ยามเช้าของวันคริสต์มาสอีฟ โชคดีที่วันนี้อากาศดี ผมจัดการธุระเสร็จเรียบร้อย ก็หยิบเอาเสื้อโค้ทและห่อของขวัญขนาดเล็กที่เตรียมไว้ขึ้นรถไปที่คฤหาสน์คิโชวอิน
ผมไปถึงก่อนเวลาที่นัดหมาย แต่ก็ได้พบกับสมาชิกครอบครัวคิโชวอินกันพร้อมหน้าพร้อมตาที่หน้าคฤหาสน์ มาดามคิโชวอินพูดคุยประมาณว่าวันคริสต์มาสปีก่อนๆคุณลูกสาวจะอยู่ติดบ้าน ไม่เคยได้ไปไหนเลย ปีนี้ดีจริงๆที่ได้ไปกับผม ได้ฟังแล้วก็ทั้งดีใจทั้งกลั้นขำแทบแย่
ส่วนท่านประธานคิโชวอินและคุณพี่ชายดูจะไม่ยินดียินร้ายนัก พอสบโอกาสจะพูด ก็โดนคุณนายพูดแทรกตัดบท ไม่ก็สั่งเงียบไป
คุณคิโชวอินเองก็ไม่ต่างกันนัก ทำหน้ามุ่ยอย่างน่ารักน่าชัง วันนี้เธออยู่ในชุดเดรสสีแดงยาวเหนือเข่าทับด้วยเสื้อโค้ทสีครีมอ่อนๆ ถุงน่องสีดำและรองเท้าบู๊ทหนังสีน้ำตาลประดับด้วยขนเฟอร์ ที่ผมก็ผูกด้วยริบบิ้นเป็นโบว์สีแดง ดูสดใสเข้ากับบรรยากาศคริสต์มาสเป็นอย่างดี
"เท้าที่แพลงไม่เป็นอะไรแล้วใช่มั้ยครับ?"
"ค่ะ ตอนนี้ไม่เจ็บแล้วล่ะค่ะ ต้องขอบคุณท่านเอ็นโจที่ช่วยปฐมพยาบาลให้ด้วยค่ะ"
"ไม่เป็นไรครับ ... วันนี้เป็นซานต้าริน่าซินะ เหมาะกับคุณคิโชวอินมากเลยล่ะครับ"
"...ขอบคุณค่ะ วันนี้ท่านแม่ช่วยแต่งตัวให้น่ะค่ะ"
คุณคิโชวอินรับคำชมตามมารยาทอีกตามเคย แถมทำหน้าตาพิลึกตอนที่บอกว่าถูกมาดามช่วยแต่งตัว ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นซิน่ะ
ทักทายกันพอหอมปากหอมคอ ผมก็ขอตัวลากับท่านประธาน มาดามและคุณพี่ชาย แล้วพาตัวคุณคิโชวอินขึ้นรถ
คุณคิโชวอินขยับตัวเข้านั่งชิดในสุดๆ จนผมต้องขยับตามเข้าไปนั่งใกล้ๆ โชคดีที่คนขับรถกดล็อคประตูไว้ทันควันแล้วเคลื่อนรถออกไป ไม่อย่างนั้นคุณคิโชวอินอาจจะเปิดประตูรถข้างนั้นแล้วเผ่นออกไปแล้วก็ได้
"อ เอ่อ เราจะไปที่ไหนกันงั้นเหรอคะ?"
คุณคิโชวอินถามขึ้นมา สายตาไม่ได้มองผมสักนิดเอาแต่เสมองไปนอกหน้าต่าง ผมเลยเรียกร้องความสนใจด้วยการคว้ามือของเธอขึ้นมาไว้บนตักตัวเอง คุณคิโชวอินรีบหันขวับมาจ้องมอง ใบหน้าแดงขึ้นมาอย่างรวดเร็ว พยายามจะดึงมือออก ขณะที่อ้าปากจะพูดอะไรขึ้นมา ผมก็ชิงตัดบทเสียก่อน
"แล้วเรย์กะอยากจะไปเดทที่ไหนบ้างเหรอครับ?"
ผมส่งยิ้มกว้างให้ คุณคิโชวอินได้ยินก็ตัวค้างแข็งทื่อไปราวกับถูกสับสวิตช์ปิดอย่างไรอย่างนั้น
--------------
จบพาร์ทเอ็นโจค่ะ เย่ะ