ฉันกับเอ็นโจลาท่านพ่อ ท่านแม่และท่านพี่ ก่อนจะขึ้นรถบ้านเอ็นโจ
พอคิดว่าจะต้องนั่งอยู่ในรถกันสองคน ฉันเลยขยับเข้าไปข้างในจนแทบจะชิดติดประตูอีกฝั่ง เพื่อจะได้อยู่ห่างๆเอ็นโจไว้ แต่กลายเป็นว่าหมอนี่กลับขยับตามเข้ามาด้วย
อะไรกันเล่า! ที่นั่งก็ออกจะกว้างขวางอย่ามาเบียดซิยะ!
ฉันหันไปถลึงตาใส่ แต่ตาเอ็นโจก็ทำเป็นทองไม่รู้ร้อนส่งยิ้มกลับมาให้จนฉันต้องหันขวับไปทางนอกหน้าต่างรถแทน
พ่ายแพ้สุดๆเลยล่ะค่ะ แง้
มองออกไปข้างนอกก็เห็นบรรยากาศของวันคริสต์มาส ร้านรวงต่างๆประดับประดาด้วยพู่ตกแต่งและต้นคริสต์มาสอย่างสดใส บางทีที่รถผ่านย่านการค้าก็เห็นผู้คนเดินออกมาชมบรรยากาศกันอย่างคึกคัก
เห็นหนุ่มสาวควงคู่กันออกมาเต็มไปหมด ดูแล้วน่าอิจฉาเหลือเกินค่ะ ฉันเองก็อยากจะไปเดทบ้างนะคะ ควงแขนกับคนรัก นั่งชิงช้าสวรรค์ด้วยกัน แลกของขวัญกัน ชมไฟตกแต่งคืนวันอีฟสุดแสนจะโรแมนติก อา
แต่ทำไมวันนี้ฉันต้องมาอยู่กับเอ็นโจกันล่ะเนี่ย
"เอ่อ... เราจะไปที่ไหนกันงั้นเหรอคะ?"
ชดใช้หนี้อย่างงั้นเหรอ คงหนีไม่พ้นเรื่องของคาบุรากิอย่างทุกทีซะล่ะมั้ง
จะว่าไปวันอีฟแบบนี้คงจะหนีไปสวีทกับวาคาบะอยู่ซินะ พวกหัวหน้าห้องเองก็ไปคาราโอเกะกับพวกมิฮารุจัง ซากุระก็คงจะอยู่กับอาคิสะวะคุงอยู่แน่ๆ ... น่าอิจฉา น่าอิจฉาเกินไปแล้ว หน็อยแน่ เจ้าพวกคนมีความรัก! ทำไมถึงทิ้งฉันไว้ในหมู่บ้านคานทองตามลำพังแบบนี้ล่ะคะ!
เอ็นโจไม่ได้ตอบคำถามกลับมาเสียที ฉันก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย แต่อยู่ๆก็โดนคว้ามือข้างหนึ่งไปกุมไว้
ท ทำอะไรน่ะ!!
ฉันหันขวับกลับไปก็เห็นเอ็นโจจ้องมองมาทำสายตากรุ้มกริ่มจนหน้าร้อนขึ้นมาอีกครั้ง มือของฉันก็ถูกเอ็นโจจับและวางไว้บนตักตัวเอง พยายามจะดึงมือออกมา แต่เอ็นโจก็ไม่ยอมปล่อย พออ้าปากจะร้องขอให้ปล่อย เอ็นโจก็พูดขึ้นมาเสียก่อน
"แล้วเรย์กะอยากจะไปเดทที่ไหนบ้างเหรอครับ?"
.
.
.
.
เอ๊ะ?
อ อะไรกันค้าาาาาาาาาาา
มาเรียกชื่อกันห้วนๆแบบนี้แล้วนะ!
ฉันรู้สึกว่าใบหน้าร้อนยิ่งกว่าเดิมซะอีกจวนเจียนจะระเบิดออกมาแล้ว รู้สึกว่าตัวเองนิ่งค้างไปหลายวินาทีเลยล่ะ จนกระทั่งเห็นเอ็นโจส่งสายตาเป็นประกายวิบวับท่าทางสนุกสนาน ก่อนจะหัวเราะออกมา
อะไรกัน นี่แกล้งกันอีกแล้วใช่มั้ย! ตาบ้านี่ ได้ทีล่ะเอาใหญ่เลยนะยะ!
"มือเย็นจัง หนาวเหรอครับ"
"ห๊ะ? เอ่อ นิดหน่อยค่ะ"
อยู่ๆก็เปลี่ยนเรื่อง แต่ก็ดีแล้วล่ะน่ะ ฤดูหนาวอากาศมันก็เย็นทำให้มือเย็นเป็นธรรมดานั่นล่ะ ถุงมือน่าจะอยู่ในกระเป๋านะ หยิบออกมาสวมเลยดีกว่าแฮะ เดี๋ยวมือแห้งหมด
มือข้างหนึ่งยังถูกเอ็นโจจับไว้ ฉันเลยใช้มืออีกข้างกำลังจะเปิดกระเป๋าใบเล็กที่สะพายข้างไว้ แต่กลับถูกเอ็นโจคว้าไปกุมไว้ด้วยกันกับอีกข้าง
"ทำอะไรน่ะคะ?!"
"หืม เขาว่าจับมือกันไว้แบบนี้จะคลายหนาวได้เร็วกว่านะครับ"
ฉันรู้สึกตื่นตูมตาลายยิ่งกว่าเดิมเสียอีก อันตราย แย่แล้ว ทำยังไงดีล่ะคะ! หันรีหันขวางตัวเองก็ยังอยู่ในสภาพแวดล้อมปิด ส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากใครไม่ได้เลย ถ้าใจกล้ามากพอฉันคงจะเปิดประตูรถแล้วโดดออกไปแบบในหนังฮอลีวู้ดแล้วล่ะค่ะ
แง้ ใครก็ได้ช่วยด้วยค่าาาา
พวกเราเงียบกันไปพักใหญ่ ไม่รู้ว่าเอ็นโจจะพาฉันไปที่ไหนกันแน่ แต่ฉันก็ไม่อยากจะถามแล้วอะ ยิ่งพูดเหมือนยิ่งเสียเปรียมมากขึ้นทุกที เหมือนโดนปิศาจลากไปที่ปากเหวเลยอะค่ะ ฮือ สรุปว่าเกลือจากศาลเจ้าก็ยังไม่สามารถปราบจอมมารได้ซินะคะ พลังแข็งแกร่งเกินไปแล้ว
"จริงซิ คุณคิโชวอินมาแลกเมลล์กันหน่อยซิ"
"เอ๋!!?"
จะเอาไปทำไปกันคะ? แย่ล่ะซิ ไม่อยากให้เลย ปฏิเสธไปยังไงดีนะ จะบอกว่าไม่มีมือถือเหมือนที่เคยบอกกับคาบุรากิตอนประถมก็คงไม่ได้แล้วด้วยซิ
"ก็ผมไม่มีเมลล์หรือเบอร์ติดต่อคุณคิโชวอินเลยนี่นา กลัวว่าจะคุณคิโชวอินจะลืมนัด เมื่อคืนเลยต้องรบกวนท่านแม่ให้โทรไปที่บ้านคิโชวอินดึกๆดื่นๆ คุณนายคิโชวอินเป็นคนติดต่อด้วยซินะ รบกวนแย่เลยซินะครับ~"
น นั่นซินะ ถ้ามีเมลล์แต่แรก เมื่อคืนนี้ฉันก็อาจจะส่งไปสกัดขอยกเลิกนัดไว้ก่อนที่ท่านแม่จะรู้เรื่องได้แท้ๆ บ้าที่สุดเลย
ลงท้ายเอ็นโจก็ยอมปล่อยมือฉัน แล้วพวกเราก็แลกเมลล์กัน เอ็นโจส่งอีโมติค่อน :) มาในเมลล์ แต่รู้สึกเหมือนเห็นไอปิศาจออกจากอีโมนั้นเลยล่ะ พอเห็นชื่อเมลล์ของเอ็นโจมือถือตัวเอง ก็รู้สึกราวกับว่าได้จดสัญญากับปิศาจไปแล้วอย่างไรอย่างนั้น อา ไว้เปลี่ยนเมลล์เปลี่ยนมือถือใหม่เลยดีมั้ยน้า
ไม่นานนักรถยนต์ก็จอดในที่จอดรถ เอ็นโจก็คว้ามือฉันไปจับอีกครั้ง พอฉันจะสะบัดมือออก เอ็นโจก็ยื่นหน้าเข้ากระซิบใกล้ๆ "นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของการใช้หนี้นะครับ"
ก่อนจะพาฉันลงไปจากรถ
อุแง้ น่ากลัว นี่ฉันต้องอยู่กับตานี่ทั้งวันเลยเหรอคะเนี่ย อยากกลับบ้านแล้วอ่าาาาา
----------
ทำได้แค่ยืดเรื่องออกมา ถถถ คิดไม่ออกว่าจะให้ไปที่ไหนแฮะ ฟิคข้างบนก็มีไปสวนสนุกกันแล้ว ไม่อยากให้ซ้ำอะ