Fanboi Channel

ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำชา​ยาม​บ่าย​ของโม่งซุยรัน [ซาลอนที่ 2]

Last posted

Total of 1000 posts

817 Nameless Fanboi Posted ID:iaftfTuBK

แว่บมาลงฟิคหน่อย ฟิคเอ็นโจเรย์กะเวอร์ชั่น after story ของ Kimi Dolce
ใช้มุมมองเอ็นโจกับเรย์กะสลับกันไปคนละตอน เขียนไม่ดีขออภัยด้วยนะ กูมือใหม่หัดเขียน
.
.

ผ่านมาได้แปดเดือนหลังจากที่คาบุรากิ มาซายะประกาศหมั้นกับทาคามิจิ วาคาบะ ทุกอย่างก็เป็นไปด้วยความราบลื่นเหมือนโรยด้วยกลีบกุหลาบ ไม่มีขวากหนามใดๆมารบกวนให้ระคายเคืองใจ ทุกสิ่งเต็มไปด้วยความยินดีและสุขสมหวัง

ตัวร้ายถูกกำจัดไปแล้ว ด้วยฝีมือของคาบุรากิ มาซายะที่ปกป้องคนรักของเขา ปกป้องวาคาบะจากผู้หญิงร้ายกาจที่ชื่อคิโชวอิน เรย์กะคนนั้น

คิโชวอิน เรย์กะใช้อุบายสกปรกมากมายใส่ร้ายคุณวาคาบะ บีบบังคับให้มาซายะเข้าพิธีหมั้นกับเธอ แต่ทุกอย่างผิดแผนเมื่อมาซายะเปิดโปงการทุจริตของที่บ้านคิโชวอิน จากคุณหนูผู้หยิ่งผยองบนชั้นฟ้าก็ถูกลากลงมาคลุกดินโคลนเสียเอง เหมือนกับคนที่เธอเคยกระทำไว้

วันจบการศึกษา ไร้เงาของคิโชวอิน เรย์กะ อันที่จริงเธอไม่มาโรงเรียนอีกเลยนับจากวันนั้น วันที่เป็นการล่มสลายของครอบครัวเธออย่างแท้จริง และในเมื่อขาดเรียนไปนานขนาดนั้นก็จะต้องถูกไล่ออกจากโรงเรียนตามกฎ ทุกคนต่างก็พูดว่าดีแล้ว สมน้ำหน้า ตัวร้ายก็ได้รับผลกรรมในตอนจบเหมือนในนิทาน

ทั้งที่เป็นเรื่องน่ายินดี แต่กลับรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างที่ก่อกวนใจไม่หยุด
.
.
.

ผมเคาะนิ้วกับพวงมาลัยระหว่างรอรถติดไฟแดงในกลางดึกคืนหนึ่ง ครุ่นคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย สายตาก็เหลือบไปเห็นเงาร่างหนึ่งเดินโซซัดโซเซอยู่ตรงฟุตบาท และคงจะผ่านเลยไปถ้าไม่ได้เห็นใบหน้าของร่างนั้นเสียก่อน

คิโชวอิน เรย์กะนั่นเอง

เป็นครั้งแรกที่ผมได้เจอเธออีกครั้งในรอบแปดเดือน คิโชวอิน เรย์กะดูไม่เปลี่ยนไปเท่าไหร่ ถ้าไม่นับท่าเดินที่โซซัดโซเซนั่น ผมก็ยังม้วนเป็นเกลียวเหมือนเดิม ใบหน้าก็ยังเชิดขึ้นอย่างหยิ่งผยอง ขณะเดินหายลับเข้าไปในสวนสาธารณะใกล้ๆ

มืดขนาดนั้น มันอันตรายนะ

ถึงจะไม่ชอบหน้าแค่ไหน แต่จะให้มาอ่านข่าวว่ามีผู้หญิงถูกฆ่าในสวนสาธารณะบนพาดหัวข่าวของหนังสือพิมพ์ฉบับรุ่งเช้านี่ก็ออกจะเกินไปหน่อย ผมครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็หักเลี้ยวรถตามเข้าไปในสวนสาธารณะนั้น ที่จอดรถอยู่ใกล้ๆ น่าจะพอตามเธอไปได้ทัน

มองหาคิโชวอิน เรย์กะอยู่ครู่หนึ่งก็ได้ยินเสียงเอียดอ๊าดดังขึ้น เจอตัวเธอได้ไม่ยากเลยเพราะนั่งอยู่บนชิงช้า แกว่งไกวตัวเองไปมาแล้วร้องเพลง

เสียงของเธอสะท้อนกังวานไปทั่วสวนสาธารณะที่เงียบสงบ พอได้ยินเสียงฝีเท้าของผมที่เดินเข้าไปหา เธอก็หยุดร้องแล้วหันขวับมาทางผม เห็นสีหน้าที่ดูโล่งใจเล็กน้อยของเธอปรากฎขึ้นมาแว้บหนึ่งแล้วจางหายไป

อ๋อ เลิกทำเป็นเก่งก็ได้นี่นา

“นึกว่าใคร ที่แท้ก็ท่านเอ็นโจนี่เอง” คิโชวอิน เรย์กะทำเสียงเยาะๆ “ไม่ได้พบกันเสียนาน องค์ชายเสด็จมาทำอะไรที่นี่ล่ะเพคะ ถ้าจะมาฟังเพลงก็จ่ายเงินมาด้วย ไม่ได้ให้ฟังฟรีหรอกนะ”

“ร้องห่วยขนาดนั้นใครจะไปจ่าย” ผมกอดอก ยืนจ้องมอง “ฟังไม่รู้เรื่องซักนิดว่าร้องเพลงอะไร”

“On my own จาก Les Miserable ไงค้า ไม่รู้จักเหรอ” เธอลากเสียงยาวๆ ฟังดูน่ารังเกียจเสียจริง “คุณคงต้องหัดไปดูละครเวทีเยอะๆบ้างนะ”

“งั้นเหรอ”

“คนที่ร้านที่ฉันไปสมัครงานน่ะ เขาชมว่าฉันน่ะร้องเพลงเพราะด้วยกันทั้งนั้น” เธอมองผมด้วยหางตาแล้วแย้มรอยยิ้มเหยียดหยาม “แต่ฉันเข้าใจค่ะ ว่าคุณคงหยาบกระด้างเกินกว่าจะรู้สึกถึงศิลปะ”

“อ้อ หางานทำงั้นรึ” ผมเหยียดยิ้มตอบกลับไปบ้าง “ไม่นึกเลยว่าจะได้ยินคำนี้จากปากของคุณด้วย คุณคิโชวอิน”

“ก็ฉันไม่ได้ร่ำรวยแล้วนี่คะ ไม่เหมือนลูกคนรวยแถวๆนี้หรอกนะ วันๆไม่ต้องทำอะไรก็มีกินมีใช้”

จะพูดกับคิโชวอิน เรย์กะต้องใช้ความอดทนอย่างมากที่จะไม่หงุดหงิดจนอยากจับหัวเธอกระแทกผนังสักที แม้ตกต่ำขนาดไหนก็ยังเป็นผู้หญิงที่น่ารำคาญไม่มีเปลี่ยน

“งานอะไรล่ะ เผื่อผมอาจจะตามไปสมน้ำหน้าถึงที่”

คิโชวอิน เรย์กะหัวเราะคิกคักด้วยเสียงแหลมสูงที่ฟังแล้วเหมือนแกล้งทำมากกว่าจะเป็นเสียงหัวเราะจริงๆ

“งานเกอิชาค่า” เธอสะบัดผมตัวเองไปมา แหวกเสื้อตัวเองข้างหนึ่งให้เห็นไหล่ที่เปลือยเปล่า “สนใจมาเป็นลูกค้ารึเปล่าล่ะคะ ท่านเอ็นโจ”

818 Nameless Fanboi Posted ID:iaftfTuBK

ผมนึกโกรธเธอขึ้นมาทันที “เลิกทำตัวไร้ยางอายแบบนี้ได้แล้ว”

“ถ้ามียางอายแล้วต้องอดตายล่ะก็ ฉันไม่เอาด้วยหรอกนะคะ” คิโชวอิน เรย์กะลอยหน้าลอยตาตอบ ดูน่าหมั่นไส้เป็นที่สุด “จริงๆก็มีงานเด็กนั่งดริงค์ด้วยนะคะ แต่ยังไม่ได้เริ่มทำเลย”

“คุณคิโชวอิน”

“ฉันน่ะรำนาฏศิลป์ญี่ปุ่นได้ เล่นดนตรี ร้องเพลงก็ ชงชา จัดดอกไม้ก็ทำได้หมด แถมยังสวย อายุสิบแปดแล้วด้วย คุณสมบัติครบขนาดนี้จะไปหาจากไหนได้อีกล่ะค้า” เธอลุกขึ้นยืน ถอดรองเท้าส้นสูงที่ดูถลอกปอกเปิดออก หยิบพัดสีม่วงแดงขึ้นมาจากกระเป๋าสะพาย “ไม่เชื่อเดี๋ยวรำให้ดูก็ได้นะ”

คิโชวอิน เรย์กะกางพัดออกแล้วเริ่มต้นตั้งท่าร่ายรำ ทุกอย่างอ่อนช้อยอ่อนหวานตามแบบของผู้ที่ได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี ผมนั่งลงบนชิงช้าตัวที่ใกล้ที่สุดมองดูกริยาพิลึกพิลั่น

เอ้า อยากทำอะไรก็ทำไปเลย

“แต่ฉันชอบบัลเล่ต์ที่สุดเลย ชอบกว่านาฏศิลป์นี่อีก” เธอหัวเราะคิกคักแล้วเริ่มฮัมเพลงเป็นทำนองของเจ้าหญิงหงส์ขาวในทะเลสาบ เปลี่ยนท่ารำของนาฎศิลป์ญี่ปุ่นมาเป็นบัลเล่ต์ ยืนบนปลายเท้าแล้วก้าวขาออกกระโดด แต่ก็เสียจังหวะล้มลงเมื่อพยายามยืนด้วยปลายเท้าอีกรอบ

ผมไม่ได้เข้าไปประคองเธอ ทำเพียงแค่นั่งดูเงียบๆ

“ใจจืดใจดำยิ่งกว่าที่ฉันคิดอีกนะ ท่านเอ็นโจ” คุณคิโชวอินเงยหน้าขึ้นมาหลังจากก้มอยู่นาน คราวแรกผมคิดว่าเธอคงจะร้องไห้ แต่คงคาดเดาความหยิ่งทระนงของเธอต่ำไปหน่อย เธอลูบๆคลำๆตรงบริเวณที่ล้ม “อา ค่อยยังชั่วที่ไม่เป็นแผล”

เธอลุกขึ้นมายืนด้วยขาของตัวเอง เดินเซๆมาที่ชิงช้าตัวที่นั่งในตอนต้น ผมได้กลิ่นเหล้าโชยมาจากตัวเธอด้วย

“นี่คุณดื่มมาเหรอ”

“ก็เป็นเกอิชาก็ต้องนั่งดื่มกับแขกด้วย ฉันก็เลยฝึกไว้บ้าง” ผมเพิ่งเห็นว่าข้างตัวเธอมีกระป๋องเบียร์วางอยู่ด้วย “ฉันอายุสิบแปดแล้ว ไม่เป็นไรหรอก เรื่องแค่นี้ใครๆเขาก็ทำกัน”

“คุณนี่บ้ารึเปล่า” ผมตวาดเธอไป แต่ดูเหมือนเธอจะไม่รู้สึกรู้สา “เป็นผู้หญิงเที่ยวดื่มเหล้าแล้วกลับดึกๆดื่นๆ ทำไมต้องเอาตัวเองไปเสี่ยงขนาดนั้น แล้วอาชีพอื่นๆก็มีตั้งเยอะแยะ ทำไมไม่ไปทำ”

“ไม่บ้าหรอก ฉันเอาจริง” คุณคิโชวอินหยิบเบียร์ขึ้่นมาดื่มต่อ “เป็นเกอิชาก็ดีไม่ใช่เหรอ เงินดี มีบ้านให้อยู่ มีข้าวให้กิน แค่ร้องเพลง รำ แล้วก็ทำให้ผู้ชายพอใจ ไม่แน่อาจจะได้เจอคนรวยๆที่ทำให้ชีวิตฉันเลิกเฮงซวยซักที เบื่อที่จะต้องอยู่ห้องรูหนูแบบนั้นจะแย่อยู่แล้ว บางทีก็อาจจะได้เจอคนที่สามารถทำให้คาบุรากิ มาซายะล่มจมด้วยก็ได้”

“คิโชวอิน เรย์กะ”

“ฉันจำชื่อตัวเองได้ค่ะ ไม่ต้องให้ท่านเอ็นโจมาย้ำเตือนบ่อยๆ” เธอเหลือบมองผมแล้วก็หันไปสนใจกระป๋องเบียร์ต่อ “แปลกนะคะ คุณพูดกับฉันทีไรก็โมโหทุกที แล้วจะมาพูดด้วยอะไรนักหนา”

เธอมองผมขึ้นๆลงๆอยู่หนึ่งหลายทีก็แสยะยิ้ม

“ถ้าไม่ติดว่าคุณร่วมมือกับเพื่อนคุณเพื่อทำลายครอบครัวฉันด้วย ฉันคงคิดว่าคุณน่ะหลงรักฉันไปแล้วล่ะ เรียกร้องความสนใจสินะคะ”

ผมกำหมัดเข้าๆออกๆอยู่หลายที สูดลมหายใจเข้าลึกอย่างสงบสติอารมณ์ อดทนที่จะไม่บีบคอเธอให้ตายไปตรงนี้เสียก่อน

“ฉันจะเป็นเกอิชาแล้ว คุณมาเป็นผู้อุปถัมภ์ของฉันก็ได้นะ” คุณคิโชวอินแหวกเสื้อคลุมเปิดไหล่อีกข้าง ส่งยิ้มที่ดูยั่วยวน “ถ้าคุณเป็นคนแรกของฉัน คงพอทำใจได้หน่อย อย่างน้อยคุณก็หน้าตาไม่เลว ดีกว่าไปนอนกับตาแก่ที่ไหนก็ไม่รู้”

“ผู้หญิงไร้ยางอายอย่างคุณน่ะ ผมไม่ลดตัวลงไปเกลือกกลั้วด้วยหรอกนะ” ผมมองเธอด้วยแววตาเหมือนเห็นสิ่งที่น่าขยะแขยง

“แต่คุณก็ยังเสียเวลามาต่อปากต่อคำกับคนไร้ยางอายอย่างฉันไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งเลยไม่ใช่เหรอ เกลียดฉันขนาดนั้นก็ควรจะอยู่ให้ห่างๆเข้าไว้นะ” เธอวางกระป๋องเบียร์ลงแล้วเริ่มต้นเปิดกระป๋องใหม่ “เอาซักหน่อยมั้ย ฉันมีอีกสองกระป๋อง ถือซะว่าเลี้ยงคนเคยรู้จัก”

819 Nameless Fanboi Posted ID:iaftfTuBK

เมื่อผมไม่ตอบอะไร เธอก็ยักไหล่ ยกกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่มต่อ

“คนที่ร้านเขาชมฉันว่าพื้นฐานดี ไม่ต้องสอนมากก็ทำได้เลย แหงล่ะสิ ฉันเรียนมาทั้งชีวิต” เธอพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อยเหมือนบอกสภาพดินฟ้าอากาศ “แต่ยังไงก็ต้องเป็นไมโกะไปก่อน อาจจะซักปีสองปีล่ะมั้ง ถึงได้เลื่อนขั้น”

ว่าแล้วเธอก็คลี่พัดออกให้ดู

“พัดอันนี้ฉันก็ใช้รำให้พวกเขาดูด้วย ทุกคนชมว่ามันสวยมาก เข้ากับฉันเลย สินค้าจากฝรั่งเศสก็ต้องดีเลิศอยู่แล้วล่ะ” คุณคิโชวอินหัวเราะเบาๆ “รู้มั้ยว่าฉันขายทุกอย่างไปหมดแล้ว เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า แต่ทำยังไงพัดอันนี้ก็ขายไม่ออก ฉันก็เลยต้องพกมันติดตัวไว้ เผื่อเจอร้านให้ราคาดีจะได้เอาไปขาย อาจจะพอได้ค่าใช้จ่ายมาอีกซักอาทิตย์”

“คุณพักอยู่ที่ไหนล่ะตอนนี้”

“สนใจชีวิตฉันเหรอค้า” เธอหัวเราะ เริ่มต้นแกว่งชิงช้า “เดินผ่านสวนสาธารณะนี้ไปก็จะเป็นปราสาทของฉันแล้วล่ะค่ะ มีห้องอาบน้ำในตัวด้วยนะ”

“งั้นคุณควรจะกลับไปนอนพักผ่อนได้แล้ว”

“ฉันยังไม่อยากกลับ ไหนๆวันนี้ก็ได้งานแล้วทั้งทีก็ควรดื่มฉลองข้างนอกซักหน่อย” ชิงช้าที่เธอแกว่งลอยสูงขึ้นไปยิ่งกว่าเดิมจนผมกลัวว่าเธอจะตกลงมา แต่เธอก็เริ่มร้องเพลงอีกครั้ง คราวนี้เป็นเพลงใครนิทราก็หามีไม่ จากโอเปร่าเรื่องทูรันโดต์

ทูรันโดต์เป็นองค์หญิงโฉมงามผู้เย็นชา เที่ยวประหารผู้ชายที่มาขอเจ้าหล่อนแต่งงานด้วยการตั้งคำถามสามข้อ หากตอบไม่ได้ก็จะลากไปตัดหัว แต่มีเจ้าชายหนุ่มผู้หนึ่งที่ตอบคำถามนั้นได้ และถามกลับบ้าง ทูรันโดต์กลัดกลุ้มเพราะไม่อยากแต่งงานกับเขา พยายามครุ่นคิดปริศนาทั้งคืนและไม่มีใครสามารถนอนได้ตามชื่อเพลง แต่ในที่สุด เขาก็เอาชนะใจเธอได้อยู่ดี

เมื่อร้องจบ เธอก็ทำหน้าเศร้า ใช้ขาแกว่งไกวชิงช้าอย่างเชื่องช้า เหงาหงอย

“กลับไปก็ไม่มีใคร ท่านแม่ก็อยู่บ้านเดิมที่เกียวโต ท่านพี่..ไม่รู้สิ ฉันไม่ได้คุยกับเขานานแล้ว อาจจะไปอยู่กับเพื่อนซักคนที่จะพอช่วยเหลือเขาได้” คุณคิโชวอินคลึงกระป๋องเบียร์ไปมา “ส่วนฉันน่ะเหรอ แค่คนที่จะพูดคุยด้วยยังไม่มีเลย ก็อย่างว่าแหล่ะ ทุกคนเกลียดฉันนี่นะ”

“ที่คนเขาเกลียดคุณเพราะคุณทำตัวเอง คุณคิโชวอิน” ผมถอนหายใจให้กับนิสัยแย่ๆในส่วนนี้ของเธอ “เลิกคิดว่าทุกอย่างเป็นความผิดของคนอื่นได้แล้ว”

“แล้วจะเทศนาฉันให้ได้อะไรขึ้นมาล่ะคะ ในเมื่อทุกอย่างมันก็พังพินาศไปหมดแล้ว” เธอตอบกลับมาพร้อมกับแววตาที่เจ็บปวด แล้วก็แค่นยิ้ม “แต่ก่อนหน้านั้นคุณก็เตือนฉันนี่นะมาตลอดเลยนี่นะ ฉันมันโง่เองที่ไม่ฟัง”

“ก็รู้ตัวนี่”

“ก็ฉันรักเขา” คุณคิโชวอินเชิดหน้าขึ้นอย่างหยิ่งทะนง เป็นท่าเดียวกับที่ผมเคยเห็นมาตลอดตั้งแต่รู้จักกับเธอ “รักมาตลอด ฉันทนไม่ได้หรอกที่จะเสียเขาไปให้ผู้หญิงแบบนั้น ผู้หญิงที่ไม่เห็นจะมีอะไรดีเทียบฉันได้ ในสงครามกับความรัก ทำอะไรก็ไม่ผิดไม่ใช่รึไง”

“ผิดสิ” ผมแกว่งชิงช้าเบาๆ “มันผิดมาตั้งแต่เริ่มแล้ว คุณคิโชวอิน ถ้าคุณไม่ยึดติดกับมาซายะขนาดนั้น ป่านนี้คุณคงมีความสุขไปกับใครซักคนไปแล้วล่ะ”

“ช่างฉันเถอะ ยังไงฉันก็แพ้แล้ว” เธอฟุบหน้าลงกับโซ่ชิงช้า ผมม้วนลอนเลื่อนลงมาปรกจนไม่เห็นสีหน้าจริงๆ “เชิญพวกคุณไปมีความสุขกันตามสบายเถอะ ปล่อยคนขี้แพ้อย่างฉันไว้ตรงนี้”

เมื่อรู้สึกว่าผมยังนั่งอยู่ไม่ขยับเขยื้อนเธอก็เอ่ยซ้ำ

“ไปได้แล้ว ไม่อยากเห็นหน้า”

820 Nameless Fanboi Posted ID:iaftfTuBK

ถูกไล่ขนาดนี้ จะให้หน้าด้านหน้าทนก็กระไรอยู่ ผมลุกขึ้นยืน เดินกลับไปที่รถ ฉุนเฉียวให้กับความโง่เง่าของตัวเองที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้นอีกแล้ว กี่ครั้งแล้วที่ถูกผลักไสไล่ส่ง ก็ไม่เคยจำสักที ว่าคิโชวอิน เรย์กะร้ายกาจและเลือดเย็นขนาดไหน

ผมนั่งสงบสติอารมณ์อยู่ในรถครู่หนึ่ง แล้วก็บอกตัวเองว่าควรไปจากที่นี่ได้แล้ว คิโชวอิน เรย์กะจะเป็นยังไงก็ช่างหัวเธอสิ ผมไม่ควรจะสนใจ

แต่เหลือบไปเห็นนาฬิกาที่บอกเวลาเที่ยงคืนสิบเจ็ดนาทียิ่งทำให้ผมหงุดหงิด สุดท้ายก็ลงจากรถ เดินกลับเข้าไปในสวนสาธารณะอีกหน

เพลงใครนิทราก็หามีไม่ที่เธอร้องออกมาเมื่อครู่นั้นเป็นเรื่องน่าขำ เพราะทูรันโดต์โฉมงามนั่งหลับอยู่บนชิงช้า มือตกห้อยลงข้างตัว อีกมือรองหัวที่พิงโซ่ไว้ ดูเหนื่อยล้าและน่าสมเพชอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

ไม่สิ สภาพน่าสมเพชของเธอ ผมเคยเห็น ทุกคนก็เคยเห็น

ภาพที่เธอร้องไห้ในงานหมั้นผมยังจำได้ติดตา เส้นผมม้วนลอนที่เธอภาคภูมิใจก็กระเซอะกระเซิงเหมือนคนบ้า ไม่เหลือเค้าความสง่างามเคยมี และเมื่อเธอถูกลากออกไปทิ้งข้างนอกโดยบอดี้การ์ดตระกูลคาบุรากิ ผมก็มองดูเธออย่างเงียบๆ ไม่ได้ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือแต่อย่างใด

แต่ในคราวนี้ ผมดึงร่างเธอขึ้นมา กลิ่นเหล้าและเบียร์โชยหึ่งจนต้องเบ้ปาก ตอนนอน ขนาดแบกกลับมาที่รถก็ยังมีฤทธิ์เดชมาก ดิ้นไปมาจนแทบจะเหวี่ยงลงพื้น แล้วให้นอนกลางสวนสาธารณะไปตามที่เจ้าหล่อนปรารถนา

ไม่รู้ว่าผมจะลำบากตัวเองเพื่อผู้หญิงใจดำอำมหิตแบบนี้ไปทำไม

คิโชวอิน เรย์กะ ไม่ว่าจะผ่านมานานเท่าไหร่ ก็ยังเป็นผู้หญิงตัวปัญหาน่ารำคาญอยู่ไม่เปลี่ยนแปลงเลย

------------
บรรยายผิดๆถูกๆอ่านแล้วงงๆก็ขออภัยมาไว้ที่นี้ด้วยนะ

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.