เวลาในชีวิตเธอส่วนใหญ่เกือบจะเป็นของผมทั้งหมด แทบจะไม่ได้ใกล้ชิดกับมาซายะเลย ดูเหมือนเธอก็ไม่ได้รู้สึกตัวเลยสักนิดว่าผมน่ะจงใจกีดกันเธอออกจากมาซายะด้วยความนุ่มนวล ค่อยๆดึงเธอเข้ามาสู่โลกของผมทีละเล็กทีละน้อย
ผมหล่อหลอมให้เธอเป็นคนที่ต้องเชื่อฟังและพึ่งพาผมในทุกเรื่อง ค่อยๆกดให้จมลงไปแบบไม่ให้รู้ตัว
ถ้าเป็นโลกเดิม พี่ชายของเธอคงจะมองเจตนาของผมออกและคงกีดกันอย่างสุดความสามารถ แต่ดูเหมือนว่าโลกนี้เรย์กะจะไม่สนิทกับพี่ชายของเธอนัก เขาอายุมากกว่าและมีสังคมที่ไม่เหมือนกัน แทบจะตัดขาดกันไปอย่างสิ้นเชิง เท่ากับว่าผมเป็นผู้ชายคนเดียวในชีวิตของเธอ
รู้สึกเหมือนเก็นจิที่เลี้ยงมุราซากิมาให้เป็นภรรยาเลยแฮะ
แล้วใช่ว่าผมจะตามใจหรือเอาใจเธอไปเสียทุกเรื่อง มีบ้างที่ผมแกล้งถอนตัวออกมาบ้าง บอกปัดบ้าง แกล้งโกรธบ้าง หรือบางทีไปสนใจคนอื่นมากกว่าเธอบ้าง แล้วรอดูปฏิกริยา เรย์กะก็จะงอนหรือพยายามง้อในแบบของเธอ เห็นแล้วแทบจะยกโทษให้ทันทีเลยล่ะ
ผมรู้จักการให้รางวัลและทำโทษ เรย์กะก็ค่อยๆซึมซับพฤติกรรมของผมไปแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว
ต่อหน้าคนอื่น เธอวางตัวคล้ายๆกับเรย์กะในโลกเดิมของผม คือผู้หญิงที่ยิ้มน้อยๆ นิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหว ใช้สายตากดดันคนอื่นจนต้องยอมศิโรราบ ทุกอย่างดูสมบูรณ์แบบ แต่ลับหลังเธอคือเด็กผู้หญิงงี่เง่า เอาแต่ใจ ขี้เกียจ เหลวไหลไม่เอาไหนอย่างถึงที่สุด และด้านนั้นก็แสดงออกมาให้ผมเห็นแต่เพียงผู้เดียวด้วย
"ไม่อยากเรียนแล้ว ไม่เอาแล้ว" เรย์กะฟุบหน้าลงกับโต๊ะและกองหนังสือทั้งหลาย "เบื่อ ได้ยินมั้ย เบื่อ"
"เอ้าๆ ลุกขึ้นมาก่อน" ผมเอาดินสอเคาะหลังมือเธอ "ยังมีโจทย์ให้แก้อีกยี่สิบข้อ อย่าเพิ่งถอดใจสิ"
"ก็มันยากนี่นา" เธอเริ่มจะบ่นออกมาอีกแล้ว "คุณชูสุเกะสอบได้แต่ที่ดีๆ ทำได้ยังไงกันนะ ยากออกขนาดนี้"
"ถ้าจับจุดถูกก็ทำได้แล้วล่ะน่า" ผมส่งยิ้มให้เธอ "ลุกขึ้นมาสิ เดี๋ยวจะบอกเคล็ดลับให้"
เรย์กะลุกขึ้นมานั่งแบบอิดออดเล็กน้อย แต่ก็จับดินสอ รอฟังคำสอนจากผม ดวงตาที่มองมานั้นซื่อตรงไม่เลี่ยงหลบ
ผมรู้สึกอยากให้เวลาหยุดนิ่งตรงนี้ชะมัดเลย
.
.
.
เวลาแต่งตัวไปงานเลี้ยงของ pivoine เธอก็มักจะถามผมเสมอว่าควรแต่งตัวอย่างไรดี พร้อมกับรูปถ่ายชุดมากมาย ผมก็ได้แต่เลือกชุดที่ตรงกับรสนิยมของผมมากที่สุดให้
ชุดพวกนี้เป็นคนละแนวทางกับมาซายะโดยสิ้นเชิง มาซายะชอบสไตล์อะไรก็ตามที่ยูริเอะใส่ ส่วนผมชอบอะไรที่เป็นผู้ใหญ่ เรียบ หรู ดูดี พอได้เห็นว่าเธอใส่ชุดตามคำแนะนำของผมก็รู้สึกดีใจสุดๆ รู้ตัวอีกทีก็ได้เลือกชุดให้เธอมาจนถึงม.2 แล้ว
ปีนี้ผมเลือกชุดขาวยาวกรอมเท้าปักลายดอกไม้เล็กๆน่ารักๆที่ชายกระโปรงให้ รวมกับคำแนะนำที่ให้เกล้าผม พอเรย์กะใส่ก็เหมือนเจ้าหญิงน้อยๆที่หลุดมาจากในนิทาน เธอยิ้มรับคำชมจากคนมากมาย ท่าทางภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง
ถ้าสังเกตสักหน่อย ชุดของผมกับเรย์กะน่ะ เข้าคู่กันมาตั้งแต่ที่เธอขอให้ช่วยเลือกชุดให้แล้ว
เป็นที่รู้กันว่ามาซายะจะเต้นรำกับยูริเอะทุกปี ไม่ว่าใครก็เข้าไปแทรกกลางไม่ได้ เรย์กะก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
ผมเห็นเธอยืนจ้องมาซายะที่เต้นกับยูริเอะอย่างสนุกสนานในฟลอร์ เธอคงอยากแทนที่ตัวเองกับยูริเอะ เต้นกับมาซายะที่ใฝ่ฝัน
"ไปเต้นรำกันมั้ย เรย์กะ" ผมเอ่ยปากชวน เธอทำหน้าตะลึงไปเล็กน้อย "จังหวะเปลี่ยนคู่เต้น เดี๋ยวผมสลับไปเต้นกับยูริเอะให้ เรย์กะก็จะได้เต้นกับมาซายะยังไงล่ะ"
เป็นข้อเสนอที่เข้าท่า เรย์กะยิ้มออกมา ควงแขนผมเดินเข้าไปกลางฟลอร์
ผมโอบประคองเธอไว้ในท่าเต้นวอลซ์ เคลื่อนที่ไปช้าๆตามจังหวะเพลง
มาซายะกับยูริเอะทำหน้าแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นผมเต้นกับเรย์กะ แต่สักพักสองคนนั้นก็เริ่มส่งยิ้มล้อเลียนผม ผมก็ยิ้มตอบกลับไป
จังหวะสลับคู่เต้นไม่มีสักที เพราะผมไม่ปล่อยให้มี มาซายะกับยูริเอะที่เต้นจนเหนื่อยแล้วก็ถอนตัวออกไปจากฟลอร์ เหลือผมกับเรย์กะที่เต้นอยู่เพียงคู่เดียว
"น่าเสียดายเนอะ ที่ไม่มีจังหวะสักที" ผมแกล้งทำเป็นเสียดายที่แผนไม่สำเร็จ
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คราวหน้าค่อยเอาใหม่ก็ได้" ดูท่าเธอจะเชื่อผมหมดใจจริงๆ ถึงไม่ติดใจสงสัยอะไรเลย
มันไม่มีคราวหน้าหรอกนะครับ ผมไม่ปล่อยให้คุณไปเต้นกับมาซายะแน่ๆ