ลอง
คบรก side story
-------
ในวันงานแข่งกีฬาโรงเรียน ทั้งๆที่ตกลงกับชูสุเกะไว้ว่าจะแข่งกันว่าใครจะเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก เจ้านั่นก็ดันขาเจ็บ น่าเบื่อชะมัด ยังดีที่ห้องกำลังอยู่ในตำแหน่งรั้งท้ายอย่างน่าสมเพช ท้าทายฉันว่าจะแซงให้ได้ที่หนึ่งขึ้นมา ซึ่งก็ไม่ได้ยากเย็นนักหรอก เจ้าคนวิ่งไม้สุดท้ายแทนที่ชูสุเกะที่วิ่งนำในตอนแรกก็ใช้ได้อยู่หรอก แต่สุดท้ายก็ช้ากว่าฉันอยู่ดี ส่วนพวกห้องอื่นไม่ได้อยู่ในสายตาฉันสักนิด
พอจบงานกีฬา พวกผู้หญิงจากห้องอื่นก็เข้ามารุมล้อมที่ห้องเรียนส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดเสียงดังและขวางทางเกะกะ ปกติก็น่ารำคาญอยู่แล้ว นี่ยิ่งกว่าเดิมเสียอีก จนต้องตะคอกไล่ออกไปให้หมด พอทำแบบนั้นก็ทำหน้าจะร้องไห้ แต่ใครสนกันเล่า เกะกะชะมัด
พวกผู้หญิงนี่น่ารำคาญจริงๆ
ไม่เห็นจะมีใครเหมือนยูริเอะสักคน
ยูริเอะน่ะทั้งสุภาพ ใจดี อ่อนโยน สมเป็นกุลสตรี ไม่มีสักครั้งเลยที่ทำให้ฉันต้องรู้สึกหงุดหงิดใจหรือลำบากใจ ตลอดเวลาที่รู้จักกัน มีเพียงเธอที่เข้าใจ คอยปลอบและให้กำลังใจฉัน
ในสายตาฉัน นับตั้งแต่แรกก็มีเพียงแค่ยูริเอะคนเดียวเท่านั้น
แต่น่าเสียดายที่พวกเรามีช่องว่างของอายุ ขวางกั้นด้วยตึกเรียนที่ต้องแยกห่างกันเป็นอุปสรรค
บ้าเอ๊ย ถ้าเกิดเร็วกว่านี่ล่ะก็...
ได้ยินจากสายข่าวมาว่าที่แผนกมัธยมมีคนแอบสนใจยูริเอะมากทีเดียว ...เจ้าพวกไม่รู้ที่ต่ำที่สูง! ใครคิดจะเข้ามาวอแวกับยูริเอะ ฉันจะกำจัดพวกมันไปให้หมด!
วันนั้นตอนที่ฉันกำลังจิบช็อกโกล่าร้อนจากเบลเยี่ยมในห้องสโมสรกับชูสุเกะตอนหลังเลิกเรียน ก็มีข่าวมาถึงหูว่ามีคนจากข้างนอกกำลังสารภาพรักกับยูริเอะ
รนหาที่ตายแล้วใช่มั้ย!?
ฉันรีบพุ่งตัวออกไปจากสโมสรทันที พอไปถึงหน้าประตูโรงเรียน เห็นผู้ชายหน้าตาโหลยโท่ยในชุดนักเรียนต่างโรงเรียนยื่นช่อดอกไม้ให้ยูริเอะ ฉันฉุนกึก จัดการตั้นหน้าบดขยี้มันซะจนลงไปนอนกับพื้นอย่างสาสม แล้วพายูริเอะขึ้นรถกลับบ้านทันที ฉันจะปกป้องยูริเอะเอง จะไม่ให้ใครหน้าไหนมายุ่งกับเธอทั้งนั้น!
นับแต่นั้นฉันก็คอยอยู่เคียงข้างยูริเอะ ไม่ให้หลืบไรมาตอม ทั้งไปและกลับจากโรงเรียนด้วยกัน ใช้เวลาอยู่ด้วยกันที่ห้องสโมสรฝั่งมัธยมบ้าง บางเวลาที่ฉันอยู่ด้วยไม่ได้ก็ให้พรรคพวกของตระกูลช่วยเฝ้าดูแลและส่งข่าวมา หากมีใครเข้ามาวุ่นวาย
ทุกอย่างเป็นไปอย่างเรียบร้อย ไม่มีไอ้หน้าไหนเข้ามาใกล้ยูริเอะได้อีก ฉันยิ้มอย่างมีความสุขตลอดเวลาที่พวกเราได้อยู่ร่วมกัน เป็นช่วงเวลาที่ดีจริงๆ ฉันเชื่อว่ายูริเอะเองก็คิดแบบนั้น
แต่แล้ววันหนึ่ง หลังจากจัดการกระโดดเตะแมลงวันที่เล็ดลอดเข้ามาได้จนมันสลบไป ยูริเอะกลับโมโหขึ้นมา
"พอกันที มาซายะ! ฉันจะไม่ทนกับพฤติกรรมแบบนี้ของเธออีกแล้ว! อย่าเข้ามาใกล้ฉันอีก จนกว่าเธอจะสำนึกผิดในสิ่งที่เธอทำทั้งหมดนี้!"
จากนั้นยูริเอะก็จากไปกับไอระ โดยไม่มองมาทางฉันอีก
ท ทำไมกันล่ะ!?
*****
"... บางทีฉันคงจบสิ้นแล้วล่ะ... ยูริเอะไม่รับสายฉันเลย"
เธอโกรธเรื่องอะไรกันน่ะ ไม่เห็นเข้าใจสักนิด ทำไมไม่รับสายล่ะ ทั้งที่ปกติจะรับทันทีแท้ๆ พอไปหาที่บ้านก็ไม่ยอมให้ฉันพบหน้า ทำไมกันล่ะ?...
ทั้งๆที่ฉันทำทุกอย่างก็เพื่อเธอแท้ๆ...
ฉันบ่นระบายกับชูสุเกะในห้องสโมสร ไม่มีอารมณ์จะทำอะไรอีกแล้ว ยังดีที่พวกน่ารำคาญเองก็รับรู้ ไม่เข้ามาวุ่นวายให้หงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม
ขณะที่คิดแบบนั้น กลับรู้สึกว่ามีใครจ้องมองมา ในเวลาแบบนี้ไม่อยากตายดีรึไงกัน!?
"เฮ้ ตรงนั่นน่ะ!"
"คะ ค่า!"
เป็นยัยผู้หญิงผมลอนโดดเด่นที่อยู่ชั้นเดียวกัน พอจะเห็นหน้าอยู่บ่อยๆ แต่จำชื่อไม่ได้ ฉันไม่สนใจใครมากไปกว่ายูริเอะอีกแล้วน่ะ
จะว่าไปถ้าจำไม่ผิดยัยนี่เป็นคนที่สั่นระฆังและเต้นวอลซ์อย่างสนุกสนานในงานเลี้ยงฤดูร้อนปีนั้นนี่ น่าอิจฉาชะมัด ฉันก็อยากจะมีโอกาสทำแบบนั้นกับยูริเอะบ้างนะ
"มีอะไรจะพูดก็พูดมาซะ!"
ยัยผมหลอดทำหน้าเอ๋อๆหันรีหันขวาง ไม่เข้าใจที่พูดรึไงกัน? ที่จดๆจ้องๆนี่แค่อยากจะหาเรื่องกันงั้นเรอะ ฉันกำลังหงุดหงิดสุดๆจนอยากจะหาที่ระบายพอดี
"ร เรื่องที่ท่านยูริเอะคิดจะปล่อยเป็นแบบนี้สักพักน่ะ!"
อะไรนะ!?
หลังจากนั้นฉันไล่คนอื่นในสโมสรออกไปจนเหลือแค่ฉัน ชูสุเกะและยัยผมหลอด และก็จัดการเค้นความจริงออกจากยัยนี่ที่หน้าซีดตัวสั่นไปหมด โดยมีชูสุเกะคอยเบรคคอยขัดตลอดการซักถาม หนวกหูน่า ชูสุเกะ!
ดูเหมือนว่ายัยผมหลอดจะสนิทกับไอระมากทีเดียว
...ดีล่ะ
ฉันจัดการมอบหมายให้ยัยผมหลอดทำหน้าที่สปาย ไปสืบข่าวจากไอระ หน้าตายัยนี่ดูไม่เต็มใจสักนิด แต่ว่าใครสนกันเล่า?
"เธอน่ะชื่ออะไร?!"
"คิโชวอิน เรย์กะค่ะ"
คิโชวอิน...โอเค จะจำไว้แล้วกัน
เฮ้ คิโชวอิน จงภูมิใจในหน้าที่สปายอันทรงเกียรตินี้ซะเถอะ! ยัยเบ๊!
อ๊ะ หลุดปากเรียกเบ๊ไปแฮะ
แต่จะเบ๊หรือสปาย มันก็เหมือนๆกันนั่นแหละ