ฝากฟิคกาวๆของเราด้วยนะะ เมื่อวานวิ่งอยู่ดีๆก็คิดออกขึ้นมา
ผมชื่อเอ็นโจ เอ็นโจ ยูกิโนะ...หรืออย่างน้อยผมก็เคยชื่อนั้นมาหลายปี ก่อนที่ผมจะมาเป็นคนๆนี้...เอ็นโจ ชูสุเกะ ท่านพี่ของผมเอง
วันที่ผมหัดเขียนชื่อของตัวเองครั้งแรก เอ็นโจ ชูสุเกะ...นั่นฟังดูทั้งคุ้นและไม่คุ้นในเวลาเดียวกัน เวลาท่านพ่อกับท่านแม่เรียก ชูจังอย่างนู้น ชูจังอย่างนี้ ผมกลับรู้สึกประหลาดๆในใจและกว่าจะรู้ตัว...ทุกครั้งที่พวกท่านเรียก ผมก็เผลอมองหาใครซักคน
ใครซักคนที่ไม่ได้อยู่ตรงนั้น...และไม่เคยอยู่
แต่แน่นอน ความคิดของเด็กสี่ขวบในตอนนั้นคือผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ผมไม่ได้นึกตะขิดตะขวงใจในความทะแม่งๆของชื่อของผม
ผมไม่ได้คิดมากในเรื่องแบบนั้นพอๆกับที่ผมไม่ได้ตกใจที่ตัวเองรู้สึกคุ้นชินกับความหรูหราของโรงเรียนประถมซุยรัน
ผมไม่รู้สึกแปลกใจด้วยซ้ำกับสิทธิพิเศษและขนมต่างๆในสโมสร Petit Pivoine อันที่จริงผมถึงกับรู้ว่ามันเป็นภาษาฝรั่งเศส
และให้ยิ่งไปกว่านั้นคือผมถึงกับจำตารางขนมในแต่ละวันของสโมสรได้
ซึ่งถ้าพูดให้ถูก...นั่นเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ผมสนิทกับมาซายะด้วยซ้ำ
ในวันที่เปิดภาคเรียนวันแรก มีเด็กอายุเท่าๆกับผมเต็มไปหมด และบางส่วนก็เป็นสมาชิกสโมสร Petit Pivoine แบบเดียวกับที่ผมอยู่ แต่มีเพียงแค่สองคนที่สะดุดตาผม...สองคนที่ทันทีที่พวกเขาแนะนำตัว เสียงในหัวผมก็ดังราวกับว่าพวกเรารู้จักกันมาก่อนแล้ว
คนแรกเป็นเด็กผู้ชายที่ทำหน้าตาเบื่อหน่ายตลอดเวลา...ยกเว้นเวลาที่รุ่นพี่ผู้หญิงที่สวยมากๆคนหนึ่งพูดกับเขาหรือว่าหันไปใส่ใจเขา ไม่รู้ว่าทำไมแต่ผมคิดไปก่อนแล้วว่าพี่ผู้หญิงคนนั้นต้องชื่อว่าวาคาบะแน่ๆถ้าเขาสามารถทำให้ คาบุรากิ มาซายะคนนั้นยิ้มกว้างขนาดนี้ได้
แต่ผมคิดผิดถนัดในเรื่องชื่อของรุ่นพี่คนนั้นแม้ว่าผมจะคิดถูกเรื่องชื่อของเด็กผู้ชายคนนั้นก็ตาม
“...ทำไมต้องแนะนำตัวด้วย งี่เง่า” คาบุรากิ มาซายะว่าขณะถอนหายใจอย่างเบื่อๆ ผมเห็นเขาเบนสายตาไปหารุ่นพี่ผู้หญิงข้างๆด้วยตาเป็นประกายก่อนจะกอดหมับเข้าที่เอว “คุยกับยูริเอะสนุกกว่าเยอะ”
โป้ก!
เสียงเขกหัวดังลั่นมาจากรุ่นพี่ผู้หญิงผมสั้นที่ทรุดตัวลงนั่งข้างๆรุ่นพี่ยูริเอะ พร้อมๆกับคาบุรากิที่เบะปากแล้วซุกตัวเข้าไปอ้อนมากกว่าเดิม
“เหอะ เด็กไร้มารยาท” รุ่นพี่ผู้หญิงคนนั้นว่า “ตอนนี้ยูริเอะเป็นรุ่นพี่นายนะ ช่วยเคารพด้วยสิ และช่วยคิดด้วยว่าฉันอยู่ที่นี่มาห้าปีแล้ว ฉันทำมานานกว่านายตั้งห้าปีนะคาบุรากิ และถึงฉันจะเบื่อที่ต้องทำมันทุกปี...เพราะว่าฉันมีมารยาท ฉันก็เลยทำยังไงล่ะ เอ้า เด็กๆ ฉันชื่อมินาสึกิ ไอระ อยู่ชั้นป.5 จะเรียกท่านไอระก็ได้นะ จำเอาไว้ดีๆล่ะ”
...เป็นผม ผมไม่กล้าเรียกนั่นว่ามารยาทหรอกนะครับ
ถึงแม้ผมจะทำได้แค่คิดไม่ได้พูด แต่มาซายะกลับพูดมันออกมาแทนผม อา ถ้าเป็นผม ผมก็คงไม่กล้าพูดมันออกมาอย่างนั้นเหมือนกันนะครับ นึกถึงที่ท่านไอระทำกับคุณเมื่อกี้น่ะ
“พอเถอะน่าไอระ เธอก็รู้ว่ามาซายะน่ะแค่ป.1นะ” ท่านยูริเอะ(ที่ผมถือวิสาสะเรียกไปแล้วในใจ) พูดยิ้มๆ มือลูบหลังมาซายะที่ตอนนี้(คลาน)ไปนั่งบนตักท่านยูริเอะแล้วเรียบร้อย ก่อนจะที่เธอจะหันมาแจกยิ้มหวาน “สวัสดีจ้ะ ฉันชื่อซุสุชิโนะ ยูริเอะอยู่ป.5เหมือนไอระ ส่วนนี่คือคาบุรากิ มาซายะ น้องชายของฉันเอง เขาอาจจะขี้งอแงไปนิด ต้องฝากทุกคนดูแลด้วยนะจ้ะ”
ผมล่ะสงสัยว่าคนอย่างนั้นน่ะเหรอต้องการให้ใครดูแล คาบุรากิ มาซายะไม่ใช่คนที่จะร้องไห้ง่ายๆ เรียกว่ามีออร่าจักรพรรดิไม่ให้ใครเข้าใกล้ด้วยซ้ำ ถ้าจะเป็นอะไรล่ะก็...
“สำออยสิไม่ว่า” ท่านไอระพึมพำ เหมือนเอาคำพูดออกไปจากความคิดผมเลยนะเนี่ย!
แต่ก่อนที่ผมจะได้ทันคิดอะไรต่อ อีกคนที่สะดุดตาผมก็ลุกขึ้นบ้าง แต่คราวนี้เป็นเด็กผู้หญิง เธอเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก แก้มกลมๆ ตาโตล้อมด้วยขนตายาว ประกอบกับผมม้วนเป็นหลอดๆรอบหัว ถ้าให้พูดบรรยายก็คงไม่มีอะไรเหมาะกับเธอคนนั้นไปกว่าคำว่า ตุ๊กตาฝรั่งเศส นี่ถ้าเธอมีผมทองกับตาสีฟ้านะ ผมคงคิดว่าผมโดนผีพระนางมารี อองตัวเนตจิ๋วหลอกกลางวันแสกๆแน่ หึ แต่คิดอีกทีก็ไม่หรอก ในเมื่อผมรู้จักชื่อของเธอนี่
คิโชวอิน เรย์กะ...