Fanboi Channel

ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันยามบ่ายกลางจักรวาลแห่งกาว (ยานแม่ลำที่3)

Last posted

Total of 1000 posts

584 Nameless Fanboi Posted ID:g0TmSDVyn

โอเค ระหว่างรอหลายๆฟิคก็มาอ่านสลับร่างคั่นเวลาไปก่อน
>>453 >>464 เขียนจากพล็อตนี้
-----------------------

จำได้ว่าวันนั้นเป็นวันที่อากาศค่อนข้างจะแย่เล็กน้อย ฉันได้รับบัตรเชิญจากมาดามคาบุรากิให้ไปร่วมดื่มน้ำชายามบ่ายเช่นเคย ทุกอย่างก็ปกติดีจนกระทั่งมาดามคาบุรากิให้สาวใช้เอาคุกกี้มาเสิร์ฟพร้อมกับน้ำชา บอกว่าเป็นสินค้าใหม่ของโรงแรมในเครือ

"เอ๋ นั่นคุกกี้เสี่ยงทายไม่ใช่เหรอคะ" เด็กผู้หญิงอื่นๆในวงน้ำชาทำเสียงตื่นเต้นเมื่อได้เห็นคุกกี้บนจาน

"เห็นว่าคำทำนายแม่นมากเลยนี่คะ"

ฉันได้ฟังสรรพคุณของคุกกี้เสี่ยงทายจากปากคนอื่นๆที่เคยลิ้มลอง โอ้โฮ ดีเลิศขนาดนี้เลยเหรอคะ ทั้งอร่อย ทั้งทำนายแม่นก็เลยขายดีสุดๆ แถมวันหนึ่งๆก็ผลิตออกมาไม่มาก กลายเป็นสินค้าหายากที่นิยมกันในหมู่สาวๆสังคมชั้นสูง ไม่ลิ้มลองไม่ได้แล้ว

มีม้วนกระดาษแผ่นเล็กๆอยู่ในคุกกี้ ฉันลองแกะออกมาอ่าน "ชะตาดอกท้อพลันเรียกหา คือช่วงเวลาแห่งการเปิดเผยสิ่งที่ซ่อนเร้น เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่อาจหลีกหนี ร่วมมือกับคู่ชีวีเพื่อแก้ไข ความรักและความเข้าใจจะช่วยฟันฝ่าอุปสรรคทั้งปวง"

"ชะตาดอกท้อนี่มันอะไรเหรอคะ" ฉันถามมาดามคาบุรากิไป

"อ้าว คุณเรย์กะได้คำทำนายที่สาวๆอยากได้กันมากที่สุดเลยนะคะเนี่ย" มาดามคาบุรากิเอามือป้องปากหัวเราะคิกคัก ทำเหมือนคาดไม่ถึง "ชะตาดอกท้อก็คือมีดวงชะตาเกี่ยวกับความรักค่ะ"

เอ๋ มีดวงเกี่ยวกับความรักงั้นเหรอคะ

ฉันจ้องมองกระดาษอย่างตื่นเต้น เอ็นโจที่นั่งข้างๆกันก็เอี้ยวตัวมาพูดด้วย "ได้คำทำนายเดียวกันเลยนะ คุณคิโชวอิน"

อย่ามาแอบอ่านข้อความของคนอื่นเขาสิคะ

แต่นอกจากฉันกับเอ็นโจก็มีคนได้คำทำนายซ้ำๆกันบ้าง แต่ไม่ใช่แบบเดียวกับที่ฉันได้ ส่วนคาบุรากิก็ได้คำทำนายว่าจะมีปัญหาครั้งใหญ่ให้รับมือ เห็นเจ้าตัวขมวดคิ้วใหญ่เลยล่ะค่ะ

ปัญหาอะไรนะคะที่สามารถสั่นสะเทือนเจ้าเด็กบ้านี่ได้ อยากจะรู้จังเลยค่า อุฮุฮุฮุ

กลับมาบ้านในตอนเย็น ฝนหลงฤดูก็ตกลงมาพอดี ลมพัดเอากลีบดอกท้อที่กำลังบานสะพรั่งให้ปลิวขึ้นฟ้า ลมแรงจนน่ากลัวว่าจะถอนรากถอนโคนต้นท้อให้ปลิวไปตามลมด้วย

ฉันนั่งมองกลีบดอกท้อที่ถูกลมพัดจากหน้าต่าง ก็นึกถึงคำทำนายขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจ ชะตาดอกท้องั้นเหรอ

แล้วอยู่ๆก็นึกถึงคนที่ได้คำทำนายเดียวกันนี้ด้วย เอ็นโจก็มีชะตาดอกท้อเหมือนกันกับฉันสินะคะ แต่หมอนั่นมีสาวๆมารุมกรี๊ดเยอะแยะยิ่งกว่าดอกท้อที่บานบนต้นไม้อีกมั้งคะ คงไม่ต้องการชะตาดอกท้ออะไรนี่หรอก

แว่วเสียงระฆังดังเข้ามาให้ได้ยิน เอ๋ ฝนตกหนักขนาดนี้ เสียงระฆังลอยมาจากที่ไหนกันคะ

ฉันปัดเรื่องนี้ออกไปจากหัวเมื่อท่านพี่กลับมาบ้านพร้อมกับเค้ก วันนี้ก็เป็นวันที่ผ่านไปมีความสุขอีกหนึ่งวันค่า
--------------------------

เมื่อคืน เหมือนจะฝันแปลกๆด้วยล่ะค่ะ แต่จำไม่ได้ว่าฝันอะไร

ฉันลืมตาขึ้นแบบงัวเงียเพราะได้ยินเสียงนาฬิกาปลุก ลุกขึ้นไปตบมันให้เงียบเสียงแล้วเอาผ้าห่มคลุมตัวไว้เหมือนเดิม

"ขออีกห้านาทีนะคะ"

ฉันลืมตาโพลงเมื่อพูดจบ เอ๊ะ นี่ห้องฉัน บ้านฉันไม่ใช่หรือคะ แล้วทำไมได้ยินเสียงเอ็นโจกันล่ะ

พอลุกพรวดขึ้นมา มองไปรอบๆก็ไม่พบเงาเอ็นโจแต่อย่างใด แล้วก็ไม่ใช่ห้องที่เคยคุ้น ฉันมาหลับในบ้านใครเขาเข้าล่ะคะ

หรือจะอ่อนเพลียจากอากาศในงานเลี้ยงน้ำชาจนต้องนอนค้างบ้านมาดามคาบุรากิ

ว้ายยยย แย่แล้วค่ะฉัน ทำตัวเสียมารยาทขนาดนี้เลยงั้นหรือ

ฉันเลิกผ้าห่มออก เดินไปเปิดประตูอย่างเร่งร้อน สาวใช้สองคนกำลังเดินผ่านมาพอดี พอเห็นฉันก็ถอนสายบัวย่อตัวให้ "อรุณสวัสดิ์ค่ะ ท่านชูสุเกะ"

เอ๋ ท่านชูสุเกะ!!!

ฉันอ้าปากค้างกับคำเรียกนั้น รู้สึกช็อคอย่างแรงกล้า

"อ้าว วันนี้ไม่ไปโรงเรียนงั้นเหรอคะ คุณชูสุเกะ" มาดามเอ็นโจที่เพิ่งออกจากห้องทำหน้าแปลกใจใส่ฉัน "ไม่รีบแต่งตัวเดี๋ยวจะไปสายนะคะ"

ฉันปิดประตูห้องแล้วถลาไปที่กระจกทันที ภาวนาให้ไม่ใช่อย่างที่คิด แล้วก็ต้องอ้าปากค้าง เมื่อได้เห็นเอ็นโจ ชูสุเกะมาอยู่ตรงหน้าฉัน

เสียงกรีดร้องโหยหวนของฉันดังไปทั่วบ้าน

มาดามเอ็นโจและพ่อบ้านวิ่งเข้ามาข้างในห้อง ดูจะตกอกตกใจไม่น้อยกับเสียงกรีดร้องและท่าทางของฉัน แต่ฉันหาได้สนใจไม่ มือยังคงชี้นิ้วไปตรงหน้ากระจก แล้วเอ็นโจที่อยู่ในกระจกก็ทำกริยาเดียวกับฉันไม่ผิดเพี้ยน

"คุณชูสุเกะ เป็นอะไรไปคะ" มาดามเอ็นโจเขย่าตัวฉันเบาๆ "ไม่สบายสินะคะ ถึงได้ทำท่าแปลกๆ เดี๋ยวไปโรงพยาบาลเลยดีกว่า"

ฉันพูดไม่ออกบอกไม่ถูกเพราะยังช็อคอยู่ แต่พอได้สติก็รีบปฎิเสธที่จะไปโรงพยาบาล พร้อมกับยืนยันว่าสบายดีด้วยความแข็งขัน

ถ้าฉันอยู่ในร่างของเอ็นโจ แล้วร่างของเรย์กะล่ะคะ อย่าบอกนะว่า.....

เพื่อเป็นการยืนยันสมมติฐานของฉัน ต่อให้ป่วยแค่ไหนก็ต้องไปให้ดูให้เห็นกับตาให้ได้เลยค่ะ

585 Nameless Fanboi Posted ID:g0TmSDVyn

พอมาถึงห้องเรียน ฉันก็ลองสอดส่ายสายตาหาตัวฉันเองก่อน แต่ดูเหมือนจะยังไม่มา ฉันเลยเดินไปที่ห้องเรียนของเอ็นโจเพื่อเอากระเป๋าไปเก็บ แล้วปัญหาก็เกิดขึ้นค่ะ

ฉันไม่รู้ว่าเอ็นโจนั่งอยู่ตรงไหนน่ะสิ

ยืนรีๆรอๆอยู่หน้าประตูห้อง กะว่าให้คนเข้าไปกันให้หมด แล้วที่นั่งตรงไหนว่างคงจะเป็นที่นั่งของฉัน แต่ก็มีมือมาตบบ่าฉันจากทางข้างหลัง

"โย่ว ชูสุเกะ" คาบุรากินี่เอง ตกใจหมดเลยค่ะ "ยืนทำอะไรไม่เข้าห้องเนี่ย"

"คือว่า...." ฉันพยายามคิดหาคำตอบอยู่ในหัว "...เอ่อ...."

"อรุณสวัสดิ์ค่ะ"

คิโชวอิน เรย์กะปรากฎกายจากทางด้านหลังของคาบุรากิ ฉันเกือบจะอ้าปากค้างไปแล้ว แต่ยั้งตัวเองไว้ได้ทัน

นี่มันเหมือนภาพหลอนจริงๆที่ได้เห็นตัวฉันมายืนอยู่ตรงหน้า หยั่งกะปรากฎการณ์ดอปเปลแกงเกอร์แน่ะค่ะ

ยังไม่ทันพูดคุยอะไรกัน ก็ได้เวลาเข้าเรียนพอดี พวกเราก็เลยต้องแยกย้ายกันไปตามห้องของตัวเอง

"แถวที่สาม โต๊ะตัวที่หกจากฝั่งซ้าย" เรย์กะกระซิบบอกฉันแล้วเดินจากไป ฉันกำลังจะบอกที่นั่งตัวเองบ้าง แต่เอ็นโจในร่างฉันเข้าห้องไปแล้ว ฉันเลยต้องเข้าไปนั่งที่แบบกังวลนิดหน่อย

คาบเช้าวิชาสังคมมีแบ่งงานกลุ่มทำกัน เหล่าเด็กผู้หญิงตรงมาหาฉันก่อนทันที ส่งเสียงเรียกเซ็งแซ่เหมือนนกกระจอกที่ฟังดูน่าปวดหัว

ขนาดฉันเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ตอนอยู่ห้องเดียวกับเอ็นโจยังรู้สึกรำคาญเลย แล้วคนประสบเหตุโดยตรงแบบหมอนี่จะรู้สึกยังไงกันนะคะ

ฉันเลือกไปอยู่กลุ่มเด็กผู้ชายล้วนเป็นการตัดปัญหา กลุ่มนี้มีแต่เด็กที่ดูเงียบๆเรียบร้อยๆก็น่าจะพอไหวอยู่

ระหว่างจดบันทึกก็อดที่จะเห็นใจเอ็นโจขึ้นมาไม่ได้ นายต้องเจอแบบนี้ทุกวันเลยสินะคะ ช่างน่าสงสารอะไรอย่างนี้ ป๊อบไปก็ไม่ดีสินะ

ชีวิตฉันที่เงียบสงบไร้ความวุ่นวายนั่นล่ะดีที่สุดเลยล่ะค่ะ

------------------------

พักกลางวันก็ไม่มีจังหวะได้คุยกับเอ็นโจเลย คาบุรากิและเพื่อนผู้ชายก็มารุมล้อม พูดเรื่องการซ้อมวิ่งผลัดในงานกีฬาที่จะถึงนี้ ฉันก็ได้แต่เออออตามน้ำไปเพราะไม่รู้เรื่องซักแอะ ตัวเรย์กะที่เป็นกรรมการห้องก็ต้องไปสภานักเรียนเพื่อรับเอกสารมาแจกจ่าย พอเดินสวนกันที่ทางเดินฉันก็รีบตรงเข้าไปหาทันที

"คุณคิโชวอิน เดี๋ยวตอนเย็นขอคุยด้วยหน่อยนะ" ฉันก้มลงไปกระซิบใกล้ๆเพราะไม่อยากให้ใครได้ยิน แต่กลายเป็นว่านักเรียนหญิงรอบๆตัวต่างกรี๊ดขึ้นมาแบบไม่มีเหตุผล แต่ฉันไม่สนใจว่าใครจะซุบซิบนินทาอะไรแล้ว

"ค่ะ" เอ็นโจตอบฉันมาด้วยรอยยิ้มน้อยๆแล้วเดินเข้าห้องไป

รอยยิ้มนั่นมันอะไรกันคะ คิโชวอิน เรย์กะไม่มีวันยิ้มตาหวานเชื่อมแบบนั้นใส่ใครหรอกนะคะ ถ้าตัวฉันเป็นข่าวแปลกๆกับนายขึ้นมาจะรับผิดชอบยังไง หา!!!!

ฉันไม่เคยใจจดใจจ่อรอเวลาเลิกเรียนขนาดนี้มาก่อนเลย พอได้เวลาปุ๊บ ฉันก็คว้ากระเป๋าตรงดิ่งออกจากห้องทันที แต่ยังไม่ทันพ้นหน้าประตูก็มีสาวๆมาห้อมล้อมจนแทบจะเดินไม่ถนัด โอ๊ย!! ใครก็ได้ช่วยด้วยค่ะ!!!

เอ็นโจออกจากห้องเรียนมาพอดี ดูท่าทางสบายๆไม่เร่งร้อน ผิดกับฉันที่ตอนนี้แทบจะพ่นไฟออกมาได้แล้ว

"สวัสดีค่ะ ท่านเอ็นโจ เมื่อตอนกลางวันบอกว่ามีเรื่องจะพูดกับฉันสินะคะ" เอ็นโจใช้ร่างฉันยิ้มหน้าระรื่นเดินฝ่าวงล้อมเข้ามา ได้ยินเสียงสาวๆรอบตัวพูดกันเซ็งแซ่

"เอ๋ อะไรน่ะ"

"จะสารภาพรักเหรอ"

"ไม่จริงน่า"

อ๊าาาากกกกกกก อย่าทำแบบนั้นนะ นายอยากให้ฉันเป็นศัตรูกับพวกผู้หญิงแฟนคลับของนายรึไงค้าาาาาา

"เอ่อ ใช่แล้ว" ฉันรีบตอบออกไป "ไปคุยกันที่อื่นเถอะ"

ฉันอยากจะคว้าแขนร่างของฉันแล้ววิ่งออกไปเลย แต่ถ้าทำอย่างนั้นคงได้เป็นข่าวลือแปลกๆอีกแน่ แค่นี้ก็จะไม่ไหวแล้วนะ

เอ็นโจกับฉันเดินไปที่ห้องเรียนว่างๆห้องหนึ่ง พอปลอดคนปุ๊บ ฉันก็เริ่มต้นแบบไม่อ้อมค้อม

"นี่มันอะไรคะ ท่านเอ็นโจ ทำไมคุณกับฉันถึงได้..."

"ใจเย็นๆก่อน คุณคิโชวอิน" เอ็นโจยกมือห้ามฉันที่กำลังจะว้าก แต่เจอแบบนี้ใครจะใจเย็นอยู่ได้ล่ะคะ

แล้วทำไมนายถึงดูใจเย็นนักล่ะยะ นี่เรื่องคอขาดบาดตายไม่ใช่เหรอ!!!!

"เอาอย่างนี้ ลองมาเรียบเรียงเหตุการณ์ก่อนดีมั้ย ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน" เอ็นโจนั่งลงบนเก้าอี้ตัวใกล้ๆ

ฉันเริ่มเล่าเหตุการณ์ตอนเช้าที่ตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองมาอยู่ในร่างของเอ็นโจเข้าให้แล้ว เรื่องเล่าจากเอ็นโจก็คล้ายๆกันกับฉันเช่นกัน

"คุณคิโชวอินคงลำบากแย่เลยสินะ" เอ็นโจฟังเรื่องของฉันแบบยิ้มๆ

ใช่สิค้า ลำบาก ลำบากสุดๆไปเลยล่ะ โดยเฉพาะตอนเข้าห้องน้ำน่ะ!! แล้วนายไม่ลำบากอะไรบ้างเรอะ!!!

586 Nameless Fanboi Posted ID:g0TmSDVyn

ฉันพยายามคิดทบทวนความทรงจำอยู่ในหัว มันเป็นไปได้ยังไงล่ะคะ ถึงฉันจะเคยอ่านการ์ตูนหรือดูหนังที่ตัวละครสลับร่างกันก็เถอะ แต่นี่มันโลกความจริงนะคะ!!! แบบนี้มันบ้าไปแล้ว

อ๊ะ!! ไม่สิ ที่นี่คือโลกของ Kimi Dolce ต่างหาก การที่ฉันมาสิงอยู่ในร่างของคิโชวอิน เรย์กะก็เป็นเรื่องเหลือเชื่อที่ไม่กล้าบอกใครแล้วล่ะค่ะ ถ้าจะสลับร่างได้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลยสักนิด

"เมื่อวาน คุณคิโชวอินได้แวะไปที่ไหนรึเปล่า"

"เปล่าค่ะ พองานเลี้ยงน้ำชาเลิก ฉันตรงกลับบ้านเลย" ฉันส่ายหน้า "ไม่ได้มีอุบัติเหตุอะไรด้วยค่ะ"

"งานเลี้ยงน้ำชาเหรอ...." เอ็นโจทำหน้าครุ่นคิด แต่พูดถึงงานเลี้ยงน้ำชา ฉันเองก็นึกบางอย่างออกเช่นกัน

"หรือว่าจะเป็นคุกกี้นั่น" เราสองคนพูดพร้อมกันแบบไม่ได้นัดหมาย

"อ้อ ใช่แล้ว คุกกี้เสี่ยงทายของคุณแม่มาซายะ" เอ็นโจพยักหน้าขรึมๆ "ผมกับคุณคิโชวอินได้คำทำนายเดียวกันนี่นะ"

"แต่ก็มีคนอื่นที่ได้คำทำนายซ้ำเหมือนกันนี่คะ" ฉันแย้งขึ้น "แล้วเมื่อเช้าที่ฉันเดินสวนกับพวกเขาก็ไม่ได้มีอะไรผิดปกติซักหน่อย"

"ลองถามเขาดูก่อน ถ้าเผื่อคนที่ได้คำทำนายเหมือนกัน จะมีอะไรแปลกๆเกิดขึ้นกับตัวเอง เหมือนผมกับคุณคิโชวอิน"

"แต่ว่าจะให้ฉันในร่างท่านเอ็นโจเดินไปถามเลยมันก็...."

"งั้นก็ไปด้วยกันนี่ล่ะ จะได้รู้พร้อมกันไปเลย" เอ็นโจส่งยิ้มให้อย่างเคย แต่พออีตานั่นใช้ใบหน้าของฉันก็รู้สึกแปลกๆพิกลค่ะ "เดี๋ยวผมเป็นคนถามเองก็ได้"

"ต้องรบกวนด้วยนะคะ"

แล้วฉันก็นึกขึ้นได้ "เราควรจะบอกเรื่องนี้กับท่านคาบุรากิดีมั้ยคะ"

เอ็นโจเลิกคิ้วให้ฉัน "ทำไมต้องบอกมาซายะด้วยล่ะ"

"ก็..ก็...คำทำนายนั่นมาจากทางบ้านของท่านคาบุรากินี่คะ ถ้าบอกไปก็อาจจะมีทางแก้ไขได้บ้าง"

"ถ้ายังไม่ถึงที่สุดจริงๆก็อย่าเพิ่งบอกใครเลยดีกว่านะ" เอ็นโจตอบพร้อมกับรอยยิ้ม "ไม่อย่างนั้นคนคงคิดว่าคุณคิโชวอินกับผมบ้าไปแล้วแน่ๆ"

"นั่นสินะคะ"

"เอาเป็นว่าตอนนี้เรามาแชร์ข้อมูลกันก่อน เดี๋ยวผมจะเขียนสิ่งที่ควรรู้ให้ คุณคิโชวอินก็บอกสิ่งที่ต้องทำเอาไว้ล่ะ"

เราแลกเมล์แอดเดรสและเมมเบอร์โทรเอาไว้ น่าทึ่งเหมือนกันนะคะที่เห็นกันมาสิบกว่าปีแต่เพิ่งรู้เบอร์โทรกันเนี่ยล่ะ

"ในมือถือมีตารางนัดหมายกับกำหนดการงานเลี้ยงอยู่ ไม่มีอะไรแปลกๆหรอกนะ วางใจได้"

เอ็นโจบอกให้ฉันลองกดมือถือของเขาดู วอลเปเปอร์เป็นรูปกระต่ายนี่ออกจะมุ้งมิ้งเกินคาดไปหน่อยสำหรับฉัน ชอบกระต่ายมากเลยเหรอคะ

ฉันลองเปิดตารางนัดหมายที่ว่า หวา คิวยาวเหยียดเลยล่ะค่ะ ฉันจะไหวรึเปล่าคะ

"เอาเป็นว่านัดของอาทิตย์นี้ก็ยกเลิกไปให้หมดก่อนก็แล้วกัน" เอ็นโจเห็นสีหน้าที่ดูตกใจของฉันก็หัวเราะออกมา "ไม่ต้องคิดมากหรอก นัดพวกนี้ไม่ได้สำคัญเท่าไหร่ แค่ไปงานเลี้ยงกับนัดเรียนพิเศษเท่านั้นเอง"

"เข้าใจแล้วค่ะ"

ฉันกับเอ็นโจเดินไปลานจอดรถพร้อมๆกัน รู้สึกแปลกๆอยู่บ้างที่ต้องมาเดินกลับด้วยกันเช่นนี้ โชคดีที่ตอนนี้เลิกเรียนนานแล้ว ทางเดินจึงค่อนข้างร้างผู้คน ฉันกล่าวคำอำลา ก่อนที่จะเดินไปขึ้นรถของตระกูลเอ็นโจที่จอดรออยู่ แต่เอ็นโจก็เรียกฉันไว้ก่อน

"อ้อ เกือบลืมเลย คุณคิโชวอินต้องทนุถนอมร่างกายของผมหน่อยนะครับ เดี๋ยวจะมีซ้อมวิ่งกับมาซายะแล้ว"

อ๋า ซ้อมวิ่งงั้นหรือคะ ไม่ไหวหรอกค่ะ ถ้าให้ซ้อมแบบนั้นฉันต้องกระอักเลือดออกมาแน่ๆ ระดับของเอ็นโจกับคาบุรากิมันเกินกำลังฉันไปแล้วค่าาา

กำลังคิดหาวิธีจะบอกปัดการซ้อม อยู่ๆเอ็นโจก็เข้ามาใกล้ และเอ่ยคำพูดที่ทำให้ฉันตัวแข็งค้าง

"แล้วก็ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะดูแลร่างกายของคุณคิโชวอินเป็นอย่างดีเลยล่ะ"

เอ๋!!!!!

ฉันอ้าปากค้าง เอ็นโจก็ส่งยิ้มที่ดูลึกลับให้ แล้วก็เดินจากไปขึ้นรถบ้านคิโชวอิน ทิ้งให้ฉันยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น

เมื่อกี้มันอะไรกันน่ะค้าาาาาา

-----------
ลงวันละนิดจิตแจ่มใส แต่ใครอยากต่อก็ตามสบายเลย 5555555555

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.