ต่อ
.
.
.
"สวัสดีค่ะ ท่านเอ็นโจ" ฉันทักกลับตามมารยาท เอ็นโจยิ้มนิดๆแล้วเอียงคอพูด หืม เบาๆ ก่อนมองไปยังท่านพี่แล้วทักทายด้วย ท่านพี่ก็รับคำทักทายก่อนจะบอกว่ามีธุระแล้วลากฉันไปทันที
"นี่มันฉากบุกของเจ้าชาย!"
"รักย่อมมีอุปสรรค!"
ฉันได้ยินเสียงคนพูดราวๆนี้จากอีกด้าน เอ นั่นศิษย์เก่าซุยรันนี่นา รุ่นเดียวกับฉันด้วย ถึงไม่ได้สนิทกัน แต่ฉันจำได้นะ ไปกับกลุ่มอะไรตรงนั้นน่ะ แล้วพูดถึงเจ้าชายกับความรัก? คุยเรื่องนิยายรักแฟนตาซีอยู่เหรอ อยากร่วงวงบ้างจัง แต่ท่านพี่กำลังจูงมือฉันเดินไปอยู่ เพราะงั้นเลยต้องเดินตามไป
มือท่านพี่นี่อบอุ่นเสมอเลยน้า ไม่ถึงกับนุ่มแบบลูกคุณหนู แต่ก็ไม่หยาบกร้านขนาดคนทำงานหนัก รู้สึกลงตัวเหลือเกิน อยากจะจับไปอีกนานๆเลยค่ะ
คิดไปพลางจู่ๆก็เสียวสันหลังวาบอีกแล้ว เลยต้องมองซ้ายมองขวาไม่พบอะไร จากที่โดนท่านพี่จูงนำ กลายมาเป็นเดินข้างกัน แล้วกอดหมับอย่างขวัญหาย ท่านพี่มองมาอย่างแปลกใจ แต่ก็แค่แวบเดียว ก่อนอมยิ้มแล้วกระชับมือฉันให้แน่นขึ้น อา ท่านพี่.... ท่านพี่ดีที่หนึ่งในโลกแล้วค่ะ
ได้ยินเสียงคนร้องวี้ดว้าย อิจฉาฉันล่ะสิ ฉันที่มีท่านพี่ที่ดีที่สุดในโลก โฮะๆๆๆๆๆๆ
เดินมาเจอมาดามคาบุรากิก็เริ่มทักทาย เห็นท่านแม่กำลังนั่งคุยเหมือนสนิทสนม ข้างๆมาดามคาบุรากิก็เห็นวาคาบะยังนั่งเกร็งๆอยู่ ฉันดีใจที่ในที่สุดก็ได้เจอเพื่อนเลยทักไปอย่างตื่นเต้น
"ว่าแต่คุณเรย์กะดูเหนื่อยๆนะ เป็นอะไรไหม" วาคาบะจังถาม
"นอนไม่พอน่ะค่ะ..มีเรื่องนิดหน่อย"
"งั้นไปดื่มชากับกินขนมสักนิดไหมคะเผื่อจะดีขึ้น"
ฉันตอบรับ วาคาบะจังเหมือนรอเวลานี้มานาน รีบบอกขอตัวไปคุยกับฉัน แล้วคว้ามือฉันเดินฉับๆออกมา
"โชคดีจริงๆที่เรย์กะจังมา นึกว่าจะแย่ซะแล้ว" พอมีกันแค่สองคนวาคาบะจังถอนหายใจ
"เอ๋ เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ"
"ฉันต้องเข้าคอร์สเพื่อเป็นนายหญิงของคาบุรากิที่ดีในอนาคตค่ะ"
"เห แบบนี้เหนื่อยแย่เลย"
"ใช่ค่ะ... โปรเจคนี้ก็เป็นหนึ่งในคอร์สของฉันเหมือนกัน ทำยังไงก็ไม่ชินเสียที"
ลำบากแย่เลย วาคาบะจังที่ใช้ชีวิตอย่างยากแค้นมาตลอดจนจบมัธยม เพิ่งมาเข้าสังคมชั้นสูงแบบนี้ย่อมกดดันเป็นธรรมดา ขนาดฉันที่เคยจน แต่กลายเป็นชนชั้นสูงตั้งแต่เกิดยังปรับตัวไม่ค่อยได้เลยค่ะ
"พยายามเข้านะคะ ฉันเชื่อว่า วาคาบะจังทำได้แน่ๆ"
"ขอบคุณนะ มาซายะเองก็คอยให้กำลังใจ เลยยังมีแรงฮึดค่ะ ยิ่งเรย์กะจังพูดให้กำลังใจยิ่งท้อแท้ไม่ได้"
อุ่ก เหมือนสัมผัสได้ถึงออร่าหวานแหวว น่าอิจฉา น่าอิจฉาเกินไปแล้ว แต่เจ้าบ้าขี่ม้าส่งเมืองมีมุมปลอบโยนคนเป็นด้วยเรอะ หน้าร้อนนี้ต้องหิมะตกอย่างแน่นอน นึกภาพไม่ออกเลยค่ะ
ระหว่างกินวาคาบะจังก็ชวนคุยปรับทุกข์กันไปเรื่อยๆ แต่จู่ๆก็เงียบไป ฉันก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก ยังคงดื่มชาอย่างง่วงๆ รู้สึกอยากกินคุ๊กกี้ช๊อคโกแลตขึ้นมาแต่มันอยู่ใกล้วาคาบะจังเลยขอให้ช่วยส่งมาให้หน่อย วาคาบะจังไม่ตอบกลับ แต่มีคุ๊กกี้ส่งมาให้ ฉันขอบคุณเบาๆ ก่อนรับมากินโดยไม่ได้มอง อา.. สมองฉันเริ่มเบลอๆซะแล้วสิ เหมือนจะวูบๆด้วย
จู่ๆก็มีเสียงวีดว้ายรอบทิศอีกครั้ง ฉันผงกหัวขึ้นหันไปมอง เห็นวาคาบะจังยืนปิดปากหน้าแดง พูดคุยกับเพื่อนเก่าจากโรงเรียนซุยรันอย่างตื่นเต้น และหันมาทางฉัน
เอ๊ะ ทำไมวาคาบะยังไปอยู่ตรงนั้นล่ะ
แล้วเมื่อกี้ใครส่งคุ๊กกี้มาให้
เย็นยะเยือก นี่มันจะน่ากลัวเกินไปแล้ว ฉันกลัวจนผมชี้ ไม่กล้าหันไปข้างหลังเลยสักนิด
วิญญาณแน่ๆ มันโผล่มาแล้ว!!
"คุณคิโชวอิน..."
"อุงิ้ว!!!!!!!!!!!!!!!!!!"
โครม!!
ว้าย!!!!!!!