“หะ!? !” ฉันร้องเสียงหลงแบบลืมเก๊กมาด คาบุรากิ๊ จริงๆแล้วไม่ว่าจะที่ไหน นายก็ยังบ้าอยู่ใช่ไหม ความคิดบ้าอะไรนั่นน่ะ มันควรเป็นตรรกะพื้นฐานที่อยู่ความคิดของคนปกติงั้นหรอ
เรย์กะนะเรย์กะ ทำไมก่อนหน้านี้เธอถึงหลงรักคนแบบนี้ได้นะ แต่ก็คงถูกหลอกเหมือนสาวๆในซุยรันล่ะมั้ง
ฉันเดินนาบกลับผนัง เนียนๆหนีห่างจากคาบุรากิไปเรื่อยๆ
“เดี๋ยวก่อน ถามอะไรหน่อย” คาบุรากิยืนขวางฉันไว้ “ทำไมเธอถึงทำเหมือนชอบฉันล่ะก่อนหน้านี้”
ฉันขมวดคิ้ว หมอนี่กำลังทำวิจัยเรื่องความรักอยู่หรอ จะให้ฉันบอกว่าฉันชอบแล้วเลิกรักไปแล้ว ก็แปลกๆ สาเหตุหลักเลยคือฉันพูดอะไรอย่างงี้ไม่ออกหรอก มันโกหกชัดๆ! แค่ต้องคิดว่าจะพูดคำว่ารักกับหมอนั่นก็ขนลุกไปทั้งตัวแล้ว
“เธอคงไม่คิดจะออกเดินทางหรอกใช่ไหม...”
“ไม่หรอกค่ะ...”
คาบุรากิ ในหัวนายมีแต่อะไรเนี้ยยยยย แต่ว่าหมอนี่เป็นห่วงฉันอยู่หรอ ในฐานะตัวร้ายที่แกล้งคนที่นายชอบนี่นะ อื้ม จะยังไงก็เป็นพระเอกนิดหน่อยล่ะนะ ถ้าเป็นคนที่ตกหลุมรักหมอนี่เข้าจริงๆล่ะก็ คงจะดีใจ
“เธอเป็นแบบฉันใช่ไหม” คาบุรากิถาม
“เป็นอะไรหรอคะ?”
“มาอยู่ในโลกอีกโลกหนึ่ง โลกที่ดูเหมือนเดิม แต่ทุกอย่างดูเปลี่ยนไป” เขาพูด “ท่าทีของเธอต่างจากที่ฉันเคยเจอในโลกนี้ คล้ายกับโลกก่อนฉันมาก เธอเองก็ทะลุมิติมาเหมือนกันสินะ”
“เอ๋!? !” ฉันอุทานอย่างตกตะลึง “อย่างบอกนะว่ารถบรรทุก...”
คาบุรากิพยักหน้า “ดูเหมือนว่าฉันที่ถูกชนก่อนจะมาถึงโลกนี้ก่อนเธอนะ ฉันมาได้เป็นเดือนแล้ว”
มิน่าล่ะในหัวคาบุรากิถึงแฟนตาซีหลุดโลกขนาดนั้น ก็เจอเรื่องแบบนี้ อะไรก็น่าจะเป็นไปได้สินะ แต่ว่านะคะ ต่อให้เรื่องแปลกๆเกิดขึ้น ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะเจอหรอกนะคะ อย่าไปถามอะไรใครแปลกๆ เช่น ไปสลับร่างกับใครมาหรือเปล่าสิคะ
คาบุรากิมองท่าทางของฉันสักพักแล้วพูด “ดูเหมือนว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันเยอะเลยล่ะ”