แต่ฉันประเมินปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับตัวเองต่ำไปค่ะ ในเมื่อเอ็นโจเป็นเพื่อนของคาบุรากิ นั่นก็หมายความว่าคาบุรากิจะมาลากเพื่อนไปทำกิจกรรมบ้าพลังของตัวเอง อย่างเช่นการคัดเลือกผู้ลงแข่งขี่ม้าส่งเมืองเป็นต้น
เพราะปีที่แล้วพ่ายแพ้แก่รัชทายาทอาริมะ ปีนี้คาบุรากิก็เลยคัดเลือกอย่างเข้มงวดขึ้น และทุกคนต่างก็กระหายที่จะนำชัยชนะมามอบแด่จักรพรรดิ เตรียมใจตบเท้าเข้าสนามรบเพื่อพลีชีพแบบไม่หยุดหย่อน
ห้องของคาบุรากิเห็นว่ามีผู้สมัครลงแข่งขี่ม้าส่งเมืองอย่างล้นหลามเกินโควต้าจนต้องคัดออกไปก่อนส่วนหนึ่งด้วยซ้ำ คนที่ถูกคัดออกดูเหมือนจะซึมไปเลยล่ะค่ะ
คาบุรากิกล่าวปาฐกถาที่หน้าห้อง "ถึงแม้พวกนายจะไม่ได้ลงแข่งที่เป็นเกียรติยศครั้งนี้ก็ไม่เป็นไร พวกนายยังสามารถเป็นกำลังให้ห้องของเราได้ในด้านอื่น ไม่มีใครที่จะไร้ค่าไร้ความหมาย และฉันจะช่วยดึงศักยภาพพวกนายออกมา"
พอคาบุรากิพูดจบ น้ำตาลูกผู้ชายที่ไม่ให้ใครเห็นกันง่ายๆก็หลั่งไหลออกจากตาของเหล่าผู้ถูกคัดออก ทุกคนต่างตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า "ครับ" สาวๆเองก็มีบางคนที่ร้องไห้ด้วยเช่นกัน จากนั้นทุกคนก็เริ่มเปล่งเสียงโห่ร้อง สดุดีแด่จักรพรรดิดังกึกก้อง
นี่ฉันหลงมาอยู่ในสนามรบที่แม่ทัพกำลังพูดปลุกใจให้พลีชีพเพื่อบ้านเมืองอยู่ใช่มั้ยคะ
ถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้ เป็นฉันคงอายแทรกแผ่นดินหนีไปแล้วล่ะค่ะ
รอบข้างฉันเต็มไปด้วยบรรยากาศการฆ่าฟันที่รุนแรงมากจนชักจะหวั่น พอได้มาเห็นแบบนี้ก็หวังว่าห้องของฉันจะมีชีวิตรอดไปครบ 32 หลังลงแข่งนะคะ
"เฮ้ ชูสุเกะ ช่วยถือไว้หน่อย" คาบุรากิยื่นคลิปบอร์ดมาให้ฉัน พอลองรับมาดูก็พบว่าเป็นรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกเป็นม้าในรอบแรก มีข้อมูลอย่างชื่อ รูปถ่าย ส่วนสูง น้ำหนัก กรุ๊ปเลือดแบบคร่าวๆ "เดี๋ยวรอผลตรวจแบบละเอียดๆที่บ้านฉัน"
ฉันรู้สึกพูดไม่ออกบอกไม่ถูกเป็นรอบที่สอง
ทำบ้าอะไรของนายคะเนี่ย!! ข้อมูลพวกนี้มันอะไรกันน่ะ!!! กะอีแค่ลงแข่งขี่ม้าส่งเมืองต้องใช้ข้อมูลละเอียดยิบขนาดนี้ คิดว่าตัวเองเป็นกองประกวดหาดาราหน้าใหม่งั้นเหรอคะ!!!!
รถบ้านคาบุรากิมาจอดรออยู่แล้ว คาบุรากิให้พวกม้าที่ผ่านการคัดเลือกในรอบแรกล่วงหน้าไปก่อนแล้วจะตามไปสมทบ ฉันในร่างเอ็นโจก็ถูกบังคับให้ไปที่บ้านเพื่อดูผลการคัดเลือกด้วย
จะบ้าเหรอคะ นายอยากคัดเลือกม้าหรือทำโคลนนิ่งตัวเองเพื่อลงแข่งก็ไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับห้องฉันซักหน่อย ทำไมฉันต้องไปดูของแบบนั้นด้วยล่ะ
พอไปถึงบ้านคาบุรากิก็ได้เห็นเอ็นโจนั่งจิบชา หัวเราะต่อกระซิกกับมาดามคาบุรากิอยู่ก่อนแล้ว อะไรกันยะ ไม่เห็นจะบอกเลยว่าจะมาบ้านคาบุรากิน่ะ
"เฮ้ เธอมาที่นี่ได้ไงเนี่ย" คาบุรากิเลิกคิ้ว
"สวัสดีค่ะท่านคาบุรากิ ท่านเอ็นโจ" เอ็นโจในร่างฉันลุกขึ้นคำนับแบบนอบน้อม "พอดีว่าวันนี้มีนัดกับมาดามคาบุรากิน่ะค่ะ เกี่ยวกับเรื่องคุกกี้เสี่ยงทายที่ทานไปวันนั้น มันอร่อยมากจนต้องมาขอร้องให้ช่วยสอนทำเลยล่ะค่ะ"
"แหม ก็แค่สูตรธรรมดาๆเองค่ะ" มาดามคาบุรากิหัวเราะป้องปาก "คุณเรย์กะนี่น่ารักจริงๆ ได้ยินข่าวการทำขนมอบอันเป็นที่เลื่องลือของคุณเรย์กะมามาก ก็อยากจะลองชิมดูจังเลยค่ะ"
"แหม ยังไม่เก่งเลยค่ะ คงเอาให้ชิมไม่ได้หรอก" เอ็นโจหัวเราะไปกับมาดามด้วย นี่ ทำไมนายถึงดูเป็นฉันได้ดีกว่าตัวฉันเองแบบนี้ล่ะคะ
"มาซายะไม่ยอมเล่าอะไรที่โรงเรียนให้ฟังบ้างเลย ก็ต้องลำบากคุณเรย์กะมาเป็นเพื่อนคุย ได้รู้อะไรสนุกๆหลายอย่างเลยค่ะ" มาดามคาบุรากิปรายตามองลูกชายแล้วก็หันไปยิ้มให้เอ็นโจ "เห็นว่าปีนี้คุณเรย์กะจะลงแข่งวิ่งแฟนซีใช่มั้ยคะ น่าสนุกจังเลยนะ"
คาบุรากิมีสีหน้าแช่มชื่นขึ้น มองไปทางเอ็นโจในร่างฉันที่มีรอยยิ้มน้อยๆด้วยสายตาชื่นชมผสมกับนับถือ
เดี๋ยว ฉันยังไม่รู้เรื่องเลยนะคะว่าจะลงแข่งวิ่งแฟนซีน่ะ มาลงกีฬาตามใจชอบไม่ปรึกษากันได้ยังไงคะ
มาดามหัวเราะต่อกระซิกกับเอ็นโจอยู่สองสามประโยคก็ขอตัวไปดูแลเรื่องอาหารการกินก่อน ทิ้งให้ฉันอยู่กับสถานการณ์ที่ดูพิลึกพิลั่นนี่
คาบุรากิผุดลุกขึ้นจากที่นั่งตัวเอง เดินตรงเข้าไปหาเอ็นโจแล้ววางมือสองข้างลงบนไหล่
"ยอดเยี่ยมมาก คิโชวอิน ในที่สุดก็เอาจริงแล้ว จะเก็บแต้มให้ครบซีรีย์นักษัตรแล้วสินะ ฉันมองคนไม่ผิดจริงๆ" คาบุรากิทำท่ากระหยิ่มยิ้มย่อง "ปีที่แล้วเธอคงอัดอั้นตันใจมากใช่มั้ย ที่ไม่ได้ลงแข่งด้วยตัวเองเลยต้องส่งร่างแยกออกมาเก็บแต้มให้ครบๆ ฉันเข้าใจความอัดอั้นนั้นดีเลยล่ะ"
หมอนี่พูดอะไรอยู่น่ะ!!! เข้าใจบ้าบออะไรของนายยะ!!!!
"เห็นเธอมุ่งมั่นขนาดนี้ ฉันจะช่วยเธอเอง" คาบุรากิตบไหล่ฉันป้าบๆแบบไม่ออมแรง อ๊าาาา อย่าทำกับร่างกายของฉันแบบนั้นนะ "เธอต้องมาดูการคัดเลือกม้าแล้วล่ะคิโชวอิน เผื่อจะได้ไอเดียอะไรดีๆขึ้นมา"