Last posted
Total of 1000 posts
งานการไม่ทำ นั่งเขียนฟิค >>817-820
ปวดหัวจัง คลื่นไส้ด้วย คอแห้งด้วย ใครก็ได้ไปเอาน้ำมาให้หน่อยสิ
แล้วใครทำเสียงอะไรน่ะ มันรบกวนการพักผ่อนของฉันนะ หยุด หยุด หยุดเดี๋ยวนี้นะ
บอกให้หยุด ไม่รู้เรื่องรึไง คิดจะท้าทายคิโชวอิน เรย์กะคนนี้งั้นเหรอ
.
.
.
เมื่อลุกพรวดขึ้นมาจากที่ที่กำลังนอนอยู่ อาการปวดหัวก็แล่นคืบคลานมาทำร้ายในทันที มองไปรอบๆเห็นผนังกระเบื้องที่รายล้อม ผ้าที่คลุมตัวเลื่อนหลุดไปกองกับพื้น ฉันหลับอยู่ในห้องน้ำงั้นรึ
ท้องไส้เบื้องล่างปั่นป่วนเหมือนมีอะไรพยายามดันตัวออกมา กลายเป็นความผะอืดผะอมจนต้องเอามือปิดปาก ในหัวคิดได้แค่ว่าต้องเอาออกไปให้เร็วที่สุด
ฉันตะเกียกตะกายคลานไปที่ชักโครก อะไรที่อยู่ข้างในก็ปล่อยออกมาเสียหมด รู้สึกเหมือนโลกกำลังคว่ำลงไปจนรู้สึกวิงเวียนไม่มีเรี่ยวแรง อยากได้น้ำสักแก้ว
“เอ้า นี่” แก้วใสบรรจุน้ำยื่นมาตรงหน้าตามคำขอ ตามด้วยมือที่ลูบหลังฉันเบาๆ พร้อมกับเสียงที่เคยคุ้น “ไหวรึเปล่า คุณคิโชวอิน”
เสียงนี้มัน เอ็นโจ ชูสุเกะไม่ใช่เหรอ
ฉันหันขวับไปมองก็เห็นเอ็นโจ ชูสุเกะในระยะประชิด ใบหน้านั้นมีรอยยิ้มน้อยๆที่ดูน่ารังเกียจเหมือนเคย ในหัวฉันมีแต่คำถามว่าทำไมเอ็นโจถึงได้มาอยู่ที่นี่ แล้วที่นี่มันที่ไหน ไม่ใช่บ้านของฉันสักหน่อย แต่อาการปวดหัวก็ทำให้ฉันคิดอะไรไม่ออกเลยสักอย่าง อยากอาเจียนอย่างเดียว
หลังจากไม่มีอะไรให้ออกอีกต่อไปแล้ว เอ็นโจก็ประคองฉันมานั่งที่โซฟา ฉันพยายามจะมองไปรอบๆก็ยิ่งงุนงงหนักเข้าไปใหญ่
“แมนชั่นผมเอง” เอ็นโจตอบเหมือนจะรู้คำถามในใจฉัน “เมื่อคืนคุณเมาหลับไปตรงสวนสาธารณะ ทิ้งไว้แบบนั้นมันอันตราย ผมไม่รู้ว่าคุณพักอยู่ตรงไหน ก็เลยต้องพามาที่นี่ก่อน”
พอฉันก้มมองตัวเองใส่เสื้อเชิ้ตที่ตัวใหญ่กว่าฉันพอสมควร ไม่ใช่เสื้อผ้าที่ใส่เมื่อคืน เอ็นโจก็พูดต่อ
“ส่วนเรื่องเสื้อผ้าน่ะ คุณคายของเก่าใส่ตัวเอง ผมเลยต้องเปลี่ยนให้ ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีอะไรหรอกนะ”
“ขะ ขอบคุณค่ะ” ฉันตอบด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ฟังดูน่าเกลียดพิกล เหมือนยายแก่เลย
“เอ้านี่ น้ำ” เอ็นโจรินน้ำจากเหยือกให้ฉัน “รู้สึกเมื่อคืนคุณจะใช้เสียงมากไปหน่อย แต่ก็เล่นร้องเพลงทั้งคืนเลยนี่นะ”
“อะไรนะคะ” ฉันอ้าปากค้าง “ฉันเนี่ยเหรอ”
“ใช่ แถมร้องโอเปร่าซะด้วย” เอ็นโจยิ้มบางๆ “เจ้าหญิงหงส์ขาวกับทูรันโดต์ออกมาร่ายรำทั้งคืนเลยล่ะ”
ว่าไปก็จำได้ว่าร้องเพลง แต่พอพยายามจะนึกก็ปวดหัวขึ้นมาเลยเลิกนึก ดูท่าทางเอ็นโจก็คงไม่ได้แกล้งอำเล่นเสียด้วย
หมอนี่ไม่เคยพูดล้อเล่นกับฉันอยู่แล้ว เจอหน้ากันทีไรก็มีแต่ความเกลียดชังแผ่ออกมาทุกที
“ขอบคุณที่ช่วยฉันไว้ แต่ช่วยไปก็ไม่มีอะไรตอบแทนให้หรอกนะคะ” ฉันลุกขึ้นยืน แม้จะรู้สึกวิงเวียน แต่พอได้อาเจียนไปบ้างแล้วก็พอไหว “ฉันต้องขอตัวกลับล่ะค่ะ รบกวนท่านเอ็นโจมากเกินไปแล้ว”
“ชุดคุณยังไม่แห้งเลย คุณคิโชวอิน” เอ็นโจลงมือผูกเนคไท “ผมเพิ่งให้ร้านซักรีดมาเอาไปเมื่อกี้นี้เอง แต่ถ้าคุณอยากจะออกไปในสภาพนั้นจริงๆก็ไม่ได้ว่าอะไร”
ฉันในตอนนี้มีแค่เสื้อเชิ้ตผู้ชายตัวเดียวติดตัวอยู่ นี่แปลว่าฉันอยู่ในสภาพนี้กับเอ็นโจทั้งคืนเลยงั้นเหรอ
อยู่ในสภาพไม่เรียบร้อยกับผู้ชายสองต่อสอง ถ้าท่านแม่รู้เข้าคงตำหนิฉันอย่างรุนแรงไปแล้ว
“ผมมีเรียนช่วงเช้า เดี๋ยวตอนบ่ายๆจะกลับมาใหม่ เอาไว้ค่อยคุยกัน” เอ็นโจคว้าเสื้อคลุมขึ้นมาใส่ หยิบกุญแจห้องกับกุญแจรถออกไป “ของกินมีในตู้เย็น อยู่คนเดียวก็ทำตัวดีๆล่ะ”
ทำตัวดีๆ นั่นหมายความว่ายังไงน่ะหา
เอ็นโจออกจากห้องไปแล้ว ฉันเลยล้มตัวลงนอนต่อที่โซฟา รู้สึกปวดเมื่อยเนื้อตัว แถมยังปวดหัวอย่างทุกข์ทรมาน ไม่น่าดื่มเลย
หลังจากสัมภาษณ์งานและแสดงความสามารถไปนิดๆหน่อยๆ โอก้าซังของที่นั่นก็แทบจะอุ้มฉันเข้าร้านอยู่แล้ว แต่ฉันขอเวลาเริ่มงานเป็นสัปดาห์หน้า ให้เวลาฉันทำใจก่อนที่จะต้องยอมรับว่าตัวเองจะเข้าสู่ทางสายนี้จริงๆ
ตระกูลคิโชวอินที่มีประวัติอันสูงส่งและยาวนาน พังพินาศเพราะฉัน
สัปดาห์แรก เราโดนไล่ออกจากบ้าน บ้านที่ฉันอยู่มาสิบเจ็ดปีถูกยึดทรัพย์กลายไปเป็นของคนอื่น ท่านแม่ร้องไห้มากเสียจนฉันนึกว่าที่ตรงนี้จะกลายเป็นทะเลน้ำตาไปเสียแล้ว
แต่ฉันเองก็ร้องไห้ด้วยเช่นกัน
เราสองคนแม่ลูกยืนกอดกันร้องไห้ มองดูบ้านของเราที่มีคำสั่งศาลให้ยึดทรัพย์ มีสายตาของเพื่อนบ้านที่มองมาอย่างสมเพชและซุบซิบนินทากันอย่างสนุกปากที่ตระกูลคิโชวอินล่มจมลงไป
ท่านพี่ที่อายุมากกว่าฉันเจ็ดปี ลอยตัวผ่านปัญหานี้ไปได้อย่างงดงาม แต่ไหนแต่ไรมา ท่านพี่ก็มักจะไม่ยอมมาข้องเกี่ยวกับฉัน ท่านแม่ หรือท่านพ่ออยู่แล้ว เมื่อไปทำงานที่บริษัทก็ไม่เคยเห็นด้วยกับท่านพ่อจนทะเลาะทุ่มเถียงกันหลายครั้งหลายหน ทำให้ท่านพ่อขัดใจและไม่เคยสบายใจในตัวเขา
ฉันเคยคิดว่าเขาน่ะเป็นแกะดำของบ้าน ไม่สามารถเข้ากับใครได้เลย และดูท่าทางเขาก็เกลียดฉันที่เป็นน้องสาวแท้ๆของเขาเอง เราสองคนคุยกันครั้งหนึ่งถ้าไม่จบลงด้วยการทะเลาะก็เป็นการทักทายอย่างเย็นชาห่างเหิน จนในที่สุดเราก็เหมือนคนแปลกหน้าของกันและกัน ไม่ใช่พี่น้องอย่างที่ควรเป็น
วันที่เราไม่เหลืออะไรเลย ท่านพี่แค่ยืนมองดูอยู่เงียบๆ ปลอบใจท่านแม่ด้วยประโยคสั้นๆ แล้วบอกว่าจะหาทางแก้ไขให้เร็วที่สุด ท่านพี่มีห้องที่เช่าไว้อยู่ก่อนหน้านี้ ให้ท่านแม่และฉันไปอยู่ด้วย แต่ท่านแม่ผู้งดงามของฉันไม่อาจจะทนอยู่ในที่แคบๆเช่นนั้นได้ จึงตัดสินใจพาฉันมาพึ่งพิงญาติที่เกียวโตอันเป็นบ้านเดิมก่อนแต่งงานกับท่านพ่อ
แน่นอนว่าท่านพี่ไม่ได้รั้งพวกเราไว้ ดูโล่งใจเสียด้วยซ้ำที่พวกเราไปให้พ้นจากชีวิตของเขาได้
ฉันกับท่านแม่ผู้ทำให้ตระกูลคาบุรากิโกรธเคืองนั้นเป็นตัวปัญหาของเขา ไม่ว่าใครที่อยู่ในวงการธุรกิจก็ไม่อยากมีปัญหากับตระกูลคาบุรากิด้วยกันทั้งนั้นล่ะ การที่บ้านเราเป็นแบบนี้ ท่านพี่ที่กันตัวเองไปอยู่วงนอกอาจจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วก็ได้
แต่ฉันทำไม่ได้ ฉันทิ้งท่านแม่ไม่ได้
ท่านแม่ผู้งดงามของฉันเปลี่ยนไป จากสาวสังคมผู้กระฉับกระเฉง ก็เอาแต่นั่งอยู่บนเก้าอี้โยก มองไปนอกหน้าต่าง มองออกไปที่ไกลแสนไกล ซึ่งคงจะเป็นอดีตอันรุ่งโรจน์และหอมหวาน
ญาติที่เรามาอาศัยก็ดูเหมือนไม่ค่อยอยากต้อนรับท่านแม่และฉันสักเท่าไหร่ สมัยที่พวกเรายังเฟื่องฟู คนพวกนี้น่ะแทบจะหมอบคลานเทิดทูนฉันเป็นดั่งเจ้าหญิง แต่พอตกต่ำเข้าหน่อยก็ชิงชังรังเกียจ ใจจริงของคนพวกนี้น่าขยะแขยงสิ้นดี
ฉันลุกขึ้นมาอีกครั้งในวันที่ร้องไห้จนไม่มีน้ำตาอีกต่อไปแล้ว ฉันจะเอาคืนคนที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้ ฉันเกลียดทุกคน อยากให้พวกมันหายไปจากโลกนี้ให้หมด เกลียด เกลียด เกลียด
แต่ฉันเป็นแค่เด็กสาวโง่เง่า ไม่มีเงิน ไม่มีอำนาจ หนทางที่จะจัดการคาบุรากิ มาซายะช่างยากเย็นเต็มทน
ฉันเฝ้าครุ่นคิดวิธีการมากมายแล้วในที่สุดก็นึกออก
ไหนๆก็ไม่เหลืออะไรแล้ว ก็ใช้ตัวเองเข้าแลกซะสิ
ฉันขายข้าวของที่พอจะเหลืออยู่แล้วมุ่งหน้าเข้าโตเกียว สัญญากับท่านแม่ว่าจะทวงทุกอย่างคืนมา มองหาห้องเช่าที่ราคาพอจ่ายไหว สภาพนั้นน่าอเนจอนาถใจจนฉันเกือบจะหลั่งน้ำตาออกมาอีกรอบ คิโชวอิน เรย์กะ ผู้งดงามดั่งบุปผาตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ช่างน่าสมเพช
แต่ฉันสาบานกับตัวเองไว้แล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นฉันจะไม่ร้องไห้
ฉันเสียน้ำตาไปมากเกินพอแล้ว และพวกมันต้องชดใช้กลับคืนมาให้ฉันอีกร้อยเท่าพันเท่า
ฉันไปสมัครงานที่ร้านเกอิชาแห่งหนึ่งที่ท่านพ่อเคยพาลูกค้าไปเลี้ยง ร้านนั้นเป็นร้านชั้นสูง ราคาแพงลิบลิ่ว มีนักการเมืองระดับสูงและเศรษฐีมากมายที่เป็นลูกค้า ฉันอาจจะหาใครซักคนที่พอจะช่วยเหลือฉันทำลายตระกูลคาบุรากิได้จากในนั้น
ฉันใช้นามสกุลของแม่ ไม่มีใครรู้ว่าคิโชวอิน เรย์กะได้กลับมาโตเกียวแล้ว
อาทิตย์หน้าต้องเริ่มงาน ฉันก็เลยซื้อเหล้ากับเบียร์จากตู้กดน้ำอัตโนมัติมาดื่มเพื่อให้ชินกับเหล้า เป็นรสชาติราคาถูกที่ฉันต้องเบ้ปาก แต่ดื่มไปดื่มมาก็รู้สึกดีขึ้นมาบ้างเหมือนกัน ทั้งตัวเบาสบายเหมือนล่องลอย ไม่ต้องคิดอะไรให้มันหนักหัว
ฉันนึกครึ้มใจ ก็เลยเริ่มร้องเพลงในสวนสาธารณะ แต่ดึกป่านนี้ก็ยังมีผู้ฟังที่ไม่ได้รับเชิญเข้ามาฟังด้วย
เอ็นโจ ชูสุเกะ ปรากฎกายขึ้นมาเงียบเชียบอย่างกับภูตผี ฉันไม่รู้ว่าเขามาที่นี่ได้อย่างไร แต่เมื่อก่อน ไม่ว่าฉันจะอยู่ที่ไหนก็มักจะเห็นเขาอยู่เสมอ
ปกติฉันมักจะหลบเลี่ยงเอ็นโจ เพราะเขาชอบมองฉันด้วยสายตาดูหมิ่นดูแคลนที่ใกล้ชิดกับคาบุรากิ มาซายะเพื่อนของเขามากเกินไป จนบางครั้งเขาถึงกับด่าฉันเจ็บๆแสบๆเพื่อให้ได้อาย เขาคอยสนับสนุนเพื่อนของเขากับผู้หญิงคนนั้น ทาคามิจิ วาคาบะ ที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด
และวันที่ฉันถูกทำลายในงานหมั้น เขาก็ยืนมองดูอยู่เงียบๆ แววตานั้นเย็นชาจนน่ากลัว มองฉันด้วยความรังเกียจเหมือนเป็นสิ่งไม่พึงประสงค์ที่ทำให้รองเท้าเขาแปดเปื้อน
ถ้าเป็นปกติฉันคงจะเดินหนีไปแล้ว แต่คงเพราะความมึนเมา ฉันก็เลยกล้าต่อปากต่อคำกับเขา
คิดว่าเขาคงมาสมน้ำหน้าในชะตากรรมของฉัน ก็เลยเล่าเรื่องเพื่อจะได้ฟังดูน่าสมเพชมากยิ่งขึ้นไปอีก เอาเลยสิ สมน้ำหน้าฉันสิ เหมือนกับที่ทุกคนทำ อย่ามาใส่หน้ากากคนดีมีเมตตาเข้าหาฉันแบบนี้ มันน่าขยะแขยง
เอ็นโจเริ่มต้นเทศนาฉันเหมือนเคย แต่พอฉันแหย่กลับไปว่าแอบชอบฉันอยู่รึยังไง เขาก็ดูโกรธขึ้นมา
ไม่มีอารมณ์ขันเอาซะเลย
ฉันเริ่มจะมึนหัว ง่วงและอยากนอน แต่จะให้เดินกลับตอนนี้ก็ไม่ไหว ก็เลยไล่เขาหนีไปให้พ้นๆ คิดจะปิดตางีบเอาแรงซักสิบนาทีแล้วค่อยเดินกลับที่พัก แต่ลืมตามาอีกทีฉันก็ได้มาอยู่ในแมนชั่นของเอ็นโจแล้ว
นอกจากเสื้อที่สวมอยู่ ลองสำรวจเนื้อตัวก็ไม่ได้มีอะไรบุบสลาย นับว่าเอ็นโจเป็นสุภาพบุรุษใช้ได้ ที่ไม่ฉวยโอกาสตอนผู้หญิงเมาและอ่อนแอ แต่อย่างเอ็นโจคงไม่จำเป็นที่จะต้องฉวยโอกาสอะไรนี่หรอก
ฉันหลับไปอีกหน ตื่นมาอีกทีนาฬิกาก็บอกเวลาบ่ายสองโมงแล้ว ท้องที่ว่างเริ่มส่งเสียงประท้วงให้หาอาหารใส่ เอ็นโจบอกว่ามีของกินอยู่ในตู้เย็น เป็นแซนด์วิซแฮมที่เอาแรพพลาสติกห่อไว้
อร่อย
หลังจากต้องทนกินอาหารแช่แข็งสำเร็จรูปลดราคามาหลายเดือน ลิ้นฉันที่คุ้นเคยกับวัตถุดิบชั้นดีมากมาย พอได้กินของดีๆอีกครั้งก็รู้สึกโหยหา รู้ตัวอีกทีก็หมดเกลี้ยง
พอล้างจานเสร็จสิ้นก็ไม่มีอะไรทำ ฉันเลยเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า ถือวิสาสะหยิบผ้าเช็ดตัวและเสื้อผ้าที่ดูแล้วน่าจะพอใส่ได้ เดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ ครีมอาบน้ำและแชมพูก็เป็นของชั้นสูงทั้งนั้น ฉันนอนแช่อ่างอาบน้ำอย่างสบายอารมณ์ นึกถึงวันคืนเก่าๆ
ห้องเอ็นโจไม่มีที่ม้วนผม ฉันก็เลยปล่อยให้ลอนมันคลายตัวออก เป่าผมให้แห้งเพียงอย่างเดียว ที่จริงฉันก็ไม่ได้เข้าแฮร์ซาลอนมานานมากแล้ว ผมเริ่มแตกปลายขาดการบำรุง คนรักสุขภาพผมอย่างฉันก็ได้แต่ทุกข์ทรมานใจที่ต้องปล่อยให้มันเป็นไปเช่นนั้น
เดินก็แล้ว นั่งก็แล้ว เปิดทีวีฆ่าเวลาก็แล้ว เอ็นโจที่บอกว่าจะกลับมาตอนบ่าย แต่ตอนนี้เกือบหกโมงเย็นก็ยังไม่เห็นวี่แวว ฉันเริ่มหงุดหงิดเพราะอยากไปจากที่นี่เต็มแก่ ถึงแมนชั่นนี้จะหรูหรางดงามสักแค่ไหน ฉันก็ไม่อยากอยู่เพราะมันเป็นพื้นที่ของเอ็นโจ ชูสุเกะคนนั้น
เหมือนรู้ว่าบ่นถึง เพราะเอ็นโจก็กลับมาพอดี หอบหิ้วของพะรุงพะรังมาด้วย สายตาเขามาหยุดที่เสื้อที่ฉันใส่ ฉันก็รีบค้อมหัวลง
“ขออภัยท่านเอ็นโจนะคะ พอดีฉันอาบน้ำแล้วไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยนก็เลย...”
“ไม่เป็นไรหรอก” เอ็นโจว่าอย่างนั้น แล้วก็เอากล่องสีเหลืองทองให้ฉัน มีริบบิ้นคาดปิดผนึกเป็นลายโลโก้ร้านซักรีดชั้นสูงที่ฉันรู้จัก “นี่ชุดของคุณ ซักเรียบร้อยแล้ว”
“ต้องขอบพระคุณมากค่ะ”
ฉันรับเสื้อผ้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำ พอออกมาก็เห็นเอ็นโจกำลังแกะอาหารจากกล่องใส่จานอยู่ ฉันไม่คิดจะรบกวนเวลารับประทานอาหารของเขา จึงคว้ากระเป๋าที่จัดเก็บของเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้วขึ้นมา ค้อมศีรษะกล่าวคำอำลา
“จะไปแล้วเหรอ” เอ็นโจเลิกคิ้วขึ้น “ไม่หิวรึไง”
“ไม่กล้ารบกวนท่านเอ็นโจมากไปกว่านี้แล้วล่ะค่ะ”
แต่ท้องไม่รักดีของฉันดันส่งเสียงโครกครากออกมาให้เป็นที่ขายหน้า อันที่จริงฉันก็หิวตั้งแต่ได้กลิ่นอาหารแล้วล่ะนะ ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆจากเอ็นโจ แต่คิดว่าคงหูแว่วไปเองมากกว่า เอ็นโจน่ะไม่เคยหัวเราะให้ฉันเห็นแม้แต่ครั้งเดียว
“มานั่งสิ ของมีตั้งเยอะ ผมคนเดียวทานไม่หมดหรอก” เอ็นโจนั่งลงบนเก้าอี้หัวโต๊ะ อีกที่ข้างๆกันมีจานกับช้อนส้อมจัดไว้เรียบร้อย
เมื่อหลายสัปดาห์ก่อนที่ฉันหิวจนไส้แทบขาดเพราะไม่มีเงินซื้ออาหาร ก็ได้รู้ว่าศักดิ์ศรีไม่ทำให้ท้องอิ่ม คิดดังนั้นฉันก็เลยเดินเข้าไปนั่ง ถือซะว่าประหยัดค่าอาหารไปอีกมื้อ
“ขอโทษที วันนี้คลาสเลิกช้ากว่าที่คิดก็เลยกลับมาช้าไปด้วย” เอ็นโจเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ “คุณคงหิวแย่สินะ ทานให้เยอะๆเลยก็แล้วกัน”
“ต้องขอบพระคุณสำหรับแซนด์วิชด้วยนะคะ” ฉันค้อมหัวลงแล้วลงมือทานต่อ แต่ตาลอบมองเอ็นโจอย่างพิจารณา และเอ็นโจก็คงรู้ตัวว่าถูกมองอยู่ก็เลยถามขึ้น
“มีอะไรงั้นเหรอ คุณคิโชวอิน”
“ฉันสงสัยค่ะ” ฉันตอบไปตามที่คิด “ว่าท่านเอ็นโจมีจุดประสงค์อะไรกันแน่ มาทำดีกับฉันที่เป็นศัตรูของเพื่อนคุณทำไม น่าจะปล่อยฉันไว้ตรงนั้นเหมือนเดิม”
“แค่ไม่อยากอ่านข่าวว่ามีผู้หญิงถูกคนโรคจิตฆ่าในสวนสาธารณะน่ะ” เอ็นโจตอบพร้อมกับรอยยิ้ม “โดยเฉพาะข่าวคนรู้จักตายมันทำให้หดหู่พอสมควรเลยนะ”
“งั้นเหรอคะ” ฉันพยักหน้า “แต่ถ้าฉันตาย อะไรๆก็คงดีกว่านี้ไม่ใช่หรือคะ เพื่อนคุณก็จะได้ไม่ต้องระแวงว่าฉันจะกลับไปแก้แค้นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน”
เอ็นโจเหยียดยิ้มออกมา รอยยิ้มนี้ดูน่ารังเกียจอีกแล้ว
“คุณคิโชวอิน คุณน่ะคิดว่ามาซายะจะเห็นความสำคัญของคุณขนาดที่ต้องระแวงเชียวรึ สำคัญตัวผิดเกินไปรึเปล่า” สายตาเขาก็ดูสมเพชเวทนา “แล้วคุณจะทำอะไรได้ มีปัญญางั้นเหรอ”
“ตอนนี้ยังไม่มี แต่อนาคตก็ไม่แน่นอนไม่ใช่รึไงคะ” ฉันตอบเสียงราบเรียบ นี่สิ เอ็นโจที่ฉันรู้จักน่ะเป็นแบบนี้ “คุณก็ควรระวังไว้บ้าง ตกมาจากที่สูงน่ะมันเจ็บนะคะ”
“นั่นสินะ ผมจะระวังไว้ก็แล้วกัน” เอ็นโจพยักหน้า “แต่ว่าตอนนี้มาซายะคงไม่มีเวลาระแวงคุณหรอก คุณคิโชวอิน เพราะเทียวไปรับไปส่งคุณวาคาบะอยู่แทบทุกวัน รักกันหวานชื่นจนน่าหมั่นไส้เลยล่ะ”
“งั้นเหรอคะ”
รสชาติอาหารกร่อยไปในพริบตา และความเงียบก็เข้าครอบงำจนรู้สึกอึดอัด ก่อนไปฉันล้างจานให้เป็นการตอบแทนที่เลี้ยงอาหารมื้อนี้ เอ็นโจยืนมองฉันเงียบๆ ไม่ได้รั้งอะไรเอาไว้
ฉันก้าวขาออกมาจากแมนชั่นนั้น สิ่งที่กักเก็บไว้มาตลอดก็พรั่งพรูออกมาในรูปแบบของน้ำตา ฉันสาบานว่าจะไม่ร้องไห้อีกต่อไปแล้ว แต่เอ็นโจก็ทำให้ฉันผิดคำสาบานจนได้
ผู้ชายคนนี้ก็เป็นแบบนี้เสมอ สายตาเหยียดหยาม คำพูดทิ่มแทง ขุดเอาส่วนที่เป็นจุดอ่อนของฉันออกมาเหยียบขยี้แบบไร้เมตตา น่าแปลกที่ฉันคิดว่าหัวใจด้านชาไปแล้ว ที่มีอยู่ก็คือความแค้นและความเกลียดชัง แต่พอได้ยินจริงๆกลับเจ็บจนทนแทบไม่ไหว
ฉันยังรักคาบุรากิ มาซายะอยู่
สองมือของฉันปาดน้ำตาตัวเองที่ไหลออกมาไม่หยุดหย่อน
ตอนนี้ฉันไม่รู้แล้วว่า ควรจะเกลียดใครมากกว่ากันระหว่างคาบุรากิ มาซายะ หรือเอ็นโจ ชูสุเกะ
----------------------
กับงานว่องไวแบบนี้รึเปล่าคะ ก็ไม่ค่ะ ถถถถถถถถถถถถถถถ
>>881-834 โอย Kimi dolce แบบฉบับดั้งเดิมนี่คือดี ทำไมตัวละครดูเป็นผู้เป็นคนดีจัง นี่คือสภาพที่ควรเป็นก่อนถูกท่านเรย์กะ (กลับชาติมาเกิด) ทำให้เสียของสินะ ดูสภาพนางแบบนี้ก็น่าสงสารอยู่ ทำนองลูกคุณหนูหยิ่งในศักดิ์ศรี แข็งแต่เปราะเหมือนแก้ว ...แต่ปล่อยผมสบายๆ แบบนี้น่าจะสวยกว่าเกลียวแข็งเป็กแน่นอน... รอมึงมาต่อนะ เลิฟๆ
ถ้าฮิโยโกะเซนเซย์คึกเขียนภาคkimi dolce มา กุคงรับความจริงไม่ได้หนีไปอ่านวันๆของเรย์กะดีกว่า
แบดเอ็นตอนที่ 3 กูแต่งเสร็จแล้วนะ แต่เน็ตเน่ามากอาจลงช้าหน่อย อีกสักพักจะมาลงนะพวกมึง ;-;
คิดว่าน่าจะ ห้าตอนจบ ที่เหลือใครจะต่อแล้วแต่ศรัทธา 5555
>>723 ต่อ
เรย์กะ เดอะซีรี่ย์ Bad End ไงจะใครล่ะ
ตอนที่ 3
ทาคาเครุ part
สภาพอารมณ์ของน้องสาวเหมือนจะดีขึ้นมาก
เมื่อวานหลังจากที่เพื่อนๆของน้องกลับไป เธอกรีดร้องดังก้องจนทำเอาพวกผมตกใจพอรีบไปหา ก็เห็นเธอจ้องตัวเองเขม็งอยู่หน้ากระจก
“คุณเรย์กะ เป็นอะไร ไม่สบายตรงไหนจ๊ะ” ท่านแม่รีบเข้าไปหาน้องสาว จับเธอไว้เพราะกลัวเธอจะทำร้ายตัวเอง
หมับ!
แขนของท่านแม่ถูกคว้าไว้อย่างรวดเร็ว น้องสาวหันมามองท่านแม่ด้วยสายตาประกายแก่กล้า
“ท่านแม่คะ ท่านพี่คะ! “ เสียงของเธอดูหนักแน่นแตกต่างจากเมื่อวานอย่างสิ้นเชิง ผมกับท่านแม่รีบขานรับทันที
“ร้านเสริมสวยค่ะ… ร้านเสริมสวย! พาหนูไปที!” เรย์กะพูดแบบนั้นพลางจับผมตัวเองขึ้นมาพอเห็นผมมองอยู่บอกว่า อย่ามองน้า ก่อนจะวิ่งจากไปแล้วเอาหัวมุดผ้าห่ม
เอิ่ม น้องสาว… เป็นอะไรไปน่ะ
วุ่นวายกันพักใหญ่ ตอนนี้ดึกแล้วท่านแม่จึงสัญญาว่าจะพาไปในวันพรุ่งนี้ วันนี้เลยต้องให้อิมาริวิ่งวุ่นหาของบำรุงผมกับผิวหน้ามาให้ น้องสาวจึงพอจะสงบลงบ้างไปนั่งลูบด้ามพัดที่นานๆจะหยิบออกมาเงียบๆ
บ้านเราถึงล้มละลาย แต่หากน้องอยากได้อะไรผมก็จะให้ คิดแล้วก็เหลือบตามองคนข้างๆที่มองมาก่อนแล้วเหมือนรู้ทันว่าผมคิดอะไรอยู่
“ยินดีรับใช้ครับ เจ้าชาย”
“ก็ดี” ผมตอบรับอย่างเป็นธรรมชาติแล้วไม่ได้มองเขาอีก แต่ผมรับรู้ได้ว่าอิมาริกำลังยิ้มกว้างกว่าเดิม ผมได้ยินเขาพึมพำกับตัวเองเบาๆว่า ทาคาเครุกับเรย์กะจังกลับมาแล้ว
ได้ยินแบบนั้นผมก็เอาตัวเอนพิงตัวเขา
แล้วบอกเขาไปว่า
“ขอบคุณนะ”
ที่อยู่เคียงข้างผม…
.
.
.
ตกดึกท่านแม่ย้ายที่พักของตัวเองจากห้องเรย์กะเป็นห้องของผม ผมแปลกใจถึงถามออกไปคำตอบกลับของแม่คือท่าทีหวาดผวาไม่ตอบอะไร แต่ประตูที่เปิดออกของห้องผมทำให้ได้ยินเสียงจากห้องข้างๆชัดขึ้น
เหมือนจะเป็นบทสวดคำสาปแช่ง
พี่ชักรู้สึกว่านับวันน้องยิ่งน่ากลัวนะ น้องสาวของพี่ .
.
.
.
.
“ท่านพี่เรย์กะ ดีจังเลยค่ะที่พี่ยังสบายดี”
วันนี้พวกมาโอะจังมาเยี่ยมล่ะ!
เด็กๆในวันวานเริ่มเข้าสู่วัยกำลังเติบโตทำให้สูงกันขึ้นมาก แต่ทุกคนก็ยังน่ารักมากๆอยู่ดี
“มาโอะจังงงงง” ฉันอ้าแขนออก เหมือนมาโอะจังจะรู้หน้าที่ดีเลยวิ่งมาอย่างร่าเริง
“อ๊ะ ท่านพี่เรย์กะ ตัวหอมจังเลยค่ะ ผมก็นุ่มมากด้วย”
หึ ผลของการหมักผมบำรุงพร้อมอบกลิ่นหอมอย่างต่อเนื่องประสบความสำเร็จ! คุ้มค่ากับความทุ่มเทสุดๆ
เอาเลยจ๊ะมาโอะจัง เชิญชม สูดดมได้เต็มที่เลยนะจ๊ะ
สัปดาห์ก่อนพอรู้ว่าตัวเองมีผมหงอกเล่นเอาตกตะลึงแถมไม่ได้มีแค่เส้นเดียวอีกต่างหาก
น่าจะเป็นผลจากการที่ฉันเครียดมากเกินไป แต่มันจะไม่มีอีกแล้ว
เรย์กะคนใหม่ถือกำเนิดแล้วค่ะ!
ฉันรู้สึกได้แล้วว่าทุกอย่างแม้จะพังไปหมด แต่มันก็ยังต่างจากเรื่องราวที่ฉันเลยอ่านมา
ฉันยังมีเพื่อนที่ไม่ทอดทิ้งฉัน
และท่านคาบุรากิกับท่านเอ็นโจวอยู่ข้างฉันอีกด้วย!
หลงระเริงในรักนานไปหน่อย ทำตัวสิ้นหวังจนไม่สมกับหัวหน้าหมู่บ้านคานทอง ประชาชนของฉันต้องผิดหวังในตัวฉันแน่ๆ ขอโทษนะคะ สำนึกผิดแล้วล่ะค่ะ แถมปล่อยนายหัวเงินให้ปกครองหมู่บ้านอย่างโดดเดี่ยวน่าสงสาร ไม่ต้องกลัวนะทุกคน คิโชวอิน เรย์กะกลับมารับตำแหน่งอันทรงเกียรติคืนแล้วค่ะ
ฉันกอดมาโอะจังแน่น อิย๊า นุ่มนิ่มที่สุด ยูริคุงยืนมองอยู่ทำท่าอยากจะกอดมาโอะจังด้วย แหม น่ารักจังเลยค่ะ รักแท้พื่อนวัยเด็ก น่าอิจฉาจังเลย ข้างๆกันนั้นเป็นยูกิโนะคุงที่ก้มหน้าก้มตาไม่ยอมสบตาฉัน
“ยูกิโนะคุง?” ฉันลองเรียกดู
“ฮะ?”
ยูกิโนะคุงสะดุ้งเฮือก มองฉันแบบเกรงๆจนฉันเริ่มกังวล จะว่าไปตั้งแต่มาเยี่ยมยูกิโนะยังไม่พูดกับฉันสักคำเลย
“ ไม่สบายตรงไหนรึเปล่า บอกพี่ได้นะ” ฉันถามออกไปอย่างเป็นห่วง ยูกิโนะคุงยิ้มส่ายหน้าเบาๆ ยกนิ้วชี้มาจิ้มกันเองแล้วพูดอ้อมแอ้มว่า
“ผ ผมเองก็อยากกอดท่านพี่เรย์กะเหมือนกัน”
น่ะ…นี่มัน จะน่ารักเกินหามใจไปแล้วน้า
“มาเลยจ๊ะ พี่พร้อมเสมอ!”
นี่มันสิ่งเยียวยาจิตใจของฉันชัดๆ เหล่าเด็กๆต่างมากอดฉันจนจิตใจฉันฟูฟ่องไปหมด มีความสุขจังเลยค่ะ
ต่อจากนั้นไม่นาน มาโอะจังกับยูริคุงก็ขอตัวกลับเพราะทางบ้านมารับ ส่วนยูกิโนะคุงยังคงอยู่กับฉัน ดูเหมือนว่ายูกิโนะคุงก็กำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนี้เหมือนกัน
เราสองคนคุยกันอย่างสนุกสนาน เหมือนเรื่องราวร้ายๆที่ผ่านมาเป็นความฝันของฉัน
“ผมเสียใจมากเลยที่พี่เรย์กะไม่ไปเยี่ยมท่านพี่ของผม” จู่ๆยูกิโนะคุงก็พูดประเด็นร้อนฉ่าขึ้นมา
“เอ๋ ท่านเอ็นโจวเป็นอะไรไปคะ?” จะว่าไปเหมือนยูกิโนะคุงเคยบอกว่าท่านเอ็นโจวต้องเข้าโรงพยาบาล ไม่ได้ล้อเล่นหรอกหรือ เป็นอะไรร้ายแรงรึเปล่า แต่ที่เจอกันวันนั้นถึงจำได้ไม่ชัดเจน แต่ดูเขาปกติดีนะ
“รถชนน่ะฮะ”
“รถชน!!!!” นี่มันหนักสุดๆเลยไม่ใช่เหรอ ฉันนี่มันแย่สุดๆ ถึงแม้พวกเราไม่ได้สนิทถึงขั้นเพื่อนสนิท แต่เพราะทำอะไรหลายๆอย่างด้วยกันจนจบมัธยมระหว่างพวกเราคงเรียกว่าเพื่อนได้ แถมตอนฉันลำบากในตอนนี้ พวกเขาก็อยู่ข้างฉัน แต่ตอนนั้นฉันกลับมัวทำบ้าอะไรอยู่
ระหว่างกำลังตกใจอย่างหนัก ท่านเอ็นโจวก็ปรากฏตัวขึ้น
“ยูกิโนะ พี่มารับแล้วนะ”
“ท่านเอ็นโจว!” ฉันตะโกนเสียงดังจนท่านเอ็นโจวชะงักมองด้วยความแปลกใจ ฉันลุกขึ้นจากเตียงผ่านตัวยูกิโนะคุงไปแตะๆตัวเขาอย่างลืมตัว
“บาดเจ็บตรงไหนบ้างคะ หายดีแล้วใช่ไหม” มือยังไม่หยุดตบตามตัวไปทั่ว ท่านเอ็นโจวเหมือนจะยืนแข็งทื่อไปแล้ว จนฉันต้องเงยหน้าไปมองเขาเพื่อขอคำตอบ แต่พอสบตาฉันเท่านั้นฉันถึงเพิ่งรู้สึกตัว
“อ๊ะ ขอโทษค่ะ” แล้วก็กระโดดออกมายืนอ้ำอึ้ง
“ไม่เป็นไรครับ”
“…”
“…”
บรรยากาศเงียบวังเวงมากค่ะ ท่านเอ็นโจก็มองมาไม่ละสายตา กดดันสุดๆจนต้องก้มหัวลงไปอีกรอบ
“ขอโทษจริงๆนะคะ พะ พอดีลืมตัวไปหน่อย”
“ไม่เป็นไรครับ” พอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นท่านเอ็นโจวตอบพร้อมกับรอยยิ้มนุ่มนวล
แล้วทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง
เอิ่ม ฉันควรทำยังไงกับสถานการณ์นี้ดีคะ
“ท่านพี่ มารับเร็วจังเลย”
ยูกิโนะคู้งงงงง ขอบคุณมากๆเลยที่มาทำลายบรรยากาศกระอักกระอ่วนแปลกๆนี้
“ถึงเวลาตรวจแล้วนะ” ท่านเอ็นโจวตอบกลับ เอ๋ จะไปกันแล้วเหรอ จู่ๆก็รู้สึกกลัวที่จะอยู่คนเดียวขึ้นมา
“ผมไปคนเดียวได้ ท่านพี่อยู่กับพี่เรย์กะก่อนก็ได้นะ” เอ๋ ไม่ดีมั้งคะ อยู่กับท่านเอ็นโจวแค่สองคน เมื่อกี้เดธแอร์กันจนไปต่อไม่ถูกพอทำท่าทางบอกว่าไม่เป็นไร ท่านเอ็นโจวก็พูว่า ก็ดีเหมือนกัน
ไม่ดีค่ะ!
สุดท้ายยูกิโนะคุงก็วิ่งฉิวออกไปพร้อมเสียงหัวเราะเล่นเอาตกอกตกใจไปหมด ยูกิโนะคุงอย่าหักโหมสิ เดี๋ยวก็หอบอีกหรอก และแล้วในห้องก็เหลือแต่ฉันกับเอ็นโจว ท่านแม่กับท่านพี่ที่ออกไปทำธุระ รีบๆกลับมาเถอะ บรรยากาศในห้องเงียบเสียจนน่ากลัว เอ ต้องควรคุยอะไรดี
“คุณคิโชวอิน ยังปวดหัวอีกไหมครับ” จู่ๆท่านเอ็นโจวก็เริ่มเปิดหัวข้อสนทนาก่อน
“ฉันไม่เป็นไรแล้วค่ะ ท่านเอ็นโจวล่ะคะ ได้ยินยูกิโนะคุงบอกว่าถูกรถชน ร่างกายเป็นยังไงบ้างคะ”
“ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วล่ะ”
แล้วก็กลับสู่ความเงียบอีกครั้ง ฉันควรหาเรื่องคุยสินะ
“ผมของคุณคิโชอินดูนุ่มเงากว่าทุกวันเลยนะครับ” แต่กลับเป็นท่านเอ็นโจวอีกครั้งที่ชวนฉันคุยอีกครั้ง
อาเระ สังเกตเห็นด้วยเหรอ ภูมิใจแปลกๆแฮะ
หลังจากนั้นพวกเราก็เริ่มพูดคุยกันได้อย่างไม่ติดขัด แอบแปลกใจที่ฉันพูดกับเขาด้วยเรื่องราวมากมายไม่ใช่เรื่องของท่านคาบุรากิหรือยูกิโนะคุง ฉันรู้สึกราวกับว่าการพูดคุยครั้งนี้ นับรวมประโยคกันแล้วมากกว่า ที่พวกเราเคยคุยกันมาทั้งชีวิตเสียอีก
พูดมากเข้าชักเริ่มง่วงจนเผลอหาวออกไปโดยไม่รักษากริยา
“ง่วงแล้วเหรอ”
“อ๊ะ!? ค่ะ ขอโทษที่เสียมารยาทนะคะ” เผลอหาวอ้าปากกว้างต่อหน้าท่านเอ็นโจวเสียแล้ว แล้วนั่นแอบหัวเราะอยู่ใช่ไหม หนอย…
ฉันลุกขึ้นไปตบปากท่านเอ็นโจ พร้อมบอกว่ามีอะไรน่าตลกมิทราบไม่เคยเห็นสุภาพสตรีหาวหรือไง
แน่นอน ทุกอย่างเป็นแค่จินตนาการของฉัน
“งั้นพักผ่อนเถอะนะ ผมไม่รบกวนแล้ว” ท่านเอ็นโจวบอกลา ยกมือลาเหมือนบอกว่าจะไปแล้ว
จู่ๆความหวาดกลัวบางอย่างก็พุ่งออกมาจากใจฉัน
“คุณคิโชวอิน?” ท่านเอ็นโจวมองฉันอย่างแปลกใจ จนฉันสงสัยว่าเขาแปลกใจอะไร เขาบอกว่าจะไปแล้วแต่กลับยืนมองฉันอยู่
“เดินทางปลอดภัยนะคะ” ฉันพูดออกไปเอ็นโจวก็ตอบรับพร้อมรอยยิ้ม แต่เขายังไม่ไปไหน
ฉันงุงงงว่าทำไมเขายังไม่ไปอีกได้แค่ชั่วครู่ก็ค้นพบคำตอบ
ฉันกำลังดึงเสื้อเขาอยู่…
โดยไม่รู้ตัวเลยสักนิด
การอยู่คนเดียวมันน่ากลัวขนาดนี้เลยหรือ…
“คุณคิโชวอิน…” ท่านเอ็นโจวเรียกฉัน เขาไม่ได้จากไปและไม่จับมือของฉันออกจากเสื้อเขา
“คุณคิโชวอิน…” เขายังคงเรียกฉัน
“อ๊ะ ขอโทษนะคะ ฉันนี่แย่จริงๆ ดันรบกวนคุณเสียได้” ฉันรีบขอโทษ ส่วนเอ็นโจวยังคงอยู่ที่เดิม
มือของฉันยังคงจับอยู่ที่เสื้อของเขา และเริ่มสั่นสะท้าน
ปล่อยสิ มือของฉัน ปล่อยเร็วเข้า ขอร้องล่ะ
แค่นี้ก็ทำตัวเป็นภาระไม่พออีกเหรอ?
จู่ๆมือของฉันก็รู้สึกถึงความอบอุ่น ท่านเอ็นโจวกุมมือของฉันที่จับเสื้อแล้วดึงออก
ตอนนั้นฉันหวาดกลัว
ได้โปรด
ไม่อยากอยู่คนเดียว
ใครก็ได้…
แต่ก็หวาดกลัวได้เพียงไม่นาน
เขาพลิกมือแล้วกุมมือของฉันไว้
แล้วกระซิบเสียงนุ่มนวล
“อย่ากลัวนะ”
“คุณอดทนได้เก่งมาก…”
“เพราะงั้นอย่ากลัว…”
“ผมอยู่นี่แล้ว”
“คุณจะไม่เป็นไร”
จู่ๆน้ำตาของฉันมันก็ไหลลงมาอีกครั้ง ด้วยคำพูดจากคนคนเดิม
“’ผม’จะปกป้องคุณ”
.
.
.
ผมอยู่เป็นเพื่อนคุณคิโชวอินจนเธอหลับ ตรงกับเวลาที่นายหญิงคิโชวอินกลับมาจากการเข้ารับการบำบัดยาของพี่ชายคุณคิโชวอินพอดี
“ขอบคุณที่ดูแลลูกสาวของดิฉันค่ะ ท่านเอ็นโจว” เธอพูดกับผม ลักษณะท่าทางของเธอแตกแต่งกับที่เคยพบในงานเข้าสังคมที่ผ่านมา
สง่ากว่าเดิม แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม
“ไม่ต้องขอบคุณหรอกครับ” ผมยังคงกุมมือเล็กๆของคุณคิโชวอินไว้ ท่านแม่ของคุณคิโชวอินยิ้มให้ผม
“รู้ไหมคะ ว่าฉันถูกปฏิเสธคำขอบคุณจากคนสองคนเลยล่ะจ๊ะ”
“ครับ?” ผมค่อนข้างแปลกใจกับคำพูดของคุณนายคิโชวอิน
“ลูกสาวกับลูกชายฉันช่างโชคดีจริงๆ ที่ได้พบพวกคุณ”
“ขอบคุณครับ” เราสองคนต่างมองกันแล้วยิ้มให้กัน
“เรย์กะจังเข้มแข็งมากใช่ไหมจ๊ะ” คำเรียกชื่อคุณคิโชวอินทำให้ผมค่อนข้างแปลกใจ เมื่อก่อนตอนร่วมงานผมมักจะได้ยินเธอเรียกลูกของตัวเองด้วยคำว่าคุณตลอด
“ครับ เธอเข้มแข็งมาก” ผมตอบ กระชับมือแน่นขึ้น”และอ่อนโยนยิ่งกว่าใคร
เธอพยายามทำตัวร่าเริงผมรู้ เธอไม่อยากทำตัวเป็นภาระให้คนกังวลผมก็รู้
ผมเฝ้ามองเธอมาตลอดตั้งแต่เด็กจนกระทั่งตอนนี้
ไม่มีทางที่ผมจะไม่รู้
“เดี๋ยวผมมีธุระต้องไปจัดการต่อ รบกวนคุณนายคิโชวอินต่อด้วยนะครับ”
“เป็นหน้าที่ของคนเป็นแม่อย่างฉันอยู่แล้วค่ะ” เธอก้มศีรษะให้ผมเล็กน้อย แล้วเดินมานั่งข้างเตียงของคุณคิโชวอิน ผมบอกเธอเล็กน้อยว่าควรให้มีคนอยู่ข้างกายคุณคิโชวอินสักคน ห้ามปล่อยเธอทิ้งไว้คนเดียว เพราะเธอหวาดหลัวมาก ท่านแม่ของคุณคิโชวอินรับคำผม บอกว่าจะติดต่อเพื่อนๆมาให้อยู่เป็นเพื่อนตอนตนต้องไปทำธุระ
ผมจึงวางใจและขอตัวลา
“คำว่าคุณนายคิโชวอิน ออกจะห่างเหินไปสักนิด” ท่านแม่ของคุณคิโชวอินพูดขึ้นทำให้ผมที่กำลังออกจากห้องไปชะงักหันกลับมามองเธอ เธอยิ้มให้ผม รอยยิ้มที่งดงามเหมือนลูกสาวของเธอ
“เรียกฉันว่าแม่ก็ได้นะจ๊ะ” พูดเสร็จเธอก็ปิดปากหัวเราะ ผมเองก็หัวเราะตอบ
“ครับ ท่านแม่”
.
.
พอออกมาจากห้องคุณคิโชวอิน ก็พบว่ามีคนดักรออยู่
โมโมโซโนะ อิมาริ
ผมไม่ได้สนิทกับเขา แต่พอรู้จักเขาจากคุณคิโชวอินว่าเป็นพี่ชายที่เธอนับถืออีกคน เป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของพี่ชาย ผมยอมรับว่าสมัยก่อนผมเคยหึงเขา
แต่มันก็คือเมื่อก่อน
ผมรู้ว่าเขามีคนในใจอยู่แล้ว
เป็นคิโชวอินคนพี่
“เรื่องที่เรย์กะจังกับทาคาเครุอยู่ที่นี่ ไม่มีข่าวหลุดรอดออกไปอย่างแน่นอนใช่ไหม” คุณโมโมโซโนะถามผม
“ด้วยอำนาจของตระกูลผม กับมาซายะ รวมถึงสมาชิก Pivoine ทุกคน ทุกอย่างเรียบร้อยดีครับ รอบๆโรงพยาบาลมีผู้รักษาความปลอดภัยนอกเครื่องแบบจำนวนมากประจำตำแหน่งอย่างแนบเนียนไปกับประชาชนที่ใช้บริการอีกด้วย สบายใจได้ครับ”
“ แค่ข่าวไม่หลุดไปฉันก็สบายใจแล้วล่ะ” เขาถอนหายใจเหมือนโล่งอก ผมจึงถามเขากลับบ้าง
“แล้วทางคุณ…”
“ส่งคนไปแล้ว กำลังเจรจา แนวโน้มจะสำเร็จสูง”
“ดีแล้วล่ะครับ”
“อืม”
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
“ตามสบาย ขอบคุณที่ช่วยดูเรย์กะจังตอนที่พวกเราอยู่กับทาคาเครุนะ”
“ไม่ต้องขอบคุณหรอกครับ แล้วก็หลังจากนี้ พวกเพื่อนๆอาจจะมาเยี่ยมคุณคิโชวอินบ่อยๆ คงต้องขอรบกวนหน่อยนะครับ”
“ฮะฮะ ดีเลย เรย์กะจังจะได้ไม่เหงา”
หลังบอกลากับคุณโมโมโซโนะไปได้ชั่วครู่ โทรศัพท์ที่ยืมมาจากรุ่นน้องคนหนึ่งในมหาวิทยาลัยก็ดังขึ้น เบอร์ที่โทรมาไม่ระบุชื่อ น่าจะเป็นการโทรศัพท์จากโทรศัพท์สาธารณะ
“สวัสดีครับ อุทิศตน…”
“แด่จักรพรรดินีกล้วยไม้ป่า ” รหัสการพูดถูกต้อง เสียงคนที่โทรมาคือคุณอิวามุระ ทาคาชิที่ปลอมตัวไปสืบข่าว ความจริงแล้วพวกเราตกลงกันไว้ว่าจะไม่ติดต่อทางโทรศัพท์เพื่อป้องกันการดักฟัง ถึงแม้จะป้องกันโดยการยืมโทรศัพท์ของคนนอกที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มาใช้แล้วแต่ก็ไม่อาจวางใจ แต่นี่คงเป็นกรณีพิเศษ คุณอิวามุระถึงได้ติดต่อมา
“ที่ให้ไปสืบมีความคืบหน้ารึยัง”
“ครับ จากที่แฝงตัวมาสักพักเป็นอย่างที่ท่านเอ็นโจวบอก เหมือนเธอคนนั้นจะปรากฏตัวที่นี่บ่อยๆ”
“จับตาดูตารางเวลาของเธอไว้ให้ดี เดี๋ยวผมจะส่งคนไปเจรจา”
“ดูเหมือนพวกเราจะช้าไปก้าวหนึ่งครับ” ผมขมวดคิ้วเมื่อมีเหตุการณ์ไม่คาดคิด
“เกิดอะไรขึ้น?”
“เหมือนว่าการเจรจาของเราจะสำเร็จก่อนได้ลงมือครับ” คำตอบของคุณอิวามุระทำให้ผมแปลกใจยิ่งกว่าเดิม
“วันนี้คุณนายคิโชวอินมาที่นี่” และแปรเปลี่ยนเป็นความตกตะลึง
“ท่านมาพร้อมกับญาติฝ่ายตัวเองที่อยู่ในกลุ่มชนชั้นสูง”
ภาพในตอนนั้น…
ร่างบอบบางเดินอย่างมั่นคงสง่างาม ก้าวเดินอย่างช้าๆเป็นจังหวะดึงดูดสายตาผู้คน
พร้อมกับชายผู้เป็นญาติอีกสองคน
รอบกายรายล้อมไปด้วยบอดี้การ์ดนับสิบ
เธอตรงไปยังหญิงสาวที่เป้าหมายที่พวกเขาตามสืบ
“ดิชั้นนายหญิงแห่งตระกูลคิโชวอิน วันนี้มาขอพูดคุยข้อเสนอตามที่นัดไว้ค่ะ”
เมื่อเธอยิ้มรอบตัวของเธอนั้นเหมือนมีรัศมีที่น่าเกรงขามกลบความโสมมของสถานที่แห่งนั้นจนหมดสิ้น
“แอบยืนมองอยู่ เท่สุดๆไปเลย สมแล้วที่เป็นท่านแม่ของท่านอาจารย์ แม่ของจักรพรรดินี ก็ต้องเป็นยิ่งกว่าจักรพรรดินี”
ผมยิ้ม ดูเหมือนว่าท่านแม่คนใหม่ของผมจะไม่คิดอยู่เฉยๆเช่นกัน
“ดูเหมือนจะมีข่าวดีสินะฮะ” ยูกิโนะมายืนข้างผม ส่งยิ้มที่คุณคิโชวอินบอกเสมอว่าเหมือนเทวดาตัวน้อย
“ผมอยากขยี้เจ้าสารเลวนั่นให้จมดินเหลือเกินฮะ ท่านพี่”
.
.
.
.
คุณทาคามิจิได้รับเลือกให้เป็นผู้ฝึกงานในบริษัทเมื่อห้าวันก่อน
ด้วนประวัติขาวสะอาด ราบเรียบ ไม่มีอะไรแอบแฝง รวบทั้งผลการเรียนที่น่าตื่นตะลึงทำให้เธอได้รับการฝึกอย่างรวดร็ว
แต่งานของเด็กฝึกงานย่อมไม่เกี่ยวข้องกับเอกสารสำคัญ เธอไม่สามารถเข้าทำงานได้เพราะเธอยังเป็นแค่นักศึกษามหาวิทยาลัย
แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา
เธอพอมีความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ แม้ไม่มากนักแต่หลังจากวางแผนการ เธอจึงเข้าเรียนกับผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ เธอก็ใช้เวลาไม่นานในการเรียนรู้มัน
เธออาจไม่เก่งในหลายๆด้านที่คนทั่วไปเขาเป็นกัน และเรื่องมันสมองกับแรงกายเธอมั่นใจยิ่งกว่าใคร บวกกับบุคลิกของเธอทำให้ถูกไว้เชื่อใจได้โดยง่าย
และที่สำคัญเธอไม่ได้มาตัวคนเดียว
พันธมิตรลับของเธอมีทั้งคนที่สมัครฝึกงานมาด้วยกัน ล้วนเป็นผู้มีความสามารถ
รวมทั้งในตัวบริษัทเองก็ยังมีคนที่ซื่อสัตย์กับตระกูลคิโชวอินอย่างลับๆซึ่งคุณซาซามิจิอดีตเลขาของนายใหญ่ตระกูลคิโชวอินยืนยันว่าเชื่อถือได้ คนเหล่านั้นยังคงหลบซ่อนตัวและไม่ถูกปลดจากตำแหน่ง
เพื่อรอเวลาที่จะโจมตีกลับ
ทุกคนค่อยๆทำหน้าที่ของตนเองอย่างเงียบเชียบ ทำตัวราวกับไม่รู้จักกัน
บริษัทมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดมากขึ้น อาจเพราะเจ้าของบริษัทมีความหวาดระแวง เขาให้ทุกวิถีทางเพื่อป้องกันคนคิดไม่ซื่อกับตัวเขา ถึงกับจ้างคนมาวางระบบบริษัทใหม่ รวบทั้งวางระบบดักรับข้อมูลแบบทุกจุดโดยไม่ให้ใครรู้
พวกเธอรู้เพราะเคยลองเจาะระบบแล้วเจอเข้า เกือบแย่ไปเหมือนกัน เลยต้องลองหาวิธีใหม่ๆ
และเหมือนประธานบริษัทจะอ่านเกมได้ไม่ครบ
เขาคิดว่าศัตรูของเขาคือพวกกลุ่มชนชั้นสูงที่รวมกลุ่มกัน สายตาของเขาจึงมองแต่เบื้องบน
ลืมมองเหล่ามดงานตัวน้อยที่ค่อยๆขับเคลื่อนการกระทำบางอย่าง
ที่คอยทำงานให้โดยไม่หวังผล ไม่มีหลักฐานให้สืบสาวว่าเกี่ยวพันกัน
เพราะทุกคนล้วนทำด้วยใจ
เพื่อราชินี
ข่าวสารในบริษัทถูกส่งต่อจากเธอไปยังอุเมวากะ อาสึกะและเพื่อนของเขา
หากคนเดิมที่มาส่งและรับข้อมูลปรากฏตัวบ่อยย่อมเป็นที่ต้องสงสัย พวกเราจึงรวบรวมพรรคพวกจากโรงเรียนเก่า บางคนอาจไม่รู้จักคุณคิโชวอินด้วยซ้ำแต่ก็ยอมมาช่วยเหลือเพราะเพื่อนของตนขอ
มดตัวเล็กๆไม่กี่ตัวค่อยๆเพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น
จนกลายเป็นกองทัพขนาดย่อม
วันนี้เธอได้ข้อมูลสำคัญมาแล้ว จากสมาชิกดั้งเดิมของบริษัทที่ซื่อสัตย์ต่อตระกูลคิโชวอิน
พวกเราทำการตรวจสอบจากหลายวิธีจนแน่ใจว่ามันเป็นของจริง
.
.
.
“พิซซ่ามาส่งครับ” รอบนี้คนรับส่งเป็นรอบของอุเมกาวะ อาสึกะ อีกครั้ง
“ขอบคุณค่ะ ส่วนนี่ทิปนะคะ” ทาคามิจิ วาคาบะจ่ายเงินที่เขียนรหัสบางอย่างไว้บนตัวใบออกไป
พนักงานพิซซ่ายิ้มร่าอย่างเบิกบานรับข้อความนั้นไป ก่อนเดินทางไปยังจุดหมายต่อไป
มดตัวน้อยค่อยๆกัดกินราชสีห์ทีละน้อย
ทีละน้อย..
จบตอนที่ 3
ตอนที่สี่เจอกัน ในสักวันหนึ่ง //เหม่อมองท้องฟ้า
คิดว่าน่าจะห้าตอนจบค่ะ
ฟิคพวกมึงนี่ดีสัสๆ เอาจริงกูว่ารวมเล่มฟิคขายแม่งแล้วเอามาlcเรื่องเข้าไทยเลยมะถถถถถถถถ
>>831-834 โอ๊ย ค้างงง อ่านแล้วสงสารเรย์กะ ถึงจะทำตัวเองก็เถอะ แง้ อ่านแล้วอยากจะให้จริงๆแล้ววาคาบะต่างหากที่หาทางจับคาบุรากิแต่แรก เป็นตัวร้ายแทนไปเลย ฮือ
>>844-849 เล่นใหญ่เหมือนเดิม 5555 ไม่รู้ทำไมรู้สึกขำตรงรหัสลับชะมัด ท่านแม่ของจักรพรรดินี ก็น่าจะตำแหน่งพระพันปี (รึเปล่า) ถถถถ
ยูกิโนะ รอยยิ้มเทวดาน้อย แต่คำพูดนี่มันจอมมารยิ่งกว่าพี่ชายอีกนะหนู 555555
วันนี้มีแต่หลังตระกูลล่มสลาย ฮือ ใครก็ได้ขอฟิคโดขิโดขิเยียวยาใจหน่อย
>>844-849 ท่านเรย์กะ พอฟื้นตัวได้ก็ทำการลวนลามเอ็นโจแบบเนียนๆเลยนะคะ ดิฉันสนับสนุนให้ท่านเอ็นโจทำกลับเพื่อความแฟร์ค่ะ เราจะปล่อยให้โดนฝ่ายเดียวไม่ได้นะคะ เสียเปรียบแย่
นี่มันหนังสงครามชัดๆ อยากเห็นจักรพรรดินีออกบัญชาทัพ เอาศัตรูฝ่ายตรงข้ามมาตบด้วยพัด ประชาชนเบื้องหลังร้องเพลง God save the queen ไปด้วย เล่นใหญ่รัชดาลัยแน่ๆ
inception ชั้นที่ 2 จาก >>780-782 กูเอาฟิคมึงมายัดกาวเพิ่มแต่ก็เป็นตอนต่อด้วยนะ ถือว่ามึงเป็นฟิคหลักแล้วกูเป็นผู้ช่วยเขียนก็ได้ หรือใครที่คิดว่ามึงกาวได้สะเทือนตับไตหัวใจวายกว่า มึงมา inception กูต่อได้เลย วะฮ่าๆๆๆ
ตัดฉากเอามุมมองโม่งซุยรันไปก่อน เดี๋ยวพาท inception กำลังตามมา
******************************
นักเรียนหญิงไร้นามที่จบรุ่นเดียวกันกับคิโชอิน เรย์กะ
เป็นงานแต่งงานที่บรรยากาศแย่จริงๆ ด้วยค่ะ ยิ่งสีหน้าขององค์จักรพรรดิที่ได้ชื่อเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวยิ่งดูไม่ได้ใหญ่เลยค่ะ
ก็.. ก็ใช่ว่าจะไม่รู้นะว่าเกิดอะไรขึ้น ใครใช้ให้กลุ่มลับซุยรันแทบเดือดเป็นไฟเพราะมีข่าวลือเรื่ององค์ชายเอ็นโจวกันละ
เขาว่าต่อๆ กันมาในกลุ่มว่า เจ้าสาวที่กำลังเข้าพิธีคนนี้เบียดอดีตคู่หมั้นของท่านเอ็นโจวจนหลุดออกนอกวงโคจรแล้วเสียบเข้ามาแทนที่อย่างน่ารังเกียจ ถึงจะไม่รู้ว่าใช้วิธีไหนแต่ก็ทำให้ทั้งคาบุรากิทั้งเอ็นโจวอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออกไป
ฮือออ คนที่พอจะกอบกู้สถานการณ์นี้ได้ คงมีแต่ท่านคิโชอินเท่านั้น!!! แต่ว่า... แต่ว่า.. ถึงแม้หลังจากพวกเราจะร่วมมือร่วมใจช่วยท่านคิโชอินจากเจ้าสวะชั้นต่ำนั่น กอบกู้ศักดิ์ศรีของคิโชอิน และเหมือนองค์จักรพรรดินีกับเจ้าชายจะสนิทกันขึ้นอีกนิดก็เถอะ อยู่ๆ ท่านคิโชอินก็หายเงียบไร้ข่าวคราวมาหลายปี ขนาดท่านเซริกะหรือท่านคิคุโนะที่สนิทที่สุดยัง...
เอ๋?! นั่น..นั่นท่านคิโชอินนี่ค้าาาา ท่านคิโชอินกลับมาแล้ววววว!
ท่านคิโชอินดูแปลกตาไปมากเลยค่ะ ดูเติบโตขึ้น แข็งแกร่งขึ้น และงดงามขึ้น ยังรวมไปถึงออร่าจักรพรรดินีที่เพิ่มขึ้นจนเกือบจะเผลอคุกเข่าหมอบกราบไปแล้วค่ะ อ๋อย~ ดูรอยยิ้มนั่นสิคะ ใจเต้นตึกตักเกือบจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว จากเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ช่วงที่ท่านหายไปท่านคงต้องพยายามขึ้นสินะคะ
“ไม่ได้พบกันเสียนาน ทุกท่านยังสบายดีกันนะคะ”
ถึงรูปลักษณ์ภายนอกจะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน แต่ท่านคิโชอินยังคงให้ความสนิทสนมจริงใจกับพวกเราเช่นเดิม อ๋า~ ช่างเป็นท่านใจดีไม่เปลี่ยนอะไรเช่นนี้
“ท่านคิโชอิน ฮือๆ คิดถึงท่านคิโชอินที่สุดเลยค่ะ”
แทนที่บรรยากาศการพบกันจะเต็มไปด้วยความรื่นรมย์ยินดี พวกเรากลับรู้สึกตื้นตันมากกว่าที่ได้เจอกันอีกครั้ง ท่าทางการหายตัวไปคงจะเป็นการเดินทางรักษาแผลใจอย่างที่พวกเราคุยกันจริงๆ ด้วยสินะคะ
พอเห็นพวกเราทำท่าจะเป่าปี่ ท่านคิโชอินก็ออกอาการแตกตื่น เอ่ยปลอบโยนพวกเราอย่างลนลาน
ท่านคิโชอินนนนน ช่างเป็นท่านใจดีไม่เปลี่ยนอะไรเช่นนี้
พวกเราแลกเปลี่ยนเรื่องราวกันจนได้ความว่า ท่านคิโชอินเดินทางไปต่างประเทศเพื่อเจรจาธุรกิจกับคุณซาซาจิมะ อดีตเลขาของคุณพ่อของท่านคิโชอินที่ได้เลื่อนขั้นมาเป็นกรรมการผู้จัดการ จากนั้นเลยอยู่เที่ยวและสมัครเข้าเป็นอาสาสมัครไปเดินป่าต่อ
อ๋า ช่างเป็นท่านใจดีไม่เปลี่ยนอะไรเช่นนี้
แต่ก่อนจะได้ล้วงลึกว่าท่านคิโชอินไปทำอะไรมาบ้าง ท่านเอ็นโจวก็เดินออกมาพร้อมท่านคาบุรากิ อุหวา สีหน้าท่านเอ็นโจวนี่คล้ายจะล้มได้ทุกเมื่อเลยค่ะ ท่านคิโชอินเองก็คงเห็นเช่นเดียวกัน ท่านขอตัวเข้าไปหาทั้งคู่ดูสนิทสนมกันกว่าตอนอยู่ซุยรัน- ไม่สิคงเป็นเพราะเหตุการณ์คราวนั้นเลยทำให้ทั้งสามท่านสนิทกันขึ้นสินะ
ท่านเอ็นโจวออกมาแล้วแสดงว่างานก็คงใกล้จะเริ่ม พวกเราจึงชวนกันเข้าไปนั่งรอพิธีในโบสถ์เลย
.
.
.
ถึงจะเคยพูดไปแล้ว แต่ขออีกสักทีเถอะค่ะ นี่เป็นงานแต่งที่น่าอึดอัดใจที่สุดเลยค่ะ แขกค่อยๆ ทยอยเข้ามานั่งก็จริงแต่รอบข้างกลับมีแต่ความเงียบงัน ไม่มีแม้แต่เสี้ยวบรรยากาศรื่นเริงชื่นมื่นเลย
อดทนอยู่ไม่นานเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของออแกนก็บรรเลงขึ้น นักขับร้องที่มุมโถงก็เริ่มเอ่ยคำร้องสรรเสริญพระเจ้า บาทหลวงชื่อดังที่เคยเห็นในข่าวบ่อยๆ เดินขึ้นแท่นเข้าประจำที่พร้อมท่านเอ็นโจว..ที่สีหน้ายังไม่ดีขึ้นสักนิด หรือควรบอกว่าเหมือนคนที่กำลังตกนรกมากกว่า เด็กๆ ก็เริ่มจุดเทียนโปรยดอกไม้ตามลำดับพิธีการก่อนที่เสียงออแกนจะเปลี่ยนเป็นเพลงเว็ดดิ้งมาร์ชของว้ากเนอร์
เจ้าสาวผู้นั้นค่อยๆ เดินเข้ามาพร้อมตาแก่แป๊ะยิ้มที่ยิ้มจนเหมือนสาวปากฉีกเข้าไปทุกที ทุกคนยืนขึ้นต้อนรับด้วยสีหน้าที่ดูก็รู้ว่าไม่มีใครยินดีด้วยสักคน โอ๊ะ คงต้องยกเว้นญาติฝั่งเจ้าสาวละนะ
เขาว่าเจ้าสาวเป็นคริสตังเลยเรียกร้องให้จัดพิธีเต็มรูปแบบขนาดนี้ หึ น่าหมั่นไส้จริงๆ ค่ะ ถ้าเป็นท่านคิโชอินจะไม่ว่าอะไรเลย
พวกเราให้ความร่วมมือในพิธีกันอย่างสงบเสงี่ยมแต่ในใจกัดผ้าเช็ดหน้าขาดไปไม่รู็กี่ผืนแล้ว อาเระ? จนเจ้าสาวเดินเข้ามายืนข้างท่านเอ็นโจวแล้ว.. แล้วท่านคิโชอินไปไหนกันคะ
หลังสะกิดถามกันไปไม่กี่ทอด คุณเซริกะที่อยู่ไม่ไกลก็บุ้ยใบ้ไปทางหนึ่ง ท่านคิโชอินนั่งอยู่นั่นเองค่ะแต่ว่า.. อึ้ย~ ทำ ทำไมออร่าถึงได้น่ากลัวกันขนาดนั้นคะ พัดซี่หุ้มผ้าไหมสีดำปักลายดอกฮิกังบานะสีแดงสดคลี่ออกบดบังใบหน้านั้นจนเห็นแค่ดวงตา แต่ดูแล้วรู้เลยว่ากำลังไม่พอใจแน่ๆ
เดี๋ยวนะ พัดสีดำลายดอกฮิกังบานะ? อู้ยยย~ ท่านคิโชอินเล่นแรงมาเจ้าค่ะ
“ท่านจะรับคุณผู้หญิงเป็นภรรยาไม่ว่าจะยามสุข หรือทุกข์ มั่งมีหรือยากจน สบายดีหรือเจ็บป่วย จนกว่าจะตายจากกันหรือไม่”
พวกเรามัวแต่คุยกันผ่านทางสายตา รู้ตัวอีกทีเจ้าสาวก็ผ่านการกล่าวคำปฏิญาณตนไปแล้ว เหลือคำปฏิญาณของท่านเอ็นโจว ทุกอย่างก็จะสายเกินไปแล้ว
ความเงียบงันยิ่งกว่าตอนเริ่มงานแผ่กระจายหลังสิ้นเสียงของบาทหลวง ท่านเอ็นโจวนิ่งอยู่เช่นนั้นจนบาทหลวงเรียกเตือน
“ผม-”
ตึง
“อ่า ดิฉันก็คิดว่าจะอดทนให้ผ่านไปได้จนจบอยู่หรอกนะคะ ทว่างานแต่งงานพรรค์นี้นี่ช่างเกินกว่าจะยอมรับได้จริงๆ ”
กรี๊ดดด! ท่านเรย์กะออกโรงแล้วค่ะ ท่านลุกขึ้นก้าวออกมาจากที่นั่ง ค่อยเยื้องย่างมาราวกับกำลังเหยียบย้ำหัวใจคนมองให้แหลกลาน เสียงรองเท้าส้นสูงคู่นั้นดังเป็นจังหวะกระทั่งท่านเรย์กะไปหยุดยืนเกือบจะถึงหน้าแท่นพิธี สายตาทุกคู่ในโถงแห่งนี้ต่างจับจ้องไปที่ท่านอย่างไม่อาจห้ามตัวเองได้
ท่านเรย์กะ อะแฮ่ม ท่านคิโชอินยกมือข้างหนึ่งปัดปอยผมม้วนเกลียวไปข้างหลังก่อนจะลดลงไปเท้าเอว มืออีกข้างกรีดกรายคล้ายจะเกี่ยววิญญาณคนมองให้หลุดลอยออกมาค่อยๆ คลี่พัดดำลายดอกฮิกังบานะบังใบหน้าครึ่งล่าง เหลือเพียงดวงตาที่ตวัดวาดอายไลน์เนอร์จนคมกริบกับขนตางอนยามแบบไม่ง้อขนตาปลอมคู่นั้น
อ๋า~ ฉะ ฉันคล้ายเห็นภาพหลอนของเทพธิดาปรากฏกายลงกลางโถงเลยค่ะ จะเป็นลม ช่างเป็นท่านที่งดงามอะไรเช่นนี้ ต้องเป็นท่านนี้เท่านั้นจริงๆ ถึงจะเหมาะสมกับองค์ชายของพวกเรา
เพราะฉะนั้น สู้ให้เต็มที่เลยค่ะท่านเรย์กะ พวกเราจะคอยสนับสนุนให้กำลังใจอยู่ตรงนี้เองค่ะ
*************
เพิ่งเห็นว่ามีฟิคภาคต่อรูท bad end ด้วย เดี๋ยวขอเอาตรงนี้ให้จบก่อนจะมาอ่าน..... โฮกกกก ให้กุกลับมาเขียนพาร์ทกุทีหลังได้มั้ย ขออ่านก่อน อย่างมากก็เลทเป็นพรุ่งนี้.. //โดนตบ
Secret End (inception level 2)
Act 2 : part 1.1
ฉันฝันประหลาดอีกแล้วเจ้าค่าาา นอนต่อไม่หลับเลย ฮือๆๆๆ ดูตัวฉันในกระจกสิคะ บอกว่าเป็นผีเดอะริงลงมาสิงคงเชื่อกันสนิทใจแน่ๆ หวังว่ารอบนี้คงจะไม่ใช่ฝันบอกเหตุนะคะ ยิ่งเนื้อหาในความฝันนี่ดันมีต้นทางเป็นงานที่จะเกิดในวันนี้ด้วย
วันนี้เป็นวันแต่งงานของอีตาเอ็นโจวค่าาา~ ในที่สุดฉันก็จะหลุดพ้นจากเจ้าคู่หูอันตรายคู่นั้นแล้ว ฮึกๆ ดูสิดีใจจนน้ำตาไหลเลย แถมยัง..แปลกแหะทำไมถึงรู้สึกวูบโหวง อึดอัด และเจ็บในอกอย่างนี้นะ ต้องเป็นเพราะนายคาบุรากิตัวซวยนั่นแน่ๆ ส่งการ์ดเชิญเฉยๆ ธรรมดาๆ แบบคนทั่วไปไม่เป็น ต้องหอบเอาบัญชีหนี้ก้อนใหญ่มาโยนโครมให้ฉันพร้อมคำขู่ด้วย
"ถ้าเธอปฏิเสธล่ะก็ตระกูลคิโชวอินของเธอไร้ที่ยืนอีกแน่!"
แบบนั้นเรียกว่าขอร้องเหรอคะ!? อย่ามาลากฉันและตระกูลไปเกี่ยวด้วยซิ!
"ชูสุเกะช่วยอะไรเธอมาตั้งเยอะแยะ แล้วเธอจะนิ่งดูดาย ไม่สำนึกบุญคุณอย่างงั้นเหรอ!?"
ฉันระลึกออกแต่หนี้และดอกเบี้ยราคาแพงมหาโหดเท่านั้นล่ะค่ะ
แล้วทำไมต้องเป็นฉันด้วยล่ะ!?
ฉันไม่ทันได้ตอบรับอะไรนายคาบุรากิก็สะบัดตูดหายไปเสียแล้ว ทิ้งให้ฉันยืนค้างเป็นนางเอกมิวสิคท่ามกลางใบไม้แห้งที่ปลิวผ่านไป
อะไรกัน แค่ไปเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากในแทบทุรกันดาร ถูกตัดขาดจากโลกภายนอกครึ่งปี กลับออกมาสู่โลกเทคโนโลยีได้แล้วก็ถูกองค์จักรพรรดิ์บัญชาให้ทุ่มตัวช่วยเหลือเจ้าชายจากปราสาทลวดหนามที่มีมังกรโหดเฝ้า โดยไม่ให้อาวุธอะไรไปตบตีกับเขาเลย
ถัดจากนั้นท่านไอระและท่านยูริเอะก็มาเกลี้ยกล่อมฉัน
"ชูสุเกะน่าสงสารมากเลยนะ ดูท่าทางไม่ดีเลยล่ะ เรย์กะจังช่วยเขาทีเถอะนะ"
"ถ้าเป็นเรย์กะจังล่ะก็คงไม่มีใครกล้าขัดขวางแน่ พวกเราจะช่วยอีกทาง ขอแค่เรย์กะจังไปห้ามทัพไว้ก่อนน่ะ รบกวนทีนะ"
จะให้ฉันเป็นแม่ทัพเนี่ยนะคะ? ทำไมไม่เป็นคาบุรากิเล่า เป็นจักรพรรรดิไม่ใช่รึไง อำนาจของฉันน่ะใช้ได้แค่ในซุยรันเท่านั้นแหละค่ะ กะคนข้างนอกน่ะฉันไม่ไหวหรอกนะคะ
"ขอร้องล่ะ เรย์กะจัง!"
ถึงจะพูดแบบนั้นกันก็เถอะ... เดี๋ยวนะ ทำไมถึงรู้สึกคับคล้ายคับคลาว่าเหตุการณ์เหล่านี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วเลยล่ะค้าาา!?
ฮึ่ม ยังไงก็ต้องจัดการกับสภาพผีตายซากนี้ก่อนละนะ กรีดอายไลน์เนอร์คมขึ้นหน่อยกับใช้ลิปสีแดงกว่าปกติคงพอกลบเกลื่อนได้ละ โชคดีที่เลือกแบบชุดเดรสในร้านตัดไว้ให้ก่อนและได้ท่านแม่เลือกรองเท้ากับเครื่องประดับออกงานไว้ให้ เอาละคิโชอิน เรย์กะ (ไม่) พร้อมลงสู่สนามรบแล้วค่ะ
อืม ยังดีที่อย่างน้อยก็ไม่มีรถลีมูซีนของจักรพรรดิ์บ้าอำนาจมาลักพาตัวฉันไปงานละนะ
★ ★ ★ ★ ★
Secret End (inception level 2)
Act 2 : part 1.2
ดูเหมือนว่าช่วงที่ฉันไม่อยู่จะมีหลายๆ เรื่องเกิดขึ้นแหะ
อย่างแรกไม่คิดว่าจะมีคนคิดถึง ฉันก็คิดถึงทุกคนเหมือนกันนะคะ ระหว่างที่เป็นอาสาสมัครนี่ทั้งเหนื่อยทั้งลำบาก ช่วงเวลานั้นได้ทบทวนความทรงจำถึงทุกคนแล้วยิ่งรู้สึกซาบซึ้งจริงๆ ที่ได้ช่วยเหลือฉันไว้
แต่ก่อนจะได้คุยกันไปมากกว่านี้ฉันก็เห็นคุณเจ้าบ่าวกับพระสหายออกมาพอดี เอ๋? ยูกิโนะคุงไม่อยู่หรอกหรอ คงไม่ใช่ไม่สบายอีกแล้วนะ แต่ว่าดูไปแล้วจะเป็นท่านเอ็นโจวมากกว่าที่จะล้มก่อนงานเริ่ม
นี่เป็นอย่างที่สอง ไม่คิดว่าคนอย่างเอ็นโจวจะมาเสียท่าได้ขนาดนี้เลยค่ะ
“ท่านเอ็นโจว วันนี้ต้องผ่านไปได้ด้วยดีแน่นอนค่ะ”
เห็นสภาพท่านเอ็นโจวเป็นนี้ฉันก็อดให้กำลังใจไม่ได้ อืม ยังไงคำขอร้องของท่านคาบุรากิก็มองข้ามไม่ได้ละนะ ถือเสียว่าเป็นการชดใช้หนี้คงได้ละมั้ง
ท่านเอ็นโจวมองฉันนิ่ง อาเระ ทำไมถึงมองอย่างนั้นคะ ฉันมีอะไรแปลกไปหรอ เมื่อเช้าก็คิดว่าแต่งหน้าเตรียมตัวมาอย่างดีแล้วนะคะ หรือว่าเขียนตาเบี้ยว? ไม่นะ!
หลังจ้องฉันเสียนานสองนาน ทำท่าจะพูดก็ไม่พูดสักที สุดท้ายท่านเอ็นโจวก็พยักหน้าโดยไม่ได้เอ่ยตอบรับอะไร แปลกแหะ คงเป็นเพราะไม่ได้เจอกันนานละมั้ง ฉันเปลี่ยนไปได้เขาก็เปลี่ยนไปได้เหมือนกันสินะ
“ชูสุเกะ นายรีบเข้าไปเตรียมตัวเถอะ ฉันขอคุยกับคิโชอินหน่อย เสร็จแล้วเดี๋ยวจะตามเข้าไป”
ท่านคาบุรากิตัดบทระหว่างเราห้วนๆ แล้วลากฉันออกมา ดูเหมือนจะพาไปห้องรับรองที่อยู่ไม่ไกลระหว่างนั้นท่านคาบุรากิยื่นพัดเล่มหนึ่งให้
“เอาไปแล้วถ่วงเวลาจนกว่าฉันจะมาซะ อ่อ ยูกิโนะรออยู่ในห้องรีบๆ คุยแล้วรีบไปขวางพิธีด้วย”
ฉันที่ยังไม่ทันคิดอะไรต่อเขาก็หมุนตัวหายไปแล้ว ทิ้งฉัน (อีกแล้ว) ไว้หน้าห้องที่ยูกิโนะคุงพักอยู่อย่างนั้น
แล้วฉันจะทำอะไรได้คะ หึ เข้าไปหายูกิโนะคุงเพื่อกอบโกยกำลังใจก่อนดีกว่าค่ะ
“ยูกิโนะคุง!”
ฉันพุ่งเข้าไปหายูกิโนะที่กำลังจะล้ม เขายิ้มอย่างอ่อนแรงแต่ในดวงตามีประกายของความยินดี
"ท่านพี่เรย์กะ ช่วยท่านพี่ด้วยนะครับ!"
อุก อย่าทำหน้าแบบนั้นซิ ท่านพี่คนนี้เห็นแล้วเจ็บปวดใจจริงๆ ค่ะ
"นะครับ ท่านพี่เรย์กะ!"
ยูกิโนะคุงกุมหน้าอก ไอค่อกแค่กก่อนจะทรุดตัวลง
ยูกิโนะคุง!
พยาบาลที่อยู่ไม่ไกลรีบเข้ามาช่วยเหลือพายูกิโนะขึ้นรถเข็น ทำไมถึงมาขยับเอาตอนนี้ละ มัวแต่ยืนทื่ออะไรอยู่ได้ตั้งนาน แล้วนั่นทำหน้าอะไรของหล่อนยะ! ฉันจะปล่อยให้คนแบบนี้ดูแลยูกิโนะคุงได้ยังไง
"สัญญากับผมนะครับท่านพี่เรย์กะ... ว่าจะพาท่านพี่ออกมา... ผมจะรอที่โรงพยาบาลนะครับ..."
ยูกิโนะคุงกุมมือฉันแน่น หลังจากเกี่ยวก้อยสัญญาก็ขึ้นรถพยาบาลที่จอดรออยู่ เปิดหวอเสียงดังแล้วขับจากไป
เหลือฉันคนเดียวที่หน้าโบสถ์กับพัดดำออกศึกที่คาบุรากิยัดใส่มือให้
สถานการณ์บังคับกันชัด ๆ เลยค่ะ แต่ทุกคนพยายามขอร้องกันขนาดนี้จะให้นิ่งเฉยก็คงไม่ได้ แล้วจากเรื่องราวที่ได้ฟังมา ฉันเองก็ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้นักหรอกนะ
ฉันกางและหุบพัดในมือไปมา โอ้ย ตาคาบุรากิเอาพัดอะไรมาให้ฉันคะเนี่ย พื้นผ้าไหมสีดำไม่เหมาะจะใช้ในพิธีแต่งงานแบบนี้อยู่แล้ว ยังจงใจปักลายดอกฮิกังบานะด้วยหรอคะ!? นี่จงใจส่งฉันไปเป็นเป้าในห่ากระสุนเลยไม่ใช่หรอคะ!?
สุดท้ายฉันก็ทำได้แค่พยายามทำใจให้สงบ ก่อนจะเชิดหน้าเดินเข้าไปข้างใน นั่งนิ่งรวบรวมสมาธิพร้อมอัญเชิญวิญญาณเรย์กะใน Kimi dolce ที่พอจะจำได้มาใช้สวมบทบาท
แต่คงจะใช้เวลารวบรวมภาพร่างเรย์กะคนนั้นนานไปหน่อย เกือบทำพลาดขัดขวางงานไม่ทันแถมยังเผลอขากระตุกทำเสียงดังขึ้นมาด้วย เจ็บเข่าอ่า เข่ากระแทกเก้าอี้โบสถ์ข้างหน้าอ่ะค่ะ ฮือ
โชว์เริ่มแล้ว ถึงยังเจ็บฉันก็ต้องไปต่อให้สุดเพื่อปลดหนี้ที่ติดท่านเอ็นโจวไว้ สู้ค่ะ!
“อ่า ดิฉันก็คิดว่าจะอดทนให้ผ่านไปได้จนจบอยู่หรอกนะคะ ทว่างานแต่งงานพรรค์นี้นี่ช่างเกินกว่าจะยอมรับได้จริงๆ ”
เดี๋ยวนะ ทำไมถึงคล้ายๆ ว่าเคยเกิดอะไรแบบนี้ขึ้นมาอีกแล้วละ ถึงจะไม่คล้ายกันเสียทีเดียวก็เถอะ!
★ ★ ★ ★ ★
ยังมีต่อ...ในมโน ยังไม่ได้เขียนอ่ะ //หลบหน้า
วันนี้วันทองของแฟนฟิค รัวมาก เอาอีก เอาอีกกกกกกกกกกกกก
Secret End (inception level 2)
Act 2 : part 1.3
พะ พูดไปแล้วค้าาาาาา ทะ ทะ ทำไมบทพูดถึงได้เบียวขนาดนี้ค่ะ นี่ต้องเป็นหนึ่งในความทรงจำอันน่าอับอายอีกอย่างแล้วใช่มั้ยคะ!?
ฮึก ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องเกิดขึ้นกับท่านเอ็นโจวหนักหนาพอๆ กับฉัน และดันไปติดหนี้ก้อนใหญ่ที่ต้องชดใช้ทั้งชาติละก็ จ้างให้ตายฉันจะไม่ยอมถูกลากมาทำตัวเบียวขนาดนี้แน่ค่ะ!!!
วันนั้นที่อีตาคาบุรากิบุกมาส่งการ์ดเชิญ เขาเล่าที่มาอย่างนี้ค่ะ เริ่มจากตัวเจ้าสาวมาถูกใจท่านเอ็นโจวเข้าค่ะ เหอะ หน้าตาช่างเป็นพิษเป็นภัยต่อคนรอบข้างจริงๆ นะคะท่านเอ็นโจว
เธอเป็นนักเรียนนอกค่ะ จบระดับปรัชญาดุษฎีบัณฑิตสายแพทย์เลยนะคะ แน่นอนว่าอายุมากกว่าท่านเอ็นโจวด้วยค่ะ วันนั้นเธอมาโรงพยาบาลแล้วเจอเอ็นโจวพอดี สบตาปิ๊งปั๊งเป็นรักแรกแบบที่หัวหน้าหมู่บ้านคานทองอย่างฉันฟังแล้วยังอิจฉาเลยค่ะ
มันเป็นเรื่องย่ำแย่ขึ้นมาเพราะอย่างแรก คู่หมั้นท่านเอ็นโจวยังเป็นเธอคนนั้นอยู่ คุณเจ้าสาวเลยไปทำอะไรก็ไม่ทราบถีบส่งทั้งตระกูลจนไม่สามารถอยู่ในประเทศได้เลยค่ะ อย่างที่สอง เธอเอายูกิโนะคุงมาเป็นเครื่องต่อรองค่ะ
ฟังแล้วฉันแทบจะคุมสติไว้ไม่อยู่ จิตใจทำด้วยอะไรถึงได้กล้าเอาเทวดาตัวน้อยๆ คนนั้นมาเป็นเครื่องมือกันคะ ตอนนั้นถ้าไม่ได้ท่านคาบุรากิรั้งเอาไว้ ฉันคงจะแล่นออกไปเอาเรื่องคนทั้งที่ไม่รู้ว่าเจ้าตัวอยู่ที่ไหนแล้ว
โรคภัยที่ยูกิโนะคุณเป็นอยู่ต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องและต้องใช้ตัวยาพิเศษควบคุมกันไปด้วย คุณเจ้าสาวอาศัยการเป็นทายาทโรงพยาบาลกดดันครอบครัวเอ็นโจวแถมยังเผื่อแผ่ไปล็อบบี้โรงพยาบาลทั้งในและนอกประเทศด้วยค่ะ
สมกับเป็นผู้นำด้านการแพทย์ของประเทศเลยไหมละคะ เจอการกดดันเงียบๆ แบบนี้จะไม่ให้บ้านเอ็นโจวเสียศูนย์ได้อย่างไร อาการของยูกิโนะคุงถ้ากำเริบขึ้นเมื่อไรก็ต้องได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที มาเตะถ่วงเอาชีวิตคนมาต่อรองเช่นนี้ช่างเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจจริงๆ ค่ะ
เมื่อไม่สามารถรอได้ก็เหลือเพียงทางเลือกในการศิโรราบ เพียงแต่ว่า..คุณเจ้าสาวกลับไปยอมหยุดแค่นั้น
เธอก้าวข้ามเส้นแบ่ง ได้คืบจะเอาศอกบังคับท่านเอ็นโจวเข้ารีตเพื่อให้สามารถแต่งงานกันได้ตามหลักพระคัมภีร์ และยังเรียกสินสอดเป็นทรัพย์สินมหาศาลเทียบเท่าครึ่งหนึ่งของทรัพย์สินที่ตระกูลเอ็นโจวครอบครองอยู่ ทั้งหมดนี้เพื่อให้คุณเจ้าสาวเองครอบครองทุกอย่างของเอ็นโจวได้อย่างหมดจด
เทียบกับอดีตแฟนสารเลวคนนั้นแล้ว คุณเจ้าสาวเป็นโคตรบอสที่ปราบยากกว่าอีกค่ะ เพราะหมอนั้นมีเบื้องหลังสีดำสนิท เล่นงานคิโชอินอย่างตรงไปตรงมา อะไรที่ผิดกฎหมายก็ผิดแน่นอนไม่ต้องมาพิสูจน์อะไรมากมาย ไพ่ในมือมีอะไรก็หงายมาหมดในคราวเดียว การตามเบาะแสเก็บหลักฐานจึงง่ายกว่า
ผิดกับคุณเจ้าสาว... เธอคนนี้จะหงายไพ่ในมือก็ต่อเมื่อเธอมั่นใจว่าเธอได้เปรียบแล้วแน่ๆ เท่านั้น สิ่งที่เธอทำสามารถเอาผิดทางกฎหมายได้ก็ต่อเมื่อมีการพิสูจน์อย่างรัดกุมและน่าเชื่อถือ ต้องใช้เวลามากกว่า
รู้สึกเห็นใจท่านเอ็นโจวจริงๆ โลกนี้มันอยู่ยากจริงๆ นะคะ
เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นหลังจากฉันถูกตัดขาดจากโลกภายนอกนั่นแหละค่ะ สำหรับตอนนี้ ฮือออ ฉันไม่น่าใส่ส้นสูงเลยค่ะ รู้สึกเด่นขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัวเลย
เพื่อขจัดความกังวลฉันจึงตั้งใจเป็นเรย์กะใน Kimi dolce ยิ่งขึ้น
เอาละ มาทำเพื่อยูกิโนะคุงกันเถอะค่ะ!
★ ★ ★ ★ ★
มาต่อให้อีกนิด กูขอไปอ่านฟิค Bad end บ้าง พาร์ทถัดไปมีของ >>780-782 เป็นสารตั้งต้น คงจะเมากาวเขียนได้เร็วกว่านี้แน่นอน...มั้ง
ปล. ทำไมคุณเจ้าสาวร้ายจังวะ โม่ง 780-782 มึงทำอะไรลงไป!!! //โยนความผิดไปให้
ปล2. >>844-849 มึงรีบๆ เขียนให้จบเลยนะคะ กุจะได้เอามากาวต่อ ซูดดดดด
เปิดเข้ามาเจอฟิคเยอะมากกุไม่รู้จะเม้าอันไหนก่อนดีเลย 555555 แต่ขอบคุณโม่งแฟนฟิคทุกคนนะที่ทำให้กุมีความสุข มีพลังมโนเพิ่มขึ้นได้ขนาดนี้ยย //กราบงามๆ
>>844-849 กุชอบฟิคแบดเอนด์มากเลยว่ะ รอมึงมาต่อให้จบนะ กุอยากเห็นการเล่นใหญ่รัชดาลัย ฟฟ กุก๊าวกับฉากจับเสื้อท่านเอ็นโจมาก กุอยากได้มุมมองท่านเอ็นโจตอนนั้นเลย 55555
>>857 ฟิคอินเซปชั่นมึงก็ดีชห กุชอบการโบกพัดดำลายฮิกันบานะของท่านเรย์กะมาก555555 เอาอีกกก ส่งมาให้กุอ่านอีกก อ้ากก
ใกล้ปิดมู้นี้เรื่อยๆแล้ว กูว่าพวกมึงประกวดตั้งชื่อใหม่กันได้แล้วนะ55555
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันยามบ่ายกลางจักรวาลแห่งกาว (ยานแม่ลำที่3)
กูขอเสนอ vvv
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : กัปตันเรือผู้มากความสามารถ ยูกิโนะคุง!
ขอเสนอ ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะที่ 3 เรือลับๆของท่านพี่xท่านอิมาริ
กูเสนอ
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : จงชาบูกัปตันยูกิโนะ
ต่อจาก >>641-642
-------------------------
"ท่านเรย์กะ"
"..."
"ท่านเรย์กะ?"
"..."
"ท่านเรย์กะคะ!"
"อ๊ะ ขอโทษค่ะ"
ฉันส่งแฟ้มเอกสารให้กับคุณหัวหน้าฝ่ายที่มารอรับ มัวแต่เหม่อจนผิดสังเกตอีกจนได้
หลังจากวันงานโรงเรียนซุยรันวันนั้น ก็ผ่านมา 2 วันแล้ว แม้จะพยายามทำตัวให้ปกติที่สุด แต่ก็มักจะสติหลุดสมองรวนไปทั้งหมด แถมเผลอนึกถึงเรื่องนั้นอยู่บ่อยๆ จนทำให้ท่านพี่ต้องเป็นห่วง สั่งให้ฉันลากลับบ้าน กลัวว่าฉันจะไม่สบายขึ้นมาอีก
พอกลับมาถึงห้องนอนส่วนตัว ฉันก็ได้แต่เอาหน้าซุกหมอนแล้วกรีดร้องออกมาดังๆ
อ๊าาาาาาาาาาาาาาา
ทั้งหมดก็เพราะนายคนเดียว!
เอ็นโจ!!!!!
แม้จะเป็นเพียงชั่วขณะ แต่สัมผัสที่ริมฝีปากนั้นไม่จางหายไปจนเผลอเอานิ้วแตะริมฝีปากตัวเองอยู่บ่อยๆ
ฉันเคยคิดว่าสัมผัสของผู้ชายน่าจะหยาบกระด้าง แต่ที่ได้สัมผัสมาแตกต่างจากที่คิดมากทีเดียว
อา ใช่แล้ว เหมือนกับมาร์ชเมลโล่ว์นุ่มๆเลยล่ะ
จะว่าไปตอนที่จับมือนั่นก็รู้สึกนุ่มกว่าที่คิด มือใหญ่และอบอุ่นเหมือนกับมือของท่านพี่เลยล่ะ แต่ก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันอย่างบอกไม่ถูก...
อ๊ะ นี่ฉันเผลอคิดอะไรอีกแล้วคะเนี่ยยยย รู้สึกร้อนไปหมดทั้งหน้า
อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาา แย่ที่สุดเลยยยยยยยย
เพราะนายคนเดียว! เอ็นโจ!!!
ฮือ นั่นน่ะจูบแรกของฉันเลยนะ! จูบแรกของผู้หญิงน่ะสำคัญมากนะยะ! ฉันน่ะเก็บจูบแรกไว้ให้กับคนรักของฉันนะ! บ้าที่สุดเลย!
ฉันเขย่าตุ๊กตาแกะในมือไปมา ฉันเกือบจะยัดมันเข้าไปอยู่ในห้องเก็บของคู่กับตุ๊กตาฮินะและหนังสือบทกวีของคาบุรากิไปแล้ว ตอนที่นึกถึงหน้าของคนมอบให้ แต่มันก็น่ารักเกินกว่าจะไปอยู่กับของต้องสาปพวกนั้นนี่นา สุดท้ายตุ๊กตาแกะนี้เลยยังลอยหน้าลอยตาอยู่บนเตียงของฉันเช่นเดียวกับตุ๊กตากระต่ายอย่างช่วยไม่ได้
ไม่ซิ มันก็แค่อุบัติเหตุเท่านั้นล่ะน่า ก็แค่การชนกันเท่านั้น ก็เหมือนกับตอนที่ฉันถูกเด็กชนใส่ตอนไปเดินที่ย่านการค้าเท่านั้นล่ะ
นั่นไม่ใช่จูบสักหน่อย ไม่นับ ไม่นับ ใช่ ไม่นับ!
ฉันพยายามสะกดจิตตัวเอง หลับตาลงรวมรวบสมาธิเพื่อขจัดความคิดด้านลบออกไป
ฮึยย่าาาาาาาาาาาห์!!!
ออกไปซ้าาาาาาาาาาา!!!
✦✦
พอพักสมองขึ้นมาได้ ฉันเลยลงมาข้างล่างกะว่าจะหาอะไรกินเล่นสักหน่อย
"เรย์กะ! พ่อกลับมาแล้ว!"
ท่านพ่อที่ไปทัวร์ยุโรปกับเพื่อนๆตามประสาคนวัยเกษียณหอบหิ้วถุงพะรุงพะรังเข้ามา
"พ่อซื้อของฝากมาให้เรย์กะเพียบเลยนะ"
"ว้าว ขอบคุณมากเลยค่ะท่านพ่อ"
ฉันรับถุงมาเปิดดู ก็มีทั้งเครื่องประดับ น้ำหอม และขนมแบรนด์ดังมากมายที่ซื้อมาอย่างมือเติบ ไหนจะของท่านแม่ ท่านพี่ และคนรู้จักอื่นๆของท่านพ่ออีก ไม่รู้ว่าท่านพ่อหอบหิ้วกลับมายังไงกันนะเนี่ย
ไหนๆก็กะว่าจะลงมาหาอะไรกินอยู่แล้ว ฉันเลยเปิดกล่องขนมที่ท่านพ่อให้มาเพื่อจะกินซะเลย
อะ มาร์ชเมลโลว์...
"อันนี้พ่อซื้อมาจากไอร์แลนด์ เขาว่าอร่อยมากเลยนะ นุ่มมากด้วย ละลายในปากได้เลยล่ะ! เห็นเรย์กะชอบพวกขนมของหวานพ่อก็เลยซื้อมาฝาก"
"เกลียดท่านพ่อที่สุดเลย!!!!!!!"
"เอ๋!?"
ฉันวิ่งขึ้นมาบนห้องนอน ซุกหน้ากับหมอนอีกครั้ง พอเห็นมาร์ชเมลโล่ว์ก็ทำให้นึกถึงสัมผัสนั้นขึ้นมาอีกจนได้ อุตส่าห์ใช้รวบรวมพลังขจัดมันออกไปแล้ว ท่านพ่อแย่ที่สุดเลย! ซื้ออะไรไม่ซื้อดันไปซื้อมาร์ชเมลโล่ว์เนี่ยนะ!! เป็นแค่ทานุกิที่แก่เกษียณแล้วแท้ๆ ขอให้หัวที่เถิกขึ้นมาครึ่งหัวแล้วนั่นกลายเป็นหัวล้านเกลี้ยงไปเลยไป๊!!!
✦✦
วันถัดมา เป็นวันเสาร์ ซากุระจังมาเยี่ยมที่บ้าน ตั้งแต่แต่งงานกับอาคิสะวะคุงก็ดูจะวุ่นวายจนไม่ได้เจอกันเลย ฉันพาซากุระจังมาคุยกันที่ห้องนอน ก่อนหน้านั้นก็เดินผ่านท่านพ่อที่ทำหน้าจ๋อยเรียก "เรย์กะ..." เบาๆ
เชอะ ไม่รู้ไม่ชี้ไม่สน! ไม่ต้องมาง้อกันเลยนะทานุกิ!
ซากุระจังก็สังเกตเห็นท่าทีที่ผิดปกติของฉัน เลยคาดคั้นจนฉันต้องยอมเปิดปากเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟัง
"ไม่นับอะไรกันล่ะ แค่ปากประกบกันนั่นก็เรียกว่าจูบแล้วล่ะย่ะ!"
ไม่จริ๊งงงงงงง อย่าพูดอย่างนั้นน้าาาาาา
"อย่าทำตัวหน่อมแน้มไปหน่อยน่า เดี๋ยวนี้เด็กมอปลาย 80% เขาก็เคยจูบกันแล้วทั้งนั้น เธอเพิ่งมาเฟิร์สคิสตอนอายุปูนนี้ล่ะ ช่างอ่อนหัดจริงๆ"
โกหกน่า! มอปลายเนี่ยนะ เธอไปเอาสถิติพรรค์นั้นมาจากไหนกันยะ!
"อ่อนหัดอะไรกัน! แล้วซากุระจังล่ะ!?"
ซากุระจังมองฉันด้วยหางตา กระยิ้มกระย่องพร้อมสะบัดเชิดหน้าใส่อย่างมาดมั่น ไม่ตอบคำถาม
อะไรกันน่ะ ท่าทีแบบนั้น...
ย อย่าบอกนะว่าตั้งแต่มอต้น!? ...หรือประถม!? ...คงไม่ใช่อนุบาลหรอกนะ!!?
ไม่จริงน่า นี่อาคิสะวะคุงโดนยัยปิศาจหนังแมวนี่พรากความบริสุทธิ์ไปไวขนาดนั้นเชียวเหรอ!
ไม่น้าาาาาาา อาคิสะวะคุงงงงงง
-----------------------
เห็นไม่มีใครต่อ กูเลยมาวันๆของท่านเรย์กะแล้วกัน ถถถ
>>882 วั้ยยยยยยยย ร้องเพลงจูบคลอไปเลยค่ะเอ็นโจ จูบคุณคิดว่าไม่สำคัญ จูบเบาๆเท่านั้นยังทำให้สั่นไปทั้งหัวใจ คุณเป็นคนจูบ คุณรู้บ้างมั้ย คุณทำให้ใครหัวใจสั่นไหว ล่องลอยเพราะรอยจูบคุณ
โดขิ โดขิมากข่ะ ความฟินนี้ ทานุกิน่าสงสารจัง เอาใจลูกสาวที่อารมณ์แปรปรวน ทีหลังก็ไปซื้ออย่างอื่นแทนนะ ให้เรย์กะได้สัมผัสมาชเมโล่จากเอ็นโจคนเดียวก็พอ
>>619-621 ตามที่ได้จองที่เอาไว้
ที่ลี้ภัยแห่งเดียวของฉันในโรงเรียนคงมีแต่ที่ห้องชมรมเท่านั้นแล้วมั้งคะ
ทีแรกฉันก็หนีไปสโมสรของเปอติต์ แต่เอ็นโจก็มารับน้องชายทุกวัน พอลองแย็บๆถามก็บอกว่าเข้าหน้าหนาว ยูกิโนะมีร่างกายอ่อนแอก็เลยต้องมารับทุกวันเพื่อดูอาการ เผื่อเป็นอะไรจะได้ช่วยเหลือได้ทัน
โถ ทำไมเทวดาน้อยถึงได้น่าสงสารขนาดนี้ล่ะคะ ฉันควรจะถักผ้าพันคอกับถุงมืออุ่นๆให้สินะ
แต่พอเห็นยูกิโนะคุงสวมใส่ผ้าพันคอกับถุงมือถักที่ดูแล้วฝีมือดีกว่าฉันร้อยเท่าพันเท่า ความคิดนั้นก็เลยต้องเตะลงข้างทางไปค่ะ
นอกจากนั้น มาโอะจังก็เริ่มร้องเพลงประกอบการ์ตูนเรื่องเจ้าหญิงนิทราอันโด่งดัง "กาลครั้งหนึ่งในฝัน" ดูเหมือนเธอจะคิดว่าฉันที่ถูกเข็มปักนิ้วคือเจ้าหญิงนิทราไปซะแล้วล่ะค่ะ แล้วเนื้อหาของเพลงนั่นมันก็ทำให้ฉันนึกถึงความฝันนั่นขึ้นมา
ส่วนเอ็นโจ พอฟังเพลงแล้วก็อมยิ้มแล้วมองหน้าฉัน ดูกรุ้มกริ่มมีเลศนัยแบบเดียวกับเอ็นโจที่อยู่ในฝัน
จะยิ้มทำไมคะ จะยิ้มแบบนั้นทำไมกันค้าาาาา
พอเห็นท่าไม่ค่อยดี ฉันก็เลยรีบชิ่งกลับบ้านโดยด่วน ไม่อย่างนั้น ฉันอาจจะเลือดกำเดาไหลออกมาตรงนี้อีกครั้งก็ได้
.
.
งานเลี้ยงของมาดามคาบุรากิมาถึงจนได้ เห็นว่าควบรวมกับงานเลี้ยงคริสต์มาสที่กำลังจะมาถึงไปด้วยในตัว ดังนั้น งานก็เลยออกมายิ่งใหญ่อลังการสมเป็นตระกูลคาบุรากิดีค่ะ ต้นคริสต์มาสประดับประดาอย่างหรูหรา มีรูปปั้นนางฟ้าและเทวดาน้อยๆ โรยด้วยเกล็ดหิมะสีขาวเป็นภาพที่งดงามเหมือนความฝัน ช่างดีเลิศอะไรเช่นนี้
ท่านพ่อและท่านพี่ทักทายและพูดคุยกับแขกทางธุรกิจมากมายที่มาดามคาบุรากิเชิญมาด้วย ส่วนฉันอยู่กับท่านแม่ พูดคุยกับมาดามท่านอื่นๆ หัวข้อสนทนาส่วนใหญ่ก็ไม่พ้นเรื่องรักๆใคร่ๆ คุยว่าลูกสาวบ้านโน้นหมั้นกับลูกชายบ้านนี้ คนนั้นกิ๊กกันอยู่กับคนนี้ แล้วก็วกมาที่ฉันจนได้
"คุณเรย์กะงดงามขนาดนี้ มิน่าล่ะคะ พอลูกชายดิฉันเห็นก็ถึงกับเพ้อหาไปเลย ร่ำๆจะมาทำความรู้จักกับคุณให้ได้ แต่คุณเรย์กะไม่ค่อยออกงานเท่าไหร่ก็เลยไม่มีโอกาสสักที" มาดามท่านหนึ่งหัวเราะต่อกระซิกกับฉัน "คุณเรย์กะมีใครในใจรึยังคะ สนใจจะรับลูกชายดิฉันไว้พิจารณารึเปล่าเอ่ย อายุก็รุ่นราวคราวเดียวกัน เป็นนักเรียนซุยรันเช่นกันด้วยนะคะ"
"แหม" ฉันหัวเราะไปกับเขาด้วย
มีนักเรียนซุยรันแอบชอบฉันอยู่ด้วยงั้นรึคะ ว้าย ตายแล้ว ข่าวใหม่เลยนะคะ
ฉันคิดว่าฉันจะแห้งเหี่ยวอยู่บนคาน ไม่มีใครมาแอบชอบเสียอีก คุณนักเรียนซุยรันคนนั้นเป็นใครหรือค้าาาา
"คุณพี่คะ ดูเหมือนว่าคุณพี่จะต้องผิดหวังแล้วล่ะค่ะ เพราะข่าวคราวของคุณเรย์กะที่ได้ยินจากลูกสาวจากที่อยู่ซุยรันของดิฉันน่ะ โรแมนติคมากเลยนะคะ" มาดามอีกคนที่อยู่ในวงสนทนาก็เอ่ยขึ้น "ดิฉันได้ยินแล้วถึงกับเคลิ้มไปเลยล่ะค่ะ ช่างวิเศษอะไรเช่นนี้"
"หรือว่าจะเป็นข่าวคุณมาซายะของตระกูลคาบุรากิสินะคะ" มาดามอีกท่านก็เอ่ยขึ้นมาด้วย "ดิฉันก็ได้ยินมาเช่นกันค่ะ"
"อ้าว ไม่ใช่คุณชูสุเกะของตระกูลเอ็นโจงั้นหรอกหรือคะ" มาดามอีกท่านก็ทำหน้าแปลกใจ แล้วทุกคนก็หันมามองฉันเป็นจุดเดียว สายตาสอดรู้สอดเห็นกันเต็มขั้น แล้วก็เริ่มลงมือแชร์ข่าวทั้งหลายที่ได้ยินมากันอย่างสนุกสนาน
อ๊ากกกกกกกกกกก นี่มันอะไรกันคะ ข่าวอะไรของพวกคุณน่ะค้าาาา
คุณแม่ของนักเรียนซุยรันที่แอบชอบฉันอยู่ พอได้ยินเรื่องราวของฉันกับคาบุรากิและเอ็นโจก็ดูเหมือนจะยอมรามือ ล้มเลิกการจับคู่ฉันระหว่างกับลูกชายของเธอเอง อ๊ะ ไม่ได้นะคะ จะมาถอดใจเพราะคิดว่าเจ้าสองคนนี้เป็นคู่แข่งของลูกชายคุณไม่ได้นะคะ มันไม่มีอะไรทั้งนั้นเลยน้าาา
แถมข่าวคราวที่เหล่ามาดามพวกนี้ได้ยินมาก็ใส่สีตีไข่กันมากเกินไปแล้ว แต่ฉันจะปฎิเสธก็พูดไม่ออก ได้แต่หัวเราะกลบเกลื่อนไป
คาบุรากิกับเอ็นโจก็ไม่เคยจีบฉันสักหน่อยนี่คะ จะมาเหมารวมว่าเป็นเรื่องโรแมนติคได้ยังไงกัน
กว่าจะขอปลีกตัวออกมาจากเหล่ามาดามที่สอบสวนฉันเกี่ยวกับเรื่องรักๆใคร่ๆพวกนี้ได้ ฉันก็แทบจะหมดเรี่ยวแรง พอเป็นเรื่องแบบนี้ทำไมดูกระตือรือร้นกันจังเลยล่ะคะ
เหนื่อยจัง อยากนั่งพัก อยากได้น้ำซักแก้ว
"เชิญครับ" มีมือเครื่องดื่มยื่นมาตรงหน้าฉัน พอเงยหน้ามองก็พบว่าเป็นเอ็นโจที่ส่งยิ้มมาให้อย่างเคย
"ขอบคุณมากค่ะ" ฉันรับเครื่องดื่มมาจิบ อร่อยจังเลยค่า สมกับเป็นอาหารในงานเลี้ยงของตระกูลคาบุรากิ แม้แต่น้ำมะนาวก็ยังอร่อย ทานแล้วให้ความรู้สึกสดชื่นด้วย
"วันนี้ใส่ขนเฟอร์สีขาวดูเหมือนกระต่ายเลยนะ คุณคิโชวอิน เหมาะมากเลยล่ะ"
ตอนแต่งตัว ท่านแม่รบเร้าให้ฉันใส่ชุดนี้ เป็นเดรสเกาะอกสีขาว มีผ้าคลุมไหล่สีน้ำตาลอ่อนขลิบเฟอร์ที่ให้ความรู้สึกเป็นผู้ใหญ่ และจะได้เข้ากับบรรยากาศคริสต์มาสด้วย ฉันได้แต่ก้มหัวพูดขอบคุณสำหรับคำชมไป ไม่กล้าสบตากับเอ็นโจมากนัก
วันนี้ฉันเกล้าผมมา รู้สึกว่าพลังการป้องกันจะลดลงด้วยล่ะค่ะ
สายตาแบบนั้นมันอะไรกันคะ หมอนี่พอเห็นฉันอ่อนข้อให้หน่อยก็ชักจะเอาใหญ่เลยนะ
"รู้สึกว่าทางโรงแรมจัดซุ้มมิสเซิลโทเอาไว้ด้วย สวยมากเลยล่ะ ยูกิโนะก็อยากมาดูเหมือนกัน แต่มาไม่ได้"
"เอ๊ะ ยูกิโนะคุงไม่สบายเหรอคะ"
"เปล่าหรอก แค่งานนี้คนเยอะเกินไป ช่วงหน้าหนาวยูกิโนะป่วยง่ายกว่าปกติ ก็เลยกันไว้ก่อนดีกว่า" เอ็นโจส่งยิ้มที่ดูอบอุ่นมาให้ "คุณคิโชวอินช่วยดูแทนยูกิโนะหน่อยสิ"
เมื่อนึกถึงใบหน้าน่ารักของยูกิโนะคุงยิ้มแย้มออกมาอย่างดีใจที่จะได้เห็นของสวยๆงามๆ ฉันก็เลยเดินตามเอ็นโจไปที่ซุ้มของมิสเซิลโทที่ว่า เป็นทางเดินยาวๆมีเทียนไขจุดให้ความสว่างเป็นระยะ มิสเซิลโทที่อยู่บนผนังสีขาวมีหลากหลายรูปทรง ประดับประดาด้วยลูกโอ๊ค กระดิ่งและริบบิ้นสีแดงดูน่ารัก บนเพดานก็มีช่อมิสเซิลโทห้อยลงมามองดูคล้ายกับโคมไฟ บรรยากาศโรแมนติคจนฉันเคลิบเคลิ้มไปชั่วขณะ
หวา สวยจังเลยค่ะ
ฉันหยิบมือถือขึ้นมา ถ่ายรูปหลายๆใบกะว่าจะส่งไปให้ยูกิโนะคุงดู แต่ขณะกำลังใจจดใจจ่ออยู่กับการถ่ายรูป สร้อยคอเส้นเล็กๆที่ฉันสวมอยู่ก็ไปเกี่ยวกับกิ่งมิสเซิลโทที่ยื่นออกมา แย่จริงเชียว
ขณะที่พยายามปัดป่ายมือไปข้างหลังเพื่อแกะออก ก็รู้สึกถึงปลายนิ้วที่แตะสัมผัสกับหลังคอ "ผมช่วยก็แล้วกัน" เอ็นโจมากระซิบอยู่ข้างหูทำเอาใจสั่นไปหมด
อ๊าาาาาา แล้วทำไมต้องทำเสียงแบบนั้นด้วยล่ะคะ
สัมผัสนั้นยังคงวนเวียนอ้อยอิ่งอยู่บนตัวฉัน แทบไม่กล้าหันไปดูว่าเอ็นโจดึงสร้อยออกจากกิ่งมิสเซิลโทหรือยัง
"คุณคิโชวอิน เคยได้ยินเรื่องเล่าของมิสเซิลโทรึเปล่า"
"อะ เอ๋"
"สมัยก่อนน่ะ เขาเชื่อกันว่ามิสเซิลโทเป็นต้นไม้ที่นำความโชคดีและความสุขมาให้ ก็เลยตัดช่อมิสเซิลโทเอาไว้ไปใช้ในงานแต่งด้วย"
"งะ งั้นเหรอคะ"
"แต่ถ้าคนที่ยังไม่แต่งงานมายืนจูบกันใต้ซุ้มมิสเซิลโท ก็เหมือนได้รับคำอวยพรให้ได้แต่งงานกันในอนาคต" เอ็นโจพูดต่อไปด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล "แล้วก็นะ ถ้าผู้หญิงไปยืนใต้ต้นมิสเซิลโทก็หมายความว่าเธออนุญาตให้ผู้ชายที่หมายปองจูบเธอได้"
ปลายนิ้วของเอ็นโจออกจากต้นคอฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ค่อยๆเลื่อนมาสอดประสานเข้ากับมือทั้งสองมือฉันแบบไม่ทันให้ได้ตั้งตัว สายตาวิ้งวับดูไม่น่าไว้ใจอย่างรุนแรง ก้มมาใกล้ๆแล้วกระซิบข้างหู
"คุณคิโชวอิน อนุญาตรึเปล่าครับ"
อ๊ากกกกกกก หมาป่าบุกมาแล้วค่าาา ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยด้วย แง้ ท่านพี่ขา ช่วยน้องด้วย
อันตราย
สถานการณ์ตอนนี้อันตรายเหลือเกินค่ะ หัวใจฉันมันเต้นรัว เลือดสูบฉีดจนฉันจะเป็นลมแล้ว อา เลือดกำเดาจะไหลอีกรึเปล่านะ
สิ่งที่ช่วยกู้วิกฤตในครั้งนี้คือคู่รักหนุ่มสาววัยรุ่นที่จูงมือกันมาตามทางเดิน ส่งเสียงหัวเราะคิกคัก ชี้ชวนกันให้ดูช่อมิสเซิลโทที่ประดับอยู่แบบหวานชื่น
แต่พอสองคนนั้นเห็นฉันกับเอ็นโจก็ชะงักกึก รีบโค้งคำนับเป็นการขอโทษก่อนจะเผ่นหนีไปอย่างรวดเร็ว อ๊าา กลับมาก่อนค่าาาาา อย่าทิ้งฉันไว้กับหมาป่าสิคะ
"กะ กลับเข้าไปข้างในงานกันเถอะค่ะ" ฉันดึงมือตัวเองออกจากมือของเอ็นโจ สองข้างแก้มร้อนผ่าว "ฉันหายมานาน ท่านแม่คงจะเป็นห่วงแล้ว"
พอเปิดประตูเข้าไปข้างในงาน ก็ได้เห็นคู่รักเมื่อกี้ยืนคุยกับวัยรุ่นกลุ่มใหญ่ที่ฉันคุ้นๆหน้าว่าเป็นเด็กซุยรันอยู่ด้วย พอทั้งกลุ่มนั้นหันมาเห็นฉันกับเอ็นโจก็อื้ออึงกันใหญ่ มีสาวๆบางคนหน้าแดงด้วย
แง้ ข่าวลือมันจะกระจายไปไหนต่อไหนแล้วล่ะ อย่าเข้าใจอะไรกันไปผิดๆจะได้รึเปล่าคะ มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยน้าาาา
"แล้วเจอกันวันที่ยี่สิบสี่นะครับ" เอ็นโจก้มมากระซิบข้างหูฉันแล้วเดินจากไป กลุ่มนักเรียนซุยรันกลุ่มนั้นยิ่งฮือฮาหนักกว่าเก่า ส่วนมาดามทั้งหลายก็ลากฉันไปสอบสวนเกี่ยวกับเรื่องรักๆใคร่ๆอีกแล้ว
ทำไมพวกคุณๆถึงแรงดีไม่มีตกกันแบบนี้เลยค้า
---------------------------
ชุดที่เรย์กะใส่กูจิ้นไว้ประมาณนี้อะ สั้นกว่านี้หน่อย ไม่ลากชายกระโปรงยาวเท่านี้
http://imgur.com/D9B8hF1
ส่วนเนื้อหาเพลงกาลครั้งหนึ่งในฝันแม่งก๊าวมาก หลังจากที่ฝัน...กูว่าเอ็นโจได้ยินคงอมยิ้มอะ
ฟิคของพวกมึงนี่ช่วยเยียวยากูจากโลกอันโหดร้ายเหลือเกินนน ฮอลลลลลล
ถึง 831-834
นี่โม่งเงานะ เรารอฟิคเธออยู่นะ ลุ้นสุดตัวว่าเรย์กะซังจะไปเป็นเกอิชามั้ย ถึงขนาดไป google เรื่องเกอิชาและผู้อุปถัมถ์เลย
สู้ๆนะ เมื่อไรเอ็นโจซึนจะรู้ใจตน
ทำไมพวกมึงชอบใช้เพลงดิสนีย์กันจังวะ55555
เห็นเพลงกาลครั้งหนึ่งฯนี่ หัวกูเล่นเพลงเลย แต่ไม่ใช่เวอร์ชั่นต้นฉบับนะ เวอร์ชั่นlana del reyข่ะ55555 เปลี่ยนฟีลแทบไม่ทัน (https://www.youtube.com/watch?v=bYrD_l3juoU)
/สูดกาวแล้วตั้งสติ
มันน่ารักจริงๆนะเว่ยยยยยยย สำหรับคนไม่เก็ต ไม่ค่อยอินกับเพลงกูเอาแปลไทยมาให้ แล้วมึงไปอ่านทบทวนเอาซะ นี่กูทำเพื่อพวกมึงและช่วยงานโม่งสารบัญเลยนะเว่ยยยยย เอากาวล็อตใหม่มาเซ่นไหว้ข้าซะ!! อุหว่ะฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ//โดนเตะออกจากกระสวย
[ งานแต่งงานและเข้าหอ หุ~~~ๆๆๆๆๆ ]
>>261
>>263-265
[ เเตกหน่อจากฟิคงานแต่งงาน บุพเพนิมิตไงสัส อุหว่ะฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ]
>>264
>>412-415
>>432-433
>>619-621
>>885-886
[ Once Upon A Dream~ ]
I know you, I walked with you once upon a dream
ฉันรู้จักคุณ ฉันเคยเดินร่วมทางกับคุณหนหนึ่งในความฝัน
I know you, that look in your eyes is so familiar a gleam
ฉันรู้จักคุณดี ยามฉันมองเข้าไปในดวงตาของคุณ ประกายจากแววตาคู่นั้นช่างเป็นประกายที่คุ้นเคย
And I know it’s true that visions are seldom they seem
แล้วฉันก็รู้ว่าความจริงแล้ว มโนภาพในความคิดของเรานั้นค่อนข้างเหมือนความจริงที่ปรากฎ
But if I know you, I know what you’ll do
แต่ในเมื่อฉันรู้จักคุณ ฉันรู้นะว่าคุณกำลังจะทำอะไร
You’ll love me at once, the way you did once upon a dream
คุณจะรักฉันทันที ดังเช่นที่คุณเคยหลงรักฉันมาแล้วหนหนึ่งในความฝัน
Credit: aelitaxtranslate.com
แล้วก็ร้องวนไปข่ะ น่ารักมั้ยสัสสสสสส ท่านเอ็นโจก็ท่านเอ็นโจเถอะว้า!! ยิ้มเป็นคนบ้าเลยเว่ยยยยยย ตรงกับตามเพลงเด็ะๆ!!
สารภาพกับกูมาโม่งคนแต่ง มึงทำกาวไปมึงฟังเพลงนี้ไปช่ะ!!! กูชอบมากกกกกกกกก ฉากท่านเอ็นโจแกยิ้มกรุ่มกริ่มพลางมองท่านเรยกะนี่ลอยเข้ามาในหัวเลยสัส คือแบบ แกรรร!!! คือแบบ!! ฌธ็๋ษฉฆซศฏฒซฒฮ๒๓๖๓ณ403 9-29I$(%U(%#)TE สครีมไร้ภาษาเลยข่ะ
กูรักพวกมึงจังเลยยยยยย เรียกกูโม่งเพลงละกัน เดี๊ยวหาเพลงเข้ากับฟิคมาแปะต่อ อุหว่ะฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ
>>885-886 กรี๊ดดดดดด หมาป่าบุกมากินกระต่ายแล้วข่าาาาา หลอกกระต่ายไปใต้ต้นมิสเซิลโท กะรวบหัวรวบหาง ไม่ว่าทางไหนก็ปฏิเสธไม่ได้ ทั้งอวยพรให้แต่งงาน รวมถึงอนุญาตให้จูบ แล้วก็บุญมีแต่กรรมบังจริงๆค่ะ เอ็นโจควรไปสะเดาะเคราะห์กับอาจารย์ฮิโยโกะนะคะ จะได้ไม่โดนขัดจังหวะซักที คำทำนายไพ่ฟิคบนๆนี่ส่งผลครอบคลุมทั้งชีวิตสินะคะ อุปสรรคเยอะเหลือเกิน
>>895 เยส ตั้งแต่กูอ่านฟิคความฝัน กูก็รมกาวตัวเองด้วยเพลง ด้วยเสียงเจ๊ lana del rey จนทนไม่ไหว ต้องมาเขียนเองนี่ล่ะ โครตตรงเลย เดินเคียงข้างกัน สายตาที่คุ้นเคยในฝัน และฉันรู้ว่าเธอจะรักฉันอีกครั้ง เพราะงั้นก็รุกจีบมันเข้าไปเลยนะค้าาาา ไหนๆก็เป็นสามีภรรยาในความฝันกันไปแล้ว ก็สานต่อให้มันถึงที่สุดเลยสิคะ
>>882 วงวารทานุกิเหลือเกิน ช่วยทานุกิด้วยค่ะ ลูกสาวเข้าวัยต่อต้านไม่เลิกราซักที คนไม่ใช่ทำอะไรก็ผิดสินะค้าาาา
เมากาวมาก จุดนี้
>>885-886 โดนขัดตลอดซิน่าเอ็นโจจ จากเลือดกำเดาไปละหนึ่ง นี่รุกขนาดนี้ก็ยังจะมีคนเข้ามาขัดจังหวะซะอีก โถ่ววว
แต่เดี๋ยวก่อนซิ จบอีเว้นท์นี้แค่นี้เหรอ งานเลี้ยงแบบนี้มันต้องมีฉากเต้นรำกันหน่อยเซ่!!! อฟช. ได้เต้นรำแค่กะยูกิโนะ ขัดใจ ขอฉากเต้นรำในฟิคหน่อยซิ!!!!
>>885-886 ยังไม่ได้คบเป็นแฟน แต่ข้ามขั้นไปซะแล้ว ถ้าไม่มีคนมาขัดจังหวะคงจูบไปแล้วสิน้าาาาาาา ทำไมอีตานี่มันร้ายจังเลยคะ มานิ่มๆแต่ว่องไวรุกเร็วเหลือเกิน ไม่บังคับชัดเจน แต่ก็รุกไล่บีบให้อีกฝ่ายเอ่ยออกมาเอง ฮรึ่ย ร้ายกาจ//เสียงรอน
กาลครั้งหนึ่งในฝันแม่งก๊าวจริงๆ อยากเห็นมุมมองเอ็นโจจากเรื่องนี้จัง 55555555555555 คิดอะไรอยู่กันน้า
148มาแล้ว ขอบคุณโม่งแปล
โม่งแปลกูรักมึงงงจุ๊บๆ ว่าแต่ตอนท้ายนั่นแม่งทำค้าง มึงมาลงต่อเดี๋ยวนี้น้าาาาาเว้ยยย อ๊ากกก
ใครเป็นคนทักวะ ใครๆๆๆๆ แต่ดูทรงแล้วไม่น่าใช่เอ็นโจซามะ แต่ถ้าใช่กูจะดีใจมาก เขาคือครายยย
ขอบคุณโม่งแปลมากสำหรับตอนใหม่ ริรินะกับเดชชิยังมีอะไรให้โดขิโดขิ ท่านเอ็นโจยังไม่มา นี่รออยู่นะคะ... ส่วนคาราบุกินี่เป็นเจ้าบ้าจริงๆเลย วาคาบะจังโดนแกล้งน่ะ เข้าใจมั้ย!!?? สาวเจ้าดูไม่หวั่นไหวกับที่นายทำลงไปเลย ขอให้วาคาบะจังไม่แล จีบต่อไปเถอะ! หึ!!!!
โถ R K ไม่ใช่เรย์กะ คิโชวอิน แต่เป็นริรินะ โคะโท เดชชิริจะสอยดอกฟ้าต้องพยายามเข้านะ
ส่วนคาบุรากิ หมอนี่บ้ามากๆที่ทำดีกับผู้หญิงต่อหน้าสาวๆเยอะๆ นายลืมไปแล้วเหรอว่าตัวเองป็อบสุดในโรงเรียนอะ ไปทำอย่างนั้นวาคาบะก็โดนแกล้งหนักขึ้นสิค้า เอ็นโจ ทำไมไม่เตือนเพื่อนหน่อย หรือไม่ใช่เรื่องของคุณคิโชวอินจะไม่สนใจ เป็นยังไงก็ไม่เกี่ยวกันงั้นเหรอ กูล่ะอยากให้เจ้าแม่กาลีออกโรงปกป้องวาคาบะ ไปด่าจักรพรรดิกับคนอื่นๆถึงที่เหลือเกิน ถถถถถถถถถถถ
แอบก๊าวกับโมเมนต์เดชชิริรินะ คือนางเขินที่จะใช้ผ้าที่เดชชิให้ก็เลยเอามาให้เรย์กะงั้นเหรอ หรือเห็นโมเมนต์เรย์กะใช้ผ้าคู่กับเอ็นโจ แล้วไหนๆก็ได้ผ้ามาฟรีๆพอดีก็เลยเอามาให้เรย์กะซะเลย อยากใช้ผ้าคู่กับเรย์กะก็ซื้อเป็นคู่แล้วเอามาให้สิค้าาาาาา ไม่ใช่เอาของคนอื่นมาให้ 5555555555
>>908 หลังๆไป เรย์กะกับวาคาบะน่ารักมากเลยนะมึง มุ้งมิ้งเพื่อนสาวกันสุดๆ คือถ้าเรย์กะไม่ได้กับเอ็นโจ ควรลงเอยกับวาคาบะว่ะ 555555555
กูว่าคาบุรากิแม่งทึ่มชิบหาย คือมันก็รู้ตัวนะว่าป็อบ ไปทำดีกับเขาต่อหน้าคนเยอะๆ แทนที่สาวเขาจะประทับใจ เสือกทำให้เขาตกเป็นเป้าหมายโดนรังแกอีก ไม่ถูกเกลียดเอาก็บุญแล้วนะ อยากปักธงก็ควรไปทำเงียบๆ ปลอบใจกันสองต่อสองสิฟร้าาาาาา คิดว่าทุกคนเขาจะยอมให้ตัวเองใกล้ชิดผู้หญิงแบบเคสยูริเอะหรือเรย์กะเรอะ
>>909 เอ็นโจอาจจะมักน้อยกว่าที่คิด เห็นคุณคิโชวอินยอมใช้ผ้าเป็นคู่กันซักครั้งก็ดีใจมากแล้วก็ได้
>>911 แต่ขนาดรุกยูริเอะมากขนาดนั้นก็ยังแห้วเลย ควรเรียนชั้นเชิงจากยูกิโนะบ้างนะ ถถถถถถถถ
กูว่าที่คาบุรากิมันจีบวาคาบะแบบตรงๆทื่อๆเลยเพราะนิสัยเป็นแบบนั้นว่ะ ตรงไปตรงมา ไม่ซับซ้อน คิดอะไรทำเลย ไม่ค่อยคิดถึงผลที่จะตามมาเท่าไหร่
เอ็นโจไม่ให้คำปรึกษาเพื่อนหน่อยวะ คนฉลาดอย่างฮีน่าจะเดาสถานการณ์ออกว่าวาคาบะต้องเจออะไรถ้าคาบุรากิไปทำดีด้วย ฮีควรห้ามปรามเพื่อนบ้าง หรือกำลังสนุกวะ ที่ได้เห็นชีวิตคนอื่นเดือดร้อนลำบาก ถ้าเป็นแบบนี้ซาดิสม์ชิบหาย ควรให้เรย์กะต่อยท้องสั่งสอนอีกรอบ
อยากลองอ่านมุมมองของริรินะจังอ่าาา คงเป็นอะไรที่ซึนเดระมากกกกกก
>>914 อาจจะมีบ่นคุณเรย์กะทั้งตอน ญาติผู้พี่ของฉันช่างไม่เอาไหน กะอีแค่ตาไก่โง่ก็จัดการไม่ได้ ตอนซึรุฮานะก็ใจเย็นให้ถูกลูบคมตั้งนานกว่าจะขยับเขยื้อนตัว ต้องให้คอยดูแลอยู่เรื่อย เพราะเห็นแก่ท่านพี่ทาคะหรอกนะ ไม่ได้อยากช่วยอะไรซักนิด แล้วก็พูดถึงลูกสมุนอีกนิดๆหน่อยๆ อ๊ะ เดี๋ยวสิ คุณเรย์กะใช้ผ้าลายเห่ยๆช่างมีรสนิยมแย่จริงๆ ช่วยไม่ได้นะ เอาของฉันไปใช้ก็แล้วกัน ไม่ได้อยากให้หรอกนะ จะปล่อยให้คุณเรย์กะใช้ของรสนิยมแย่ๆเดี๋ยวมันก็เสื่อมเสียมาถึงตัวฉันน่ะสิ ท่านพี่ทาคะเองก็คงจะพลอยเสียหน้าไปด้วย ฮึ่ย คุณเรย์กะนี่ช่างเป็นคนไม่ได้ความจริงๆ
>>910 ถ้าอย่างนี้ท่านเรย์กะก็หาของกินสามัญชนได้ง่ายขึ้นสิ แบบว่าให้วาคาบะซื้อมาให้ ส่วนไอ้บ้าคาบุกิปล่อยมันไปเถอะค่ะประสบการณ์ในอดีตไม่เคยสอนอะไรเล๊ยยย ลำบากท่านเรย์กะกูอีกล่ะที่ต้องช่วยมัน ส่วนเอ็นโจนั้นแอบ S แน่นอน ที่ชอบอยู่กับคาบุกิคงจะเพลินสายตาพี่แกดีกับเรย์กะก็ด้วยมีเหตุการณ์ที่รับรองความเป็น S ได้ดี
(สปอย)
.
.
.
.
.
.
.
งานเลี้ยงชมดอกซากุระที่จัดกันตอนเย็น ท่านเรย์กะก็อยากไปชมดอกซากุระที่บานสะพรั่งสวยงาม ท่านเอ็นโจก็เล่าเรื่องศพที่ฝังอยู่ใต้ต้นซากุระให้ฟังซะงั้น(ไม่แน่ใจว่าพูดถึงที่ดอกซากุระสวยเพราะมีศพฟังอยู่หรือเปล่า) พอเห็นเรย์กะกลัวจนไม่ไปดูพี่แกก็บอกว่าล้อเล่นพร้อมหัวเราะ นี่จงใจแกล้งชัดๆ นี่หว่า กะจะให้ท่านเรย์กะอยู่กับเอ็งแทนชมซากุระใช่ไหม? จอมมาร จอมมารชัดๆ
เอ็นโจชอบแกล้งเรย์กะ หวงแกล้งได้คนเดียวด้วย แต่ถ้าคนอื่นมาว่านี่ออกปกป้องโจ่งแจ้งตลอด ตอนไมฮามะพี่แกก็ตอกกลับแทน โอยยย โดขิโดขิ
>>918 เรย์กะมีปัญหากับใครพี่แกออกโรงมาปกป้องตลอดเลย คาซึรางิ ริรินะ ไมฮามะ เก็บไว้แกล้งเองคนเดียวไม่แบ่งใคร ส่วนตอนซึรุฮานะน่าจะเป็นการกลั่นแกล้งหนักๆ เพราะหึงที่เรย์กะสนใจคาบุรากิมากกว่าตัวเอง แล้วก็เจอหมัดปราบมารเข้าไปเลยต้องเลิกทำ เหลือไว้แค่กลั่นแกล้งน่ารักๆพอหอมปากหอมคอ ไม่งั้นเดี๋ยวเจอเจ้าแม่กาลีเสด็จมาปราบจอมมารตามตำนาน
สารบัญเวอร์ชั่นอัพเดท รวมตั้งแต่กระทู้ก่อนยันฟิคล่าสุดของกระทู้นี้
https://justpaste.it/reika
หลังจากนี้คงอัพเดทเรื่อยๆในลิงก์นี้ละ ขี้เกียจแปะบ่อยๆ มันยาว... ไว้ใครตั้งกระทู้ใหม่ก็ค่อยก๊อปไปแปะต้นกระทู้ทีเดียวนะจ๊ะ
สามารถไปอ่านกันให้ตาแฉะได้ (นับคร่าวๆก็ปาไป 100เม้นท์... ความเมายานี้...)
ขอค่าตอบแทนเป็นฟิคกาวอีกเยอะๆจำนวนมหาศาล เอาให้กูนั่งอัพเดทจนหน้ามืดตาลายไปเลยทีค่าาาา
ตอนนี้คานท่านเรย์กะยังเสมอต้นเสมอปายแต่เรือเดชชิริรินะแล่นฉิว ถึงริรินะจะไม่รับไมตรีก็เถอะ เดชชิ! สู้เขาไว้นะ! ไหนๆนายก็ท่านเรย์กะเป็นแบ็คใช้ความแกะน้อยพ่อบ้านพ่อเรือนเข้าใกล้สาวเจ้าก็ได้จะต้องมีวันของนายสักวันนนคนพายเรือเอนโจเยอะแล้วกูขอปลีกตัวมาพายเรือริรินะเรย์กะแปบ ริรินะโคตรน่ารักมีซึนเอาผ้าขนหนูมาให้ด้วย ท่านเรย์กะคะปล่อยผู้ชายไม่ได้เรื่องแล้วย้ายมารูทยูริเถอะค่ะ เข้าใจและปกป้องท่านได้ ขนาดชื่อย่อยังตรงกันเลยถ้าไม่เรียกว่าพรหมลิขิตจะเรียกว่าอะไรกันค้า
กูนั่งคิดนะ ว่าถ้ากูเป็นวาคาบะ กูจะรู้สึกเลิฟๆคาบุรากิได้เหรอว่ะ กูต้องคิดว่าที่มาคุยด้วยนี้ ตั้งใจแกล้งสินะ มึงจะแกล้งกูใช่มั้ย ไม่ก็ดูเป็นคนแปลกๆไรงี้ คงไม่ชอบแหงๆ ถ้าเทียบกับนายตัวสำรองแล้ว กูว่าความเป็นไปได้โคตรเยอะกว่า
>>928 กูว่านางคงปลื้มเบาๆนะที่มีหนุ่มป็อบมาคุยด้วย แต่ก็คงไม่กล้าคิดหรอกว่าเขาชอบตัวเองอยู่ แล้วก็ไม่กล้าเอื้อมมือไปหาด้วยเพราะเดี๋ยวจะโดนดักตบด้วยหนามทุเรียน แค่ยืนคุยกันเฉยๆ ไม่ได้แตะเนื้อต้องตัวอะไรยังโดนแกล้งขนาดนี้ ถ้าเป็นแฟนสงสัยจะโดนลอบสังหารลงขันฆ่าแน่ๆ
เห็นเมนท์ในแมวดุ้นถามว่าเรย์กะทำอะไรบ้างนอกจากกินกับงานฝีมือไปวันๆ เอ่อ นี่มันก็เรื่องชีวิตสโลว์ไลฟ์ของท่านเรย์กะไม่ใช่เรอะ เอาชีวิตท่านเรย์กะว่าวันๆทำอะไรบ้างมาตีแผ่ แล้วก็มองเรื่องผ่านตัวเรย์กะเอง วันๆมันก็เป็นแบบนี้ล่ะ จะให้เขาลุกมาไล่ปักธงแบบเรื่องอื่นมันก็ไม่ใช่นี่นา
เรย์กะก็ทำน้า ไม่ใช่ไม่ทำ ช่วยคุณโมชิดะทั้งๆที่ไม่สนิทกัน โดนโยนงานมาให้ก็ทำแบบไม่ปริปากบ่น วาคาบะก็ต้องช่วยแบบอ้อมๆ ถ้าออกหน้าออกตามากไปท่านเรย์กะก็แย่เหมือนกัน ใช่ว่าตัวเองจะมีอำนาจมากมายอะไร พวก pivoine ก็อยู่ระดับเดียวกับตัวเองกันทั้งนั้น ไปทำให้คนกลุ่มนี้เขม่นเข้า ชีวิตคงพังพินาศก่อนคาบุรากิทำลายแน่ๆอะ
>>929 จริงๆ นางทำเยอะนะ คือต้องกลับไปอ่านตอนแระอ่ะ จำได้ว่านางนั่งปณิธานไว้ 3 ข้อ
อารมณ์ว่า จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับคาบุรากิ เอ็นโจหรือเรื่องใดๆที่จะนำนางไปสู่ badend จะสนับสนุนความรักของคาบุ วาคาบะ แบบอ้อมๆ จะตั้งใจเรียนและเก็บเงินเพื่อรับราชการไรงี้ ซึ่งนางก็พยายามทำทุกข้อเลยนะ จะเห็นว่าอะไรที่นางตั้งใจไว้ คือนางจะพยายามจะทำจนสำเร็จทุกอันเลยอ่ะ ทั้งเก็บเงินเอย ตุ๊กตาหมาเอย ออกกำลังกายไรงี้ แม้จะทุลักทุเลบ้าง ท้อบ้าง ให้คนอื่นช่วยบ้าง แต่มันก็เป็นธรรมดาป่ะว่ะ เราชอบนะ นานๆทีจะมีตัวเอกธรรมดาๆ ไม่แมรี่ซู มันสมจริงดี คือ ในชีวิตจริงไม่มีใคร perfect ทุกอย่างหรอก ขอแต่มีความตั้งใจและความพยายาม เอาจริงๆคือ เรย์กะซามะ นี่ไอดอลกูเรย และกูก็เกาะคานทองเหนียวแน่นเป็นเพื่อนท่านเรย์กะด้วย ( ประเด็น5555)
แม่งกูพิมพ์ผิดทุเรศว่ะ * ตอนแรก กะ ตั้งปณิธาน
>>930 ชีวิตนางเหมือนจะเพอร์เฟคนะ รวย สวย เรียนเก่ง แต่เรย์กะเหมือนหงส์อะ ทำท่าสบายๆสง่าๆเหนือผิวน้ำ แต่จริงๆต้องดิ้นรนเอาขาถีบน้ำแทบเป็นแทบตาย อ้วนก็บ่อย//โดนเสย ท้อแท้ก็บ่อย แต่ยังกัดฟันทำ ใครไม่กวนตีนนางก่อนนางก็ไม่ยุ่งด้วย แถมยังนกบ่อยจนเป็นพญานกฟีนิกซ์ไปแล้ว ถถถถถถถ
วันนี้จะไม่มีฟิคให้อ่านสักเรื่องเลยเหรอ ;w;
Secret End (inception level 2)
Act 2 : part 2.1
หลังจากประกาศตัวด้วยความเบียวจนทุกอย่างหยุดชะงัก ฉันก็กลายเป็นจุดสนใจจากทุกคนทันที ภายในโบสถ์มีแต่คนหน้าตาไม่คุ้นเคยทำสีหน้าประหลาดใจส่งเสียงฮือฮาออกมา อึก ทะลุกลางปล้องกลางงานชาวบ้านเขาแบบนี้ ฉันจะโดนสาปแช่งมั้ยน่ะคะ โอ้ พระเจ้าและบรรดาสาวกทั้งหลายที่อยู่ในโบสถ์ ได้โปรดเห็นแก่เจตนาของฉันด้วยเถอะค่ะ
ฉันก้าวเท้าไปตามทางเดิน ไปที่ส่วนหน้าของโบสถ์ที่จัดทำพิธี เอ็นโจวและผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่ด้วยกัน นึกถึงการรำพัดที่เคยเห็นผ่านตาผสานกับท่ายืนบอกยี่ห้อท่านเรย์กะ Kimi dolce พยายามสะบัดข้อมือให้พองามและคลี่ประคองไว้..เกือบหลุดมือ แงงง ยากจังเลยค่ะ
“คุณคิโชวอิน...?”
เห็นท่านเอ็นโจวหน้าซีด ดวงตาเบิกตากว้างอย่างแปลกใจ สภาพพร้อมจะล้มได้ทุกเมื่อแบบนี้ชวนให้รู้สึกสงสารจับใจเหมือนตอนที่รู้ว่ายูกิโนะคุงสุขภาพไม่ดีไม่มีผิด
ถึงอีกใจหนึ่งอยากจะสมน้ำหน้าก็เถอะ
“ท่านเอ็นโจวคะ ดิฉันขอเป็นตัวแทนจากซุยรัน ถึงจะช้าไปแต่ดิฉันคัดค้านการแต่งงานนี้ค่ะ! งานแต่งครั้งนี้ของท่านเอ็นโจวขัดหูขัดตาดิฉันมากค่ะ การแต่งงานน่ะต้องเกิดจากความรักไม่ใช่หรือคะ ไม่ใช่เกิดจากข้อตกลงทางธุรกิจหรือเกียรติยศวงตระกูล ไม่ใช่เกิดจากการบังคับกันอย่างที่ท่านเอ็นโจวกำลังกระทำอยู่ ณ เวลานี้ ท่านเอ็นโจว..ไม่คิดเช่นนั้นเหรอคะ?”
ดะ เดจาวูอีกแล้วววว แต่ทำไมเหมือนบทพูดมันยาวขึ้นด้วยคะ สาบานได้ว่าบทพูดนี้ฉันไม่ใช่คนต้นคิดแน่นอนค่ะ!
ว่าแล้วก็รู้สึกอับอายจนไม่กล้าสู้หน้าอิตาเอ็นโจว แต่จะหนีก็ไม่ทันเลยแก้เกี้ยวด้วยการหุบพัดและหมุนตัวกลับมาหาแรงสนับสนุนจากคนอื่นด้วย
“ดิฉันขอถามทุกท่านเช่นกัน ทุกท่านไม่เห็นด้วยกับคำพูดของดิฉันหรือคะ?”
ยังดีที่มีเพื่อนซุยรันอยู่หลายคนและทุกคนต่างลุกขึ้นยืนปรบมือ ช่วยหนุนคำพูดของฉันได้เป็นอย่างดี โฮะๆๆ นึกว่าจะถูกลอยแพเสียแล้วค่ะ!
“นี่เธอ!”
ผู้หญิงคนนั้นพยายามแทรกตัวเข้ามา ท่าทางพร้อมเอาเรื่องเพราะเธอง้างมือให้เห็นมาแต่ไกล ด้วยความตกใจจังหวะที่หมุนตัวกลับมาฉันเลยสะบัดพัดในมือ โบกเข้าไปเต็มแก้มแดงๆ ของคุณเจ้าสาวดัง เพี้ยะ! แล้วก็เซถลาล้มลงไป
อุ้ก อย่ามองฉันแบบนั้นสิคะ มันน่ากลัวนะ คุณเล่นโผเข้าใส่ทีเผลอขนาดนั้นฉันก็ต้องป้องกันตัวสิคะ
“ดิฉันคุยกับท่านเอ็นโจวอยู่ กรุณาอย่าสอดค่ะ!”
ฉันสะบัดมือคลี่พัดออกอีกครั้ง รู้สึกว่าท่าทางแบบนี้ไม่ค่อยสบายตัวเท่าไรเลยเปลี่ยนมากอดอกแทน แต่ทำไมอยู่ๆ ถึงรู้สึกอึดอัดขึ้นคะ? ไม่นะ คง คงไม่ใช่ว่า- มันก็แค่ไม่กี่วันเองนะชุดคงไม่คับเร็วขนาดนั้นใช่ไหม?
“วะว่าไงนะ! เธอเป็นใคร กล้าดียังไงมาล้มงานแต่งของฉัน!”
“โฮะๆๆ ดิฉันเป็นใครน่ะหรือ? น่าขำ คนเช่นคุณมีสิทธิ์ถามชื่อดิฉันด้วยหรือค่ะ ดิฉันแนะนำให้อยู่ตรงนั้นไปเงียบๆ จนกว่าดิฉันจะคุยกับท่านเอ็นโจวจบก่อนนะคะ”
ฉันลงเสียงเข้มในประโยคหลัง คือว่าก็ไม่ได้ตั้งใจหรอกนะแต่ตอนนี้ฉัน คือ ท่านเรย์กะ Kimi dolce อยู่ไง ท่านเรย์กะผู้นั้นคงต้องเป็นประมาณนี้..ใช่ไหม?
เพราะท่าใหม่ยิ่งทำให้รู้สึกไม่สบายใจฉันเลยเปลี่ยนกลับมาท่าเดิมก่อนจะเงยหน้าสบตากับท่านเอ็นโจวที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่ช่วงแขน
“ท่านเอ็นโจวเองก็ไม่ได้สมัครใจเลยใช่ไหมล่ะคะ? ตั้งแต่เข้างานมาจนถึงตอนนี้ ฉันก็มองไม่เห็นความสุขของท่านเอ็นโจวเลยสักนิด ยังไม่นับคนรอบข้างหรือแม้แต่ยูกิโนะคุงเองด้วยนะคะ”
“...แล้วถ้าเป็นคุณคิโชวอินล่ะจะทำยังไง?”
“ฉันน่ะเหรอคะ? ... ถ้าเป็นฉัน ฉันยอมบวชซะยังดีกว่าแต่งกับคนที่ไม่ได้รักค่ะ!”
ปลายเสียงของฉันดังสะท้อนภายในโถงโบสถ์เหมือนจะช่วยยืนยันความตั้งใจของฉัน
"งั้นเหรอ..."
อีตาเอ็นโจวยิ้มจาง ๆ ท่าทางอย่างกะตุ๊กตาไร้เรี่ยวแรง เอาพัดตบหน้าเรียกสติสักทีดีมั้ยคะ?
ก่อนจะรู้ตัวฉันก็วาดพัดอีกครั้งแต่ไม่ใช่การตบ คราวนี้มือไม่รักดีจี้ปลายพัดเชยคางของท่านเอ็นโจวแผ่วเบา
ว้ากกก ฉันยังตกใจตัวเองเลยค่ะ ฉันทำอะไรลงไปคะเนี่ย! ทำไมไปทำกับคนเขาแบบน้านนนน!
★ ★ ★ ★ ★
Secret End (inception level 2)
Act 2 : part 2.2
"แน่นอนซิคะ ไม่อย่างนั้นเราจะต้องอยู่กับคนที่ไม่ได้รักไปตลอดชีวิตน่ะเหรอคะ ตกนรกทั้งเป็นชัด ๆ ! จะบอกว่าอยู่ไปเดี๋ยวก็รักกันเองน่ะเหรอคะ ไร้สาระ! นั่นก็เพราะว่านอกจากหย่าแล้วมันก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วไม่ใช่หรือไงกัน?
"ฉันได้ยินมาจากท่านไอระนะคะ ว่าท่านเอ็นโจวน่ะมีคนที่รักอยู่แล้ว จะปล่อยให้มันเป็นแบบนี้เหรอคะ? แล้วเธอคนนั้นล่ะ? อย่าทิ้งความสุขส่วนตัวไปเพราะความเห็นแก่ตัวของคนอื่นซิคะ!”
อีตานี่ ปกติก็เห็นยิ้มๆ ดูมีความมั่นใจดี แต่ก่อนอื่นฉันเก็บมือเก็บพัดคืนมาก่อนดีกว่า
“แต่...เธอคนนั้นไม่สนใจผมเลย...”
"ระดับท่านเอ็นโจวแล้วยังมีคนที่ไม่สนใจด้วยเหรอคะ!? เพราะอย่างนั้น...ก็เลยเลือกที่จะยอมรับการแต่งงานนี้ประชดชีวิตน่ะเหรอคะ? อะไรกัน ไม่สมกับเป็นท่านเอ็นโจวเลยนะคะ ให้ไปที่ผาโทจิมโบหรือน้ำตกเคเก็น เยียวยาจิตใจอย่างท่านคาบุรากิยังจะดูดีกว่าอีกค่ะ!”
หรือจะไปบ่มเพราะจิตใจให้แข็งแกร่งอย่างฉันก็ดีเหมือนกันนะคะ
"... เรื่องมาซายะนั่น จ่ายค่าปิดปากไปแล้วนี่นา"
เอ็นโจวแค่นหัวเราะออกมาในที่สุด สีหน้าค่อยกลับมาเป็นปกติแล้ว แบบนี้ถือว่าทำงานลุล่วงแล้วใช่ไหมคะ ถึงอย่างนั้นจนบัดนี้นายจ้างจอมโหดยังไม่โผล่ศีรษะมาเลยค่าาา ไหนบอกว่าจะตามท่านเอ็นโจวมาเข้างาน ตอนนี้ไปอยู่ไหนแล้วเนี่ย ฉันหมดมุกแล้วนะคะ
"ที่เธอคนนั้นไม่สนใจท่านเอ็นโจว เพราะเธอมีคนรักอยู่แล้วรึเปล่าคะ? ถ้าไม่ใช่นั่นก็ยังมีความหวังอยู่ไม่ใช่หรือไง โอกาสมากน้อยแค่ไหน แต่ก็ยังไม่ใช่ศูนย์นะคะ ลองสารภาพรักกับเธอซิคะ ลองจีบเธออีกครั้งซิ เขาว่าน้ำหยดลงหินทุกวัน หินยังกร่อน สักวันเธอย่อมต้องใจอ่อน และจะต้องสมหวังได้แน่ ๆ ค่ะ! แต่ถ้าท่านเอ็นโจวตัดสินใจแต่งงานการเมืองแบบนี้ ทุกอย่างก็เป็นศูนย์ไปเลยนะคะ!"
เดี๋ยวนะ ลงอีหรอบนี้คงไม่ใช่ว่าต้องวิ่งหนีบอดี้การ์ดหรอกนะคะ แบบนี้ฉันควรเตรียมถอดส้นสูงทิ้งไว้ก่อนรึเปล่าคะ
เอ็นโจวจ้องมองมาที่ฉันไม่ได้พูดอะไรอีก ฉันเองก็อย่างที่บอกไปว่าหมดมุกแล้วจริงๆ โอ๊ะยังเหลืออีกบทให้เล่นได้อยู่นี่นา
"ท่านเอ็นโจว ทุก ๆ คนรออยู่นะคะ!”
พูดนิ่มๆ ช้าๆ แล้วก็ยิ้มสวยๆ จะได้สลัดคราบนางร้ายล่มงานแต่งชาวบ้านทิ้งได้ ตบท้ายด้วยยื่นมือข้างที่ว่างไปตรงหน้า ได้เวลาเชื้อเชิญองค์ชายเสด็จลงจากหอคอยงาช้างเสียที
"..."
อย่ามัวแต่นิ่งทึมทื่ออย่างงั้นซิยะ ไม่งั้นสิ่งที่ฉันทำมาทั้งหมดจะสูญเปล่านะ! ปิดจ็อบได้แล้วขอเถ้ออออ
"ไปกับฉันเดี๋ยวนี้ค่ะท่านเอ็นโจว!"
จากแค่ยื่นมือธรรมดาฉันก็หมดความอดทนเปลี่ยนเป็นกระดิกนิ้วสั่งแทน เอ็นโจวจ้องมองแปบหนึ่งก่อนจะวางมือลงมา
"ชู!"
คุณเจ้าสาวคนนั้นตะโกนเรียก ตะกายขึ้นจากพื้นมาเกาะแขนอีกข้างของเอ็นโจวไว้ ฉันเลยได้รำพัดอีกรอบฟาดใส่มือนั้นเต็มแรง
เอ็นโจวจ้องมองมาที่ฉันไม่ได้พูดอะไรอีก ฉันสอดส่ายสายตาไปรอบ ๆ เห็นผู้หญิงคนนั้นทำสีหน้าเคียดแค้น ตวาดเรียกคนของเธอออกมา ที่ที่นั่งรับรองแขก ชายในชุดสูท สวมแว่นสีดำหลายคนผุดลุกและเดินเข้ามา
กรี๊ดดด มันเป็นไปตามพล็อตที่ฝันแล้วไงละคะ อีตาจักรพรรดิ์ไปอยู่ไหน ฉันจะถ่วงเวลาต่อไปไม่ไหวแล้วนะคะ ไม่ดีต่อสวัสดิภาพความปลอดภัยของฉันแล้วค่ะ!
“หยุดอยู่ตรงนั้นซะถ้าไม่อยากให้เรื่องมันเลยเถิดไปมากกว่านี้”
“ท่านคาบุรากิ!"
“มาซายะ!?”
มาได้จังหวะมากค่ะ แต่สารภาพมาเดี๋ยวนี้นะคะว่าเล็งช่วงเปิดตัวนี้ไว้อยู่นานแล้วน่ะ!
★ ★ ★ ★ ★
ยังมีต่ออีก 2 พาร์ท แต่เอาไปแค่นี้ก่อน ขอปรับอะไรๆ อีกนิดน่อ
กูอยากอ่านเอ็นโจอังกอร์(?)ภาค2.......
แปลไทยตอนใหม่ออกแล้วนะ ไปอ่านกันซะสิยะหล่อน ! //ปาตอนใหม่ใส่หน้าโม่งตื่นเช้า
มะ...ไม่ได้อยากจะให้อ่านกันไวๆ หรอกนะ แค่สต็อคมันล้นหรอกน่า!
จากโม่งแปล ~ ริรินะ's style ~
อ่านจบละ วาคาบะนี่แม่ง....... ไม่รู้จะใช้อะไรบรรยายดี 555555 เป็นพวกไม่รู้ร้อนรู้หนาวดีนะ ถถถ
แต่โรงเรียนที่ให้ทุนการศึกษาจนตั้งตัวได้นี่แม่งโคตรโหด...
วาคาบะแม่งน่ารักแบบซื่อๆเซ่อๆดี กูชอบ อยู่สายสไมล์สินะ พวกยิ้มๆร่าเริงหัวเราะจากใจจริง ทำอะไรก็ไม่โกรธ ไม่ยิ้มแอบแฝงจุดประสงค์แบบเอ็นโจด้วย ถถถถถถถถถ
มึงงงง วาคาบะน่ารัก น่ารักโคตรๆ กูขอมาสายยูริเต็มตัวไม่ไหวแล้ววว อารมณ์คุณแม่มาก กูขอเหยียบเรือสองแคมไม่ว่าสายน้องสาวซึนเดเระแบบริรินะหรือคุณแม่ใจดีแบบวาคาบะกูก็เหมาหมด จะเอาซากุระด้วย
คาบุรากิอย่ามายุ่งกับวาคาบะจังนะ แฮร่!
โม่งแปลสุดยอดจริงๆ ถ้าวาคาบะจังจะน่ารักขนาดนี้อย่ายกให้คาบุรากิเลย รู้สึกเสียของอย่างแรง
ตอนนี้กูดีดคาบุรากิทิ้งเลย วาคายะจังน่าย้ากกกกกก ไอบ้าอย่างคาบุรากิ ไม่คู่ควร! ไม่คู่ควร!
อะไรคือพบรักเพราะถูกชนกระเด็น แถมสาวเจ้ายังโชว์ออฟกระโดดออกทันอีกคะ
ที่คาบุรากิชอบอย่าบอกนะวาเพราะท่าทางตอนกระโดดจากจักรยานมันตราตรึงในใจ555555
>>951 กูว่าเป็นไปได้5555555555
ไอ้ 'ท่ากระโดดตราตรึงใจ' นี่ ถ้าเป็นคนอื่นกูคงไม่เห็นด้วย แต่นี่คือไอ้บ้าคาบุรากินะมึ๊งง5555555
ขึ้นชื่อว่าคาบุรากิแล้ว อะไรๆ ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น!!
เอาจริงๆ กูว่าคนที่ซับซ้อนกว่าเอ็นโจก็คาบุรากิคนนึงล่ะวะ แม่ง กูไม่เคยเข้าใจความคิดมันเลย5555555
กูว่าเหตุผลที่ชอบวาคาบะจังต้องตลกแน่ๆอ่ะมึง ไม่งั้นเอ็นโจวไม่เตรียมเผาให้เรย์กะฟังขนาดนั้นหรอก แต่เรย์กะซามะชิ่งหนีก่อน 55555
>>953 กูว่าคาบุมันดูซับซ้อนเพราะในหัวต้องคิดแต่เรื่องบ้าๆบอๆเหมือนเรย์กะแต่วางมาดขรึมเอาไว้อะ คนประเภทเดียวกัน เอ๋อเหมือนเรย์กะ แต่คาบุมันตรงไปตรงมามากกว่าเรย์กะหน่อยนึง อย่างตอนจมูกหนู จมูกแกะหรือส่งจดหมายให้ยูริเอะ มันก็โพล่งออกมาเลยว่าคิดยังไงไม่เก็บอาการ ส่วนเรย์กะได้แต่คิดในใจแค่ไม่พูดออกมาเฉยๆ
>>960 แต่ท่านราชินีขนาดทำผมทรงเจ้าหญิง แต่เสือกโดนจิกหัวใช้ตั้งแต่ประถม พอขึ้นมัธยมมา มีสาวๆเข้ามาเป็นลูกสมุนเพิ่ม และได้เอาพัดตบซึรุฮานะ คนเลยเกรงกลัวขึ้นมาบ้าง
>>959 นั่นสิ กูก็ลืมนึกไปว่าคนอย่างอีตานี่มันไม่ได้วางมาดอะไรเลย อยู่นิ่งๆเฉยๆ คิดแต่เรื่องบ้าๆบอๆไป มีตัวเสริมบารมีอย่างเรื่องชาติตระกูล ผลการเรียน ฐานะอยู่แล้ว
ตอนใหม่แม่ง กูอยากอวยให้เรย์กะคู่กับวาคาบะชิบหาย วาคาบะจะปักธงเรย์กะสินะ55555555555555 ไม่นะ กูจะยึดมั่นแค่เรย์กะริรินะเท่านั้น(?)
謙虚まとめ 1 | らはかん #pixiv http://www.pixiv.net/member_illust.php?illust_id=61239251&mode=medium
แฟนอาร์ตบรรดาตัวละครสาวๆ (ยกเว้นยูกิโนะคุง)
ส่องไปเรื่อยๆใน pixiv
กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ท่านเอ็นโจวววว ภาพประกอบตอน 207 ยิ้มได้ชั่วร้ายเหลือเกิน กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ดูตายแล้ววววว ตายแล้วววววววววววววววววววววววว ช่วยกูด้วยยยย
http://www.pixiv.net/member_illust.php?mode=manga&illust_id=49271103
เรย์กะในชุดญี่ปุ่นน่าย้ากกกก
http://www.pixiv.net/member_illust.php?mode=manga&illust_id=47617865
ยูกิโนะคุงในชุดขาวพร้อมอีกปีศาจ ก๊าวแรง แงงงง
http://www.pixiv.net/member_illust.php?mode=manga&illust_id=41106264
เอ็นโจวหล่อเหลือเกิน แอร้ แอร้ แอร้ กูวเลิฟลายเส้นคนนี้
>>965 กูโคตรชอบเส้นคนนี้เลยยยย ตรงอิมเมจเหลือเกินนนน แต่เขามักจะวาดประกอบอฟช.(แถมวาดแต่โมเม้นท์กะคาบุรากิ) บางอันเลยจะสปอยล์ ไม่กล้าลง ไหนๆมึงลงแล้วก็ขอนิด
กูชอบอันนี้ http://www.pixiv.net/member_illust.php?mode=manga&illust_id=60395250
ภาพสุดท้าย ดูเอ็นโจบีมนั่นซิคะะะะ แอร๊ยยยยยยย
แล้วพรุ่งนี้โม่งแปลจะมามั้ยยยคะ คือกูอยากอ่านต่ออ่ะค่ะ ความจริงพรุ่งนี้มึงต้องมาหนิ วันนี้เป็นของแถม ช่ายม้ายยยย ><
Secret End (inception level 2)
Act 2 : part 3.1
เฮือก พลังงานหมดแล้วค่ะ ทันเวลาพอดีเลยค่ะ ขอคืนเวทีให้พระเอกตัวจริงไปแล้วกันนะคะ ให้มายืนหน้าเชิดเหมือนเป็นจักรพรรดินีนานกว่านี้ไม่ไหวแล้วค่ะ
ฉันเกือบจะล้มลงแล้วก็เป็นเอ็นโจวที่คว้าเอวโอบไหล่ประคองฉันไว้ทันก่อนจะทำขายหน้าชาวบ้านเขา
ถ้าเป็นเวลาปกติ ฉันคงรีบขอให้เอ็นโจวปล่อยฉันลงไปแล้ว แต่ขอยืมไหล่มาพักหายใจสักหน่อยแล้วกันนะคะ ลงจากเวทีได้ก็ขอเป็นฝ่ายมองละครเงียบๆ อยู่ข้างๆ บ้างนะ
"คุณคิโชวอิน"
"คะ?"
"ที่พูดเมื่อกี้... มันจะเป็นอย่างนั้นจริง ๆ เหรอ?"
หืม? หมายถึงอันไหนนะคะ ฉันพูดออกไปตั้งเยอะเลยนะ
"ที่ว่าผมยังมีความหวัง?"
"แน่นอนค่ะ อย่างน้อยก็ไม่ใช่ศูนย์หรอกค่ะ นอกซะจากเธอคนนั้นมีคนที่หมายปองอยู่แล้วล่ะนะ"
"ผม...ควรจะ... สารภาพ?"
"แน่นอนค่ะ ถ้าไม่พูดออกไปอีกฝ่ายก็ไม่มีทางรู้หรอก แถมถ้าเป็นท่านเอ็นโจวล่ะก็ต่อให้เธอไม่สนใจ ก็ต้องมีหวั่นไหวบ้างแน่ ๆ ค่ะ"
ฉันตอบอย่างขอไปทีและอยากบอกองค์ชายมากว่า เลิกพูดไร้สาระสักทีเถอะน่า! ดูจักรพรรดิ์ลงดาบเงียบๆ ไม่เป็นรึไงยะ เมื่อกี้ฉันลุยเดี่ยวมาเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว ไม่ต้องพูดถึงวิญญาณท่านเรย์กะแห่ง Kimi dolce ด้วย ปลิวออกไปได้สักพักแล้วค่ะ
"ฟังดูมีประสบการณ์จังน้า"
"หึ ฉันน่ะเป็นที่ปรึกษาปัญหาหัวใจให้กับหัวหน้าห้อง อิวามุโระคุง และท่านคาบุรากิเชียวนะคะ อาคิสาวะคุงกับซากุระจังเองก็เป็นเพราะฉันหรอกนะคะถึงเข้าใจกันได้น่ะ"
ไม่อยากจะคุยหรอกค่ะ แต่ทุกคนน่ะสมหวังดั่งใจเชียวล่ะ แหม ก็ฉันน่ะเป็นคิวปิดผู้เก่งกาจนี่นา
"แต่นั่นมันไม่ใช่ประสบการณ์ส่วนตัวเลยนี่นา"
... เงียบไปเลยนะยะ! อย่าพูดแบบนั้นเชียว ฉันเองก็ไม่ได้อยากให้มันกลายเป็นแบบนี้สักหน่อย! มันไม่ใช่ความผิดของฉันเลยนะที่ต้องมาเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านคานทองเนี่ย! จะให้ทำยังไงล่ะยะ!
เอ็นโจวยิ้มกว้างแล้วหัวเราะออกมา หน้าตาดูสดใสขึ้นอย่างน่าหมั่นไส้
ทำยังไงดีคะ ฉันเริ่มหมั่นไส้หมอนี่มากกว่าสงสารแล้วค่ะ ความสงสารนั่นนะเก็บมาไว้ให้ตัวเองหมดแล้ว
"คุณคิโชวอิน"
"อะไรอีกคะ?"
ยังจะพูดอะไรอีกน่ะหะ! พองานล่มแล้วพูดมากขึ้นมาเลยนะยะ!
ใช่สิ องค์ชายสมหวังแล้วจะเฉดหัวอัศวินที่มาช่วยเหลือทิ้งไปก็เป็นเรื่องปกตินี่ แล้วเรื่องก็อาจจะกลายเป็นว่า ฉันถูกตราหน้าเป็นยัยนางร้ายที่ล่มงานแต่งงานคนอื่น หมดกันอนาคตของฉัน
เอาเถอะ อย่างน้อยที่ท่านพี่คนนี้เกี่ยวก้อยสัญญาไว้ก็ทำสำเร็จครึ่งหนึ่งแล้วนะยูกิโนะคูงงงง
“ผมรักคุณ"
“ค่ะ”
...
..
.
เอ๊ะ? สะต๊อปปุ! เมื่อกี้ว่ายังไงนะคะ!?
★ ★ ★ ★ ★
Secret End (inception level 2)
Act 2 : part 3.2 [END]
เมื่อกี้ฉันคงหูฝาดใช่มั้ยคะ ต้องใช่แน่ๆ ค่ะ เหนื่อยๆ แบบนี้ถ้าไม่มีสมาธิก็มักจะมีอาการละเมอเพ้อไปเอง เอ๊ะนั่นท่านคาบุรากินำทีมบอดี้การ์ดล้อมจับวงศ์วานคุณเจ้าสาวแล้วค่ะ ดูเหมือนที่หายไปเพราะไปเช็คข้อมูลแล้วบุกเข้ามาแย้งซีนฉัน กลายเป็นพระเอกที่แท้จริงของงานนี้!
จบงานแล้วค่ะ ฮ่ะๆๆ โฮะๆๆๆ จบงานแล้วค่ะ เมื่อกี้ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นเกิดขึ้นแล้วใช่มั้ย ฉันแค่เหนื่อยไปค่ะแค่เหนื่อยไป
"จะทำก็ทำได้นี่คิโชวอิน"
คาบุรากิเดินเข้ามาหา ท่าทางจะจัดการคุณเจ้าสาวเรียบร้อยแล้วยังเคลียร์คนออกไปด้วย เอ๊ะ เร็วจังเลยคะ รู้สึกเหมือนได้พักนิดเดียวจนหูฝาดได้ยินอะไรเพี้ยนๆ ไปด้วย
“...ค ค่ะ! ...เป็นเพราะท่านคาบุรากิมาทันเวลาพอดีด้วยค่ะ”
“เพราะได้คุณคิโชอินคนพี่ยื่นมือเข้ามาช่วยละนะ ไม่อย่างนั้นคงขุดเรื่องทุจริตของตระกูลยัยนั่นกับคนใหญ่คนโตขนาดนั้นออกมาเล่นงานไม่ได้... แล้วพวกนายจะอยู่ท่านี้ไปอีกนานมั้ย”
พอถูกทักฉันถึงได้รู้สึกตัว ทำไมฉันถึงยังอยู่ในวงแขนของเอ็นโจวอยู่ละคะ อันตราย! แต่พอจะขยับหนีเจ้าตัวกลับกระชับแขนยิ่งขึ้นอีกซะงั้น
อะ อะไรเล่า! จบเรื่องแล้วนะคะจบเรื่องแล้ว แล้ว แล้ว แล้วนั่นคิดจะทำอะไรกับมือขวาของฉันกันคะ
"ทำอะไรลงไปคะ!!!"
แหวนแพลตินัมฝังเพชรถูกสวมเข้ามาที่นิ้วนาง พอจะกระชากมือออกมา เอ็นโจวก็คว้าหมับไว้แน่น
"ก็งานแต่งยกเลิกแล้ว แหวนนี่ก็คงไม่ได้ใช้แล้วนี่นา ฝากคุณคิโชวอินไว้ก่อนแล้วกัน ... ไว้ค่อยวงหาที่เหมาะกับคุณคิโชวอินกว่านี้ให้นะ"
อ อะไรกันคะ!!? วง วง วงที่เหมาะ!? มะ หมาย หมายความว่ายังไงกันคะ!?
"คุณคิโชวอินมาทำงานแต่งของผมล่ม เมื่อกี้ก็ตอบรับมาแล้วด้วย ต้องรับผิดชอบผมด้วยซิครับ"
รับผิดชอบอะไรกัน!? นี่ฉันเพิ่งช่วยนายออกมานะยะ!?
เอ็นโจวหัวเราะเล็กน้อย ใช้มือจับกระชับที่เอวของฉันไว้จนไม่สามารถขยับหนีได้ มืออีกข้างก็ยกขึ้นมาปัดเส้นผมที่ปกหน้าฉันออก ใบหน้าของเขาค่อยๆขยับเข้ามาใกล้มากขึ้น รอยยิ้มนั้นดูกรุ่มกริ่มแปลกประหลาด ประกายในดวงตาคู่นั้น ทำให้ใบหน้าฉันร้อนวูบ ตัวค้างแข็งเกร็งไปทั้งตัว กระทั่งจะหลบสายตานั้นยังไม่สามารถทำได้
"คุณคิโชวอิน...ที่ผมสารภาพไปเนี่ย ได้ยินรึเปล่านะ?...”
ฉันเบิกตากว้าง ในใจปฏิเสธเต็มที่ว่าไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น เอ็นโจวหัวเราะเบาๆ ใบหน้านั้นใกล้เข้ามาจนจมูกของเราแทบจะชนกันอยู่แล้ว
"น้ำหยดลงหินทุกวัน หินยังกร่อน...ซินะ?"
น้ำเสียงนุ่มนวลนั้นเบาจนแทบจะเป็นเสียงกระซิบ แต่ฉันกลับได้ยินมันอย่างชัดเจน ฉันรู้สึกราวกับวิญญาณจะหลุดออกจากร่างอีกครั้ง จะเป็นลมอยู่รอมร่อแล้ว
"เฮ้ๆๆ! ชูสุเกะ! ฉันยังอยู่ตรงนี้ทั้งคนนะ! ให้มันน้อยๆหน่อย!”
“มีอะไรต้องทำต่อก็ไปเถอะ!”
“…ไปเยี่ยมยูกิโนะ”
“…”
ฉันเรียกวิญญาณกลับคืนร่างได้หลังได้ยินว่าจะไปหายูกิโนะคุง แต่ยังดิ้นไม่หลุดจากตานี่เลยค่าาา ขอเวลานอกให้ฉันประมวลผลหน่อยไม่ได้รึไงคะ สายตาก็มองอีตาจักรพรรดิ์สะบัดก้นเดินนำลิ่วๆ ไป
เดี๋ยวค่ะ ปล่อยฉันไว้แบบนี้ไม่ได้นะค้าาา เมื่อกี้ยืนดูอยู่ตั้งนานก็ไม่ยอมช่วยด้วยอ่ะ! เดี๋ยวก็แช่งให้วาคาบะจังทิ้งซะเลย
“ผมยังไม่เร่งรัดเรย์กะก็ได้ เพราะยังไงก็ฝากแหวนไว้แล้วนี่เนอะ หนีไม่พ้นแล้วล่ะ”
“ปะ ไป รีบไปหายูกิโนะคุงกันเถอะค่ะ”
"อืมงั้นก็ไปกัน... สัญญากันไว้แล้วนี่"
อ้อ นั่นซินะคะ สัญญากับยูกิโนะคุงไว้แล้วนี่นา ว่าจะพาตัวพี่ชายไปเยี่ยมที่ให้...ได้... น่ะ ... เอ๊ะ?
"ท ทำไม...?"
ทำไมท่านเอ็นโจวถึงรู้เรื่องสัญญาล่ะ!?
เอ็นโจวจ้องมองฉันค่อยๆ ฉีกรอยยิ้มสว่างไสวที่ฉันรู้สึกว่ามันดำมืดและหนาบเหน็บที่สุดจนต้องกลืนคำถามกลับไป เอ็นโจวคว้ามือของฉันไปแนบสัมผัสกับใบหน้าของตัวเอง จ้องมองที่ฉันไม่วางตา
"ขอบคุณที่มาช่วยผมนะครับ ...เรย์กะ”
เขายื่นหน้าเข้ามาหาอีกครั้ง คราวนี้แม้อะไรๆ จะเกิดเร็วกว่ารอบแรกแต่ฉันเองก็ไม่ได้สติหลุดไปทั้งหมดและคว้าพัดมากั้นกลางได้ทันที...ทั้งที่เป็นอย่างนั้น
ทำไมความแนบชิดทั้งที่มีพัดกั้นไว้อยู่ถึงชวนให้หน้าร้อนยิ่งกว่าเดิมอีกละค้าาา!
ฉันสบตาเอ็นโจวที่ผละออกไปแล้ว แม้จะสงสัยแค่ไหนแต่ฉันเป็นก็ขี้ขลาดเกินกว่าจะรับฟังคำตอบจากปากของเขา
ฉันไม่อยากรู้หรอกว่าตัวเองติดกับดักหลุมเบ้อเร้อนี้ตั้งแต่ตอนไหนกันน่ะ
★ ★ ★ ★ ★
คห.หลังเขียน : ใครก็ได้เอาไม้หน้าสามเคาะท่านหญิงเรย์กะสักทีสิ ซื่อบื้อเกินไปแล้วนางเอ้ย!!! อ่อ เผื่อแผ่ไปให้คาบุรากิด้วยนะ คนเขากำลังสวีตกันหวานๆ ไปยื่นทื่อเป็นกขค.ถลึงตามองอย่างนั้นได้ไง เพ้ย!
ขอขอบคุณโม่งต้นฉบับ ผู้สนับสนุนลังกาวอย่างเป็นทางการ
ขอขอบพระทัยโม่งแปล (กราบบบบ) นายหน้าค้ากาวที่ฟอร์มดีเสมอต้นเสมอปลาย
ขอบคุณโม่งฟิคทั้งหลาย ที่ช่วยกันขนกาวมาให้
และขอบคุณโม่งนักอ่านทุกคน จบนี่กุจะเป็นพวกเดียวกับมึง หมดทุกข์หมดโศก ไม่มีโม่งมาจ้องข้างหลังคุกคามลังกาวกุให้ลงฟิคต่อ จากนี้ไม่หลวมตัวมาเขียนแล้ว พอ!
ปล. เพิ่งกาวขึ้นมาได้ ทำไมฉากเชยคางกุไม่เขียนให้นางหลุดคาแร็คเตอร์แล้วพูดว่า “โอ้ พ่อหนุ่มน้อย” ไปวะ..
ปล2. เพิ่งอ่านตอนล่าสุด กูเปลี่ยนไปลงเรือวาคาบะจังทันมั้ยคะมึง
สารบัญเอ็นโจ Update(1)
Ch.6 ท่านเรย์กะถูกใจหน้าตาแบบเอ็นโจมากกว่าคาบุรากิ
Ch.8 ท่านเรย์กะสั่นกระดิ่ง+เต้นวอลซ์กับท่านพี่
Ch.9 หันไปเห็นเอ็นโจกับคาบุรากิ
Ch.10 ท่านเรย์กะย้อนความหลังให้ฟังว่าเอ็นโจถามว่าคือคนที่เต้นวอลซ์ใช่มั้ย+ท่านเรย์กะรู้ว่าเอ็นโจมองท่านเรย์กะที่แอบมองมาซายะอีกที
Ch.16 มาซายะข่มขู่ท่านเรย์กะให้ช่วยเรื่องยูริเอะ
Ch.17 เอ็นโจเข้ามาร่วมวง
Ch.20 เอ็นโจวางกับดักให้ท่านเรย์กะคิดกลยุทธง้องอนท่านยูริเอะให้มาซายะ
Ch.21 เอ็นโจโผล่มาหาเรย์กะที่ห้องเรียนเพื่อนัดคุยเรื่องวิธีง้อยูริเอะ
Ch.32 ท่านเรย์กะ+เอ็นโจเป็นคณะกรรมการ
Ch.33 เอ็นโจกับเรย์กะยืนข้างกันคอยต้อนรับแขก+เอ็นโจนั่งข้างเรย์กะดูคาบุรากิแข่งม้าชิงเมือง+จุดเริ่มต้นฉายาจักรพรรดิของคาบุรากิ
Ch.39 ท่านเรย์กะถูกกวางขวิด
Ch.40 เอ็นโจเขียนเฟรนด์ชิพให้ท่านเรย์กะ
---------------จบประถม-------------
Ch.46 ท่านไอระ ยูริเอะ เอ็นโจ เรย์กะ ร่วมวงกันล้อมาซายะเรื่องฉายาจักรพรรดิ
Ch.57 เรย์กะกับเอ็นโจอยู่ห้องเดียวกัน แล้วได้คุยกันในสโมสร Pivione
Ch.59 จอมมารเอ็นโจแผลงฤทธิ์ใส่ริรินะ ท่านเรย์กะติดหนี้จอมมารซะแล้ว
Ch.64 เอ็นโจมาทวงหนี้จากเรย์กะ
Ch.67 เจ้าแม่กาลีองค์ลง
Ch.68 เรย์กะต่อยท้องเอ็นโจ
--------------จบม.ต้น---------------
Ch.77 ท่านเรย์กะคุยเรื่องชมรมกับสมาชิกPovoine
Ch.82 เอ็นโจเดินสวนท่านเรย์กะที่กำลังจะไปชมรมแล้วทักเรื่องคาซึรางิ
Ch.92 ท่านเรย์กะไปงานเลี้ยงน้ำชาบ้านคาบุรากิ เอ็นโจเข้ามาคุยด้วยเนียนๆ คาบุรากิฉีกหน้าเรย์กะกลางวงว่าไปไดเอทมา
Ch.93 เพื่อนเรย์กะบอกว่า เอ็นโจเรียกหาแต่เรย์กะ ไม่เห็นทำแบบนี้กับคนอื่นเลย
Ch.94 ท่านเรย์กะพามาโอะจังกับยูริคุงไปสั่นกระดิ่ง สตอล์กเกอร์เอ็นโจปรากฏตัว
Ch.98 คาบุรากิ เอ็นโจ เรย์กะเจอกันที่สโมสรPivoine คาบุรากิถามเรย์กะว่าทำไมไม่ติดจมูกหนูด้วย เอ็นโจปรามคาบุรากิ
Ch.100 เรย์กะเป็นพ่อบ้านแกะ
Ch.101 คาบุรากิอกหักอย่างเป็นทางการ เอ็นโจเล่าเรื่องมาซายะให้เรย์กะฟัง
Ch.102 เอ็นโจเอาของฝากให้เรย์กะ
Ch.103 เรย์กะแนะนำมาซายะไปบวช เอ็นโจลากแขนเรย์กะไปคุยด้วยอีกมุม
Ch.106 คาบุรากิคิดว่าเรย์กะอยู่ในสมาคมคนติดอยู่ในพี่น้องโซนเหมือนกับตัวเอง เลยให้หนังสือกลอน เอ็นโจขอบคุณเรย์กะที่ช่วยให้มาซายะรื่นเริงขึ้น
Ch.113 ท่านเรย์กะเจอยูกิโนะคุง
Ch.114 เอ็นโจมาคุยกับเรย์กะเรื่องยูกิโนะ
Ch.116 เอ็นโจบอกวาคาบะเรื่องของฝากว่า "ผมไม่ได้กินหรอก แต่คนที่ให้ไปเขาบอกว่าอร่อยดีนะ"
Ch.119 เรย์กะสอนยูกิโนะทำนีดเดิลเฟลท์ ยูกิโนะคุงทำแต้มให้พี่ชาย
Ch.120 เรย์กะเจอเอ็นโจที่หน้าประตูรร. แล้วคุยเรื่องที่สอนยูกิโนะถักนีดเดิลเฟลท์กัน เอ็นโจหย่อนระเบิดชื่อ ท่านเรย์กะชอบผู้ชายอายุมากกว่าสินะ ไว้
Ch.124 เรย์กะไปงอแงกับเอ็นโจเรื่องยูกิโนะเข้าโรงบาล ฉากกางร่มกันฝนให้ในตำนาน
Ch.126 เอ็นโจข่มจู่มาซายะให้เล่นเพลงให้เรย์กะ
Ch.131 เอ็นโจ คาบุรากิ เจอมาโอะจังที่มาหาเรย์กะที่ห้องสโมสรPivoine
Ch.139 เอ็นโจเดินมาคุยกับเรย์กะที่งานชมหิ่งห้อย
Ch.140 เอ็นโจส่งกรงหิ่งห้อยมาให้เรย์กะ
Ch.142 เรย์กะเต้นรำกับยูกิโนะ
Ch.143 เรย์กะกับยูกิโนะเต้นรำเสร็จ เอ็นโจเดินเข้ามาคุยด้วย
Ch.145 ยูกิโนะโรคหอบกำเริบ เรย์กะแบกไปห้องพยาบาล เอ็นโจมาขอบคุณ
Ch.146 ยูกิโนะให้อโรม่าแคนเดิลกับผ้าขนหนูกับเรย์กะ ยี่ห้อเดียวกับที่เอ็นโจใช้
มาแปะไว้ กูกลัวมู้เต็มก่อนจะได้อัพเดทสารบัญ
หลังจากนี้กูจะอัพสารบัญเอ็นโจเพิ่มจากที่ลงล่าสุดนะ เช่น ครั้งต่อไปเอ็นโจโผล่ในตอนที่149 สารบัญเอ็นโจรอบหน้าจะเริ่มที่ 149 ถ้าเอามาตั้งแต่ต้นกูกลัวพื้นที่ไม่พอ
เออ คนลิ้งค์รวมสารบัญต่างๆ ตัดสารบัญเอ็นโจรอบแรกออกเลยก็ได้นะ
>>951 มึงนี่แย้แย่ ออกจะเป็นฉากแรกพบของพระนางอันน่าประทับใจขนาดนี้
http://imgur.com/v256T8L
....
แย่สุดคือทำไมกูต้องมาวาดอะไรแบบนี้ด้วยวะะะ
พวกมึง...นี่กูเองนะ ถึงพวกมึงจะไม่รู้ว่ากูไหนก็เถอะ แต่นี่กูเอง....
โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ กูกลัวชิบหายยยย กูว่ามีแนวโน้มสูงที่ตอนจบท่านฮิโยโกะจะแต่งแบบปลายเปิด ( จบแบบที่ต้องไปมโนต่อเอาเองว่าตัวเอกหรือเนื้อหาของเรื่องจะเป็นยังไงต่อได้ หรือก็คือจบแบบไม่ค่อยเคลียร์(สำหรับกู) )
เพราะนี่ก็จะขึ้นม.6กันแล้วไม่ใช่อ่อ (หรือขึ้นแล้ววะ??) แล้วยังไงซะจุดไคลแม๊กซ์ก็น่าจะอยู่ตรงช่วงม.6นี่แหละ กูว่าซุยรันมันไม่มีมหาลัยเว่ย ไม่งั้นรุ่นพี่โทโมเอะที่เป็นสภานักเรียนไม่ประกาศต่อหน้าทุกคนว่าตนคบกับสมาชิกPivoineในฝันปัจฉิมนิเทศหรอก หรือไม่ก็ต้องมีซักฉากที่ท่านเรย์กะบอกว่าท่านพี่ของตนต่อเข้ามหาลัยของอะไร (และเเน่นอน กูว่าต้องเป็นซุยรัน เพราะท่านเเม่แหงๆ หรือถ้าไม่ยากต่อเข้ามหา'ลัยของซุยรัน คงต้องเข้าที่มันชื่อดังจริงๆและท่านแม่ยอมรับ) แล้วแต่ละตอนที่ผ่านๆมามันไม่มีเลยไง......
ถ้ามีภาคมหา'ลัยต่อจะแต่งว่าไง? วันๆของท่านเรย์กะอีกเหรอ? หรือเรยกะชวนชิมงี้? จากที่มันอืดๆดูลุ้นน่าติดตามจะกลายเป็นน่าเบื่อแทนว่ะ กว่าจะเฉลยปมทีก็ปาไปเรียนมหา'ลัยหรือจบทำงานแล้ว นี่ถ้ากูดรอปไว้รอหลายๆตอนแล้วค่อยอ่าน ทีเดียว
วันนึงกูสุ่มจึ๊กเปิดมาสักตอนนึงแล้วเจอประมาณว่า
"วันนี้ฉันเข้าประชุมร่วมกับท่านพี่ ว่าด้วยวาระที่1 งบประมาณบริษัท วาระที่2 การแต่งตั้งตำแหน่งบุคคล วาระที่3 .. บลาๆๆๆๆ"
กูกดปิดรออ่านตอนจบหรือซุ่มแต่ในมู้นี้ติดตามข่าวสาร ฉากเด็ดๆหรือฉากรุกท่านเอ็นโจอย่างเดียวแล้วนะเว่ยยย! อีห่าาาาาาาา แม่งงงงงง แต่งฟิคแต่งงานจนจะทีลูกมีเต้ากันแล้วเนี่ย!!!
อฟช.ยังไม่ค่อยจะคืบหน้าเลยยย!! ..........
โอเคกูโกหก!!!!....ถ้าเกิดเนื้อเรื่องจะเป็นอย่างงั้นขึ้นมาจริงๆ ก็....ก็ยังคงอ่านต่ออยู่ดี จะให้กูทิ้งท่านริวโฮ(โม่งเเปล)ผู้แสนดี ท่านเรย์กะผู้น่ารัก(พาตัวไปถวายแด่จอมมารเอ็นโจ) และพวกมึงเหล่าโม่งทุกคนไปได้ไง โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ
........โอเคกูบ่นพอใจละเชิญพวกมึงลั้ลลากันต่อ5555//หยิบกาน้ำ(กัญ)ชากรอกปากเพื่อสงบสติอารมณ์
>>986 กูก็คิดเหมือนกัน โฮววววว
เท่าที่ดำน้ำเห็นพูดถึงงานโรงเรียนอยู่ก็น่าจะปีสุดท้ายละปะวะ ยังไม่มีอะไรเคลียร์เลย โฮวววว แต่ก็คงอีกหลายสิบกว่าตอนกว่าจะถึง คาดหวังว่าจะเคลียร์ช่วงนี้นะ แบบเดียวกะแปลไทยช่วงนี้ที่เบียทันทำมาหลายตอนไม่เสร็จสักที ก็มีประเด็นนั่นนี่เยอะอยู่เข้ามา
แต่กลัวกว่าจบปลายเปิดก็กลัวเรือล่มนี่ล่ะวะ ฮือออออ
จงเชื่อมั่นในแท็กเลิฟ! และผมม้วนโรโคโค่แห่งความโชคดีของท่านเรย์กะ!!
>>989 ตอนจบ
งานโรงเรียนของซุยรันปีสุดท้ายของฉันจบลงแล้ว รอบๆตัวฉันมีแต่คู่รักหวานชื่นเต็มไปหมด
หมดช่วงวัยมัธยมปลายแห่งความรัก ฉันยังคงดำรงตำแหน่งคานทองอย่างสมเกียรติ
ไม่เอาแบบนี้นะ! ใครก็ได้มาสอยฉันลงไปที!
ตอนนั้นเองจู่ๆก็มีเสียงเชียร์ดังขึ้น พร้อมเด็กหนุ่มรุ่นน้องของฉันหนึ่งปีเดินออกมา
เอ๋ เหมือนจะเดินมาทางฉันนะคะ
"ท่านเรย์กะครับ!!!!"
"ค คะ!?" จู่ๆก็ถูกเรียกเล่นเอาตกใจหมด หนุ่มน้อยทำท่าทางอึกอักหน้าแดงไปหมด ทำให้ฉันพลอยหน้าแดงไปด้วยคนรอบตัวเริ่มหันมาสนใจพวกเราและเริ่มมีเสียงซุบซิบปนเสียงกรี้ด ในใจฉันเองก็อดที่จะเต้นตึกตักไปด้วยไม่ได้
หรือว่าฤดูใบไม้ผลิของฉันกำลังจะมาเยือน!
"ผมชอ....เปรี้ยง"
จู่ๆเด็กหนุ่มคนนั้นก็ล้มไปนอนกับพื้น
เอ๋ เอ๋ เอ๋
หนุ่มน้อยโดนเพื่อนหามออกไปแล้ว
รอก่อนฤดูใบไม้ผลิของฉัน
คิโชวอิน เรย์กะ งานโรงเรียนีสุดท้าย สถานะยังคงโสดสนิทค่ะ
-----ตัดฉาก
เอ็นโจถือหนังสติ๊กในมือ ลูกหินของเขาถูกยิงไปแล้วที่ไหนสักแห่ง
ที่ไหนกันหนอ
จบ
สร้างห้องใหม่กันเถอะ กูสร้างไม่เป็น เอาเป็นว่ากูช่วยรวบรวมนิดนึง ผลโหวตชื่อห้องถัดไป
สรุปได้เป็น ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันยามบ่ายกลางจักรวาลแห่งกาว (ยานแม่ลำที่3) นะ
ส่วนสารบัญ รวบรวมโดยโม่งสารบัญในลิงค์นี้
สารบัญชื่อตัวละคร
🌸 Pivoine [ชั้นปีเดียวกัน]
- คิโชวอิน เรย์กะ (จักรพรรดินี)
- คาบุรากิ มาซายะ (จักรพรรดิ)
- เอ็นโจ ชูสุเกะ (เจ้าชาย)
- ฮางิโนะโคจิ ฟุยุโกะ (กลุ่มเรย์กะ สาวสไตล์ญี่ปุ่น)
- โนเซ็น ซาราระ (คลั่งไคล้หนังสือหายาก)
🌸🌸 Pivoine [รุ่นพี่]
- คิโชวอิน ทาคาเทรุ (+7) (ท่านพี่)
- โมโมโซโนะ อิมาริ (+7) (เพื่อนท่านพี่)
- โอคิชิมะ (+6) (อดีตประธาน)
- ซุสุชิโนะ ยูริเอะ (+4) (เจ้าหญิง)
- มินาสึกิ ไอระ (+4) (อัศวิน)
- ฟุคาคุสะ คาซึมิ (+2) (จูเลียต)
- นาคาจิมะ โยโกะ (+1) (ประธาน)
💮 Petit Pivoine
- ซาวาราบิ มาโอะ (-9) (น้องสาวแสนน่ารัก)
- ยูริ (-9) (คู่รักมาโอะ)
- เอ็นโจ ยูกิโนะ (-10) (เทวดาน้อย)
🏫 โรงเรียนซุยรัน [กลุ่มสาวๆ]
- คาซามิ เซริกะ
- อิมามุระ คิคุโนะ
- โอมิยะ อายาเมะ
- ชิราซากิ รุเนะ
🏫 โรงเรียนซุยรัน [เพื่อนร่วมชั้น]
- ฮอนดะ มิฮารุ (คนที่หัวหน้าห้องแอบรัก)
- โนโนเสะ มาโฮะ (เพื่อนฮอนดะ)
- ซึรุฮานะ มากิ (หัวหน้ากลุ่มสาวแกล)
- ทาคามิจิ วาคาบะ (นางเอกสามัญชน)
- โมชิดะ (เคยถูกกลุ่มซึรุฮานะแบนในงานกีฬา)
- อิโคมะ (นักเรียนนอกที่ชื่นชมเรย์กะ)
- อาคิสะวะ ทาคุมิ (ลูกไก่ในกำมือซากุระจัง)
- โบดะ (เณรน้อย)
- มิซึซากิ อาริมะ (นายตัวสำรอง)
- ซาโตมิ ยูคินาริ (เพื่อนอาคิสะวะ)
- อิวามุโระ ทาคาชิ (ทหารเลว)
- ทากาคิ (เรียนพิเศษที่เดียวกัน)
🏫โรงเรียนซุยรัน [รุ่นน้อง]
- โคโตว ริรินะ (-1) (ลูกพี่ลูกน้องซึนเดเระ)
- โทริอุมิ (-1) (เคยสารภาพรักอาคิสะวะ)
- คาซึรางิ (-2) (ตาไก่โง่โทริโอะ)
- มินามิ ไรตะ (-1) (เดชชิ)
🏫โรงเรียนซุยรัน [รุ่นพี่]
- โทโมเอะ เซ็นจุ (+2) (รักแรก)
🏫โรงเรียนยูริโนะมิยะ
- ฟุคิโอกะ ซากุระโกะ (ปีศาจหนังแมว)
- ไมฮามะ เอมะ (ปลาซิวปลาสร้อย)
🏢โรงเรียนสอนพิเศษ
- โยริโนะ อาโออิ (โทโระโรนอิโมะทาโร่แฟนคลับ)
- อุเมวากะ อาสึกะ (นายบ้าหมา)
- โมริยามะ (สาวผมสั้น)
- ซากากิ (เพื่อนสาวผมสั้น)
- คิตาซาวะ (หนุ่มผมน้ำตาล)
🏰ลูกจ้างบ้านคิโชวอิน
- ซากามิ (คนขับรถ)
- มิฮาระ (โค้ชบอดี้การ์ด)
- ซาซาจิมะ (เลขาทานุกิ)
- โออุซากะ คาริน (ครูสอนพิเศษ)
- โออุซากะ มาริน (ครูสอนพิเศษ)
🎭ตัวประกอบอื่นๆ
- อิชิโนะคุระ ฮารุโตะ (+9) (เพื่อนกิน)
- ยูมิยามะ เอริกะ (+9) (แฟนอิชิโนะคุระ)
- นารุโทมิ อาคิมิ (+4) (สาวท้วมโปรแกรมไดเอท)
- เอมิริ (เคยเชิญไปงานแสดงดนตรี)
- คาซึมิ (+?)(ญาติ)
- มายะ (+?)(ญาติ)
⌛คนจากชาติก่อน
- ยูกะ (น้องสาวแท้ๆ)
- นารุฮิโตะ (ลูกพี่ลูกน้องที่เป็นรักแรก)
🐾 สัตว์เลี้ยง
- เบียทริซ (สุนัข)
- อลิซ (แมว)
คิดว่ายังไงๆเนื้อเรื่องก็น่าจะจบตอนจบม.ปลายแหละ ในอีก2เทอมที่เหลืออะไรก็เกิดขึ้นได้ ดูอย่างตอนแรกๆสคิปรัวๆ จำนวนตอนของแต่ละช่วงก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆมาจากตอนประถม>ม.ต้น>ม.ปลายปี1 เพราะฉะนั้นเวลาไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาคือเมื่อไหร่ฮิโยโกะซามะจะมาเขียนต่อมากกว่า(ขอตอน273ทีค่า)
นี่เพิ่งจะปิดเทอมฤดูร้อนเอง! มีอีเว้นท์เหลืออีกตั้งเยอะแยะ! ที่ใกล้ที่สุดก็ซัมเมอร์ปาร์ตี้ ยังสงสัยอยู่ว่าจะทำยังไงให้วาคาบะจังมาโผล่ที่งานได้อยู่
สรุปคือกังวลว่าฮิโยโกะซามะจะมาเขียนต่อจนจบเมื่อไหร่แค่นี้แหละ...... //เข้านาโร่วเช็คเช้าเย็น
มา ตอนจบมั่ง...
------
หลังจากความพยายามในการใช้ชีวิตอย่างนอบน้อมและหนักแน่นตามคติประจำใจที่ตั้งมั่นไว้แต่ต้น
ในที่สุดคิโชวอิน เรย์กะ ก็จบการศึกษาจากซุยรันได้สำเร็จโดยไม่มีเหตุการณ์การล่มสลายเกิดขึ้นล่ะค่ะ!
ดีล่ะ! ต่อไปนี้จะเป็นการดำเนินชีวิตในมหาวิทยาลัยแล้ว ฤดูใบไม้ผลิของฉันจะต้องบานสะพรั่งได้แน่ๆล่ะ!
...
แล้วฉันก็ตื่นขึ้น
ฉันพบว่าตัวเองนอนอยู่บนพื้นเสื่อ มันเป็นห้องไม้เก่าๆที่คับแคบและคุ้นเคย ขณะที่งงว้าเกิดอะไรขึ้นก็มีคนเดินเข้ามาในห้อง
"ไง ตื่นสักที"
อ เอ๋ นารุคุง!? ทำไมถึงอยู่ที่นี่ล่ะ
"นอนกลางวันแบบนี้ คืนนี้จะหลับลงมั้ยน่ะ พรุ่งนี้เปิดเทอมแล้วนะ มัวแต่อ่านการ์ตูนอยู่นั่น การบ้านคงเสร็จแล้วใช่มั้ย?"
เปิดเทอม? อ๊ะ! แย่แล้ว การบ้านฤดูร้อนยังไม่เสร็จจริงๆนั่นล่ะ!
ก็มันทั้งร้อนทั้งยากและน่าเบื่อนี่นา ฉันก็เลยกะว่าจะพักอ่านมังงะสักแป็บนึง... เผลอหลับไปซะได้
เหมือนจะฝันอะไรสักอย่างที่สนุกมากๆด้วยล่ะ แต่เสียดายที่ตื่นมาก็ลืมไปซะแล้ว ทั้งที่ควรจะจำได้แท้ๆ แย่จังเลยค่ะ
แต่ช่างมันเถอะ ตอนนี้ต้องรีบปั่นการบ้านแล้วล่ะค่าา
แง้ ยากจังเลยอะ นารุคุงช่วยด้วยยย
(จบ)
เอ้า ตั้งกระทู้แล้ว
https://fanboi.ch/webnovel/3451/
อ้าว ชิทททท กระทู้ซ้ำนี่หว่า ใช้กระทู้ไหนดีวะ
มากูช่วยเมนต์ปิดกระทู้
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.