กูแต่งฟิค โลกคู่ขนานแยกอีกเรื่องก็แล้วกัน
ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่คนแต่งก่อนหน้านี้น้า
ชื่อเรื่องแล้วเราก็ตามหากันจนเจอ ...ถุย น้ำเน่าชิบ 5555
--------------------------------------
วันนี้คือวันแต่งงานกับผมและเรย์กะ
แปลกใจสินะที่ผมเรียกชื่อของเธอตรงๆ หลังจากที่เราคบกัน เราก็ตกลงกันว่าจะเรียกด้วยชื่อเฉยๆ แต่ต่อหน้าคนอื่นพวกเราต้องรักษาภาพลักษณ์และมารยาทของผู้ดี เลยยังคงเรียกด้วยคำว่าคุณนำหน้า เรย์กะเองก็เปลี่ยนจากเรียกท่านเป็นคุณเช่นกัน
ผมเคยวาดฝันเวลานี้มานานแล้วตั้งแต่สมัยยังเรียนที่ซุยรัน พอมาเจอจริงๆกลับตื่นเต้นจนในลนลานไปหมด ที่ซ้อมในใจตั้งแต่เมื่อก่อนพอเจอของจริงดูจะช่วยอะไรไม่ได้เลย
ผมกำลังเดินทางไปยังสถานที่จัดงานแต่งงานเป็นโบสถ์แสนสวยที่เรย์กะเคยบ่นว่าอิจฉาคนที่แต่งงานที่นี่
ผมในชุดเจ้าบ่าวนั่งอยู่หลังรถที่แล่นไปบนท้องถนน ยิ้มบนใบหน้าไม่อาจหุบได้เลย ผมดีใจ....ดีใจจริงๆ
ขณะวาดฝันถึงเรย์กะในชุดเจ้าสาว เสียงโทรศัพท์ของบอดี้การ์ดของผมก็ดังขึ้น เขายกโทรศัพท์มือถือมารับ คุยกันสักพักหน้าก็กลายเป็นซีดเผือด แล้วหันมาทางผม
"เกี่ยวกับผมรึเปล่า" เนื่องจากวันนี้เป็นวันงาน ผมจึงไม่พกโทรศัพท์มือถือไว้กับตัว เห็นบอดี้การ์ดหันมาทางผมด้วยสีหน้าไม่สู้ดี ก็รู้ได้ทันทีว่าในสายนั้นเขาโทรมาหาผม
"ครับ ท่านชายเอ็นโจว..."
"งั้นส่งมาให้ผม" โทรมาตอนนี้คงมีธุระด่วนจริงๆ ผมถอนหายใจเล็กน้อย ส่วนบอดี้การ์ดยังคงทำหน้าอึกอักไม่ยอมส่งโทรศัพท์ให้ผม จนผมต้องเลิกคิ้วมองอย่างแปลกใจ เห็นสีหน้าย่ำแย่ของบอ์ดี้การ์ดในใจเริ่มวูบโหวงด้วยสังหรณ์ไม่ดี
"คุณคิโชวอินประสบอุบัติเหตุ... อาการเป็นตายเท่ากันครับ"
ตอนนั้นโลกของผมได้พังทลายลง
.
.
.
.
เธอกำลังนอนหลับ
คุณหมอบอกว่าสมองเธอได้รับการกระทบกระเทือนรุนแรง จนกลายสภาพเป็นเจ้าหญิงนิทรา โอกาสที่จะฟื้นแทบไม่มี แต่ด้วยความร่ำรวยของตระกูลคิโชวอินและผมเอง เราทำทุกวิถีทางที่จะรักษาเธอ ขอแค่เธอกลับมาหาพวกเรา ผมเอางานของบริษทมาทำงานในห้องของเธอ เพื่อที่จะอยู่เคียงข้างเธอ...ผมอยากเป็นคนแรกที่เธอเห็นตอนเธอตื่นขึ้นมา เช่นเดียวกับพี่ชายของเรย์กะที่ตอนนี้ก็เอางานมาทำที่โรงพยาบาลเหมือนผม
หนึ่งเดือนแล้ว...
เธอกำลังนอนหลับ อาการเริ่มทรุดตัวลงอย่างช้าๆ
ผมสงสัยจังว่าเธอกำลังฝันถึงเรื่องอะไรอยู๋
อาจเป็นเรื่องของกินที่เธอชอบ งานเย็บปักที่เธอรักแม้ฝีมืออาจจะยังต้องฝึกอีกมากก็เถอะ
หรือไม่ก็...
งานแต่งงานของเรา....
ตอนนี้เธอเหมือนกับเจ้าหญิงนิทราผู้งดงาม
เพียงแต่จุมพิตที่ผมมอบให้นับพันครั้งกลับไม่สามารถปลุกเธอขึ้นมาได้
ทำไมกันล่ะ... ทุกคนต่างเรียกผมว่าเจ้าชาย
เจ้าชายต้องปลุกเจ้าหญิงนิทราขึ้นมาไม่ใช่เหรอ
นี่เรย์กะ...
ตื่นสิ
มายิ้มให้ผมเห็นหน่อยได้ไหม...
ผมกุมมือเธอ สภาพของผมเริ่มทรุดโทรมจนมาซายะทนไม่ไหว ดึงผมออกมา แล้วให้คุณทาคามิจิเข้าไปดูแลเรย์กะต่อ
"ชูสุเกะ ฉันรู้ว่านายสภาพจิตใจย่ำแย่ แต่นายจะทำงานและเฝ้าคิโชวอินโดยไม่ดูแลตัวเองไม่ได้ กินข้าวบ้างเถอะ" พอได้ยินมาซายะเรียกชื่อผม ผมก็เหมือนได้ยินเสียงเรย์กะ เธอมักจะเรียกผม ชูสุเกะ ชูสุเกะ... ผมเงยหน้า รู้สึกเหมือนโลกสว่างในพริบตา
"เรย์กะกำลังเรียก ผมต้องไปแล้ว"
"เดี๋ยว! ชูสุเกะ!" ผมไม่ฟังคำพูดของมาซายะ วิ่งกลับเข้าไปยังห้องที่คุณคิโชวอินนอนอยู่ คุณทาคามิจิดูตกใจเมื่อผมเข้าไปในห้อง
เธอยังไม่ตื่น
ผมหัวเราะอย่างขมขื่น
ทรุดตัวลงข้างๆเตียงของเธอ กุมมือเธอไว้ แล้วแย้มยิ้มแบบที่เมื่อก่อนเธอมักจะทำท่าทางกลัวเสมอ
ตื่นสิเรย์กะ ผมยิ้มแบบนี้แล้วนะ เธอต้องลุกขึ้นมาทำหน้าไม่ไว้ใจแล้ววิ่งหนีผมสิ
เรย์กะที่แสนขี้ขลาดของผม
.
.
.
.
เดือนที่สอง
เรย์กะก็ยังไม่ตื่นขึ้นมา
จะนอนขี้เกียจเกินไปแล้วนะ เรย์กะ
แต่เหมือนร่างกายผมจะไม่ไหวแล้วเหมือนกัน เพราะร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอและขาดสารอาหารผมจึงวูบไป รู้สึกตัวอีกทีก็อยู่บนเตียงข้างๆเรย์กะ
ผมเห็นท่านแม่และน้องชายของผมร้องไห้ ผมรู้สึกผิดมาก แต่ผมน่ะ... ยังทำใจไม่ได้จริงๆ
ขอโทษนะครับ...