เอาฟิคมาขัดเอ็นโจผู้นกอีกแล้วแป็ป
---------------------------------
ผมหลงใหลในมนตร์เสน่ห์ของผู้หญิง แต่ละคนก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างชวนให้ค้นหา เหมือนกับลูกกวาดหลากรสในโถแก้ว ต้องลิ้มลองเท่านั้นล่ะ ถึงจะบอกรสชาติความอร่อยได้
ผมหมายถึงรอยยิ้มของผู้หญิง บ้างอ่อนหวานจับใจชวนเพ้อฝัน บ้างก็พาให้เผ็ดร้อนซ่าบซ่านขึ้นมา เป็นมนต์เสน่ห์อันน่าประทับใจที่พวกเธอมอบให้ เป็นผลตอบแทนจากการที่ผมเอาใจใส่พวกเธอ
แม้จะโดนหลายคนหรือกระทั่งเพื่อนซี้ค่อนแคะว่าผมเป็นพวกคาสโนว่าบ้าผู้หญิง แต่จริงๆแล้วผมเพียงแค่แสวงหารสชาติที่ซ่อนเร้นเหล่านั้นจากพวกหล่อนก็เท่านั้นเอง
คงไม่มีผู้ชายคนไหนจะปฏิเสธรอยยิ้มงดงามหอมหวานเหล่านั้นได้หรอก
ทว่ายิ่งโตขึ้น ผู้หญิงที่เข้ามาใกล้ชิดผมส่วนใหญ่ หากไม่ใช่เพราะชื่นชอบหรือสนใจในตัวผมเองจริงๆแล้วล่ะก็ คงเพียงเพราะนามสกุลของผมเท่านั้นล่ะ
เป็นลูกกวาดที่แอบแฝงด้วยยาพิษ
ทั้งที่รู้แบบนั้น แต่จะให้ปฏิเสธพวกเธอตรงๆผมก็ทำไม่ได้หรอก น้ำตาหญิงสาวเป็นสิ่งที่ผมไม่ต้องการจะเห็นที่สุด จึงได้แค่ดูแลพวกเธออย่างระวังตัวไม่ให้เผลอถลำลึกลงไป
เป็นช่วงเวลาที่เหนื่อยทีเดียวล่ะ และพอพลังงานที่มีมันใกล้จะหมดหลอด ผมก็มักจะนึกถึงเธอคนนั้นขึ้นมา
ผมได้พบเธอครั้งแรกตอนที่ผมอยู่มอต้นปีสอง ในงานเลี้ยง Pivoine ตอนที่เห็นเพื่อนซี้เต้นรำกับเด็กผู้หญิง ผมถึงกับประหลาดใจ ก่อนที่จะถูกดึงดูดความสนใจไปด้วยรอยยิ้มของเธอ
เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่มีรอยยิ้มน่ารักมากๆ รอยลักยิ้มที่กดลึกลงไปที่มุมปากนั่น ทั้งดูน่าหมั่นเขี้ยว น่าเอ็นดูและน่าทะนุถนอมไปในเวลาเดียวกัน
เธอเป็นน้องสาวของเพื่อนซี้ผมเอง
เธอดูเหมือนกันเจ้าหญิงองค์น้อยๆที่น่าปกป้อง ไม่น่าแปลกใจเลยที่เพื่อนผมจะกลายเป็นซิสค่อนน่ะ
ยิ่งตอนที่หยิบยื่นขนมให้ แม้จะเป็นเพียงขนมพื้นๆไม่กี่ร้อยเยน นัยน์ตาของเธอจะเปล่งประกายระยิบระยับขึ้นมาพร้อมกล่าวขอบคุณด้วยรอยยิ้มกว้าง เสียงหัวเราะสดใส เป็นรอยยิ้มจากใจจริงที่ไม่มีอะไรแอบแฝง
เวลานั้นผมจะรู้สึกได้รับการเยียวยา ชาร์จพลังจนหัวใจพองโตขึ้นมา
อย่างกับได้ป้อนอาหารลูกนกเลยล่ะ
วันไหนที่ผมมีนัดกับพี่ชายเธอที่คฤหาสน์คิโชวอิน ผมก็ไม่เคยลืมที่จะซื้อขนมและช่อดอกไม้เล็กๆน่ารักๆที่ดูเหมาะกับเด็กผู้หญิงเป็นของฝากเพื่อที่จะได้เห็นรอยยิ้มนั้น รวมถึงการไปก่อนเวลานัดเพื่อจะได้มีเวลาคุยกับคุณน้องสาวมากขึ้นก่อนที่เจ้าซิสค่อนจะเข้ามาขัดขวาง
หมอนั่นหวงน้องสาวมากอย่างกับงูจงอางหวงไข่ แต่ไม่เคยยอมรับความจริง พอผมแกล้งแหย่เรียกเขาว่า "พี่เขย" ก็อัดผมจนงอม ต้องหยุดเรียนไปช่วงหนึ่งเพื่อรักษาอาการช้ำใน นอกจากเป็นซิสค่อนแล้วยังเป็นยันเดเระอีกงั้นเหรอ นายมันกู่ไม่กลับแล้วนะสหาย
ผมเคยคิดว่าความสนิทสนมของพี่น้องคู่นี้ พอคุณน้องสาวขึ้นมอต้นก็คงจะร้างลาห่างเหินไปเหมือนกับน้องชายของผม แต่กลับไม่เป็นอย่างนั้นแฮะ
เวลาที่เล่าเรื่องพี่ชายให้ฟัง เธอจะตั้งใจฟังและทำหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุขตลอดเวลา หรือตอนที่เธอพยายามมาขอคำปรึกษาว่าจะซื้ออะไรเป็นของขวัญวันเกิดให้พี่ชายดี หรือกระทั่งตอนที่คุณพี่ชายบ่นว่าเมื่อคืนน้องสาวทำข้าวต้มมาเสิร์ฟระหว่างอ่านหนังสือเรียนอีกแล้วอย่างเซ็งๆทั้งยิ้มๆแบบนั้น
หลายครั้งเลยล่ะที่ผมรู้สึกอิจฉาขึ้นมา
ถ้าผมมีน้องสาวน่ารักแบบนี้บ้างก็ดีซิ
ถ้าผมได้เป็นพี่ชายเธอบ้างก็ดีซิ
*****