Fanboi Channel

ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำชา​ยาม​บ่าย​ของโม่งซุยรัน [ซาลอนที่ 2]

Last posted

Total of 1000 posts

561 Nameless Fanboi Posted ID:Ch2o6ifrC

เพื่อความสำนึกผิดที่กูเผลอปลุกเลือดวายในตัวพวกมึงบางคน จึงขอส่งบ้องตะลุยอวกาศฟิคกาวนี้เป็นการไถ่โทษ (เป็นฟิคสั้นโพดๆนะ)
อ่านแล้วกลับมาสู่นอร์มอลเถอะนะพวกมึง แต่งผิดพลาดประการใดขออภัย เพราะกูง่วงมากแถมใช้ความกาวสนองส่วนตัวไปอีก
สาเหตุที่อยากแต่งฟิคกาวตอนนี้ก็เพราะอยากดึงพวกมึงกลับสู่นอร์มอลและกูแค่อยากเห็นเอ็นโจเขินหน้าแดงเท่านั้นแหละ กร๊ากกกก
กูยังอินกับหิ่งห้อยไม่หายด้วย มันก๊าวใจจจ ถ้าคาแร็คเตอร์อะไรผิดกับที่พวกมึงมโนกูซอรี่ด้วยนะ แอ้ๆ

********************************************************
คิโชวอิน เรย์กะ ฉายาจักรพรรดินีแห่งซุยรัน ด้วยทรงผมหยิกดัดลอนคล้ายราชินีโรโคโค่รวมถึงกิริยามารยาทที่บ่งบอกถึงความเป็นคุณหนูขนานแท้ แถมมีลูกสมุนนักเรียนหญิงอันจงรักภักดีล้อมหน้าล้อมหลังตามเป็นขบวน ทั้งหมดทั้งมวลนี้ยิ่งทำให้ฉายาดูขลังมากขึ้นไปอีก

ด้วยเหตุนี้เมื่อเธอเดินไปไหน ไม่ว่าใครเห็นเป็นต้องหลีกให้ด้วยความเกรงกลัว แต่นั่นคงต้องยกเว้นผมคนนึง

สำหรับผมแล้ว ไม่ว่าจะทรงผมลอนๆนั่นก็ดี ใบหน้าที่บางครั้งดูเอ๋อๆนั่นก็ดี ท่าทางตลกๆที่เธอชอบเผลอทำก็ดี ตอนที่ทำตัวคุณหนูสูงส่งหรือกระต่ายจอมเอ๋อนั่นก็ยิ่งดี ในความรู้สึกผมแล้วนี่มัน.....

..น่ารักสุดๆไปเลยไม่ใช่หรอ

ยิ่งตอนที่เธอเห็นผมกับมาซายะ คนอื่นอาจดูไม่ออกแต่มีหรือผมจะไม่รู้ ใบหน้าที่ในสายตาผมมองว่าน่ารักนั่นมักจะเบิกตากว้างนิดๆอย่างตระหนก ก่อนจะสะบัดหันหนีแล้วรีบหาข้ออ้างปลีกตัวออกไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้เหล่าเพื่อนผู้หญิงที่เหลือกรี๊ดกร๊าดหันมาล้อมกักพวกผมแทน

เหมือนสัตว์ตัวเล็กๆเลยนะคุณคิโชวอิน ไอ้นิสัยชอบหนีนี่เหมือนเหยื่อเลยรู้มั้ย กลัวอะไรอยู่งั้นเหรอ?

“ยัยนั่นหนีอีกแล้วเรอะ” มาซายะพูดขึ้นมาหลังจากที่พวกเราฝ่าวงล้อมมออกมาได้แล้ว ใบหน้าดูหงุดหงิดเล็กๆ หรือว่า...

“หนีแล้วชอบทิ้งปัญหาไว้ให้ทุกที ถ้าเจอฉันไม่เอาไว้แน่” ว่าแล้วเชียวว่าต้องไม่พ้นเรื่องพวกนี้ แต่อีกฝ่ายเป็นผู้หญิงนะ แถมยังมีหน้าเรียกผู้หญิงว่าปัญหาอีก นายเป็นคนอยากมาทางนี้เองไม่ใช่หรือไง อย่าเอาอารมณ์ไปลงที่คุณคิโชวอินสิ

ผมยิ้มๆไม่ตอบ พวกเราเดินตีคู่กันไป คาบุรากิที่ใบหน้ายังไม่หายหงุดหงิดก็เริ่มบทสนทนาขึ้นมาอีกครั้ง

“จะว่าไปยัยนั่นชอบหนีตอนพวกเรามาทุกครั้งเลยนะ” โอ๋ นายพึ่งรู้ตัวงั้นเหรอ ก็เพราะว่าเธอไม่อยากอยู่ใกล้นายยังไงล่ะ ช่วยรู้ตัวสักที
ผมยังคงไม่ตอบ แต่รอยยิ้มตัวเองดูเหมือนจะยิ่งกว้างมากกว่าเดิม

“หรือว่า...” คาบุรากิที่เดินเยื้องไปข้างหน้าหยุดเดิน แล้วเอี้ยวตัวมาหาผม

“นายไปทำอะไรให้เธอเกลียดรึเปล่า ชูสุเกะ”

“....หะ”

“มาหะอะไร นี่ฉันหวังดีกับนายนะ ถึงยัยนั่นจะดูบ้าๆไปหน่อยแต่ก็ไม่ได้ทำตัวชวนปวดหัวอะไร”

“....”

“หรือถ้ายัยนั่นทำอะไรให้นายไม่พอใจก็หยวนๆให้เถอะ อีกฝ่ายเป็นผู้หญิงนะ ยอมอ่อนข้อให้ก่อนไม่เสียศักดิ์ศรีหร---”

“....”

“...”

“...ไม่พูดต่อหรอ”

ผมส่งยิ้มเจิดจ้าที่สุดไปให้ คาบุรากิเม้มปากแน่น

“เจ็บนะชูสุเกะ”
แล้วยังไงล่ะ? ผมปล่อยมือที่จิก‘เบาๆ’และใช้กำข้อแขนอีกฝ่าย‘เบาๆ’ กลับมาอยู่ที่เดิม คาบุรากิได้แต่เอามืออีกข้างลูบแขนตัวเองป้อยๆแล้วส่งสายตาถามผมอย่างไม่เข้าใจ

ตาผมหยี ริมฝีปากยังคงโค้งเป็นรอยยิ้ม รู้สึกได้ถึงออร่าบางอย่างที่เริ่มแผ่ขจายอย่างระงับไม่อยู่

“พูดมากจังนะ มา-ซา-ยะ”
พูดแค่นั้นผมก็เดินผ่านเพื่อนสนิทไป แว่วได้ยินเสียงร้องโอ๊ยตอนเดินผ่านแต่ก็ไม่ได้หันกลับไปดู

เมื่อกี้ก็แค่ไม่ระวังเผลอ ‘เหยียบ’ เท้านายไปนิดหน่อยเอง อย่าสำออยสิ มาซายะ!

562 Nameless Fanboi Posted ID:Ch2o6ifrC

(ต่อ)

วันนี้เป็นวันที่จัดงานชมหิ่งห้อยที่บ้านคาบุรากิเป็นเจ้าภาพ ผมอดตกใจกับตัวเองไม่ได้ที่ดูเหมือนว่าจะให้ความสำคัญกับงานนี้เกินไปหรือเปล่า เป็นเพราะช่วงนี้ผมไม่ค่อยได้เจอกับคุณคิโชวอินบ่อยนัก ด้วยอะไรหลายๆอย่างที่มีอยู่ทำให้ผมพยายามระงับตัวเองไม่ให้หมกมุ่นแต่กับเรื่องคุณคิโชว
อินมากเกินไป ดังนั้นพอได้ข่าวจากมาซายะว่าคุณคิโชวอินจะมางานนี้ผมก็เลยอดสนใจไม่ได้

ตอนแรกก็กะจะมาเจอคาบุรากิเฉยๆแล้วส่องอยู่วงนอก เพราะอุตส่าห์ตั้งใจไว้แล้วว่าจะพยายามไม่สนใจเธอ แต่พอคุณคิโชวอินปรากฏตัวขึ้นมาทุกอย่างที่คิดสาระตะไว้ก็เหมือนจะพังทลาย

คุณคิโชวอินในชุดกิโมโนฤดูร้อนสีฟ้าอ่อนและทรงผมที่เกล้าเป็นมวยเอาไว้ดูแปลกตาไปจากทุกทีแต่กลับให้ความรู้สึกน่าเอ็นดูถนุถนอมมากขึ้น เธอและครอบครัวพากันไปแสดงความเคารพต่อเจ้าภาพและทักทายกับผู้คนในงานทั่วไป ผมที่ยืนอยู่ห่างๆได้แต่ใช้สายตาจับจ้องการกระทำทุกอย่างดั่งต้องมนต์

“น่ารักจริงๆน้า..” เผลอพูดออกไปจนได้ โชคดีมาซายะที่อยู่ข้างๆดูท่าจะไม่ได้ยิน ผมเลยฉวยโอกาสตอนที่อีกฝ่ายกำลังทักทายแขกเหรื่อปลีกตัวเดินอ้อมไปหา

“เชิญครับ” ผมยื่นแก้วเครื่องดื่มที่ถือติดมือมาด้วยให้ คุณคิโชวอินแสดงสีหน้าประหลาดใจและดูระแวดระวังมากกว่าเดิม

ทำไมต้องทำตัวเหมือนเม่นพองขนด้วยเนี่ย จะน่ารักเกินไปแล้วนะคุณคิโชวอิน!

ถ้าผมไม่ระบายออกมาต้องอัดอั้นจนตายแน่ๆ ก็เลยชมเรื่องชุดกิโมโนอย่างจริงใจ แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะคิดว่าชมตามมารยาทซะงั้น พอเห็นสายตาสอดส่องเหมือนระวังภัยทุกย่างก้าวแบบนั้นก็อดจะหยอกไม่ได้ คุณคิโชวอินตอนต่อปากต่อคำด้วยใบหน้าบึ้งบอนเนี่ยเหมือนเม่นกำลังพองขนขู่เลยนะ กลั้นยิ้มไม่อยู่จนอยากหัวเราะเลยล่ะ

แล้วในที่สุดผมก็ได้หัวเราะออกมาจริงๆ เมื่อคุณคิโชวอินแสดงสีหน้าขัดเคืองออกมาเพราะฝูงหิ่งห้อยบินหนี แถมยังมองไปทางคุณไมฮามะอย่างริษยา

ไม่เห็นต้องเจ็บใจขนาดนั้นเลย สำหรับผมแล้วในงานนี้คนที่งดงามที่สุดก็คือคุณที่อยู่ตรงหน้าผม ไม่ใช่หิ่งห้อยหรือใครทั้งนั้น เข้าใจหรือเปล่า

คุณคิโชวอินที่กำลังขัดอกขัดใจ พอเห็นประธานเดินมาก็อดพูดประชดใส่ตัวเองไม่ได้ ทำเอาผมหลุดขำเป็นครั้งที่สอง

เป็นคนตลกจริงๆด้วย แต่ใบหน้าที่มองเหมือนผมเป็นคนผิดนั่นมันอะไรกัน นี่หงุดหงิดถึงขนาดไหนกันเนี่ย

“คุณคิโชวอิน ถ้าอยากดูหิ่งห้อยใกล้ๆขนาดนั้น ผมไปจับมาให้สักตัวไหม”
ผมเอียงคอถามยิ้มๆ

“....แค่ความรู้สึกก็พอแล้วค่ะท่านเอ็นโจ”
ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่สายตาก็ยังจับจ้องแต่หิ่งห้อย ปากไม่ตรงกับใจเลยนะคุณคิโชวอิน

จากนั้นไม่นานฝูงหิ่งห้อยพร้อมกับมาซายะและคุณไมฮามะก็เคลื่อนเข้ามาใกล้ทำให้ผมหมดโอกาสที่จะได้คุยกับคุณคิโชวอินสองต่อสองอีก แม้ใบหน้าผมที่แสดงออกไปจะปกติธรรมดาทว่าในใจกลับสาปแช่งคาบุรากิและคุณไมฮามะอย่างโหดเหี้ยมไม่หยุด

นายจะมาตามหาฉันทำไมหรอมาซายะ? แค่คุณไมฮามะกับหิ่งห้อยฝูงนึงนายก็ยังหาทางออกไม่ได้งั้นเหรอ? แต่ถึงจะคิดอย่างนั้นผมก็ไม่สามารถทิ้งให้เพื่อนสนิทตกระกำลำบากได้ สุดท้ายก็ต้องจากคุณคิโชวอินไปทั้งอย่างนั้น

หลังจากนั้นตลอดงาน ผมก็ไม่ได้ไปหาคุณคิโชวอินอีกแต่กลับวุ่นอยู่กับบางสิ่งแทน จวบจนงานเลิกผมจึงบอกลาคาบุรากิพร้อมครอบครัวแล้วขึ้นรถกลับบ้าน มือสองข้างยกกรงไม้สานที่ภายในมีหิ่งห้อยตัวหนึ่งบินวนอยู่ขึ้นมาดูก่อนวางไว้บนตักอย่างถนุถนอม

สายตายังคงไม่ละไปจากกรง ผมกำลังสับสน งงงวย และมึนงงกับสิ่งทั้งหมดที่ทำลงไป ทำไมผมถึงต้องทุ่มเททุกอย่างขนาดนี้ ทำไมถึงต้องเอาใจใส่และคอยสอดส่องอยู่เสมอ พยายามหลีกหนีแค่ไหนแต่สุดท้ายก็ไม่ได้เลย..ละสายตาจากไปไม่ได้เลย

แย่แล้วสิ
“แย่แล้วสิ” ผมพึมพำออกมาตามใจนึกเมื่อตระหนักบางสิ่งขึ้นมาได้ มันเป็นคำตอบที่ผมรู้อยู่แล้วแค่ไม่ยอมรับความจริงเท่านั้น

ผมเอนกายพิงเบาะรถ แขนก่ายหน้าผากชั่วครู่ก่อนเลื่อนลงมาปิดตา รู้สึกใบหน้าร้อนซู่ สีแดงลามไปทั้งหน้าถึงใบหู

หนีไม่พ้นแล้ว ตะเกียกตะกายขึ้นมาไม่ได้อีกแล้ว

หลุมนี้มันลึกเกินไป เอ็นโจ ชูสุเกะ คนนี้ถอนตัวไม่ขึ้นแล้วล่ะ

*****จบ******

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.