Fanboi Channel

ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำชา​ยาม​บ่าย​ของโม่งซุยรัน [ซาลอนที่ 2]

Last posted

Total of 1000 posts

780 Nameless Fanboi Posted ID:326CwvGUq

ตอนแรกลองแต่งมุมมองยูกิโนะตามรีเควสจากบนๆ แต่ออกมากลายเป็นดาร์กยูกิโนะ เลยไม่เอาดีกว่า เปลี่ยนเรื่องๆ 5555

เคยเปรยๆไว้ในกระทู้แรก >>>/webnovel/3289/978 นึกอยากเอามาแต่งขยายต่อ เห็นมีฟิค Bad End แล้ว ฟิคแต่งงานก็ Happy End แล้ว
อันนี้คงเป็น Secret End?
_____________________

ด้วยการ์ด​เพียงแผ่นเดียว กลับทำให้​ทุกสิ่งทุกอย่าง​เปลี่ยนแปลง​และเคลื่อนไหว​

ฉันเองก็พอจะได้ยินข่าวนั้นมาบ้าง แม้จะรู้สึกแปลกใจที่มันดูจะเงียบผิดปกติราวกับเป็นเรื่องปกปิด แต่เพราะรู้มาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว จึงไม่ได้คิดอะไรนอกไปจากความยินดี ทว่าหลายวันให้หลังจากนั้นฉันกลับได้พบกับคาบุรากิที่มาพร้อมกับการ์ดเชิญใบนั้น และขอร้องให้ฉันไปช่วยเหลือ​เอ็นโจ

"ถ้าเธอปฏิเสธ​ล่ะก็ตระกูล​คิโชว​อิน​ของเธอไร้ที่ยืนแน่!"
แบบนั้นเรียกว่า​ขอร้อง​เหรอคะ!? อย่ามาลากฉันและตระกูลไปเกี่ยวด้วยซิ!

"ชูสุเกะ​ช่วยอะไร​เธอมาตั้งเยอะแยะ​ แล้วเธอจะนิ่งดูดาย ​ไม่สำนึก​บุญคุณ​อย่างงั้นเหรอ!?"
ฉันระลึกออกแต่หนี้และดอกเบี้ย​ราคาแพงเท่านั้นล่ะค่ะ

แล้วทำไมต้องเป็นฉันด้วยล่ะ!?

✦✦✦

ถัดจากนั้นท่านไอระและท่านยูริเอะก็มาเกลี้ยกล่อม​ฉัน

"ชูสุเกะน่าสงสารมากเลยนะ ดูท่าทางไม่ดีเลยล่ะ เรย์กะจังช่วยเขาทีเถอะนะ"
"ถ้าเป็นเรย์กะจังล่ะก็คงไม่มีใครกล้าขัดขวาง​แน่ พวกเราจะช่วยอีกทาง ขอแค่เรย์กะจังไปห้ามทัพไว้ก่อนน่ะ รบกวนทีนะ"

จะให้ฉันเป็นแม่ทัพเนี่ยนะคะ? ทำไมไม่เป็นคาบุรากิเล่า เป็นจักรพรรรดิไม่ใช่รึไง อำนาจของฉันน่ะใช้ได้แค่ในซุยรันเท่านั้นแหละค่ะ กะคนข้างนอกน่ะฉันไม่ไหวหรอกนะคะ

"ขอร้องล่ะ เรย์กะจัง!"
ถึงจะพูดแบบนั้นกันก็เถอะ...

✦✦✦

รถลีมูซีนบ้านคาบุรากิที่ลักพาตัว​ฉันจากที่ทำงานมาส่งที่หน้าโบสถ์​ ที่นั่นยูกิโนะคุงในชุดคนป่วยยืนรออยู่ ได้ข่าวว่าไม่สบายหนัก ทำไมถึงออกมาตากลมแบบนี้ล่ะ!?

"ท่านพี่เรย์​กะ ช่วยท่านพี่ด้วยนะครับ!"
อุก อย่าทำหน้าแบบนั้นซิจ้ะ

"นะครับ ท่านพี่เรย์กะ!"

ยูกิโนะคุงกุมหน้าอก ไอค่อกแค่กก่อนจะทรุดตัวลง
ยูกิโนะคุง!
พยาบาลที่อยู่ไม่ไกลรีบเข้ามาช่วยเหลือพายูกิโนะขึ้นเตียงพยาบาล

"สัญญา​กับผมนะครับท่านพี่เรย์​กะ... ว่าจะพาท่านพี่ออกมา... ผมจะรอที่โรงพยาบาลนะครับ..."
ยูกิโนะยิ้มทั้งที่หน้าซีดเซียวกุมมือฉันแน่น หลังจากเกี่ยวก้อยสัญญาก็ขึ้นรถพยาบาลที่จอดรออยู่ข้างหลัง เปิดหวอเสียงดังแล้วขับจากไป

เหลือฉันคนเดียวที่หน้าโบสถ์
สิ่งที่ติดตัวฉันมาด้วยมีเพียงพัดดำออกศึกที่คาบุรากิคงฉกฉวยมาด้วยตอนที่ลักพาตัวฉันออกมาจากบริษัท

สถานการณ์บังคับกันชัด ๆ เลยค่ะ แต่ทุกคนพยายามขอร้องกันขนาดนี้จะให้นิ่งเฉยก็คงไม่ได้ แถมจากเรื่องราวที่ได้ฟังมาแล้ว ฉันเองก็ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้นักหรอกนะ

ฉันกางและหุบพัดในมือไปมา ทำใจให้สงบ ก่อนจะเชิดหน้าเดินเข้าไปข้างใน

✦✦✦

"ฉันขอคัดค้านค่ะ!"

ฉันกลายเป็นจุดสนใจจากทุกคนทันที ภายในโบสถ์มีแต่คนหน้าตาไม่คุ้นเคยทำสีหน้าประหลาดใจส่งเสียงฮือฮาออกมา อึก ทะลุกลางปล้องกลางงานชาวบ้านเขาแบบนี้ ฉันจะโดนสาปแช่งมั้ยน่ะคะ โอ้ พระเจ้าและบรรดาสาวกทั้งหลายที่อยู่ในโบสถ์ ได้โปรดเห็นแก่เจตนาของฉันด้วยเถอะค่ะ

ฉันก้าวเท้าไปตามทางเดิน ไปที่ส่วนหน้าของโบสถ์ที่จัดทำพิธี เอ็นโจและผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่ด้วยกัน

"คุณคิโชวอิน...?"

เอ็นโจดูอิดโรยเหมือนพักผ่อนไม่เพียงพอ สีหน้าไร้อารมณ์ผิดไปจากทุกทีนั้น เบิกตากว้างอย่างแปลกใจ

"ท่านเอ็นโจคะ ฉันเป็นตัวแทนจากเพื่อนๆและคนสนิทของท่านเอ็นโจ ขอคัดค้านการแต่งงานนี้ค่ะ! การแต่งงานน่ะต้องเกิดจากความรักซิคะ ไม่ใช่เรื่องของธุรกิจหรือวงศ์ตระกูล ไม่ใช่การบังคับกัน ท่านเอ็นโจไม่คิดแบบนั้นเหรอคะ?"

"นี่เธอ!"
ผู้หญิงคนนั้นพยายามแทรกตัวเข้ามา ฉันสะบัดพัดในมือแล้วโบกไปที่ใบหน้าของเธอจนเธอเซถลาล้มลงไป "ฉันคุยกับท่านเอ็นโจอยู่ กรุณาอย่าสอดค่ะ!"

"ท่านเอ็นโจเองก็ไม่ได้สมัครใจเลยใช่มั้ยล่ะคะ?"
"... แล้วถ้าเป็นคุณคิโชวอินล่ะจะทำยังไง?"
"ฉันน่ะเหรอคะ? ... ถ้าเป็นฉัน ฉันยอมบวชซะยังดีกว่าแต่งกับคนที่ไม่ได้รักค่ะ!"
"งั้นเหรอ..."

เอ็นโจยิ้มจาง ๆ ท่าทางอย่างกะตุ๊กตาไร้เรี่ยวแรง เอาพัดตบหน้าเรียกสติสักทีดีมั้ยนะ?

"แน่นอนซิคะ ไม่อย่างนั้นเราจะต้องอยู่กับคนที่ไม่ได้รักไปตลอดชีวิตน่ะเหรอคะ ตกนรกทั้งเป็นชัด ๆ ! จะบอกว่าอยู่ไปเดี๋ยวก็รักกันเองน่ะเหรอคะ ไร้สาระ! นั่นก็เพราะว่านอกจากหย่าแล้วมันก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วไม่ใช่หรือไงกัน?

"ฉันได้ยินมาจากท่านไอระนะคะ ว่าท่านเอ็นโจน่ะ มีคนที่รักอยู่แล้ว แล้วจะปล่อยให้มันเป็นแบบนี้เหรอคะ? แล้วเธอคนนั้นล่ะ? อย่าทิ้งความสุขส่วนตัวไปเพราะความเห็นแก่ตัวของคนอื่นซิคะ!"

781 Nameless Fanboi Posted ID:326CwvGUq

"แต่...เธอคนนั้นไม่สนใจผมเลย..."

"ระดับท่านเอ็นโจแล้ว ยังมีคนที่ไม่สนใจด้วยเหรอคะ!? เพราะอย่างนั้น...ก็เลยเลือกที่จะยอมรับการแต่งงานนี้ประชดชีวิตน่ะเหรอคะ? อะไรกันน่ะ นั่นไม่สมกับเป็นท่านเอ็นโจเลยนะคะ ให้ไปที่ผาโทจิมโบหรือน้ำตกเคเก็น เยียวยาใจอย่างท่านคาบุรากิยังจะดูดีกว่าอีกค่ะ!"
"... เรื่องมาซายะนั่น จ่ายค่าปิดปากไปแล้วนี่นา"

เอ็นโจแค่นหัวเราะออกมาในที่สุด สีหน้าค่อยกลับมาเป็นปกติแล้ว

"ที่เธอคนนั้นไม่สนใจท่านเอ็นโจ เพราะเธอมีคนรักอยู่แล้วรึเปล่าคะ? ถ้าไม่ใช่นั่นก็ยังมีความหวังอยู่ไม่ใช่หรือไง โอกาสมากน้อยแค่ไหน แต่ก็ยังไม่ใช่ศูนย์นะคะ ลองสารภาพรักกับเธอซิคะ ลองจีบเธออีกครั้งซิ เขาว่าน้ำหยดลงหินทุกวัน หินยังกร่อน สักวันเธอย่อมต้องใจอ่อน และจะต้องสมหวังได้แน่ ๆ ค่ะ! แต่ถ้าท่านเอ็นโจตัดสินใจแต่งงานการเมืองแบบนี้ ทุกอย่างก็เป็นศูนย์ไปเลยนะคะ!"

เอ็นโจจ้องมองมาที่ฉันไม่ได้พูดอะไรอีก ฉันสอดส่ายสายตาไปรอบ ๆ เห็นผู้หญิงคนนั้นทำสีหน้าเครียดแค้น ตบมือเรียกคนของเธอออกมา ที่ที่นั่งรับรองแขก ชายในชุดสูท สวมแว่นสีดำหลายคนเริ่มลุกและเดินเข้ามา

"ท่านเอ็นโจ ทุก ๆ คนรออยู่นะคะ!"
"..."

อย่ามัวแต่นิ่งทึมทื่ออย่างงั้นซิยะ ถ้าคนพวกนั้นเข้ามาถึงตัว สิ่งที่ฉันทำมาทั้งหมดจะสูญเปล่านะ!

"ไปกับฉันนะคะ!"

ฉันยื่นมือให้ เอ็นโจจ้องมองแป็ปนึงก่อนจะวางมือลงมา

"ชู!"

ผู้หญิงในชุดเจ้าสาวคนนั้นตะโกนเรียก เกาะแขนอีกข้างของเอ็นโจไว้ ฉันเลยเอาพัดฟาดใส่มือนั้นเต็มแรง แล้วฉุดกระชากเอ็นโจด้วยเรื่ยวแรงทั้งหมดที่มีออกมา แล้วเราก็วิ่งไปด้วยกันตามทางเดินตรงกลางโบสถ์

ฉันใส่กระโปรงตัวยาวกับรองเท้าส้นสูง ทำให้วิ่งไปอย่างยากลำบาก ชายชุดสูทสีดำเหล่านั้นเริ่มขนาบเข้ามา พอใกล้ถึงประตูก็มีอีกสองคนที่พุ่งตัวเข้ามา ฉันเกือบจะล้มลง เป็นเอ็นโจที่คว้าและช้อนตัวฉันขึ้นมาด้วยมือทั้งสองข้างวิ่งฝ่าชายสองคนนั้นออกไปจากโบสถ์

ถ้าเป็นเวลาปกติ ฉันคงรีบขอให้เอ็นโจปล่อยฉันลงไปแล้ว แต่พอมองย้อนกลับไปเห็นผู้คนเป็นสิบที่วิ่งไล่หลังตามมา ต่อให้ฉันสามารถวิ่งลงสนามโฮโนลูลูได้ แต่เรื่องความเร็วละก็คงจะไม่ไหวหรอกนะ แม้เอ็นโจจะแบกร่างฉันไว้ แต่ความเร็วก็แทบไม่ได้ลดลงสักนิด สมกับเป็นมือหนึ่งในการวิ่งแข่งในงานกีฬาโรงเรียน

"คุณคิโชวอิน"
"คะ?"
"ที่พูดเมื่อกี้... มันจะเป็นอย่างนั้นจริง ๆ เหรอ?"

หืม? หมายถึงอันไหนนะคะ ฉันพูดออกไปตั้งเยอะเลยนะ

"ที่ว่าผมยังมีความหวัง?"
"แน่นอนซิคะ! อย่างน้อยก็ไม่ใช่ศูนย์หรอกค่ะ นอกซะจากเธอคนนั้นมีคนที่หมายปองอยู่แล้วล่ะนะ"
"ผม...ควรจะ... สารภาพ?"
"แน่นอนค่ะ ถ้าไม่พูดออกไปอีกฝ่ายก็ไม่มีทางรู้หรอก แถมถ้าเป็นท่านเอ็นโจล่ะก็ต่อให้เธอไม่สนใจ ก็ต้องมีหวั่นไหวบ้างแน่ ๆ ล่ะค่ะ"

เลิกพูดไร้สาระสักทีเถอะน่า! นี่จะถูกตามจับได้อยู่แล้วนะ!
ชายชุดดำบางคนพุ่งตัวเข้ามา แต่เอ็นโจก็หลบได้อย่างสวยงามราวกับมีตาหลัง

"ฟังดูมีประสบการณ์จังน้า"
"หึ ฉันน่ะเป็นที่ปรึกษาปัญหาหัวใจให้กับหัวหน้าห้อง อิวามุโระคุง และท่านคาบุรากิเชียวนะคะ อาคิสาวะคุงกับซากุระจังเองก็เป็นเพราะฉันหรอกนะคะถึงเข้าใจกันได้น่ะ"

ไม่อยากจะคุยหรอกค่ะ แต่ทุกคนน่ะสมหวังดั่งใจเชียวล่ะ แหม ก็ฉันน่ะเป็นคิวปิดผู้เก่งกาจนี่นา

"แต่นั่นมันไม่ใช่ประสบการณ์ส่วนตัวเลยนี่นา"

... เงียบไปเลยนะ! อย่าพูดแบบนั้นเชียว ฉันเองก็ไม่ได้อยากให้มันกลายเป็นแบบนี้สักหน่อย! มันไม่ใช่ความผิดของฉันเลยนะที่ต้องมาเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านคานทองเนี่ย! จะให้ทำยังไงล่ะยะ!

เอ็นโจยิ้มกว้างแล้วหัวเราะออกมา หน้าตาดูสดใสต่างจากตอนอยู่ในโบสถ์มากโข

ทางข้างหน้าเป็นประตูรั้วของโบสถ์ออกไปสู่ถนนใหญ่แล้ว รถยนต์สีดำติดฟิล์มดำหลายคันแล่นเข้ามาจอดเสียงลั่นดังเอี๊ยด จากนั้นชายในชุดสูทสีดำอีกหลายคนก็ลงมาจากรถ

อ๊าาา ไม่นะ จนมุมแล้วงั้นเหรอ!?

782 Nameless Fanboi Posted ID:326CwvGUq

"คุณคิโชวอิน"
"คะ?"

ยังจะพูดอะไรอีกน่ะห๊ะ! ดูข้างหน้านั่นซิ!
นี่ความพยายามทั้งหมดของฉันสูญเปล่างั้นเหรอ?

ถ้าถูกจับได้ ฉันไม่ถูกตราหน้าเป็นยัยนางร้ายที่ล่มงานแต่งงานคนอื่นหรอกเหรอคะ หมดกันอนาคตของฉัน แล้วไหนจะคนอื่นๆที่ฝากความหวังไว้กับฉันอีก ทั้งที่เกี่ยวก้อยสัญญากับยูกิโนะคุงไว้แล้วแท้ ๆ คาบุรากิจะต้องโกรธมากพอที่จะทำให้ตระกูลคิโชวอินล่มสลายในคืนเดียวแน่ ไม่น้าาาา

แต่เอ็นโจยังคงวิ่งตรงต่อไป จากนั้นก็มีรถยนต์เปิดประทุนคันหนึ่งขับมาจอดเทียบท่าตรงที่ว่างที่เว้นไว้อย่างพอดิบพอดี เห็นคาบุรากินั่งอยู่ที่นั่งคนขับชี้นิ้วสั่งชายชุดดำเหล่านั้น พวกเขาทำก้มความเคารพ ก่อนที่จะวิ่งสวนทางกับพวกเรา ไปจัดการขวางพวกที่ตามหลังเรามา

"ผมรักคุณ"

ที่แท้ก็เป็นคนของบ้านคาบุรากินี่เอง ถ้าอย่างนั้นฉันก็รอดแล้วซินะคะ ค่อยยังชั่ว ...

...
..
.

เอ๊ะ?
เมื่อกี้ว่ายังไงนะคะ?

ชายคนหนึ่งเปิดประตูรถให้ เอ็นโจพาฉันขึ้นนั่งที่เบาะหลัง ขณะเดียวกันคาบุรากิก็สตาร์ทรถขับแล่นฉิวออกไปจากโบสถ์นั้นอย่างรวดเร็วไม่เห็นฝุ่น

หัวสมองของฉันว่างเปล่านึกอะไรไม่ออกสักอย่าง ยิ่งเอ็นโจจ้องหน้าฉันด้วยสายตาและรอยยิ้มแปลกๆไม่วางตา ก็รู้สึกกลวงโบ๋ราวกับวิญญาณหลุดไปในอากาศ

"ทำได้ดีนี่ คิโชวอิน!"

เพราะเป็นรถเปิดประทุน คาบุรากิเลยต้องตะโกนมาจากที่นั่งคนขับ วิญญาณของฉันจึงย้อนกลับเข้าร่าง

"...ค ค่ะ! ...เป็นเพราะท่านคาบุรากิมาทันเวลาพอดีด้วยน่ะค่ะ!"

พอสติกลับมา ฉันจึงรู้สึกตัวว่าตัวเองกำลังนั่งอยู่บนตักของเอ็นโจ อ๊ะ เอ๋ แย่ล่ะ ฉันรีบหันไปเพื่อที่จะขอขยับตัวลงมานั่งเบาะ แต่กลับพบว่าเอ็นโจกำลังทำบางอย่างกลับมือขวาของฉัน

"ทำอะไรน่ะคะ!!!!"

แหวนเพชรสีเงินวงเล็กถูกสวมเข้ามาที่นิ้วนาง พอจะกระชากมือออกมา เอ็นโจก็คว้าหมับไว้แน่น

"ก็งานแต่งยกเลิกแล้ว แหวนนี่ก็คงไม่ได้ใช้แล้วนี่นา ฝากคุณคิโชวอินไว้ก่อนแล้วกัน ... ไว้ค่อยวงหาที่เหมาะกับคุณคิโชวอินกว่านี้ให้นะ"

อ อะไรกันคะ!!? วงที่เหมาะ!? หมายความว่ายังไงกันน่ะคะ!?

"คุณคิโชวอินมาทำงานแต่งของผมล่ม ก็ต้องรับผิดชอบซิครับ"

รับผิดชอบอะไรกัน!? นี่ฉันเข้าไปช่วยนายออกมานะยะ!?

เอ็นโจหัวเราะเล็กน้อย ใช้มือจับกระชับที่เอวของฉันไว้จนไม่สามารถขยับหนีได้ มืออีกข้างก็ยกขึ้นมาปัดเส้นผมที่ปกหน้าฉันออก ใบหน้าของเขาค่อยๆขยับเข้ามาใกล้มากขึ้น รอยยิ้มนั้นดูกรุ่มกริ่มแปลกประหลาด ประกายในดวงตาคู่นั้น ทำให้ใบหน้าฉันร้อนวูบ ตัวค้างแข็งเกร็งไปทั้งตัว กระทั่งจะหลบสายตานั้นยังไม่สามารถทำได้

"คุณคิโชวอิน...ที่ผมสารภาพก่อนขึ้นรถเนี่ย ได้ยินรึเปล่านะ?..."

ฉันเบิกตากว้าง ในใจปฏิเสธเต็มที่ว่าไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น เอ็นโจหัวเราะเบาๆ ใบหน้านั้นใกล้เข้ามาจนจมูกของเราแทบจะชนกันอยู่แล้ว

"น้ำหยดลงหินทุกวัน หินยังกร่อน...ซินะ?"

น้ำเสียงนุ่มนวลนั้นเบาจนแทบจะเป็นเสียงกระซิบ แต่ฉันกลับได้ยินมันอย่างชัดเจน ฉันรู้สึกราวกับวิญญาณจะหลุดออกจากร่างอีกครั้ง รอมร่อจะเป็นลมอยู่แล้ว

"เฮ้ๆๆ! ชูสุเกะ! ฉันยังอยู่ตรงนี้ทั้งคนนะ! ให้มันน้อยๆหน่อย!"
"...เป็นคนขับรถ ก็มองทางข้างหน้าไปเถอะน่า"
"..."

คาบุรากิไม่ได้ตอบกลับอะไร แต่เร่งรถเร็วขึ้นกว่าเดิม แถมยังบีบแตรติดต่อกันสองสามที น่าจะกำลังหาที่ระบายอารมณ์ ความเร็วของรถนั้นทำเอาผมของฉันพริ้วกระเซอะกระเซิงฟาดใส่หน้าเอ็นโจ ฉันสบโอกาสได้สติอีกครั้งก็รีบผลักตัวของเขาออกไปให้ห่างๆ แต่ก็ยังไม่สามารถลงจากตักได้อยู่ดี

"เอ่อ นี่เราจะไปที่ไหนกันงั้นเหรอคะ?"
"โรงพยาบาล!"

คาบุรากิตะโกนกลับมา พอฉันขมวดคิ้วเล็กน้อย เอ็นโจก็ขยายความให้ฟัง

"ไปเยี่ยมยูกิโนะที่โรงพยาบาลไง ... สัญญากันไว้แล้วนี่"

อ้อ นั่นซินะคะ สัญญากับยูกิโนะคุงไว้แล้วนี่นา ว่าจะพาตัวพี่ชายไปเยี่ยมที่ให้...ได้... น่ะ ... เอ๊ะ?

"ท ทำไม...?"
ทำไมเอ็นโจถึงรู้เรื่องสัญญาล่ะ!?

เอ็นโจจ้องมองฉันค่อยๆฉีกรอยยิ้มสว่างไสวที่ฉันรู้สึกว่ามันดำมืดและหนาบเหน็บที่สุด จนต้องกลืนคำถามกลับไป เอ็นโจคว้ามือของฉันไปแนบสัมผัสกับใบหน้าของตัวเอง จ้องมองที่ฉันไม่วางตา

"ขอบคุณที่มาช่วยผมนะครับ ...เรย์กะ"

แม้จะสงสัยแค่ไหน แต่ฉันเป็นก็ขี้ขลาดเกินกว่าจะรับฟังคำตอบจากปากของเขา

ฉันไม่อยากรู้หรอกว่าตัวเองติดกับดักหลุมเบ้อเร้อนี้ตั้งแต่ตอนไหนกันน่ะ

-----------------------
จอบอ จบ ♪♫
แต่งฟิคนี้แล้วเหนื่อยจัง ทำไมท่านเรย์กะขี้โวยวาย เปลืองอัศเจรีย์ขนาดนี้วะ... อ่านในใจเองยังเหนื่อยแทน...

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.