Fanboi Channel

นิยายเด็กดี บทที่ 7 (DDN VII) ภาคโม่งเรียนรู้กับทีมสับที่หายไป

Last posted

Total of 1000 posts

898 Nameless Fanboi Posted ID:s42R9paQ9

>>897 นักหลวม แปลว่า?

899 Nameless Fanboi Posted ID:w1CT4qeXB

>>895 มาๆ กูอวยให้ >>> การเขียนบรรยายอยู่ในระดับปรมาจารย์ ลุ้นระทึกทุกตัวอักษร กอ่านไปสั่นไป คำผิดไม่มีเลยนึกว่าหนังสือตีพิมพ์ พล็อตเรื่องแหวกแนวไม่ซ้ำใคร ตัวละครมีเอกลักษณ์แบบสุด ฉากเยกันเข้าถึงอารมณ์มากกูอ่านไปฟินไปเผลอแป๊บเดียวน้ำแตกไปสามรอบ เป็นนิยายเหมาะสำหรับมนุษย์ป้าทั้งหลายมาก

900 Nameless Fanboi Posted ID:WtpRRiPUP

>>890 นี่มึงสับแล้วช่ะ? 555

901 Nameless Fanboi Posted ID:J/3DVHutU

>>898 ลูซเซอร์(พวกขี้แพ้)ไง

902 Nameless Fanboi Posted ID:WtpRRiPUP

>>900 กุพิมพ์ตก จะบอกว่านี่สับยับแล้วช่ะ?

903 Nameless Fanboi Posted ID:Rf+ATsemB

มึงคิดยังไงกับการรับจ้างเขียนพล็อต https://www.dek-d.com/board/view/3735243/

904 Nameless Fanboi Posted ID:WtpRRiPUP

เป็นช่องทางหารายได้ก็ดี บางทีคิดได้เยอะ แต่เขียนไม่ทัน ไม่มีเวลา ขี้เกียจ

905 Nameless Fanboi Posted ID:w1CT4qeXB

>>903 ไม่มีผลกระทบต่อคนอ่าน แต่มีผลกระทบต่อนักเขียน (บางคน) เพราะบางคนพล็อตดีแต่เขียนกาก บางคนพล็อตกากแต่เขียนดี ถ้าเอาพล็อตดีมาให้คนเขียนดี นิยายเทพจะบังเกิด คนอ่านก็ฟินไป นักเขียนบางคนก็ตาร้อน สำหรับกูมองว่าเป็นการร่วมมือของคนสองคนเพื่อผลประโยชน์ในเชิงไหนก็แล้วแต่พวกมัน ส่วน คห. ที่ 3 กูอยากจะบอกมึงว่า 'แม่งนิยายไทยมันก็ลอกพล็อตกันมานั่นแหละ ตั้งแต่แฮรี่ ออนไลน์ ต่างโลก โอโตเมะละ' กูว่าซื้อขายพล็อตยังดีกว่าก๊อปวางแบบนั้นอีก อย่างน้อยก็วิน-วินทั้งสองฝ่าย

906 Nameless Fanboi Posted ID:WtpRRiPUP

แต่เอาจริง พล็อตกูก็ของกู ไม่ให้ใครหรอก ไม่สนพล็อตคนอื่ยด้วย ไม่คิดเองจะเติมเจ็มได้หมดเหรอวะ

907 Nameless Fanboi Posted ID://aVoL3wG

ขายพล็อต?
ใครซื้อใครขาย เกิดฟลุคดังขึ้นมา เดี๋ยวก็มีตบตีแย่งชิงผลประโยชน์กันเอง ให้น่าปวดหัวอีก
นิสัยคนเรามีผลประโยชน์ตรงไหน ตรงนั้นมีเรื่องเสมอ

908 Nameless Fanboi Posted ID:Rf+ATsemB

>>905 ถ้าคนรับจ้างดันคิดพล็อตซ้ำซากตามกระแส ไปหาอ่านของซ้ำซากเองไม่ดีกว่าเรอะ ดูจากโม่งสับที่ผ่านมาก็ได้นะ ไม่คิดค่าใช้จ่ายด้วย

909 Nameless Fanboi Posted ID:w1CT4qeXB

>>908 อันนี้มันแล้วแต่คนซื้อวะ ถ้ามันซื้อพล็อตแค่นั้นกูก็พูดไม่ออก 555 (แต่ในใจอาจจะมีคำด่าผุดมาเล็กน้อย)

910 Nameless Fanboi Posted ID:uMxm1Q0OK

>>904 คห.3-4แม่งเพ้อเจ้อ ไอเหี้ย ที่บ้านทำฟาร์มม้าโพนี่มั้งชิบหาย กุงง ปลูกฝังความเคยตัวอะไรของมันวะ งี้กุจ้างแม่บ้านนี่คือปลูกฝังความเคยตัวด้วยปะ?

911 Nameless Fanboi Posted ID:RLe5B5/AO

พวกนั้นยังเด็กป่าววะถึงตอบแบบนี้กัน คือในเด็กดีนี่มาตรฐานก็สมชื่ออ่ะนะ มีแต่เด็กๆซะเยอะ 555

912 Nameless Fanboi Posted ID:TRhhqIhJW

หวัดดี เซฮุน เอง ถึงไอ้พวกเหี้ยมาหาว่ากูอวย

กูว่ากูไม่ได้อวยนะ กูแค่ชมโดยรวมไอ้ชิบหาย เด็กมันเขียนจบ สื่อสารผ่านก็บุญแล้ว กูสับกูด่าทุกย่อหน้า มึงได้อ่านมั่งไหมเนี่ย เหนื่อยนะมึง

คือกูให้ความเห็น ถ้าอะไรตะขิดตะขวงใจกูก็จัด ถ้ามึงอ่านดูดีๆ มึงจะรู้ว่ากูอ่านแบบ 'พ่อปกครองลูก' คือไอ้สัด "ใครจักใคร่ค้าช้างค้า ใครจักใคร่ค้าม้าค้า" กูไม่แทรกแซง เขียนไรมึงเขียนไป แต่ถ้าไม่ใช่กูก็ด่า

กูไม่อยากจุกจิก อันไหนกูรับได้กูก็ปล่อย หน้าที่กูคืออ่านให้จบ เข้าใจเนื้อหา บอกว่ารวมแล้วมันเป็นยังไง

จะให้กูนั่งสับคำฟุ่มเฟือย จัดย่อหน้าหาคำผิดให้งี้ กูไม่ทำ อ่านดูก็รู้แล้วล่ะไอ้เหี้ยว่านิยายเวิ่นน้ำแค่ไหน

แถมกูยังไม่ให้เรตติ้งเลยนะไอ้สัด มึงว่าสิบเต็มกูจะให้เท่าไหร่ กูให้แค่ 5.5/10 เท่านั้นแหละ

พวกมึงนี่ควยบังตาจริงๆ

ลงชื่อ เซฮุน เพิ่งถึงบ้านทะเลาะกับเมียมา

ปล อวยพ่อง

913 Nameless Fanboi Posted ID:Rf+ATsemB

>>910 จำได้ว่าพวกนี้เป็นคนวัยทำงาน ถ้าจำไม่ผิด ถึงฟังดูเพ้อเจ้อแต่กูพอเข้าใจเจตนามันดี คนวัยทำงานต้องรู้จักพึ่งพาตัวเอง ไม่เคยเรียนปริญญาตรีไม่รู้หรอก

914 Nameless Fanboi Posted ID:Rf+ATsemB

>>882 กูลืม ไปเที่ยวใช้ไอโฟน
ให้สับเลย

915 Nameless Fanboi Posted ID:uMxm1Q0OK

>>913 อ้าว กุทำงานแล้ว กุจ้างแม่บ้านมาทำบ้าน คือกุไม่รุจักพึ่งพาตัวเอง?

กุเข้าใจว่าคนทำงานแล้วมันต้องรู้จักใช้เวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุดไม่ใช่เหรอวะ

916 Nameless Fanboi Posted ID:PyfL.WAhO

>>913 มึงสาบานว่านี่คือความคิดของปริญญาตรี

917 Nameless Fanboi Posted ID:RLe5B5/AO

>>913 มึงทำงานยังนิ?

918 Nameless Fanboi Posted ID:+EFd3Wt0K

เรื่องการรับจ้างแต่งพล็อตหรือซื้อพล็อตสำหรับกูมองว่า....เรื่องของมัน มันจะซื้อ จะขายก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ถ้ามีเรื่องพวกมันก็เดือดร้อนกันเอง ไม่มีความจำเป็นต้องไปสนใจ ที่พวกมึงต้องสนใจคือ งานของมันออกมาเป็นยังไง มีอะไรให้ศึกษาไหม ทิ้งอคติทุกอย่างแล้วกอบโกยความรู้นะจ๊ะ
อ่าว...แล้วแบบนี้มันก็เป็นการปลูกฝังสิ่งไม่ดีในสังคมสิ >>> โอเค กูอยากจะบอกเอาตัวเองให้รอดก่อนค่อยห่วงสังคม เอาเวลามาพัฒนางานเขียนให้ดีจะได้ช่วยให้สังคมนักเขียนจะเจริญนะจ๊ะ
สำหรับคนที่ยังมีอคติ กูก็อยากจะบอกว่าเก็บความไม่พอใจไว้ ไม่ต้องไปโวยวาย แต่มึงงัดทุกอย่างที่มึงมีไปสู้กับมัน ทำให้ทุกคนรู้ว่า นิยายเรื่องนี้กูคิดพล็อตเองแต่งเอง เจ๋งปะละ สุดท้ายมาถ้านิยายที่ซื้อพล็อตมาขายได้มันจะมาสนใจคำโวยวายไหม มันได้เงิน ได้แฟนคลับ คนอื่นก็ตาม พวกมึงก็เน่า ลุกขึ้นสู้ค่ะ นักเขียนทั้งหลาย ปลุกความกระหายสงครามในตัวคุณ ทำให้โลกรู้ว่าเขียนพล็อตเองมันยิ่งใหญ่แค่ไหน ผู้ชนะได้เขียนประวิติศาสตนร์ ผู้แพ้ก็ถูกลืมเลือนไปตามกาลเวลา

919 Nameless Fanboi Posted ID:+EFd3Wt0K

>>918 เสริมอีกนิด สำหรับกูไม่ซื้อพล็อตนะจ๊ะ มีปัญญาคิดเอง ไม่สนับสนุนด้วย แต่ก็ไม่ได้ห้าม //ด่ากูได้แต่อย่าแรงมากเดี๋ยวไม่มีแรงสับนิยายให้พวกมึง

920 Nameless Fanboi Posted ID:uMxm1Q0OK

>>918 เออเนาะ แทนที่จะสู้แม้งไปเลยหมัดต่อหมัด ชี้ชัดๆเลยว่าอย่างไหนดีกว่า เสือกมาโวยวายนู่นนี่นนั่น

เยดแม่ นี่หรือคนทำงานแล้ว

921 Nameless Fanboi Posted ID:J/3DVHutU

ออกทะเลไปกันใหญ่ละพวกมึงนี่

922 Nameless Fanboi Posted ID:+EFd3Wt0K

https://writer.dek-d.com/vitn/story/view.php?id=1569658 >> การผจญภัยของผม

กูว่าจะลองสับเรื่องนี้ แต่พอไปอ่านเท่านั้นแหละ ไม่รอดวะ
เอาเป็นว่ากูแนะนำคนเขียนอยู่สองเรื่อง
1. การใช้ภาษาไทย
2. การบรรยาย
ทั้งสองเรื่องนี้คนเขียนต้องเลือกจะหว่างเรียนด้วยตัวเองหรือจะฝากตัวเป็นศิษย์ของสำนัก ซึ่งกูแนะนำให้สองสำนักคือ สำนัก 26 กับสำนักฟองเบียร์ โดยสำนัก 26 มึงจะได้รับสกิลการบรรยายระดับแอดวานซ์ และสกิลมั่นหน้า ส่วนสำนักฟองเบียร์มึงจะได้สกิลการบรรยายขั้นละเอียดยิบจนคนอ่านอ้าปากค้างแล้วบอกว่า โอ้โห!
ปล. หนึ่งในนิยายท๊อปมาตรฐานเด็กดวก แม้เรื่องนี้จะเขียนค่อนข้างแย่ แต่ดีตรงที่คนแต่งรับฟังความคิดเห็นแล้วไปปรับใช้ นับว่าเป็นคุณสมบัติที่ดีของนักเขียน และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้และทั้งนั้นกูคิดว่าเขาควรจะมีอาจารย์คอยชี้แนะ ถ้าไม่ฝากตัวกับสองสำนักที่กูแนะนำ เหล่าโม่งทั้งหลายอาจจะเมตตารับเป็นศิษย์หรือหาสำนักให้นางฝากตัวจะดีมาก
ผู้สับ.... โม่งคานทอง ผู้กำลังจะสับนิยายเรื่อง อมรา

923 Nameless Fanboi Posted ID:3+LRTPqvb

กูอ่านไปสามตอนและ แต่ขก.สับหมด ขอตอนเดียวแล้วกัน เพราะมันผิดพลาดเหมือน ๆ กันเสียส่วนใหญ่

ชื่อเรื่อง : Artoforbis : The artificial land แดนลับดับโลก
ผู้แต่ง : K.K.T

PROLOGUE โลกกำลังเปลี่ยนแปลง
จากที่อ่าน มองว่าไม่จำเป็นจะต้องมีอย่างยิ่ง ในเมื่อที่หน้าหลักของนิยายก็มีอธิบายเรื่องโลกเอาไว้แล้วบางส่วน คือถ้าจะไว้เป็นส่วนเสริม ส่วนขยาย เกริ่นอะไรล่วงหน้า แนะนำให้เลือกใส่สักที่พอ ใส่ไว้หน้าหลักทั้งหมด หรือจะอีกเปิดหน้าต่างหากก็ตามแต่ ไม่ควรแปะอะไรซ้ำซ้อน
การใช้จุดไข่ปลา ถ้าไม่ได้กะจะเว้นช่องไว้เติมคำตอบอะไร ควรใช้แค่สามจุด

001 [จุดจบสู่จุดเริ่มต้น]
มุมมอง : pov1
เนื้อหา : ศรัญญูกลับบ้านพร้อมน้องสาว พวกเขาอยู่กันแค่สองคน พ่อหายสาปสูญ แม่ทำงานต่างประเทศ และด้วยความที่แม่ส่งเงินมาจำกัดจึงต้องประหยัดเอามาก ๆ แต่สุดท้ายก็สั่งพิซซ่ากับสปาเก็ตตี้คาโบนาร่ามาเป็นมื้อเย็นเพราะน้องสาวไม่อยากกินกะเพราหมูสับ หรืออาหารกล่อง พอคนส่งพิซซ่ามาเก็บตังค์ไปห้าร้อย ศรัญญูบ่นว่าแพง กินแบบนี้บ่อย ๆ ไม่ได้ ต้องประหยัด แต่น้องสาวเสือกไม่เข้าใจว่าทำไมต้องประหยัด แล้วนางก็เข้าใจเหตุผลได้เมื่อพระเอกบอกว่าจะได้เก็บตังค์ไว้ซื้อชุดสวย ๆ ใส่
ระหว่างกินพิซซ่า วรัญญา(คุณน้องสาว)ก็กินไปเล่นโทรศัพท์ไป แล้วขออนุญาตพี่ออกไปข้างนอก แต่ศรัญญูไม่อนุญาตเพราะมันมืดแล้ว เธอเลยหันไปเจอบางอย่าง คาดว่าทำเซอร์ไพรส์โดยการฟาดหัวพี่ชายตนเองแล้วออกจากบ้านไปตามที่นัดกับคนในโลกโซเชียลไว้
พอศรัญญูตื่นขึ้นไม่เจอน้องสาวเลยแจ้งตำรวจ แต่ตำรวจไม่รับแจ้งเพราะยังไม่ครบ24hr. เลยโวยไปตามเรื่อง เขาเลยหยุดเรียน นั่งรออยู่บ้าน แล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่าน้องออกไปหลังจากดูโทรศัพท์ เลยลองล็อกอินIDอิกดราซิลของน้อง แล้วก็พบแชทคุยกับผู้ชาย นัดน้องมันไปเจอแล้วบอกว่าถ้าพี่ไม่ยอมให้ทุบหัวแล้วหนีออกมา ซึ่งวรัญญาคนสวยก็ทำตาม
ศรัญญูเลยไปที่ที่จุดนัดพบพร้อมกับตำรวจ ซึ่งเป็นโกดังร้างลับตาคน พอไปถึงก็เจอน้องนอนจมกองเลือด สารวัตรเลยเข้าไปจับชีพจรแล้วยืนยันว่าน้องตายแล้ว
ระหว่างกำลังกลับบ้าน(น่าจะ) หลังจากจัดการอะไรเสร็จก็โทรไปบอกแม่ว่าน้องตาย ขณะที่กำลังหาคลิปในอิกดราซิลดูเพื่อให้ลืม เขาก็ได้ยินเสียงผู้หญิงร้อง เห็นหล่อนกำลังถูกผู้ชายลวนลาม แล้วก็นึกได้ว่าน้องมันก็คงโดนแบบนั้น โยงไปว่าถ้าหล่อนยังขัดขืนก็คงโดนแทงตายเหมือนน้องเขา ก็เลยฉุดขาดหยิบอิฐบนพื้นฟาดใส่ผู้ชายคนนั้นซ้ำ ๆ (น่าจะตาย) แล้วก็เหลือบไปเห็นโทรศัพท์ขึ้นแจ้งเตือนให้กดเพื่อเริ่ม ก็เลยกดไป

924 Nameless Fanboi Posted ID:3+LRTPqvb

>>923 ต่อ

การบรรยาย :
- มั่วซั่วมาก เป็นpov1ที่คุยกับตัวเอง แนะนำตัว/โลก/น้องสาวของตัวเองให้ตัวเองฟัง กูเข้าใจว่ามันอยากจะทำให้เหมือนตัวละครกำลังคุยกับคนอ่าน แต่นี่เป็นpov 1 ผู้อ่านรับรู้ตามมุมมองของตัวละครหลัก ไม่ได้เป็นผีเพื่อนซี้สิงร่างที่อยากให้ตัวละครหลักคุยด้วยในใจ ถ้าจะเขียนในลักษณะของpov 1 ที่คุยกับผู้อ่าน ก็ควรเป็นแนวบันทึก คือคนเขียนบันทึกถ่ายทอดความรู้สึกของเขาแล้วทำให้ผู้อ่านบันทึกคิดตาม
- หลงไปปนกับpov 3 เช่น บรรยายบอกว่า "เธอทำหน้าบึ้ง ก่อนจะหันไปเห้นอะไรบางอย่าง" คือมึงบรรยายpov 1 ของศรัญญูอยู่นะ ถ้ามึงใส่มางี้แสดงว่าไอ้ญูมันต้องเห็นดิว่าน้องมันเหลือบไปหาอะไร
- การสื่ออารมณ์ตัวละครทำออกมาได้เข้าขั้นแย่ แบบไม่รู้สึกอะไรเลย อย่างฉากที่น้องตาย ตัวเอกคร่ำครวญแต่ "ไม่นะ ไม่" บรรยายว่าน้ำตาไหล แต่ไม่ชวนให้กูรู้สึกอะไรเลย แล้วมาจบท้ายว่ามันสูญเสียคนที่มันรักที่สุดในโลกไป แต่ที่เปิดมากูมองไม่ออกเลยว่ามันรักน้องสาว แล้วน้องสาวสำคัญกับมันยังไง
- ทั้งเรื่องเหมือนมีแค่ตัวละครพูด ๆๆๆๆ แล้วก็ตัวเอกบ่นกับตนเอง
- ไม่บรรยายฉาก สถานที่ เวลา ตรงนี้คงไม่พูดไรมาก เพราะมันไม่บรรยายจริง ๆ แบบแทบไม่บรรยายเหี้ยไรเลยนอกจากไอ้ข้อข้างบน ถึงจะเป็นpov 1 ที่ก็ยังต้องบรรยายฉาก เพราะpov 1 เป็นลักษณะที่ผู้อ่านเข้าใจเรื่องโดยมองผ่านมุมมองของตัวละครหลักตัวใดตัวหนึ่ง
- เสียงเอฟเฟ็กต์ ใส่ไม่มากแต่น่ารำคาญ ตรงบทที่ทุบหัวผู้ชายเพื่อช่วยผู้หญิง ถ้าเปลี่ยนเสียง "ตุบ! " เป็นบทบรรยายจะดีกว่า ด้วยความที่ตัวละครเป็นผู้กระทำ กูว่ามันต้องจดจ่ออยุ่กับการทุบมากกว่าเสียงตอนทุบอยู่แล้ว

ความสมเหตุสมผล :
- น้องสาวอายุ 14 ปี กูถือว่าเป็นวัยรุ่นแล้ว และยิ่งอยู่กับพี่แค่สองตน ต่อให้พี่โอ๋แค่ไหนก็ต้องมีความเป็นผู้ใหญ่อยู่บ้าง แต่ในเรื่องเสือกไม่เข้าใจสถานการณ์ของครอบครัวตนเองว่าทำไมต้องประหยัด กว่าจะยอมรับได้คือต้องเอาเสื้อผ้ามาล่อ ดูจากที่บรรยาย แสดงว่าน้องสาวมันก็คงผลาญทรัพย์ไปกับเสื้อผ้าเครื่องประดับไม่น้อย (หรือกูควรบอกว่าพี่มันโอ๋ไป) นอกจากนี้ยังเสือกเชื่อคนแปลกหน้าที่ไม่เคยเจอกัน ทุบหัวพี่ตัวเองอย่างง่ายดายเพื่อไปหาผู้ สงสัยหิวผู้ชายมาก (เหมือนเห็นพี่ตัวเองเป็นแค่เสี่ยเลี้ยง บ่นมากทุบแม่งแล้วไปหาผู้ใหม่) คือไม่มีเหตุผลเหี้ยอะไรเลย แค่อยากไปหาผู้ที่รู้จักกันผ่านแชทห้าเดือน Bitchมาก
- ตำรวจถึงที่เกิดเหตุ ปล่อยให้อีพระเอกเข้าไปในที่เกิดเหตุง่าย ๆ เลย จากการติ่งซีรีส์สืบสวน จริง ๆ เจ้าหน้าที่ควรกั้นไม่ให้ใครเข้าออกสถานที่เกิดเหตุเนื่องด้วยกลัวว่าจะทำให้ที่เกิดเหตุเสียหาย หลักฐานคลาดเคลื่อน อันมีผลต่อรูปคดี
- ตายในโกดังเก่า ปล่อยไว้หลายชั่วโมง กูไม่รู้สภาพแวดล้อม มันบอกแค่ว่าโกดังเก่า แต่ไม่บรรยายมาว่าโกดังเป็นไง ดังนั้นเอาตามที่กูคิดคือสภาพแม่งก็สกปรก ทั้งฝุ่น หยากไย่ ขยะ เศษซาก ดูรก ๆ มีสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ อาศัยอยู่ แต่น้องสาวพระเอกโดนฆ่าหมกไว้หลายชั่วโมง สภาพศพดีมวาก นอนจมกองเลือดอยู่ จาาาาา คือสะอาดมวากกก ไม่มีหนู ไม่มีแมลงสาบ มดก็ไม่มี อากาศปลอดโปร่งไม่อับชื้น ปราศจากเชื้อรา และด้วยอุณหภูมิประเทศไทยที่หนาวเหน็บ ศพเลยสภาพดีมวาก(ถุย)
- น้องตายทั้งคน บอกว่ารักมากเลยคนนี้ แต่ฟูมฟายแป๊บนึงแล้วโทรหาแม่ หาคลิปดู วดฟ. อารมณ์เหมือนแค่หมาตายเลยจิตตกหาอะไรดูให้รู้สึกสบายใจขึ้น นี่น้องทั้งคนนะ ไหนว่าอยู่กันแค่สองคน มีค่าให้เสียใจได้แค่นี้เองเหรอวะ
- ศรัญญูสติแตกเอาอิฐฟาดหัวคนไปหลายรอบ กูเดาว่าไม่ตายก็สภาพปางตายสมองปลิ้นแล้วกัน (คนเขียนแม่งก็บรรยายไม่เคลียร์อีก) คือใจเย็นมาก ทุบเสร็จหยิบโทรศัพท์เขาขึ้นมาดู สำหรับคนปกติธรรมดา การทำผิดใหญ่หลวงอย่างฆ่าคนนี่กูว่าเป็นภาระหนักหนาทางจิตใจเลยทีเดียว นึกถึงตอนเด็ก ๆ แค่มึงแอบเอาแก้ว ถ้วยชาม เอาเครื่องประดับของแม่มาเล่นแล้วทำแตก ทำพัง ก็กลัวโดนแม่จับขังห้องมืดแล้วอะ กระวนกระวาย ร้องไห้ ไม่รู้จะทำยังไงดี จะบอกแม่ก็กลัวจะโดนทำโทษ กลัวโน่นกลัวนี่ หาทางปกปิดความผิด แต่นี่นิ่งมาก ต่อให้ขาดสติ แต่เมื่อบรรดาลโทสะไปแล้ว เหมือนที่ออกข่าวบันดาลโทสะแล้วหลบหนี พลั้งมือฆ่าแล้วหลบหนี ถ้าตัวละครยังเป็นคนธรรมดาไม่เคยฆ่าใคร ไม่เคยทำอะไรผิดกฎหมายก็ต้องมีอาการ
ฯลฯ
คำผิด : 3 แห่ง
การใช้สัญลักษณ์ :
- จุดไข่ปลา ใส่มายาวมาก ควรใส่แค่สามจุดพอ ถ้าไม่ได้กะจะเว้นที่ไว้ตอบคำถาม แนะนำให้ใส่เฉพาะตรงส่วนที่เป็นคำพูดหรือข้อความี่ยกมา หรือกล่าว/เหตุการณ์เกิดขึ้นและไม่จบ มีต่ออีก แต่ดันมีบางอย่างเข้ามาแทรกทำให้สะดุดไป ถ้าต้องการสื่อว่าลากเสียง พูดจาอึกอัก และอื่น ๆ ที่ทำให้ประโยคติด ๆ ขัด ๆ ควรใช้บทบรรยายดีกว่า แต่จะใช้เพื่อสื่อว่าเป็นการลากเสียงก็ได้อยู่
- อันนี้กูไม่มั่นใจ แต่ถ้าจำไม่ผิด เครื่องหมายอัศเจรีย์มีวรรคหลังอย่างเดียว

925 Nameless Fanboi Posted ID:uMxm1Q0OK

โม่งคานทอง มึงช่วยแปะลิ้งในที่มึงสับหน่อยได้ไหม

กุหาไม่เจอ ชิบหาย ใช้โทรสัพแม่งจิ้มพิมชื่อหายากด้วย

926 Nameless Fanboi Posted ID:3+LRTPqvb

>>924
ข้อดี :
- เข้าใจง่าย เหมาะกับเด็กเสพ
คะแนน ขอไม่ให้แล้วกัน กูกลัวให้เยอะไป ถถถถถ

จบ

927 Nameless Fanboi Posted ID:3+LRTPqvb

>>925 หมายถึงกูเหรอ?
อะ ลิงก์ที่กูสับใน >>923
https://writer.dek-d.com/ilga0079/story/view.php?id=1547125

และกูไม่ใช่โม่งคานทอง ถถถ

928 Nameless Fanboi Posted ID:J/3DVHutU

>>924 เรื่องนี้เคยกูบ่นไปแล้วตอนที่มีคนพูดถึงเรื่องนี้คราวก่อน ว่าพี่ชายมันทำไมใจเย็นจังวะ น้องตายไม่นานก็หายโทรหาแม่ แถมฆ่าคนแล้วไม่มีท่าทางตระหนกอะไรเลย เราฆ่าคนนะเว้ย แถมฆ่าครั้งแรก ใครไม่เข้าใจแอคชั่นก็ให้ไปหาดู Attack on Titan ตอนอาร์มินยิง AHSS ที่จะฆ่าแจน นั่นแหล่ะแบบนั้นเลย คือฆ่าแล้วจิตตก ตัวสั่น ประสาทแดกไปเลยนะมึง

929 Nameless Fanboi Posted ID:uMxm1Q0OK

>>927 เออ มึงจะโม่งคานเงิน คานเหล็กไงก็ได้ แต่คือช่วยแปะลิ้งนิยายที่มึงสับลงไปด้วย กุจะได้จิ้มง่ายๆ บางทีกุเห็นมึงสับแล้วอยากจะเข้าไปอ่านดูไง แต่แม่งไม่มีลิ้ง ใช้โทรสัพมันจิ้มยาก

930 Nameless Fanboi Posted ID:uMxm1Q0OK

กุกะลืม ไอโม่งคานทองมันแปะลิ้งนี่หว่า จำผิดคน

931 Nameless Fanboi Posted ID:3+LRTPqvb

>>929 โอเคกูขอโทษ
>>928 ควรเป็นแบบนั้น มันไม่ใช่เรื่องปกติธรรมดาเหมือนบี้มด ตบยุง

932 Nameless Fanboi Posted ID:uMxm1Q0OK

>>931 กราบมึงหนึ่งที

933 Nameless Fanboi Posted ID:xn4/vkOC2

>>923 อ่อ อีเรื่องที่บนๆบอกจะใส่ภาษาญี่ปุ่นมาเพื่อสินะ คือก็อ่านเป็นชื่อเรื่องตรงตัวเลย เนื้อเรื่องก็เมืองไทย แล้วใส่ทำไมหว่า

934 Nameless Fanboi Posted ID:5xEN/FX5b

>>933 ช่าย สุดท้ายกูก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าใส่มาทำไม

935 Nameless Fanboi Posted ID:H0yWSONoT

https://writer.dek-d.com/atithp/story/view.php?id=1535749
ชื่อเรื่อง : AMARA | อมรา
ผู้แต่ง : allun
จำนวนตอน : 10 ตอน
สถานะ : ดองชัวร์
พล็อต : เรื่องราวของอมราผู้มีดวงตาวิเศษ (วิ้งๆ) คาดว่าจะพลังแบบเดียวกับพลังจิตมั้ง คนเขียนเน้นดวงตาเปลี่ยนสีตลอดตอนใช้พลัง
เซ็ตโลก : โลกจริงปัจจุบัน
การเดินเรื่อง : สรรพนามบุรุษที่ 3
เนื้อเรื่อง : อมรา เด็กสาวผู้มีพลังพิเศษแต่พพ่อแม่ไม่รู้ คนอื่นไม่รู้ เธอสามารถมองเห็นวิญญาณได้ ใช้พลังจิตได้โดยดวงตาเปลี่ยนสี แล้วทุกวันของเธอก็วุ่นๆ กับพวกวิญญาณ (ไลฟ์สไตล์พลังจิตมั้ง)... เปิดบทมาด้วยหนึ่งในฉากเปิดตัวสุดเบสิค ฉากตื่นนอน ด้วยประโยค “พี่อัมๆๆๆ ตื่นๆๆๆๆ...แม่ให้มาปลุก” (โอ้โหไม้ยมกขนาดนี้กูนึกว่าขบวนรถไฟฉึกๆ ฉักๆ) หลังจากนั้นอมรากับน้องชายก็คุยกันบลาๆ ประมาณทำไมน้องชายไม่ปลุกให้เร็วกว่านี้ มันสายแล้วนะ (เหวี่ยงน้อยชายตามคอนเซ็ปสาวน้อยเอาแต่ใจ) จากนั้นเด็กสาวก็ลงมาทานข้าวคุยกันบลาๆ ขอแม่ย้ายโรงเรียนแต่แม่ไม่ยอม ก็ขึ้นรถไป แต่ตอนนั้นดันไปเจออุบัติเหตุรถชนคนตาย อมราก็ถามแม่ว่า “แม่คะ....เอ่อ........คือ.... แม่มีเด็กนักเรียนที่ชื่อ ราเมษ เรียนอยู่ป. 5 ห้อง ก ไหมคะ” (จุดไข่ปลานี่สามารถทำซูชิได้เลยนะ! ก็ตามเรื่องที่โม่งคนก่อนสับเรื่องจุดไข่ปลา ควรใช้สามจุดพอ แล้ว ป.5 ห้อง ก. อืม...กูมองข้ามละกันกูเคารพการใช้ชื่อแบ่งห้องของโรงเรียน) แม่ก็ตอบว่ามีแล้วก็คุยกันบล่ๆ สุดท้ายคืออมราเห็นผีไอ้ราเมษเนี่ย แล้วผีก็บอกให้มันไปช่วยพ่อที่กำลังป่วยหนัก อมราก็ไป พอไปถึงซอยแคบๆ เธอก็เจอคนเมา จากนั้นเธอก็เดินผ่านแต่คนเมากระชากเธอมากอด แล้วพูดซะคล่องปรื๋อจนกูยังงว่ามันเมายังไง แถมการกระทำก็ไม่มีสิ่งที่บ่งบอกว่าเป็นคนเมาสักนิด แค่บรรยายว่า ‘เมา’ (เมาบ้านเตี่ยดิ) จากนั้นอมราก็บอกให้ปล่อยแล้วขู่อีกฝ่ายว่าให้เลือกระหว่างตายกับกลายเป็นคนบ้า พออีกฝ่ายไม่เลือกเธอก็ใช้พลังดวงตาวิ้งๆ เปลี่ยนสีได้ ทำให้อีกฝ่ายลอยกางอากาศราวกับถูกตรึงด้วยอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็น ต่อมานางก็บอกให้อีกฝ่ายเลือก แล้วบอกให้โอกาสครั้งสุดท้ายในชีวิต แล้วนางจะสอนให้ชายขี้เมาจดจำไปจนวันตาย ชายคนนั้นก็พูดว่า “กลัว....ๆ.ๆ.ๆ..ๆ..ๆ..” (กูสตั้น กลัวพ่อง! มึงอธิบายความกลัวด้วยประโยคพูดแค่เนี่ย?) จากนั้นชายคนนั้นก็วิ่งหนีไปด้วยความกลัว? อมราก็ไปช่วยพ่อของราเมษพร้อมกับเรียกศูนย์ช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่ก็ถามอมรารู้ได้ไงว่ามีคนป่วย (เจ้าหน้าที่มีความเสือก) อมราก็บอกว่าลูกชายของคนป่วยเพิ่งตายเมื่อเช้า แล้วนางก็เป็นลูกของอาจารย์คนตายเลยพอรู้ว่ามีคนป่วย เจ้าหน้าที่ก็บอกว่า “แถวนี้ขี้ยาเยอะมากๆ โชคดีจริงๆ ที่ไม่เจอพวกนั้น” (เดี๋ยวอมราเพิ่งบอกว่าลูกชายคนป่วยตายเมื่อเช้า ทำไมเจ้าหน้าที่ไม่แสดงสีหน้าตกใจ สอบถามเพิ่มเติม หรือแสดงความเห็นใจก็ยังดี เปลี่ยนเรื่องเฉย ตะกี้ยังเสือกอยู่เลย มันย้อนแย้งนะยูวววว) จากนั้นก็บลาๆ แล้วจบบทไป ต่อที่บทที่ 1 บทนี้มีการตัดฉากเยอะมาก บางฉากสองสามบรรทัด แล้วใช้ขีดลากยาวในการตัดฉาก (อันนี้กูขอไม่คอมเม้นต์แล้วกันกูเคยพูดเรื่องการเปลี่ยนฉากไปแล้ว) สรุปเรื่องในบทก็คือ อมรามีเพื่อนร่วมชั้นสามคนที่เกลียดนาง คอนเซ็ปก็แบบวัยรุ่นตบตีทั่วไป มีเหวี่ยง มีกระแหนะกระแหน มีกระทบกระทั่งกัน (แต่อินเนอร์ที่คนเขียนใส่ลงมาก็แบบละครหลังข่าวคือเล่นใหญ่มากจนไม่สมจริง...ก็นิยายนี่เนาะ) แล้วในสามคนนั้นมีคนหนึ่งชื่อ กิ๊ฟ ยายตายมาสามปีแล้วทีนี้อมราก็อยากจะบอกเรื่องนี้กับกิ๊ฟ พยายามอาโอกาสโน่นนี่นั่น จนในที่สุดก็ฝากข้อความประมาณว่ายายตายแล้ว มีสมบัติสมัยรัชกาลที่ 4 ซ่อนอยู่ใต้หลังคาให้เอามาใช้หนี้โน่นนี่นั่น (โอโห้...ละครหลังข่าวชัดๆ) บทที่สาม กูไม่ขอลงรายละเอียดเนื้อเรื่อง แต่อยากจะบอกคนแต่งว่า มึงจะใช้สรรพนามบุรษไหนกันแน่ ปนกันหมด เดี๋ยวฉัน เดี๋ยวเธอ เนื้อเรื่องตอนนี้ก็พูดถึงตัวตนของอมราว่าเป็นใครที่ไหนอย่างไร ตอนอื่นๆ ก็คล้ายๆ กันกูขอไม่พูดถึงแล้วกัน

936 Nameless Fanboi Posted ID:H0yWSONoT

วิจารณ์ /ข้อเสนอแนะ: 1. เรื่องการใช้สัญลักษณ์พวกไม้ยมก ไข่ปลา ควรไปศึกษาใหม่ ใช้ให้ถูก 2. การตัดฉากควรจะทำให้ดีๆ 3. ตัวหนังสือเล็กไปควรขยาย 4.ในเมื่อเซตโลกจริงนิยายควรสมจริงกว่านี้หน่อย และสมเหตุสมผลกว่านี้ด้วย (ห้ามบอกว่านิยายไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลนะ กูตบจริงด้วย เซตโลกแบบนี้มันจำเป็นต้องมีไหม) 5.การบรรยายอยู่ในระดับเกือบปานกลาง 6. คำผิดมีบ้าง 7. อินเนอร์ละครหลังข่าวนี่กูไม่ค่อยชอบเท่าไหร่แต่กูไม่ห้ามถ้าจะใส่ลงไป
สรุป : พล็อตเรื่องก็ชิวๆ ไป ไม่ได้หวือหวาหรือน่าสนใจ แต่ถ้ารื้อทำใหม่อาจจะเป็นนิยายที่อ่านได้สนุกๆ คนเขียนทำความรู้สึกเหมือนเป็นนักเขียนใหม่ที่การเขียนกำลังจะพัฒนา สำหรับใครที่ชอบอ่านนิยายแนวพลังจิตไลฟ์สไตล์ก็คงพออ่านได้ (อนาคตอาจจะเวอร์วังอลังการเพราะมีเรื่องมนุษย์ต่างดาวมาเกี่ยวข้อง) แต่กูขอผ่านถึงชอบแต่รู้สึกไม่ค่อยสมเหตุสมผล
คะแนน 4.5/10
ผู้สับ.....โม่งคานทอง

937 Nameless Fanboi Posted ID:m.v5W+VIa

ห้อง ก. ข. ค. มีจริงนะในสมัยก่อน สัก 20-30 ปีที่แล้ว แต่สมัยนี้นิยมใช้เป็นเลขมากกว่า

938 Nameless Fanboi Posted ID:Yc+44BUh4

คานทอง กูเป็นห่วงสุขภาพมึงนะ ดูแลตัวเองดีๆ

939 Nameless Fanboi Posted ID:PPBClVa1I

ถ้ามึงสับหมด list ตรงหัวกระทู้ได้นี่ กูจะคารวะมึงเลยคานทอง(เพราะมีของกูเนียนอยู่ในนั้นด้วย 55555555)

940 Nameless Fanboi Posted ID:H0yWSONoT

>>938 ห่วงกูก็ควรมาช่วยกูสับนะ รวมถึงโม่งคนอื่นๆ ด้วย คือกูสับกูไม่ค่อยได้ความรู้เพิ่มไง เหมือนเอาสิ่งที่กูรู้มาแชร์ ดังนั้นพวกมึงควรสับเพื่อแชร์ให้กูรู้บ้าง
ปล. กูนอนดึก ตื่นสาย ไม่มีแฟน (ตามชื่อ) กูเปลี่ยวววว
>>939 มึงควรจะช่วยกูสับเพื่อลดจำนวนเรื่องในลิสต์ลง สักเรื่องสองเรื่องก็ยังดี

ลงชื่อ โม่งน้อยผู้เฝ้ารอโม่งสับทั้งหลายมาช่วยแชร์ประสบการณ์อย่างอ้างว้างบนคานทองที่ไม่มีทางลงและทางขึ้น

941 Nameless Fanboi Posted ID:NpWjEsgt3

>>923 กุ >>820 >>886 นะ โอ้โห อห ทำไมมันแย่ขนาดนี้วะ เซ็ตติ้งโลกแม่งก็ดูน่าสนใจแท้ๆ ยังไงก็ขอบคุณมึงนะที่ช่วยสับให้

942 Nameless Fanboi Posted ID:9.DrF+RbC

สับมาอีกๆ กุรอ

943 Nameless Fanboi Posted ID:NpWjEsgt3

>>941 เออเพิ่งนึกได้ ส่วนตัวกูว่าพวกรายละเอียดหรือเซ็ตติ้งเรื่อง คนเขียนน่าจะใส่ในตัวนิยายมากกว่าหน้าหลักว่ะ ไม่งั้นมันจะเป็นตรรกะเดียวกับพวกเอารูปตัวละครมาแปะไว้ที่หน้าหลักแล้วไม่อธิบายในนิยายเพราะถือว่าคนอ่านรู้แล้ว กูอยากให้เรื่องพวกนี้เป็นตัวนิยายที่เล่า ไม่ใช่คนเขียน รึถ้าไม่งั้นก็ทำเป็นวิกิของนิยายไปเลย

944 Nameless Fanboi Posted ID:lZBqKvFU5

>>943 ร่างบาง มือบาง ริมฝีปากบาง นิ้วบาง

945 Nameless Fanboi Posted ID:efDZaWxZZ

>>944 ร่างบาง = ผู้หญิง ผอมเพรียว น่าทะนุถนอม

มือบาง = คุณหนู มีชาติตระกูล

ริมฝีปากบาง = ถ้าเป็นผู้หญิงถือว่าเครื่องหน้าสวย แต่แฝงความเอาแต่ใจ ส่วนถ้าเป็นผู้ชายคือตัวโกง

นิ้วบาง = คนเขียนพยายามทำให้ทุกอย่างบางเหมือนสมอง มึงคิดคำคุณศัพท์อื่นไม่ออกรึไงวะ

946 Nameless Fanboi Posted ID:CMnwkivRA

>>945 คนหรือกระดาษ

947 Nameless Fanboi Posted ID:Xx+vZHB0t

สองเรื่องก่อนไม่ได้แปะลิงค์ แปะตอนนี้ทันมั้ย? 555
Corsair's King ปริศนาโจรสลัดสะท้านโลก https://writer.dek-d.com/domemanager13233/story/view.php?id=1547598
Fusei no Seikai https://writer.dek-d.com/Zeitokung/story/view.php?id=1518446
-----
เรื่อง : สาวน้อยเวทมนตร์ ผู้ไร้บ้าน
หมวด : วิทยาศาสตร์
แนว : สืบสวน ที่ตัวเอกเป็นจอมเวท(เขาว่ามางั้น)
ลิงค์ : https://writer.dek-d.com/kunnate18/story/view.php?id=1540287
ตอน : 5 ตอนรวมบทนำ อัพครั้งล่าสุด 23 พ.ย. 59

บทนำ
มีความยาวมากบทนี้ ตั้ง 9 บรรทัดแน่ะ!
Fu*k…
บรรทัดแรกก็พูดบ่นกับตัวเอง บรรทัดที่สองก็บรรยายบ่นกับตัวเอง แล้วก็เป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ สรุปคือสี่บรรทัดจากเก้าเป็นแค่การพูดบ่นเรื่องพลังเวท โดนตามล่า เป็นตัวประหลาดโน่นนี่นั่น หน้าตาตัวละครก็ไม่รู้ บรรยากาศรอบๆนี่ยิ่งไม่รู้ใหญ่ ทั้งบทนำได้ความแค่ว่าต้องทำไม่ให้อดตายแล้วก็เดินอย่างไร้จุดหมายไปบนถนน...
บรรยายยังทื่อๆ แปลกๆอยู่ เว้นวรรคก็ยังมีผิดๆถูกๆ ใช้คำลงท้ายยังไม่ค่อยดี(อารมณ์เหมือนผันเสียงผิด) อย่างเช่น
“อยากเป็นเหมือนคนอื่นจังเลยน่า~”
นั่นล่ะฮะท่านผู้ชม
บทที่1
เริ่มมาที่ประโยคของคุณแม่ที่บอกให้ตัวลูกสาวไปนอน พรุ่งนี้จะไปโรงเรียนใหม่ ตัวเอกก็ตื่นเต้น พูดคุยกับตัวเองอย่าจะเข้ากับเพื่อนได้มั้ย จะหลงทางมั้ย จะหาห้องน้ำได้มั้ย
แล้วก็ตัดฉากมาตอนเช้า คุณแม่ขับรถมาส่งโดยไม่มีเว้นบรรทัดบอกว่าจะตัดฉากสักนิด เมื่อล่ำรากันเสร็จ ตัวเอกก็เดินไปที่ห้องเรียน ป.4/2 พอเข้าไปในห้องก็เห็นแต่ละคนกำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ทุกคนมองมาที่เธออย่างสนใจว่านี่เด็กใหม่เหรอ แล้วคุณครูก็เดินตามเข้ามาแนะนำพร้อมให้เธอแนะนำตัว
ตัวเอก(ชื่อริน)ก็เขินๆเลยพูดเสียงแข็งๆไป เพื่อนก็หัวเราะ ครูก็แซวเรื่องมาสายแต่วันแรก ก็โดนหัวเราะอีก(ไม่ใช่หัวเราะเยาะนะ) แล้วก็ตัดมาตอนเริ่มเรียนวิชาแรก ซึ่งรินก็บรรยายว่าวันแรกเรียนก็เหมือนไม่เรียน
เด็กชื่อน้ำเข้ามาชวนรินเล่นหมากรุกสากล(เรียกกันด้วยคำว่าคุณด้วยนะ อมก.) รินก็บอกว่าเล่นไม่เป็นค่ะ เลยขอให้น้ำสอนเล่น รินก็บรรยายว่าระกว่างเล่นก็คุยกันไป ตัวเองจะเดินแต่ละทีก็คิดหนัก อต่น้ำกลับไม่คิดอะไรเลย แล้วน้ำก็ประกาศรุกฆาต
อันนี้ไม่ได้ตั้งแง่ แค่สงสัยว่าเด็กตัวแค่นั้นเล่นหมากรุกกันเป็นได้ไงฟระ นอกจากวิธีเดินของม้าที่เป็นรูปตัวแอลนี่ก็ทำอะไรไม่เป็นแล้ว 555+
มาต่อๆ รินก็งงว่ารุกฆาตได้ไง น้ำเลยแจงให้ฟัง แล้วรินเลยถามว่าทำไมต้องเล่นอะไรยากๆ ไมไม่เล่นวิ่งไล่จับ นางเลยตอบกลับมาว่าร่างกายอ่อนแอ เล่นไม่ไหว พอพูดจบครูก็พาเด็กๆไปกินข้าว(ฮะ พักเที่ยงแล้ว? ตอนเริ่มเล่นยังชั่วโมงแรกอยู่เลยไม่ใช่เรอะ?)
รินก็บ่นๆในใจกับตัวเองไอ้ระบบระเบียบห้ามคุยห้ามเล่นตอนพักเนี่ย อยากขึ้นมัธยมเร็วๆจัง รินเนี่ยนั่งอยู่ข้างน้ำ เห็นอีกฝ่ายหยิบยาขึ้นมากินก็บ่นกับตัวเองว่าโชคดีจัง แล้วฉากก็ตัดไปตอนกินข้าวเสร็จอย่างรวดเร็วไร้การเว้นบรรทัดอีกแล้วค่ะท่าน
น้ำก็ชวนรินไปอายน้ำ แต่อีกฝ่ายปฎิเสธ แล้วถามว่าทำไมต้องเติมจัง(รินจัง) อีกฝ่ายก็บอกว่ามันน่ารักดี แล้วก็ผละไปอายน้ำ สักพักรินก็ได้ยินเสียงน้ำร้องอ๊ะ เลยวิ่งไปดู บ่นกับตัวเองว่าห้องน้ำชั้นหนึ่งก็มีทำไมต้องขึ้นไปชั้นสองด้วย(เสียงร้องคงดังมาก อยู่ชั้นหนึ่งยังได้ยิน แต่คนอื่นไม่ได้ยินซะงั้น)
ขึ้นไปก็เห็นน้ำโดนคนอื่นรุมอยู่ แต่ไม่รู้จะทำไงดีเลยยืนแอบดู พวกที่รุมก็พูดจาหยาบๆคายๆใส่ มีพูดเรื่องเงินเหมือนพวกไถชาวบ้าน แล้วนางก็เตะเข้าที่หน้าของน้ำ รินเลยออกมาห้าม(แหม ไม่รอให้เพื่อนตายค่อยเข้ามาห้ามล่ะลูก)
พอมีคนโผล่มา หนึ่งในดกร.(เด็ก...ไม่ขอแปลละกัน-0-)ก็เดินมาจิกหัวตบน้องรินคนงามจนล้ม รินรู้สึกว่าตัวเองอยากให้อีกฝ่ายล้มลงมาบ้าง เลยเอื้อมมือออกไป ก็เกิดเสียงดังตูมขึ้น น้ำห้องถล่ม ล่วงลงไปด้านล่าง รินก็รู้สึกจุกแต่ร้องไม่ออก หันไปมองอีกทีเด็ก...ก็ตายจมกองหินไปเรียบร้อย แล้วก็มีเสียงกระซิบว่าเดินหมากผิดนะ ก่อนจะหมดสติไป
(ต่ออันล่าง)

948 Nameless Fanboi Posted ID:Xx+vZHB0t

>>947
บทที่2
รินตื่นมาที่โรงพยาบาล บ่นว่าตัวเองสลบไปนานขนาดต้องให้น้ำเกลือเลยหรือ แล้วก็พยายามนึกว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น ภาพของเด็กที่โดนหินทับเลยฉ่ายขึ้นมา แล้วนางก็ร้องไห้(ร้องด้วยคำว่าหือ...) พยายามบอกตัวเองว่าไม่ได้ทำ แต่ก็เหมือนมีเสียงในหัวบอกว่าหล่อนทำ นางเลยตวาดให้เงียบ แล้วหมอคนหนึ่งก็เดินเข้ามาปลอบ บอกว่าอีกหนึ่งวันรินจะออกจากโรงพยาบาลได้ แล้วต้องไปให้ปากคำที่โรงพัก เกลียดคำที่นางบรรยายว่า จะว่าไปพ่อแม่ฉันไปไหนเนี่ย ทีเวลาแบบนี้กลับหายหัวไปเลย หยาบคาย!(ขำๆนะเธอ -0-)
หมอพานางมาโรงพัก คุณตำรวจคนหนึ่งก็ขอให้นางเล่าเหตุการณ์วันนั้นให้ฟัง แล้วพ่อกับแม่ก็ปรากฏตัวขึ้น รินบรรยายว่าไม่โกรธที่พวกนั้นไม่มา เพราะรู้ว่าไม่ทิ้งก็พอใจ(มองประโยคด้านบนแปป) คุณตำรวจบอกให้กลับได้เลย แต่จู่ๆก็เกิดแรงระเบิดขึ้น รินโดนจับเป็นตัวประกัน แล้วก็ร้องในใจว่าไม่อยากตาย ไม่เอาๆๆๆ อยู่อย่างนั้น แล้วก็มีเสียงปืนดังที่ข้างหู ต่อท้ายด้วยการบ่นว่านี่คือโลกหลังความตายสินะ ว่างเปล่าเหลือเกิน
บทที่3
มาถึงนางก็บ่นว่าที่นี่ที่ไหน มีสายน้ำเกลือแต่ไม่ได้กลิ่นยาฆ่าเชื้อ เลยลุกขึ้นมานั่งอย่างไม่รู้จะทำอะไรดี แล้วก็ตัดมาให้คนชื่อฟ้าบรรยาย(ง่ายงี้เลย?)
ฟ้าเป็นตำรวจมาประจำใหม่ หัวหน้าก็เรียกไปคุยเรื่องภารกิจใหญ่ คือเหตุการณ์ตอนที่นักโทษจับรินมาเป็นตัวประกันเนี่ยผ่านมาสองปีแล้ว ตัวรินหายไปไม่พบศพ แต่คนที่นั่นตายเรียบ ทั้งโดนระเบิด หรือตายแปลกๆอย่างไฟช็อต โดนเหวี่ยง ไฟไหม้ ฟ้าเลยถามว่าถ้าไม่เจอจะทำไง หัวหน้าบอกว่าเจอก็ได้หน้า ไม่เจอก็กลายเป็นคนหายสาบสูญ
สองวันไวเหมือนโกหก ฟ้าหาข้อมูลเกี่ยวกับรินได้หลายอย่าง แล้วก็มีนัดกับเพื่อนตอนเย็น พอไปถึงทั้งชุดเครื่องแบบเพื่อนก็แซว เล้วก็ถามๆกันว่าทำงานที่ไหน เพื่อนคนหนึ่งชื่ออลิซทำงานที่นาซ่า ฟ้าก็บรรยายวบอกว่าไม้แปลกใจเพราะอีกฝ่ายฉายแววฉลาดมาตลอด แล้วก็โม้ไป แล้วก็คุยไร้สาระ เล่นมุกที่ไม่ฮา ทั้งสามก็ได้กินข้าวเสียที แล้วทั้งสามก็คุยกันเรื่องตึกที่ถล่ม(จากเหตุการณ์ในห้องน้ำ) แล้วพวกนางก็ปล่อยมุกที่อ่านแล้วไม่มีความเก็ตสักนิด เพื่อคนนึงเลยบอกให้เปลี่ยนเรื่องหัวข้อสนทนา ก็วนแต่พวกอะไรแปลกๆ ควอนตัม เอกภพ เวทมนตร์ ทิ้งทวนก่อนจบบทด้วยคำว่า
“สาวน้อย เวทมนตร์”(เว้นเพื่อ?)
บทที่4
บทนี้เปิดมาก็กลับมาบรรยายมุมมองนังรินเฉยเลยแฮะ เล่นเอาไปต่อไม่ถูกเหมือนกัน
เปิดมาคือมีคนเดินเข้ามา รินเดาว่าเป็นหมอ แต่อีกฝ่ายเรียกแทนตัวเองว่าครู เขาบอกว่ารินโดนจับเป็นหนูทดลอง ทุกคนตายหมด ถ้าอยากหนีก็ให้บอก แล้วรินก็คิดกับตัวเองว่าพ่อแม่ตายหมดแล้วเหรอ แบบนั้นก็สบายดี(ว๊อท!)ยังไงก็เหลือตัวคนเดียวอยู่แล้ว
รินก็ไม่ได้ตกใจอะไร ว่าแล้วก็ถามๆๆ ครูคนนั้นเป็นชุด พี่แกก็ตอบ ได้ข้อมูลมาว่า ครูคนนี้เคยเป็นครูชีวะ แต่มาทำวิจัยผิดกฎหมาย ชื่อเล่นชื่อปัน สิ่งที่ต้องทำตลอดการอยู่ที่นี่ของรินคือกิน นอน เล่น เรียนประมาณนี้
สองวันต่อมา นางก็ดูการ์ตูนสบายใจ บอกว่าที่นี่มีทุกอย่างครบ ถึงเวลากินก็มีข้าวมาส่ง ถึงเวลานอนก็ปิดไฟตรงเวลา แลกกับต้องคอยทดลองทำอะไรแปลกๆ โดยของวันนี้คือให้ขยับแท่งเหล็ก ซึ่งนางก็ทำได้ แล้วก็เริ่มคิดว่าตัวเองมีเวทมนตร์เหรอ โดยตอนแรกก็บ่นว่าไม่เชื่อ เพราะนี่มันยุควิทยาศาสตร์แล้ว
พอโดนปล่อยกลับมา รินก็เดินคุยมากับครูปัน ครูถามอีกฝ่ายว่าอยู่คนเดียวคงเหงา รินอยากได้เน็ต ครูปันบอกว่าน่าจะยาก เดี๋ยวจะลองขอเบื้องบนให้ แล้วบอกต่อว่ารินต้องเริ่มเรียน ซึ่งนางก็งอแงเล็กน้อย แล้วพอลองเรียนจริงๆกลับรู้สึกสนุกดี นางบอกพยายามไม่สนใจอะไรมาก สนแค่ว่าตอนนี้มีความสุขดีก็พอ
สรุป
บรรยายขาดๆเกินๆ ผ่านมาห้าตอนภาพของตัวเองอย่างรินก็ยังคงเป็นหมอก รู้แค่ว่าเป็นเด็กประถม แต่ไม่รู้ว่าหน้าตารูปร่างเป็นยังไง สิ่งรอบข้างไม่ต้องพูดถึง เหมือนเดินอยู่ในดงหมอกอ่ะ รู้นะว่าเป็นห้อง แต่ห้องยังไงล่ะ? หมอกหนามากกก ใช้การบรรยายเป็นบุคคลที่หนึ่งซึ่งมีการเปลี่ยนสลับคนบรรยายได้งงงันมากๆ ตัวละครก็ไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่ ตัวรินบอกว่าอายุ 10 ขวบ(ตอนล่าสุด 12) ก็ดูโตเกินวัย ไม่มีอารมณ์แบบเด็กประถมเลย คิดหรือทำอะไรก็ดูไร้เหตุผลแปลกๆ พ่อแม่ตาย ช่างมัน โดนจับมาทดลองในสถานที่แปลกๆ ก็สบายดี ว๊อท!?
บทหนึ่งสั้นประมาณ 1-2 หน้า ส่วนใหญ่จะเป็นประโยคสนทนา ไม่ค่อยบรรยาย อะไรๆก็ดูไม่แน่ชัด ช่วงเวลาในนิยายก็ไม่บอกแน่ชัด แต่ดูเหมือนจะเป็นยุคปัจจุบันธรรมดา ตัวหนังสือเล็กไปนิดสำหรับเรา แต่จัดย่อหน้าดี เสียอย่างเดียวคือไม่ว่าจะตัดฉากไปไหน ผ่านไปกี่ปีกี่วัน ไม่เคยมีเว้นวรรคหรือแสดงอะไรให้เห็นเลยนอกจาก...
สองวันต่อมา
ค่ะ...

949 Nameless Fanboi Posted ID:6GudLql81

>>98 มาสะดุดตรงชื่อครูชีวะ แม่ง ชื่อกูไม่ค่อยมีคนใช้ในนิยายเท่าไหร่จากที่เคยเจอมา โป๊ะแตกที่เรื่องนี้ซะงั้น 555

950 Nameless Fanboi Posted ID:6GudLql81

>>948 ดิ

951 Nameless Fanboi Posted ID:7iKS.Mf1q

>>947 สรุปว่าไร้บ้านยังไง?

952 Nameless Fanboi Posted ID:Ig/aYeypr

>>948 คนเขียนคงเลียนแบบนิยายแปลยุ่น ที่มีพูดคนเดียว สลับเป็นคนอื่นพูด....แต่ฝีมือไม่ถึงมั้ง

953 Nameless Fanboi Posted ID:6GudLql81

>>951 ก็พ่อแม่ตายแล้ว ไม่มีบ้านเก่าให้กลับแล้วไง 555 ว่าแต่นี่เด็กป.สี่จริงดิ ลองอ่านบทแรกผ่านๆอ่านแล้วไม่มีภาพอะไรในหัวเลย รู้แต่ชื่อ

954 Nameless Fanboi Posted ID:ZaODujkAu

ky หน่อย กูอยากรู้ว่าเว็บมาสเตอร์รีวิวมันคัดจากอะไรวะ ข้องใจมานาน กูตามอ่านนิยายในรีวิวบางเรื่องคำผิดกระจาย เว็บมาสเตอร์เหมือนไม่ได้อ่านเนื้อหาจริงจังด้วยซ้ำ

955 Nameless Fanboi Posted ID:/BJquguWJ

>>954 คิดว่าอ่านแต่ไม่มีศักยภาพในการคัดกรอง

ลองอ่านบทความ wm ก็รู้แล้วว่าเด็กหัดเขียน แต่ก็ไปว่ามันไม่ได้ คนเก่งเขาก็มีที่ไปของเขา

956 Nameless Fanboi Posted ID:Ig/aYeypr

>>954 ทำไมกูรู้สึกว่า wm แนะนำแต่นิยายแฟนฟิค หรือความรักที่เป็นไปได้ยากวะ

957 Nameless Fanboi Posted ID:ZaODujkAu

>>955 >>956 กูงงตรรกะ wm ตั้งแต่เรื่องดราม่านิยายแปลรอบที่ผ่านมาแล้ว ทำเหมือนคนคิดอะไรไม่ค่อยเป็นว่ะ
อีกเรื่องคือนิยายดีๆ มันมีนะมึง แต่แพ้กระแส โดนกระแสกลบหมด สังเกตดิว่านักเขียนดังแม่งโดนดึงร่วงหมดอะ
ตอนนี้มันคงเป็นยุคของนิยายสองหน้าเอสี่ กูไปอ่านนิยายท็อปของหมวดกำลังภายในมีเรื่องนึงอัพตอนเยอะละนะ แต่เนื้อหาประมาณ 2 หน้าเอสี่ต่อบท กูบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ถูกเลย

958 Nameless Fanboi Posted ID:Ig/aYeypr

>>957 ก็มันเน้นยอดวิวไง คิดดูนะ นักเขียนดังๆ จะแต่งนิยาย 1 ตอน 6-20 หน้า ซึ่งคนคลิกมาดู 100 คนก็ได้ 100 วิว แต่ถ้าหั่นเป็น 2 หน้าต่อตอนก็จะได้ยอดวิว 300-1000 แล้วทีนี้คนก็ไม่ได้มาดูแค่ 100 ไง แต่ละวันยอดวิว 1000 ก็ติดท๊อปรายวันละ พอติดท๊อปก็เข้าถึงผู้อ่านได้ง่ายกว่า ฐานแฟนคลับก็เพิ่ม ต่อให้นักอ่านระดับกลางและสูงไม่โอเค แต่ได้ฐานแฟนคลับนักอ่านระดับล่างมันก็คุ้มละนะ พอแต่งไปสักพักก็บอกจะรีไรท์ก็จะได้แฟนคลับเพิ่มอีก >>>มันคือการตลาดอะจ๊ะ

959 Nameless Fanboi Posted ID:ZaODujkAu

>>958 อ่านนิยายเล่มต่อไป

960 Nameless Fanboi Posted ID:nqEOdUIgd

>>957 ก็ปกติ ตอนนี้เขาไม่ได้แข่งกันที่คุณภาพเท่าไหร่หรอก มันเน้นกันที่ความเร็วทั้งนั้นล่ะ พวกคอนเทนท์ออนไลน์ ข่าวออนไลน์ มันถึงทำพวกนิตยสาร สื่อสิ่งพิมพ์พังกันหมดไง ทำไมต้องรออ่าน นสพ. กรอบเช้ากรอบเย็น ในเมื่อในเฟซบุกมีการอัพเดตข่าวเรียลไทม์จากทุกสำนักข่าว ยิ่งข่าวไหนเป็นประเด็นร้อน พวกเพจดังๆ ก็มักจะเอามาชำแหละ มีเนื้อหาลึกซึ้ง คนวงในวงนอกเข้ามาเสริมเติมแต่งเรื่องกันเต็ม จริงบ้างมั่วบ้างคละกันไป และถึงต่อให้มันเป็นการใส่ร้าย ไอ้พวกที่มาโพสต์ๆ ในเน็ตก็เสี่ยงโดนฟ้องน้อยกว่า นสพ. หรือนิตยสารเยอะ

ทีนี้คนมันก็ชินไงมึง จะเสพอะไรก็เน้นเร็วไว้ก่อน สั้นยาวไม่เกี่ยง ขอให้อัพทุกวันก็แล้วกัน พออัพทุกวัน คนก็เข้าดูมาก พอคนเข้าดูมาก คนก็จะคิดว่ามันสนุกเลยลองเข้าไปดูบ้าง แล้วมันก็ติดท็อป พอติดท็อปคนก็ยิ่งคิดว่าเรื่องนี้โคตรสนุก ก็เลยยิ่งมีคนดูมากขึ้นไปอีก

961 Nameless Fanboi Posted ID:kJCdAuKp.

วิธีแก้ง่ายมาก

บังคับให้แต่งเกิน 5-6-7หน้าA4 ฟร้อนไม่เกิน18 อะไรก็ว่าไป จบ

962 Nameless Fanboi Posted ID:nqEOdUIgd

>>961 จะบังคับยังไงอะ ถ้านับเป็นหน้าแม่งก็เคาะเว้นวรรครัวๆ ได้อยู่ดี หรือถ้าจะนับเป็นตัวอักษร เดี๋ยวมึงได้เจอ ******************************** vvvvvvvvvv >>>>>>>>>>>>> <<<<<<<<<<< จนครบหรอก

963 Nameless Fanboi Posted ID:/K4L67HbK

ดูจะหนักกว่าเดิมอีก...

964 Nameless Fanboi Posted ID:H0yWSONoT

>>962 นับเป็นตัวอักษรก็ได้ เดี๋ยวไอ้พวกที่ทำแบบมึงว่าก็โดนคนอ่านด่าเองแหละ สุดท้ายทนไม่ไหวก็เลิกทำ แต่กูอย่างเสริมคือถ้านิยายเรื่องไหนติดท๊อปอยากให้ทีมงานเด็กดวกเข้ามาสับ มันจะได้รู้ว่าต้องแก้ไขอะไรยังไง ปล่อยไปอย่างนี้มาตรฐานเด็กดวกตกต่ำหมด ถึงไม่รู้ว่าวิธีนี้จะทำให้มาตฐานสูงขึ้นแค่ไหน แต่ 101 มันก็ต้องดี 100 ไม่ใช่เหรอ เพิ่มมาแค่ 1 ก็ยังดีล่ะวะ

965 Nameless Fanboi Posted ID:VUea/nX/e

>>962 กุว่าทำแบบนี้แม่งน่าเกลียดกว่านะ ชิบหาย ใครกล้าทำก็โดนด่าอ่ะ กุบอกเลย

966 Nameless Fanboi Posted ID:+u6KVRTVE

>>964 กี่ตัวอักษดีล่ะ ปกติกูเขียนบทละประมาณ 15,000+ ตัวอักษรอะ

967 Nameless Fanboi Posted ID:du03oQhMM

>>966 4000 ตัวอักษรจะได้ 7-8 หน้า กูว่าประมาณนี้แหละเหมาะสมที่สุดสำหรับลงเว็บ เพราะกูคิดว่าควรปรับตัวเข้ากับยุคใหม่โดยการเน้นการตลาด (เน้นอัพเร็ว)

968 Nameless Fanboi Posted ID:Oelaiizaw

>>967 4,000 คำปะ ถ้า 4,000 ตัวอักษรนี่โคตรน้อยเลยนะ ของกู 16,000กว่าตัวอักษร ได้ 8 หน้า ตกหน้าละประมาณ 2,000 ตัวอักษร ก็ได้แค่ 2 หน้าเองนะ

969 Nameless Fanboi Posted ID:du03oQhMM

>>968 เออ ใช่ๆ โทษที

970 Nameless Fanboi Posted ID:.F31x1tlQ

>>968 ใช้เวลาเท่าไหร่

971 Nameless Fanboi Posted ID:fSfKo3VP4

>>968 เขียนนานไหม?

972 Nameless Fanboi Posted ID:GpXznU+Cl

>>968 มึงใช้อักษรอะไรขนาดเท่าไหร่ กูใช้ Cordia New 14 13,000 คำยังได้เกือบ 20 หน้า แต่กูใส่เชิงอรรถไว้เยอะด้วย

อันนี้กูลำบากใจเหมือนกัน กูติดนิสัยใส่เชิงอรรถเยอะๆ จากสมัยเรียน แล้วกูสร้าง World Building ไว้เยอะด้วย เลยอยากใส่มาให้คนอ่านกัน

แต่เวลาเอามาลงเว็ปมันอ่านลำบากนะสิ ไม่อยากใส่เป็นวงเล็บไว้ท้ายคำด้วย

973 Nameless Fanboi Posted ID:fSfKo3VP4

>>972 นิยายอะไรของมึงมีเชิงอรรถวะ

974 Nameless Fanboi Posted ID:zqftUJfPz

อะ ช่วยน้องเค้าหน่อย
https://www.dek-d.com/board/view/3735763/

975 Nameless Fanboi Posted ID:ONHyaw1Nz

>>974 อ่านคำโปรยละดูน่าสนใจดีนะ

976 Nameless Fanboi Posted ID:E+4R3KkjT

กูว่า ขนาด 16 หรือ 18 กำลังดี 14 มันตัวเล็กไปวะ (กูเคยโดนนักอ่านว่ามา)
ปล. ของกู Angsana 16

977 Nameless Fanboi Posted ID:GpXznU+Cl

>>973 มึงไม่เคยเห็นนิยายมีเชิงอรรถเหรอ

978 Nameless Fanboi Posted ID:E+4R3KkjT

>>974 กูต้องสับแบบโม่งหรือแบบเด็กดวกวะ กูดูจากการตั้งกระทู้แล้วดูน้องบอบบาง กูกลัวสับสไตล์โม่งน้องจะสติแตกจนรับไม่ไหว

979 Nameless Fanboi Posted ID:d1kCEibv3

ไม่ใช่นิยายทุกเรื่องที่จะมีจำนวนหน้าต่อตอนเท่ากันนะมึง ใครจะลงกี่หน้ากูว่าอย่าไปเสือก ถ้านักอ่านมันรับได้ก็คือรับได้อ่ะ

ตอนนี้กูไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนคัดเลือกรีวิว แต่กูเคยเห็นอตินโพสเฟซขอนิยายแนะนำ หรือขอนักเขียนไปสัมภาษณ์ แล้วก็มีคนไปชูมือชูหน้ากันสลอน มันก็ได้คนในนั้นแหละมึง ไม่แปลกใจ ส่วน WM คนอื่น พี่น้ำผึ้งนั้นเพิ่งเรียนจบ นิยายมันติดนักเขียนหน้าใสด้วย (แต่กูอ่านแล้วก็ไม่เท่าไหร่นะ หรือกูไม่ใช่เทสก์แจ่มใสก็ไม่รุ้) เดี๋ยวจะกลายเป็นมู้นินทาไปก่อน กูจะบอกว่าวงการ WM ไม่ใสสะอาด นิยายแนะนำก็เหมือนกัน

980 Nameless Fanboi Posted ID:rEvpkyqzW

>>972 กูทำวิกิของเรื่องเอาว่ะ ใครงงอะไร ไปอ่านวิกิเอาเอง

981 Nameless Fanboi Posted ID:PZeyW9QCX

>>979 เรื่องอะไรเหรอ อยากทดลองอ่านมั่ง

982 Nameless Fanboi Posted ID:FWd7JtgRI

โม่งที่ตั้งกระทู้นี้อยู่มั้ยวะกระทู้จะเต็มแล้ว เดี๋ยวเตรียมทำสารบัญรอไว้เลยนะมึง

983 Nameless Fanboi Posted ID:E+4R3KkjT

https://my.dek-d.com/skyrer/writer/view.php?id=1395823
เรื่องนี้กูไปอ่านมาให้แล้วนะ ที่นางบ่นว่าทำไมไม่มีคนเม้นเลยหลังจากแต่งจบแล้ว....
ปัญหามันไม่ได้ดูที่การเขียนวะ ถึงจะมีบางจุดที่สามารถสับได้ แต่โดยรวมถือว่าโอเค การบรรยายกูว่าดีเกินมาตรฐานเด็กดวกมาก การจัดหน้า คำผิดอะไรก็ดีหมด คำโปรยเรื่องก็น่าสนใจ ถือว่าเป็นนักเขียนคุณภาพคนหนึ่ง....แต่ปัญหาคือเนื้อเรื่องของนิยาย เรื่องนี้มันเป็นแฟนตาซีมุ้งมิ้ง เหมาะกับเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี หรือพวกโลกสวย เพราะเนื้องเรื่องไม่ได้ซับซ้อน และไม่มีเอกลักษณ์ ซึ่งสำหรับวัยรุ่นที่อายุ 16 ปีขึ้นไปจะไม่ค่อยอ่านกัน เพราะอายุประมาณนี้ต้องการหาอะไรที่มันท้าทาย หรือเวอร์วัง ถ้าคนเขียนแต่งเรื่องใหม่ลองแต่งแบบที่มีไซไฟ สงคราม วิทยาศาสตร์ ผสมแฟนตาซีดู หรือจะตามตลาดก็ได้
สำหรับกูคนเขียนยังไปได้อีกไกลวะ เพื่อนโม่งคนอื่นว่าไงบ้างลองอ่านแล้วคอมเม้นท์ดู เพราะส่วนนี้คือความคิดเห็นของกูล้วนๆ
......โม่งคานทอง

984 Nameless Fanboi Posted ID:E+4R3KkjT

ถ้าตั้งใหม่ เอาลิงค์นิยายที่ไม่ได้สับไปแปะด้วยนะ

985 Nameless Fanboi Posted ID:6pOBzEr.E

>>983 พอดีกูเห็นคำว่า วิทยาศาสตร์กับไซไฟ กูเลยมาให้กำลังใจครับ

986 Nameless Fanboi Posted ID:nNu/tF.Ms

>>980 น่าสน ขอบคุณวะ จะลองเอาไปทำดู

987 Nameless Fanboi Posted ID:rEvpkyqzW

>>982 กูทำงานอยู่ เย็นๆ โน่นแหล่ะ ถ้าใครจะทำแทน ช่วยลบนิยายที่สับแล้วออกจาก List ด้วย หรือถ้าขี้เกียจ ก็รอกูมาทำเองตอนเย็นๆ

988 Nameless Fanboi Posted ID:rEvpkyqzW

>>987 กูไปทำกระทู้ใหม่แล้ว เกียมตัววิ่งได้ (รายชื่ออัพเดทตอนเย็น มือถือกูกากทำยากด้วย รอทำในคอม)

989 Nameless Fanboi Posted ID:DHgJ2LtWk

ตรัสสสสสสสสสสสส

990 Nameless Fanboi Posted ID:GpXznU+Cl

ดันๆๆๆๆๆๆๆๆ

991 Nameless Fanboi Posted ID:xcKBHzMQi

ช่วยวิ่งควาย

992 Nameless Fanboi Posted ID:E+4R3KkjT

พวกมึงแต่งแนวไหนกันวะ มีเชิงอรรถด้วย หรือถ้าเป็นแฟนตาซี เป็นแฟนตาซีผสมกับอะไรวะ

993 Nameless Fanboi Posted ID:0snFR4I1d

>>992 โซดาน้ำ

994 Nameless Fanboi Posted ID:E+4R3KkjT

>>993 มุกสามบาทห้าบาทก็เอามาเล่นเนาะ -*-

995 Nameless Fanboi Posted ID:iiOfcoAp7

>>993 ....

996 Nameless Fanboi Posted ID:iiOfcoAp7

ช่วยคุยเรื่องมีสาระก่อนกระทู้ปิดด้วย

997 Nameless Fanboi Posted ID:E+4R3KkjT

กระทู้ใหม่เสร็จยังอะ อย่าลืมเอาประวัติศาสตร์ของกระทู้ลงด้วยนะ

998 Nameless Fanboi Posted ID:0snFR4I1d

https://my.dek-d.com/pondog1234/writer/viewlongc.php?id=887392&chapter=1

999 Nameless Fanboi Posted ID:XPREQ6AsY

>>992 แฟนตาซีไซไฟ สืบสวนไซไฟ ประมาณนี้อะนะ

1000 Nameless Fanboi Posted ID:mCd3Yracw

>>998 ชาตินี้จะจบไหม

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.