>>414 ต่อมาจากนี่ เรื่องชื่อถ้าไม่ชอบใจก็แย้งได้นะ กูตั้งโดยพละการ 55555555555
--------------------
ฉันชื่อคาบุรากิ มิตสึบะ อายุสิบสามปีค่ะ
ฉันมีน้องชายที่อายุห่างกันหกปีอยู่คนหนึ่งชื่อมาซากิ กำลังจะเข้าเรียนที่ซุยรันในปีนี้เป็นปีแรก
น้องชายฉันเหมือนซีรอกส์มาจากท่านพ่อ ทั้งใบหน้า สีผม ลักษณะท่าทาง ถ้าไปเปิดอัลบั้มรูปสมัยเด็กๆของท่านพ่อก็เหมือนได้เห็นมาซากิเช่นกัน เป็นเด็กผู้ชายที่หยิ่งทระนงมั่นใจในตัวเองสูงสุดปรอท เห็นแล้วมันน่าเอ็นดูจนอยากแกล้งเลยล่ะค่ะ
ตอนมาซากิเข้าเรียนประถม ฉันก็ต้องเปลี่ยนไปเรียนม.ต้นแล้ว ก็เลยฝากฝังให้ยูตะและยูกะช่วยดูแลน้องชายฉันด้วย สองคนนั้นก็รับปากแข็งขันว่าจะช่วยดูแลจนสุดความสามารถ ได้ยินแบบนี้ค่อยสบายใจหน่อย ถ้าเป็นยูตะล่ะก็ คงจะแนะนำเพื่อนดีๆให้มาซากิได้บ้าง
ครอบครัวของเราสองคนสนิทกันมานานแล้วเพราะท่านพ่อและท่านอาชูสุเกะเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่ชั้นประถม บางคราวเมื่อไปเที่ยวบ้าน คุณอาชูสุเกะก็เล่าให้ฟังถึงเรื่องสมัยก่อนของท่านพ่อ และตอนจีบท่านอาเรย์กะด้วยหิ่งห้อย มันน่าประทับใจมากจนฉันฝันอยากมีคนรักที่สุดแสนโรแมนติคแบบนี้เลยล่ะค่ะ
แต่วาเลนไทน์ทีไร ทำไมฉันต้องได้ช๊อกโกแลตจากเด็กผู้หญิงทั้งนั้นด้วยล่ะคะ
เรื่องนั้นช่างมันก่อน เพราะตอนฉันไปรับมาซากิจากสโมสร Pivoine น้องชายฉันที่หยิ่งทระนงเชิดหน้าตลอดเวลาก็ดูซึมจ๋อย หูลู่ หางตกจนแปลกใจเลยล่ะค่ะ เกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ แต่มาซากิก็ไม่พูดอะไรเลย
พอกลับไปบ้านก็เอาแต่ขังตัวเองอยู่ในห้อง ส่งเสียงร้องไห้งอแงลอดผ่านประตูมา
ท่านย่าและท่านแม่รีบเรียกฉันไปซักถามเป็นการใหญ่ หากมีคนรังแกทายาทของตระกูลคาบุรากิก็จะไม่เอาไว้แน่ เรื่องทำท่าจะบานปลายไปใหญ่โตจนฉันต้องยกมือห้ามไว้ก่อน ขอสืบสวนสาเหตุที่แน่ชัดก่อนจะลงมือทำอะไร
ฉันโทรไปถามยูกะว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ยูกะเองก็ไม่ทราบเหมือนกัน แต่ยูตะที่ดูบ๊องๆเอ๋อๆคนนั้นเป็นผู้ให้คำตอบฉัน
"อ๋อ พอดีวันนี้เห็นยูกะคุยกับเด็กผู้ชายเยอะแยะไปหมด คงจะเครียดล่ะมั้ง" ยูตะหัวเราะดังมาจากปลายสาย "วันนี้ก็มาแอบถามถึงสเป็คของยูกะด้วยล่ะ ก็เลยบอกไปว่ายูกะชอบคนอายุมากกว่า แบบท่านอายูกิโนะ"
เข้าใจแล้วค่า นี่เรื่องของความรักสินะคะ
เมื่อบอกถึงสาเหตุที่แท้จริง ท่านย่าก็ดูจะคลายกังวลไปบ้าง แต่ก็เริ่มคิดจะทาบทามเจ้าหญิงน้อยของตระกูลเอ็นโจมาเป็นคู่หมั้นคู่หมาย
ฉันปล่อยให้ผู้ใหญ่คุยกัน ส่วนตัวเองก็ขึ้นไปเคาะห้องน้องชาย มาซากิมาเปิดประตูให้ฉันด้วยขอบตาที่แดงช้ำ พยายามขยี้ตาตัวเองป้อยๆ
"พี่รู้หมดแล้วล่ะ เรื่องยูกะใช่มั้ย" ฉันหยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำมูกกับน้ำตาให้
"อ๊ะ รู้ได้ยังไง" มาซากิอ้าปากมองฉัน แล้วก็เปลี่ยนเป็นสีหน้าโกรธๆ "ยูตะสินะ อุตส่าห์กำชับแล้วว่าไม่ให้บอกใคร"
"ถ้าพี่ไม่คาดคั้นให้ยูตะบอกแล้วจะรู้ปัญหาของเราเหรอ หืม" ฉันดีดหน้าผากมาซากิไปไม่แรงนัก นี่คือการลงโทษที่บังอาจมีความลับกับพี่สาวค่ะ "กลุ้มใจอะไรไม่ปรึกษากัน คิดว่าพี่พึ่งพาไม่ได้ขนาดนั้นเลยเชียว"
"เปล่าซักหน่อย" มาซากิทำแก้มป่อง ยกมือขึ้นมาลูบๆหน้าผาก "จะให้พูดเรื่องนี้กับเด็กผู้หญิงมันน่าอายนี่นา"
"อ๋อ เขินนี่เอง" ฉันหัวเราะแล้วขยี้หัวน้องชาย ได้รับเสียงโวยวายตามคาดแต่ฉันไม่สนใจ
หยอกล้อน้องชายไปอีกซักพักก็มาคุยเรื่องวิธีแก้ไขปัญหา มาซากิเริ่มเสนอวิธีที่ไม่เข้าท่าอย่างใช้อิทธิพลของตระกูลคาบุรากิไล่คนพวกนั้นออกไปไกลๆ แล้วก็จะไปรับไปส่งทุกที่ ฉันเลยดีดหน้าผากน้องไปอีกรอบ
"งี่เง่าจังเลยน้า มาซากิ" มาซากิถลึงตามองฉัน "เธอจะห้ามคนทั้งโลกไม่ให้เข้าใกล้ยูกะได้งั้นเหรอ แล้วยิ่งทำแบบนี้เขาก็จะยิ่งอึดอัดล่ะสิไม่ว่า"
"เอ๋"
"แล้วถ้าทำแบบนี้ ยูกะอาจจะเกลียดไม่ขอเจอหน้าเธอตลอดกาลเลยก็ได้"
"ไม่เอานะ!!!"
มาซากิเบะปากเหมือนจะร้องไห้อีกครั้ง กำชายเสื้อฉันไว้แน่นแบบขอความช่วยเหลือ แหม น่าเอ็นดูจังเลยค่ะน้องชายฉัน
"ถ้ายูกะชอบผู้ชายเยือกเย็นและอายุมากกว่า เธอทำตัวขี้แยเป็นเด็กๆแบบนี้สาวเขาจะแลงั้นเหรอ" ฉันลูบหัวโอ๋ๆน้องที่กำลังจะปล่อยโฮ "เธอเปลี่ยนคนทั้งโลกไม่ได้ มีแต่เธอต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเท่านั้นล่ะ"
มาซากิกระพริบตาปริบๆเหมือนกำลังคิดตาม ผ่านไปซักพักก็พยักหน้าส่งยิ้มออกมาให้ฉันได้ในที่สุด นี่ก็น่าเอ็นดูอีกแล้ว
ฉันจูงน้องชายลงไปยังชั้นล่าง ท่านพ่อกลับมาถึงบ้านพอดี กำลังคุยกับท่านย่าและท่านปู่ ท่าทางจะรู้เรื่องความรักของมาซากิกันหมดแล้ว ทุกคนหัวเราะกันใหญ่ มาซากิเลยทำแก้มป่องอย่างไม่พอใจ
ท่านพ่อขยี้หัวลูกชายตัวเอง มาซากิทำหน้ายู่ พยายามปัดมือท่านพ่อออกไป
ท่านย่าพูดเสนอเรื่องทาบทามยูกะให้มาเป็นคู่หมั้น สองข้างแก้มของมาซากิก็กลายเป็นสีกุหลาบแล้วก็เอาสีหน้านิ่งๆมากลบไว้อย่างรวดเร็ว แต่ไม่รอดพ้นสายตาฉันหรอก อ๊ะๆ พี่เห็นนะจ๊ะ