเป็นเลขาส่วนตัวของริริน่า ผู้กว้างขวางทางด้านข่าวกรอง
"มีข่าวที่น่าสนใจค่ะ คิดว่าท่านเรย์เชลต้องชอบแน่ๆ"
"ค่ะว่ามาได้เลย" เมื่อฉันได้ยินสิ่งที่คุณ"ซก้าพูด ฉันก็ขอบคุณเธอไปทันที
"เป็นข่าวที่ดีค่ะ ขอบคุณนะคะคุณไซก้า"
"ค่ะ ยินดีค่ะที่ได้รับใช้ท่านเรย์เชล " หลังจากพูดจบเธอก็วางสายไปทันที อา เมื่อไรจะถึงร้านเค้กนั่นกันนะ ในขณะที่ฉันกำลังคิดอะไรเพลินๆ
"นายหญิงครับ พกปืนมารึเปล่าครับ" เป็นคุณมาฮาร่าที่เป็นคนถามขึ้นมา แต่ฉันไม่อยากถือของอันตรายแบบนั้นหรอกค่าาา ฉันเลยหยิบพัดคู่ใจขึ้นมา
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันมีอาวุธเป็นพัดอันนี้ก็พอแล้วค่ะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาจริงๆ ถึงตรงนั้นฉันเชื่อมั่นในตัวพวกคุณทั้งสองคนค่ะ" ฉันขอย้ำอีกครั้งว่าของอันตรายแบบนั้นถึงตายก็ไม่มีวันถือหรอกค่าา
"ได้ยินว่าจากหมอนั่น(คนในแฟมมิลี่ตอนก่อน) ว่าจะไปทักทายเจ้าของร้าน"
"ก็ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ ก็แค่อยากจะไปดูร้าน ไปหาเค้กทานเท่านั้นแหละค่ะ "
"ครับ" คุณมาฮาร่าตอบแค่สั้นๆ
มาถึงร้านเต้กแล้วค่า เป็นร้านขนาดกลางที่ดูสวยมากเลยล่ะค่ะ ถ้าไม่ติดว่าฉันเห็นคนมุงกันอยู่หน้าร้าน เสียงผู้หญิงด่่าคนใ และกระจกที่หน้าร้านเค้กแตก ไปสองสามบาน ผู้หญิงคนนั้น ลักษณะที่คุณไซก้าบอกไม่มีผิดเลย
แย่จัง ทำไมต้องเป็นเวลานี้ด้วย ยืนฟังได้ไม่เท่าไรฉัน คุณเลขามราอยู่ด้านซ้าย ท่านมาฮาร่าที่อยู่ทางด้านขวาและ ตัวฉันที่อยู่ตรงกลาง ต่างก็เดินเข้าไปท่ามกลางความวุ่นวายร้านเค้กแห่งนั้น
"ขอทางหน่อยค่ะ" ฉันพูดขึ้นมา คนที่ได้ยินเสียงของฉันต่างก็กันหน้ามามอง เมื่อเขาเห็นหน้าฉันพวกเขาก็ตกใจสุดขีดและเปิดทางให้ฉันราวกับผึ้งแตกรัง
และตรงนั้นมีผู้หญิงใช่ชุดเดรสสีแดง กับชายอีกสองคนที่น่าจะเป็นบอดี้การ์ดของเธอ
"ไม่ทราบว่า คุณผู้หญิงโวยวายเรื่องอะไรกันคะ" ฉันถามเธอ มืออีกข้างหนึ่งก็ความหาอาวุธคู่ใจ
"เรื่องของฉัน ฉันจะทำอะไรก็เรื่องของฉัน เธอไม่รู้เหรอว่าฉันเป็นคนของใคร"
"ฉันไม่จำเป็นต้องรู้หรอกค่ะว่าคุณเป็นใคร แต่ขอแนะนำเลยก็แล้วกันค่ะ ดิฉัน คิโชวอิน่า เรย์เชล พื้นที่ที่คุณยืนอยู่ตรงนี้ อยู่ในการดูแลของดิฉัน " ยังไม่ทันไรเลย พวกคนในแฟมมิลี่นับสิบคนพร้อมอาวุธครบมือ
ไม่ทราบว่าออกมาจากตรงไหนกันค๊าาา แล้วพกของพวกนั้นออกมาทำไมเนี่ย แต่หลังจากที่เธอ ได้ยินชื่อของฉัน และเหล่าสมาชิกแฟมมิลี่ที่ปรากฏตัวพร้อมอาวุธ เธอหน้าซีดลงอย่างเห็นได้ชัด
แต่อาวุธตั้งเยอะแยะแบบนั้น เดียวมันลั่นขึ้นมาจะทำยังไงล่ะค้าาาต้องห้ามแล้วล่ะค่ะ แต่จะห้ามแบบหวานๆเนี่ย ทั้งท่านพี่ ทั้งท่านมาฮาร้่า ทั้งท่านพ่อ ต่างก็บอกว่า ห้ามแบบนั้นไม่ได้ ต้องดุดันเข้าไว้
คงต้องทำใจยักษ์แล้วล่ะค่ะ
"ผู้หญิงคนนี้ แค่ฉันคนเดียวก็พอแล้วค่ะ ไม่ต้องไปเปลืองแรงพวกคุณตั้งมากมายหรอก เดี๋ยวคนจะว่าเอาได้ว่าพวกเราขี้ขลาดเอาคนเยอะกว่ามาข่ม" ทันทีที่ฉันพูดออกมา พวกเขาก็ตอบรับสั่นๆและเดินออกไปฉันค่อยๆคลียิ้มออกมา
แล้วถามเธออีกครั้งว่า
"ไม่ทราบว่าจะบอกได้รึยังคะ ว่ามาอาละวาดในพื้นที่ของฉัน ต้องการอะไร จะไล่ลูกค้าของฉันออกจากพื้นที่? แบบนั้นคงไม่ได้ละมั้งคะ"
"ห...หนอย อย่าคิดว่ามาขู่ฉันแล้วเรื่องจะจบง่ายๆนะ"
"ฉันก็ไม่คิดว่าจะจบง่ายๆหรอกค่ะ นี่ ไหนลองบอกมาหน่อยสิคะว่าจะทำยังไงกับฉัน"
"ฉันจะเรียกตำรวจมาจับเธอ" แค้คำพูดนี้ทำให้ฉันหัวเราะออกมาอย่างหยุดไม่ได้
"ตำรวจเหรอคะ เชิญเรียกตอนนี้เลยก็ได้นะคะ ฉันเองก็อยากจะรู้ว่าตำรวจจะทำยังไงกับคนที่มาพังร้านของเขาแบบนั้น คิดว่าตำรวจจะทำอะไรคุณไม่ได้ แต่คุณอาจจะคิดผิดก็ได้ค่ะ
นี่ คาสิโนของคุณพ่อของคุณที่เป็นรายได้หลักของครอบครัวคุณ เช่าพื้นที่ของฉันอยู่นะคะ ไหนจะคดีฟอกเงินของพ่อคุณที่พิจารณาอยู่ในศาล ทั้งพี่ชายคุณที่หลอกสาวๆมาค้าประเวณี
อ้อลืมไป คุณเองก็มีเรื่องฉ้อโกงอยู่ด้วยนี่นา คิดว่าตำรวจจะเข้าข้างใครมากกว่ากันเอ่ย" พอฉันพูดจบ เธอก็กลืนน้ำลาย
"แค่ไปก็พอแล้วใช่ไหม ไป พวกเรา กลับ" เธอพูดแล้วก็เดินฉับๆๆออกไป แต่ฉันคว้ามือเธอไว้ บอดี้การ์ดของเธอก็เข้ามาหาฉันในทันที แต่คุณเลขา กับคุณมาฮาร่านั้นเช้าประชิดตัวบอดี้การ์ดแล้วก็จัดการคว่ำพวกเขาทันที
"จะมาก็มา ไปก็ไป ที่นี่ไม่ใช่สนามเด็กเล่นนะคะ คุณรู้ไหมคะ พวกที่ทำอะไรอำเภอใจในพื้นที่ของพวกเรา อยู่ดีๆเขาก็หายตัวไปแหละค่ะ บางทีก็หายไปคนเดียว บางทีก็ทั้งครอบครัว
ไม่รู้ว่าพวกเขาจะเจอกับอะไร ถ้าไม่อยากหายไปแบบตามหาไม่เจอล่ะก็ กรุณาชดใช้ค่าเสียหายมาด้วยค่ะ แต่ถ้าไม่มีเงิน ดิฉันคิดว่า คุณน่าจะชดใช้ด้วยอย่างอื่นได้ เช่น.........."
"แค่จ่ายก็พอแล้วใช่ไหม เท่าไร"
"3ล้านค่ะ รวมค่าเสียเวลาของฉันด้วย"
"แต่ฉันไม่มีเงินมากขนาดนั้น" พูดแบบนี้ก็เข้าทางสิคะ ใจจริงๆไม่ได้อยากเรียกมากขนาดนั้นหรอก แค่ขู่น่ะค่ะที่หลังจะได้ไม่มาอาละวาดในพื้นที่ของฉันอีก
"ถ้าอย่างงั้น จะทำยังไงดีน้า นี่ ช่วยบอกฉันหน่อยสิ " ฉัยหยิบพัดออกมาแตะหน้าเธอเบาๆ รอคอยคำตอบจากเธอ
"ฉันจะชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดให้ ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะ ฉันสัญญาเลยว่าจะไม่มายุ่งเกี่ยวกับพื้นที่ของเธออีกแล้ว ได้โปรด"
"ฉันไม่พอใจคำตอบของคุณค่ะ " พอฉันพูดจบเธอก็เริ่มร้องให้ออกมาและพูดอย่างสะอึกสะอื้น
"เธอก็พูดมาซี่ จะให้ฉันทำยังไง แต่อย่าทำร้ายฉันเลยนะ"
"ได้ค่ะ" ฉันฉีกยิ้มให้เธอพลางเก็บพัดของฉัน
ขอสรุปอย่างง่ายๆเลยก็แล้วกันนะคะ ฉันให้เธอคนนี้เสียค่าซ่อมร้านทั้งหมด และบอกเธอว่าอย่ามาให้คนแถวนี้เห็นอีก และฉันได้โทรไปเล่าวีรกรรมของลูกสาวสุดที่รักให้กับพ่อเธอฟัง พร้อมกับขึ้นค่าเช่าพื้นที่เท่าตัวหนึ่งเป็นการลงโทษ ถ้าไม่ยอมรับ ก็ออกไปซะ
แต่ดูเหมือนว่าเขาจะยอมรับนะคะ พร้อมกับบอกกลับมาว่าจะตักเตือนลูกสาวให้ แต่นั่นก็เรื่องของครอบครัวเขาแหละค่ะ จะยังไงก็ไม่ขอยุ่งด้วยก็แล้วกัน
และเมื่อเหตุการ์ณสงบลง ฉันก็เข้าไปในร้าน ซึ่งเข้าของร้านก็มองวฉันตาเป็นประกายอยู่ แหมไม่ต้องชื่นชมฉันขนาดนั้นก็ได้ค่ะ
"ถ้ายังไง ขอแนะนำตัวนะคะ ดิฉัน คิโชวอิน่า เรย์เชล คุณเช่าอยู่ในพื้นที่ของดิฉัน หากมีปัญหาอะไรก็บอกนะคะ พวกเราไม่ทิ้งให้พวกคุณเดียวดายหรอกค่ะ"
"สวัสดีค่ะ ทาคาซีนี วัลคาร่า ค่ะ เมื่อกี้ คุณคิโชวอิน่า เท่มากเลยล่ะค่ะ ขอบคุณนะคะที่ช่วยร้านฉันเอาไว้"
"มันเป็นหน้าที่ของฉันน่ะค่ะ ถ้ายังไงมีเค้กเหลือไหมคะ"
"มีค่ะ" วัลคาร่าจังตอบฉัน แล้วก็นำเค้กที่มาให้ รู้สึกว่าจะเหลือเป็นชิ้นสุดท้ายด้วย
"ว่าแต่ ทำไมถึงคิดมาเปิดร้านเค้กในย่านนี้ล่ะคะ" ฮันถามวัลคาร่าจังออกไป เพราะพื้นที่ของฉันนั้นแทยไม่มีใครมาเช่าพื้นที่ขายขนมเลย
"ได้รับคำแนะนำมาจากคุณเอ็นโซน่ะค่ะว่า ที่นี่ไม่มีร้านขนมหวานถ้ามาเปิด กิจการต้องดีแน่นอน แถมคุณคาราบุกิโน่ ยังบอกว่า คิโชวอิน่า ยัยนั่นน่ะเข้มแข็งและพึ่งพาได้ เอเฮะเฮะ ทั้งสองคนนี่พูดไม่ผิดเลยนะคะ"
"ไปรู้จักทั้งสองคนนั้นได้ยังไงล่ะคะ"
"อุบัติเหตุทางรถยนต์น่ะค่ะ ตอนนั้นโชคดีมากเลยที่กระโดดตีลังกาจากมอเตอร์ไซค์ทัน"เธอพูดพร้อมกับทำท่าจะโชว์ให้ดู
"เป็นอะไรมากรึเปล่าคะ"
"ไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะ ก็แค่แผลถลอกเล็กน้อยน่ะค่ะแต่จะว่าไป คุณคาราบุกิโน่ก็แปลกดีนะคะ ตอนที่พูดถึงคุณคิโขวอิน่า เขาพึมพัมออกมาว่า ทั้งๆที่พัดเป็นลายมังกรแท้ๆ แต่ทำไมไม่ใส่เสื้อผ้าให้ลายครบ 12 นักษัตรไปเลย"
หนอยแน่ ตา คาราบุกิโน่วววววววว
โอเค จบเคสแล้ว คงไม่มีต่อแล้วจริงๆ หมดกระป๋อง ผงมโนก็หมดเหมือนกัน ปล ไม่ใช่ออริจินอลนะ 636เอง แต่เพราะเป็นผู้ชายเลยไม่ค่อยรู้การแต่งตัวของผู้หญิงอ่ะ ชุดของเรย์เชลไม่รู้ว่าจะถูกใจกันรึเปล่า ถ้าไม่ชอบกันก็ขออภัยนะ ไม่เก่งจริงๆ อาจจะผิดนิสัยไปไกลเลย555
กูอยากลองอ่านเรื่องนี้ฉบับการ์ตูน วาดโดยโมรินางะ ไอ คนวาดเมื่อผมกับเธอ xxx กูว่าแม่งต้องฮาสัตว์ป่า
กุพยายามวาดพ่อบ้านอาริมะที่กุฝันถึงใน >>640 >>641 แต่ปรากฏว่าเละว่ะ... (กุวาดแบบเสยผมขึ้น แต่ในฝันผมปกหน้าผากเป็นหน้าม้าเพราะเกิดอะไรบาง)
ผมเสยขึ้นนี่มันวาดยากจริง สกิลกูไม่ถึงอะ เสียดายไม่สามารถถ่ายทอดแบ่งปันความหล่อของมันให้พวกมึงได้
ในฝันแม่งโคตรหล่อมาเป็นCG animeเลยนะมึง กุว่าจะย้ายจากเรือคาบุละ อาริมะมาเยือนฝันขนาดนี้
https://drive.google.com/file/d/0B5wqTNdLnv19Qi1jaFQtN0E3aWs/view?usp=sharing
รอให้ผ่านการตีพิมพ์ก่อนไหมมึง 5555555 แต่กูก็อยากอ่านมังงะนะ
>>อ่าว โม่งแฟนอาร์ตลัลลาบายเป็นคนฝันเรื่องนี้หรอเนี้ย 5555 คนกันเองๆ อาริมะหล่อนะมึงรูปนี้ นี่ก็มีสกิลมากละมึง กูแพ้พ่อบ้าน กรี๊ดดดดด //สลบ
Hell Hell Hell เอาฟิคออกไปเหอะ อีพวกโหวตไม่แยก มันก็พวกแต่งฟิคในนี้แหละ
บางคนแม่งรีเร้าเตอร์เม้นฟิคตัวเองอีกต่างหาก ภาษามันฟ้อง 5555555 กลัวไม่มีคนอ่านเลยมาลงในนี้งาย
อีพวกบอกกลัวร้างๆ ถ้ามันร้างแต่ได้เนื้อหา คุยเรื่องเนื้อเรื่องหลักยังดีกว่ากาวบ้าๆบอๆวะ
ถ้ามึงจะแต่ฟิคบ้ามโน จนเป็นห้องฟิคแบบนี้ มึงไม่เอา ฟิคไปลงเด็กดีเลยล่ะวะ จะได้แสดงความมโนสาเหร่ของมึงได้เต็มที่ เห็นใจคนไม่ต้องการอ่านจินตนาการกาวๆ มึงหน่อย
Please do not feed trolls.
เอิ่ม... ใจเย็นๆนะมึงนะ
เอางี้ไหม ลงเนื้อหาฟิคที่อื่นแล้วใส่ลิงก์ให้ตามไปอ่านกัน? ;w; คุยกันดีๆน้า
>>704 คือมึงไม่ชอบ แต่มึงรู้ได้ยังไงว่าคนที่บอกกลัวร้างๆเขาจะโอเคกับความคิดมึงที่ได้อ่านแต่เนื้อเรื่องหลักวะ กูเป็นคนหนึ่งที่เข้ามาเพราะอ่านเนื้อหากับเนื้อเรื่องโดยเฉพาะ ฟิคนี่แทบไม่แตะด้วยซ้ำ แต่กูคิดว่าการที่มึงจะมาขอให้เขาออกไปตั้งแยกนี่ก็เกินไปว่ะ เหมือนมึงขอความเห็นใจ แต่มึงได้เห็นใจเขารึยัง
จริงๆชื่อกระทู้3-4ก็มีคำว่ากาวนะมึง 5555555
กูว่าในโม่งแม่งก็เป็นที่ระบายอะไรหลายๆอย่างนะ ทำไมต้องมีผู้คุมกฎมาไล่อะไรวะ ในเมื่อมันไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน จะเดือดร้อนก็แค่คนที่ไม่อ่านฟิคคอยสไลด์ผ่านเฉยๆก็เท่านั้นอะ ถ้าอยากอ่านเนื้อเรื่องหลัก อยากเมนท์เนื้อเรื่องหลักเพียวๆก็ไปเมนท์ที่แมวดุ้นดิวะ ที่นี่มันก็ไม่มีสาระ ไม่มีแก่นสาร อยากพิมพ์อะไรก็พิมพ์มา ใครจะพิมพ์อะไรก็ตามใจไม่ใช่เรอะ
ปล.ชื่อกระทู้มันก็มีคำว่ากาวกับไร่กัญชาเป็นส่วนประกอบอยู่นะ แม่งเป็นหัวใจหลักของกระทู้ด้วยซ้ำ จะมาไล่ที่มันก็ไม่ถูกนะ
สวัสดีเหล่าโม่งเราเป็นโม่งเงามานาน นี่โหวตไม่แยกนะ ไม่ใช่คนแต่งด้วย55555 ใจเย็นๆกันเต้อะะ
กรี๊ดดดด ชอบมากเลยคะ ได้โปรดแต่งต่อเถอะนะคะ วันนี้พอเห็นว่าตอนที่6ลงดีใจมากเลยคะ ขอโทษนะคะที่5ตอนก่อนหน้านี้ไม่ได้เม้นอะไรเลย พยายามเข้านะคะ จะรอนะคะ!!! ฉันเชื่อมั่นในความรักที่คุณมีต่อเรือคาบูรากินะคะ!!! ดิฉันจะรออ่านตอนต่อไปนะคะ ดิฉันไม่ได้ลงเรือลำไหนเป็นพิเศษแต่ก็คอยสอดส่อทุกเรืออยู่บนคานนะคะ // ถ้าว่างๆก็แต่เจ้าแม่คานทองกับรองผู้ใหญ่บ้าน(นายตัวสำรอง)มาให้อ่านเล่นๆบ้างนะคะ เชื่อว่าคุณต้องแต่งสนุกแน่นอน
เอาจริงๆคือกูงงว่ะ หมดกันเลย มันเสียอารมณ์อะ กูอ่านฟิคทุกเรื่องและไม่เคยแต่งฟิคนะ กูเพิ่งสอบมิดเทอมเสร็จได้พัก นั่งอ่านมู้กาว เล่นเกมอยู่ดีๆ กูเกลียดดราม่าอ่าเมิง ถ้ามีคนไม่อ่านจะไปตั้งมู้ใหม่กูก็ไม่ว่านะ กูโอเค กูแค่เศร้า คุยกันเพราะๆ เถอะกลัวใจมาก ทั้งๆที่เป็นนิยายใสๆแท้ อย่าทะเลาะกันฮาร์ดคอร์นะมึง จิตใจกูอ่อนไหวยิ่งกว่าหัวหน้าห้องเวอร์ชั่นสาวน้อย
>>619 กรี๊ดดดด ชอบมากเลยคะ ได้โปรดแต่งต่อเถอะนะคะ วันนี้พอเห็นว่าตอนที่6ลงดีใจมากเลยคะ ขอโทษนะคะที่5ตอนก่อนหน้านี้ไม่ได้เม้นอะไรเลย พยายามเข้านะคะ จะรอนะคะ!!! ฉันเชื่อมั่นในความรักที่คุณมีต่อเรือคาบูรากินะคะ!!! ดิฉันจะรออ่านตอนต่อไปนะคะ ดิฉันไม่ได้ลงเรือลำไหนเป็นพิเศษแต่ก็คอยสอดส่อทุกเรืออยู่บนคานนะคะ // ถ้าว่างๆก็แต่เจ้าแม่คานทองกับรองผู้ใหญ่บ้าน(นายตัวสำรอง)มาให้อ่านเล่นๆบ้างนะคะ เชื่อว่าคุณต้องแต่งสนุกแน่นอน
อืม เขาหายไปแล้วนะ เรามากาวกันต่อเถอะ
หรือจะจัดการปัญหาเรื่องมีคนไม่อยากอ่านฟิคดี? แต่กูก็คิดไม่ออกว่าควรทำไงดี
KY แบบจงใจลดอุณหภูมิกระทู้ งาน needlefelt คนญี่ปุ่น ไม่รู้อีกกี่ชาติท่านเรย์กะถึงจะทำได้ประมาณนี้
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1342175272510571&id=401017246626383
กุอยากฟีดโทรลจังวะ มาถึงก็ด่ากราด กุชอบจัง มาอีกสิ มาอีก...
ไม่อ่านฟิคเหมือนกันนะ ไม่ใช่อะไรคือกลัวเอากาวกับอฟช.ไปปนกัน กลัวอ่านไม่รู้เรื่อง 5555
คือไม่อ่านก็ไม่ได้จำเป็นต้องไล่คนอื่นนี่ ถึงไม่อ่านฟิคแต่ชอบอ่านที่คนมาดีดดิ้นฟินกับฟิค ฮาดีออก เออแต่มีอ่านอยู่ฟิคนึงและฟิคเดียว คือฟิคหมา 555 เพราะคิดว่างานสุมจนประสาทกลับสติหลุดยังไง คงไม่เอากาวหมาไปปนกับอฟช.เวอร์ชั่นมนุษย์แน่นอนนนน อันนี้อ่านได้แบบปลอดภัย
>>704 กลับไปทำใจร่มๆก่อนนะ หัวร้อนเหลือเกิ๊น
โม่งทุกท่าน เราต้องคงคอนเซ็ปต์สอยเจ้าแม่ลงจากคานไว้ ทุกคนมีอิสระที่จะพิมพ์จะพูดและพวกมึงก็มีอิสระที่จะเลือกเสพด้วย ใครใคร่ลงเรือใครก็ลง เราอยู่กันได้สบาย
ฉะนั้นใครที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวเสียดสีโม่งคนอื่น มึงก็ไม่ควรจะไปสนใจนะ อย่าทำให้มู้เดือดเลย เสียเวลาดราม่าเปล่า กุอยากอ่านฟิคต่อ แค่นี้มู้ก็วิ่งถึง 700 ละ-แย้ววว! เหวย พวกมึงไปขนกาวมาจากไหนก๊านนน เพิ่งตั้งมู้ไปเมื่อวันที่ 27 เองเฮ้ย!!!
ขอโทษนะคะขอออกนอกเรื่องไปสักหน่อย พอดีฉันเข้าอ่านกระทู้ : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : กระทู้อันอื่นๆ แล้วอยากคอมเม้น แต่มันไม่มีตรงที่ขึ้น Reload posts นะคะ อยากทราบว่าทำไม่กระทู้อื่นถึงโพสไม่ได้หรอคะ หรือว่ามันเป็นเฉพาะเครื่องคอมของฉันหรอคะ
ใจเย็นๆหน่อยเถอะแบบเดิมอ่ะดีแล้ว
พอเถอะบรรยากาศเสียหมดลยกูว่า
ตอนใหม่มาล่ะ พวกบอกไม่เอากาว จะแยกทำไมไม่เม้นตอนใหม่ล่ะจ๊ะ มาเม้นว่าโม่งฟิคทำไม อย่ามาทำร้ายโม่งฟิคนะ กูจะเสพกาวววว ซู้ดดดดดด
ย้อนอ่านไปตอนที่ 34 เรย์กะบ่นๆเรื่องคาบุรากิ
"(ว่าด้วยจักรพรรดิสุดเท่ในมังงะ)....แต่ในชีวิตจริงเขาก็เป็นแค่ตัวปัญหาเองค่ะ..... อย่างบุกเข้าบ้านสาวที่ตัวเองชอบโดยไม่ได้รับเชิญแบบนี้? ใครมันจะทำแบบนั้นกันล่ะ คุณก็แค่สร้างปัญหาใหญ่ให้ครอบครัวของเธอและบรรดาเพื่อนบ้านไม่รู้บ้างรึไง
หรือสารภาพรักกลางถนนที่สภาพการจราจรแออัดแบบนี้ ? อืมมม ไม่ ไม่มีทางชอบไปได้หรอกคนแบบนั้นอ่ะ
คิดว่าจะได้รับการยกโทษให้ทุกอย่างเพราะแค่คุณเท่รึยังไง ?"
ไอ้บุกเข้าบ้านนี่...มันเป็นสตอล์กเกอร์มาตั้งแต่ในมังงะแล้วชัดๆ! 55555
เริ่มคิดว่า ถ้าตอนจบ ท่านเรย์กะตื่นขึ้นมาในรพ.ในอดีตชาติ ความจริงก็คือ นอนเป็นเจ้าหญิงนิทราแล้วฝันว่าตัวเองเป็นเรย์กะนั่นเอง
เป็นการหักมุมแบบตบหน้าสัสๆ
วันนี้ไม่มีกาวเหรอ อยากรมกาวมุ้งมิ้งหรือเข้มข้นแล้ว ถ้าจะถามหากาวที่หายไปนานแล้วจะกวนเพื่อนโม่งฟิคกันมั้ยอะ แบบไม่จี้นะแค่อยากให้รู้ว่ามีคนรออยู่ 555
ว่าจะมาถาม เรื่องฟิคเนี่ยแหละ แต่ดันมีดราม่านี่สิ
คือ กูเป็นคนที่แต่ง >>680 นี่แหละ หรือว่าเป็นเพราะกูวะ มันถึงได้เกิดดราม่าขึ้น ไว้ครั้งหน้ากูจะเอาลง googledoc แล้วกัน
จริงๆ กูมีเรื่องที่อยากปรึกษาเรื่องฟิคนี่แหละ ช่วงนี้แม่งว่างสุดๆ กินอิ่มแล้วมันก็พอดีความคิดบ้าง หลังจากที่กูคิดว่้าแม่งน่าจะหมดแม็กแล้ว
พอกูอิ่ม ความคิดมันก็เริ่มมาน่ะ
อย่างแรกเลย คือเรื่องชุด ก็เป็นคนไม่ชอบแต่งตัวมาก เลยไม่รู้ว่า ตัวละครแต่ละตัวมันควรแต่งตัวยังไง
อย่างที่สองเลยก็เรื่อง ชื่อ ที่ตัวละครอื่นๆไม่ออกมา ส่วนนึงเพราะกูกาก แต่งไม่เก่ง อีกอย่างก็ชื่อนั่นแหละ
อย่างที่ สาม ถ้าเป็นไปได้กูอยากเปลี่ยนพล็อตตอนเริ่มนิดนึง เปลี่ยนเป็น ปรกติแล้ว มาเฟียในประเทศซุยรัน จะร่วมทุนในอสังหา มาตั้งแต่รุ่นปูของเรย์เชลแล้ว ทุกปี ทุกแฟมมิลี่ที่ร่วมหุ้น ก็จะเข้ามาที่ประชุมใหญ่ที่ลับสุดยอดที่ถูกเรียกว่า office เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องต่างๆ หรือเจรจาธุรกิจอื่นๆด้วย แค่คราวนี้มีการหักหลังและปะทะกันด้วย ท่านพี่ถูกยิง อาการค่อนข้างสาหัส จึงไปรักษาตัวที่ต่างประเทศทานุกิและท่านแม่ก็ตามไปด้วย และขอร้องเรย์เชลผ่านโทรศัพท์ใหว้วานให้ข่วยดูแลกิจการชั่วคราว ส่วนหนึ่งที่ทรยศนั้นเป็นคนในแฟมมิลี่ของเอ็นโซ ทำให้เขาต้องล้างมือ(หลอกๆ)ต่อหน้าสาธรณะชน คาราบุกิโน่ว ก็เชื่อว่า หนึ่งในพวกที่หักหลัง ต้องรู้จักกับแฟมมิลี่ที่เขากวาดล้างไปเพราะให้ดอกไม้ยูเรีย รักแรกของเขา จากเหตุครั้ังนั้น เหล่าแฟมิลี่ที่ร่วมมือกันก็เหลือเพียงสาม และยังมีอีกหลายกลุ่มที่ช่วยเหลือลับๆ ซากุระ ลูกสาวยากุซ่าผู้เป็นยามาโตะนาเดชิโกะแห่งประเทศ ยูริมิย่า ผู้ให้ความช่วยเหลือเรย์เชลอย่างลับๆ นายตัวสำรอง หัวหน้าหน่วยสืบราชการลับที่อายุน้อยที่สุด คอยสืบเรื่องราวของมาเฟียของประเทศนี้อยู่ ประมานนี้
แต่ถ้าใครอยากให้หยุดก็บอกเลยนะรับรองเลยว่าจะไม่เอามาลงอีกแล้ว เราเองก็เห็นใจคนที่ไม่อ่านฟิค และคนที่อาจไม่ชอบฟิคของเราอะ 55 แต่ถ้าพอให้ผ่านได้ ก็นั่นแหละ ช่วยแนะนำทีว่าโอเครึเปล่า
กูว่ามันดูโทรลว่ะ ไม่งั้นคงไม่พิมพ์หัวร้อนขนาดนี้ แนะนำว่าทำเมินๆไป
หรือถ้าไม่สบายใจก็ให้เขียนฟิคลงเว็บไหนสักเว็บ justpast googledoc wordpress เด็กดี สร้างแอคปลอมไรก็ว่าไป พออัพตอนใหม่ก็มาแจ้งว่าตอนใหม่ฟิคนี้มาแล้วเหมือนเวลาโม่งแปลมาบอก คนที่ไม่โอจะได้ไม่ต้องเลื่อนยาว ข้อดีคือตามง่ายเพราะเรื่องเดียวกันอยู่ลิงค์เดียวกัน เวลาทำสารบัญก็แค่แปะลิงค์เว็บก็พอไม่ต้องไล่ใส่ทุกครั้งที่อัพ ข้อเสียคือคนเขียนต้องเสียเวลาเปิดเว็บนู้นเว็บนี้ และคนอ่านจากที่เลื่อนอ่านมู้เรื่อยๆก็ต้องเปิดเว็บอ่านเพิ่มอีก
ถ้ามีปัญหาเรื่องฟิคหนักๆ เข้าจะทำลายบรรยายกาศเปล่าๆ งั้นเอาแบบนี้มั้ย แยกมู้รวบรวมเนื้อหาสาระไว้อีกมู้ เพราะอยู่ๆ จะมาแยกฟิคไปคงไม่ทัน กาวมากันตั้ง 5 มู้แล้วอยู่ๆ จะมาไล่กันไปก็เกินไปหน่อยป่ะ มู้นี้ก็เฮฮากาวกันบ่อยมีสาระบ้างต่อไป ใครอยากได้สาระหนักๆ ที่ไม่ค่อยมีก็ไปอีกมู้ แต่พวกมึงปรึกษาคนทำสารบัญด้วยนะว่าเขาเอาด้วยรึเปล่า ทำแบบนี้ก็เหมือนเพิ่มงานให้เขา มันไม่ใช่เรื่องอ่ะ
แล้วก็ถ้าเลือกแยกมู้สาระไปอีกมู้ กูออกตัวก่อนว่ากูไม่ไปนะ เพราะกูตามมาตั้งแต่มู้เรือเอ็นโจจนมาถึงไร่กัญชาบนดาวใหม่แล้ว กูเห็นว่าฟิคที่อ่านๆ กันมามันก็กาวเพิ่มจากตัวเนื้อหาอฟช. เหตุเพราะความอัดอั้นตันใจนั่นแหละ อ่อ แล้วก็พวกคิดตั้งมู้ใหม่ก็เตรียมเหตุผลไว้อธิบาย wm เผื่อเขาถามด้วยล่ะ คุยเรื่องเดียวกันแท้ๆ ทำไมถึงตั้งขึ้นมาสองมู้
//ย่อหน้านี้ขอบ่นส่วนตัว// กูไม่เข้าใจว่าทำไมถึงอยากให้แยกฟิคในเมื่อสุดท้ายแม่งก็คุยเรื่องเดียวกัน กุตอบอธิบายเหตุผลของกุที่ไม่อยากให้แยกไปแล้วแต่ฝั่งอยากให้แยกกุยังไม่เห็นโผล่มาอธิบายเหตุผลฝั่งนั้นบ้าง โผล่มาก็โวยวายเป็นโทรลโง่ โลกและจักรวาลไม่ได้หมุนรอบตัวมึงนะเว้ย ถ้ามึงอธิบายเหตุผลมากุก็ฟังและคุยหาทางออกร่วมกันได้
พูดอีกครั้งแล้วกัน กุอยู่ฝั่งไม่เห็นด้วยที่จะให้แยกมู้หรือย้ายฟิคไปลงเว็บอื่นเพราะมันต้องใช้แอคเค้าท์ใครแอคเค้าท์มัน ทีนี้แหละที่มันจะวุ่นวาย ไม่รู้ว่าอันไหนอฟช. อันไหนฟิค แถมยังมาช่วยกันกาวต่อก็ไม่ได้เพราะมันเป็นการแสดงความเป็นเจ้าของแล้วไง มึงเข้าใจมั้ยว่าพอมีความรู้สึกว่าเราเป้นเจ้าของฟิคแล้ว มันจะเกิดอาการไม่อยากให้ใครมาแตะต้องฟิคที่เขียนทั้งๆ ที่ใจก็อยากมีเรื่องคุยกับคนอื่น แต่ถ้าลงในนี้ใครอยากต่อฟิคก็ทำได้เจ้าของฟิคยังมาร่วมวงหนุนเองด้วยซ้ำ อีกอย่างสุดท้าย แยกมู้น่ะมัน "ผิดกฎเว็บโม่งเว้ย" มึงไปอ่าน >>>pages/guidelines/ อีกรอบไป
>>754 อือ กูก็ว่าเมินๆ ไปเท้ออออ แต่เห็นข้อเสนอให้แปะลิงค์ฟิคแล้วกลัวใจ คือจะบอกว่า อย่าบ้าจี้ทำนะเว้ย... กูขี้เกียจไปตามเก็บ คนสันดานขี้เกียจอย่างกูเนี่ยเห็นลิงค์แล้วจะไม่ค่อยกดไปอ่านว่ะ ดังนั้น แปะแม่งรวมๆ อยู่ในนี้แหละดี บางเรื่องที่ไม่คิดว่าจะอ่านพอผ่านตาก็เผลออ่าน อ่านแล้วก็ชอบก็มี แต่ถ้าเป็นลิงค์นี่จบเห่ตั้งแต่ไม่กดแล้วนะ ส่วนเรื่องสาระเนี่ย กูมั่นใจในความสามารถตัวเองว่าจะดำผุดดำว่ายงมหาสาระอันมีน้อยนิดในทะเลกาวเจอ ฝากถึงโม่งฟิคทั้งหลายว่าพวกมึงไม่ต้องนอยด์ มึงเขียนไปเหมือนเดิมเหอะ เสร็จก็เอาลงมาสุมหัวกูนี่ มา!! ซู้ดดดดดดด!!
>>750 เอาตามสบายเลยย กูคือที่พิมพ์มาเฟียคนแรก เอาจริงๆก็ไม่ได้มีพล็อตอะไรทั้งนั้นแหละ พิมพ์ไปตามใจมาก ถ้ามึงมีพล็อตก็เอาเลยค่ะะ
>>758 กูโม่งสารบัญ ถ้าแยกมู้กูคงไม่ตามอัพทั้งสองทู้หรอกนะ... แค่ทู้เดียวนี่ก็เสียเวลาชีวิตมากแล้ว 5555555
กูไม่เข้าใจว่าสาระสำคัญของกระทู้ที่ว่าคืออะไร... จะฟิคกาว, สารบัญ, เพลงตัวละคร, ทะเบียนรายชื่อตัวละคร, ไทม์ไลน์เนื้อเรื่อง กูก็เป็นคนทำทั้งนั้น
คุณโทรลนอกจากมาด่าไล่กราดแล้ว มีสาระสำคัญอะไรมาให้กระทู้บ้างมั้ยคะ?
>>758 มึงพูดได้ดีค่ะ ตอบความในใจของกูได้หมดทุกอย่างเบย // 10 points for gryffindor
มันก็กาวกันมาห้ากระทู้เพิ่งจะรู้สึกตัวเรอะว่าฟิคมันเกะกะอะ แล้วสาระของเรื่องนี้กระทู้นี้ที่ต้องการคืออะไรวะ สปอยล่วงหน้างั้นเหรอ ถ้าเอาแบบนั้นไปดำน้ำอ่านเอาเองไม่ดีกว่ารึไง มีแต่ข้อความออฟฟิศเชียลไม่มีมโนมาปน โม่งกระทู้นี้มันก็เรื้อนก็กาวก็เพ้อกันไปทั่วนั่นล่ะ คุยเล่นๆกันแป๊บเดียวก็ได้ไอเดียฟิคใหม่กันแล้ว มาแต่งมาแชร์ความคิดความมโนกันเองเพราะออฟฟิศเชียลมันไม่มีให้ โมเมนต์ต่อฟิคมันสนุกนะเว้ยสัส กูเปิดมาฟิคไหนน่าต่อ ไอเดียไหนน่าเขียนกูขอเขามาเขียนหมดนั่นล่ะ ปลดปล่อยความฟุ้งซ่านในหัวออกมา
กูถามจริงๆเลยนะว่าสาระที่มึงต้องการจากกระทู้คืออะไร คุยแต่เรื่องหลักอย่างเดียวงั้นเหรอ ถ้างั้นไปเมนท์เอาในแมวดุ้นจะดีกว่ามั้ย เป็นโม่งแท้ๆเสือกมาจำกัดสิทธิ์ห้ามคนนั้นโพสต์ คนนี้โพสต์ไม่ได้เพราะขัดตามึง ถ้าอยากคุยแบบไม่เอาฟิคก็แยกไปตั้งเอาเองสิ แต่กูไม่ไปด้วยนะ แม่งดูควบคุมกันชิบหาย บ้าป่ะวะ คิดว่าตัวเองเป็นใคร ยิ่งใหญ่มาจากไหนถึงเที่ยวมาไล่คนอื่นเขาไปอะ อยากได้ตำแหน่งหัวหน้าห้องหรือผู้คุมกฎเหรอ
ฟิคบางเรื่องกูก็ไม่ได้อ่าน กูก็ไม่ได้ห้ามเขาลงเพียงเพราะกูไม่อ่านนะ โลกไม่ได้หมุนรอบตัวเองนะมึงจ๋า มีเหตุผลอะไรก็ว่ามา หรือเพียงเพราะขี้เกียจสไลด์นิ้ว ไล่อีพวกนี้ออกไปจากกระทู้แม่มเบยดีกว่า งั้นเหรอออออออออ
ปล.ถ้าเป็นลิงก์ให้กดไปอ่านกูไม่กดว่ะ ขี้เกียจ บางทีกูก็ไม่ไว้ใจลิงก์ให้กดด้วยเผื่อเป็นสแปมไวรัสไรเงี้ย อันไหนกูไม่ได้อ่านกูก็เลื่อนผ่านเอา เสียเวลาไถลหน้าจอไปสองสามวินาทีคงไม่ถึงกับลงไปชักดิ้นชักงอหรอกมั้ง
>>763 กูรักมึง โม่งสารบัญ ขอบคุณที่อัพเดทแบบเรียลไทม์เวลามีคนลงนั่นลงนี่ตลอดเลยนะจ๊ะ //กอดมึง
ขอพูดในฐานะคนที่โหวตไม่แยกนิดนึงนะ
อันนี้ความคิดส่วนตัวล้วนๆ
คือเราอยู่ด้วยกันมาห้ามู้ หวีดกันบ่นนู่นนี่สครีมวอแวโวยวายความบื้อท่านเรย์กะโวยความไม่ชัดเจนของเอ็นโจเอ็นดูในความบ้าของบากะรากิ แล้วนี่ก็700กว่าแล้ว จะเต็มอีกมู้แล้ว เราเฮฮามาด้วยกันห้าพันกว่าเม้นละนะ จะแยกไปทำไมเหรอ แล้วก็มีเพื่อนโม่งใจดีทำสารบัญอะไรแบบนี้ไว้ให้แล้ว ถ้าต้องการสาระเน้นๆ ก็ลองไปที่แมวดุ้นซี อันนั้นส่วนใหญ่น่าจะคุยกันเนื้อเรื่องแน่ๆ คือนี่ใส่โม่งมาคุยกัน ยังจะต้องแยกเรื่องอีกเหรอ
-:[นี่พิมพ์ในฐานะคนอ่านฟิค ถ้าเราไม่เข้าใจฝั่งไม่อ่านฟิคต้องขอโทษด้วยน้า ._. ]:-
แล้วก็แบบที่ >>758 บอกมันทั้งเสียเวลา ทั้งอาจจะทำให้โม่งแตกได้ แต่ถ้าทำแอคปลอมอีกล่ะ? ถ้าทำแอคปลอมก็จะต้องเปลี่ยนมาใช้แค่ตอนลงฟิคเหรอ? คือถ้ามันยากจริงๆ อยากให้แยก ไม่ว่ายังไงก็อยากจะแยก เราลองมาคุยกันด้วยเหตุผลไหม ทางนี้ก็อยากจะรู้เหตุผลของฝั่งนั้นนะ เรามาคุยกันดีๆดีกว่า ไม่มาโทรลเนอะ :)
เออ กูอยากรู้จริงๆนะ สาระสำคัญที่แม่งต้องการคืออะไรวะ มันทำเอากูต้องมาคิดเลยว่าเรื่องนี้มันมีสาระอะไรที่มันสำคัญด้วยเหรอ กูข้องใจมากเลยเนี่ย ว่าสาระของเรื่องท่านเรย์กะมันอยู่ตรงไหน มันมีอะไรให้วิเคราะห์ตีความรึเปล่า หรือกูจะพลาดอะไรไป ถึงมองไม่เห็นสาระสำคัญที่โม่งโทรลพยายามชี้ทางให้พวกเราไปสู่สาระสำคัญอันยิ่งใหญ่
ถามหน่อย
คนที่บอกให้แยกอ่ะถ้ามีฟิคแล้วไม่มีปัญหาก็มาเหลือบ่ากว่าแรงก็ทนๆไปเหอะ
เชื่อกุเถอะถ้าแยกแล้วสุดท้ายคนส่วนมากก็จะไปสิงกันในมู้ฟิคอยู่ดี
เอาเป็นว่าแบบเดิมอ่ะดีแล้วจะดราม่าหัวร้อนอะไรนักหนามึงกำลังทำบรรยากาศเสียนะ//จุ้บๆ
Hello คุณ Troll! Where are you? ว่าด้วยเรื่องฟิค มีใครจะแต่ วาคาบะจัง side story บ้างไหม กูอยากรู้ว่าคน Ky จะมีความเห็นต่อบากะรากิยังไงอะ แต่กูคิดไม่ออก 5555
กุคิดว่าคนที่มันอยากให้แยกมีคนเดียวนะมึง....
หรือกุคิดไปเอง กุเห็นมีคนจุดประเด็นขึ้นมาแต่คนเดียวทุกรอบ แล้วพอมีคนโหวตไม่แยกๆมันก็หายไป แล้วก็กลับมาใหม่... กุว่าบางทีถ้ามึงเป็นคนเดียวที่คิดต่างมึงก็ควรปรับตัวมั้ยว่ะ
พอๆหยุดเลยพวกมึงอย่าพูดเรื่องนี้กันอีก
หลับสู้สภาวะปกติ(กาว)
//ชิตังเมโป้ง!!!
ถ้ามันมาเม้นอีกก็ง่ายมากไม่ต้องเม้นตอบมันก็พอให้เขาดีดดิ้นไปคนเดียวเองเถอะเนอะ
>>771 แทคมืออออออ กุคิดเหมือนมึง กำลังจะพิมพ์เลย นี่งงมากไม่เข้ามาแปบเดียวจากกัญชากลายเป็นมู้มาม่าไปละ คือไรวะ คือก่อนอื่นตอนนี้เข้าใจนะว่าเสียอารมณ์กัน แต่ลองถอยมามองสถานการณ์กันหน่อย กูว่าไอคนจะแยกมีคนเดียวป่ะวะ หรือกุเพ้อเอง ติดฟิลเตอร์กรองโทรลเลยอ่านไม่เจอ แต่ที่แน่ๆคือคนมาโวยโทรลแม่งโคตรรรรเยอะ
มึ้งงงง ใจเย็นกันนะ นี่เอาจริงแอบคิดว่าสนใจมันทำไมวะ มันพิมพ์อันเดียว รีแอคชั่นมีกลับไปตรึม กุว่าปล่อยมันไปเหอะ สนใจมากๆมันคงปลื้มนะเนี่ย นี่คงหายไปฟินกับตัวเองอยู่แหงๆ
>>763 โม่งสารบัญ /กอดดดด กราบขอบพระคุณในความเมตตา กรุณา วิริยะ อุตสาหะ อุเบกขาของมึงมาก กุว่ามึงอย่าแคร์มันเลย หัวข้ออื่นแต่ละหัวข้อที่ทำสารบัญนี่คงลิสมาได้ยาว แต่ถ้ามึงทำสารบัญโทรลมันคงเดียวดายมาก มีเม้นเดียวป่ะวะจุดนี้ เบลอมันไปเหอะ เพื่อสุขภาพลูกตาของมึง /ตบไหล่แบบบากะรากิ
กุ >>758 เอง ขอโทษที่แอบทำให้บรรยากาศซุยรันเสียงเองนะ ทีนี่พอหัวเย็นลงหน่อยแล้วอยู่ๆ ก็มีชื่อมู้ปิ๊งขึ้นมาในหัว กุเลยขอเสนอเลยละกัลลล~
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับปฏิบัติการวาร์ปสตูดิโอกาวโปรดักชั่นไปเปิดใหม่ในกาแล็กซี่ที่ 6
มู้ที่ 7 ก็เปิดวาร์ปไปมิติที่ 7 ต่อเลยค่ะมึง!!!
เออ ขอ ky หน่อย ถ้าซุยรันเป็นเวอร์ชั่นฮอกวอตส์พวกมึงว่าใครอยู่บ้านไหนวะ ไม่มีอะไร พอดีกูเมนท์ 10 points for gryffindor ที่เมนท์ >>765 แล้วกูก็มาคิดน่ะ
กริฟฟินดอร์ - เรย์กะ/นายตัวสำรอง/อาคิสะวะ/หัวหน้าห้อง/อิวามุโระ/เซริกะ/ซาโตมิ
ฮัฟเฟิลพัฟ - วาคาบะ/ยูริเอะ/ท่านคาซึมิ/มิฮารุ/โนโนเสะ/เดชชิ
เรเวนคลอ - คาบุรากิ/อิมาริ/ไอระ/คิคุโนะ/ริรินะ
สลิธีรีน - เอ็นโจ(ชัวร์ๆ)/ท่านพี่(คนนี้ก็น่าจะชัวร์ๆ)/รุ่นพี่โทโมเอะ/ซึรุฮานะ
ซากุระ ไมฮามะคงอยู่โบซ์บาตง
ส่วนอาโออิกับนารุคุงน่าจะอยู่เดิร์มสแตรงก์
ยูกิโนะกูลังเลว่าจะให้อยู่บ้านไหนดีระหว่างฮัฟกับสลิ แต่กูคิดว่าสลิแหง 5555555555555
แก๊งค์นายบ้าหมาคงเป็นมักเกิ้ลที่เรย์กะพยายามจะผูกมิตรด้วยเพื่อเรียนรู้วิถีชีวิตมักเกิ้ลแหงๆ
แค่คิดเล่นๆน่ะ แต่ใครแต่งฟิคให้อ่านหน่อยก็ดีนะ//ทำตาปิ๊งๆ
กูไม่ได้เข้ามาแค่ วันสองวัน ดราม่าอะไรกันว่ะ ///สูดกาวต่อ
ใครอ่านดิบตอนล่าสุดแล้ว มาสปอยกูหน่อย
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ตอนสุดท้ายใครมา อ่ะ กูนี่ใจเต้นรอเลย กรี้ดดดดด
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับหลุมดำดูดเวลา กาวแลคซี่ที่ 6
>>783 มึงคิดมึงก็รับผิดชอบเขียนฟิคมาบัดเดี๋ยวนี้!
ปล. กุเห็นต่างเรื่องบ้านว่ะ
กริฟฟินดอร์ (ซื่อสัตย์ บ้าพลัง รักพวกพ้อง) - คาบุรากิ/วาคาบะ/รุ่นพี่โทโมเอะ/นายตัวสำรอง
ฮัฟเฟิลพัฟ (ไหลไปเรื่อย อัธยาสัยดี เข้ากับคนได้ง่าย) - เรย์กะ/เอ็นโจ/ท่านพี่/อิวามุโระ/หัวหน้าห้อง/เดชชิ
เรเวนคลอ (รู้วิชา เก่งการข่าว) - ยูริเอะ/อิมาริ/ไอระ/ริรินะ
สลิธีรีน (ยกย่องสายเลือดแท้) - คิคุโนะ/เซริกะ/ซึรุฮานะ/ประธาน Pivoine
คนที่เหลือกุนึกไม่ออกว่าเป็นใคร แฮร่~
>>781 ขาดอีกคำเดียวชื่อมู้มึงนี่ครบ 30 พยางค์เลยว่ะ ยาวทะลุโลกสมกับต้องย้ายไปตั้งกาแลคซี่จริงงง ถถถถ ย่อซักหน่อยได้มั้ยวะ นี่กลัวเปิดมาแล้วชื่อมู้ยาว 4 บรรทัด จะอเมซซิ่งซุยรันเกิน
>>783 กุว่าคาบุรากิต้องอยุ่กริฟฟินดอร์ว่ะ บ้าขนาดนี้โคดไม่เหมาะกับเรเวนคลอ ริรินะกับแฮมสเตอร์อาคิสะวะด้วย น่าสลับที่กันนะ
ว่าแต่ว่า เดิร์มสแตรงก์มันรร.ชายล้วนเว่ยยยยยย อาโออิจังงง กรี้ดดด อาโออิไม่ใช่สาวดุ้นมั้ยมึ้งงงง
ฮัฟเฟิลพัฟนี่ เหมือนจะไม่ค่อยเหมาะกะภาพลักษณ์ (ภายนอก) ของท่านเรย์กะรึเปล่าอะ ระดับจักรพรรดินีเนี่ยถ้าไม่กริฟฟินดอร์ก็ไปอยู่เรเวนคลอว์ก็ได้นะ
เท่าที่ดูมา ตาคาบุยังไงก็กริฟฟินดอร์ ตรงไปตรงมาและบ้าพลังขนาดนั้น....
ภาพลักษณ์เรย์กะไปอยู่สลิยังได้เลยเหอะ ในใจยังรู้สึกว่าจริง ๆ แล้วเจ้าแม่มีความสลิอยู่ลึก ๆ
กุว่าเรย์กะ-สลิ (เป็นพวกเอาตัวรอดสูง)
เอ็นโจ-เรเวนคลอ (ฉลาดเจ้าเล่ห์)
คาบุรากิ-กริฟ(ไอ้บ้า)
วาคาบะ-ฮัฟ
พอมึงพูดถึงกาแลคซี่ กูเสนอ
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันของเหล่าโม่งกลางเนบิวลากาวเรืองแสง กาแลคซี่ที่ 6
>>786 จริงๆจากความเห็นกูมันประมาณนี้นะ ปรับแก้นิดหน่อย
กริฟ (กล้าหาญ) - คาบุรากิ(กูขอโทษ เห็นข้างบนเขาบอกว่าคาบุรากิเหมาะกับสีน้ำเงินกูเลยลงเรเวนให้)/เรย์กะ(นางก็กล้าบ้าเลือดพอตัว)/อิวามุโระ(สายกีฬาบ้าพลัง)/ซาโตมิ(กล้าแหย่เจ้าแม่)/เซริกะ(จะวิ่งไปมีเรื่องกับซึรุฮานะ)/นายตัวสำรอง
ฮัฟ (อ่อนโยน อ่อนน้อม) - ยูริเอะ/วาคาบะ/เดชชิ/หัวหน้าห้อง/อาคิสะวะ
เรเวน (ฉลาด ไอคิวสูง) น้องแว่น/ไอระ/ริรินะ/
สลิ (เพื่อบรรลุเป้าหมาย ไม่สนวิธีการ) - เอ็นโจ(กูว่าฮีเหมาะกับบ้านนี้ที่สุดละ)/ท่านพี่(จอมมารซิสค่อน)/รุ่นพี่โทโมเอะ(ที่กินขนมของ piovine ชวนเรย์กะมาเป็นสมาชิกสภาหรือส่งสายตาโบกมือให้เรย์กะในงานกีฬา)
เราคิดว่ายังไงเอ็นโจก็อยู่สลิธีริน ฉลาด เจ้าเล่ห์ ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้สิ่งที่ใจต้องการ (อ้างอิงจากกลอนของหมวกคัดสรรบ้านจากแฮร์รี่ภาค 1) ไม่อาจมองเป็นบ้านอื่นได้เลย อย่างมากถ้า (แค่ภายนอก) ก็อาจจะเรเวนคลอหรือฮัฟเฟิลพัฟได้ แต่คิดว่าหมวกคัดสรรน่าจะดูความชั่วร้ายออก
คาบุรากินอกจากกริฟฟินดอร์แล้วไม่สามารถมองเป็นอย่างอื่นได้เลยอ่ะ เหมาะดีนะ กริฟฟินดอร์มีทั้งคนบ้าบิ่น แต่ก็ดูกล้าหาญ สามารถมองเป็นเท่ได้ (แต่เนื้อในก็บ้าบอ)
เรย์กะนี่คิดนัก แต่ส่วนตัวมองว่าฮัฟเฟิลพัฟอ่ะ น้อมโน้มและหนักแน่นนี่มันบ้านฮัฟชัดๆ บ้านฮัฟโดยปกติจะรักเพื่อนฝูง มีความขยัน ไม่ย่อท้อ มักจะเงียบๆสงบๆ ไม่ทำร้ายใคร แต่ถ้าใครทำร้านเพื่อนหรือคนที่รัก จะออกมาปกป้องทันที
วาคาบะเรามองว่าเรเวนคลอ บ้านนี้จะเป็นคนเก่ง คนมองโลกแบบเปิดกว้าง เพ้อฝันเป็นบางเวลา ทำอะไรแปลกๆได้น่าตาเฉยถ้าคิดว่ามันดี
>>795 เอ็นโจถ้าไปอยู่สลิธคนก็รู้หมดสิว่าเจ้านี่ร้ายเงียบ55555 บวกกับยังไม่กร่างพอที่จะเป็นสลิธ
ในความคิดกูนะ
คาบุรากิ - กริฟฟินดอร์ชัวร์ๆ ด้วยความบ้าพลัง
เอ็นโจ - เรเวนคลอ ฉลาดๆ ภาพลักษณ์นุ่มๆสุภาพชน เจ้าชายๆ
ประธาน+วาคาบะ - ฮัฟเฟิลพัฟ ความจริงประธานก็ไปอยู่เรเวนคลอได้นะ แต่คิดว่าด้วยความรักพวกพ้องกับตรงไปตรงมาน่าจะเหมาะกับฮัฟเฟิลพัฟมากกว่า (นึกภาพเซดริก) ส่วนวาคาบะนี่ก็คงไม่ต้องถามบวกด้วยภาพลักษณ์บ้านๆ
เรย์กะ - กูว่าเหมาะกับกริฟฟินดอร์นะ ทั้งภาพลักษณ์ทั้งนิสัยจริงๆ แต่ถ้ามองโหมดเจ้าแม่ก็ไปอยู่สลิธได้ ด้วยความภาคภูมิในสายเลือดบริสุทธิ์
ถ้าสลิธมันต้องมาแนวสึรุฮานะ แต่สึรุฮานะนี่เลเวลยังไม่ถึงขั้นจะเป็นตัวแม่ของบ้านได้อ่ะ แต่ท่านโยโกะนี่ได้อยู่
โปรยเนื้อเรื่องใหม่ ตระกูลคิโชวอินมีสายเลือดบริสุทธิ์มายาวนานเป็นพันปี แอนตี้มักเกิ้ลและอยู่แต่ในโลกของพ่อมด จนกระทั่งวันหนึ่ง คุณหนูแห่งบ้านคิโชวอินได้เกิดหลงรักวิถีชีวิตแบบมักเกิ้ลขึ้นมา แต่ด้วยความเป็นพรีเฟ็คบ้านสลิธีรีนจึงไปลั้ลลาออกนอกหน้าไม่ได้ จึงลอบติดต่อกับพวกเลือดสีโคลนในฮอกวอร์ต(นำทีมโดยนายบ้าหมา)และแลกเปลี่ยนระหว่างขนมขบเคี้ยวของมักเกิ้ลกับ....(กับอะไรดีวะ? ช๊อคโกแล็ตรูปหมาที่ขยับได้?)
เอนโจเป็นอนิโมลัสแปลงร่างเป็นหมาซามอยด์ได้คอยสตอล์คเรย์กะด้วยตัวเอง และบางทีก็ใช้แผนที่ตัวกวน
ถ้าจะเอาให้เข้ากับภาพลักษณ์ภายนอกของเจ้าแม่ ไม่กริฟฟินดอร์ก็สลิธีริน อ่ะ แต่เอ็นโจนี่สลิธีรินเถอะ....
กูขอต่อพลอต คาบุรากิกับวาคาบะเจอกันเพราะอุบัติเหตุทางไม้กวาดตอนเล่นควิดดิช ประทับใจที่กระโดดลงไม้กวาดและกลิ้งหลุนๆลงพื้นอย่างสวยงาม
กูว่าวาคาบะเรเวนคลอ สาวฉลาด คาบุกริฟแบบที่เส้นผมไม่ทันแตะหมวกก็ประกาศลั่น
เจ้าแม่เรย์กะกูให้สลิธ คอนเซปต์เดียวกับในเรื่องอ่ะเลือดบริสุทธิ์(ชนชั้นสูง) แผ่ออร่าผู้ดีน่าเกรงขาม และจากองค์กาลีลงกูว่าไงนางก็ไม่ใช่แกะน้อยว่ะ วิธีการจัดการไม่ใช่ตาต่อตาฟันต่อฟันนะ ข่มขู่ด้วยฐานะตระกูล แบล็คเมล์ความลับ ร้ายๆทั้งนั้น แถมสาเหตุไม่ใช่ความยุติธรรมนะแต่เพราะอีกฝ่ายอยู่ดีไม่ว่าดีมาก้าวก่ายขอบเขตของตัวเอง เรื่องชมรมอาจเข้าข่ายปกป้องพวกพ้อง แต่ผมหงอกนั่นเรื่องส่วตัวล้วนๆ เหมือนมังกรที่ปกติหลับอย่างสงบแต่อย่าไปถูกเกร็ดย้อนเชียว
>>804 อ่านถึงขนมอยู่ดีๆก็นึกถึงเจลลี่บีนที่มีทุกรสในเรื่อง เรย์กะต้องได้รสแหยะๆชวนอ้วกบ่อยกว่าคนอื่นแหง แล้วไอเค้กมินต์สีน้ำเงินที่นางเคยกินนั่นก็แบบขนมรสชาติในตำนาน 555 ถ้าไม่สตรองแบบเจ้าแม่นี่กระเดือกไม่ลง
ไมฮามะจากปลาซิวปลาสร้อยก็กลายเป็นนกกระจิบนกกระจอก จริงๆแล้วนางเป็นแอนนิเมจัส ว่างๆก็แปลงร่างเป็นนกมาคอยตามขี้ใส่หัวท่านเรย์กะ
ส่วนจั๊กจั่นที่เคย์มาเกาะหัวนางคือพวกนักข่าวแปลงร่างมาแบบริต้า สกีตเตอร์ ทำให้นางเกลียดแมลง พอได้หิ่งห้อยจากเอ็นโจเลยระแวงแล้วปล่อยไป แต่จริงๆแล้วนางไม่ได้รังเกียจอะไรเอ็นโจนะ นางแค่ระแวงเท่านั้นนนน สูดกาวววว
รวมชื่อ
>>785 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับหลุมดำดูดเวลา กาวแลคซี่ที่ 6
>>788 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับแผนวาร์ปสตูดิโอกาวโปรดักชั่นไปกาแล็กซี่ที่ 6
>>796 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันของเหล่าโม่งกลางเนบิวลากาวเรืองแสง กาแลคซี่ที่ 6
----------
แต้มปัจจุบัน
>>785 ///
>>788
>>796
เอาตามความคิดกูนะ
กริฟ
ปี 1 - มาโอะ/ยูริ
ปี 2 - นึกม่ายออก
ปี 3 - นึกไม่ออก
ปี 4 - ริรินะ
ปี 5 - คาบุรากิ(กัปตันทีมควิดดิช)/เรย์กะ(พรีเฟ็ค)/ซาโตมิ(พรีเฟ็ค)/เซริกะ/อิวามุโระ(อยู่ทีมควิดดิช)/รุเนะ
ปี 6 - นึกไม่ออก
ปี 7 - นึกไม่ออก
ฮัฟ
ปี 1 - นึกไม่ออก
ปี 2 - นึกไม่ออก
ปี 3 - นึกไม่ออก
ปี 4 - เดชชิ
ปี 5 - หัวหน้าห้อง(พรีเฟ็ค)/มิฮารุ(พรีเฟ็ค)/อาคิสะวะ(อยู่ทีมควิดดิช)/ท่านฟุยุโกะ
ปี 6 - ยูริเอะ
ปี 7 - ท่านคาซึมิ
คุณอาคิมิเป็นอาจารย์ประจำบ้านฮัฟ
เรเวน
ปี 1 - นึกไม่ออก
ปี 2 - นึกไม่ออก
ปี 3 - นึกไม่ออก
ปี 4 - น้องแว่น
ปี 5 - วาคาบะ(พรีเฟ็ค)/นายตัวสำรอง(พรีเฟ็ค)/คิคุโนะ/อายาเมะ/ท่านซาราระ
ปี 6 - ไอระ
ปี 7 - นึกไม่ออก
ท่านอิมาริเป็นอาจารย์ประจำบ้านเรเวน
สลิ
ปี 1 - ยูกิโนะ
ปี 2 - นึกไม่ออก
ปี 3 - นึกไม่ออก
ปี 4 - นึกไม่ออก
ปี 5 - เอ็นโจ(พรีเฟ็ค)
ปี 6 - ท่านโยโกะ
ปี 7 - รุ่นพี่โทโมเอะ(ประธานนักเรียน)
ท่านพี่เป็นอาจารย์ประจำบ้านสลิ 555555555555555
นึกออกแค่นี้ว่ะ
อันนี้จะมีคู่กูทะลุมิติไหม สาบานว่ากูเรือเอ็นโจวแต่มารอเรื่องนี้ที่ท่าน้ำทุกวัน 5555
กูว่ารุ่นพี่โทโมเอะนี่ควรไปอยู่กริฟ ท่านเรย์กะจากมุมมองพวกเราอาจจะมองว่านางเป็นลูกแกะเหมาะกับฮัฟ แต่กูว่าจริงๆนางเหมาะกับสลิธนะ จากวิธีข่มขู่ตอนเรื่องงานโรงเรียนอะ วันๆมีแต่เอ้อระเหยลอยชาย ไปได้ข้อมูลมาไงวะเนี่ย 5555 แล้วนางยังเป็นพวกรักตัวเอง เอาตัวเองให้รอดก่อนเป็นที่หนึ่ง นี่ก็สลิธอีกเหมือนกัน คือสลิธคนจะติดภาพว่าร้ายๆแต่จริงๆบ้านนี้คือทำยังไงก็ได้ให้ไปถึงจุดมุ่งหมายโดยไม่สนวิธีการกับเอาตัวรอดเป็นยอดดี (เลยมองว่าเด็กกริฟที่ชอบทำเรื่องเสี่ยงตายนั้นบ้าสิ้นดี)
กุว่าเรย์กะกับเอ็นโจอยู่สลิธ แบบพวกเลือดบริสุทธ์ คนเคารพ เรย์กะนี่แบบมีพรรคพวกด้วยนะมึง สลิธอยู่แล้ว เอ็นโจก็พวกร้ายลึกยังไงก็สลิธ คาบุรากิกุว่ากริฟเพราะมันเป็นพระเอก วาคาบะก็เรเวนละมั้ง ฉลาดไง แต่ไงๆกุว่สพวกpiovineอยู่สลิธเกือบหมดละมึง
ท่านเรย์กะเนี่ยจริงๆ นางก็เรียนเก่งนะเว้ย ติด 30 อันดับแรกด้วย คือเรียนเก่งด้วยสวยด้วย เริ่ดๆ เชิดๆ จะอยู่บ้านไหนก็ได้แต่ถ้าเป็นฮัฟเฟิลพัฟก็ดูชิลไปหน่อย จะว่าไปก็เหมือนหงส์ขาวแสนสวยที่ลอยอยู่เหนือน้ำอย่างสง่างาม ทั้งๆ ที่ใต้น้ำนั่นกะลังใช้ตีนตะกุยตะกายพุ้ยน้ำอยู่นั่นแหละ
>>812 ไม่หมวกก็ลังเลว่าฮัฟหรือสลิธดี ส่วนท่านเรย์กะก็ภาวนาขอสลิธๆเพราะโดนแม่ขู่อาฆาตภายใต้ความคาดหวังแบบเดียวกับตอนที่ยังไงนางก็ต้องเข้าซุยรันให้ได้ เลยเอวังประการฉะนี้
ใครบอกท่านอิมาริอยู่กริฟ กูจะตั้งกองเรือรักข้ามหอเป็นตำนานโรมิโอจูเลียตเลย พรีเฟคสลิธกับกริฟมาแอบสมรักกันในห้องต้องประสงค์ 5555
ความจริงตอนแฮรี่สวมหมวก หมวกก็ไม่แน่ใจนะว่าจะส่งไปสลิธหรือกริฟดี แต่เพราะแฮรี่สวดในใจว่าไม่เอาสลิธๆๆๆ หมวกมันเลยส่งไปกริฟ
หรือจะให้คาบุรากิกับเรย์กะเป็นพรีเฟ็คบ้านกริฟร่วมกัน คนภายนอกก็พร่ำบอกว่าสองคนนี้เหมาะสมกันจัง แต่ที่จริงคือเอ็นโจจากสลิธกำลังมองที่ที่มุมตึก (ที่จริงกูว่าเรย์กะเหมาะกับสลิธมากกว่า แต่เห็นด้วยกับ>>817 ว่าเอ็นโจจะทางสะดวกไป5555 ส่งไปคนละบ้านดีกว่า)
โหวต 796
คือมู้นี้วิ่งเร็วมากอ่ะ รู้สึกเหมือนเพิ่งขึ้นห้องใหม่เร็วๆนี้เอง
กูไม่ได้เข้ามาแป๊ปเดียวเหล่าโม่งแปลงร่างเป็นหมวกคัดสรรกันซะแล้ว
อีกหน่อยท่านเรย์กะกรูจะต้องออกเดินทางไปกับพ้องเพื่อนเพื่อเอาแหวนไปทำลายมั้ยวะ(มีเอลฟ์หนุ่มหล่อขี้เก็กคอยช่วยแบบซึนๆ)
หรือว่าท่านเรย์กะกรูจะต้องมาโบกพัดไลท์เซเบอร์สู้กับทานุกิสวมหน้ากาก
ทานุกิ:ข้าคือพ่อของเจ้า
เรย์กะ:ม่ายยยยย
ขอจบความกาวของกรูไว้เพียงเท่านี้
สู้ต่อไปนะเรย์กะ
มีใครสนใจแต่งเรย์กะ ver.alice in wonderland บ้าง
ไร้สาระ
กูหวังไว้มากไปที่เข้ามาในนี้ตาม link ที่มีคนแปะในแปลไทย
สุดท้ายแม่งมีรวมแต่พวกวอนนาบี แต่งฟิคอยากให้คนชมไปวันๆ เฮ้อออ กูบายละ 555555555
พวกมึงก็ตามสบายนะ โม่งไร้แก่นสาร
สงสารเด็กเรียกร้องความสนใจ แม่งคือโทรลแยกห้องรีเราท์เตอร์มาป่ะวะ 55555555 โม่งแม่งไม่ใช่ที่ที่จะมามีสาระหรือแก่นสารอยู่แล้วอ่ะ มึงคิดผิดตั้งแต่จะมาหาอะไรแบบนั้นแถวนี้ล่ะ เพราะงั้นไม่ต้องบายนะมึง มึงมาผิดที่ตั้งแต่แรกเองอ่ะ กลับไปทางเดิมของมึงเถอะนะ /โบกผ้าเช็ดหน้าส่ง
ปล. กูเพิ่งมาย้อนอ่าน เลยเพิ่งเห็นประเด็นแยกห้องอีกแล้ว จะมาทุกวันเลยหรอวะ ความพยายามสูงเนอะ 555555 ไหนๆแล้วขอพูดหน่อยแม่งเห็นประเด็นนี้มาสองวันล่ะ ถ้ามีคนอยากแยกห้องเพราะไม่อยากอ่านฟิคก็แยกไปดิ มึงอยากได้สาระมึงก็แยกไปเลย แต่มึงไม่มีสิทธิมาไล่ที่คนในห้องนี้เว้ย เค้าอยู่กันมา4-5กระทู้ไม่เห็นมีปัญหา ถ้ามึงมีปัญหาก็แยกไปดิ แยกดิ แยกดิ้ 5555555555 แต่แบบที่เม้นนึงบอกอ่ะ ถ้า wm ถามมึงก็หาข้ออ้างไปเองละกันเพราะผิดกฎเว็บ หรือถ้ามึงแยกแล้วไม่มีคนไปคุยด้วยก็อย่ารีเราท์เตอร์ตอบตัวเองจนเครื่องพังละกัน เพราะกูคนนึงล่ะที่ถ้าแยกห้องแล้วจะไม่ไปไหน /เอาพัดปิดปากหัวเราะโฮะโฮะ~ (.....) //คือกูก็ไม่ได้อ่านทุกฟิคนะ อันไหนไม่อ่านก็แค่เลื่อนผ่าน
ประเด็นเรื่องแยกห้อง กูเห็นความเห็นทุกคนก็ไปทางเดียวกันว่าไม่มีความจำเป็นต้องแยก เพราะงั้นถ้ามีโทรลแยกห้องมาป่วนอีกกูขอให้ทุกคนทำเมินมันได้มั้ยวะ เข้าใจว่าอ่านเม้นแบบนั้นแล้วหัวร้อนนะ แต่แบบ... Don't feed the troll อ่ะแหละ ไม่ไปสนใจมันแม่งคือ the best reaction ที่สุดแล้วอ่ะ 555555
โทดทีมึง ยาวไปหน่อย พิมพ์เพลิน 55555
กรุว่าส่งคาบุรากิไปป้อมอัศวิน แล้วส่งท่านเรย์กะไปอยู่ปราสาทขุนนาง ...เอ๊ะ อะไรนะ ผิดเรื่องเหรอ
ต่อจาก >>619-620 ฟิคคู่หูทะละมิติ
เขียนไปแล้วลงจบไม่ได้ซะที เลยต่อไปเรื่อยๆ รู้สึกตอนนี้จะยาวทีเดียว ถือว่าชดเชยกับเมื่อวานที่ลงสั้นๆนะคะ
..............…….....
ข่าวเรื่องการวิ่งแข่งยืมของของคาบุรากิและฉันโด่งดังไปอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งแม้แต่ที่บ้านฉันเองซึ่งกำลังทะเลาะกันอยู่ก็แสดงความยินดีอย่างออกนอกหน้า แม้ฉันจะเน้นย้ำว่าไม่ได้คิดอะไรกับคาบุรากิก็ตาม
"ถ้าความทรงจำกลับมา คุณเรย์กะไม่มีทางพูดแบบนี้แน่ค่ะ นี่เป็นโอกาสทองเลยนะคะ"
ท่านแม่พยายามยุยงส่งเสริม แต่ว่านะคะ ถ้าเป็นเรย์กะคนเดิมคงไม่มีโอกาสแบบนี้หรอกนะคะ...
เห็นความทะเยอทะยานของท่านแม่และท่านพ่อ ฉันก็ยิ่งกังวลเรื่องความล่มจมของตระกูลคิโชวอินเอามากๆ มันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะรอดจากเหตุการณ์นี้ หากปราศจากคนที่เก่งและไว้ใจได้อย่างท่านพี่...
ฉันเผลอบ่นๆไปในเมลล์ที่เขียนตอบกับคาบุรากิ ว่าคิดถึงท่านพี่ หมอนั่นก็ตอบกลับมาว่า "บราค่อนเหมือนเดิมสินะ" ไม่ช่วยอะไรเลยค่ะ
เรื่องความทรงจำที่หายไปนั่น ทำอาจารย์เรียกพบ เพราะกลัวว่าฉันจะเรียนไม่ไหว เดิมทีเรย์กะในโลกนี้เรียนย่ำแย่เอามากๆ สูญเสียความทรงจำอีกมีหวังมีสิทธิ์ซ้ำชั้น ฉันเลยบอกว่าจะตั้งใจเรียนและอาจเรียนเสริมข้างนอกชดเชยเอา
ฉันถือโอกาสขอเรียนพิเศษกับทางบ้าน นี่สิที่เรียกโอกาสทองของจริง ฉันไม่อยากให้การเรียนตกต่ำหรอกนะคะ โดยเฉพาะไม่รู้ว่าเรื่องฉ้อโกงจะถูกเผยเมื่อไหร่ หากบ้านคิโชวอินล้มละลาย อย่างน้อยฉันก็อยากมีความรู้ไว้ใช้ประกอบการงานที่ดีได้
แต่อยากบอกว่าการเรียนในตอนนี้สำหรับฉันง่ายมากค่ะ ฉันเคยเรียนทั้งหมดมาแล้ว และตัวฉันเองในโลกเดิมก็เรียนดีพอใช้เลยนะคะ แทบอดรอไม่ได้เลยค่ะว่าครั้งนี้จะสอบได้ที่เท่าไหร่
ดีจังนะคะที่ต่อให้เรื่องราวรอบข้างเปลี่ยนไปแค่ไหน แต่เนื้อหาที่เรียนยังเหมือนเดิมตามหลักสูตร ถ้าข้อสอบเหมือนเดิมก็ยิ่งดีนะคะ
เมื่อฉันย้ำว่าอาจต้องถูกซ้ำชั้นได้ ท่านแม่ก็ทนไม่ได้ ยอมให้ฉันเรียนพิเศษจริงๆด้วยค่ะ ดีจังน้า~
วันสอบใกล้เข้ามาแล้ว เหลือแค่อาทิตย์เดียว อาจารย์ที่โรงเรียนก็มาปลอบใจฉันซึ่งดูตั้งใจเรียนขึ้นว่าคะแนนไม่ดีก็ไม่เป็นไร ถือว่าครั้งนี้ความทรงจำหายไปเยอะ สีหน้าอาจารย์ดูสงสารฉันเอามากๆ...
คาบุรากิพักนี้ก็หายไป สงสัยอาจจะอ่านหนังสือเตรียมสอบ ถึงแม้ด้วยสมองของเขาไม่ต้องเตรียมอะไรมากก็น่าจะได้ท็อปแท้ๆ แต่คงเพราะเป็นการสอบครั้งแรกนับตั้งแต่ทะลุมิติมาล่ะมั้งคะเขาเลยตั้งใจจะทำให้ดี ความจริงจังมุ่งมั่นเอาชนะของเขายังสูงเหมือนเดิมเลยนะคะ
มีติดต่ออาจารย์มาช่วยติวให้ฉันที่บ้านแล้วค่ะ ท่านแม่เห็นว่าผลการเรียนฉันแย่ขนาดนั้น คงให้เรียนพิเศษกับคนอื่นไม่ได้ และอีกอย่างท่านแม่ไม่อยากให้ไปยุ่งกับสามัญชนด้วยค่ะ... พูดเหมือนโลกก่อนตอนฉันเด็กๆเลยนะคะ ครั้งนี้ไม่มีท่านพี่มาช่วยฉันได้อีกแล้ว
แต่เมื่อไม่ได้ไปโรงเรียนเรียนพิเศษ ฉันก็คงไม่มีโอกาสเจออาโออิจัง ซากุระจัง อาคิสะวะคุง หรือพวกอุเมะวากะ...
แค่ชั่วพริบตาเพื่อนทั้งหมดที่ฉันสร้างมาก็หายไป เหลือแต่เพื่อนที่คบเพราะอำนาจและความหวาดกลัว ฉันไม่รู้เลยว่าฉันจะปรับตัวเข้ากับเรื่องนี้ได้ยังไง
ถึงอย่างไรก็ต้องยอมรับค่ะว่าการที่คาบุรากิมาโลกนี้เป็นเพื่อนฉันทำให้รู้สึกดีจริงๆ แม้หมอนั่นจะเป็นพวกบ้าที่หล่อเสียของ แต่ก็ไม่ใช่เพื่อนที่แย่ล่ะนะคะ
อาจารย์สอนพิเศษมาที่บ้านฉันแล้วค่ะ คือ โออุซากะ มาริน เธอเป็นครูที่เคยสอนฉันเมื่อโลกก่อนด้วยล่ะค่ะ เพราะได้เห็นอีกครั้งก็รู้สึกอุ่นใจจังเลย
ฉันแกล้งตอบผิดๆบ้าง ถ้าทำได้หมดคงน่าสงสัยล่ะนะคะ แต่พอมาถึงวิชาเลข ฉันไม่ต้องแกล้งก็ตอบผิดค่ะ... เคยสอบมาแล้วแท้ๆ ฉันยังมึนๆหลักบางอย่างอยู่เลยค่ะ แต่ว่าก็กลับมาทำได้ในที่สุด อาจารย์ชมด้วยค่ะว่าฉันพัฒนาได้เร็วมาก ฉันดีใจนะคะ แต่คิดว่าคงต้องระมัดระวังตัวมากกว่านี้บ้างแล้ว ไม่งั้นคงแปลกๆที่เสียความทรงจำแต่กลับเรียนเก่งขึ้น
ตลอดทั้งสัปดาห์ฉันแทบไม่สนใจเรื่องอื่นนอกจากอ่านหนังสือเลยค่ะ (อาจมีเรื่องขนมบ้าง) ในที่สุดก็ถึงวันสอบค่ะ
ข้อสอบเดียวกับโลกก่อนเป๊ะๆเลยค่ะ! ฉันตื่นเต้นเอามากๆ เป็นครั้งแรกที่ฉันดีใจที่ได้ทะลุมิติมา แต่ก็ลืมไปเยอะเหมือนกันนะคะ ถึงยังไงฉันคิดว่านี่เป็นการสอบที่ฉันคิดว่าทำได้ดีที่สุดตั้งแต่ทำมาเลยค่ะ
คาบุรากิยังไม่ติดต่ออะไรฉันมาเลย แม้จะสอบเสร็จแล้วก็ตาม อาจจะกำลังวางแผนจีบวาคาบะอยู่ก็ได้มั้งคะ แต่ก็เหงาเหมือนกันนะคะ…
เมื่อฉันรู้ว่าผลสอบออกแล้วก็รีบไปดูบอร์ดประกาศคะแนน ฉันคิดว่าบางทีครั้งนี้อาจจะติด 1 ใน 20 ก็ได้ค่ะ ตื่นเต้นจังเลยค่ะ เมื่อฉันไปที่บอร์ดไวๆก็เห็นประกาศผลสอบของ 4 อันดับแรกที่ชื่อคุ้นเคย
ที่ 1 คาบุรากิ มาซายะ
ที่ 2 เอ็นโจ ชูสึเกะ
ที่ 3 ทาคามิจิ วาคาบะ
ที่ 4 มิซึซากิ อาริมะ
ครั้งนี้คาบุรากิได้คะแนน 100 เต็มเลยค่ะ! ! ! เป็นคะแนนที่ยังไม่มีใครในโรงเรียนเคยได้มาก่อน ที่ผ่านมาถึงเขาจะได้ที่ 1 แต่ก็คะแนนสูงสุดอยู่ที่ 98 กว่าๆมั้งคะถ้าจำไม่ผิด ทุกคนฮือฮากันใหญ่เลยค่ะ
แต่ว่านะ ไม่มีชื่อฉันติดบอร์ดงั้นหรอคะ... ครั้งนี้มั่นใจกว่าครั้งไหนๆแท้ๆ แถมยังเคยสอบมาแล้วครั้งหนึ่งด้วยในโลกที่แล้ว คงยังพยายามไม่พอล่ะมั้งคะ
ขณะที่ฉันกำลังโศกเศร้า อยู่ๆก็สัมผัสถึงอะไรหนักๆอุ่นๆที่ไหล่ ฉันสะดุ้งหันไปมอง คาบุรากิกำลังมองชื่อบนบอร์ดด้วยแววตาเป็นประกาย
ดูเสร็จก็เอามือออกไปซะทีสิคะ เอาไหล่ฉันมาเป็นไม้เท้ารับน้ำหนักทำไมคะ เสียงคนรอบข้างเริ่มเอะอะตื่นเต้นอีกแล้ว...
“สุดยอดไปเลยนี่คิโชวอิน”
“เอ๊ะ?”
สุดยอดอะไรคะ ชื่อฉันไม่ติดบอร์ดนะ หรือว่าฉันทำอะไรซึ่งไปสอดคล้องกับความคิดแปลกๆที่มโนไปเองของคาบุรากิอีกแล้ว
ฉันมองตามสายตาคาบุรากิ ก่อนจะชะงัก
ที่ 5 คิโชวอิน เรย์กะ
เหหหหหหห! นะ..นี่มันที่ 5 งั้นหรอคะ! ที่ 5 นี่นะ!
ฉันไม่คิดว่าตัวเองจะติดอันดับสูงขนาดนี้เลยไปมองไล่จากอันดับ 30 ขึ้นมา ไม่ได้สังเกตเลยค่ะ! ฉันดีใจจนอดยิ้มออกมาไม่ได้เลยค่ะ ดีจังเลย ถึงจะเป็นเพราะข้อสอบซ้ำก็เถอะ แต่ว่ามันดีที่สุดเท่าที่เคยทำมาเลยนะคะ ความฝันจะติด 1 ใน 20 วาร์ปข้ามมาถึง 1 ใน 5 เลยนะคะเนี้ย ไม่อยากจะเชื่อเลยค่ะ
“ท่านคาบุรากิก็ยอดเยี่ยมจริงๆนะคะที่ได้เต็ม” ฉันพูดบ้างกลบความดีใจออกนอกหน้าของตัวเอง
ฉันมองไปรอบๆ ทุกคนต่างยินดีกับฉันและคาบุรากิ ชมมากกว่านี้ก็ได้นะคะ หุหุหุ
แต่ฉันก็ชะงักไปเมื่อเห็นวาคาบะจังแอบๆเดินมาดูบอร์ดอย่างเงียบๆ แอบมองมาที่ฉันกับคาบุรากิอย่างเศร้าๆ และเมื่อเห็นฉันกำลังมองอยู่ก็สะดุ้งรีบหันหน้าหนี แล้วเดินเร็วๆจากไป
อย่าบอกนะว่าโลกนี้วาคาบะจังชอบคาบุรากิจริงๆงั้นหรอคะ แย่แล้วค่ะ แบบนี้ฉันก็ถือเป็นมารผจญของแท้ ต่อให้เรย์กะกลั่นแกล้งรังแกวาคาบะแค่ไหน ก็คงไม่เจ็บเท่าคนที่รักไปสนิทกับผู้หญิงอีกคน โดยเฉพาะผู้หญิงคนนั้นก็หลงรักคาบุรากิด้วยเช่นกัน
ขณะที่ฉันกำลังคิดจะไปหาวาคาบะจัง คาบุรากิก็ยังจับไหล่ฉันไว้อยู่ แถมเมื่อฉันจะเดินหนีก็ยิ่งแน่นเข้าไปใหญ่
“จะว่าไป ขอคุยส่วนตัวหน่อยได้ไหม”
“เอ๊ะ ค่ะ”
ฉันตอบรับด้วยหัวใจที่พะวงถึงวาคาบะจัง จะเป็นอะไรหรือเปล่านะ...
“ท่านคาบุรากิกับท่านเรย์กะดูเหมาะสมกันจังเลยนะ”
“นั่นสิ เหมือนหลังๆจะสนิทกันสุดๆเลยด้วย”
“จะว่าไป ครั้งนี้ท่านเรย์กะคะแนนสูงมากๆ อย่าบอกนะว่าท่านคาบุรากิช่วยติวให้ส่วนตัว”
“เห แต่ก็เป็นไปได้นะ เมื่อกี้ทั้งคู่ยินดีกับคะแนนให้กันและกันด้วยล่ะ ต้องใช่แน่ๆเลย”
“โรแมนติคจังเลยน้า”
“ถ้าเป็นท่านเรย์กะล่ะก็ ฉันก็ยอมรับได้นะ ดีกว่าคุณทาคามิจิที่ไร้หัวนอนปลายเท้าคนนั้น”
“นั่นสินะ สะใจจริงๆ เมื่อกี้เห็นไหม ทาคามิจิวิ่งหนีไปด้วยล่ะ”
“จริงหรอ เล่าให้ฟังหน่อย”
ฉันตกตะลึงกับบทสนทนาของทุกๆคน ไม่ใช่นะ เข้าใจผิดแล้วเต็มๆ... และก็อย่ามาว่าวาคาบะจังนะ!
ถึงแม้ฉันจะอยากโต้แย้งแค่ไหน แต่ก็สู้แรงคาบุรากิที่ลากฉันไปเรื่อยๆไม่ได้อยู่ดี...
เมื่อถึงซอกทางตันที่ไร้คน คาบุรากิก็ปล่อยมือจากไหล่ ฉันก็นวดๆกล้ามเนื้อที่โดนประทุษร้าย มองเขาอย่างสงสัยว่ามีเรื่องอะไรกันแน่ ก็เห็นคาบุรากิทำสายตาเหมือนเด็กที่ถูกรังแกจนเกือบร้องไห้
“เมื่อกี้ทาคามิจิหลบหน้าฉัน...”
“...”
นี่ขนาดนายมองไปทางอื่นอยู่ก็เห็นงั้นหรอ ต้องใช้ความสามารถขนาดไหนกันนะที่จะเห็นจากหางตาได้แนบเนียนขนาดนั้น
“ฉันคิดว่าเราควรจะอย่าทำตัวสนิทกันในที่สาธารณะเลยดีกว่านะคะ”
ฉันพูดสิ่งที่คิดไว้ในใจมานานออกมา นายทำตัวสนิทกับคนที่ตามจีบอย่างงี้ นี่มันเหมือนตกลงคบเป็นแฟนกันเลยนะคะ... ยิ่งทำแบบนี้มีแต่ทำให้วาคาบะจังหนีออกห่าง
"หะ พูดแบบนี้กับเพศตรงข้ามที่สนิทที่สุดของเธอได้ไง"
ฉันชะงัก ฉันกำลังพยายามลืมเรื่องนั้นอยู่นะ อย่าฟื้นมันกลับมาสิ!!!
ความทรงจำที่หลอกหลอนจากความผิดพลาดที่ลากคาบุรากิออกมาวิ่งอย่างแท้จริง ฉันอยากเอาหัวโขกกำแพงซ้ำๆ... ตอนนั้นฉันไร้หัวคิดไร้สติจริงๆค่ะ...
ฉันอธิบายความคิดของฉันให้ฟังว่าอาจมีผลกระทบอะไรกับวาคาบะจังบ้าง คาบุรากิก็ขมวดคิ้ว
“ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่ ก็เป็นเพื่อนกันเฉยๆไง”
“แต่ว่า... ปกติถ้าผู้หญิงเห็นผู้ชายที่ชอบไปอยู่กับผู้หญิงอีกคนก็รู้สึกไม่ดีล่ะนะคะ ถ้าท่านคาบุรากิเห็นวาคาบะจังอยู่กับนายตัวสะ...คุณมิซึซากิก็รู้สึกไม่ดีใช่ไหมล่ะคะ”
“แน่สิ หมอนั่นมาจีบทาคามิจินี่”
อ้า...นั่นสินะ ฉันก็ยกตัวอย่างผิดพลาดไปหน่อย
“แต่ในมุมมองของวาคาบะจัง ก็คิดว่าฉันมาจีบท่านคาบุรากิอยู่นะคะ เพราะงั้นวาคาบะจังน่าจะรู้สึกแบบเดียวกันก็ได้ค่ะ”
คาบุรากิทำสีหน้าแปลกๆออกมา และถาม “แล้วเธอจีบฉันหรือไง”
“ไม่ใช่แน่นอนค่ะ”
“ถ้างั้นก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่ ไม่มีอะไรให้กังวล”
“แต่วาคาบะจังไม่รู้เรื่องนี้นะคะ” ฉันพยายามอธิบายให้อีกฝ่ายเห็นภาพ
คาบุรากิไม่ตอบอะไร อยู่ๆเขาก็ดูเคร่งขรึมขึ้นมา แต่แฝงแววเศร้าๆอย่างบอกไม่ถูกไว้ ฉันมองเขาอย่างสงสัย
“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ?”
“หะ? อ๋อ ไม่ ฉันไม่เป็นอะไร”
ฉันไม่แน่ใจว่าควรเค้นคำตอบออกมาดีไหม ก่อนสังเกตไปอีกเรื่องแทน
“จะว่าไปท่านเอ็นโจไม่อยู่ด้วยหรอคะ”
“ฉันทะเลาะกับหมอนั่นนิดหน่อยน่ะ”
“เอ๋ !”
ฉันตกใจจนลืมเรื่องทุกอย่าง ฉันไม่เคยเห็นเอ็นโจทะเลาะกับคาบุรากิจริงๆจังๆมาก่อนเลย
“หรือว่าเป็นเพราะฉันหรือเปล่าคะ”
เอ็นโจน่าจะเป็นห่วงคาบุรากิที่มาคบคนแย่ๆแบบฉันล่ะนะ ตามนิสัยของคาบุรากิแล้ว เขาคงไม่ยอม นั่นอาจจะเป็นประเด็นที่ทำให้สองคนนั้นทะเลาะกันก็ได้...
“ไม่ใช่หรอก” คาบุรากิตอบแบบไม่สบตา ก่อนจะหันไปหาอะไรสักอย่างมาจากในกระเป๋า แล้วยัดซองสีน้ำตาลใส่มือฉัน “ถือว่าเป็นรางวัลที่คะแนนสอบสูงขึ้นแล้วกัน”
ฉันมองซองในมืออย่างงงๆ แต่ยังไม่ทันที่จะได้ถามอะไร คาบุรากิก็บอกลาและรีบเดินจากไป คิดจะลากฉันมาก็มา คิดจะไปก็ไป เอาแต่ใจชะมัดเลยค่ะ
ฉันลังเลนิดหน่อย แต่ก็กลั้นใจเปิดให้จบๆ ในซองนี่จะมีรวมรูปพาเหรดนักษัตรอะไรหรือเปล่านะคะ...
ในนั้นเป็นกระดาษเป็นปึก เต็มไปด้วยตัวอักษร เมื่อฉันลองอ่านดีๆ นี่เป็นข้อมูลของท่านพี่นี่คะ! มีทั้งเบอร์ติดต่อ ที่ทำงาน ที่อยู่ ความชอบ เพื่อนที่สนิท ประวัติละเอียดมาก แทบทุกอย่างที่ฉันหาเองเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ ฉันตกตะลึง
จะว่าไปครั้งสุดท้ายที่คุยกับคาบุรากิคือฉันไปบ่นเรื่องท่านพี่ แล้วคาบุรากิก็บอกว่าฉันบราค่อนนี่คะ อย่าบอกนะว่านายไปแอบทำเจ้านี่มาให้ฉัน! ! !
ฉันรีบส่งเมลล์ขอบคุณให้คาบุรากิ ฉันดีใจมากๆเลยค่ะ คาดไม่ถึงสุดๆไปเลยนะคะ
อารมณ์ฉันดีขึ้นทันตาจริงๆ แต่ก็ดิ่งวูบลงเมื่อหันมาเจอเอ็นโจพอดี มาทำอะไรตรงนี้คะ...
ฉันพยายามทำตัวลีบเล็ก แม้จะถูกสายตาของจอมมารจับจ้องก็ตาม แต่ในเมื่อเขาไม่ได้ทักหรือพูดอะไรกับฉัน ก็คงไม่ต้องกลัวล่ะมั้งคะ
ขณะที่ฉันกำลังคิดจะหนีจากไป ฉันก็คิดถึงคาบุรากิขึ้นมา เขาทะเลาะกับเอ็นโจเพราะฉันหรือเปล่านะ... หมอนั่นตอบแบบหลบสายตานี่นา...
ฉันทำภารกิจเสี่ยงตาย หันไปหาเอ็นโจที่ยังมองฉันอยู่
“ท่านเอ็นโจ ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหมคะ”
>>844-846 กรี้ดดดดดด ดีงามมากมึงงงงงงงงงงง โอ้ยกูปลื้มมมมมม คาบุรากิตอนนี้ละมุนว่ะ 5555555 ตายเลี้ยววว เล่นเอาใจสั่นไปชั่วแวบนึง ว่าแต่ทะเลาะกับเอ็นโจวเลยเหรอ ต่อมเผือกกูทำงานหนักมาก เรย์กะไปคุยกับเอ็นโจวตรงๆแล้ว เรือเอ็นโจวกูพายพั่บๆเลยแม่จะรู้อยู่แล้วว่านี่ฟิคคาบุรากิ 5555
ท่านเรย์กะะะ ที่ห้าาาา ยินดีด้วยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ร้องไห้ ส่วนวาคาบะจังงงงงงง หนูต้องสตรองสิลูกกกก เวอร์ชั่นนี่ยังไงก็ไม่ชินจริงๆ 55555555555
>>846 แม้ฟิคนี้จะเป็นฟิคเรือคาบุรากิ แต่กูโดขิโดขิมากที่เรย์กะเดินเข้าหาเอ็นโจด้วยตัวเองอะนะ กูขอโทษ กูผิดไปแล้ววววว
กูชอบคาบุรากิในฟิคนี้นะ น่ารักชิบหาย กูว่าฮีคงเหงาและสับสนเลยยึดเรย์กะที่มาจากโลกเดิมด้วยกันเป็นที่พึ่ง เป็นเพื่อนคุยปรับทุกข์ด้วยอะ แต่นายกำลังจะทำคนที่นายรักเสียใจไม่ใช่เรอะ ไม่ดีน้า คาบุรากิคุงงงง
กูว่าจะเขียนเปิดฟิคฮอกวอตส์ให้จากเมนท์นี้ >>837 แต่ทำยังไงก็เขียนไม่ออกว่ะ ใครก็ได้ช่วยเอาไปเริ่มต้นให้ที แล้วกูสัญญาว่าจะต่อฟิคให้แน่นวลลลล
>>846 เอ็นโจยังคงความสตอล์กเกอร์ไม่เสื่อมคลายจริงๆ กูหลุดขำออกมาเลยที่หันไปเจอเอ็นโจเข้า ร้อนรนป่ะคะ เขาคุยอะไรกันตัวเองก็ไม่รู้ ต้องรีบตามมาดู
คาบุรากิบ้าบอจริงๆ เรื่องแค่นี้ก็ไม่รู้งั้นเรอะ เวลามีสาวที่เราชอบแล้วเขาก็ชอบเราตอบ ก็อย่าไปทำดีกับสาวอื่นสิยะอีตานี่ จับปลาสองมือระวังจะวืดหมดนะ
อัพเดต
รวมชื่อ
>>785 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับหลุมดำดูดเวลา กาวแลคซี่ที่ 6
>>788 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับแผนวาร์ปสตูดิโอกาวโปรดักชั่นไปกาแล็กซี่ที่ 6
>>796 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันของเหล่าโม่งกลางเนบิวลากาวเรืองแสง กาแลคซี่ที่ 6
----------
แต้มปัจจุบัน
>>785 ////
>>788
>>796 ////
---------
คะแนนเสมอละ ถถถ
ปิดโหวตตอนเม้นเท่าไหร่ดีวะ 900?
อันนี้กุไปก๊อปของ >>810 มาอีกที
รวมชื่อ
>>785 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับหลุมดำดูดเวลา กาวแลคซี่ที่ 6
>>788 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับแผนวาร์ปสตูดิโอกาวโปรดักชั่นไปกาแล็กซี่ที่ 6
>>796 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันของเหล่าโม่งกลางเนบิวลากาวเรืองแสง กาแลคซี่ที่ 6
----------
แต้มปัจจุบัน (นับคนเสนอชื่อด้วย)
>>785 /////
>>788 /
>>796 /////
ไม่มีพัด ใช้ดอกไม้เป็นอาวุธก็ได้ สมเป็นท่านเรย์กะจริงๆ
อ่านตอนล่าสุดจบละ
บากะรากี๊!!!!!! โอ๊ยยย สมองเซลล์เดียวจริงๆด้วย ทำวาคาบะเดือดร้อนหมดแล้ววว
สรุปเก็บพัดไปแล้วซินะ ถถถถ เข้าใจว่าดอกโบตั๋นนั่นเป็นแนวเข็มกลัดมาตลิด จริงๆแล้วเป็นดอกไม้จริงๆเลยซินะ ทำท่าปักคอนี่แม่งท่านเรย์กะโหดชิพ นายตัวสำรองคงเอือมระอา สงสารประธานฟุตบอลที่โดนลูกหลง 555555555
>>865 ยังไงซะฟิลเตอร์จากคนอื่นก็คงมองว่า จักพรรดินีกำลังชมความงามของดอกไม้อยู่ดีนั่นล่ะ ฟิลเตอร์รอบตัวนางอานุภาพรุนแรงจะตาย 555
ช่วงนี้มันฮาเร็มดีงามจริงๆ ฟิคคาบุรากิก็ดี นายตัวสำรองในออฟฟิเชี่ยลก็ดี ชอบเวลานายตัวสำรองคุยกับเรย์กะช่วงหลังๆนี้มากเลย เหมือนตามดู ตามห่วง 555 นี่นอนพาดเรือทุกลำละ สนุกจริงๆ
>>866 เหมือนกัน55555555 นี่เอาเรือมาวางยาวๆแล้วนอนพาดละ ปลายนิ้วก็พยายามตีน้ำไปให้ไกลๆภูเขาน้ำแข็งคาน
.
.
.
หวีดตอนวันนี้ : แม่งเอ้ย กูชอบโมเมนต์ของนายตัวสำรองม๊ากมาก มีการแซวเล็กๆด้วย แล้วกูเห็นด้วยมากๆว่าดอกโบตั๋นแม่งดูอันตรายกว่าอีก555555 สิ่งของจะกลายเป็นอาวุธทำลายล้างถ้าอยู่ในมือของคิโชวอิน เรย์กะ
รักโม่งแปลลล กูนอนหลับแล้วเช้านี้ จู๊บบบ
บากะรากินี่แม่งบากะรากิจริงๆ! แต่ก็เข้าใจนางนะว่าไม่แคร์ ส่วนท่านเอ็นโจว กูกำลังงอนอยู่55555
ไม่มีกัปตันยูกิโนะออก ตอนนี้ถ้ากูเชียร์ให้ท่านเรย์กะกับวาคาบะจังไปปลูกทุ่งลิลลี่นี่ไม่ผิดใช่ไหม หมั่นไส้เรือตัวเอง55555 คู่แรกเลยนะที่กูจิ้นท่านเรย์กะกินกับอะไรก็อร่อย
ชอบนายตัวสำรองตอนนี้ 5555
นางดูพยายามทำความเข้าใจท่านเรย์กะมากขึ้น
แล้วก็เฟสปาล์มบากะรากิด้วย สงสารวาคาบะจังที่ถูกหมอนี่สตอล์ก
ตอนนี้ดูยังไงคาบุรากิก็เป็นภัยต่อวาคาบะจังจริงๆ... แต่อาริมะก็เถอะ มีแฟนคลับเหมือนกัน สรุปว่าวาคาบะจังซวยสินะ
หัวหน้า(เอส)ชมรมฟุตบอลนั่น อาซึมิคุงสินะ?
จับวาคาบะยัดรถ? เหมือนตอนยูริเอะเลยแฮะ
ช่วยด้วยค่าาาา คุณตำรวจค๊าาา มีการลักพาตัวกันเกิดขึ้นค่าาาาา
ไม่มีพัด ก็ใช้ดอกไม้ซะสิ
คล้ายๆไม่มีขนมปังก็กินเค้กรึเปล่าวะ
นี่กรูอ่านอฟชหรือกาววะ ทำไมนายตัวสำรองดูมีออร่า
เอาจริงนะ พอกุอ่านฟิคเรือคาบุรากิแล้ว พอกลับไปอ่านอฟชนี่กูมึนไปเลย เหมือนตัวเองทะลุมาคนละไทม์ไลน์แต่มีความเสมือนจริง
มึง มึง นายตัวสำรองพอเลิกมองมองเรย์กะในแง่ร้ายโคตรดีเลยมึง ดูเป็นหนุ่มหล่อเลิศเลอเพอร์เฟ็ครับผิดชอบคอยเป็นห่วงคนอื่น ไม่บ้าไม่สโตรกเกอร์ กูชอบเวลาสองคนนี้ต่อบทสนทนากันนน กูไม่ค่อยอ่านฟิค มีใครเขียนคู่นี้ไปรึยัง
กูสงสารหัวหน้าชมรมฟุตบอล...
กุต่อเรือ หัวหน้าชมรมฟุตบอลเพิ่มละ ถึงจะออกแค่ตอนนี้ก็เถอะ
อ่านตอนนี้แล้วอยากแหวกจอไปต่อยบากะรากิมากกกกกกก ทำบ้าอะไรของแกกกกกกก เป็นกรรมของวาคาบะจังจริงๆที่มีไอ้บ้านี่มาชอบ
ท่านเรย์กะนี่ทำตัวสมฉายาเจ้าแม่กาลีจริงๆ อะไรก็ใช้เป็นอาวุธสังหารได้.....
ท่านเรย์กะจะทำยังไงเรื่องวาคาบะจังน่อ ชักจะโดนแกล้งหนักขึ้นเรื่อยๆแล้วสิ สงสารอะ ; ;
ชอบบบบบบ โม่งแปลรักมึงนะ จุ๊บ พอนายตัวสำรองมองเรย์กะดีๆแล้วมันฟินจริงๆนะเออ เป็นตัวตบมุกที่ถูกจังหวะมากอะ กู๊ดจ๊อป!!
กุว่าฉากมอบดอกไม้ คนอื่นมาเห็นยังไงก็เป็นการข่มขู่มากกว่าหวะ ข่าวลือคงเป็นอาวุธชิ้นใหม่ของเจ้าแม่กาลี
สงสารวาคาบะ ตอนเร่งสปีดซัดข้าวกล่องโค้งสุดท้ายนั่นคิดอะไรอยู่น้อ สงสัยจะห่วงแต่เรื่องกินว่ะ กูอ่านถึงตรงนี้แบบว่าอินมาก กูเข้าใจถึงความพยายามยัดนั่นเลย
ว่าแต่แบบนี้แล้วอิสองหนุ่มจะมีหวังบ้างไหมนั่น กูคิดไปเองปะวะว่าวาคาบะจังก็ดูมีออร่าหักธงเหมือนกันว่ะ ดูไม่น่าจะชอบของแปลกแบบบากะรากิได้เลยนะ... รึเปล่า...
ท่านเรย์กะแม่งเข้าใจวาคาบะโคตรดี เห็นหน้าก็บอกได้ว่าคิดอะไรอยู่
หรือแค่วาคาบะแสดงออกทางสีหน้าสุดๆแต่ไม่มีใครสนใจอ่านฟะ
แล้วจะกลายเป็นพิธีไหม pivoineหมายหัวใครจะมอบโบตั๋นแดงให้
กูว่าไอ้หนุ่มที่ตื้อวาคาบะนั่นน่าจะไปลือว่า ดอกโบตั๋นเป็นสัญลักษณ์หมายหัวเครื่องบูชายัญของเจ้าแม่กาลี แล้วก็มีข่าวลืออีกว่าประธานฟุตบอลเป็นเหยื่อสังเวยที่โดนหมายหัวเป็นรายต่อไป ถถถถ
ด้วยความมโนไปเอง รู้สึกฟินนายตัวสำรองกับท่านเรย์กะ คงปวดหัวมากเลยสินะนายตัวสำรอง ทำไงได้ล่ะก็นั้นน่ะมันเจ้าแม่เรย์กะนี่นา
คาบุรากิแม่ง....ถ้านกกูไม่แปลกใจเลยนะ คือมึงลืมสถานะตัวเองไปแล้วใช่มั้ย หรือเพราะคิดว่าทุกอย่างเหมือนตอนยูริเอะวะ ตัวเองจีบยูริเอะ คุยกับยูริเอะโจ่งแจ้งเปิดเผยได้ไม่เห็นมีอะไร เลยนึกว่ากรณีของวาคาบะจะเหมือนกันงั้นดิ มีสมองบ้างมั้ยเนี่ยหา ท่านเรย์กะเอาพัดตบเตือนสติหน่อยสิคะ หรือเอาโบตั๋นแดงปักคอก็ได้
>>892 กูว่าเพราะคาบุรากิมันไม่เคยสนสายตาใครหรืออะไรอยู่แล้ว มันเลยไม่สนว่าคนอื่นจะมองตัวเองยังไง แล้วคิดว่าคนอื่นๆ ก็เป็นเหมือนมันด้วย (ซึ่งจริงๆ ไม่ใช่โว้ย) ในแง่หนึ่งมันก็ถือเป็นความเท่าเทียมกันนะ เพราะจะเป็น pivoine หรือนร.ธรรมดาก็ค่าเท่ากันหมด ในสายตาคาบุรากิ
ถ้าเรย์กะสลับร่างกับวาคาบะจะเกิดอะไรขึ้นวะ
>>893 จะมโนก็ลืมตามาดูความเป็นจริงด้วยโว้ยยย ว่าแกกำลังทำให้เขาเดือดร้อนอยู่อะ ถึงตัวเองไม่แคร์ แต่คนเสือกกับชีวิตแกเขาแคร์ กูเป็นวาคาบะคงเกลียดอีนี่ว่ะ อยู่ของกูดีๆแท้ๆเสือกหาเรื่องให้ เอ็นโจช่วยเตือนสติเพื่อนหน่อย หรือไม่เตือนเพราะสนุกอยู่ เรย์กะไปต่อยท้องอีกรอบหน่อย เผื่อจะมีดวงตาเห็นธรรม เลิกเล่นซักที
ตอนนี้แม่งเรือตัวสำรองกูนี่ติดไอพ่นแล้ว โมเมนต์คู่นี้แม่งน่ารักชห ส่วนเจ้าแม่นี่องค์ลงง่ายกว่าเดิมนะคะ รอบแรกนี่ต้องรอให้ผมหงอกก่อนถึงจะจุติ
ปล.หัวหน้าชมรมฟุตบอลแม่งอาดูรเห็นละแบบ กูแค่เดินผ่านมากูผิดอัลไล โอ๋นะคะกูร้องเพลงให้
~เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันไย ฉันทำอะไรให้เธอเคืองขุ่น~
แล้วไอดอกไม้ที่มอบให้นั่นคือเด็ดกลีบออกไปแล้วด้วยนะ แบบหมายหัวแล้วอยู่ไม่ครบ 32 แน่เอ็งงงงง
ป.ล.เจ้าแม่กาลีนี่มีกี่มือนะ ตอนนี้ได้สองปางละปางถือพัดกับปางทัดดอกไม้
พวกมึงคิดว่ามีไอเทมอะไรที่เหมาะกับเจ้ากาลีอีกมั่งวะ?
900ละ สรุปแต้ม
>>785 ////// =6
>>788 / =1
>>796 ///// =5
.
สรุปชื่อกระทู้หน้า:
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับหลุมดำดูดเวลา กาวแลคซี่ที่ 6
______________
เอาไว้พูดคุยเรื่อง "นอบน้อมและหนักแน่น คือคติประจำใจในการใช้ชีวิตของฉันค่ะ!"
รักใคร อวยใคร ชอบใคร อยากให้ใครเข้าวิน เชิญได้ที่กระทู้นี้
.
謙虚、堅実をモットーに生きております!
นอบน้อมและหนักแน่น คือคติประจำใจในการใช้ชีวิตของฉันค่ะ!
(RAW) http://ncode.syosetu.com/n4029bs/
(TH) http://www.nekopost.net/novel/3015
_______________________________
[[กระทู้เก่า]]
>>>/webnovel/3289/ : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ [เรือลำที่ 1 : องค์ชายเอ็นโจ]
>>>/webnovel/3364/ : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำชายามบ่ายของโม่งซุยรัน [ซาลอนที่ 2]
>>>/webnovel/3451/ : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันยามบ่ายกลางจักรวาลแห่งกาว (ยานแม่ลำที่3)
>>>/webnovel/3507/ : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับสตูดิโอกาวโปรดักชั่นหมายเลข 4
>>>/webnovel/3543/ : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับปฏิบัติการปลูกไร่กัญชาบนดาวเคราะห์ดวงที่ 5
[[สารบัญแฟนฟิค-แฟนอาร์ต-รายชื่อตัวละคร]]
https://justpaste.it/reika
โทรลโผล่ก็เป็นเรื่องธรรมชาตินะกูว่า อย่าไปฟีดมันก็พอ ถ้ามีมาอีกมันจะอาละวาดนิดๆ หน่อยๆ ก็ปล่อยมันไปเหอะ แอะ ว่าเข้านั่นแต่กูเองก็เผลอฟีดบ้างเหมือนกัน //ตบปากตัวเองสิบที ไม่เอาละ กูขอโทษ เลิกพูดๆๆๆๆ
>>904 กูพิมพ์ท่านเรย์กะก็เจอกระทู้นี้แล้วอะ ไม่ต้องแปะลิงก์หรืออะไรหรอก ถ้าคนมันคิดจะหา มันก็เจอง่ายๆนะ ที่นี่ไม่ได้ลึกลับอะไรเลย
สาระสำคัญที่โทรลน้อยมันต้องการคงเป็นสปอยนั่นล่ะ แต่ที่นี่มันเป็นแหล่งค้ากาว ขายกาว จิบน้ำ*ชาจากไร่เก็บเกี่ยวกันสดๆ โทรลน้อยคงคัลเจอร์ช็อค แบบเดียวกับท่านเรย์กะเพิ่งเข้าซุยรันนั่นล่ะ เพียงแต่มันสอบไม่ติดซุยรันแบบเหล่าโม่งในกระทู้เท่านั้น ถึงไม่รู้ว่าแนวทางของกระทู้มันเป็นยังไง
เอ้อ ไหนๆ ก็มีคนถามเรื่องชื่อตัวละคร กูเลยไปค้นๆ มา อันนี้เป็นคอมเมนต์คนญี่ปุ่นนะ คือเขาว่ารวมๆ แล้วชื่อ+นามสกุล ตัวละครเรื่องนี้มักมีตัวอักษรที่มีความหมายไปทาง พืช ผัก ดอกไม้ ต้นไม้ กูเลยลองยกมาให้ดู ดังนี้ ถ้าอ่านยากก็ขอโทษด้วยนะ
คิโชวอิน เรย์กะ 吉祥院麗華 = อักษร 麗 แปลว่า ดอกอุราระ
คาบุรากิ มาซายะ 鏑木雅哉 = อักษร 鏑木 แปลว่า ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์
โมโมโซโนะ อิมาริ 桃園伊万里 = อักษร 桃 แปลว่า ลูกท้อ
อุเมวากะ อาสึกะ 梅若飛鳥 = อักษร 梅 แปลว่า บ๊วย (แถมชื่อยังแปลว่า "นกบิน" ทำไมไม่เป็นหมาวะ...)
ซึรุฮานะ มากิ 蔓花真希 = อักษร 蔓花 แปลว่า ดอกลำโพงม่วง
โยริโนะ อาโออิ 頼野葵 = อักษร 葵 แปลว่า ดอก Hollyhock
ทาคามิจิ วาคาบะ 高道若葉 = อักษร 若葉 แปลว่า ใบอ่อน
ทาคาโอกะ ซากุระโกะ蕗丘桜子 = อักษร 桜 แปลว่า ซากุระ
ซาวาราบิ มาโอะ 早蕨麻央 = อักษร 早蕨 แปลว่า เฟิร์นที่เพิ่งแตกหน่อ
ฟุคาคุสะ คาซึมิ深草香澄 = อักษร草 ต้นหญ้า ใบหญ้า คาซึมิ (เขียนด้วยอักษรคนละตัว) ก็แปลว่าหญ้าคาซึมิได้
แล้วที่เหลือก็มีพวกธาตุน้ำ
มิซึซากิ อาริมะ 水崎有馬 = อักษร水 แปลว่าน้ำ ส่วนชื่อตัวแปลว่า มีม้า เรียกนายอาชายังได้
มินาสึกิ ไอระ 水無月愛羅 = อักษร水 แปลว่าน้ำ ส่วนชื่อตัว 愛 แปลว่าความรัก ตัวระ 羅 นี่เป็น ระ เดียวกับในอาชูร่าเทพสงครามเลย ฟังดูบู๊ๆ หน่อย
ฮนดะ มิฮารุ 本田美波留 = อักษร波 แปลว่าคลื่น
โนโนเสะ มาโฮะ 野々瀬真帆 = อักษร 瀬 ก็อยู่ในโซนแม่น้ำลำธารอีก
แล้วก็พวกธาตุแสง
คิโชวอิน ทาคาเทรุ 吉祥院貴輝 = อักษร輝 แปลว่า ส่องประกาย จะแปลว่าท่านผู้ส่องประกาย ก็ได้มั้ง
นารุโทมิ อาคิมิ 成富耀美 = อักษร 耀美 แปลว่า เป็นประกายอย่างงดงาม
ส่วนเอ็นโจ... ไม่ได้อยู่ในพวกไหนเลย 55555 นายมันเป็นโจ๊กเกอร์ของโลกใบนี้สินะ
อันนี้แถม ยูกิโนะ 雪野 = 雪 แปลว่าหิมะจ้ะ เอ็นโจเลยไปปั้นกระต่ายหิมะมาให้น้องมั้ง
คาบุรากิสตอล์กวาคาบะขนาดนี้ไมฮามะที่สตอล์กคาบุรากิหายหัวไปเลยนะ
หรือโดนซากุระจังเก็บแทนเจ้าแม่เรย์กะไปแล้วเนี่ย
>>909 โหยขอบคุณมึงมาก เพิ่งรู้ว่าตัวละครนี่ชื่อเป็นซีรีย์ขนาดนี้ ท่านฮิโยโกะแลดูเป็นคนรักธรรมชาติ ต้นไม้ใบหญ้า ชื่อท่านพี่ก็เข้ากับภาพลักษณ์ฮีมาก แต่โคตรตรงข้ามกับเนื้อใน 555
แต่กุแอบสังหรณ์เรื่องชื่อเอ็นโจว่ะ ตั้งแต่ที่มีคนแปลรายอักษรมาละ อ่านแวบแรกนี่กุเชื่อมโยงได้เป็น สุดยอดคนกลาง เพราะมันโคตรจะเป๊ะกับเนื้อเรื่องในคิมิดอล กลัวโลกปจบ.นี่นางก็จะยังสุดยอดคนกลางอยู่จริงงง แต่กุคงไม่เจ็บหนักเพราะกุอยุ่ทีมนอนพาดทุกเรือ คานทองจงหายไปปป แม้แต่น้องชายอิมาริที่ไม่โผล่เงาหัวมาแม้แต่อนูรังแคกุก็ยังมองเป็นเรืออีกลำได้
ใครตั้งมู้ใหม่อย่าลืมมาแปะลิ้งค์น้าา
กุไปดำนำน้ำมาเพิ่ม
--------------------------------------------------------------------
เพื่อนของเรย์กะ
--------------------------------------------------------------------
1.
คาซามิ เซริกะ 風見芹香 (かざみせりか) Kazami Serika
นามสกุล คาซามิ 風見 (かざみ) Kazami
แปลรวมมั่วนิ่มว่า เพื่อที่จะได้เห็นถึงสายลม
風 อ่านว่า かざ (kaza) คะซะ เป็นตัวคันจิ (เคียวอิคุคันจิ Kyōiku kanji ตัวคันจิเพื่อการศึกษา)
แปลว่า ลม(การเคลื่อนไหวของอากาศ)/อากาศ/สไตล์/รูปแบบ/สำนวน/ความเก๋ไก๋/ความนิยม/แกว่ง/เหวี่ยง/หมุนรอบ/แขวน
แบบGoonอ่านว่า ふう (fū) ฟู, ふ (fu) ฟุ
แบบKan’onอ่านว่า ほう (hō) โฮ/โฮว
แบบKun(คุน)อ่านว่า かぜ (kaze) คะเซะ, かざ (kaza) คะซะ
แบบNanori(นาโนริ)อ่านว่า か (ka) คะ
見 อ่านว่า み (mi) มิ เป็นตัวคันจิ (เคียวอิคุคันจิ Kyōiku kanji ตัวคันจิเพื่อการศึกษา)
แปลว่า เพื่อที่จะเห็น
แบบGoonอ่านว่า けん (ken) เคน, げん (gen) เกน/เงน
แบบKan’onอ่านว่า けん (ken) เคน
แบบKun(คุน)อ่านว่า みる (見る, miru) มิรุ, みえる (見える, mieru) มิเอะรุ, まみえる (見える, mamieru) มะมิเอะรุ, みせる (見せる, miseru) มิเสะรุ/มิเซะรุ
ชื่อ เซริกะ 芹香 (せりか) Serika
แปลรวมมั่วนิ่วว่า กลิ่นหอมของผักชีล้อม/น้ำหอมผักชีล้อม
芹 อ่านว่า せり (seri) เซะริ เป็นตัวคันจิ (จินเมย์โยคันจิ Jinmeiyō kanji ตัวคันจิสำหรับชื่อบุคคล)
แปลว่า ผักชีล้อม
แบบOn(อง)อ่านว่า きん (kin) คิน
แบบKun(คุน)อ่านว่า せり (seri) เซะริ
香 อ่านว่า か (ka) กะ เป็นตัวคันจิ (โจโยคันจิ Jōyō kanji ตัวคันจิในชีวิตประจำวัน)
แปลว่า กลิ่นหอม/น้ำหอม/หอก/หลาว/ทวน
แบบGoonอ่านว่า こう (kō) โค/โคว/โก/โกว
แบบKan’onอ่านว่า きょう (kyō) เคียว
แบบKun(คุน)อ่านว่า かお.る (kao.ru) คะโอะ.รุ, かお.り (kao.ri) คะโอะ.ริ, か (ka) กะ/คะ
--------------------------------------------------------------------
2.
อิมามูระ คิคุโนะ 今村菊乃 (いまむらきくの) Imamura Kikuno
นามสกุล อิมามูระ 今村 (いまむら) Imamura
แปลรวมมั่วนิ่วว่า หมู่บ้านในปัจจุบัน
今 อ่านว่า いま (ima) อิมะ เป็นตัวคันจิ (เคียวอิคุคันจิ Kyōiku kanji ตัวคันจิเพื่อการศึกษา)
แปลว่า ปัจจุบัน/ตอนนี้/ขณะนี้
แบบGoonอ่านว่า こん (kon) คอน/กอน
แบบKan’onอ่านว่า きん (kin) คิน/กิน
แบบKun(คุน)อ่านว่า いま (ima) อิมะ
แบบNanori(นาโนริ)อ่านว่า な (na) นะ
村 อ่านว่า むら (mura) มุระ เป็นตัวคันจิ (เคียวอิคุคันจิ Kyōiku kanji ตัวคันจิเพื่อการศึกษา)
แปลว่า หมู่บ้าน/ชุมชน (พบว่ามีการเอาไปใช้เป็นส่วนประกอบของนามสกุล)
แบบGoonอ่านว่า そん (son) ซอน
แบบKan’onอ่านว่า そん (son) ซอน
แบบKun(คุน)อ่านว่า むら (mura) มุระ
ชื่อ คิคุโน 菊乃 (きくの) Kikuno
แปลรวมมั่วนิ่มว่า ของดอกเบญจมาศ/ของดอกเก็กฮวย
菊 อ่านว่า きく (kiku) คิคุ เป็นตัวคันจิ (โจโยคันจิ Jōyō kanji ตัวคันจิในชีวิตประจำวัน)
แปลว่า ดอกเบญจมาศ/ดอกเก็กฮวย
แบบGoonอ่านว่า きく (kiku) คิคุ
แบบKan’onอ่านว่า きく (kiku) คิคุ
แบบKun(คุน)อ่านว่า きくのはな (kikunohana) คิคุโนะฮะนะ
乃 อ่านว่า の (no) โนะ เป็นตัวคันจิ (จินเมย์โยคันจิ Jinmeiyō kanji ตัวคันจิสำหรับชื่อบุคคล)
แปลว่า ของ(คำแสดงความเป็นเจ้าของ)
แบบOn(อง)อ่านว่า だい (dai) ได/ดะอิ, あい (ai) ไอ/อะอิ, ない (nai) ไน/นะอิ
แบบKun(คุน)อ่านว่า すなわち (sunawachi) ซึนะวะชิ/ซึนะวะจิ/ซุนะวะชิ/ซุนะวะจิ/สึนะวะชิ/สึนะวะจิ/สุนะวะชิ/สุนะวะจิ, の (no) โนะ
--------------------------------------------------------------------
ต่อข้างล่าง
ดำนำต่อ 1
--------------------------------------------------------------------
3.
โอมิยะ อายาเมะ 大宮あやめ (おおみやあやめ) Ōmiya Ayame
นามสกุล โอมิยะ 大宮 (おおみや) Ōmiya
แปลรวมมั่วนิ่มว่า ศาลเจ้าขนาดใหญ่/ตำหนักขนาดใหญ่/พระราชวังขนาดใหญ่
大 อ่านว่า おお (ō) โอ เป็นตัวคันจิ (เคียวอิคุคันจิ Kyōiku kanji ตัวคันจิเพื่อการศึกษา)
แปลว่า ใหญ่/ยอดเยี่ยม/ส่วนมาก/มหาวิทยาลัย
แบบGoonอ่านว่า だい (dai) ได/ดะอิ, だ (da) ดะ
แบบKan’onอ่านว่า たい (tai) ไท/ทะอิ, た (ta) ทะ
แบบKun(คุน)อ่านว่า おお (ō) โอ/โอว, おおきい (大きい, ōkii) โอคี/โอวคี/โอกี/โอวกี/โอคิอิ/โอวคิอิ/โอกิอิ/โอวกิอิ, おおいに (大いに, ōini) โออินิ/โอวอินิ
แบบNanori(นาโนริ)อ่านว่า うふ (ufu) อุฟุ, お (o) โอะ, た (ta) ทะ, たかし (takashi) ทะคะชิ/ทะกะชิ, とも (tomo) โทะโมะ/โตะโมะ, はじめ (hajime) ฮะจิเมะ, ひろ (hiro) ฮิโระ, ひろし (hiroshi) ฮิโระชิ, ふとし (futoshi) ฟุโทะชิ/ฟุโตะชิ, まさ (masa) มะซะ/มะสะ, まさる (masaru) มะซะรุ/มะสะรุ, もと (moto) โมะโทะ/โมะโตะ, ゆたか (yutaka) ยุทะกะ/ยุทะคะ, わ (wa) วะ
宮 อ่านว่า みや (miya) มิยะ เป็นตัวคันจิ (เคียวอิคุคันจิ Kyōiku kanji ตัวคันจิเพื่อการศึกษา)
แปลว่า ศาลเจ้า/แท่นบูชา/พระราชวัง/ตำหนัก/ปราสาท
แบบGoonอ่านว่า く (ku) คุ/กุ
แบบKan’onอ่านว่า きゅう (kyū) คิว
แบบKan’yōonอ่านว่า ぐう (gū) กู/งู
แบบKun(คุน)อ่านว่า みや (miya) มิยะ
แบบNanori(นาโนริ)อ่านว่า いえ (ie) เอียะ/อิเอะ, たか (taka) ทะกะ/ทะคะ
ชื่อ อายาเมะ あやめ (あやめ) Ayame
แปลรวมมั่วนิ่มว่า อะและเมะ (ชื่อจริงของผู้หญิง)
あ อ่านว่า あ (a) อะ เป็นฮิรางานะ
หาคำแปลไม่พบคาดว่าไม่มีความหมาย
や อ่านว่า や (ya) ยะ เป็นฮิรางานะ
แปลว่า และ
め อ่านว่า め (me) เมะ เป็นฮิรางานะ
หาคำแปลไม่พบคาดว่าไม่มีความหมาย
เอาあและやมารวมกัน อ่านว่า あや (aya) อายาไม่พบคำแปลคาดว่าไม่มีความหมาย
เอาやและめมารวมกัน อ่านว่า やめ (yame) ยาเมะ ไม่พบคำแปลคาดว่าไม่มีความหมาย
เอาあและやและめมารวมกัน อ่านว่า あやめ (ayame) อายาเมะไม่พบคำแปลคาดว่าไม่มีความหมาย แต่ถูกระบุว่า เป็น ชื่อจริงของผู้หญิง
--------------------------------------------------------------------
4.
ชิราซากิ รุเนะ 白鷺流寧 (しらさぎるね) Shirasagi Rune
นามสกุล ชิราซากิ 白鷺 (しらさぎ) Shirasagi
แปลรวมมั่วนิ่มว่า นกกระยางสีขาวบริสุทธิ์
白 อ่านว่า しら (shira) ชิระ เป็นตัวคันจิ (เคียวอิคุคันจิ Kyōiku kanji ตัวคันจิเพื่อการศึกษา)
แปลว่า สีขาว/ใสซื่อ/ไร้เดียงสา/บริสุทธิ์/ไม่รู้ตัว
แบบGoonอ่านว่า びゃく (byaku) เบียคุ/เบียกุ
แบบKan’onอ่านว่า はく (haku) ฮะคุ/ฮะกุ
แบบSōonอ่านว่า ぱい (pai) ไป/ปะอิ
แบบKun(คุน)อ่านว่า しろ (shiro) ชิโระ, しろい (shiroi) ชิโระอิ, もうす (mōsu) โมซึ/โมซุ/โมสึ/โมสุ
鷺 อ่านว่า さぎ (sagi) ซะกิ เป็นตัวคันจิ (จินเมย์โยคันจิ Jinmeiyō kanji ตัวคันจิสำหรับชื่อบุคคล)
แปลว่า นกกระสา/นกกระยาง/ขนนกกระยาง
แบบGoonอ่านว่า る (ru) รุ
แบบKan’onอ่านว่า ろ (ro) โระ
แบบOn (unclassified)(อง(ไม่แบ่งประเภท))อ่านว่า りょ (ryo) เรียว
แบบKun(คุน)อ่านว่า さぎ (sagi) ซะกิ/ซะงิ
ชื่อ รุเนะ 流寧 (るね) Rune
แปลรวมมั่วนิ่มว่า เนรเทศซะดีกว่า
流 อ่านว่า る (ru) รุ เป็นตัวคันจิ (เคียวอิคุคันจิ Kyōiku kanji ตัวคันจิเพื่อการศึกษา)
แปลว่า เนรเทศ (เพราะออกเสียงรุ ถ้าออกเสียงอีกแบบจะกลายเป็นอีกความหมาย)
แบบGoonอ่านว่า る (ru) รุ
แบบKan’onอ่านว่า りゅう (ryū) ริว
แบบKun(คุน)อ่านว่า ながれる (nagareru) นะกะเระรุ/นะงะเระรุ, ながす (nagasu) นะกะซุ/นะกะซึ/นะกะสุ/นะกะสึ/นะงะซุ/นะงะซึ/นะงะสุ/นะงะสึ, ながれ (nagare) นะกะเระ/นะงะเระ
寧 อ่านว่า ね (ne) เนะ เป็นตัวคันจิ (โจโยคันจิ Jōyō kanji ตัวคันจิในชีวิตประจำวัน)
แปลว่า ค่อนข้าง/มากกว่า/ในทางตรงกันข้าม
แบบGoonอ่านว่า にょう (nyō) (non-Jōyō reading) เนียว (ไม่ใช่การอ่านแบบโจโย)
แบบKan’onอ่านว่า ねい (nei) เนย์/เนะอิ
แบบKun(คุน)อ่านว่า やすい (yasui) ยะซุย/ยะซุอิ/ยะซึอิ/ยะสุย/ยะสุอิ/ยะสึอิ, むしろ (mushiro) มุชิโระ, なんぞ (nanzo) นันโซะ
เอา流และ寧มารวมกัน อ่านว่า るね (rune) รุเนะ ไม่พบคำแปลคาดว่าไม่มีความหมาย
--------------------------------------------------------------------
ต่อข้างล่าง
ดำนำต่อ 2
--------------------------------------------------------------------
5.
อาคิสะวะ ทาคุมิ 秋澤匠 (あきざわたくみ) Akisawa Takumi
นามสกุล อาคิสะวะ 秋澤 (あきざわ) Akisawa
แปลรวมมั่วนิ่มว่า ฤดูใบไม้ร่วง
秋 อ่านว่า あき (aki) อะคิ เป็นตัวคันจิ (เคียวอิคุคันจิ Kyōiku kanji ตัวคันจิเพื่อการศึกษา)
แปลว่า ฤดูใบไม้ร่วง
แบบGoonอ่านว่า しゅ (shu) (non-Jōyō reading) ชุ (ไม่ใช่การอ่านแบบโจโย)
แบบKan’onอ่านว่า しゅう (shū) ชู, from しう (shiu) ชุย/ชิอุ
แบบKun(คุน)อ่านว่า あき (aki) อะกิ/อะคิ, とき (toki) โทะกิ/โทะคิ/โตะกิ/โตะคิ
澤 อ่านว่า さわ (sawa) สะวะ เป็นตัวคันจิ (เฮียวไกจิคันจิ Hyōgaiji kanji ตัวอักษรนอกรายชื่อ)(เคียวจิไต kyūjitai kanji ตัวอักษรแบบเก่า)(ชินจิไต คันจิ Shinjitai form ตัวอักษรแบบใหม่คือ 沢)
หาคำแปลไม่พบคาดว่าไม่มีความหมาย
แบบGoonอ่านว่า じゃく (jaku) จะคุ/จะกุ
แบบKan’onอ่านว่า たく (taku) ทะคุ/ทะกุ
แบบKun(คุน)อ่านว่า さわ (sawa) ซะวะ/สะวะ
ชื่อ ทาคุมิ 匠 (たくみ) Takumi
แปลว่า ช่างฝีมือ/คนงาน/ช่างไม้ (ชื่อจริงของผู้ชาย)
匠 อ่านว่า たくみ (takumi) ทะคุมิ เป็นตัวคันจิ (โจโยคันจิ Jōyō kanji ตัวคันจิในชีวิตประจำวัน)
แปลว่า ช่างฝีมือ/คนงาน/ช่างไม้ (ชื่อจริงของผู้ชาย)
แบบGoonอ่านว่า ぞう (zō) โซ/โซว, < ざう (zau) (non-Jōyō reading) ซะอุ/เซา/ซาว (ไม่ใช่การอ่านแบบโจโย)
แบบKan’onอ่านว่า しょう (shō) โช/โชว, < しやう (shau) ชะอุ/เชา/ชาว
แบบKun(คุน)อ่านว่า たくみ (takumi) ทะคุมิ/ทะกุมิ
--------------------------------------------------------------------
6.
หัวหน้าห้อง อีนโจว 委員長 (いいんちょう) Iin-chō
มันก็แปลว่า หัวหน้าห้อง ไง
แปลรวมมั่วนิ่มว่า สมาชิกเจ้าหน้าที่คณะกรรมการ
委 อ่านว่า い (i) อิ เป็นตัวคันจิ (เคียวอิคุคันจิ Kyōiku kanji ตัวคันจิเพื่อการศึกษา)
แปลว่า คณะกรรมการ
แบบGoonอ่านว่า い (i) อิ
แบบKan’onอ่านว่า い (i) อิ
แบบKun(คุน)อ่านว่า ゆだねる (yudaneru) ยุดะเนะรุ, すえ (sue) ซุเอะ/สุเอะ/ซึเอะ/สึเอะ, くわしい (kuwashii) คุวะชิอิ/กุวะชิอิ/คุวะชี/กุวะชี
員 อ่านว่า いん (in) อิน เป็นตัวคันจิ (เคียวอิคุคันจิ Kyōiku kanji ตัวคันจิเพื่อการศึกษา)
แปลว่า บุคคล/สมาชิก
แบบGoonอ่านว่า うん (un) อุน/อัน/อุง/อัง, えん (en) เอ็น, < ゑん (wen) เว็น
แบบKan’onอ่านว่า いん (in) อิน, < ゐん (win) วิน, えん (en) เอ็น, < ゑん (wen) เว็น
แบบKun(คุน)อ่านว่า かず (kazu) คะซุ/คะซึ/กะซุ/กะซึ, いな (ina) อินะ
長 อ่านว่า ちょう (chō) โจว เป็นตัวคันจิ (เคียวอิคุคันจิ Kyōiku kanji ตัวคันจิเพื่อการศึกษา)
แปลว่า หัวหน้า/ผู้นำ/ยาว/นาน/ผู้จัดการ/เจ้าหน้าที่/เป็นทางการ/ราชการ/ความสูง (ชื่อจริงของผู้ชาย)
แบบGoonอ่านว่า ちょう (chō) โจ/โจว/โช/โชว, じょう (jō) โจ/โจว
แบบKan’onอ่านว่า ちょう (chō) โจ/โจว/โช/โชว
แบบKun(คุน)อ่านว่า ながい (nagai) นะกะอิ/นะงะอิ, たける (takeru) ทะเคะรุ/ทะเกะรุ, おさ (osa) โอะสะ/โอะซะ
--------------------------------------------------------------------
ต่อข้างล่าง
ดำนำต่อ 3
--------------------------------------------------------------------
7.
อิวามุโระ ทาคาชิ 岩室崇 (いわむろたかし) Iwamuro Takashi
นามสกุล อิวามุโระ 岩室 (いわむろ) Iwamuro
แปลรวมมั่วนิ่มว่า ห้องก้อนหิน
岩 อ่านว่า いわ (iwa) อิวะ เป็นตัวคันจิ (เคียวอิคุคันจิ Kyōiku kanji ตัวคันจิเพื่อการศึกษา)
แปลว่า ก้อนหิน/หิน
แบบGoonอ่านว่า げん (gen) (non-Jōyō reading) เกน/เงน (ไม่ใช่การอ่านแบบโจโย)
แบบKan’onอ่านว่า がん (gan) กัน/งัน
แบบKun(คุน)อ่านว่า いわ (iwa) อิวะ, < いは (iha) อิฮะ
室 อ่านว่า むろ (muro) มุโระ เป็นตัวคันจิ (เคียวอิคุคันจิ Kyōiku kanji ตัวคันจิเพื่อการศึกษา)
แปลว่า ห้อง
แบบGoonอ่าน しち (shichi) (non-Jōyō reading) ชิจิ/ชิชิ (ไม่ใช่การอ่านแบบโจโย)
แบบKan’onอ่านว่า しつ (shitsu) ชิทสึ/ชิทซึ
แบบKun(คุน)อ่านว่า むろ (muro) มุโระ, へや (heya) เฮะยะ
ชื่อ ทาคาชิ 崇 (たかし) Takashi
崇 อ่านว่า たかし (Takashi) ทะคะชิ เป็นตัวคันจิ (โจโยคันจิ Jōyō kanji ตัวคันจิในชีวิตประจำวัน)
แปลว่า รัก/นิยม/เคารพ/บูชา (ชื่อจริงของผู้ชาย)
แบบGoonอ่านว่า ずう (zū) ซุ/ซึ
แบบKan’onอ่านว่า しゅう (shū) ชู, そう (sō) โซ/โซว/โส/โสว
แบบKan’yōonอ่านว่า すう (sū) สู/ซู, す (su) สุ/ซุ/สึ/ซึ
แบบKunอ่านว่า たかい (takai) ทะคะอิ/ทะไค/ทะกะอิ/ทะไก, あがめる (agameru) อะกะเมะรุ/อะงะเมะรุ, たっとぶ (tattobu) ทัตโตะบุ
--------------------------------------------------------------------
8.
ฮอนดะ มิฮารุ 本田美波留 (ほんだみはる) Honda Miharu
นามสกุล ฮอนดะ 本田 (ほんだ) Honda
แปลรวมมั่วนิ่มว่า นาต้นข้าว
本 อ่านว่า ほん (hon) ฮอน เป็นตัวคันจิ (เคียวอิคุคันจิ Kyōiku kanji ตัวคันจิเพื่อการศึกษา)
แปลว่า แผ่นใบของต้นหญ้าและลำต้น/นกเหยี่ยว/ฟิล์มหรือทีวีโชว์/โฮมรันหรือประตูโกล/รอบของแมทซ์ ชกมวย มวยปล้ำหรือจูโด/หนังสือ/บทละคร
แบบGoonอ่านว่า ほん (hon) ฮอน/ฮัน
แบบKan’onอ่านว่า ほん (hon) ฮอน/ฮัน
แบบKun(คุน)อ่านว่า もと (moto) โมะโตะ/โมะโทะ
แบบNanori(นาโนริ)อ่านว่า なり (nari) นะริ, はじめ (hajime) ฮะจิเมะ, もと (moto) โมะโตะ/โมะโทะ
田 อ่านว่า だ (da) ดะ เป็นตัวคันจิ (เคียวอิคุคันจิ Kyōiku kanji ตัวคันจิเพื่อการศึกษา)
แปลว่า นาข้าว/ข้าวเปลือก/ข้าว/ทุ่งนา/ทุ่งเพาะปลูก
แบบGoonอ่านว่า でん (den) เดน
แบบKan’onอ่านว่า てん (ten) เทน/เตน
แบบKun(คุน)อ่านว่า た (ta) ทะ/ตะ
แบบNanori(นาโนริ)อ่านว่า だ (da) ดะ
ชื่อ มิฮารุ 美波留 (みはる) Miharu
แปลรวมมั่วนิ่มว่า คลื่นที่งดงาม
美 อ่านว่า み (mi) มิ เป็นตัวคันจิ (เคียวอิคุคันจิ Kyōiku kanji ตัวคันจิเพื่อการศึกษา)
แปลว่า งดงาม/สวยงาม (คำนี้ถูกใช้ในชื่อจริงของผู้หญิง/มีผู้ชายใช้แต่หายาก)
แบบGoonอ่านว่า み (mi) มิ
แบบKan’onอ่านว่า び (bi) บิ
แบบKun(คุน)อ่านว่า うつくしい (utsukushii) อุทสึกุชิอิ/อุทสึกุชี, よい (yoi)โยะอิ, ほめる (homeru) โฮะเมะรุ
波 อ่านว่า は (ha) ฮะ เป็นตัวคันจิ (เคียวอิคุคันจิ Kyōiku kanji ตัวคันจิเพื่อการศึกษา)
แปลว่า คลื่น (ชื่อจริงของผู้หญิง)
แบบGoonอ่านว่า は (ha) ฮะ
แบบKan’onอ่านว่า は (ha) ฮะ
แบบKun(คุน)อ่านว่า なみ (nami) นะมิ
留 อ่านว่า る (ru) รุ เป็นตัวคันจิ (เคียวอิคุคันจิ Kyōiku kanji ตัวคันจิเพื่อการศึกษา)
หาคำแปลไม่พบคาดว่าไม่มีความหมาย
แบบGoonอ่านว่า る (ru) รุ
แบบKan’onอ่านว่า りゅう (ryū) ริว, (historical) りう (riu) (อิงตามประวัติศาสตร์) ริอุ/ริว
แบบKun(คุน)อ่านว่า とめる (tomeru) โทะเมะรุ/โตะเมะรุ, とどまる (todomaru) โทะโดะมะรุ/โตะโดะมะรุ, とまる (tomaru) โทะมะรุ/โตะมะรุ
--------------------------------------------------------------------
ต่อข้างล่าง
ดำนำต่อ 4
--------------------------------------------------------------------
9.
โนโนเสะ มาโฮะ 野々瀬真帆 (ののせまほ) Nonose Maho
นามสกุล โนโนเสะ 野々瀬 (ののせ) Nonose
แปลรวมมั่วนิ่มว่า พื้นที่หาดตื้น/พื้นที่กระแสน้ำเชี่ยว
野 อ่านว่า の (no) โนะ เป็นตัวคันจิ (เคียวอิคุคันจิ Kyōiku kanji ตัวคันจิเพื่อการศึกษา)
แปลว่า พื้นที่/สนาม
แบบGoonอ่านว่า や (ya) ยะ, じょ (jo) โจะ
แบบKan’onอ่านว่า や (ya) ยะ, しょ (sho) โชะ
แบบKun(คุน)อ่านว่า の (no) โนะ
々เป็นเครื่องหมายซ้ำ (踊り字, 躍り字 Odoriji) เป็นเครื่องหมายวรรคตอนกลุ่มหนึ่งที่ใช้สำหรับซ้ำคำหรือพยางค์เป็นหลักในภาษาญี่ปุ่น (คงจะคล้ายๆไม้ยมกบ้านเรา? “ๆ”= “々”)
เมื่อนำมาใช้กับ 野 (の no โนะ) ก็จะเป็น 野々 อ่านว่า のの (nono) โนะโนะ
瀬 อ่านว่า せ (se) เสะ เป็นตัวคันจิ (โจโยคันจิ Jōyō kanji ตัวคันจิในชีวิตประจำวัน)
แปลว่า ตื้น/หาดตื้น/แก่งน้ำเชี่ยว/กระแสน้ำ/กระแสน้ำเชี่ยว/ตำแหน่ง(สถานที่)/โอกาส
แบบGoonอ่านว่า らい (rai) ไร/ระอิ
แบบKan’onอ่านว่า らい (rai) ไร/ระอิ
แบบKun(คุน)อ่านว่า せ (se) เสะ/เซะ
ชื่อ มาโฮะ 真帆 (まほ) Maho
แปลรวมมั่วนิ่มว่า การล่องเรือที่แท้จริง/เรือใบที่แท้จริง/ใบเรือที่แท้จริง
真 อ่านว่า ま (ma) มะ เป็นตัวคันจิ(เคียวอิคุคันจิ Kyōiku kanji ตัวคันจิเพื่อการศึกษา)(ชินจิไต คันจิ Shinjitai kanji ตัวอักษรแบบใหม่)(kyūjitai form ตัวอักษรแบบเก่าคือ 眞)
แปลว่า แท้จริง/ความเป็นจริง/พุทธศาสนานิกาย (เป็นชื่อจริง)
แบบGoonอ่านว่า しん (shin) ชิน
แบบKan’onอ่านว่า しん (shin) ชิน
แบบKunอ่านว่า ま (ma) มะ, まこと (makoto) มะโคะโตะ/มะโคะโทะ, まことに (makotoni) มะโคะโตะนิ/มะโคะโทะนิ
แบบNanoriอ่านว่า さな (sana) สะนะ/ซะนะ, さね (sane) สะเนะ/ซะเนะ, ただ (tada) ทะดะ, ただし (tadashi) ทะดะชิ, なお (nao) นะโอะ/เนา/นาว, のり (nori) โนะริ, まあ (mā) มา, まこ (mako) มะโกะ/มะโคะ, まさ (masa) มะสะ/มะซะ, まど (mado) มะโดะ, まな (mana) มะนะ, まゆ (mayu) มะยุ, みち (michi) มิจิ/มิชิ, も (mo) โมะ
帆 อ่านว่า ほ (ho) โฮะ เป็นตัวคันจิ (โจโยคันจิ Jōyō kanji ตัวคันจิในชีวิตประจำวัน)
แปลว่า ใบเรือ/เรือใบ/ล่องเรือ/เดินเรือ
แบบGoonอ่านว่า ぼん (bon) (non-Jōyō reading) บอน (ไม่ใช่การอ่านแบบโจโย)
แบบKan’onอ่านว่า はん (han) ฮัน
แบบKun(คุน)อ่านว่า ほ (ho) โฮะ
--------------------------------------------------------------------
ต่อข้างล่าง
ดำนำต่อ 5
--------------------------------------------------------------------
10.
ซาโตมิ ยูคินาริ 佐富行成 (さとみゆきなり) Satomi Yukinari
นามสกุล ซาโตมิ 佐富 (さとみ) Satomi
แปลรวมมั่วนิ่มว่า ผู้ที่ช่วยทำให้ร่ำรวย/ผู้ที่ช่วยทำให้ดีขึ้น
佐 อ่านว่า さ (sa) ซะ เป็นตัวคันจิ (โจโยคันจิ Jōyō kanji ตัวคันจิในชีวิตประจำวัน)
แปลว่า ช่วยเหลือ/ผู้ช่วย
แบบGoonอ่านว่า さ (sa) สะ/ซะ
แบบKan’onอ่านว่า さ (sa) สะ/ซะ
แบบKun(คุน)อ่านว่า たすけ (tasuke) ทะสุเกะ/ทะสึเกะ, たすける (tasukeru) ทะสุเกะรุ/ทะสึเกะรุ, すけ (suke) สุเกะ/สึเกะ
富 อ่านว่า とみ (tomi) โตะมิ เป็นตัวคันจิ (เคียวอิคุคันจิ Kyōiku kanji ตัวคันจิเพื่อการศึกษา)
แปลว่า ทรัพย์สมบัติมากมาย/ความมั่งคั่ง/ความร่ำรวย/ทำให้ดีขึ้น/ทำให้รวยขึ้น/ทำให้มีคุณค่ามากขึ้น/ประดับตกแต่ง/มากมาย/เหลือล้น
แบบOn(อง)อ่านว่า ふ (fu) ฟุ, ふう (fū) ฟู
แบบKun(คุน)อ่านว่า とむ (tomu) โทะมุ/โตะมุ, とみ (tomi) โทะมิ/โตะมิ
ชื่อ ยูคินาริ 行成 (ゆきなり)Yukinari
แปลรวมมั่วนิ่มไม่ได้
行 อ่านว่า ゆき (yuki) ยุคิ เป็นตัวคันจิ (เคียวอิคุคันจิ Kyōiku kanji ตัวคันจิเพื่อการศึกษา)
แปลว่า เส้นของข้อความ/(คณิตศาสตร์)แถวของแมทริกซ์
แบบGoonอ่านว่า ぎょう (gyō) เกียว/เงียว, > ぎやう (gyau) กะอุ/เกา/กาว/งะอุ/เงา/งาว, ごう (gō) โก/โง, > がう (gau) กะอุ/เกา/กาว/งะอุ/เงา/งาว
แบบKan’onอ่านว่า こう (kō) โก/โค, > かう (kau) กะอุ/เกา/กาว/คะอุ/เคา/คาว
แบบTōonอ่านว่า あん (an) อัน
แบบKan’yōonอ่านว่า ぎょう (gyō) เกียว/เงียว, > ぎやう (gyau) in the sense “row, line” กะอุ/เกา/กาว/งะอุ/เงา/งาว ในสัมผัส “แถว/เส้น”, etc. อื่นๆ
แบบKun(คุน)อ่านว่า いく (行く iku) อิคุ/อิกุ, ゆく (行く yuku) ยุกุ/ยุคุ, おこなう (行う 行なう okonau โอะโกะนะอุ/โอะโคะนะอุ, くだり kudari คุดะริ)
แบบNanori(นาโนริ)อ่านว่า ゆき (yuki) ยุคิ/ยุกิ
成 อ่านว่า なり (nari) นะริ เป็นตัวคันจิ (เคียวอิคุคันจิ Kyōiku kanji ตัวคันจิเพื่อการศึกษา)
แปลว่า เพื่อจะกลายเป็น/เพื่อจะทำบางสิ่ง
แบบGoonอ่านว่า じょう (jō) โจ
แบบKan’onอ่านว่า せい (sei) เซย์/เซะอิ
แบบKun(คุน)อ่านว่า なす (成す, nasu) นะซุ/นะซึ/นะสุ/นะสึ, なる (成る, naru) นะรุ
แบบNanori(นาโนริ)อ่านว่า あき (aki) อะคิ/อะกิ, あきら (akira) อะคิระ/อะกิระ, しげ (shige) ชิเกะ/ชิเงะ, そん (son) ซอน/สอน/ซัน/สัน, たえ (tae) ทะเอะ/ตะเอะ, なお (nao) นะโอะ/เนา/นาว, なり (nari) นะริ, なる (naru) นะรุ, のり (nori) โนะริ, ひら (hira) ฮิระ, まさ (masa) มะสะ/มะซะ, よし (yoshi) โยะชิ, り (ri) ริ
--------------------------------------------------------------------
11.
โมจิดะ 望田 (もちだ) Mochida
แปลรวมมั่วนิ่มว่า นาข้าว
望 อ่านว่า もち (mochi) โมจิ เป็นตัวคันจิ (เคียวอิคุคันจิ Kyōiku kanji ตัวคันจิเพื่อการศึกษา)
แปลว่า หาคำแปลไม่พบคาดว่าไม่มีความหมาย
แบบGoonอ่านว่า もう (mō) โม
แบบKan’onอ่านว่า ぼう (bō) โบ
แบบKun(คุน)อ่านว่า のぞむ (nozomu) โนะโซะมุ, のぞみ (nozomi) โนะโซะมิ, もち (mochi) โมจิ/โมชิ
田 อ่านว่า だ (da) ดะ เป็นตัวคันจิ (เคียวอิคุคันจิ Kyōiku kanji ตัวคันจิเพื่อการศึกษา)
แปลว่า นาข้าว/ข้าวเปลือก/ข้าว/ทุ่งนา/ทุ่งเพาะปลูก
แบบGoonอ่านว่า でん (den) เดน
แบบKan’onอ่านว่า てん (ten) เทน/เตน
แบบKun(คุน)อ่านว่า た (ta) ทะ/ตะ
แบบNanori(นาโนริ)อ่านว่า だ (da) ดะ
--------------------------------------------------------------------
หมดละ
อื้อหือ ยาวค่ด
กูอ่านแค่ความหมายรวมแบบมั่วนิ่มทุกทีเลยว่ะ นอกนั้นอ่านไม่เข้าใจ สงสัยเพราะไม่มีพื้นฐานญี่ปุ่นเลยด้วยมั้ง...
กุก็ไม่มีพื้นฐานเหมือนกัน ทำไปก็งงๆ รู้แต่ไอพวกGoon/Kan’on/Kun/Nanori มันเป็นพวกวิธีการอ่านอะ
กุลืมนึกไปว่า กุเอามาลงยาวๆงี้ มันลำบากคนเล่นมือถือเลื่อนผ่านว่ะ
ขอโทษพวกมึงด้วย
วันนี้ไม่มีกาวเหรอ??
กุสงสัยจัง ว่าซุยรันมีชมรมทำสวนไหม? โรงเรียนลูกคุณหนูไม่น่าจะมีรึเปล่าวะ?
กุอยากเห็นกาวฟิค Au ซอมบี้บุกโลกว่ะ เอาซุยรันเป็นพื้นที่ลี้ภัยไรงี้
แค่กๆ--- กุควรไปนอน
>>933 เออ ถ้ามีน่าจะเป็นเรือนกระจกอย่างที่ 934 ว่า เป็นเรือนกระจกหรูๆแบบยุควิคตอเรีย อะไรแนวนี้ http://www.victoriana.com/Garden_Design/victoriangreenhouse.html
ถ้ามีซอมนี้ เรย์กะน่าจะไปคนแรกป่ะวะ สมรรถณะต่ำเตี้ย วิ่งยังช้ากว่าคนเดิน 55555555
>>934 กุก็คิดงั้น แบบอลังๆ มีสระน้ำหรือน้ำพุด้วยไรงี้(เสียดายเป็นพื้นที่ในเมือง ถ้ามีพื้นที่เยอะๆกุว่าเป็นทะเลสาปแม่งเลย แค่ก กุดมกาวหนักมาก)
>>935 เชี่ย คิดภาพตามเลย 55555 แล้วเอาปืนมาจากไหนดีวะมึง
>>936 เรือนกระจกเข้าท่านะมึง
เรื่องเรย์กะวิ่งช้ากุลืมนึก ไม่เหมาะกับการเป็นแนวหน้าหาเสบียงอย่างยิ่ง ให้ทำหน้าที่อะไรดีวะเนี่ย ที่เห็นเก่งๆก็งานเอกสาร ขยันขันแข็ง
>>938 กุไปเก็บข้อมูลจากตอนCh.2มา
-การตบแต่งภายนอกเหมือนกับเป็นโบสถ์วิหารแบบยุโรป
(ตัวอย่างภายนอกโบสถ์วิหารจากยุโรป https://media-cdn.tripadvisor.com/media/photo-s/06/8f/7a/f7/sainte-chapelle.jpg)
-เป็นโรงเรียนเก่าแก่
-ตรงหน้าทางเข้ามีกระจกสีสะท้อนแสงเป็นประกายประดับอยู่
(ตัวอย่างกระจก http://www.talonteaw.com/wp-content/uploads/2016/02/Sainte-Chapelle.jpg
และ https://cdn.pixabay.com/photo/2012/02/17/14/53/stained-glass-window-14118_960_720.jpg)
-ข้างในเต็มไปด้วยอุปกรณ์ทันสมัย
-มีเครื่องปรับอากาศ เครื่องทำความชื้น เครื่องกรองน้ำในทุกๆห้องเรียน
-ในฤดูหนาวมีเครื่องต้มน้ำอยู่บนทุกๆชั้นของตึกเรียน
-มีสระว่ายน้ำอุ่น สนามเทนนิส สนามหญ้า สนามเบสบอล
-มีโถงแสดงคอนเสิร์ต โดมเรือนกระจก เรือนน้ำชา
-มีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆอีกมากมายที่เรย์กะไม่สามารถระบุได้ว่ามันคืออะไร
-สิ่งอำนวยความสะดวกหลายอย่าง ใช้ร่วมกันระหว่างชั้นประถม ม.ต้น ม.ปลาย
-มีพื้นที่กว้างสุดลูกหูลูกตา
-อยู่ตรงใจกลางเมือง
-ถูกขนานนามว่า [ป่าแห่งซุยรัน] เพราะพื้นที่เขียวขจีของที่นี่
-ชุดเครื่องแบบเป็นเสื้อคลุมแบบเบลเซอร์ ได้รับการออกแบบจากดีไซน์เนอร์ชื่อดัง
(ตัวอย่างเสื้อสูทเบลเซอร์
https://2.bp.blogspot.com/-FVT8a20ODME/Vuk--SH07ZI/AAAAAAAABLY/CUtWARRWz1AnnRkv2Q_vheAzGffYbbCZw/s1600/emma-watson-the-late-show-with-david-letterman.jpg
http://p3.isanook.com/ca/0/ui/273/1369233/2895745_espritlb3_1370581598.jpg
-กฎของโรงเรียนม.ต้นและม.ปลายซุยรัน คือ ให้เด็กผู้หญิงผูกริบบิ้นและเด็กผู้ชายผูกเน็คไทบนเสื้อเบลเซอร์ลายทางสีขาว
-ริบบิ้นและเน็คไทสีม่วงสำหรับม.ต้น
-ริบบิ้นและเน็คไทสีนาวีบลูสำหรับม.ปลาย
(ตัวอย่างเน็คไทสีนาวีบลู
https://www.bows-n-ties.com/out/pictures/generated/product/1/203_289_100/CS0587_BNT.jpg
https://ae01.alicdn.com/kf/HTB1oH1ZKXXXXXXlXVXXq6xXFXXXS/Mens-Accessories-font-b-Tie-b-font-for-Men-Striped-Pattern-Silk-Necktie-font-b-Ties.jpg)
-ชั้นประถมเสื้อเบลเซอร์จะเป็นสีดำเพื่อไม่ให้ดูเลอะเทอะง่าย
-ริบบิ้นและเน็คไทสีฟ้าอ่อนๆสำหรับประถม
-เครื่องแบบของโรงเรียนซุยรันเป็นที่1ตลอดกาลในผลโหวต [อันดับเครื่องแบบโรงเรียนที่คุณอยากสวมใส่]
-ชั้นม.ต้นกับม.ปลาย สามารถเลือกว่าจะเอาข้าวกล่องมาเองหรือทานอาหารจากโรงอาหาร
-ชั้นประถมมีอาหารที่ทางโรงเรียนเตรียมไว้ให้ ซึ่งคนเตรียมเป็นเชฟมืออาชีพ
-ชั้นประถมมีพนักงานเสิร์ฟโดยเฉพาะ
-ชั้นประถมตัวอย่างอาหารคือ วิชชีสวาส หรือเทอร์รีนเนื้อลูกวัว ว่ากันว่าเพื่อสอนมารยาทบนโต๊ะอาหารหรือไม่ก็...(เรย์กะทิ้งไว้เป็นปริศนา)
(ภาพซุปVichyssoise วีชชีสวาส
http://assets.simplyrecipes.com/wp-content/uploads/2011/06/vichhyssoise-horiz-a-1200.jpg
http://cookdiary.net/wp-content/uploads/images/Vichyssoise_18515.jpg)
(ภาพเมนูTerrineเทอร์รีน
https://www.google.co.th/imgres?imgurl=http://prod.static9.net.au/_/media/Images/Kitchen/2007/11/20/12/10/0707terrine-434.jpg&imgrefurl=http://kitchen.nine.com.au/2016/05/17/15/02/rabbit-and-pistachio-terrine&docid=kTdslVkbNVuQ4M&tbnid=ZYNJE6qJLB6rBM:&vet=1&w=434&h=312&bih=794&biw=1440&q=terrine&ved=0ahUKEwiv_Nv717TSAhXJEbwKHQhiB6cQMwg1KBQwFA&iact=mrc&uact=8#h=312&imgrc=ZYNJE6qJLB6rBM:&vet=1&w=434
https://thumb9.shutterstock.com/display_pic_with_logo/868177/503219446/stock-photo-delicious-terrine-with-ground-meat-ham-and-pistachios-for-christmas-503219446.jpg)
-ชั้นประถมเครื่องดื่มเป็นชาดำ สามารถเลือกบีบมะนาวหรือลงไปก็ได้
(ภาพชาดำ
http://socialdiary.net/wp-content/uploads/2015/12/Black-Tea-Pharmacyrepublic.jpg)
-ชั้นประถมของหวานมีเครปซูเซ็ตต์
(ภาพ crepe suzette เครปซูเซ็ตต์
http://mobile-cuisine.com/wp-content/uploads/2013/05/crepe-suzette-fun-facts-e1462538949824.jpg)
ท่านเรย์กะเอาไปคุมเสบียง
ใครงอแงจะเอาส่วนแบ่งเพิ่มก็โดนพัดตบ
แต่มีความเสี่ยงเสบียงหายเพราะนางแอบกินเอง
ไม่กลัวคนรวยแต่กลัวเจ้าแม่ รัศมีผู้นำทำให้มีอำนาจรวมคน
คนที่รวมกลุ่มไม่ติดก็กลัวเหมือนเดิม ผู้ติดตามนางเยอะขนาดนั้น
จะเริ่มธีมซุยรัน walking dead กันแล้วเรอะ เมื่อวานยังฮอกวอตส์กันอยู่เลย ถถถถถถถถถถถ
แต่มาลองคิดดู ถ้าถึงขั้นเพื่อความอยู่รอดแล้ว เจ้าแม่เรย์กะอาจจะบ้าเลือดโชว์เมพขึ้นมาก็ได้นะโว้ย
แบบใส่เสื้อเบลสูทสีขาวของซูยรัน ผมม้วนโรโคโค่ ถือปืนกราดยิง ไม่ก็ใช้พัดตบซอมบี้(เอ๊ะ?)
แต่ลืมไปซอมบี้บุกคงไม่มีโอกาสม้วนผมแล้วดิ งี้ก็ไม่ใช่เจ้าแม่เรย์กะดิ?
>>944 ไป star trekกับStar warกันต่อไหมมึง หรือจะthe lord of the ring ดี?
เอาล่ะ ในที่สุดก็ได้มีโอกาสลงซักที สิ่งที่อยากจะบอกเลยคือ เรื่องนี้ตัวละครอาจจะเปลี่ยนไปเล็กน้อยจนถึงมากๆ ยังไงถ้าไม่ชอบก็ขออภัยด้วยแล้วกันนะ
Mafia บทก่อนเรย์กะรับช่วงต่อ
ประเทศซุยรัน ประเทศแห่งการท่องเที่ยว ประเทศที่เต็มไปด้วยสิ่งสวยงาม แหล่งท่องเที่ยวมากมาย แต่ใครจะรู้ว่าอีกด้านหนึ่งของประเทศนั้นจะเต็มไปด้วยผู้มีอิทธิพล คนที่ไม่ใช่นักท่องเที่ยวจะรู้กันอย่างดีว่า ในอดีต ในเมืองนี้ นายกรัฐมนตรีนั้นไร้อำนาจโดยสิ้นเชิง ที่มีอำนาจจริงๆนั้นคือเหล่ามาเฟียที่อยู่เบื้องหลังเหล่าคนที่อยู่ในสภาต่างหาก ทั้งซื้อเสียง ทั้งกำจัดคู่แข่งทางการเมืองด้วยวิธีสกปรก ค้าอาวุธ สิ่งผิดกฏหมาย การหนีภาษี การเรียกค่าคุ้มครอง หรือแม้กระทั่งการค้าประเวณี เป็นอย่างนี้มานับร้อยปีแล้ว แต่สุดท้ายเหล่ามาเฟียเหล่านั้นต่างก็จางหายไปตามหน้าประวัติศาสตร์แต่ก็มี3แฟมมิลี่ที่ยืนหยัดมาได้จนถึงวันนี้ นั่นคือ คาบุรากิโน,เอ็นโซ,คิโชวอิน่า
ทั้ง3แฟมมิลี่ ยังคงเป็นเงาอยู่ในประเทศแห่งนี้
จนกระทั้ง เสียงปืนดังขึ้นในตึกแห่งหนึ่ง
มุมมอง มาซิโอ
นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น ไอ้คนพวกนี้มันเป็นใคร มันมาจากไหน บ้าเอ๊ย มันรู้ได้ยังไงว่าของพวกเราอยู่ที่ ออฟฟิศ มันควรจะเป็นความลับไม่ใช่รึไง
ในขณะที่ฉันกำลังคิดอยู่ ชายที่ปกปิดหน้าตัวเองด้วยผ้าสองคนก็ปรากฏตัวต่อหน้าฉัน ฉันลั่นไกทันที กระสุนเข้าตัวคนพวกนั้นจังๆจนคนพวกนั้นล้มลงทันทีมันไม่มีเหตุผลดีๆที่คนเป็นมิตรจะมาปิดหน้าปิดตาตอนนี้หรอก เลยไม่ต้องลังเลที่จะยิงพวกมัน เอาเถอะ ฉันต้องรีบขึ้นไปข้างบน เพราะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นมาไม่แน่ ทาคารัส หรือ ชูโซเน อาจจะยังอยู่ข้่างบนก็ได้ ไม่มีเวลาคิดอีกแล้ว ฉันรีบวิ่งไปชั้นบนทันที ลิฟท์มันไม่มีค่าตอนคนกำลังรีบอยู่แล้ว
อยู่ๆเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นมา ชูโซเน นั่นเอง ฉันรีบรับโทรศัพท์ทันที
"นายเป็นนังไงบ้าง มาซิโอ"
"ยังติดอยู่ในออฟฟิศ ยังโอเคอยู่ ว่าแต่นายล่ะเป็นไงบ้าง"
"ฉันไม่เป็นไร ตอนนี้อยู่ข้างนอกแล้ว แต่คุณทาคารัส กับ คุณคนพ่อ ถูกยิง "
"ว่าไงนะ แล้วตอนนี้สองคนนั้นเป็นยังไงบ้าง " ฉันรีบถาม ความจริงแล้วฉันไม่ได้เป็นห่วงทั้งสองคนนั้นหรอก ห่วงก็แค่......ใจของยัยนั่น
"ถึงมือหมอเรียบร้อยแล้ว แต่ตอนนี้กำลังเสริมของ"ออฟฟิศ"กำลังเข้าไปกำจัดผู้บุกรุกแล้วนะ นายรีบออกมาเถอะ " โอเคถ้าอย่างนั้นคงต้องเปลี่ยนแผนเป็นออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุดก่อนที่พวกนั้นจะเจอตัวฉันสินะ
"เข้าใจแล้ว งั้นบาย..." ฉันกดวางสายแล้วค่อยวิ่งกลับมาที่ชั้นล่าง
ทางออกลับที่ไกล้กับตัวฉันที่สุดต้องลงบันไดไปอีกชั้นแล้วเลี้ยวขวาเอาล่ะรีบไปดีกว่า
อ๊ะ ถ้าเข้าประตูนั้นไปก็ถึงแล้ว แต่ก็ดูเหมือนว่ามีแขกอยู่ในห้องนั้นก่อนซะแล้ว ฉันค่อยๆชักปืนขึ้นมาก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไป
"หยุด ยกมือขึ้น" ฉันพูดพลางชี้ปลายกระบอกปืนไปที่"แขก" ที่อยู่ในห้อง แต่ก็ต้องแปลกใจ เพราะ"แขก" ที่ว่าคือ
"ท่านมาซิโอ"
"มาดามคิโชวอิน"
"ตอนนี้รีบออกจากที่นีกันก่อนเถอะค่ะ อย่างอื่นค่อยว่ากันทีหลัง" ฉันพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนที่จะดึงผ้าปูพรมออก ทำให้เห็นบันไดที่ลงไปยังทางหนีลับ ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมากเราสองคนรีบลงบรรไดทันที
บรรไดนั้นพาเราลงมายังที่จอดรถ มาดามคิโชวอินค้นกระเป๋าแล้วหยิบกุญแจรถออกมาอย่างรวดเร็ว
"มาดามขับรถเป็นด้วยเหรอครับ"
"งานถนัดของดิฉันเลยล่ะค่ะ โอ๊ะโฮะๆๆๆ "เธอหัวเราะแต่ ฉันกลับรู้สึกไม่ดีเลย แต่ไม่ว่ายังไงก็ตามพวกเรารีบขึ้นรถทันที มาดามเป็นคนขับ ส่วนฉันนั่งข้างๆ
"ใส่เข็มขัดนิรภัยด้วยนะคะ เพราะหลังจากนี้ดิฉันจะซิ่งแล้ว" เมื่อมาดามเห็นฉันคาดเข็มขัดเธอก็เหยียบมิดคันเร่งด้ามมันที อา....ความรู้สึกที่เหมือนกำลังบินนี่มันอะไรกัน ทั้งๆที่ไม่ได้นั่งเครื่องบินและไม่ได้อยู่บนเครื่องเล่นสุดหวาดเสียว แต่แค่อยู่บนรถที่มาดามขับ กลับรู้สึกว่ากำลังอยู่บนทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกัน และเมือฉันเห็นรอยยิ้มของมาดาม ฉันก็นึกถึงเธอขึ้นมาทันทีเลย เรย์กะเธอนี่ได้แม่มาเต็มที่เลยสินะ
แต่สุดท้าย ไม่ว่ายังไงพวกเราด็รอดล่ะนะ......
วันนี้กาวหมดกระป๋องแค่นี้แหละ จะมีต่อไหมก็ไม่รู้เหมือนกัน ถ้ามีใครแต่งต่อก็ยินดีนะ 5555
โรงเรียนแคลปม์ กูเห็นภาพเลยค่ะว่าซุยรันฝหญ่ประมาณไหน ว่าแต่ท่านเรย์กะเดินไหวเหรอคะ 555
โรงเรียนแคลมป์นี่ต้นแบบซุยรันป่ะนะ 5555
กุพยายามหาภาพโรงเรียนแคลมป์แต่กุหาไม่เจอ มันใหญ่ขนาดไหนวะ ใครก็ได้บรรยายที สเกลเท่าๆซูยรันไหม?
>>951 กูว่าเป็นไปได้ 555555555
โรงเรียนแคลมป์เป็นรร.ที่แบบโผล่มาในงานของป้าๆแคลมป์บ่อยมากกกกกกกกกก ถามว่าใหญ่ขนาดไหน... ก็ขนาดที่มีทั้งประถม มัธยม มหาลัยอยู่ด้วยกันอ่ะ 555555 คือใหญ่มากมากมากกกกก แม่งเหมือนเป็นอาณาจักรอ่ะ
มึงหารูปไม่น่าเจอ เพราะส่วนใหญ่รร.แคลมป์ที่โผล่มาก็แม่งงานเก่าป้าอ่ะ แต่ก็พอมี layout ให้เห็นภาพนะ อ่ะ กูแปะรูปให้ดู
อันนี้เป็นภาพมุมสูงของโรงเรียนแคลมป์ https://encrypted-tbn3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcRzrTcoV876xVsKaQIjH5Cxt59ny8q9K0BrysTfTnP2w-9c22TnbQ
ส่วนนี่เป็นแผนผังคร่าวๆว่าในรร.มีอะไรบ้าง https://encrypted-tbn1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSbAKOI71fLQwlfTrR4YugFEs_vjkY7MxPWTGpgfzUd4K8kL6xPgKCe9wDQcg
ทำไมกุนึกถึงโรงเรียนมาโฮระอีกโรงเรียนวะนั่นก็ใหญ่เหมือนกัน ขนาดมีบ้านให้เอวาเจลีนอยู่พร้อมพื้นที่ส่วนตัว
มึงนึกไม่ออกเข้ายูทุ) เขียนชมรมนักสืบแคลมป์ มึงกูตอนแรกมึงก็อึ้งในความรวยละ 55555555555
แต่เรื่องนี้ สามหนุ่งทำตัวเหมือนสาวๆในซุยรันมากว่ะ 555
ตอนแรกกุนึกประมาณโอรัน แต่พอคำณวนขนาดแล้วกุคิดว่าน่าจะระดับโรงเรียนแคลมป์เหมือนกัน 5555555555
กูแถมรร.แคลมป์ให้อีกรูป http://hit930.sakura.ne.jp/hitjapan/book12/P150515101.JPG
แต่ทั้งแคลมป์ทั้งมาโฮระ มันเป็นโรงเรียนประจำทั้งคู่นี่ ต่างกันอยู่นะ ซุยรันคงไม่ใหญ่โตปานนั้น ถถถ
กูว่าของมาโฮระนี่กำลังโอเคนะ เพิ่มป่าไปอีกหน่อยก็น่าจะได้ล่ะมั้ง ดูเนกิหลายปีละ ลืม55555
มึงๆ แล้วโรงเรียนโอรันล่ะ
กูนึกถึง รร.เครือสาธิตย์มากกว่าอะ บวกฟิลเตอร์และความเวอร์หน่อย น่าจะใช่ซุยรัน ถ้าคิดไม่ออกมึงนึกถึงซูซูรันแม่งเลย ชื่อคล้ายกันดี//กูขอโทษ กูเมา 555
เออ มีใครทำมู้ใหม่ยัง นี่ทำไม่เป็นแต่มาเตือนนิดนึงเพราะอีกแค่สามสิบเม้นก็หมดมู้ละ
กาวแลกซี่ที่6จ้ะ
https://fanboi.ch/webnovel/3572/
>>976 โอรันมีอนุบาลยันมหาลัย > http://ouran.wikia.com/wiki/Ouran_Academy
ถ้ามาโฮระนี่ มีนักเรียน 30,000 คนเลยนะ ซุยรันไม่น่าเยอะปานนั้น ชั้นนึงมีไม่กี่ห้องเอง > http://negima.wikia.com/wiki/Mahora_Academy
อีกอันที่นึงถึง ก็โรงเรียนอลิซอะ อันนั้นนักเรียน 200คน แต่มันโรงเรียนประจำ ประถมยันมหาลัย > http://gakuenalice.wikia.com/wiki/Alice_Academy
งั้นโรงเรียนในเรื่อง มาเรียโฮลิค ล่ะ แต่นั่นหญิงล้วนเนอะ เทียบกับยูริมะยะของเรื่องท่านเรย์กะได้ไหม?
ซุยรันนี่มันออกแบบแบบโบราณหรือทันสมัยอ่ะ บางทีกูคิดว่าถ้ามันอัปเดทความทันสมัยมันก็น่าจะราวๆที่นี่อ่ะ
https://www.youtube.com/watch?v=l6nTL1sFjS8
ถ้ายุโรปโบราณหน่อยกูว่า
https://www.youtube.com/watch?v=SuTTsIzVr6A
ถ้าจำไม่ผิดกูว่าข้างนอกน่าจะดูยุโรปๆล่ะมั้ง ข้างในก็ทันสมัยไปอ่ะ
กุนึกออกในความจริงในไทยอีกมหาลัยนึง เอแบค ใส่ฟิลเตอร์ มหาลัย เกษตรบางเขนเพราะมีสาธิตในมหาลัยเอาความกลางเมืองใส่เข้าไป
http://www.admissions.au.edu/th/index.php/applications-resources/41-2013-10-16-10-33-17
แรกๆกูอ่านเรื่องนี้แล้วเผลอนึกภาพแบบนิยายโอโตเมะเรื่องอื่นด้วยเว้ย ที่จะอยู่แนวแบบยุคกลางหน่อย มีขุนนาง มีท่านเคาท์ บางทีก็เผลอลืมๆเซตติ้ง พอเห็นเรย์กะหรือคนในเรื่องใช้มือถือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์กูก็เพิ่งนึกได้ว่า... เอ้อ เรื่องนี้มันอยู่ในยุคเดียวกับเรานี่หว่า 555555
ซุยรันกูว่าน่าจะคล้ายๆรร.นานาชาติบ้านเราอ่ะ แต่ความหรูหราไฮโซบวกเพิ่มอีกประมาณหลายเท่า บางทีอาจเป็นแนวแบบ Eton Collage ก็ได้นะมึง /สุภาพบุรุษอังกฤษที่ดี เอื้ออออออ
สงสัยจะมีกุคนเดียวที่ใช้ ABAC เป็นต้นแบบในการมโน ถถถถ
กูชอบวันที่ให้ใส่อะไรก็ได้อ่ะมึง แม่งจะมัวันที่พวกนางบางคนใส่ชุดนอนมางี้ โคตรน่ารัก55555
แต่ถ้าแค่ Eton จะชุดไหนก็ยอมพวกนางค่ะ งานดีดาเมจเกินต้านทาน
คือถ้ามองเป็นเมืองการศึกษาใหญ่ๆกูคิดถึงศาลายา รังสิต บางเขนไรงี้ เพียงแต่พวกนี้มันลูกทุ่งนอกเมืองไปหน่อย บวกความยุโรปไฮโซแบบเอแบคเข้าไปกูว่าก็ใช้ได้อยู่นะ
>>985 ตั้งแต่อ่านมากุก็มโนภาพมาเป็น Eton ตลอดเลยว่ะ คือมันดูใช่มาก แลดูได้ จริงๆคิดถึง eton เพราะประโยคแปลความหมายโบตั๋นตอนต้นๆเรื่อง ที่ว่าเสน่ห์ของชายสูงศักดิ์ซัมติง โมเม้นนั้นนี่ป้าดดดด eton ลอยมาเลอ เสียดายเป็นชายล้วนแค่นั้น แต่กุติดฟิลเตอร์เพิ่มเองได้ 555
เห็นบอกข้างนอกเป็นอาคารทรงโบสถ์วิหาร กูเลยใช้ eton เป็นหลักในการมโนเลยค่ะ หล่อชิบหาย เครื่องแบบก็กินขาดละ ถ้าซุยรันใช้เครื่องแบบอย่างนี้ล่ะก็....
อหหหห แค่กูนึกภาพหนุ่มๆในซุยรันใส่เครื่องแบบ eton กูก็บรรลุล่ะ
อยากได้นักเรียน Eton ต้องทำยังไงค่ะ แค่กๆ กุเข้าใจฟีลสาวๆในซุยรันละ
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.