ท่าเรือของตระกูลเอ็นโจ
“เรียกมา มีอะไรรึเปล่า” คาบุรากิ มาซายะ มองซ้ายมองขวา ร้อยวันพันปีเพื่อนสนิทของเขาเคยชวนไปทะเลเสียที่ไหนกัน
“ก็ตั้งแต่งานเลี้ยงวันคริสมาสต์คราวก่อน นายชวนผมไปทะเลไม่ใช่เหรอ ช่วงนี้ผมเห็นนายไม่ค่อยร่าเริงเลยคิดว่าการล่องเรือดูพระอาทิตย์ยามเช้าคงช่วยให้นายอารมณ์ดีขึ้น” เอ็นโจ ชูสุเกะ ยังคงยิ้มสบายๆเช่นปกติ แต่หากสังเกตุดูดีๆพบว่ารอยยิ้มนั้นส่งไปไม่ถึงดวงตา
“ก็ไม่เลวนะ แต่มันเช้าไปหน่อยรึเปล่า”
“ไม่หรอกน่า ช้ากว่านี้ก็ดูพระอาทิตย์ขึ้นไม่ทันน่ะสิ ไปเถอะ ผมเตรียมเรือไว้ให้แล้ว จอดอยู่ที่ท่าน่ะ” เอ็นโจ ชูสุเกะ ดันหลังเพื่อนสนิทให้เดินตรงไปยังท่าเรือที่มีเรือจอดรออยู่
“เฮ้ๆ ไม่นึกว่านายจะกระตือรือร้นขนาดนี้นะ ชูสุเกะ”
“อา ผมเตรียมการณ์ทุกอย่างเพื่อนายเลยนะ….จริงสิ มีแขกพิเศษจะไปกับเราด้วยคนนึงล่ะ นายต้องแปลกใจแน่นอน”
“หือ ใครงั้นเหรอ” แขกพิเศษ? ใครกัน ยูริเอะงั้นเหรอ หรือว่าทาคามิจิ
“เขาอยู่บนเรือน่ะ ลองเดินไปดูสิ” เพื่อนสนิทของเขาพยักเพยิดให้ลองไปดูที่เรือ ด้วยความอยากรู้ เขาจึงเดินไปดูตามที่บอก
เอ็นโจ ชูสุเกะมองแผ่นหลังของเพื่อนสนิท ที่เดินนำหน้าเขาไปดูแขกพิเศษคนนั้นในเรือ เขาเดินตามโดนทิ้งระยะไม่ไกลมาก ท่าเทียบเรือของเอ็นโจ ไม่ได้กว้างขวางมากนั่น แต่แค่นั้นก็พอแล้ว…..
เขาก้มตัวลงหยิบค้อนจากแอบเอามาวางไว้ก่อนหน้านี้...ใช้มีดน่ะ มันไม่สนุกหรอกนะ มาซายะ
“คนไหนล่ะ แขกพิเศษที่นายว่า” คาบุรากิ มาซายะ มาถึงเรือยอร์ชของตระกูลเอ็นโจแล้ว เขามองเข้าไปในเรือ เห็นร่างของยัยผู้หญิงที่เขาเพิ่งกำจัดไปเมื่อวานนอนอยู่ฟูกบางดูผ่านๆเหมือนหลับอยู่ หากไม่ติดว่าชุดเดรสสีชมพูที่เธอใส่นั้น กลายเป็นสีน้ำตาลจากเลือดที่แห้งเกรอะกรัง