>>291 มาต่อละ
งานกีฬาสีปีนี้ดูเหมือนอากาศจะร้อนเป็นพิเศษ เล่นเอาเหงื่อไหลท่วมตัว แต่ผมก็ยังคงรักษารอยยิ้มบนใบหน้าไว้ได้
ปีนี้มาซายะดูกระตือรือร้นกว่าทุกๆปี บอกผมว่าต้องไปดูงานวิ่งแข่งแฟนซีให้ได้จะไปสายไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว แล้วบ่นถึง นักษัตรอะไรสักอย่าง นายพูดเรื่องอะไรน่ะ มาซายะ...
สุดท้ายเลยมาถึงก่อนเวลาท่ามกลางอากาศร้อนระบุ ผมหยิบผ้าขนหนูที่ยูกิโนะซื้อมาให้เมื่อปีที่แล้วมาซับหน้าแล้วหวนนึกถึงใครบางคนที่ยูกิโนะซื้อผ้าคู่กับผมให้
จะว่าไปคุณคิโชวอินเคยแต่งเป็นหนูนี่นะ เล่นเอาอึ้งสุดๆ แถมยังแต่งเป็นพ่อบ้านแกะน้อย ดูนุ่มนิ่มไปหมดทุกส่วน อืม....จะว่ายังไงดีล่ะ...
ดูแล้วน่าเข้าไปรังแกล่ะมั้ง
ในตอนนั้นข่มความรู้สึกอยากรังแกได้ยากสุดๆ ดีที่คุณไมฮามะหาเรื่องคุณคิโชวอิน ผมเลยเบี่ยงความคิดนี้ออกไปแล้วพูดปกป้องคุณคิโชวอินแทน ไม่งั้นถ้าเผลอทำอะไรลงไป คุณคิโชวอินคงหนีหายไปและหลบหน้าตลอดกาลแน่นอน ก็นะ...เธอขี้กลัวเหมือนกระต่ายหิมะป่าน้อยขนาดนั้น พอผมเข้าใกล้ก็ตั้งป้อม ถ้าไม่สร้างภาพลักษณ์ดีๆบ้าง เธอก็ไม่ลดป้อมเสียที
แอบเสียใจนิดน่อยที่ตอนเด็กๆดันแกล้งหลอกใช้เธอแบบเนียนๆเสียเยอะ ตอนแรกคิดว่าเธอจะไม่รู้และคงเป็นเหมือนเด็กผู้หญิงคุณหนูทั่วไปที่ปลาบปลื้มพวกเรา ที่ไหนได้เธอดันรู้ทันผมแต่แค่ติดขี้กลัวเลยไม่กล้าปฏิเสธ สุดท้ายพอเจอกันอีกเธอก็สวมวิญญาณกระต่ายตื่นตูมกระโดดดึ๋งๆหนีห่างจากผมตลอด
กระต่ายเหรอ....
เสียดายจังนะ เหมือนว่าตั้งแต่ครั้งนั้นคุณคิโชวอินจะไม่แต่งเป้นสัตว์อีก งานแข่งปีนี้ก็ไปสืบมาแล้วว่าคนลงแข่งไม่ใช่คุณคิโชวอิน
แต่งแล้วน่ารักขนาดนั้นแท้ๆ..
ผมกับมาซายะดูการแข่งขันไปเรื่อยๆ มาซายะจ้องการแข่งอย่างจริงจังมาก นับวันผมยิ่งรู้สึกว่าตัวเองไม่อาจวิเคราะห์ความคิดของหมอนี่ได้จริงๆ
และแล้วก็ถึงเวลาเปิดตัวห้องคุณคิโชวอิน
เหมือนจะเป็นธีมอลิส
เห็นผู้ชายใส่ชุดอลิสสั้นกุดจนแทบดูไม่ได้ ทุกคนต่างหัวเราะ ผมก็ดูไปเงียบๆ เผลอคิดไปแวบนึงว่าถ้าคุณคิโชวอินใส่จะเป็นยังไง....
แต่ยังไม่ทันคิดภาพเสร็จ ตอนนั้นเองคุณคิโชวอินก็ปรากฎตัวออกมา...
ในชุดกระต่ายขาวฟูฟ่องโชว์หน้าท้องและขาเรียวสวยของเธอ
ทั้งสนามต่างเงียบ...มีเพียงห้องของคุณคิโชวอินเท่านั้นที่ส่งเสียงเชียร์กันดังสนั่น
ผมก็นิ่งตะลึง
ส่วนมาซายะพูดว่า "กระต่าย...ปีเถาะเรอะ "แล้วทำหน้าหงุดหงิด "จมูกหายไปไหน"
ตาของผมเองยังคงจ้องมองไปที่คุณคิโชวอินท่ามกลางแสงอาทิตย์ร้อนระอุของวัน
ไม่ว่าจะตอนที่เธอเริ่มออกตัววิ่ง ขาวเรียวบางของเธอเริ่มก้าวออก หางปุกปุยข้างหลังที่เริ่มขยับไปมา ช่วงท้องนวลเนียนของเธอ หรือหน้าของเธอที่เริ่มขึ้นสีเลือดฝาดเพราะความร้อนของดวงอาทิตย์
มันยิ่งกว่าท่ผมเคยจินตนาการไว้เสียอีก...
มองหางที่ส่ายไปมาตามแรงวิ่ง มือของผมกำแล้วคลายไม่หยุด รู้สึกอากาศมันร้อนขึ้นเรื่อยๆ
แหมะ แหมะ
"กรี้ดดดด ท่านเอ็นโจว"
"เลือดค่ะเลือด!!!"
จู่ๆรอบตัวผมก็เต็มไปด้วยเสียงกรีดร้อง มาซายะที่ดูการแข่งขันอยู่ก็ตกใจหันมาทางผม ผมรู้สึกโลกหมุนนิดหน่อย ทรุดลงไปบนพื้น ยกมือขึ้นกุมจมูก
"มีคนเป็นลม!!"
"ชูสุเกะ!" มาซายะเรียกผม กระชากผมขึ้นมาแล้วตบหน้าซ้ายขวา แล้วเขย่ารัวๆ "ทำใจดีๆไว้ เฮ้ อย่าเพิ่งหลับตา ต้้งสติไว้ แข็งใจไว้ก่อนนะ" ผมยังไม่ตาย.. แต่ตอนนี้กำลังจะตายแล้ว ใครสอนนายให้ทำกับผู้ป่วยแบบนี้ มาซายะ
สุดท้ายผมเลยถูกพยุงไปจุดพยาบาล ถูกเอาน้ำแข็งมาประคบ แถมต้องดมแอมโมเนียกลิ่นฉุน มาซายะแยกตัวไปก่อนเพราะถูกเพื่อนในชั้นเรียกให้ไปติวการแข่งขันขี่ม้าส่งเมืองครั้งสุดท้าย
"น่าจะเป็นเพราะอากาศร้อนเกินไปนะครับท่านเอ็นโจว" รุ่นน้องผู้ชายฝ่ายพยาบาลบอกผมแบบนั้น ผมจึงตอบกลับไปอย่างเห็นด้วยพร้อมรอยยิ้ม
แม้ในใจผมคาดเดาว่ามันจะเป็นสาเหตุอื่นก็เถอะ...
อันตราย....
ตอนนั้นเหมือนจะขาดสติไปเลย
ตอนนั้นน่ะผม...