พาท หัวหน้าห้อง
พวกเราตัวแทนศิษย์เก่าซุยรันกำลังเดินทางมาหาคุณคิโชวอิน
หลังจากที่ข่าวอันน่าตื่นตะลึงนี้ถูกแพร่ออกไป กลุ่มของซุยรันแทบลุกเป็นไฟ
ทุกคนต่างเชื่อมั่นในตระกูลคิโชวอินของท่านเรย์กะ และสาปแช่งคนที่ทำการให้ร้าย
พลังอำนาจของซุยรันเริ่มเคลื่อนไหวเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์
ผู้นำครั้งนี้เป็นถึงองค์ชายเอ็นโจวแห่งและจักพรรดิคาบุรากิ ตำนานแห่งซุยรัน
ตลอดเวลาที่เรียนมาด้วยกัน ผมเคยเห็นจักรพรดิพิโรธเพราะความรำคาญเป็นบางครั้ง แต่ครั้งนี้กลับแตกต่าง ออร่าแห่งการฆ่าฟันคละคลุ้งจนพวกเดียวกันอย่างพวกเรายังต้องกลั้นหายใจ
และที่น่ากลัวที่สุด
คือเอ็นโจว ชูสุเกะที่มีรอยยิ้มเสมอ
แต่ตอนนี้กลับไม่มีอีกแล้ว …
เจ้าชายกลายร่างเป็นราชันย์ สีหน้าของเขาเหลือเพียงแต่ความเย็นเยียบ
หากเป็นเมื่อก่อนผมคงจะกลัว และพยายามหนี แต่ตอนนี้ไม่ใช่
เพราะ ‘พวกเรา’ เองก็ไม่ต่างกัน
คุณทาคามิจิที่ยิ้มแย้มเสมอก็ไม่เหลือรอยยิ้ม กลุ่มคุณเซริกะที่เป็นเพื่อสนิทของคุณคิโชวอินเองก็มีรังสีดำมืดไม่แพ้กัน
ผมที่แสนขี้ขลาดเองก็โกรธจนกักเก็บไม่ไหว ท่านพ่อและท่านแม่ผมบอกให้ออกห่างจากตระกูลคิโชวอินซะ แต่เรื่องแบบนั้นใครจะทำ
เพราะคุณคิโชวอินเป็นเพื่อนของผม
เป็นหัวใจของพวกเราศิษย์เก่าซุยรัน
คนอื่นๆเองก็คิดไม่ต่างกัน คุณฮอนดะเองก็ร้องไห้เมื่อรู้ข่าว ทุกคนต่างเจ็บปวดไปพร้อมกับคุณคิโชวอิน แม้พ่อแม่ของพวกเราจะสั่งห้ามไปยุ่งเกี่ยว แต่พวกเราไม่อาจทนอยู่เฉยๆได้
พวกผมรวมกลุ่มกันไปหาคุณคิโชวอิน ครั้งนี้ยังรวบรวมไปได้ไม่กี่คนเพราะทุกคนยังมีภาระ แต่ก็ช่วยสนับสนุนและส่งข้อความให้กำลังใจกันเต็มที่
ผมที่เดินตามเจ้าชายเอ็นโจวไปได้ยินเขาคุยโทรศัพท์กับอดีตประธาน Pivoine เพราะอยู่ใกล้เลยพลอยได้ยินเสียงในโทรศัพท์ไปด้วย
“ทางเราจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ค่ะ”
“ขอบคุณ”
“ไม่ต้องขอบคุณค่ะ คุณเรย์กะเป็นสมาชิกที่สำคัญของ Pivoine และเป็นรุ่นน้องที่ฉันภูมิใจอย่างไรก็ต้องช่วยเหลือค่ะ”
กระทั่งคุณ มิซึซากิ อาริมะ ที่เคยเป็นประธานนักเรียนซึ่งเป็นเพื่อนของคุณคิโชวอินและคุณทาคามิจิก็ติดต่อกับเครือข่ายสภานักเรียนทั้งยุคใหม่และศิษย์เก่า
กองกำลังที่ยิ่งใหญ่ของซุยรันกำลังเคลื่อนกำลังอย่างเงียบเชียบเหมือนคลื่นใต้น้ำ
พร้อมจะบดขยี้ คนที่มาทำร้ายจักรพรรดินีของพวกเรา
แถม
อิมาริพาท
เรย์กะจังหลับไปแล้ว พวกผมจึงพาเธอมาพักผ่อนที่เตียง ส่วนทาคาเครุที่สภาพอิดโรยไม่แพ้กันกลับไม่ยอมพักจนผมอ่อนใจ
“นายไปนอนพักได้แล้วนะ” ผมบอกเขาแต่เขายังไม่สนใจ มองน้องสาวตัวเองต่อไปเงียบๆ
“นี่ ทาคาเค…”
“ฉันยังอยากมองน้องสาวของฉันอีกหน่อย” หมอนั่นพูดแบบนั้น ผมจึงใจอ่อน ครอบครัวคิโชวอินเจอศึกหนักมามากแล้ว ผมไม่อยากขัดขวางความสุขของเขา ทาคาเครุทำท่าจะยืนดูต่อไปเรื่อยๆไม่เหน็ดเหนื่อย จะเอาเก้าอี้ให้เขานั่งหลับตรงนี้ก็ไม่ดี ช่วงนี้เริ่มเข้าหน้าหนาวแล้วอากาศเย็นขึ้นเรื่อยๆ หากให้เขานอนในที่ไม่อุ่นพอด้วยสภาพร่างกายและจิตใจแบบนี้เขาจะไม่สบายเอา
ผมจึงตัดสินใจลากเก้าอี้มานั้งลงแล้วดึงทาคาเครุมานั่งบนตักของผม
ตอนแรกเขาดูตกใจ ดิ้นสักพัก ผมเลยบอกเขาไปว่า ให้เขานั่งตรงนี้แล้วมองน้องจนหลับไปได้เลย ผมจะอยู่เคียงข้างเขา
ตอนแรกเขาทำหน้าไม่เห็นด้วย แต่ผมตีหน้ามึนกลับ หมอนั่นจึงถอนหายใจแล้วด่าผมว่า นายมันบ้า
กลายเป็นเจ้าทาคาเครุคนเดิมแล้ว
ผมยิ้ม เราสองคนยิ้มให้กันท่ามกลางอากาศที่เย็นขึ้น ผมกระชับเขาในอ้อมกอดให้เขานั่งสบายขึ้น ทาคาเครุยังคงมองเรย์กะจัง มอง มอง และมองจนสุดท้ายตัวเองก็หลับไปอีกคน
ผมกอดเขาแน่นขึ้นหน้าซุกลงบนผมสีดำนุ่มของเขา แววตาที่อ่อนโยนเมื่อครู่ของผมแปรเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าว
มันทำร้ายทาคาเครุของเขา…
มันทำร้ายเรย์กะจังน้องสาวที่น่ารักของเขา
ภาพทาคาเครุที่ร้องไห้มันยังติดตาเขาอยู่ ...
ตอนนี้เข้าสู่ช่วงกลางคืนแล้วแสงสว่างที่เคยมีเริ่มหายไป ในห้องเหลือเสียงลมหายใจของคนสามคน
สองคนหลับไปแล้ว
ส่วนอีกคนนั้นเต็มไปด้วยความแค้น ที่พร้อมจะลากคนที่ตนเองแค้นมางทัณฑ์ทุกเมื่อ…
--------------
จบจ๊ะ ว่าจะแต่งสั้นๆยาวเฉยยยยย
กูไว้อาลัยแด่อดีตคนรักของท่านเรย์กะที่ไร้ชื่อแปป ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
แถมนี่คือเลือดวายในตัวกูล้วนๆค่ะ สาดกาววายยยย