*********************************
ฉันสมัครทำงานพิเศษแล้วนะคะ
เป็นร้านมินิมาร์ทที่อยู่ใกล้กับแมนชั่นของฉันเองค่ะ โชคดีจริงๆ ที่เขารับฉันเข้าทำงาน พี่เจ้าของร้านเป็นพี่แว่นท่าทางใจดีค่ะ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ว่าพนักงานอีกคนหนึ่งที่ย้อมผมทอง อยู่ม.ปลายเท่าฉันต่างหากล่ะคะ ที่ทำเอาฉันน้ำตาไหลพรากตอนที่เห็นเลยล่ะค่ะ
อเมวากะคุง! ไม่สิ เจ้าคนบ้าหมามากกว่า
“นี่ๆ คุณคิโชวอิน เรียนที่ซุยรันเหรอ”
เสียงจากอุเมวากะถามขึ้นมา ในขณะที่ฉันกำลังเรียนรู้การใช้เครื่องคิดตังค์กับคุณเจ้าของร้านค่ะ ฉันหันไปมองเขานิ่งๆ แต่ว่าคนบ้าหมาก็ยังเป็นคนบ้าหมาสินะคะ
“ว่าแต่ว่า ที่ซุยรันพูดคำว่า ‘โกะคิเก็งโย่’ จริงไหมอ่ะ ลองพูดให้ฟังหน่อยสิ~ น้า~~”
ฮึ้ย น่ารำคาญจริงค่ะ!
ฉันทำหูทวนลม ฟังคุณพี่เจ้าของร้านต่อค่ะ ไม่สนใจคนบ้าหมาหรอกนะคะ!
“นี่ คุณคิโชวอิน สนใจฉันหน่อยสิ”
หุบปากน่า!
“หยุดพูดแล้วไปถูพื้นต่อเดี๋ยวนี้เลย อาสึกะ! นายตั้งใจจะทำพนักงานร้านหายไปสักกี่คนกัน”
อาเระ?
อุเมวากะ นายหมดทางเยียวยาแล้วล่ะค่ะ ไปบ้าหมาคนเดียวเถอะนะ
นี่มันคนทำให้พนักงานไม่มีเพราะตานี่ใช่ไหมเนี้ย? แล้วอย่างนี้ฉันเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นทันไหมคะ?
เหมือนรู้ความคิดของฉัน คุณพี่เจ้าของร้านก็ห้นหน้ามาหา
“ขอโทษทีนะ เรย์กะจัง อย่าไปถือสาเจ้าบ้านั่นเลยนะ”
ค่ะ หนูเห็นแก่หน้าคุณพี่เจ้าของร้านนะคะ!
คุณพี่เจ้าของร้านเป็นคนดีมากๆ เลยค่ะ ทุกวันหลังจากเลิกงานคุณพี่เจ้าของร้านจะเอาข้าวกล่องที่ทำเหลือไว้มาให้ฉันกับอุเมวาะเอากลับบ้าน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะฉันเล่าปัญหาเรื่องครอบครัวของฉันให้ฟังกับคุณพี่เจ้าของร้านที่ตอนแรกจะไม่ยอมรับฉันเข้ามา เพราะเห็นว่าฉันดูเป็นคุณหนู และท่าจะทำงานไม่เป็น แต่ว่าด้วยความสามารถในโลกก่อน ฉันก็แสดงฝีมือให้คุณพี่เจ้าของร้านเห็น จนเธอยอมให้ฉันเข้ามาทำงานอย่างง่ายดาย ต้องขอบคุณความสามารถในโลกก่อนจริงๆ นั่นแหละนะคะ
“เรย์กะจัง เอากลับไปฝากคนที่บ้านเยอะหน่อยก็ได้นะ ไม่ต้องเกรงใจ” คุณพี่เจ้าของร้านยื่นถุงที่ใส่ข้าวกล่องให้อีกสามกล่อง
แต่เกรงใจจังค่ะ
“ไม่ได้ค่ะ ของซื้อของขายนะคะ”
“ไม่เป็นไร ยังไงก็ต้องเอาไปแจกพนักงานคนอื่นอยู่ดี ข้าวกล่องต้องทำสดใหม่เท่านั้นล่ะนะจ้ะ”
“งั้นก็ขอบคุณมากนะคะ” ฉันรับมาไว้ พร้อมกับขอตัวไปเปลี่ยนชุด เพราะหมดกะของฉันในวันนี้แล้ว
ฉันทำงานพิเศษสองที่
ร้านมินิมาร์ท ทำกะวันจันทร์กับพุธ และร้านคาเฟ่ที่ท่านพี่อิมาริพาฉันไปฝากไว้ ทำกะวันอังคาร พฤหัสและศุกร์ ส่วนวันเสาร์อาทิตย์ฉันก็อยู่บ้านพร้อมกับครอบครัวของฉันค่ะ
ท่านแม่ดูซึมๆ ไปบ้างในช่วงแรกที่เห็นฉันต้องออกมาทำงานแบบนี้แต่พอฉันพูดว่าเพื่อครอบครัว ท่านก็ยิ้มให้ พร้อมกับบอกว่า “ขอโทษนะ คุณเรย์กะ”
จะว่าไปแล้วฉันเองก็ตกใจกับความสามารถของท่านแม่เหมือนกันค่ะ ท่านแม่นั้นตัดเย็นผ้าเก่งพอตัวเลยค่ะ พอลองเรียบๆ เคียงๆ ถาม ท่านก็บอกว่าเพราะเย็นผ้าทำให้มือด้านเลยไม่อยากจะแตะเท่าไหร่นักล่ะค่ะ แต่พอครอบครัวเปลี่ยนไปเป็นแบบนี้ ท่านเลยรับจ้างเย็นผ้าค่ะ บางทีท่านแม่ก็ไปสอนจัดดอกไม้กับเพื่อนของท่านที่เป็นครูสอนจัดดอกไม้ด้วยนะคะ… ยอดเยี่ยมเลยค่ะ ท่านแม่
ส่วนท่านพ่อรับทำงานยกของแถวๆ บ้าน กลับมาเริ่มต้นจากศูนย์ใหม่อีกครั้ง แต่ว่ายังมีพรรคพวกของท่านพ่อที่เชื่อว่าท่านพ่อนั้นไม่เคยฉ้อโกงคอยช่วยเหลืออยู่ อย่างคุณเลขา และอดีตทหารที่ทำงานเป็นบอดี้การ์ดบ้านเราด้วยค่ะ
ส่วนเรื่องที่คาราบุกิกับเอ็นโจแทรกแซงนั้นเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ หรือถ้าเป็น พวกเขาคงจะใช้อำนาจเบื้องหลังช่วยเหลือคนที่ทำให้ท่านพ่อของฉันล้มละลายเท่านั้นแหละค่ะ น่าจะนะ...
.
.
.