ต่อจาก >>590-593
-----------
ตอนที่คุณเลขาของท่านพี่มาพูดคุย ก็เป็นหนึ่งวันหลังจากที่เอ็นโจนัดหมายทานอาหารที่ภัตตาคารอาหารญี่ปุ่นเก่าแก่ชื่อดังแห่งหนึ่งแล้ว
"พักนี้ท่านทาคาเทรุทำงานหนักมากจนแทบไม่ยอมพักเลยล่ะครับ ช่วงกลางวันก็ทานอาหารเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น บางทีมัวแต่ยุ่งกับงานเอกสารเสียจนไม่ยอมแตะอาหารเลยก็มี"
จะว่าไปพักนี้ช่วงเช้าตอนที่นั่งรถไปทำงานด้วยกัน ท่านพี่ก็มักจะงีบหลับบ่อยๆ เลยไม่ค่อยได้พูดคุยกันนัก ส่วนช่วงเวลาอื่นนอกเหนือจากนั้นก็แทบจะไม่ได้พบกันเลย คงจะงานยุ่งมากจริงๆ นั่นมันไม่ดีต่อสุขภาพเลยนะคะ
"ผมคิดว่าถ้าคุณหนูเรย์กะช่วยพูดหรือพาท่านทาคาเทรุไปพักผ่อนหรือทานอาหารข้างนอกได้บ้างก็น่าจะดีนะครับ"
นั่นซิคะ ท่านพี่น่ะเป็นคนประเภทมีความตั้งใจสูงมาก ใครจะมาพูดอะไรก็คงจะไม่ยอมง่ายๆนักหรอกค่ะ แต่สำหรับฉันเป็นข้อยกเว้นล่ะนะ~
ว่าแล้วก็นึกถึงเรื่องที่จะต้องไปทานอาหารกับเอ็นโจในวันอาทิตย์นี้ นับว่าเป็นช่วงเหมาะเจาะพอดีล่ะนะ ชวนท่านพี่ไปด้วยน่าจะดี
ถึงแม้ว่าการที่เอ็นโจเป็นฝ่ายเลี้ยงอาหาร แล้วฉันพาคนอื่นไปให้ช่วยเลี้ยงนี่จะดูเสียมารยาทไปสักหน่อย แต่ว่าสำหรับฉันน่ะ ท่านพี่เป็นที่หนึ่งอยู่แล้วล่ะค่ะ ให้ท่านพี่ได้ทานอาหารเยอะๆเพื่อสุขภาพที่ดี แถมยังเป็นยันต์คุ้มกันปิศาจให้ฉันได้อีกด้วย ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ยอดเยี่ยมไปเลย
หลังจากจัดการติดต่อชวนท่านพี่ก็ประสบความสำเร็จงดงามเกินคาด ท่านพี่ยอมตกลงแทบจะทันที แหม ก็ฉันเป็นคนชวนซะอย่างนี่คะ~
วันถัดมา ก็มีเมลล์แปลกๆของเซริกะจัง คิคุโนะจัง และเพื่อนๆซุยรันอีกหลายคนส่งมา ข้อความประมาณว่า 'ฉันอยู่ข้างท่านเรย์กะนะคะ จะไม่ยอมให้ใครขัดขวางรังแกท่านเรย์กะหรอกค่ะ!'
ขอบคุณนะคะทุกคนที่เป็นเพื่อนที่ดีของฉันมาตลอดเลย
ว่าแต่ มีเรื่องอะไรกันงั้นเหรอคะ?
พอถามกลับไป ก็ได้รับคำตอบเพียงแค่ว่า 'ให้พวกฉันเป็นคนจัดการเองเถอะค่ะ!' แล้วทุกคนก็เงียบหายไปทั้งหมด
เอ~ สรุปแล้วมันเรื่องอะไรกันอะคะ รู้สึกเหมือนถูกกีดกันออกมาจากวงเพื่อนฝูงเลยล่ะค่ะ แง้
วันอื่นๆที่เหลือ ฉันก็ยังคงตั้งใจในการทำงานเป็นอย่างดีตามปกติ คอยเช็คเอกสารต่างๆจำนวนมากในแต่ละวันอย่างรอบคอบ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่ได้มีการทุจริตอะไรในบริษัท ถ้ามีรางวัลพนักงานดีเด่นล่ะก็ ฉันคิดว่าก็น่าจะได้มันเป็นคนแรกแล้วล่ะน้า
วันอาทิตย์มาถึงเร็วเกินความคาดหมาย ฉันนัดแนะกับยูกิโนะคุงที่ร้านกาแฟเล็กๆแห่งหนึ่งช่วงห้าโมงเย็น ก่อนที่พวกเราจะได้นั่งรถไปที่ภัตตาคารพร้อมๆกัน ดูเหมือนว่าเอ็นโจจะไม่รู้แฮะว่ายูกิโนะคุงจะไปด้วย
"คุณพี่เรย์กะ ไม่ได้พบกันตั้งนานเลยนะครับ"
ยูกิโนะคุงยิ้มกว้างแผ่รัศมีความสดใสออกมา ว้ายยย จากเทวดาตัวน้อยๆ ตอนนี้เป็นหนุ่มน้อยวัยมัธยมต้นแสนสดใส ส่วนสูงนั้นแทบจะสูงกว่าฉันซะแล้ว หน้าตาอ่อนโยนบวกกับสีผมสีอำพันนั้น ราวกับเอ็นโจในการ์ตูน Kimi Dolce ไม่มีผิดเลยล่ะค่ะ
ปล่อยให้ท่านพี่กับยูกิโนะคุงแนะนำตัวกันสักพัก แล้วเราก็ขึ้นรถบ้านคิโชวอิน ฉันกับยูกิโนะคุงพูดคุยสัพเพเหระเพราะไม่ได้เจอกันมานาน มีบ้างที่ท่านพี่เข้ามาแทรกพูดคุยด้วย ยิ่งคุยก็ยิ่งรู้สึกดีเหลือเกินที่ยูกิโนะคุงไม่ได้กลายเป็นจอมมารตามพี่ชายไป ยังคงเป็นเทวดาตัวน้อยๆที่น่ารักเสมอ อา เยียวยาหัวใจดีจังเลยค่า