ผมคิดจะตรวจสอบคิโชวอินดู แต่ไม่มีโอกาสสักที เด็กที่ร่างกายอ่อนแออย่างผมไม่ค่อยอยากออกไปเจอความจอแจของแผนกม.ปลายเท่าไหร่ ไม่งั้นอาการคงกำเริบอีก และเด็กประถมอย่างผมก็ไม่มีธุระอะไรที่ต้องไปที่นั่นด้วย
จะมีทางไหนที่ผมจะได้พบกับคิโชวอินบ้างมั้ยนะ
เหมือนฟ้าประทานโอกาสมาให้ เพราะในขณะที่จิบชาฝรั่งอุ่นๆอยู่ หูก็พลันได้ยินเด็กผู้หญิงที่ชื่อซาวาราบิ มาโอะคุยกับเพื่อนเรื่องงานวันเกิดของตัวเองที่เพิ่งผ่านไป ได้ยินแว่วๆถึงท่านพี่เรย์กะที่สวยและใจดีไปงานวันเกิดของเธอ วันนี้ก็นัดกับท่านพี่เรย์กะจะมาหา
ผมไปนั่งคอยแถวๆหน้าประตูเลยทีเดียว
และผมก็เห็นเธอจากหน้าต่าง ด้วยรูปลักษณ์สะดุดตาเช่นนั้นเห็นแว้บแรกก็จำได้ ผมลุกจากเก้าอี้ไปเปิดประตูให้เธอ ดูเหมือนว่าเธอก็จ้องผมแบบไม่วางตาเช่นเดียวกัน
"สวัสดีฮะ คุณพี่ม.ปลาย มีธุระอะไรเหรอฮะ" คำทักทายแบบนี้ใช้ได้ใช่มั้ย แต่เธอไม่มีปฎิกริยาตอบรับ ยังคงยืนจ้องเอาๆจนผมเหงื่อตก
หรือจะรู้ว่าผมคือเอ็นโจ ชูสุเกะกันนะ
"คุณพี่ฮะ"
คิโชวอินสะดุ้งเล็กน้อยและยิ้มกลบเกลื่อนการจ้อง เริ่มต้นแนะนำตัวเองว่าชื่ออะไร มาทำอะไรที่นี่ ผมเลยพาเธอเข้ามาข้างใน ให้มาโอะจังรับหน้าที่ต่อไป
แม้ชาติก่อนผมจะไม่ชอบคิโชวอิน แต่ไหนๆมีโอกาสได้เจอทั้งทีก็อยากลองพูดด้วยสักหน่อย เลยยกถาดชากับขนมไปให้ หนักไม่เบาเลยแฮะ
คิโชวอินมีสีหน้าดีใจมาก คิดว่าคงไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำแน่ๆ ถ้าเป็นชาติก่อนเธอคงไม่ยอมเข้าใกล้พวกเด็กๆชั้นประถมแบบนี้หรอกนะ ถ้าจะมีอะไรที่เธอเห็นว่าวิเศษคงเป็นแค่มาซายะอย่างเดียวเท่านั้นล่ะ
พอแนะนำตัวเองว่าชื่อเอ็นโจ ยูกิโนะ คิโชวอินก็ชะงักไปเลย หรือเธอจะมีอะไรลับๆบางอย่างกับชูสุเกะที่ผมยังไม่รู้กันนะ
"เอ่อ พี่ชายทำไมเหรอฮะ" ผมปั้นหน้าไร้เดียงสาถามไปด้วยท่าทีกล้าๆกลัวๆ
คุณคิโชวอินรีบอธิบายทันทีว่าตกใจที่ไม่รู้มาก่อนว่าท่านเอ็นโจจะมีน้องชายน่ารักอย่างผม แล้วก็พูดถึงเรื่องของฝากที่ชูสุเกะไปซื้อมาจากการที่ไปตามตัวมาซายะจากสถานที่ต่างๆ
ผมรู้ว่ามาซายะอกหักจากยูริเอะ แต่ก็ไม่นึกเลยว่าจะเป็นขนาดนี้ ตามความทรงจำเดิม ถึงมาซายะจะโทรมไปเลยก็เหอะ แต่ไม่ได้ออกเดินทางไปฆ่าตัวตายซักหน่อย แล้วก็ได้ทาคามิจิ วาคาบะช่วยเยียวยาหัวใจด้วย แต่ป่านนี้คุณวาคาบะก็ยังไม่ได้โผล่มามีบทบาทอะไรเลยสักแอะ
มันยังไงกันนะโลกนี้
ผมคุยกับเธอ เก็บข้อมูลไปเรื่อยๆ คิโชวอินดูนิสัยดีขึ้นมาก ไม่มีเศษเสี้ยวของนางมารร้ายในความทรงจำเลยสักนิด
ตอนนี้คิโชวอินหันไปพูดกับมาโอะจังเรื่องไปทานอาหารกับคุณอาของมาโอะจังในสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้ ท่าทางดูมีความสุขเหมือนพูดถึงคนที่แอบชอบ
เฮ้ ชูสุเกะ ความรักของนายนี่มันยังไงกันล่ะเนี่ย
.
.
กลับบ้านไป ผมก็เลยเล่าให้ชูสุเกะฟังว่าเจอคิโชวอินที่สโมสรเป็นการหยั่งท่าทีของเขา
นอกจากสีผม ชูสุเกะก็เหมือนผมทุกประการในชาติก่อน แต่พอได้ใช้ชีวิตด้วยกัน ผมก็รู้สึกว่ามันมีอะไรที่ต่างออกไป
เขามักจะยิ้มน้อยๆ ปฎิบัติตัวกับทุกคนด้วยความสุภาพอ่อนโยน แต่จริงๆข้างในผมเดาความคิดเขาไม่ออก มันเหมือนจ้องไปในแม่น้ำที่ไม่รู้ว่ามีความลึกเท่าไหร่ ใต้กระแสน้ำที่ดูสงบนิ่งจะไหลเชี่ยวกรากแค่ไหน ทำให้เขาดูน่ากลัวไปในเวลาเดียวกัน
พอบอกว่าคิโชวอินกินขนมที่ให้ไปแล้วและชมว่าอร่อยมาก ชูสุเกะก็ยิ้มน้อยๆ แต่ปิดบังสายตาที่มีความสุขแบบนั้นจากผมไม่ได้หรอกนะ
ผมน่ะ เป็นผู้ใหญ่มาก่อนนายนะชูสุเกะ ชั้นเชิงความรักของนายยังอ่อนหัดอยู่ แต่แค่นี้ก็มีความสุขแล้วเหรอ มักน้อยจังเลยนะ
พอผมพูดถึงเรื่องคิโชวอินไปทานอาหารกับคุณอาของมาโอะจัง ชูสุเกะก็เอาหน้ากากสุภาพอ่อนโยนกลับมาใส่ตามเดิม แต่แววตาแห่งความสุขนั้นเลือนหายไป
ผมไม่สบายใจเท่าไหร่เลย
.
.
คิโชวอินมาที่ห้องสโมสรบ่อยมากเพราะสนิทกับมาโอะจัง รู้สึกว่าตอนนี้เธอกำลังทำงานฝีมือที่เรียกว่านีดเดิลเฟลท์อยู่ ผมที่กำลังว่างก็เลยไปขอให้ช่วยสอน และคิโชวอินก็สอนกลับมาอย่างใจดี
ผมทำเป็นรูปกระต่าย ลองพูดกระตุ้นเรื่องกระต่ายว่าชูสุเกะปั้นตุ๊กตาหิมะที่เป็นรูปกระต่ายให้ อาจจะเกี่ยวโยงกันกับที่เธอไปอุ้มกระต่ายเมื่อตอนนั้นก็ได้ แต่ดูเหมือนเธอจะจำเรื่องนี้ไม่ได้ซักแอะ
โธ่เอ้ย ยัยคนหัวทึบนี่
แต่ยังไม่ได้จัดการอะไรไปมากกว่านั้น ร่างกายของยูกิโนะก็เกิดป่วยขึ้นมาเสียก่อน คราวนี้ไม่ได้เป็นอะไรร้ายแรงมาก แต่ก็ต้องเข้าโรงพยาบาลไปดูอาการเอาไว้เหมือนอย่างทุกที มาซายะมาเยี่ยมผมทุกเย็น เอาหนังผี หนังซอมบี้มาด้วย
มาซายะ หัวสมองนายโดนชอนไชด้วยไส้เดือนเหมือนหน้าปกหนังพวกนี้อยู่รึยังไง ถึงได้เอาของแบบนี้มาเยี่ยมเด็กน่ะ
มีของเยี่ยมที่เข้าท่าที่สุดก็คือหนังสือนิทานที่คิโชวอินฝากชูสุเกะมาให้ รสนิยมการอ่านของเธอก็ใช้ได้อยู่ ผมนอนอ่านหนังสือบนเตียง ฟังเรื่องเล่าจากชูสุเกะไปด้วย