เพื่อความสำนึกผิดที่กูเผลอปลุกเลือดวายในตัวพวกมึงบางคน จึงขอส่งบ้องตะลุยอวกาศฟิคกาวนี้เป็นการไถ่โทษ (เป็นฟิคสั้นโพดๆนะ)
อ่านแล้วกลับมาสู่นอร์มอลเถอะนะพวกมึง แต่งผิดพลาดประการใดขออภัย เพราะกูง่วงมากแถมใช้ความกาวสนองส่วนตัวไปอีก
สาเหตุที่อยากแต่งฟิคกาวตอนนี้ก็เพราะอยากดึงพวกมึงกลับสู่นอร์มอลและกูแค่อยากเห็นเอ็นโจเขินหน้าแดงเท่านั้นแหละ กร๊ากกกก
กูยังอินกับหิ่งห้อยไม่หายด้วย มันก๊าวใจจจ ถ้าคาแร็คเตอร์อะไรผิดกับที่พวกมึงมโนกูซอรี่ด้วยนะ แอ้ๆ
********************************************************
คิโชวอิน เรย์กะ ฉายาจักรพรรดินีแห่งซุยรัน ด้วยทรงผมหยิกดัดลอนคล้ายราชินีโรโคโค่รวมถึงกิริยามารยาทที่บ่งบอกถึงความเป็นคุณหนูขนานแท้ แถมมีลูกสมุนนักเรียนหญิงอันจงรักภักดีล้อมหน้าล้อมหลังตามเป็นขบวน ทั้งหมดทั้งมวลนี้ยิ่งทำให้ฉายาดูขลังมากขึ้นไปอีก
ด้วยเหตุนี้เมื่อเธอเดินไปไหน ไม่ว่าใครเห็นเป็นต้องหลีกให้ด้วยความเกรงกลัว แต่นั่นคงต้องยกเว้นผมคนนึง
สำหรับผมแล้ว ไม่ว่าจะทรงผมลอนๆนั่นก็ดี ใบหน้าที่บางครั้งดูเอ๋อๆนั่นก็ดี ท่าทางตลกๆที่เธอชอบเผลอทำก็ดี ตอนที่ทำตัวคุณหนูสูงส่งหรือกระต่ายจอมเอ๋อนั่นก็ยิ่งดี ในความรู้สึกผมแล้วนี่มัน.....
..น่ารักสุดๆไปเลยไม่ใช่หรอ
ยิ่งตอนที่เธอเห็นผมกับมาซายะ คนอื่นอาจดูไม่ออกแต่มีหรือผมจะไม่รู้ ใบหน้าที่ในสายตาผมมองว่าน่ารักนั่นมักจะเบิกตากว้างนิดๆอย่างตระหนก ก่อนจะสะบัดหันหนีแล้วรีบหาข้ออ้างปลีกตัวออกไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้เหล่าเพื่อนผู้หญิงที่เหลือกรี๊ดกร๊าดหันมาล้อมกักพวกผมแทน
เหมือนสัตว์ตัวเล็กๆเลยนะคุณคิโชวอิน ไอ้นิสัยชอบหนีนี่เหมือนเหยื่อเลยรู้มั้ย กลัวอะไรอยู่งั้นเหรอ?
“ยัยนั่นหนีอีกแล้วเรอะ” มาซายะพูดขึ้นมาหลังจากที่พวกเราฝ่าวงล้อมมออกมาได้แล้ว ใบหน้าดูหงุดหงิดเล็กๆ หรือว่า...
“หนีแล้วชอบทิ้งปัญหาไว้ให้ทุกที ถ้าเจอฉันไม่เอาไว้แน่” ว่าแล้วเชียวว่าต้องไม่พ้นเรื่องพวกนี้ แต่อีกฝ่ายเป็นผู้หญิงนะ แถมยังมีหน้าเรียกผู้หญิงว่าปัญหาอีก นายเป็นคนอยากมาทางนี้เองไม่ใช่หรือไง อย่าเอาอารมณ์ไปลงที่คุณคิโชวอินสิ
ผมยิ้มๆไม่ตอบ พวกเราเดินตีคู่กันไป คาบุรากิที่ใบหน้ายังไม่หายหงุดหงิดก็เริ่มบทสนทนาขึ้นมาอีกครั้ง
“จะว่าไปยัยนั่นชอบหนีตอนพวกเรามาทุกครั้งเลยนะ” โอ๋ นายพึ่งรู้ตัวงั้นเหรอ ก็เพราะว่าเธอไม่อยากอยู่ใกล้นายยังไงล่ะ ช่วยรู้ตัวสักที
ผมยังคงไม่ตอบ แต่รอยยิ้มตัวเองดูเหมือนจะยิ่งกว้างมากกว่าเดิม
“หรือว่า...” คาบุรากิที่เดินเยื้องไปข้างหน้าหยุดเดิน แล้วเอี้ยวตัวมาหาผม
“นายไปทำอะไรให้เธอเกลียดรึเปล่า ชูสุเกะ”
“....หะ”
“มาหะอะไร นี่ฉันหวังดีกับนายนะ ถึงยัยนั่นจะดูบ้าๆไปหน่อยแต่ก็ไม่ได้ทำตัวชวนปวดหัวอะไร”
“....”
“หรือถ้ายัยนั่นทำอะไรให้นายไม่พอใจก็หยวนๆให้เถอะ อีกฝ่ายเป็นผู้หญิงนะ ยอมอ่อนข้อให้ก่อนไม่เสียศักดิ์ศรีหร---”
“....”
“...”
“...ไม่พูดต่อหรอ”
ผมส่งยิ้มเจิดจ้าที่สุดไปให้ คาบุรากิเม้มปากแน่น
“เจ็บนะชูสุเกะ”
แล้วยังไงล่ะ? ผมปล่อยมือที่จิก‘เบาๆ’และใช้กำข้อแขนอีกฝ่าย‘เบาๆ’ กลับมาอยู่ที่เดิม คาบุรากิได้แต่เอามืออีกข้างลูบแขนตัวเองป้อยๆแล้วส่งสายตาถามผมอย่างไม่เข้าใจ
ตาผมหยี ริมฝีปากยังคงโค้งเป็นรอยยิ้ม รู้สึกได้ถึงออร่าบางอย่างที่เริ่มแผ่ขจายอย่างระงับไม่อยู่
“พูดมากจังนะ มา-ซา-ยะ”
พูดแค่นั้นผมก็เดินผ่านเพื่อนสนิทไป แว่วได้ยินเสียงร้องโอ๊ยตอนเดินผ่านแต่ก็ไม่ได้หันกลับไปดู
เมื่อกี้ก็แค่ไม่ระวังเผลอ ‘เหยียบ’ เท้านายไปนิดหน่อยเอง อย่าสำออยสิ มาซายะ!