ผมเข้าสู่ห้วงนิทราลึก ทุกอย่างกลายเป็นสีดำสนิท แต่กลิ่นหอมอ่อนๆที่คุ้นเคยยังคงอยู่เคียงข้างผม
ภายในห้องพักผู้ป่วย
นายหญิงแห่งตระกูลคิโชวอินได้ตัดสินใจแล้ว…
เธอกอดบุตรชายของเธอ เด็กที่เป็นที่ภาคภูมิใจและเข้มแข็งเสมอมาของเธอ เด็กชายที่ไม่เคยทำให้เธอผิดหวังไม่ว่าจะเมื่อก่อน…
หรือตอนนี้
สามีของเธอสู้เต็มที่ ลูกชายลูกสาวของเธอก็สู้เต็มที่ แล้วเธอทำอะไรได้บ้าง…
ทั้งๆที่สัญญาแล้วแท้ๆ
ในวันที่เด็กน้อยเกิดมา
ตอนนี้เธอโกรธ โกรธจนไม่อาจระงับ พร้อมกับน้ำตาที่ยังไม่หยุดไหล เหมือนมันกำลังจะระบายความแค้นของเธอ
ที่ไม่มีที่สิ้นสุด
“คุณมิฮาระ” เธอเรียกบอดี้การ์ดที่สนิทกับลูกสาวที่สุดมา แม้ตระกูลคิโชวอินจะล้มละลายไปแล้ว แต่เหล่าผู้คนก็ยังไม่พรากจากไปไหน
“ครับ” ร่างสูงใหญ่ของบอดี้การ์ดเดินเข้ามา หน้าตาของเขาดูเคร่งเครียดและมุ่งมั่น ยืนตรงรอรับคำสั่ง
“รบกวนช่วยติดต่อตระกูลฝั่งของฉัน รวมทั้งรายชื่อเพื่อนของฉันทั้งหมดนี้ด้วยค่ะ”
“รับทราบครับ”
บอดี้การ์ดจากไปแล้ว เธอยังคงนั่งอยู่ที่เดิม เพื่อนของลูกชายของเธอก็ยังไม่จากไปไหน
“คุณอิมาริ”
“ครับ”
“ขอบคุณที่ไม่ทอดทิ้งลูกชายของฉัน”
“ไม่ต้องขอบคุณหรอกครับ”
“…”
“เพราะไม่ว่าอย่างไรผมก็ไม่มีวันที่จะทอดทิ้งเขา”
คุณนายคิโชวอินหลับตาลง ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอีกครั้ง
เธองดงามที่สุด โดดเด่นที่สุด ได้แต่งงานกับสามีที่ดีที่สุดในสายตาของเธอ
เธอมีลูกที่น่ารักที่สุด ลูกชายที่เธอภูมิใจ ลูกสาวที่น่ารักเหมือนเจ้าหญิง
ทั้งๆที่เธอเป็นแค่ผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่ง ผู้หญิงเจ้าน้ำตาคนหนึ่ง การเรียนหรือนิสัยก็ไม่ได้ดีอะไร
พระเจ้ากลับมอบสิ่งดีๆให้กับเธอเสมอ
เธอรู้ว่าเธอไม่ใช่แม่ที่ดี หลายครั้งที่เธอบังคับลูกๆให้เป็นไปตามสิ่งที่ตัวเองต้องการ
แต่ว่านะ
เธอนึกถึงวันแรกที่ลูกของเธอเกิดมา
เด็กน้อยหน้าตาน่าเกลียดยับยู่ยี่ ไม่เหมือนเธอหรือสามีเลยสักนิด แต่เป็นครั้งแรกที่เธอหลงใหลในสิ่งที่ไม่สวยงาม
เธอกุมมือเล็กๆนั้นไว้ เหมือนกับที่เธอกุมอยู่ตอนนี้ ต่างกันเพียงแค่ขนาดของมือ
แล้วเธอก็สาบาน
ว่าเธอจะปกป้อง
ถ้าใครมาทำอันตรายลูกของเธอ
เธอจะทำให้มันได้รู้จักคำว่าเสียใจที่เกิดมา…
เพราะงั้น…
“พอลูกตื่นขึ้นมาแล้ว…” เธอมองไปยังลูกชายของตัวเองที่หลับสนิท
“ยิ้มอย่างมีความสุขให้แม่ด้วยนะ ทาคาเครุคุง เรย์กะจัง”
เพราะแม่น่ะ รักรอยยิ้มที่มีความสุขของพวกหนูที่สุดเลยล่ะ
และเย็นวันนั้น คุณซากุระเพื่อนของเรย์กะก็มาขอเยี่ยมลูกสาวของฉัน