วันนี้โชคดีที่เป็นวันธรรมดาๆ ที่คาเฟ่เลยมีคนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ ทำให้ฉันมีได้มีเวลาพักหายใจได้บ้าง วันนี้อาจจะเป็นเพราะความฝันที่ทำให้ฉันเหนื่อยจริงๆ เลยไม่ได้ม้วนผมมาอย่างเคย แต่กลับปล่อยยาวสยายไปด้านหลังแทน ดูเหมือนว่าผมจะเริ่มแตกปลายแล้ว แต่ทำไงได้ล่ะคะ ก็ไม่มีเวลาดูแลนี่
“คุณคิโชวอิน จะไปพักก่อนไหม?” หัวหน้างานเดินมาถามฉันที่ยืนรอรับลูกค้าอยู่หน้าร้านค้า
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันยังไหวค่ะ” ฉันตอบกลับไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “แล้วก็เดี๋ยวต้องเอาใบปลิวไปแจกลูกค้าด้วยนี่คะ พักไม่ได้หรอกค่ะ”
“งั้นเหรอ ช่วยได้มากเลยนะ”
“ค่ะ”
หลังจากนั้นฉันก็ออกมาแจกใบปลิวโปรโมชั่นลดราคาเครื่องดื่มหน้าร้อน แถวๆ ถนน กับเพื่อนผู้หญิงที่เป็นพนักงานพิเศษด้วยกันค่ะ
แต่ว่าวันนี้มันร้อนจังเลย ยิ่งใส่ชุดคุณเมดหูแมวแบบนี้ยิ่งทำให้รู้สึกอึดอัดเข้าไปใหญ่เลย อ่า...อยากได้ไอศครีมเย็นๆ สักถ้วยจังเลยล่ะคะ
“ขอใบหนึ่งได้ไหมครับ”
“อ๊ะ ได้ค่ะ โปรโมชั่นเครื่องดื่มลดราคาของร้านเราค่ะ ถ้านำใบปลิวไปยื่…” ฉันฉีกยิ้ม เตรียมพูดสโลแกนของทางร้าน แต่พูดไปได้ประโยคเดียวก็หยุดชะงักค้าง นิ่งงันไปค่ะ เมื่อเจอใบหน้าแย้มยิ้มสุภาพที่กำลังจับใบปลิวที่ฉันส่งให้อยู่
“ทะ ท่านเอ็นโจ สวัสดีค่ะ”
“ตั้งใจทำงานจังนะครับ”
“ค่ะ”
“งั้นก็พยายามเข้านะ คุณคิโชวอิน”
“ค่ะ” ฉันพูดได้แต่คำคำนี้คำเดียวเท่านั้นค่ะ ไม่รู้ว่าจะบรรยายบรรยากาศในตอนนี้ยังไงดี แต่รอยยิ้มของเอ็นโจคนนี้ถึงแม้จะเหมือนกับท่านเอ็นโจ แต่มันก็แตกต่างกับท่านเอ็นโจโดยสิ้นเชิงค่ะ
มันดูน่ากลัวเหมือนมีอะไรแอบแฝงมากกว่านั้น จนไม่กล้าถลำลึกลงไป
บางทีฉันอาจจะคิดมากไปเองก็ได้ แต่พอมาลองคิดจริงๆ จังๆ แล้ว เอ็นโจไม่เคยญาติดีกับเรย์กะในมังงะเลยแม้แต่ครั้งเดียว ถ้าเขาเปลี่ยนท่าทีเพราะฉันเข้ามาในร่างของเรย์กะล่ะก็ ฉันคิดว่ามันผิดปกติ…
“คุณคิโชวอิน”
“ค้า---าา!”
ทำไมยังไม่ไปอีกล่ะคะ ตกใจหมดเลย! ไม่รู้ว่าฉันทำสีหน้ายังไง เอ็นโจถึงได้นิ่งไป ใบหน้ารอยยิ้มหายไปแล้ว เหลือแต่ความตกตะลึง แต่เพียงแค่แวบเดียวเท่านั้น
“เห?”
“มะ มีอะไรอีกหรือคะ ท่านเอ็นโจ”
“ผมต้องมีธุระด้วยเหรอ ถึงจะคุยกับคุณได้น่ะ คุณคิโชวอิน”มาแล้วค่ะ รอยยิ้มมาดร้าย แต่ไม่ว่ายังไงวันนี้ก็อยากให้มันจบๆ ไปเลย ออกมาสิ...ตัวฉันที่ถือพัด! แสดงละครเป็นเรย์กะที่ใจกล้าสิคะ!
“ตะ--ตั้งแต่แรกแล้ว ดิฉันก็คิดว่าน่าจะมีอะไรผิดปกติแน่ๆ ค่ะ ก็เมื่อก่อน ท่านไม่เคยคิดที่จะเฉียดเข้ามาใกล้ฉันเลยแม้แต่น้อยนี่คะ!”
“...”
“อีกอย่างดิฉันไม่ได้ไปยุ่งกับยูกิโนะคุงแล้ว แม้แต่ท่านคาราบุกิ คุณทาคามิจิ ดิฉันก็ไม่ได้ไปวุ่นวายแล้ว! ไม่ได้วางแผนการอะไรด้วย! เพราะฉะนั้นปล่อยฉันไปเถอะค่ะ! ขอร้องล่ะค่ะ ท่านเอ็นโจ!”
ไม่อย่างนั้นฉันจะต้องกลัวใจของฉันถลำลึกลงไปมากกว่านี้ เห็นภาพของท่านเอ็นโจซ้อนทับกับเอ็นโจแน่ๆ ฉันไม่อยากให้เป็นแบบนั้น
ไม่ว่ายังไงเอ็นโจก็ไม่ใช่ท่านเอ็นโจ!
ฉันที่รัวคำพูดโดยไม่พักหายใจ สูดหายใจเข้าปากหนึ่งที เงยหน้ามองเอ็นโจ ชูสุเกะ ที่มองฉันด้วยแววตาแบบเดียวกันกับในมังงะ
“เห… ฉลาดขึ้นนี่ คุณคิโชวอิน”
“อึก”
“ผมน่ะ ไม่ยุ่งด้วยไม่ได้หรอกนะ” ไม่รู้ว่าเอ็นโจเข้ามาประชิดตัวตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาจับปอยผมของฉันขึ้นมาแล้วกระตุกให้ไปทางเขา “ขืนปล่อยเสี้ยนหนามออกไป ไม่รู้ว่ามันจะแวงมากัดเมื่อไหร่น่ะสิ”
...เจ็บ
น่ากลัว เอ็นโจคนนี้น่ากลัว
“เพื่อดูพฤติกรรมของคุณ ถึงแม้ว่าคุณจะพูดให้สัญญา แต่ผมไม่คิดทำตามสัญญาหรอกนะ จำใส่ใจไว้ ว่าคุณน่ะเป็นแค่สามัญชน ไม่มีสิทธิ์มาสั่งตระกูลเอ็นโจ!”
เอ็นโจพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้น ไม่รู้ว่าทำไมแววตาที่แสนเย็นชาคู่นั้น แวบนึงฉันเห็นเหมือนเจือไปด้วยความเศร้า สับสน แต่ฉันคงตาฝาดไปล่ะมั้ง