ผมอยู่เป็นเพื่อนคุณคิโชวอินจนเธอหลับ ตรงกับเวลาที่นายหญิงคิโชวอินกลับมาจากการเข้ารับการบำบัดยาของพี่ชายคุณคิโชวอินพอดี
“ขอบคุณที่ดูแลลูกสาวของดิฉันค่ะ ท่านเอ็นโจว” เธอพูดกับผม ลักษณะท่าทางของเธอแตกแต่งกับที่เคยพบในงานเข้าสังคมที่ผ่านมา
สง่ากว่าเดิม แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม
“ไม่ต้องขอบคุณหรอกครับ” ผมยังคงกุมมือเล็กๆของคุณคิโชวอินไว้ ท่านแม่ของคุณคิโชวอินยิ้มให้ผม
“รู้ไหมคะ ว่าฉันถูกปฏิเสธคำขอบคุณจากคนสองคนเลยล่ะจ๊ะ”
“ครับ?” ผมค่อนข้างแปลกใจกับคำพูดของคุณนายคิโชวอิน
“ลูกสาวกับลูกชายฉันช่างโชคดีจริงๆ ที่ได้พบพวกคุณ”
“ขอบคุณครับ” เราสองคนต่างมองกันแล้วยิ้มให้กัน
“เรย์กะจังเข้มแข็งมากใช่ไหมจ๊ะ” คำเรียกชื่อคุณคิโชวอินทำให้ผมค่อนข้างแปลกใจ เมื่อก่อนตอนร่วมงานผมมักจะได้ยินเธอเรียกลูกของตัวเองด้วยคำว่าคุณตลอด
“ครับ เธอเข้มแข็งมาก” ผมตอบ กระชับมือแน่นขึ้น”และอ่อนโยนยิ่งกว่าใคร
เธอพยายามทำตัวร่าเริงผมรู้ เธอไม่อยากทำตัวเป็นภาระให้คนกังวลผมก็รู้
ผมเฝ้ามองเธอมาตลอดตั้งแต่เด็กจนกระทั่งตอนนี้
ไม่มีทางที่ผมจะไม่รู้
“เดี๋ยวผมมีธุระต้องไปจัดการต่อ รบกวนคุณนายคิโชวอินต่อด้วยนะครับ”
“เป็นหน้าที่ของคนเป็นแม่อย่างฉันอยู่แล้วค่ะ” เธอก้มศีรษะให้ผมเล็กน้อย แล้วเดินมานั่งข้างเตียงของคุณคิโชวอิน ผมบอกเธอเล็กน้อยว่าควรให้มีคนอยู่ข้างกายคุณคิโชวอินสักคน ห้ามปล่อยเธอทิ้งไว้คนเดียว เพราะเธอหวาดหลัวมาก ท่านแม่ของคุณคิโชวอินรับคำผม บอกว่าจะติดต่อเพื่อนๆมาให้อยู่เป็นเพื่อนตอนตนต้องไปทำธุระ
ผมจึงวางใจและขอตัวลา
“คำว่าคุณนายคิโชวอิน ออกจะห่างเหินไปสักนิด” ท่านแม่ของคุณคิโชวอินพูดขึ้นทำให้ผมที่กำลังออกจากห้องไปชะงักหันกลับมามองเธอ เธอยิ้มให้ผม รอยยิ้มที่งดงามเหมือนลูกสาวของเธอ
“เรียกฉันว่าแม่ก็ได้นะจ๊ะ” พูดเสร็จเธอก็ปิดปากหัวเราะ ผมเองก็หัวเราะตอบ
“ครับ ท่านแม่”