Fanboi Channel

ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำชา​ยาม​บ่าย​ของโม่งซุยรัน [ซาลอนที่ 2]

Last posted

Total of 1000 posts

596 Nameless Fanboi Posted ID:2xHLNjsLs

>>462-463 ต่อแจ้

"ท่านเอ็นโจ"

"ครับ"

เอ็นโจตอบรับฉันด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูอบอุ่น แต่ในใจฉันกำลังกรีดร้องว่านี่มันเรื่องอะไรกัน ไหงเอ็นโจมาอยู่ตรงนี้ได้ล่ะ

ละ แล้วสองมือของฉันกำเสื้อของเอ็นโจซะแน่นแบบนี้ ต้องเป็นรอยยับแน่ๆ แต่เหนือสิ่งอื่นใด ทำไมฉันต้องมายืนกอดเอ็นโจต่อหน้าสาธารณะชนด้วยล่ะค้าาาาาาา

ขณะที่ฉันตัวแข็งค้าง ยืนอึ้งทำอะไรไม่ถูกอยู่ตรงนั้น เอ็นโจก็ใช้ปลายนิ้วเกลี่ยน้ำตาที่ยังอยู่บนใบหน้าฉัน หยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับส่วนที่ยังเปียกๆออกให้ อา ดีจัง ที่วันนี้ใช้มาสคาร่าแบบกันน้ำมา ไม่อย่างนั้นต้องออกมาเหมือนภาพสยองขวัญของบ้านผีสิงแน่นอน

มีเสียงกรี๊ดดังขึ้นมาจากทั่วทิศทางที่ฉันยืนอยู่ ฉันอ้าปากค้าง หันไปมองซ้ายมองขวาอย่างเลิกลั่ก จะขืนตัวออกแต่ยังติดอ้อมแขนของเอ็นโจที่รั้งร่างฉันไว้อยู่ อ๊าาาา ปล่อยฉันเถอะค่ะ ไม่อยากตกเป็นเป้าหมายความอิจฉาริษยาจากบรรดาแฟนคลับของนายหรอกน้าาาา

"ขอโทษแทนยูกิโนะด้วยนะ" เอ็นโจก้มหน้าลงมองฉัน ลูบหลังเหมือนปลอบเด็กๆ "ตัวสั่นเชียว ไม่เป็นไรแล้ว ไม่ต้องกลัวนะ คุณคิโชวอิน"

"ขอโทษอีกครั้งนะครับ ท่านพี่เรย์กะ" ยูกิโนะคุงทำหน้าจ๋อยแล้วก็ก้มหัวลงให้ฉัน "ไม่รู้จริงๆว่าจะกลัวขนาดนี้น่ะครับ"

"มะ ไม่เป็นไรจ๊ะ" ฉันรีบพูดออกไป หวา เทวดาน้อยทำหน้าเศร้าพาให้ใจฉันรู้สึกผิดอย่างรุนแรงเลยค่ะ "ยูกิโนะคุงไม่ได้ทำอะไรผิดซักหน่อย บ้านผีสิงก็ต้องน่ากลัวอยู่แล้วล่ะ"

"งั้น เพื่อเป็นการไถ่โทษ ผมให้ไอ้นี่นะครับ" ยูกิโนะคุงล้วงเข้าไปในอกเสื้อ หยิบเอากระดาษสองแผ่นขนาดเท่าตั๋วรถไฟให้กับพี่ชายตัวเอง ฉันชำเลืองมองดูก็พบว่ามันเป็นตั๋วเข้าคาเฟ่แบบ V.I.P. ของชมรมคหกรรมที่ขายดีสุดๆจนต้องทำระบบตั๋วเพื่อจองคิวเข้ากันเลยทีเดียว ฉันเคยแวะไปตอนเช้ากับมาโอะจังและยูริคุง แต่คิวนั้นยาวเหยียดก็เลยถอดใจ ไปทานร้านอื่นแทน "ขนมของที่นี่อร่อยมากเลยล่ะ ถ้าได้ทานของหวานๆ น่าจะช่วยให้ท่านพี่เรย์กะสงบใจได้บ้างนะครับ"

"ขอบใจ" เอ็นโจยิ้มให้น้องชาย คลายอ้อมกอดออก ขณะที่ฉันกำลังโล่งใจอยู่นั้น มือนั้นเปลี่ยนไปจับมือฉันแทน "ไปกันเถอะคุณคิโชวอิน"

เฮ้ยยยยย

"ฝากดูแลท่านพี่ด้วยนะคร้าบบบ"

ยูกิโนะคุงบอกไล่หลังมา และก็ถือป้ายไปเรียกลูกค้าคนอื่นต่อ ส่วนเอ็นโจอ่านรายละเอียดที่เขียนอยู่บนตั๋วนั้น แต่ยังจับมือฉันเดินไปเรื่อยๆอยู่

คาเฟ่ที่ยูกิโนะคุงให้บัตรมา จากบ้านผีสิงของยูกิโนะคุง เดินลงบันไดไปแค่สองชั้นก็ถึงห้องที่ใช้จัดงานแล้ว ขนาดผ่านมาช่วงบ่ายคนก็ยังแน่นขนัดเหมือนเดิม แต่พอเราเดินไปถึง ผู้คนก็แหวกทางให้เองเหมือนโมเสสแหวกทะเลแดงเลยล่ะค่ะ

"ท่านเอ็นโจคะ"

"หืม" เอ็นโจเอียงคอมอง "ว่ายังไงเหรอ คุณคิโชวอิน"

"คือว่า..." ฉันชี้ไปที่มือของเอ็นโจที่จับมือฉันไว้อยู่ "มือน่ะค่ะ"

"อือฮึ" เอ็นโจพยักหน้า แล้วก็ทวนคำฉันซ้ำ "มือ"

"ช่วยปล่อยได้รึเปล่าคะ"

พอฉันนิ่วหน้า เอ็นโจก็หัวเราะแล้วก็ยอมปล่อยมือออก หันไปยื่นตั๋วที่ได้มาจากยูกิโนะคุงให้คนจัดคิวตรงทางเข้า พอเห็นตั๋ว V.I.P. ก็รีบเดินนำพวกเราเข้าไปข้างในทันที

ที่แท้ตั๋ว V.I.P. ก็ช่วยได้แค่เรื่องไม่ต้องต่อคิวยาวเหยียดนี่ แต่ก็ต้องนั่งร่วมกับโต๊ะอื่นๆอยู่ดี ไม่ได้มีโซนพิเศษอะไร ฉันรู้สึกว่าทุกสายตาในห้องมองมาแต่ทางนี้ แต่เอ็นโจไม่ได้สนใจ เปิดเมนูดูรายการอาหารและเครื่องดื่มด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

"คุณคิโชวอิน รับอะไรดี"

เอ มีขนมน่าสนใจตั้งเยอะแน่ะ ทาร์ตบลูเบอรี่ ทีรามิสุ คัสตาร์ดเครมบูเล่ก็น่าทาน พานาคอตต้าราสเบอรี่ก็ฟังดูน่าอร่อย มาการองกุหลาบก็น่าจะเข้ากับชาดาร์จิลิง มัฟฟินผลไม้เชื่อมก็ฟังดูหวานหอม เลือกไม่ถูกเลยล่ะค่ะ

"เอาเซ็ตบีก็แล้วกันค่ะ" เซ็ตบีที่ฉันเลือกไปนั้นเป็นเซ็ต afternoon tea ชาอัสสัม มีสโคนและแยมส้ม กับขนมชิ้นเล็กๆน่ารักสำหรับคนที่เลือกไม่ถูกว่าจะทานอะไรอย่างฉัน ทุกอย่างช่างน่ากินไปหมด

แต่พอเงยหน้าขึ้นจากเมนูก็สบตากับเอ็นโจที่มองมาทางนี้พอดี ฉันรีบเอาเมนูมาบังหน้าอีกรอบ จะมองอะไรกันนักล่ะคะ

ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่ เซ็ต afternoon tea ก็มาเสิร์ฟที่โต๊ะด้วยพนักงานเสิร์ฟสาวน้อยที่มองเอ็นโจตาปรอยเชียว แถมตอนเสิร์ฟกับตอนแนะนำขนมก็ดูอ้อยอิ่งมากเกินควรด้วยล่ะ แหม่ ยังเสน่ห์แรงไม่เปลี่ยนเลยนะคะ ทีฉันแค่มองไปทางไหนผู้ชายก็หลบตากันเป็นแถบ ไม่ยุติธรรมเลยค่ะ

พอลองชิมสโคนกับแยมส้มเป็นอย่างแรกตามที่สาวเสิร์ฟแนะนำวิธีกิน อุ อร่อยมากเลยค่ะ สมกับเป็นชมรมคหกรรมที่ขึ้นชื่อเรื่องผู้รักการทำอาหารมารวมตัวกันจริงๆ มิน่า คิวถึงได้ยาวเหยียดขนาดนี้ น้ำชาก็ชงมากลมกล่อมในอุณหภูมิพอดี ได้กลิ่นหอมของใบชา เข้ากับมาดแลนที่กรอบฟู รสชาติหวานกำลังดี ได้กินของอร่อยๆแล้วมีความสุขจังเลยค่ะ ความกลัวในบ้านผีสิงเมื่อครู่นี้หายไปเป็นปลิดทิ้งเลย

597 Nameless Fanboi Posted ID:2xHLNjsLs

ดูท่าทางฉันคงแสดงความสุขออกมาทางสีหน้ามากเกินไปหน่อย เพราะเห็นเอ็นโจมองฉันยิ้มๆ "ขนมทำให้หายกลัวจริงๆด้วยสินะ"

"ฉันไม่ค่อยถูกกับเรื่องแบบนี้เท่าไหร่น่ะค่ะ" ฉันหยิบขนมมาทานอีกชิ้น "แต่ไม่คิดเลยนะคะว่าท่านเอ็นโจจะมาร่วมงานโรงเรียนด้วย นึกว่างานยุ่งเสียอีก"

"ยูกิโนะชวนมาน่ะ เห็นบอกว่าทำบ้านผีสิงกับเพื่อน ก็เลยแวะมาดูหน่อย" เอ็นโจหัวเราะ "ไม่คิดเลยว่าคนกลัวผีแบบคุณคิโชวอินจะยอมเข้าบ้านผีสิงด้วย ใจดีกับยูกิโนะไม่เปลี่ยนเลยนะ"

"นานๆเจอกันที ถ้าปฎิเสธ ยูกิโนะคุงก็เสียใจแย่สิคะ"

ฉันได้เห็นประกายประหลาดอยู่ในดวงตาของเอ็นโจ ให้ความรู้สึกเหมือนว่ากำลังเสียใจหรือน้อยใจอยู่อะไรแบบนั้น แต่พอกระพริบตาอีกที ก็เห็นเอ็นโจยิ้มน้อยๆอย่างเดิม เมื่อกี้นี้ตาฝาดงั้นหรือคะ

หลังจากเราออกมาจากคาเฟ่ ฉันก้มหัวให้เอ็นโจเป็นการขอบคุณที่เลี้ยงขนม แต่พอจะขอปลีกตัวไปเดินเที่ยวงานเอง เอ็นโจก็เอ่ยขึ้นมาเสียก่อน

"คุณคิโชวอิน รู้สึกว่าห้องที่เราเคยอยู่จะขายเทียนแฮนด์เมดด้วยเหมือนกัน ไปดูกันเถอะ"

ฉันเลิกคิ้ว "ทำไมฉันต้องไปกับท่านเอ็นโจด้วยล่ะคะ"

"ก็ยูกิโนะขอร้องให้คุณคิโชวอินช่วยดูแลผมด้วยไม่ใช่เหรอ" เอ็นโจตอบด้วยสีหน้ายิ้มระรื่น "เอ หรือคุณคิโชวอินจะผิดสัญญากับยูกิโนะกันล่ะ"

อุก อย่ายกยูกิโนะคุงมาอ้างสิคะ แล้วโตป่านนี้ต้องมีคนดูแลด้วยเหรอคะ

"แล้วก็ยังมีเรื่องนี้อีกนะ" นิ้วของเอ็นโจชี้ไปที่รอยยับบนเสื้อที่เกิดจากฝีมือของฉัน เสื้อยับแค่รีดเอาก็หายแล้วไม่ใช่รึไงกันยะ ที่ขุดเรื่องนี้ขึ้นมาเพราะจะบีบบังคับให้ฉันตอบตกลงใช่มั้ยล่ะ เจ้าปีศาจนี่

สุดท้าย ฉันก็ต้องเดินเที่ยวงานกับเอ็นโจจนได้ เห็นหน้าตายิ้มๆนั่นก็รู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมาจริงๆเลยล่ะค่ะ หาเรื่องแกล้งซะเลยดีมั้ยนะ

เดินผ่านห้องหนึ่ง เห็นทำทาโกะยากิขายกัน น่าอร่อยจังเลยแฮะ คนทำเป็นเด็กผู้ชายหัวเกรียนสองคน ท่าทางทะมัดทะแมงคล่องแคล่ว มีเด็กหลายคนมาต่อคิวซื้อ ทำหน้าตื่นเต้นเหมือนเห็นของแปลกกัน อะไรกันจ๊ะ พวกเธอไม่เคยกินทาโกะยากิกันงั้นเหรอ แต่สมัยเรียน ทุกคนในห้องฉันก็ไม่เคยมีใครกินทาโกะยากิกันจริงๆนี่นา น่าเศร้านะคะที่ของอร่อยแบบนี้กลับไม่ได้รับความนิยมในซุยรัน

ฉันเหลือบมองเอ็นโจแว้บหนึ่งแล้วตัดสินใจเดินไปต่อคิวกับเขาด้วย ใช้เวลาครู่หนึ่ง ทาโกะยากิร้อนๆแปดลูกที่สั่งไว้ก็เสร็จสิ้น

"ตอบแทนที่เลี้ยงขนมเมื่อครู่นี้ค่ะ" ฉันยื่นทาโกะยากิไปให้เอ็นโจ เห็นใบหน้านั้นดูพิศวงขึ้นมาแวบหนึ่งแล้วก็ยิ้มกว้างออกมาเหมือนดีใจ

"งั้นไปหาที่นั่งทานกันเถอะ คุณคิโชวอิน"

"อ๊ะ ไม่ได้ค่ะ ของกินเล่นแบบนี้ได้มาแล้วต้องทานเลยทันที ถึงจะอร่อย" ฉันตอบหน้าตาย รอดูปฎิกริยาของเอ็นโจอย่างนึกสนุก

โถๆๆๆๆ พ่อคุณชาย คงได้รับการสอนมาล่ะสิว่าไม่ควรยืนกินน่ะ แล้วตั้งแต่เกิดมา นายก็ไม่เคยกินทาโกะยากิเลยใช่มะ น่าสงสารอะไรเช่นนี้ ในฐานะรุ่นพี่ ฉันจะสอนวิถีสามัญชนให้นายเอง

"งั้นคุณคิโชวอินแบ่งกับผมก็แล้วกันนะ" เอ็นโจยื่นถ้วยกระดาษมาตรงหน้าฉัน "สุภาพสตรีก่อนครับ"

ฉันกระพริบตาปริบๆ ไม่ได้คาดคิดว่าตัวเองจะต้องกิน เพราะฉันตั้งใจจะซื้อให้เป็นการกลั่นแกล้งหมอนี่โดยเฉพาะ จะให้คุณหนูตระกูลคิโชวอินอย่างฉันมายืนกินแบบนี้มันเป็นเรื่องต้องห้ามนะคะ แต่ก็อยากกินจังเลยน้า ทาโกะยากิร้อนๆเพิ่งเสร็จหมาดๆนี่มันน่าอร่อยสุดยอดไปเลย

ในที่สุด ฉันก็พ่ายแพ้ความตะกละ ขายวิญญาณให้แก่เบลเซบับจนได้ค่ะ

ทาโกะยากิลูกแรกเข้าปากฉัน ก็แทบจะบ่อน้ำตาแตกด้วยรสชาติที่สุดแสนจะคิดถึง ฉันไม่ได้กินมันมาเป็นชาติแล้วค่ะ อร่อยจังเลย หนวดปลาหมึกกรุบกรอบ เข้ากับแป้งและกะหล่ำหั่นฝอย ราดซอสและปลาแห้งกับสาหร่าย ฮึ่ย กินคนเดียวหมดเลยจะดีมั้ยนะ

เอ็นโจดูทุลักทุเลนิดหน่อย แล้วพอกินเข้าไปก็เอามือป้องปาก ทำหน้าแปลกๆ ร้อนล่ะสิท่า ลวกลิ้นใช่มั้ยล่ะ กินครั้งแรกก็แบบนี้ล่ะน้า

"อร่อยรึเปล่าคะ ท่านเอ็นโจ" ฉันถามยิ้มๆ ท่าทางของนายตอนนี้นี่ตลกจังเลย

"ก็ พอใช้ได้" เอ็นโจตอบแบบไว้ตัวนิดหน่อย ปากนายพองอยู่แน่ะ รู้ตัวรึเปล่า

"งั้นทานอีกนะคะ" ฉันจิ้มทาโกะยากิอีกลูกส่งให้ การกลั่นแกล้งคนนี่ให้ความรู้สึกสนุกเหลือเกินค่ะ โอ๊ะ โฮะโฮะโฮะ

เอ็นโจเหลือบมองฉันสลับกับทาโกะยากิที่ฉันยื่นให้ จากนั้นก็อ้าปากงับ

ได้ยินเสียงกรี๊ดดังขึ้นอีกแล้วค่ะ

"กินอีกที ก็อร่อยไม่เลว" เอ็นโจใช้นิ้วโป้งปาดซอสที่ติดตรงมุมปากตัวเองออกแล้วเลียซอสที่เลอะนิ้วนั่น "ขอบคุณสำหรับการแนะนำของกินนะ คุณคิโชวอิน"

ท่าทางแบบนั้นมันอะไรกันค้าาาาา ฉันไม่ได้ตั้งใจจะป้อนทาโกะยากิให้นายซักหน่อย

แล้วทำไมการกลั่นแกล้งนั่น มันถึงย้อนศรกลับมาหาฉันได้ล่ะคะ นี่มันสุภาษิตที่ว่าให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัวรึเปล่าคะเนี่ย

ฉันได้แต่คร่ำครวญอยู่ในใจว่าไม่น่าไปแกล้งเอ็นโจเลย

598 Nameless Fanboi Posted ID:2xHLNjsLs

เอ็นโจกับฉันเดินมาถึงห้องเรียนที่เคยเรียนด้วยกันตอนม.2 จนได้ มีลูกค้าอยู่ในร้านค่อนข้างหนาตา และชั้นวางเทียนแฮนด์เมดหลากสีสันที่รายล้อมพวกเรา คิดถึงความหลังจังเลยน้า แต่ร้านขายเทียนนี้ดูสงบสุขดี ไม่เหมือนตอนนั้นที่มีคนมากระหน่ำจองเทียนฝีมือเอ็นโจจนต้องจัดประมูล บรรยากาศตอนประมูลนั้นดุเดือดจนฉันนึกว่าเป็นการประมูลภาพวาดของศิลปินที่ไหนซะอีกค่ะ น่ากลัวจริงๆกับความรักของแฟนคลับ

ฉันอุดหนุนรุ่นน้องด้วยการซื้อเทียนรูปร่างคล้ายๆกับที่ฉันเคยทำมาสามอันแล้วก็ไปต่อที่ร้านอื่น ตั้งแต่เห็นใบปลิว ฉันก็เล็งห้องที่จัดงานวัดแบบสามัญชนเอาไว้ พอเข้ามาก็รู้สึกว่าทำได้ดีเกินคาด มีซุ้มของเล่นเต็มไปหมดเลยค่ะ ทั้งยิงปืน โยนห่วง ปาบอล ช้อนลูกโป่งเอย อยากเล่นไปหมดเลยล่ะค่า

ฉันเลือกยิงปืนก่อนเป็นอันดับแรกเพราะอยู่ใกล้มือที่สุด จ่ายค่าเล่นแล้วก็หยิบปืนอัดลมขึ้นมา คนเฝ้าซุ้มบอกวิธีเล่นแล้วยิงให้ดูหนึ่งครั้ง เป้ากระดาษที่ใช้สาธิตก็ขาดเป็นรู

รางวัลใหญ่เป็นตุ๊กตาแกะสีขาวและสีเหลืองที่ดูนุ่มนิ่มน่ารักมากเป็นคู่กันสองตัว ฉันที่ชื่นชอบแกะอยู่แล้ว พอเห็นก็อยากได้ทันทีเลยล่ะค่ะ แต่คงเพราะยากไป สุดท้ายก็ทำคะแนนรวมได้ไม่ถึง คนเฝ้าซุ้มหยิบตุ๊กตาสุนัขตัวเล็กๆที่เป็นรางวัลในระดับคะแนนของฉัน ก็ไม่เลวร้ายเท่าไหร่นะ

ฉันหันไปมองเอ็นโจที่ดึงสไลด์ปืนเตรียมพร้อมเหนี่ยวไก แม้จะเป็นแค่ปืนของเล่นแต่ก็เป็นภาพที่ดูดีเหมือนกับในหนังเลยแน่ะ ใบหน้าด้านข้างที่ดูเอาจริงเอาจังทำให้ฉันใจเต้นขึ้นมานิดหน่อย เป็นครั้งแรกที่ฉันเพิ่งรู้สึกว่าเอ็นโจนี่ก็เท่เหมือนกันแฮะ

เป้ากระดาษขาดเป็นรูที่กึ่งกลางอยู่หลายจุด นอกนั้นก็อยู่แถวๆ 9 และ 8 คะแนนทั้งนั้น คนเฝ้าซุ้มหยิบตุ๊กตาแกะสีขาวให้แล้วตบมือแสดงความยินดีที่พิชิตรางวัลใหญ่สำเร็จ เอ็นโจเอาตุ๊กตาแกะนั่นให้ฉัน

"ช่วยถือไว้ก่อนนะคุณคิโชวอิน" อ๋อ แค่ฝากถือสินะคะ คงจะเอาไปให้ยูกิโนะคุงแน่ๆ

อืมมม ตุ๊กตานี่น่ารักจังเลยค่ะ นิ่มมือด้วย ฉันลูบตุ๊กตาหนุบหนับด้วยความเพลินมือ ฉันสอยรางวัลมาไม่ได้ก็จริง แต่ถ้าลองเย็บตุ๊กตาแบบนี้ด้วยตัวเองจะไหวรึเปล่าน้า

เอ็นโจยิงปืนอีกครั้ง ฉันหันไปมองรอบๆก็เห็นสายตาสาวๆมองมาทางนี้อย่างเคลิบเคลิ้ม พอหันไปอีกที เอ็นโจก็ได้ตุ๊กตาแกะสีเหลืองนั่นมาครอบครองเรียบร้อยแล้ว หวา หมอนี่จะทำทุกอย่างได้เก่งเกินไปแล้วนะคะ น่าหมั่นไส้จริงๆเลยค่า

"คุณคิโชวอิน ระหว่างสีขาวกับสีเหลือง ชอบสีไหนมากกว่ากัน"

"สีขาวค่ะ" ฉันตอบตามที่คิด แม้จะงงๆนิดหน่อยว่าจะถามเรื่องสีทำไม

"งั้นตัวนี้เป็นของผมสินะ" เอ็นโจชูตุ๊กตาแกะสีเหลืองที่เพิ่งได้มาให้ฉันดูพร้อมกับรอยยิ้ม พยักเพยิดให้กับตุ๊กตาในอ้อมแขนของฉัน "ดูแลมันดีๆด้วยล่ะ คุณคิโชวอิน"

"อะ เอ๋"

"ไปเล่นอย่างอื่นกันเถอะ ตรงนั้นก็น่าสนใจนะ" เอ็นโจมองไปทางซุ้มปาบอลแล้วก็เดินนำหน้าไป

อยู่ๆตุ๊กตาแกะก็เป็นของฉันเสียอย่างนั้นค่ะ อะไรกัน ฉันนึกว่าเอ็นโจยิงมาให้ยูกิโนะคุงนะนั่น

"มาแข่งกันหน่อยมั้ย คุณคิโชวอิน" ที่ซุ้มปาบอล เอ็นโจหยิบลูกเทนนิสขึ้นมาโยนเล่นแล้วยักคิ้วให้

อ้าว ท้าทายกันเหรอคะ ฉันนี่ได้ที่หนึ่งแข่งปาบอลนะ ตอนที่ห้องนายแข่งกับฉันก็แพ้หลุดรุ่ยเลยไม่ใช่เหรอ

"ถ้าอย่างนั้นก็รบกวนออมมือให้ด้วยนะคะ" ฉันฝากตุ๊กตาแกะไว้กับคนเฝ้าซุ้มปาบอลเหมือนกับเอ็นโจ ค้อมหัวให้แล้วถลกแขนเสื้อขึ้น หยิบลูกเทนนิสขึ้นมาบ้าง พอได้สัญญาณก็เริ่มขว้างบอลออกไป

คนเริ่มมามุงดูเราสองคนแข่งปาบอล ส่งเสียงฮือฮารอบทิศทาง แต่ฉันไม่ได้สนใจ ขว้างบอลไปเรื่อยๆเก็บเอาคะแนนให้ได้มากที่สุด อะฮุฮุฮุ เป็นไงล่าเอ็นโจ คะแนนฉันสูงขนาดนี้เลยนะ จะสู้ได้เหรอ

การแข่งจบลงเมื่อฉันกับเอ็นโจปาบอลลูกสุดท้ายออกไป เหล่ารุ่นน้องพากันไปนับคะแนนอย่างละเอียด ฉันหอบหายใจหน่อยๆที่ได้ออกแรง รอฟังผลคะแนนอย่างใจจดใจจ่อ

คะแนนออกมาที่ 353 : 350 ฉันเป็นฝ่ายชนะล่ะค้าาาา ถึงจะแค่สามคะแนน แต่ชนะก็คือชนะนะคะ ดีใจจนเผลอทำท่า Yes we can ออกมาเลยค่ะ

ผู้ชนะที่ดี ต้องไม่ซ้ำเติมผู้แพ้ ฉันก็เลยหันไปยิ้มให้เอ็นโจประมาณว่าเห็นฝีมือฉันรึยังล่ะ ว้ายยยย จะคิดว่าฉันเยาะเย้ยอยู่รึเปล่าคะ โอ๊ะ โฮะโฮะโฮะ ผู้ชนะนี่วางตัวลำบากจังเลยนะคะ

599 Nameless Fanboi Posted ID:2xHLNjsLs

"คุณคิโชวอินนี่เก่งจริงๆ" เอ็นโจเอ่ยชมฉัน แต่ไหงฉันไม่เห็นจะดีใจกับคำชมซักนิด ประชดกันอยู่รึเปล่ายะ

คนเฝ้าซุ้มปาบอลเอาของรางวัลออกมาให้ฉัน เป็นตุ๊กตากระต่ายสีขาวใส่กระโปรงฟูฟ่องสีขาว มีมงกุฎน้อยๆประดับหัว ว้าย ตัวนี้เป็นเจ้าหญิงสินะคะ และตัวสีน้ำตาลใส่ชุดเจ้าชายสีแดง ตุ๊กตาอีกแล้วเหรอคะเนี่ย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ชอบนะคะ

ฉันก้มมองตุ๊กตาแกะในมือตัวเอง แล้วก็มองตุ๊กตากระต่ายสองตัวนี้ แบ่งไปให้เอ็นโจซักตัวก็แล้วกัน ไหนๆเขาก็ให้ตุ๊กตาแกะมาแล้ว ควรรีบๆให้ไปเป็นการตอบแทนจะดีกว่า จะได้ไม่ถูกลำเลิกบุญคุณเรื่องนี้ในภายหลัง แต่ตัวไหนดีล่ะ

ฉันตัดสินใจอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็ยื่นตุ๊กตาเจ้าหญิงกระต่ายให้

"ท่านเอ็นโจคะ ของตอบแทนสำหรับตุ๊กตาแกะค่ะ"

เอ็นโจทำหน้าตะลึงไปเหมือนคาดไม่ถึง ดูจะตกใจเอามากๆ ท่าทางแบบนั้นมันอะไรกันยะ เดี๋ยวปั๊ดไม่ให้ซะนี่

"ให้จริงๆเหรอ" เอ็นโจถาม พอฉันพยักหน้าก็ยิ้มออกมา ตาส่องประกายระยิบระยับ "ขอบคุณนะ คุณคิโชวอิน"

"ไม่เป็นไรค่า" จะได้ไม่ติดค้างกันเรื่องตุ๊กตาแกะยังไงล่ะค้า แถมผู้ชายตัวโตๆต้องมาถือตุ๊กตาที่ดูผู้ญิ้ง ผู้หญิงแบบนี้ มันก็เป็นภาพที่ดูตลกมากเลยไม่ใช่รึไงคะ อุฮุฮุฮุฮุ นี่ล่ะค่ะ การเอาคืนจากตอนทาโกะยากิ

อย่างไรก็ตาม เอ็นโจไม่ได้ดูขัดเขินอะไรเลยที่ต้องถือตุ๊กตาหวานแหววขนาดนี้ ทำเอารู้สึกเซ็งไปนิดหน่อยที่การกลั่นแกล้งไม่เป็นผล ฉันประเมินความหน้าไม่อายของหมอนี่ต่ำไปสินะคะ

สต๊าฟฟ์หญิงของห้องนี้เห็นว่าฉันกับเอ็นโจถือของกันเยอะเกินไปก็เลยไปหาถุงมาให้ใส่ตุ๊กตาพวกนี้ แหม่ ใจดีกันจังเลยค่ะ ฉันกับเอ็นโจกล่าวขอบคุณกับเธอคนนั้นแล้วไปเล่นที่ซุ้มอื่นกันต่อ

ฉันแวะเข้าห้องนั้นห้องนี้ ดูการแสดงบ้าง หรือทานอาหารบ้าง ก็มีห้องเรียนที่จัดเป็นบ้านผีสิงคล้ายๆกับห้องของยูกิโนะคุงอยู่เหมือนกัน เอ็นโจพยักเพยิดไปทางนั้นเป็นเชิงถามว่าจะเข้าไปมั้ย จะบ้าเหรอคะ แค่บ้านผีสิงห้องยูกิโนะคุงก็จะแย่อยู่แล้วนะ อยากเข้าก็เข้าไปเองคนเดียวสิคะ

"ไปดูอย่างอื่นดีกว่านะคะ" ฉันดึงแขนเสื้อเอ็นโจให้ห่างออกมาจากบ้านผีสิง ไม่ได้มีเป้าหมายอะไรเป็นพิเศษ แต่เห็นห้องหนึ่งที่ว่างๆ มีเด็กผู้หญิงสามคนในชุดคลุมสีน้ำตาลเข้มเหมือนลัทธิอะไรซักอย่างมายืนสั่นกระดิ่งแจกใบปลิวเรียกลูกค้าอยู่หน้าห้อง พอสบตากัน เด็กผู้หญิงหนึ่งในสามคนนั้นก็เดินตรงมาหาฉัน

"ดูดวงมั้ยคะ หมอดูแม่นๆนะคะ" น้ำเสียงเธอช่างเนิบเนือยเหมือนถูกบังคับให้มาทำหน้าที่นี้ยังไงยังงั้นล่ะ "ตอนนี้คิวกำลังว่างเลยนะคะ ไม่ลองใช้บริการดูหน่อย"

ฉันก้มลงอ่านใบปลิวที่เขาแจกให้ ดูดวงเรื่องการงาน การเงิน ความรัก ครั้งละ 500 เยน ที่จริงฉันก็ไม่ได้ชอบเรื่องดูดวงหรือทำนายทายทักอะไรนักหรอก แม้จะเสี่ยงเซียมซีตอนไปวัดทุกครั้งก็เถอะ แต่เอ็นโจทำหน้าแปลกๆ ผู้ชายนี่ไม่ได้เชื่อถืออะไรกับเรื่องนี้สินะ

แกล้งซะเลยดีกว่า

"ท่านเอ็นโจคะ เข้าไปดูดวงกันเถอะ"

"หืม คุณคิโชวอินชอบเรื่องพวกนี้ด้วยเหรอ"

"ผู้หญิงก็ชอบเรื่องพวกนี้กันทั้งนั้นไม่ใช่เหรอคะ" ฉันตอบหน้าตาย "ดูไว้หน่อยก็ไม่เสียหลายนี่คะ เผื่อพรุ่งนี้ท่านเอ็นโจเกิดโชคร้าย อาจจะมีวิธีแก้ไขก็ได้"

"นั่นสินะ" เอ็นโจมองฉันด้วยสายตายิ้มๆ "คุณคิโชวอินเป็นห่วงผมเหรอ"

"อย่ามัวเสียเวลาเลยค่ะ เข้าไปกันเถอะ" ฉันขี้เกียจฟังเลยลากเอ็นโจเข้าไปข้างในทันที

ในห้องค่อนข้างมืด มีแค่เทียนไขให้ความสว่างบางจุด และประดับประดาด้วยผ้าสีม่วงเข้มให้ความรู้สึกลึกลับ ดูท่าเอ็นโจจะเป็นลูกค้าผู้ชายรายแรกของห้องนี้ เพราะฉันเห็นกลุ่มเด็กผู้หญิงอยู่ข้างในกันให้เต็มไปหมด พอเราสองคนเข้ามาเลยเป็นจุดเด่นมาก ไม่สิ เอ็นโจต่างหากที่เด่นมาก

โอ๊ะ โฮะโฮะโฮะ ให้เขามองนิดๆหน่อยๆไม่สึกหรอหรอกนะจ๊ะ

"อา ลูกค้าอีกรายสินะคะ" คนที่ท่าทางจะเป็นหมอดูนั่งใส่เสื้อคลุมสีน้ำตาล มีฮู้ดคลุมใบหน้าเพื่อความลึกลับ อุ๊ยตาย นี่ฉันหลงเข้ามาในลัทธิประหลาดๆรึเปล่าคะ "เชิญนั่งเลยค่ะ ทำตัวตามสบาย ผ่อนคลาย เปิดใจรับคำพยากรณ์"

เอ่อ ไม่ต้องเล่นใหญ่ขนาดนั้นก็ได้ค่ะ

"สนใจแบบไหนคะ ดูไพ่ ลายมือ หรือลูกแก้ว"

"ดูไพ่ก็ได้ค่ะ" หมอดูพยักหน้าให้ฉัน เริ่มลงมือสับไพ่อย่างชำนาญ ฉันถูกบอกให้ตั้งสมาธิใช้มือซ้ายเลือกหยิบไพ่มาสิบใบ ฉันก็เลือกส่งๆไปให้อย่างนั้นล่ะ แต่ก็ตื่นเต้นอยู่บ้างนะคะ

600 Nameless Fanboi Posted ID:2xHLNjsLs

ไพ่ที่เปิดออกมา ส่วนใหญ่เป็นไปในทางที่ดีทั้งนั้นเลยล่ะค่ะ "การงานราบรื่นไร้อุปสรรค การเงินดีเยี่ยมอยู่ในขั้นเศรษฐี ส่วนตำแหน่งนี้บอกสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น เอ......."

คุณหมอดูนิ่งไปครู่หนึ่งจนฉันสงสัย แล้วเธอก็พูดต่อ "จะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับเรื่องนั้นด้วยนะคะ"

"ยังไงเหรอคะ"

"คือว่า ไพ่ใบนี้น่ะบอกถึงการเลี้ยงเฉลิมฉลองในงานมงคลอย่างงานแต่งงาน จะมีเรื่องน่ายินดีเกิดขึ้น หรืออีกนัย คุณอาจได้พบความรักที่สุขสมหวัง" หมอดูเปิดไพ่ใบถัดๆไป "โอ๊ะ อิทธิพลจากคนรอบข้างก็ให้การสนับสนุนด้วยสิ โชคดีมากเลยนะคะเนี่ย"

สรุปแล้ว ดวงชะตาของฉันในช่วงนี้อยู่ในขั้นโชคดีสินะ ฮุๆๆๆ มีความสุขจังเลยค่ะ

"ท่านเอ็นโจก็ดูด้วยสิคะ ไหนๆก็เข้ามาแล้วทั้งที" เอ็นโจเลยต้องจับไพ่อย่างเสียมิได้

คำทำนายของเอ็นโจดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยค่ะ

"ไพ่ The Chariot เป็นพื้นฐานเจ้าชะตา จะมีปัญหาต่างๆเข้ามา ต้องใช้ความพยายามในการต่อสู้แย่งชิงอย่างมาก"

หรือ

" สถานการณ์ทั่วไปในช่วงนี้ The seven of wands ความสำเร็จที่จะเกิดค่อนข้างจะยากลำบาก ต้องใช้ความอดทนอย่างมากในการผ่านอุปสรรคไป"

และ

"แนวทางแก้ไขปัญหา The high priestess ต้องรอจังหวะและเวลาที่เหมาะสม ค่อยๆเป็นค่อยๆไปไม่ต้องรีบร้อน"

มีแต่ปัญหาและอุปสรรคทั้งนั้นเลยนี่คะ น่าสงสารจัง จะแบ่งดวงของฉันไปให้เอามั้ยคะ แต่ไม่รู้จะแบ่งยังไงนี่สิ โอ๊ะ โฮะโฮะโฮะ

แต่ใบสุดท้ายที่เป็นบทสรุป เอ็นโจก็ได้ไพ่ดีๆที่สุขสมหวังนี่คะ แปลว่าปัญหาทุกอย่างจะคลี่คลายไปในทางที่ดีใช่มั้ย

ฉันยืนกรานว่าจะจ่ายเงินค่าดูดวงให้เอ็นโจด้วย เพราะฉันเป็นคนลากเขาเข้ามาก็สมควรรับผิดชอบค่าใช้จ่าย ตอนเดินออกจากร้านก็เห็นเอ็นโจทำหน้ามุ่ยนิดหน่อยเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่ ฉันเลยพามาทานน้ำแข็งไสให้ใจเย็นขึ้น

"ท่านเอ็นโจคะ" ฉันสะกิดเบาๆ ยื่นน้ำแข็งไสจากร้านที่นั่งรอด้วยกัน "ไม่ต้องไปคิดมากหรอกนะคะ เรื่องพวกนี้เชื่อไม่ค่อยได้ ฟังสนุกๆผ่านหูเป็นพอ"

"ขอบคุณนะ คุณคิโชวอิน" เอ็นโจรับน้ำแข็งไสมา "คุณคิโชวอินก็ได้แต่ไพ่ดีๆทั้งนั้นเลยนี่นา ยินดีด้วยนะ"

"แหม ก็ไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ" ฉันตักน้ำแข็งไสเข้าปาก อืม อร่อยจังเลย รู้แบบนี้สั่งถ้วยใหญ่ดีกว่า "แต่ท่านเอ็นโจก็ได้คำทำนายว่าจะแก้ปัญหาได้สำเร็จนี่คะ ไม่รู้ว่าปัญหาอะไร แต่ขอเอาใจช่วยก็แล้วกันค่ะ"

"แต่ถ้าได้คุณคิโชวอินช่วยแก้ปัญหานั้นด้วย รับรองว่าต้องสำเร็จแน่นอนครับ" เอ็นโจหัวเราะ "ตอนเรียนคุณคิโชวอินก็ช่วยเหลือผมเยอะแยะ ไม่น่าจะยากเกินความสามารถของคุณนะ"

"ฉันไม่มีความสามารถขนาดนั้นหรอกค่ะ ที่ผ่านมาก็แทบไม่ได้ทำอะไรเลยด้วย " อย่าเอาฉันเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับปัญหาของนายจะได้รึเปล่ายะ ฉันไม่อยากผมหงอกเหมือนตอนนั้นหรอกนะ

เอ็นโจหัวเราะเบาๆอย่างเป็นปริศนา

เราเดินดูของกันต่ออีกหน่อย เห็นอะไรน่าสนใจก็เข้าไปดู เอ็นโจไปสอยรางวัลเป็นตุ๊กตาหมีตัวเล็กๆขนาดเท่าฝ่ามือจากซุ้มโยนห่วงมาได้เต็มถุงกระดาษใบใหญ่ แต่ยกให้ฉันหมดเลย เอ๊ะ จะดีเหรอคะ เอาไปแจกแฟนคลับนายจะดีกว่าน่า วันนี้ฉันได้ตุ๊กตามาเยอะเกินไปแล้วล่ะมั้ง

"ต้องขอบคุณท่านเอ็นโจวันนี้มากนะคะ ที่กรุณาเป็นเพื่อนเดินเที่ยวชมงาน" เดินมาถึงทางที่จะนำไปสู่ลานจอดรถ ฉันก็โค้งหัวขอบคุณ ตุ๊กตาก็ร่วงผลอยออกจากปากถุงกระดาษเกลื่อนกลาดเต็มพื้น อ๋า ฉันนี่ซุ่มซ่ามจริงๆ

เอ็นโจช่วยก้มลงเก็บตุ๊กตาใส่ถุงด้วย ฉันกวาดตามองไปรอบๆเพื่อดูว่าไม่มีตัวไหนตกหล่นก็เงยหน้าขึ้น จะพูดขอบคุณที่ช่วยเก็บของ

รู้สึกถึงความนุ่มตรงริมฝีปาก หน้าของเอ็นโจอยู่ใกล้ฉันมากจนแทบจะนับขนตาได้ อีกฝ่ายก็ดูชะงักไปเหมือนกัน

"เอ่อ ขอโทษนะ คุณคิโชวอิน" เอ็นโจถอยหลังออกไปนิดหน่อยแล้วลุกขึ้นยืน

"เอ่อ ไม่เป็นไรค่ะ" ฉันกระพริบตาปริบๆ งุนงงจับต้นชนปลายไม่ถูก

เกิดเดดแอร์ชั่วขณะระหว่างเราทั้งคู่ พอฉันลุกขึ้นยืนก็ถอยออกไปอีกหลายก้าว เอ็นโจเองก็ด้วยเช่นกัน

"เอ่อ งั้น...ขอลาตรงนี้เลยนะคะ"

เอ็นโจพยักหน้า เราสองคนต่างหมุนตัวกลับหลังหันเดินไปคนละทางแบบไม่เหลียวหลังไปมอง

ฉันเดินต่อเพียงลำพัง เผลอเอานิ้วไปแตะที่ริมฝีปาก เมื่อตระหนักถึงความจริงที่เพิ่งเกิดขึ้น เหตุการณ์เพียงไม่กี่วินาที แต่กลับรู้สึกนานเหมือนเวลาหยุดนิ่ง เหมือนเลือดทั้งหมดของร่างกายจะไหลขึ้นมาอยู่บนใบหน้า

อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

นั่นมันจูบไม่ใช่เหรอค้าาาาาาาาาาาาาาา

------------------
หมดละ ใครจะต่อก็ตามสบาย อุฮิ

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.