“นี่มัน…..อั่ก!” ไม่ทันหันมองเพื่อนสนิท บริเวณเข่ากลับถูกทุบด้วยของแข็งอย่างแรงจนทรุดตัวล้มลงไป
“ไม่ดีนะ อย่ามองเรย์กะด้วยสายตาแบบนั้นสิ” เอ็นโจ ชูสุเกะเอ่ยด้วยรอยยิ้ม หลุบตามองต่ำไปยังร่างที่ล้มลงตรงพื้น ในมือกระชับค้อนไว้แน่น
.
-----หากฉันข้ามผ่านไปฝั่งตรงข้ามของความเศร้าใจได้…
-----ฉันก็ไม่ต้องการอีกแล้ว ทั้งความอบอุ่นหรือวันพรุ่งนี้
.
“เดี๋ยว ชูสุเกะนี่มันเรื่องอะไร โอ๊ย!” ค้อนเหล็กหวดลงบนหัวไหล่ซ้าย เสียงกระดูกดังกรอบบ่งบอกว่าตอนนี้มันได้หักลงแล้ว
“ผมไม่อนุญาตให้นายถาม คนที่มีสิทธิ์ถามคือผม และคำถามของผมคือ ทำไม….” นัยน์ตาเย็นเยียบมองเพื่อนสนิทอย่างไม่รู้สึกรู้สา “นายฆ่าเรย์กะทำไม…”
.
-----ความเงียบสงัดในความมืดมนได้ปกคลุมความฝันของฉัน
-----ใครเล่า จะเป็นแสงสว่างที่รินไหลผ่านแก้มของฉันนี้
-----ทำไมกัน ฉันถึงไม่รู้วิธีทำให้โลกที่เปราะบางเกินไป ได้หยุดอยู่ที่เดิม
-----ฉันได้เพียงแค่หวังเท่านั้น ใช่แล้ว หวังจนลืมมันไป…
.
“หึ ฮ่าฮ่าฮ่า มันก็สมควรแล้วนี่ กับสิ่งที่ยัยนั่นทำลงไป โอ๊ย หยุดนะ!” หน้าแข้งบอดเบี้ยวตามเแรงหวด เศษกระดูกทิ่มออกมาด้านนอก หยดเลือดไหลจากบาดแผล
“เรย์กะไม่ผิดสักหน่อย….คนที่ไม่ได้เรื่องมันนายต่างหาก”
พลั่ก! ค้อนหวดเข้าชายโครงอย่างแรง คาบุรากิ กระอักเลือดออกมา ก้มคุดคู้ด้วยความเจ็บปวด
“เป็นบ้าอะไรของนาย! คิดเหรอว่าทำแบบนี้แล้วเรื่องจะจบลงง่ายๆ” เจ็บจนสั่นไปหมด ขยับขาไม่ได้เลย “เอ็นโจ อยากจบสิ้นเหมือนคิโชวอินรึไง นายถึงได้กล้าทำแบบนี้กับฉันน่ะ”
“จบสิ้นงั้นเหรอ…” เขาพึมพำ
โลกที่ไม่มีเรย์กะน่ะ….
.
-----หากฉันข้ามผ่านไปฝั่งตรงข้ามของความเศร้าใจได้…
----ฉันคงพอแค่นี้แล้ว ขอไม่รู้สึกอะไรอีกแล้ว
.
“ใครสนกันละ” มือหวดลงที่ศีรษะของเพื่อนสนิท ตามด้วยท้อง และหลัง อย่างไม่ปราณี
เสียงร้องด้วยความเจ็บดังจากปากที่ชุ่มไปด้วยโลหิต ร่างกายเริ่มเสียรูปตามแรงกระแทกจากของแข็ง ใบหน้าที่เคยหล่อเหลาบิ้ดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด มือสั่นเทาพยายามยกห้ามการกระทำอันโหดเหี้ยมของอีกคน
“พะ พอเถอะ...จะตายอยู่แล้ว”
มือที่ยกค้อนขึ้นยกชะงักไปครู่หนึ่ง เขามองสิ่งที่ไม่ต่างจากก้อนเนื้อที่กองอยู่แทบเท้าของตนเองก่อนจะยกยิ้ม
“ลาก่อน มาซายะ” แล้วเขาก็หวดค้อนลงไป….
…
...
…
-----ทำไมกัน….? คำที่พูดซ้ำไปซ้ำมา จะกลายเป็นการทำลายคำสัญญา
-----ช่างเป็นเสียงสะท้อนที่โดดเด่นไพเราะ ในตอนนี้, มันช่างรุนแรงเหลือเกิน...
-----ตัวเธอนั้นจะข้ามผ่านความสิ้นหวังไปหรือไม่นะ
-----ฉันขออุทิศกายที่แปดเปื้อน ผูกติดกับความรักที่เทิดทูนไว้บนผ้าใบตลอดกาล
.
แสงอาทิตย์เริ่มปรากฏที่เส้นขอบฟ้า เรือยอร์ชสีขาวบริสุทธิ์แล่นอย่างช้าๆอยู่กลางทะเลที่เงียบสงบ
เอ็นโจ ชูสุเกะนอนกอดร่างไร้วิญญาณของคิโชวอิน เรย์กะ เด็กสาวที่เขามีใจให้มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ใบหน้ายามหลับของเธอช่างเหมือนตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ
งดงามและเปราะบางเหลือเกิน
“เพียงเท่านี้ เราก็จะได้อยู่ด้วยกันแล้วนะ เรย์กะ” เขาเอ่ยคำที่ไม่เคยคิดบอกกันเธอในตลอดเวลาที่ผ่านมา
เขากระชับอ้อมกอดร่างเย็นชืดของเด็กสาวผู้เป็นที่รักไว้แน่น หลับตาลงเพื่อจมสู่ความฝันที่แสนงดงาม ความฝันที่มีเขาและเธออยู่เคียงข้าง…
.
-----หากฉันข้ามผ่านไปฝั่งตรงข้ามของความเศร้าใจได้…
-----ฉันจะไม่กลัวอีกต่อไป ถึงแม้ฉันต้องหลับอยู่เพียงลำพัง…..
.
-The End-