Fanboi Channel

ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันยามบ่ายกลางจักรวาลแห่งกาว (ยานแม่ลำที่3)

Last posted

Total of 1000 posts

869 Nameless Fanboi Posted ID:a7WAiZVtm

>> 548-553 มาต่อแล้วค่ะ

----------------------------------------------------------

สถานที่จัดงานเลี้ยงยังคงเป็นที่เดิม แต่จากลานโล่งๆ ในคราวนี้ถูกแต่งเป็นประตูไม้เลื้อยดอกวิสทีเรียสีม่วงสลับขาว ห้อยลงมาเป็นแพ มีไฟติดเป็นระยะ เพื่อเพิ่มความสว่าง พอมองผ่านแสงแล้วบางพุ้มก็เป็นประกายสีชมพูเข้ม สวยมาก เหมือนกับอยู่ในความฝัน จนเผลอยิ้มออกมาเลยล่ะค่ะ

“ว้าว สวยจังเลยค่ะ~”
“ใช่ไหมฮะ คุณพี่เรย์กะ ผมอยากให้มาเห็นนี่แหละฮะ!”

“แหม ขอบคุณค่ะ ยูกิโนะคุง”
ฉันก้มลงไปยิ้มให้ยูกิโนะคุงที่จับมือฉัน ยูกิโนะคุงยิ้มตอบกลับมา

อาาา น่ารักจังเลย แต่ว่าพอผ่านวันนี้ไปคงไม่ค่อยได้เจอแล้วสินะคะ

ตะกี้ตอนเข้ามาในงาน เจ้าหน้าที่ทำหน้าที่ดูแลคนเข้ามาในงานเลี้ยงกลางคืนนั้นมองฉันอย่างงงงวย แต่เอ็นโจกล่าวเรียบๆ เพียงคำเดียวว่า ‘...เธอมากับผม’ เจ้าหน้าที่ก็รีบเปิดทางให้ฉันเลยค่ะ

รู้สึกเกรงใจที่ต้องรบกวนจังค่ะ
แต่ว่าไม่คิดเลยว่าเอ็นโจในการ์ตูนจะรักยูกิโนะคุงขนาดนี้ด้วย ตรงจุดนี้ช่างเหมือนท่านเอ็นโจเลยค่ะ ตามใจยูกิโนะคุงตลอดเวลาเลย

“ยูกิโนะ พี่จะไปหามาซายะกับคุณทาคามิจิ จะไปด้วยไหม” ตอนที่พูดชื่อคาราบุกิ เอ็นโจสบตากับฉันแวบหนึ่ง นัยน์ตาที่เหมือนจะลังเล แต่ว่าฉันคงคิดไปเองแน่ๆ เลยล่ะค่ะ

“ไปสิฮะ คุณพี่เรย์กะไปด้วยกันนะ”

“ไม่ดีกว่าจ้ะ พี่ขอนั่งรอตรงมุมโน้นดีกว่าจ้ะ ยูกิโนะคุง” ฉันบอกปัดไปพร้อมกับลูบหัวยูกิโนะเพื่อปลอบโยน แล้วลุกขึ้นมากล่าวขอบคุณเอ็นโจที่พาเข้ามาในงาน

“ขอบคุณท่านเอ็นโจ ที่พาดิฉันเข้ามาในงานค่ะ”

“หวังว่าคงไม่ก่อเรื่องหรอกนะ”

“ไม่ทำให้ท่านเอ็นโจต้องเป็นกังวลหรอกค่ะ ตอนนี้ดิฉันมาอยู่ในฐานะไหน ดิฉันรู้ตัวดีค่ะ” ฉันยิ้มแย้มตอบเอ็นโจ เดินไปหยิบน้ำจากบริกร และเดินไปตรงมุมที่ฉันบอกกับยูกิโนะ

รู้น่าว่าให้ทำตัวอยู่เงียบๆ เหมือนไม่ให้มีใครรู้น่ะ!
แต่ว่าขอแวบไปตักขนมมาทานนิดๆ หน่อยๆ ล่ะกันค่า~

หลังจากผ่านไปประมาณสักยี่สิบนาที ขนมในจานก็หายวับไปอย่างรวดเร็ว อยากกินอีกชะมัดเลยค่ะ แต่ต้องอดใจเอาไว้ ไม่งั้นจะอ้วนเอาได้

ฉันเงยหน้าขึ้นมองไปรอบๆ ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครสังเกตว่าฉันมาที่นี่ แต่ก็ดีแล้วล่ะค่ะ อยู่อย่างนี้ไปจนจบงานก็ดีนะคะ

ฉันอยู่ว่างๆ มองเลยไปเห็นเอ็นโจกำลังคุยกับคาราบุกิและวาคาบะจัง สายตาของเอ็นโจมองคนทั้งคู่อย่างอ่อนโยน ส่วนยูกิโนะคุงก็ไปคุยเล่นกับเพื่อนร่วมรุ่นของเขา เห็นมาโอะจังกับยูริคุงด้วยล่ะ อยากเข้าไปคุยด้วยจังเลยค่ะ

เหงาจังเลยค่ะ

.

.

.

ฉันที่นั่งชมบรรยากาศไปเรื่อยเปื่อยอย่างเดียวดาย มองดูคนที่เริ่มเข้าไปในฟลอร์เต้นรำ ดีจังเลยค่ะ

“น้ำครับ คุณคิโชวอิน”

“...ท่านเอ็นโจ”
นึกว่าจะลืมฉันไปแล้วซะอีกค่ะ ฉันรับน้ำจากมือของเอ็นโจที่ยื่นมาให้ พร้อมกับขอบคุณเบาๆ เงยหน้ามองท่านเอ็นโจในชุดทักซีโดสีเทาเข้ากับสีผมเป็นสีอำพันแปลกตา มือข้างหนึ่งถือไวน์ อีกข้างหนึ่งกำลังเสมองไปอีกทาง ดูน่าหลงไหล เหมือนกับ…

เหมือนกับ...หลุดออกมาจากเจ้าชายในนิทานเลยค่ะ

“มาซายะกับคุณทาคามิจิกำลังไปได้สวย ผมหวังว่าคุณคิโชวอินจะไม่เข้าไปขัดขวางอีกนะ” แต่เรื่องคำพูดที่ทำให้คนชะงักนี่ อีกเรื่องนึงนะคะ

“ดิฉันไม่คิดจะทำอย่างนั้นแน่นอนค่ะ แล้วก็...”ฉันตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “อยากจะพูดเรื่องอะไรกันแน่คะ ท่านเอ็นโจ”

นี่ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อป่วนงานเลี้ยงซะหน่อย! ถ้ายูกิโนะคุงไม่ชวนมาฉันก็ไม่คิดจะมาเหยียบที่นี่หรอกนะ แค่นั่งนึกถึงความหลังก็แค่นั้นแหละค่ะ ก็เข้าใจอยู่หรอกค่ะ ว่าระแวง แต่แบบนี้ทำเอาความรู้สึกดีๆ หดหายหมดเลยค่ะ

“อื๋อ ตอบหนักแน่นดีนี่” เอ็นโจยิ้ม แล้วหัวเราะเบาๆ “ถ้าเช่นนั้นให้เกียรติเต้นรำกับผมสักเพลงได้ไหมครับ คุณคิโชวอิน”

อะ อาเระ?

มึนงงไปหมดแล้วค่ะ สรุปจะเข้ามาหาเรื่อง หรือว่าเข้ามาทำอะไรกันแน่คะ? ถ้าไม่เต้นก็ถือว่าไม่ให้เกียรติกับผู้ชวน แต่ว่าถ้าเข้าไปบนฟอร์ลล่ะก็ฉันไม่แย่เอาหรอกหรือคะ

ไม่เอาด้วยหรอกค่ะ
เมื่อเห็นฉันส่ายหน้า เอ็นโจก็ยิ้มน้อยๆ ไม่ได้ว่าอะไร

870 Nameless Fanboi Posted ID:a7WAiZVtm

“ถ้างั้นมานี่ดีกว่าครับ”

“อะ เอ๋?” เอ็นโจดึงมือฉันไปโดยไม่ทันตั้งตัว เขาพาฉันเดินไปยังโซนซุ้มกุหลาบที่ตอนนี้ไร้วี่แววผู้คน ดอกกุหลาบหลากหลายสีสันกำลังเบ่งบานสะพรั่ง งดงามมากเลยล่ะค่ะ

“อ้ะ! กระดิ่งนี่?”
ฉันเดินเข้าไปหยุดอยู่ที่ซุ้มดอกกุหลาบสีแดง มีริบเบิ้นสีขาวผูกปลิวไสวในสายลม คล้ายผ้าคลุมหน้าเจ้าสาว ข้างบนก็มีกระดิ่งแขวนอยู่ด้วย ตกแต่งได้สวยเหมือนเคยเลยนะ

ไม่รู้ว่าเอ็นโจมายืนอยู่ฝั่งตรงข้ามฉันเมื่อไหร่ แต่เขาก็ยื่นมือไปจับที่ปลายผ้าด้านนึง แล้วยกยิ้มให้ฉัน

“สั่นกระดิ่งไหม คุณคิโชวอิน?”

“เอ๊ะ ค..ค่ะ” ฉันจับปลายอีกด้านนึง สั่นกระดิ่งพร้อมกับเอ็นโจด้วยความรู้สึกขัดเขินในอก เพราะก้มหน้าอยู่เลยไม่รู้ว่าเอ็นโจมองฉันด้วยสายตาแบบไหน

พอรู้สึกตัวอีกที ก็ตอนที่เขาเข้ามาประชิดตัวฉันแล้ว ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ทั้งสองมือของเอ็นโจยื่นมือมากุมมือของฉันเอาไว้แน่น

“คุณคิโชวอิน รู้ความหมายของซุ้มนี่รึเปล่าครับ?”

“?”
อื๋ม ไม่ใช่ว่าแค่ตกแต่งให้สวยๆ หรอกหรือคะ? ฉันเงยหน้ามองเอ็นโจ พบว่านัยน์ตาคู่นั้นกำลังมองลงมาที่ฉันด้วยสายตาที่จริงจังทำเอาพูดอะไรไม่ออก

“ตามตำนานของซุยรัน ว่ากันว่าคู่รักที่มาสั่นกระดิ่งที่นี่จะมีความสุขตลอดไปล่ะครับ”

เอ๊ะ มีตำนานแบบนั้นด้วยเหรอคะ? ก็ไหนท่านพี่บอกไม่มีอะไรพิลึกๆ แบบนั้นนี่คะ?
แต่เอ๊ะ เมื่อกี้ฉันสั่นกระดิ่งกับเอ็นโจ! ไม่สิ ฉันกับเขาไม่ใช่คู่รักกันเสียหน่อยค่ะ!

“คุณคิโชวอินตัดใจเรื่องมาซายะเถอะ”

เดี๋ยวค่ะ เดี๋ยว แล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับคาราบุกิคะ?

“ท่านเอ็นโจเข้าใจผิดแล้วล่ะค่ะ”
ไม่สิเรย์กะคนก่อนชอบคาราบุกิ แต่ว่าฉันไม่ได้ชอบตานั่นนี่ แต่ดันเผลอตอบไปแบบนั้นแล้ว เอ็นโจถึงกับเบิกตากว้างแวบนึง ก้มมองลงมาแบบไม่แน่ใจ

“เข้าใจผิด งั้นที่ผ่านมาคุณทำเพื่อใครกันล่ะ คุณคิโชวอิน”

ตอบผิดเป็นภัยมหันต์อย่างร้ายแรง ยิ่งกับคนเจ้าแผนการอย่างเอ็นโจด้วยแล้ว จะว่ายังไงต่อดีล่ะคะ อา… ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งกดดันเข้าไปใหญ่เลยล่ะค่ะ ทำยังไงดี ทำยังไงดีล่ะค่ะ ตอนนี้ตาฉันเริ่มหมุนไปหมดแล้วล่ะค่ะ~

“ดิฉันหมายถึง ตอนนี้ดิฉันไม่คิดกับท่านคาราบุกิแบบนั้นแล้วยังไงล่ะคะ”

“ทั้งที่คุณทุ่มเทขนาดนั้นเนี้ยนะ?”

“ค่ะ ท่านเอ็นโจจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตาม แต่ในตอนนี้ดิฉันคิดเรื่องครอบครัวของดิฉันอย่างเดียวเท่านั้นค่ะ”

“...”

เอ็นโจเงียบไป สายตาของเราสองคนประสานกันอย่างเงียบงัน ตอนนี้ในหัวของฉันไม่ได้ยินแม้แต่เสียงดนตรี สิ่งที่ตรึงฉันไว้คือสายตาของเอ็นโจเท่านั้น ทั้งรู้สึกผิดที่เหมือนกับเอามาเป็นตัวแทนท่านเอ็นโจ แต่ว่า แต่ว่าใบหน้าที่เหมือนกับท่านเอ็นโจนี้ทำให้ฉันเผลอไผลไปแล้วล่ะค่ะ

ไม่รู้ว่าทำไมร่างกายถึงไม่ฟังคำสั่ง มืออีกข้างที่เป็นอิสระถึงได้ยื่นออกไปหมายจะแตะแก้มของคนตรงหน้า แต่แล้วเพราะเสียงของเขาทำให้ฉันหยุดชะงัก

“คุณคิโช..”

“ขะ...ขออภัยที่เสียมารยาทค่ะ ท่านเอ็นโจ!”
ฉันรีบพูด แล้วรีบผละออกจากที่ตรงนั้นอย่างรวดเร็ว

ไม่ได้! ไม่ได้นะ! ไม่ได้เด็ดขาดเลย!
ฉันทำอะไรอยู่กันคะ ฉันน่ะไม่ใช่คนแบบนี้สักหน่อยนี่คะ
ฉันเข้ามาระงับสติอารมณ์ในห้องน้ำ ตอนนี้ผู้คนคงมัวจดจ่ออยู่กับฉากเต้นรำของคาราบุกิและวาคาบะจังอยู่แน่ๆ พอมองดูตัวเองในกระจก เทียบกับฉันที่ไม่มีใครสนใจ อยู่คนเดียวอย่างนี้ก็สาสมแล้วค่ะ

ไม่รู้ว่าทำไมน้ำตาถึงได้ไหลคลอลงมา
ฉันจะทำยังไงดี ฉันถึงกับทรยศท่านเอ็นโจเพราะว่าเอ็นโจที่มีบรรยากาศคล้ายกับท่านเอ็นโจเลยเหรอ

871 Nameless Fanboi Posted ID:a7WAiZVtm

“แหม~ คุณคิโชวอินไม่เจอกันเสียนานนะคะ”

“อะค่ะ สวัสดีค่ะ” ฉันยิ้มน้อยๆ ตอบกลับไป ไม่คิดเลยว่าจะมีคนเข้ามาในตอนนี้ หรือว่างานเต้นรำจะจบแล้วนะ

“แต่ว่าสามัญชนแบบคุณคิโชวอินเข้ามาในงานได้ด้วยรึคะ รึว่าแอบเข้ามากันคะ?”

“เผอิญว่าท่านเอ็นโจให้เกียรติเชิญดิฉันมาเป็นเพื่อนกับน้องชายของท่านน่ะค่ะ” แล้วกล่าวตามจริง ถ้าอ้างชื่อเอ็นโจออกไป น่าจะ… อื๋อ น่าจะคุ้มครองฉันได้ส่วนหนึ่งล่ะมั้ง
เห็นไหมล่ะคะ พอได้ยินชื่อของเอ็นโจก็ตกตะลึงไปเลยล่ะค่ะ

“อุ้ย นี่ยังผละจากเรื่องท่านคาราบุกิไม่ทันไร ก็เข้าหาทางท่านเอ็นโจเสียแล้วหรือคะ คุณคิโชวอินนี่เสน่ห์แรงดีนะคะ~”

คำพูดเสียดสีชะมัดเลยค่ะ… แต่ก็ช่างเถอะ สิ่งที่ฉันทำมาก่อนหน้านี้มันก็ควรสมควรได้รับแล้วล่ะค่ะ ฉันไม่ได้โต้ตอบเพียงแค่ฉีกยิ้มที่มุมปากเพิ่มอีกนิดเท่านั้นเองค่ะ

“ถ้าพวกท่านไม่มีธุระอะไรแล้ว ดิฉันขอตัวกลับเข้างานก่อนนะคะ” ฉันโค้งตัว พร้อมกับจะสวนทางออกไป ทว่าผู้หญิงตรงหน้ากลับขัดขาฉันก่อน ทำให้ฉันล้มลง
อุหวา ทำไงดี?! เสื้อจะเปื้อนไหมเนี้ย!

“อุ้ยตาย~ ขออภัยด้วยค่ะ คุณคิโชวอิน ดิฉันซุ่มซ่ามไปหน่อยน่ะค่ะ~”

“...”
ฉันที่ล้มลงมองดูก้มดูเสื้อผ้าของตัวเอง จะมีรอยเปื้อนไหมเนี้ย เป็นสีขาวเสียด้วย ทำไงดีล่ะคะ คงต้องไปไปเอาน้ำมาลูบไว้ก่อนค่อยส่งไปซัก

“เป็นแค่สามัญชนมาตีตัวเสมอท่านเอ็นโจนี่มันออกจะเกินหน้าเกินตาไปแล้วนะคะ!”

“ใช่ค่ะ คนแบบคุณน่ะ ไม่สมควรที่จะอยู่เคียงข้างท่านเอ็นโจหรอก”

“...”
อื๋อ… ค่าซักรีดมันเท่าไหร่กันนะ แต่ว่าชุดแบบนี้คงแพงแหงเลย เงินเดือนจากงานพิเศษก็ยังไม่ออกซะด้วยสิ ขอติดเอ็นโจไว้ก่อนดีไหม หรือขอความช่วยเหลือจากท่านพี่ดีนะ ไม่สิ...เดี๋ยวลองขอร้องดูก่อนล่ะกัน

“อ้ะ!”
ไม่ทันตั้งตัวฉันก็ถูกผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มนั้นเชยหน้าฉันให้หันไปมองทางเธอ

“ฟังอยู่รึเปล่าคะ!”

“เอ๊ะ??” ฟัง ฟังอะไรเหรอคะ? เรื่องซักรีดเหรอคะ ไม่ต้องห่วงค่ะ น่าจะหาทางได้อยู่ค่ะ

“สามัญชนก็ควรอยู่ในที่ของสามัญชนสิคะ!”
“ท่านเอ็นโจคงโดนแผนสกปรกแน่ๆ เลยๆค่ะ”

ฉันเม้มปากแน่น อื่อ เข้าใจแล้วล่ะค่ะ ที่แท้ก็คงเข้าใจผิดเรื่องของฉันกับเอ็นโจนี่เอง แรงรักของพวกผู้หญิงนี่เยอะจังเลยค่ะ

...น่ากลัวจังเลยค่ะ ใครก็ได้ช่วยที!

“ทำอะไรน่ะ!”

872 Nameless Fanboi Posted ID:a7WAiZVtm

“ทะท่านฟุยุโกะ!” เสียงของพวกผู้หญิงกลุ่มนั้นดูตกใจมากทีเดียวค่ะ แต่ว่า ฟุยุโกะ? หรือว่าจะเป็นท่านฮางิโนะโคจิ ฟุยุโกะ สาวสไตล์ญี่ปุ่นคนนั้นน่ะเหรอคะ? เป็นเพื่อนๆ กลุ่มเดียวกันกับฉัน แต่ว่าในการ์ตูนนั้น เหมือนท่านฟุยุโกะจะไม่ค่อยโผล่ออกมาเท่าไหร่นัก

พอพวกผู้หญิงกลุ่มนั้นตีวงหนีออกไป ฉันก็เห็นท่านฟุยุโกะที่ถอนหายใจ แต่ว่าขนาดถอนหายใจก็ยังงดงามเลยนะคะ

“...ตกต่ำขนาดนี้เชียวหรือคะ ท่านเรย์กะ”
ท่านฟุยุโกะเดินมาทางฉันแล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงห่วงใย เอ๋…? มีคนเป็นห่วงฉันด้วยเหรอคะ…ทั้งที่ก่อเรื่องไปตั้งขนาดนั้นแท้ๆ

พอนึกๆ ดูในความทรงจำแล้ว เรย์กะในการ์ตูนนั่นมักจะออกมาก็ตอนที่กลั่นแกล้งวาคาบะจัง เพราะหึงหวง และมีเรื่องราวที่ใช้อำนาจในทางที่ไม่ดี เป็นคนที่ไม่เห็นหัวคนอื่น พูดจาเอาแต่ใจ หยิ่งยโส เรียกได้ว่าไม่มีข้อดีอะไรให้กล่าวถึงเลย แต่ว่านั่นเป็นเรื่องที่เผยให้เห็นแค่ในมุมมองของการ์ตูนเท่านั้นค่ะ

แต่ว่าเรย์กะก่อนที่จะมาเป็นฉันนั้น ที่ฉันลองนึกดูในความทรงจำของเธอกับพวกผู้หญิงที่ติดตามเธอนั้น เรย์กะก็ดูแลอย่างดี ไม่เคยให้อะไรขาดตกบกพร่องเลย...หรือว่าเป็นเพราะแบบนั้น ถึง…?

“ท่านเรย์กะ”

“คะ? เอ่อ ขออภัยด้วยค่ะ ท่านฟุยุโกะ ทำให้มาเห็นดิฉันในสภาพน่าอับอายเสียแล้วล่ะค่ะ” ฉันยิ้มแย้มตอบกลับไป และพูดอีกประโยค “และก็ต้องขอขอบคุณที่ช่วยเหลือคนอย่างดิฉันนะคะ”

“...” ท่านฟุยุโกะมองฉันอย่างชั่งใจชั่วครู่ “ท่านเรย์กะคะ”

“คะ?”

“ช่วยพึ่งพาพวกเรามากกว่านี้เถอะค่ะ!”

“เ------อ๋?”

“พวกดิฉันน่ะ เฝ้ามองท่านเรย์กะตลอดเลยนะคะ ท่านที่อดทนได้อย่างเข้มแข็ง แม้จะถูกท่านคาราบุกิหักหน้า หรือเรื่องที่ถูกลดขั้นเป็นสามัญชนทำให้ถูกรังแก แต่ก็ยังพยายามอยู่นั้นทำให้พวกเราประทับใจมาก พวกคุณคุคิโนะ และคุณเซริกะเองก็เป็นห่วงท่านเช่นกันค่ะ ถึงพวกเราจะออกหน้าไม่ได้มากนัก แต่ว่า แต่ว่า...ท่านไม่ควรทิ้งพวกเราไปไม่ใช่หรือคะ?”

“ทะ...ท่านฟุยุโกะ”

“ตอนที่ได้ข่าวว่าท่านเรย์กะเข้าโรงพยาบาล หรือจะย้ายโรงเรียน ทำเอาพวกเราทุกคนช็อคเลยนะคะ ถึงขนาดที่...ถึงขนาดที่...ต้องไป..”

ท่านฟุยุโกะเม้มปากแน่นเหมือนกับมีเรื่องที่อยากพูดมากมาย แต่แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เพียงแค่เอาผ้าเช็ดหน้าไปชุบน้ำ และมาเช็ดรอยที่เปื้อนให้ฉันเท่านั้น เหมือนเธออยากพูดอะไรออกมา แต่พูดไม่ได้งั้นแหละค่ะ

“เนื้อแท้ของท่านเรย์กะเป็นคนดี พวกเราที่อยู่ข้างท่านมานาน รู้ทั้งนั้นแหละค่ะ จะมีก็แต่ตอนที่ท่านคิดเรื่องท่านคาราบุกิมากไปเท่านั้นเอง ทำให้…”

“ขอบคุณค่ะ ท่านฟุยุโกะ”
ท่านฟุยุโกะเป็นคนดีจังเลย ยังอ่อนโยนเหมือนเดิมไม่มีผิดเลยล่ะค่ะ! ฉันเอื้อมมือไปจับมือของท่านฟุยุโกะเอาไว้

“ท่านเรย์กะ?”

“ไม่ต้องห่วงค่ะ ดิฉันตัดใจจากท่านคาราบุกิได้แล้วล่ะค่ะ”

“จริงรึคะ”

“ค่ะ แล้วก็ท่านฟุยุโกะคะ ต่อไปนี้ถึงดิฉันจะเป็นแค่สามัญชนธรรมดาๆ แต่ก็ขอเข้าไปคุยกับท่านฟุยุโกะและทุกคนอีกได้ไหมคะ?”

“แน่นอนสิคะ! ทุกคนรอคอยท่านเรย์กะอยู่เสมอนะคะ!”

อื๋อ ขอโทษนะเรย์กะ ดูเหมือนว่าฉันจะเข้าใจเรย์กะคนนี้ผิดไปแล้วค่ะ เรย์กะเธอเองก็ยังมีเพื่อนดีๆ หลงเหลืออยู่นะ!

ฉันออกมาจากห้องน้ำกับท่านฟุยุโกะ ที่พูดคุยกับฉันด้วยท่าทางเป็นกันเอง ก่อนที่ท่านฟุยุโกะจะขอแยกตัวออกไปเพราะเอ็นโจที่เดินมาหาฉัน เธอเอ่ยกับฉันว่าไว้ค่อยคุยกันหลังจากเปิดเทอมใหม่ค่ะ

“คุณคิโชวอิน!”

“ท่านเอ็นโจ ขออภัยด้วยค่ะ ดิฉันซุ่มซ่ามทำให้ชุดเปื้อนแล้วล่ะค่ะ!” ได้โปรดอย่าเพิ่มหนี้สินให้ฉันเลยนะคะ!

“คุณ...อา..เฮ้อ..เรื่องนี้ไม่เป็นไรหรอกครับ” ทำไมต้องถอนหายใจแล้วยิ้มแบบระอาใจแบบนั้นด้วยล่ะคะ! เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่สำหรับสามัญชนเลยนะคะ

“ยูกิโนะเรียกหาคุณคิโชวอินน่ะครับ เพราะคุณไม่อยู่ในงาน”

“ยูกิโนะคุง? งั้นไปกันเถอะค่ะ” ฉันรับคำเอ็นโจ เราสองคนเดินไปหายูกิโนะคุงที่รออยู่ตรงซุ้มดอกไม้เมื่อครู่ ฉันคุยเล่นกับยูกิโนะคุงและเพื่อนของยูกิโนะคุงพักใหญ่ จนกระทั่งท่านพี่และท่านอิมาริเข้ามารับฉันที่งานเลี้ยง ถึงได้บอกลาจากมา

873 Nameless Fanboi Posted ID:a7WAiZVtm

พอผ่านพ้นงานเลี้ยงฤดูร้อนไปแล้ว ฉันก็กลับเข้าสู่วงจรชีวิตสามัญชนเช่นเดิมค่ะ ยูกิโนะคุงก็ส่งเมลล์มาหาฉันบ้าง พวกเราติดต่อกันผ่านข้อความค่ะ แล้วก็มีได้คุยกับคุณคิคุโนะและคุณเซริกะ ที่ส่งข้อความมาขอโทษฉัน ที่ไม่ได้ช่วยเหลือตอนที่ฉันลำบากเลยหลังจากคืนวันงานที่ฉันได้คุยกับท่านฟุยุโกะ น่าจะเป็นท่านฟุยุโกะล่ะมั้งคะ ที่ส่งข่าวไปบอกพวกเธอ ทำให้ฉันไม่เหงาเลยล่ะค่ะ

ที่ทำงานที่มินิมาร์ทฉันปรับตัวได้ดีขึ้นแล้วค่ะ เริ่มสนิทกับอุเมวากะคุงแล้วค่ะ ได้เจอเบียทันแล้วด้วยล่ะ ยังน่ารักมากๆ เช่นเคยค่ะ อีกอย่างฉันได้เป็นเพื่อนทางเมลล์กับเบียทันแล้วนะคะ

ที่คาเฟ่ก็เหมือนกัน ตอนแรกทุกคนไม่สนิทกับฉันแท้ๆ แต่คงเป็นเพราะฉันมีความพยายามเลยทำให้ทุกคนค่อยๆ ยอมรับฉัน ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีค่ะ แต่ว่านะสิ่งหนึ่งที่เพิ่มเข้ามาในตอนนี้ และยิ่งทำให้ฉันไม่เข้าใจเข้าไปใหญ่ ปัญหาหลักๆ เลยก็คือ เอ็นโจ ค่ะ

ทั้งที่บอกกับเขาว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย แต่ทำไมเอ็นโจถึงได้ขยันมาที่ร้านคาเฟ่ทุกวี่ทุกวันล่ะคะ!

สายตาที่กดดันแบบนั้น ทำให้วันแรกๆ ฉันเกร็งเลยล่ะค่ะ ต้องคอยสอดส่องตลอดเวลาว่าจะมาไม้ไหน แต่พอสบตา เอ็นโจกลับยิ้มให้ฉัน อุ...วางแผนอะไรอยู่กันคะ?

พอเอ็นโจมา เพื่อนๆ ในคาเฟ่ก็มองฉันด้วยสายตาแปลกๆ ทั้งยังให้ฉันไปรับออเดอร์ของเอ็นโจตลอด นี่เขาไม่ได้มาหาฉันสักหน่อยนะคะ ทุกคนอย่างเข้าใจผิดสิคะ อย่ามองฉันด้วยสายตาหวานชื่นแบบนั้นน้าาา!

“เรย์กะจังดูซูบๆ ลงนะคะ” ท่านแม่ทักฉันในเช้าวันหนึ่งที่อยู่บ้าน พลางยกมิโซะซุปมาวางไว้บนโต๊ะอาหาร ไม่รู้ว่าทำไมพอเห็นมิโซะ ท่านพี่กับท่านพ่อถึงกับหน้าซีดเซียวเลยค่ะ

แล้วก็เวลาที่ท่านแม่เข้าครัวทำอาหารสลับกับท่านพี่บางครั้งนั้น ไม่รู้ว่าทำไมท่านพี่ถึงทำหน้าอยากจะห้าม แต่ก็ห้ามไม่อยู่เสียทุกครั้ง คงกลัวว่าท่านแม่จะเหนื่อยล่ะมั้งคะ แต่ท่านพ่อกับท่านพี่ก็กินอาหารที่ท่านแม่ทำหมดทุกครั้งนะคะ

ถึงแม้จะกินน้ำเปล่าเป็นขวดๆ ก็เถอะ กินน้ำเยอะแบบนั้นเดี๋ยวท้องก็อืดหรอกค่ะ!

“คงเพราะช่วงนี้หนูทำงานหนักไปหน่อยน่ะค่ะ ท่านแม่” เจอแรงกดดันของจอมมารเข้าไปน่ะค่ะ

“งั้นหรือคะ ถ้ายังไงหยุดพักบ้างดีไหม วันศุกร์เสาร์อาทิตย์นี้แม่ว่าจะไปเที่ยวกับเพื่อนของแม่ เรย์กะจังก็ไปด้วยดีไหมคะ”

“เอ๋ แต่ค่าที่พักมันแพงนะคะ ท่านแม่” ไปตั้งออนเซ็นเชียวนะ

“คุณเรย์กะคะ!” อยู่ๆ ท่านแม่ก็พูดเสียงเฉียบขาดขึ้นมา ทำให้ฉันทำหน้าจริงจังตาม ถึงคุณแม่จะกลับมาลงท้านเรียกชื่อของฉันว่า ‘จัง’ แต่พอเวลาอารมณ์เสียก็จะเรียกฉันว่า ‘คุณเรย์กะ’ เหมือนเดิมค่ะ

“ค่ะ ท่านแม่”

“เรื่องความสวยกับเรื่องเงินมันคนละอย่างกันนะคะ คุณเรย์กะลองคิดดูสิ ถ้าเราไม่สวย จะมีใครที่ไหนเขามาชอบ...คุณเรย์กะคงไม่อยากที่จะอยู่เป็นโสดคนเดียวไปตลอดชีวิตหรอกใช่ไหมคะ?”

อุ...หวาาาา
ท่านแม่โหดร้ายที่สุดเลยค่ะ หยิบยกเรื่องความงามกับเรื่องคานทองมาพูดแบบนี้มันผิดกติกากันชัดๆ เลยนี่คะ

พอหันไปหาตัวช่วยจากทางท่านพ่อกับท่านพี่ พวกท่านก็ยิ้ม ไม่พูดอะไร ใบหน้าเหมือนมีธงสีขาวติดอยู่ ก็รู้อยู่หรอกค่ะ ว่าเวลาท่านแม่เอาจริงขึ้นมา มันก็น่ากลัว แต่ว่า แต่ว่า...บ้านเราต้องประหยัดไม่ใช่รึไงกันค้าาาาาาาา!

ลับหลัง หลังจากนั้นฉันก็ถามถึงท่านพี่เรื่องที่ท่านแม่จะไปเที่ยว แต่ท่านพี่บอกกับฉันว่าไม่ต้องห่วงเรื่องเงินขนาดนั้น ให้ท่านแม่กับฉันผ่อนคลายบ้างก็ดี เป็นอันว่าฉันจะถูกท่านแม่ลากไปเที่ยวแล้วค่ะ...
ระหว่างทางกลับห้อง ฉันได้ยินท่านพ่อคุยโทรศัพท์หาคุณซาซาจิมะ อดีตเลขาของท่านพ่อ ได้ยินแว่วๆ ว่าจะให้มาช่วยสอนท่านแม่ทำอาหาร อะไรสักอย่างเนี้ยแหละค่ะ อาหารที่ท่านแม่ทำก็อร่อยนะ ทานุกินี่!

***************************************************************************************************
// ท่านแม่ลิ้นจระเข้! แฮ่…!
ตัดฉับ

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.