ขอพักช่วงเวลาของฮาเร็มสักครู่
ต่อจาก >>126-127
กาลครั้งหนึ่งในฝัน : เอ็นโจ's side story (Part 4)
--------
"นายแย่มากที่ทิ้งฉันไว้กับไมฮามะ!"
พอเข้ามาในห้องรับรองก็โดนมาซายะขึ้นเสียงใส่ทันที ท่าทางการอยู่กับคุณไมฮามะเมื่อสักครู่จะย่ำแย่ไม่ใช่น้อย
"ขอโทษที พอดีมีธุระน่ะ"
"บ้าเอ๊ย ถ้าทาคามิจิมาก็ดีซิ..." มาซายะพึมพำอยู่คนเดียว ก่อนนั่งลงกับโซฟา
ถ้าคิดแบบนั้นทำไมไม่ชวนมาแต่แรกกันเล่า ...แต่ถึงชวนก็คงโดนปฏิเสธอยู่ดีซะล่ะมั้ง? ผมเพียงแค่คิดแต่ไม่ได้พูดออกไป เดินเข้าไปนั่งอีกฟากหนึ่งของโซฟา
"แต่ยังไงพรุ่งนี้ก็น่าจะเจออยู่ดีนี่ ใช่มั้ย?"
ต่อให้ยังไม่ได้สารภาพรักหรือคบกัน แต่อย่างมาซายะคงไม่ปล่อยให้โอกาสค่ำคืนวันคริสมาสต์อีฟผ่านหลุดมือไปแน่ๆ ทว่านั่นกลับทำให้เจ้าตัวทำหน้าตามืดมนลงไปยิ่งกว่าเดิมเสียอีก
"ชวนแล้ว... แต่ทาคามิจิบอกว่าต้องอยู่ขายเค้กที่ร้านน่ะ..."
อา นั่นซินะ เค้กวันคริสต์มาสเป็นช่วงเวลาทำกำไรส่งท้ายปีของร้านเค้กเลยนี่นา
"พอบอกจะว่าจะเหมาซื้อทั้งหมดก็โดนปฏิเสธ แล้วไม่ได้คุยกันอีกเลย..."
เรื่องเหมาเค้กทั้งร้านนี่ยังไม่เข็ดหรือไงกัน... มาซายะทำหน้าสิ้นหวังสุดๆ ถ้าร้องไห้ได้คงทำไปแล้ว ผมกำลังคิดว่าจะพูดปลอบใจเขายังไงดี เขาก็เงยหน้าขึ้นมา ทำหน้าตาเลื่อนลอย
"ชูสุเกะ พรุ่งนี้ไปทะเลกัน"
"ไม่ล่ะ ผมไม่ว่าง"
ตอบปัดไปโดยแทบไม่ต้องคิด มาซายะก็ก้มหน้าสิ้นหวังลงไปตามเดิม
จะให้ไปนั่งดูทะเลที่ทั้งมืดทั้งคลั่งท่ามกลางพายุหิมะในวันคริสต์มาสกันสองคนอีกน่ะเหรอ ฝันไปเถอะ
แถมผมเองก็มีนัดแล้ว อย่าคิดว่าคนอื่นเขาจะไม่ได้เรื่องเหมือนนายซิ
"...ทำไมไม่ลองบอกคุณทาคามิจิว่าจะช่วยขายเค้กดูล่ะ?"
"ขายเค้ก? ฉันเนี่ยนะ?"
"อือฮึ จะได้มีประสบการณ์วิถีสามัญชนของคุณทาคามิจิด้วยไงล่ะ แถมได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันด้วย"
หน้าตามาซายะดูจะสดชื่นขึ้นมาอย่างเห็นด้วย บางทีวิธีการนี้อาจจะได้ผลก็ได้ แต่คิดสภาพมาซายะไปช่วยขายเค้กคงจะดูไม่จืด แถมน่าจะรบกวนคุณทาคามิจิไม่ใช่น้อย ถ้าสร้างปัญหาให้เธอมากๆเข้าก็อาจจะโดนเกลียดเอาก็ได้นะ มาซายะ
ผมกับมาซายะนั่งฆ่าเวลาในห้องรับรองได้สักพัก มาดามคาบุรากิก็เดินเข้ามาในห้อง ไล่ตะเพิดพวกเราให้ออกไปร่วมงานเลี้ยง
ภายในงาน วงดนตรีเปลี่ยนเป็นเล่นเพลงวอลซ์ ที่กลางลานก็เปลี่ยนเป็นฟลอร์เต้นรำ มีผู้คนหลายคู่ออกมาเต้นวอลซ์ด้วยกันอย่างเพลิดเพลิน
ผมมองไปรอบๆ เห็นเพียงพี่ชายของคุณคิโชวอินยืนจิบไวน์อยู่คนเดียวมองไปในลานฟลอร์ พอผมสังเกตในลานเต้นรำนั้นจึงได้เห็นเธอ
คุณคิโชวอินเต้นวอลซ์อย่างสนุกสนานเหมือนกับที่เคยเห็นเธอเต้นกับพี่ชายของเธอ หรือที่เต้นกับยูกิโนะ
แต่คราวนี้คู่เต้นรำของเธอนั้น เป็นคนที่ผมไม่รู้จัก
ความไม่พอใจผุดขึ้นมาทันที ผมแยกตัวจากมาซายะ ค่อยๆเดินตรงไปที่ฟลอร์เต้นรำ
ชายคนนั้นผมจำได้ว่าเป็นหนึ่งในคนที่จับจ้องมาที่คุณคิโชวอินตั้งแต่แรกที่เข้ามาภายในงาน มือข้างหนึ่งของเขาจับมือของคุณคิโชวอิน ส่วนอีกข้างก็วางพาดลงมาบนเอว เสื้อคลุมของคุณคิโชวอินหายไปแล้ว ยิ่งเปิดเผยให้เห็นเรือนร่างของเธอ หมอนั่นจ้องมองแล้วยิ้มกรุ่มกริ่มไม่วางตา กระทั่งผมเดินเข้าไปใกล้
ผมไม่รู้จักเขา แต่เขาคงจะรู้จักผมดี พอเห็นหน้าผมเขาก็หน้าซีด รีบปล่อยตัวคุณคิโชวอินแล้วถอยกลับไป
ดีแล้ว ถ้าถอยไปช้ากว่านี้ อาจจะไม่ได้ถอยไปอย่างปลอดภัยแน่
คุณคิโชวอินไม่ได้รับรู้ถึงการมาของผมเลย กำลังจะเดินออกจากฟลอร์ ผมก็คว้าหมุนตัวเธอกลับมาพร้อมกับประคองไว้
"คุณคิโชวอินนี่ปล่อยให้คาดสายตาไม่ได้เลยนะครับ…"
เพิ่งจากกันเพียงแค่แป็บเดียวก็ไปเต้นรำกับคนแปลกหน้าซะแล้ว น่าโมโหจริงๆ
ผมปล่อยตัวคุณคิโชวอินออก แล้วโค้งคำนับขอเธอเต้นรำ คุณคิโชวอินดูจะลังเลเล็กน้อย ผมเลยใช้วิธีข่มขู่เธอแบบไร้เสียงจนเธอยอมจำนนวางมือลงมาบนมือของผม
พวกเราหมุนไปตามจังหวะดนตรี ผมได้เรียนเรื่องการเต้นรำมาตั้งแต่เด็กจึงทำมันได้อย่างง่ายดายและคล่องแคล่ว
คุณคิโชวอินแทบจะไม่มองหน้าผมสักนิดระหว่างที่เต้นรำกัน ทั้งที่ตอนที่เต้นกับหมอนั่น ยิ้มให้เขาอย่างสนุกสนานขนาดนั้นแท้ๆ ผมเต้นรำได้ห่วยมากนักหรืออย่างไรกัน? หรือเพราะว่าเป็นตัวผมเองที่มาเป็นคู่เต้นรำของเธอ?
พอคิดแบบนั้นก็ยิ่งหงุดหงิดจนแทบกระอัก ผมเลยเต้นรำอย่างจริงจังและตั้งใจมากยิ่งขึ้น พอส่งตัวเธอหมุนรอบตัวจนกระโปรงพริ้วไหวราวกับกลีบดอกไม้ผลิบาน ผมก็สังเกตเห็นความผิดปกติ
แม้จะเพียงแค่แวบเดียว แต่คุณคิโชวอินทำหน้าตาเหยเกและเหลือบมองไปที่ส้นสูงของเธอ พอกลับมาที่ท่าเบสิคเธอก็ฝืนส่งยิ้มมาให้ผม "ท่านเอ็นโจเต้นเก่งจังเลยค่ะ~"
... ทำอะไรของคุณกันน่ะ คุณคิโชวอิน
แย่ แย่มาก... ตัวผมเองนี่ล่ะ...
"คุณนี่ไม่ระวังตัวเลยนะ..."
ผมหยุดเต้นที่กลางเพลงก่อนจะจับมือคุณคิโชวอินออกจากฟลอร์เต้นรำโดยไม่ได้สนใจสายตาของใครอีก
*****