ชายไร้ชื่อ
หลังจากยึดครองบริษัทคิโชวอินได้ เขารู้สึกว่าทุกอย่างมันง่ายไป
ตอนแรกเขาเตรียมตัวรับมือตระกูลเอ็นโจวต่อเพราะเขาไปทำร้ายทายาทสายตรงของตระกูล ตระกูลเอนโจวส่งคนมาทำลายเขาก็จริง แต่มันดูออกง่ายเกินไป
ง่ายจนเขาไม่ไว้ใจ
เขาส่งคนจับตาดูคนแปลกหน้าที่เข้าออกบริษัทอย่างละเอียด และจับคนของฝ่ายนั้นได้สองสามคน
เขาควรจะดีใจที่จับได้ง่าย แต่มันกลับง่ายเกินไป
ตอนที่เขากำลังเดินจากบริษัท เราเดินสวนกับพนักงานส่งพิซซ่า เขาหยุดถามเลขาส่วนตัวว่าใครสั่ง
เลขาของผมหยุดคนสั่งพิซซ่าคนนั้น ขอดูบัตรประจำตัว และบัตรประชาชน ผมได้ข้อมูลมาแล้วส่งต่อไปยังหน่วยตรวจสอบส่วนตัวของผม
ปรากฏว่าคนคนนี้เป็นคนธรรมดาอย่างแท้จริงไร้ประวัติเกี่ยวข้องกับบริษัทใหญ่หรือด้านอื่นๆเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยกำลังทำงานพาทไทม์ ส่วนคนสั่งคือแผนกบัญชีที่กำลังจะฉลองงานวันเกิดให้เพื่อนร่วมงาน
ผมจึงปล่อยคนส่งพิซซ่าไป
เด็กหนุ่มส่งพิซซ่า ยิ้มขอบคุณรีบไปส่งพิซซ่ายังแผนกที่สั่งอย่างรวดเร็ว ระหว่างทางเขามองดูบริษัทที่ใหญ่โตอย่างตื่นตาตื่นใจ
“บริษัทกว้างจังน้า”
สายตาหันกลับไปมองประธานบริษัทที่เดินออกไปแล้ว สายตาที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานกลับเปลี่ยนเย็นเยียบ
“จะช่วยเอาคืนมาให้ได้เลย บริษัทของเรย์ทัน”
ระหว่างที่อุเมวากะ อาสึกะในชุดพนักงานพิซซ่าเดินไปยังแผนกบัญชี ก็เดินสวนกับทาคามิจิ วาคาบะ ที่มาพร้อมเอกสารสมัครฝึกงานในมือของเธอ
แหล่งหาข่าวที่ดีที่สุดคือร้านเหล้าในแหล่งอโคจร
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมมาที่นี่
ตื่นเต้นนิดหน่อย แต่ก็พอไหว
เดินไปยังบาร์เหล้าเกย์ ที่มีกระเทยสาวผสมเหล้าอยู่ ตอนแรกไม่ได้รับความสนใจมากนัก แต่ผมสั่งเครื่องดื่มตามที่เขาคนนั้นบอกไว้ กระเทยสาวที่อยู่หน้าเคาท์เตอร์จึงส่งสายตา แล้วเชิญชวนเขาไปยังอีกห้องหนึ่ง
“มีอะไรให้รับใช้” เมื่อเข้ามาในห้องเขาถามผม ค่อนข้างนอบน้อมอยู่หลายส่วน
“ฉันอยากสมัครงานที่นี่ชั่วคราว” กระเทยสาวมองผมอย่างแปลกใจ
ผมเชิดหน้าขึ้นสะบัดวิคผมม้วนอันโดดเด่นพลิ้วไหว
ผมรู้มาจากคุณเอ็นโจวว่า ในสถานที่แถวนี้มีส่วนเกี่ยวข้องบางอย่างเจ้าสารเลวนั่น
เพื่อท่านอาจารย์ ผมขออาสาลงมาจัดการด้วยตนเองเพื่อประสิทธิภาพที่มากที่สุด
“เริ่มแล้วสินะ” มาซายะพูดกับผมที่มองท้องฟ้านอกกระจกตึก
“อืม” ผมตอบเขา หันหน้ามามองเขา
“ดูเหมือนหมอนั่นจะไม่คิดหยุดแค่ตระกูลคิโชวอิน” มาซายะหัวเราะเยาะ แสยะยิ้มบางเบา หยิบเอกสารข้อมูลในมือมาโบกสะบัด ก่อนเดินมายื่นให้ผม
“นี่ข้อมูลของมัน”
“ทำงานเร็วตลอดสมเป็นนายเลยนะมาซายะ”
“ปกติน่ะใช่ แต่ครั้งนี้ไม่เท่านายหรอก”
พอเขาพูดแบบนั้นเหมือนรู้ทันผมก็อดหัวเราะเบาๆไม่ได้
“นั่นสินะครับ”
ก็ผมเอาจริงแล้วนี่นา