ไม่มีใครต่อเลย กูต่อเองก่อนก็ได้ แง
กาลครั้งหนึ่งในฝัน ต่อจากพาร์ทเอ็นโจ >>181-183
---------------
สัมผัสความอบอุ่นยังค้างคาอยู่บนหน้าผาก ขนาดที่พยายามแอบเอามือถูๆลูบๆออก ความรู้สึกนั้นก็ไม่จางหายไปสักนิด
ทำบ้าอะไรของนายกันน่ะห๊ะ เอ็นโจ!
แล้วพรุ่งนี้ยังต้องเจอกันอีก ฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกัน มองหน้าไม่ติดแน่ๆล่ะ ขนาดแค่คิดว่าต้องเจอกันก็รู้สึกร้อนหน้าแดงไปหมดแล้ว
แง้ ทำยังไงดีล่ะคะ!?
*****
หลังกลับจากงานเลี้ยง ท่านพี่ก็คอยประคองฉันที่เดินกระโผกกระเผกจนท่านแม่สังเกตเห็น พอทราบความก็กระวีกระวาดเรียกคุณแม่บ้านมาช่วยดูแล
"ตายจริง แบบนี้เรื่องที่จะไปเกียวโตวันมะรืนนี้ คุณเรย์กะไม่ต้องไปแล้วกัน อยู่พักเท้าก่อนน่าจะดีกว่านะจ้ะ"
วันมะรืนนี้ ไหนๆก็เป็นวันหยุดคริสต์มาส พวกเราเลยกันว่าจะไปเยี่ยมพวกญาติๆฝั่งท่านแม่ที่เกียวโตกันทั้งครอบครัวน่ะค่ะ ว้า นานๆจะได้ไปเที่ยวด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตาแท้ๆ แบบนี้คริสต์มาสนี้ฉันก็ต้องอยู่บ้านคนเดียวน่ะซิ น่าเสียดายจังค่ะ ที่จริงมันก็ไม่ได้เจ็บหนักเลยนะ...
... อ๊ะ!
จริงซิ! พักเท้าไงล่ะ!
ช่วงขาแพลงเนี่ยต้องเลี่ยงการยืนการเดินสักสองถึงสามวันซินะ ขนาดเรื่องจะไปเกียวโตวันมะรืนยังยกเลิกได้เลยนี่นา เรื่องที่ฉันขาแพลงเนี่ยเอ็นโจก็รู้ดีอยู่แล้ว ดังนั้นฉันก็ใช้เป็นข้ออ้างยกเลิกนัดในวันพรุ่งนี้ได้ล่ะซิ!
อุโฮะโฮะโฮะ ยอดเยี่ยมไปเลยค่ะ!
แบบนี้ซินะคะที่เรียกว่า 'จากร้ายกลายเป็นดี' น่ะ เกลือจากศาลเจ้าที่เอามาโรยในห้องสามารถขจัดมารได้จริงๆด้วย ศักดิ์สิทธิ์จริงๆ ไว้ว่างๆต้องแวะไปหยอดเหรียญทำบุญสักหน่อยแล้ว
แหม ขอโทษนะเอ็นโจ แต่ฉันขาแพลงจริงๆไม่ได้โกหกนี่นา~
หลังจากอาบน้ำใส่ชุดนอนเรียบร้อยอย่างเปี่ยมสุข พอกลับมาที่ห้องนอน ฉันก็พบท่านแม่นั่งรออยู่
"คุณเรย์กะมาให้แม่ดูอาการเร็วซิจ้ะ"
เอ๊ะ เอ๋?
ฉันนั่งลงกับเตียง ให้ท่านแม่จับตรวจเท้าเบาๆ ท่านแม่เป็นห่วงเป็นใยหนูขนาดนี้เลยเหรอคะเนี่ย สัมผัสได้ถึงความรักของท่านแม่แล้วก็รู้สึกอบอุ่นใจเหลือเกิน ซาบซึ้งจังเลยค่ะ
"ดูท่าทางจะไม่ได้เป็นอะไรมากนักนะคะ ... คุณเรย์กะ คุณเรย์กะมีเรื่องอะไรที่ไม่ได้บอกแม่รึเปล่าจ้ะ?"
หืม? เรื่องอะไรงั้นเหรอคะ?
"...เอ๊ะ หรือว่าท่านแม่จะทราบแล้วว่าวันนี้หนูแอบกินเค้กในงานเลี้ยงไป 5 ชิ้นน่ะคะ!?"
"อะไรนะ! 5 ชิ้น! คุณเรย์กะ นี่คิดจะปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้อ้วนเผะอีกงั้นเหรอ! นี่ถ้าใส่ชุดเดรสแล้วพุงโผล่ออกมาในงานจะน่าเกลียดขนาดไหนกันน่ะฮึ!"
"โอ๊ยๆ เจ็บนะคะท่านแม่ อย่าหยิกซิคะ!"
แง้ ก็มันอร่อยนี่นา เค้กจากห้องครัวโรงแรมห้าดาวของคาบุรากิเชียวนะคะ
ตอนแรกก็แค่ว่าจะลองชิมนิดหน่อย แต่พอได้ลองแล้วก็อดใจไม่อยู่เลยนี่นา
"แต่แม่ไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้นจ้ะ"
"เอ๋~ แล้วเรื่องไหนน่ะคะ"
"พรุ่งนี้คุณเรย์กะมีนัดซินะจ้ะ?"
"... อ เอ๋!?"
"เมื่อสักครู่คุณนายเอ็นโจโทรศัพท์มาน่ะจ้ะ ดูเหมือนว่าคุณชูสุเกะจะติดต่อลูกไม่ได้ คุณนายเลยโทรมาช่วยนัดหมายให้ว่าพรุ่งนี้คุณชูสุเกะจะมารับตอนเก้าโมงเช้าน่ะจ้ะ"
ท่านแม่ยิ้มกริ่มอย่างอารมณ์ดีมากขึ้นทุกที ในขณะที่ฉันรู้สึกว่าตัวเองกำลังหน้าซีดลงเรื่อยๆ
อุก แย่แล้ว! นี่นายทำอะไรลงไปน่ะเอ็นโจ! จะโทรมาทำไมกันล่ะห๊ะ!
"เดทวันคริสต์มาสอีฟ เรื่องดีๆแบบนี้ทำไมคุณเรย์กะไม่บอกแม่ล่ะจ้ะ!"
อะ จริงซิพรุ่งนี้มันวันคริสต์มาสอีฟนี่นา
...ไม่ใช่นะคะ! ท่านแม่เข้าใจผิดแล้ว ไม่ใช่เดทนะคะ ชดใช้หนี้ต่างหากล่ะคะ! แล้วก็ไม่ดีเลยค่ะ ไม่เห็นจะเป็นเรื่องดีตรงไหนเลยค่ะ!
"ต แต่ว่าตอนนี้หนูเท้าแพลงแบบนี้ พรุ่งนี้คงไปไม่ไหวหรอกนะคะท่านแม่~"
"คุณเรย์กะไหวอยู่แล้วล่ะค่ะ!"
ท่านแม่ยิ้มกว้าง ยืนขึ้นแล้วปรบมือสองครั้ง ประตูห้องนอนของฉันก็เปิดออก เป็นคุณแม่บ้านและคุณหมอประจำตระกูลหอบหิ้วกระเป๋าอุปกรณ์แพทย์เข้ามาในห้อง
อ เอ๋!?
"รบกวนคุณหมอด้วยนะคะ ... คุณแม่บ้าน เดี๋ยวช่วยเอาพวกสกินแคร์เครื่องประทินผิวมาทีนะ แล้วก็เรียกสาวใช้คนอื่นๆมาด้วย คืนนี้งานยุ่งกันหน่อยล่ะ"
"ค่ะ คุณนาย"
เอ๋!!?