>>922 การที่ผู้เขียนได้รับคำวิจารณ์(สมมติให้คำวิจารณ์นั้นปราศจากอคติ และผู้วิจารณ์มีความสามารถทางการเขียนจริง) จะช่วยให้เขารู้ถึงข้อดีและข้อเสียของตนเอง หน้าที่ของผู้เขียนคือการที่จำนำคำวิจารณ์นั้นมาปรับแก้ด้วยความสามารถของตัวเอง เช่น ถูกตำหนิว่าการใช้ภาษาไม่ดี คลังศัพท์ไม่หลากหลาย ผู้เขียนก็ต้องไปหานิยายที่มีชั้นเชิงในการเขียนมาอ่าน และหมั่นเพิ่มพูนคลังศัพท์ ถ้าสักแต่ ค่ะๆ ครับๆ จะจดจำไว้แก้ไข น้อมรับคำวิจารณ์ แต่มึงไม่หาทางพัฒนาตัวเองเลย งานมันก็กากอยู่แบบนั้นล่ะ นักวิจารณ์ไม่ใช่ บก. นะ ที่จะได้ต้องมาคอยนั่งจ้ำจี้จ้ำไช ตรงนั้นตัดออกสิ ตรงนี้คำซ้ำ เปลี่ยนเป็นคำนี้ดีกว่า บลาๆ
ส่วนคำถามข้อที่สอง ที่ว่าทำไมนักวิจารณ์บางคนถึงเขียนงานกาก ถ้าจะตอบเอาใจพวกมึงก็คงต้องบอกว่า ไอ้พวกนั้นมันกากไงล่ะ แถมกากแล้วยังไม่เจียม กระแดะมาสับนิยายคนอื่นเขาอีก แต่ถ้ามองแบบกลางๆ ก็ต้องบอกว่า นักวิจารณ์แต่ละคนก็มีความถนัดไม่เหมือนกัน เช่น บางคนเชี่ยวชาญเรื่องการใช้ภาษา นิยายของเขาก็จะใช้ภาษาดี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเนื้อเรื่องจะน่าสนใจ ทำให้คนอ่านรู้สึกว่านี่มึงกำลังเขียนเหี้ยอะไรเนี่ย หรือบางคนอาจถนัดการจับกลุ่มตลาด คือสามารถวางพล็อตและเขียนเรื่องที่ทำให้คนรู้สึกสนุกตามไปด้วยได้ ซึ่งนักวิจารณ์พวกนี้อาจไม่ได้เชี่ยวชาญด้านการใช้ภาษาเท่าใดนัก คนนอกมองก็อาจหยามว่ากากได้เช่นกัน
ก็นะ ตามนี้ล่ะ