Last posted
Total of 1000 posts
กูว่าจะคราวหน้าจะไปหานิยายจากพวกกระทู้ฝากนิยายดูบ้าง จู่ๆ ก็อยากกินหัวพวกในบอร์ดขึ้นมา ไม่ว่าเด็กเบียวหรือมาเฟีย ถ้ามาแปะกูจะเอาหมดเลย
มัวแต่ไปตบเกรียนในดราม่ากันหมด เหงาจุงเงยยยยย
หลังจากเคลียร์งานไปได้ส่วนหนึ่ง และไข้เริ่มทุเลา กูก็คิดว่าน่าจะกลับมารีวิวนิยายสักเรื่อง คิดไว้ว่าจะลองเปลี่ยนมาเขียนให้จริงจังขึ้น คือแต่เดิมที่คว้าๆเอาเรื่องไหนมาก็ได้ ก็เปลี่ยนเป็นเลือกนิยายที่เขียนจบแล้ว แต่มีจำนวนตอนไม่มาก และมียอดวิวยอดเม้นน้อยๆ แทน เพื่อที่จะได้สามารถพูดถึงเนื้อเรื่องและมิติของตัวละครได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
เมื่อคืนก็ลองไปเสิร์ชดูในหมวดนิยายออนไลน์ คือไอ้หมวดนี้มันน่าสนใจอย่างนึง เพราะว่าเป็นหมวดที่เขียนจบไม่ได้ง่ายๆ คือแม่งก็โชคดีได้ของผจญภัยสะสมฮาเร็มกันไปเป็นพันๆตอนนั่นล่ะ กูก็สงสัยว่า เอ แล้วไอ้นิยายออนไลน์ที่เขียนจบได้ด้วยจำนวนตอนน้อยๆ มันดำเนินเรื่องต่างไปจากนิยายออนไลน์ทั่วๆไปยังไงวะ เลยลองไปค้นหาดูก็พบนิยายเรื่องนึง ซึ่งกูอ่านไปแล้วถูกใจมาก แต่มาสะดุดลงตอนอ่านจบบทแรก เพราะจำได้เลาๆว่าเหมือนเคยเห็นผ่านตา ว่ามีใครสักคนในนี้วิจารณ์ไว้แล้วนี่หว่า ก็ลองไปค้นๆดูจนเจอ ที่นี่ >>>/webnovel/3066/374
ตอนแรกกูก็คิดว่าในเมื่อมีคนสับไปแล้ว กูก็ไม่อยากรีวิวซ้ำ แต่ยังไงกูก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเรื่องมันจะจบยังไงกันแน่ อะไรคือการที่พระเอกจูบกับ AI เลยอดใจไม่ไหวต้องลองไปอ่านดู พออ่านแล้วก็รู้สึกว่า เออ คุ้ม แค่ 6 ตอนแต่ก็ทำให้กูมีความหวังกับนิยายเด็กดีขึ้นมา (และความหวังก็วูบลงไปทันทีเมื่อกูเห็นว่าแม่งมียอดวิวแค่ 250 ครั้ง) เอาเป็นว่าจะลองรีวิวในมุมของกู จะเห็นด้วยไม่เห็นด้วยยังไงก็สุดแล้วแต่ความคิดละกัน
เรื่อง : วิกฤตเกมออนไลน์
link : https://writer.dek-d.com/AneungTassana/story/view.php?id=1494016
จำนวน : 6 ตอน
สถานะ : จบแล้ว
ข้างบนพล่ามมาเยอะมาก ตรงนี้ขอพูดอีกสักหน่อยว่ากูชอบนิยายเรื่องนี้นะ ชอบจนต้องเลื่อนลงไปดูว่าคนเขียนแม่งเป็นใครวะ ถึงได้คิดเขียนเรื่องนี้ขึ้นมา คือถ้าแม่งไม่ได้ไปลอกชาวบ้านเขามาเนี่ยกูขอคารวะสักหนึ่งจอกเลยนะ เพราะชอบการใช้ภาษา และนับถือในความเข้าใจ(หรืออย่างน้อยก็พยายามเข้าใจ)เกี่ยวกับปรัชญาและวรรณกรรมตะวันตกของผู้เขียน
เรื่องก็เซ็ตธีมมาว่าเป็นโลกในอนาคต ที่มีเกมออนไลน์เสมือนจริงอยู่ ไอ้เกมเนี่ยก็เป็นเกมออนไลน์เสมือนจริงแบบที่เห็นกันเกลื่อนๆเว็บเด็กดีนั่นล่ะ คือนอนแล้วก็เข้าไปเล่นเกมในโลกจำลอง แต่คนเขียนก็พยายามโยกให้เรามองมุมกลับว่า ถ้าอย่างนั้นคนเราแม่งก็คง working กันทั้งคืนแบบไม่ได้นอนหลับจริงๆเลยสิ เพราะว่าตอนเช้าไปโรงเรียน-ทำงาน พอถึงบ้านก็เชื่อมต่อโลกออนไลน์ แล้วก็ตื่นเช้าไปทำงาน ความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวอยู่ที่ไหน? แล้วแบบนี้จะเรียกว่าการนอนหลับพักผ่อนได้จริงๆเหรอ? สุดท้ายก็กลายเป็นการเสพติดชีวิตในโลกจำลอง แล้วก็ไม่แยแสว่าโลกจริงจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง อันนี้ทำให้กูนึกถึงวีล็อกซ์ในเพนดรากอนนะ ตอนอ่านถึงช่วงนี้ก็คิดว่า เออ คนเขียนแม่งเคยอ่านมารึเปล่าวะ
การเล่าเรื่องนี่ดูจะก้ำกึ่งระหว่างการบรรยายแบบบุคคลที่ 2 กับบุคคลที่ 3 คืออ่านแล้วไม่ได้รู้สึกว่าเป็นมุมมองของพระเจ้านะ รู้สึกเหมือนเป็นคนเขียนที่กำลังเล่าเรื่องนี้ให้เราฟังมากกว่า แต่ตัวคนเขียนก็ไม่ได้ใส่ตัวเองลงไปในเรื่อง เพราะฉะนั้นนับว่าเป็นบุคคลที่ 3 จะเหมาะกว่า ตัวเอกของเราชื่อวอยด์ เป็น GM ภาคสนามของเกมนี้ โดยหน้าที่ของ GM ภาคสนาม คือการเดินทางไปแก้ไขบัคต่างๆที่เกิดขึ้นในเกม อันที่จริงจะแก้บัคด้วยการคีย์ข้อมูลจากนอกเกมก็ได้ แต่นั่นก็หมายความว่าจะต้องปิดพื้นที่ส่วนที่บัคก่อน ซึ่งบางครั้งบัคมันเป็นอะไรที่ไม่ได้หนักหนาสาหัสถึงขั้นต้องปิดเกม เช่น การที่มอนสเตอร์หลงไปเกิดอยู่ในที่ๆ ไม่ควรจะเกิด การแก้ปัญหาด้วยการส่งคนไปจัดการเป็นอะไรที่ง่าย และส่งผลกระทบน้อยกว่า (ให้นึกถึงเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าที่ต้องซ่อมไฟทั้งๆที่กระแสไฟยังเเล่นอยู่ เพราะถ้าตัดไฟก่อนจะฉิบหายกันทั้งบาง)
วอยด์มีผู้ช่วยเป็น AI สาว 2 คน ที่ทำงานร่วมกับเขามา 5 ปีแล้ว คนเขียนก็พล่ามๆถึงเรื่อง AI ว่าจริงๆแล้วมันเหมือนมนุษย์แค่ไหน มีสติปัญญาคิดได้เองแค่ไหน จริงๆแล้วมันก็คือผีเราดีๆนี่เอง เป็นผีที่อยู่ในโลกออนไลน์ บลาๆ กูอาจอธิบายไม่เห็นภาพ เดี๋ยวกูคัดคำต่อคำมาให้อ่านละกัน
"...เดลมีความคิดเป็นของตัวเอง มีความรู้สึกเป็นของตัวเอง มีร่างกายเป็นของตัวเองด้วย... ถึงแม้จะแค่ในโลกแห่งนี้ก็เถอะ มนุษย์ผู้ชาญฉลาดประสบความสำเรจในการเป็นพระเจ้าในที่สุด สรรสร้างชีวิตจำลองขึ้นมาตามที่ตนต้องการได้ แต่ว่าเธอไม่ใช่มนุษย์ เป็นสิ่งไร้ชีวิตซึ่งมีความนึกคิดเช่นมนุษย์ เขาคิดว่าคำนิยายของเหล่า AI ทั้งหลายก็คืออีกหนึ่งคำนิยามของสิ่งที่มนุษย์คุ้นเคยดีตั้งแต่บรรพกาล
เธอคือผี
คือวิญญาณในโลกออนไลน์..."
เอาตรงๆ กูชอบสไตล์การเขียนของเขานะ ใช้คำได้สละสลวย แถมยังมีคลังคำศัพท์เยอะทีเดียว แปลว่าต้องเคยอ่านงานดีๆ มามากพอสมควร
บทบรรยายก็พูดถึง AI ต่อไปว่า จริงๆแล้วไอ้หน้าที่ GM ภาคสนามเนี่ยมันไม่ได้สำคัญอะไรเลยสักนิด เพราะแค่ AI พวกนี้ก็สามารถจัดการปัญหาบัคได้ด้วยตัวเองแบบสบายๆอยู่แล้ว แต่บริษัทและเหล่าผู้สร้าง AI ก็มีความกลัวอยู่ในใจว่า ถ้า AI มีอำนาจมากเกินไป สุดท้ายก็อาจกลายเป็น AI ควบคุมมนุษย์ จากผู้สร้างกลายเป็นทาส เลยต้องจ้างคนจริงๆอย่างวอยด์มาคุม AI อีกที ทำนองนั้น
เข้าปมหลักของเรื่องเลยแล้วกัน เอาง่ายๆว่าจู่ๆ ก็มีข่าวแจ้งให้ GM ไปรวมตัวกัน เนื่องจากเกิดเหตุโรงไฟฟ้าระเบิดในโลกแห่งความจริง ซ้ำสถานที่สำหรับเก็บฐานข้อมูลเกมก็โดนไฟไหม้อีก ตอนนี้ต้องใช้เครื่องปั่นไฟสำรองในการรันเกม และที่พีคที่สุดคือจุดที่ไฟไหม้จนพังไปแล้วคือส่วนของการออฟไลน์ ทำให้คนในเกมไม่สามารถออฟไลน์ออกไปได้
บริษัทก็ประชุมเครียดกันมากว่าจะเอายังไงดี โดยปกติหากระบบของเกมล่ม ผู้เล่นจะถูกบังคับออฟไลน์โดยอัตโนมัติผ่านส่วนควบคุมการออฟไลน์ แต่สถานการณ์ตอนนี้คือส่วนควบคุมการออฟไลน์แม่งเสือกเจ๊ง พอเจ๊งแล้วก็เลยไม่รู้ว่าถ้าเกมดับขึ้นมา ผู้เล่นในเกมจะเด้งกลับไปตื่นในโลกความจริงได้ไหม หรือจะตายห่าไปด้วยกันทั้งหมด ทางบริษัทแจ้งกับ GM ในเกมว่า อันดับแรกคือต้องดับไฟให้ได้ก่อน แล้วค่อยซ่อมส่วนควบคุมการออฟไลน์ จากนั้นถึงปล่อยให้ผู้เล่นออฟไลน์ออกไป แต่ (มีแต่เยอะสัส) แต่เครื่องปั่นไฟสำรองอาจไม่พอสำหรับรันเกมทั้งหมด ต้องค่อยๆปิดพื้นที่เกมบางส่วนลงเพื่อประหยัดพลังงาน เลยมอบหมายหน้าที่ให้ GM ไปต้อนผู้เล่นในเขตรับผิดชอบจากตัวเองมาจัดกลุ่มเดินทางไปยังเมืองรองที่ใกล้ที่สุดเพื่อใช้จุดวาร์ปไปยังเมืองเซ็นทรัล (ง่ายๆคือ ไล่ปิดแมพไปเรื่อยๆ จนเหลือแมพของเมืองเซ็นทรัลที่ให้ทุกคนมารวมกันอย่างเดียว)
และนี่คือที่มาของประโยคที่ตลกที่สุดของนิยายเรื่องนี้
"...แล้วเขาก็ประเคนเวทนั้นใส่ประตูเมือง เปลวไฟโหมกระพือหนักหน่วงยิ่งกว่าเก่า ค่าความเสียหายเกิดขึ้นกับทุกคนที่อยู่ในรัศมีการโจมตี
แต่เขาไม่สนใจ
เขาจะไปเซ็นทรัล..."
ส่วนกูไปยูเนี่ยนมอลล์ได้ไหม
ที่กูพูดว่าปมใหญ่เนี่ย คือมองในแง่ของการดำเนินเรื่องนะ ว่าปมของมันคือการที่ไฟดับ ระบบพัง ทำให้พวก GM ต้องพาผู้เล่นหนีไปจากโซนที่จะถูกปิดตัวลงเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ไปยังที่ๆปลอดภัย แต่กูมองว่าประเด็นสำคัญที่คนเขียนเรื่องนี้ต้องการจะสื่อเนี่ย มันคือเรื่องของ "ความเป็นคน" มากกว่า เพราะเราจะได้เห็นความหลากหลายของตัวละครในเรื่อง ทั้งคนที่ยึดมั่นในหน้าที่แม้จะต้องเสี่ยงชีวิตตัวเอง คนที่ละโมบโลภมาก แม้เวลาหน้าสิ่วหน้าขวานก็จะหาทางเอาประโยชน์เข้าหาตนให้ได้ รวมไปถึงเรื่องของ AI ว่าสรุปแล้ว AI มีค่าพอที่จะตามพวกผู้เล่นไปยังเซ็นทรัลด้วยไหม หรือจริงๆแล้วเป็นแค่ชุดข้อมูลเลขฐาน 2 ที่ตายไปก็ไม่ได้เสียหายอะไร เดี๋ยวก็หาทางรีเซ็ตกลับมาได้ เอาไปปล่อยไว้แถวโลตัสหรือบิ๊กซีก็พอ
กูเล่าตรงนี้รวบๆไปเลยแล้วกันว่ากลุ่มพระเอกพาคนหนีมายังเมืองรองได้สำเร็จ โดยเสียคนไปกลุ่มหนึ่งจากการที่จู่ๆแมพก็ปิดตัวลง (และความเห็นแก่ตัวของบางคน) พวกนั้นก็อีโมแตกกันไปตามเรื่องราว ซ้ำร้าย GM ที่คุมเมืองรองอยู่ก็เสือกห้ามไม่ให้กลุ่มนี้เข้าเมือง ให้ตั้งแคมป์รออยู่นอกกำแพง คนในขบวนก็คิดกันว่าฉิบหายแน่ ไอ้พวกนี้แม่งจงใจทิ้งพวกกูไว้ให้ตายนี่หว่า แต่วอยด์ประเมินมานานแล้วว่า เมืองเซนทรัลเนี่ย จะยังไงก็จุคนทั้งเซิฟเวอร์ไม่ได้หรอก คงต้องเสียสละคนจำนวนหนึ่งเพื่อให้คนอีกส่วนหนึ่งรอดออกไป แม่งก็เลยตัดสินใจว่าเอาวะไอ้สัส ยังไงพวกเราก็ต้องเป็นกลุ่มที่รอดเว้ย เลยซัดเวทตู้มๆใส่กำแพงเมืองโดยมีคนในขบวนช่วยเหลือ ฝ่าด่านของคนที่แออัดยัดเยียดกันในเมืองไปยังจุดวาร์ป แล้ววาร์ปไปเมืองเซนทรัลได้สำเร็จ
"...ถ้าคนอื่นได้ไปเซนทรัล นั่นคือเขาต้องถูกทิ้งไว้ที่นี่ แต่ถ้าเขาได้ไปเซนทรัล นั่นคือต้องมีคนอื่นสักคนถูกทิ้งไว้ที่นี่ เพราะไม่มีสิ่งใดได้มาโดยเปล่า การจะได้สิ่งหนึ่ง ย้อมต้องเสียสิ่งหนึ่งไปเสมอ ซึ่ง... เขาจะไม่ยอมเป็นคนที่ถูกทิ้ง สังคมย่อมมีความคิดเห็นหลากหลายต่อสิ่งที่เขาทำลงไป ซึ่งเขาได้เตรียมใจจะเผชิญหน้ากับมันแล้ว แต่ไม่ว่าสังคมจะว่าอย่างไรก็ตาม ถ้าเขารอดไปได้ ความจริงย่อมเป็นความจริง
คือเขารอด..."
หลังจากที่วอยด์วาร์ปไปเซ็นทรัลได้แล้วก็ไปเจอกับมหกรรมความแออัดยัดเยียดขนาดหนักภายในเมือง หนักขนาดที่ว่าคนต้องไปอยู่บนหลังคา และมีปัญหาคนตกหลังคาตาย ตกปล่องไฟตายอยู่บ่อยๆ ซึ่งมันก็ไม่ควรเป็นปัญหาเพราะตายแล้วก็กลับไปเกิดในวิหารในเมือง แต่ที่แอบตลกก็คือไอ้วิหารนั่นก็มีคนเต็มแล้วเหมือนกัน คือมึงยิ่งตายก็ยิ่งไปเกิดในวิหาร ก็ยิ่งอัดแน่นกันเป็นปลากระป๋องไปอีก GM ที่คุมเมืองเซ็นทรัลเห็นวอยด์มารายงานตัวก็ไม่ได้คิดถามอะไร สั่งให้พระเอกไปจัดระเบียบคนบนหลังคาโรงแรมในโซนหนึ่งของเมือง พระเอกก็ใช้คาถาลอยตัวเสกให้ตัวเองกับ AI ของตัวเองเข้าไปควบคุมสถานการณ์ สักพักก็เริ่มควบคุมคนให้ไม่เหยียบกันตายได้ แต่ความซวยก็ยังมาเยือนไม่หยุด คือแมพที่ติดกับเมืองเซนทรัลดับไปแล้ว และแมพของเมืองเซนทรัลก็เริ่มกระพริบติดๆดับๆแล้วด้วย ผู้เล่นแม่งก็ panic กันฉิบหาย สวดมนต์อะไรกันเต็มไปหมด พระเอกไม่ได้นับถือศาสนาเลยไม่แคร์อะไรอยู่แล้ว แต่ก็สงสัยว่า AI ของเขาตัวหนึ่งทำไมถึงยิ้มหน้าระรื่นมองท้องฟ้าได้ทั้งๆที่กำลังจะตายกันหมด เออกูลืมเล่าไป ระหว่างทางมันมี event ผู้เล่นติดบัคอยู่ในดันเจี้ยน พระเอกต้องเข้าไปช่วยแล้วเจอบอส บอส(สาวสวย) ก็ขอร้องพระเอกว่า พวกมึงเอากูออกไปด้วยเถอะนะ ถึงกูจะเป็นบอสดาดๆที่ไม่ได้เก่งอะไรมากแต่ก็มีความทรงจำดีๆ ไม่อยากโดนลบไปด้วย พระเอกใจอ่อนเลยจับมาเป็นสัตว์เลี้ยง ซึ่งก็คือ AI ตัวนี้ (AI ตัวที่ 3)
"..."ฉันเป็นบอสรุ่นแรกของโลกนี้เลยนะ ถึงจะไม่ได้เก่งกาจอะไรก็เถอะ" โอโรโบรอสพูด ดูเหมือนเธอกำลังตัดพ้อมากกว่าขอร้อง "ฉันอยู่มาตั้งแต่ผู้เล่นคนแรกๆ สมัยโลกนี้ถือกำเนิดเลย ฉันเจอคนมาเยอะมาก มีทั้งคนที่ล้มฉันได้ ทั้งคนที่โดนฉันจัดการไป ผู้เล่นหน้าใหม่บุกเข้ามาไม่เคยซ้ำ เพื่อหวังไอเทม หวังรางวัลในห้องนี้" เธอยิ้ม "ถึงฉันจะไม่ได้ออกไปไหน แต่ฉันก็มีความสุขนะ เฝ้าคอยอยู่ที่นี่เมื่อพวกเขาบุกมาหาพร้อมอาวุธใหม่ๆ กลยุทธ์ประหลาดๆ ผู้ชายหล่อๆ จอมเวทหน้าตาดี ฉันมีความทรงจำที่ดีกับที่นี่ กับชีวิตที่ฉันมีอยู่นี้"... "คุณอาจไม่เรียกมันว่าชีวิตก็ได้ ฉันก็แค่มอนสเตอร์ตัวหนึ่ง คอยทำตามที่พวกคุณสั่ง เป็นสิ่งที่พวกคุณสร้าง..."..." พอละ กูขี้เกียจพิมพ์ตาม เหนื่อย ถ้าอยากอ่านเต็มๆก็ลองเปิดดูเอง อยู่ในบทที่ 2
พระเอกก็ถามโอโรโบรอสที่ตอนนี้มาเป็นเด็กในสังกัดของเขาว่า มึงมานั่งยิ้มเหี้ยไรอยู่ตรงนี้เนี่ยอีดอก เมากัญชาเหรอ AI ก็ตอบประมาณว่า อย่างน้อยๆ ได้ออกมาสูดอากาศข้างนอกแบบนี้ก่อนตายก็ยังดี ถือว่าได้ใช้ชีวิตคุ้มแล้ว พอตอบไปแบบนี้ไอ้วอยด์มันก็นึกย้อนไปถึงตัวเอง ว่าอะไรกันที่เป็นเป้าหมายในชีวิตของมัน คือตอนนี้มันก็โตสุดในสายอาชีพแล้ว พ่อแม่ก็ไม่ต้องดูแล ลูกเมียพี่น้องก็ไม่มี มันก็คิดได้ว่า เออ หรือก่อนตายกูควรที่จะตั้งเป้าหมายในชีวิตสักอย่างขึ้นมาดีวะ ประมาณว่าสิ่งที่มันอยากทำมากที่สุดก่อนตาย
แล้วมันก็จูบกับ AI ของตัวเอง
งงไหม คือจูบกับ AI ตัวแรกที่ชื่อเดลนะ ไม่ได้จูบกับอีบอส
คือที่กูเกริ่นไว้ตั้งแต่แรกสุดเลยว่ากูงง ว่าทำไมพระเอกมันถึงจูบกับ AI เนี่ย ในที่สุดกูก็ได้คำตอบนะ เพราะถ้ามึงลองอ่านย้อนดูดีๆ ในบทบรรยายต่างๆ ที่เขียนขึ้นเป็นปรัชญา ทั้งเรื่อง AI เป็นผี เรื่องศีลธรรม เรื่องความเป็นไปของโลกอันซับซ้อนต่างๆ ล้วนแต่ถูกบรรยายด้วยมุมมองของบุคคลที่ 3 (คือคนเขียน) ผ่านกระแสความคิดของพระเอกทั้งสิ้น คนเขียนไม่ได้บรรยายโดยใช้แค่ความคิดของตัวเอง แต่เป็นการบรรยายว่าตัวละครตัวนี้ (คือวอยด์) คิดยังไงกับเรื่องต่างๆ เพราะฉะนั้นการที่วอยด์จูบ AI ก็เหมือนกับการที่คนเขียนบอกให้เรารู้ว่า ท้ายที่สุดวอยด์เองก็ยอมรับว่า AI ไม่ใช่ภูติผี ไม่ใช่ตัวประหลาดหรือตุ๊กตายางอย่างที่เคยเปรียบเปรย แต่ AI นั้นมีความเป็นมนุษย์เฉกเช่นเดียวกับเขาเอง
หรือคนเขียนอาจบอกเราทางอ้อมก็ได้ว่า สุดท้ายแล้ววอยด์ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับคนอื่นๆ เป็นแค่ผู้ชายวัย 35 ที่ถูกตัดขาดจากโลกความจริงโดยสิ้นเชิง ลูกเมียญาติก็ไม่มี หน้าที่การงานที่พอจะดูดีก็เสือกเป็นงานที่เกี่ยวกับโลกจำลองนี้อีก จนสุดท้ายก็หลงมัวเมาอยู่ในเกม หาความสุขซึ่งหน้า ไม่สนใจแล้วว่าโลกภายนอกจะเป็นอย่างไร
จริงๆปมของเรื่องนี้ยังมีความน่าสนใจอีกหลายจุด อย่างที่คนเขียนพยายามกระเซ้าอยู่เนืองๆว่า จริงๆแล้วข้างนอกอาจไม่ได้เกิดไฟไหม้อะไรเลยก็ได้ แต่มีเรื่องบางอย่างที่ไม่ดีเกิดขึ้น และไม่อยากให้คนในเกมรับรู้ เช่น อาจมีผู้ก่อการร้ายบุกจับคนในเกมเป็นตัวประกัน หรือโลกทั้งใบกำลังสูญสลายแล้ว จึงเลือกให้คนที่อยู่ในเกมตายอย่างสงบดีกว่าจะออกมาพบกับความจริง (ที่ต้องตายอยู่ดี)
พิมพ์มาย้าวยาว เอาเป็นว่ากูชอบเรื่องนี้มาก อ่านแล้วรู้สึกเหมือนเป็นอีกมุมมองหนึ่งของนิยายเกมออนไลน์ข้าไม่ใช่มนุษย์อะไรที่เคยรีวิวไป และเนื่องจากเป็นเรื่องที่มีคนเคยเอามาสับแล้ว กูจะไม่ขอให้คะแนนก็แล้วกัน แต่ฝากไว้ว่านิยายดีๆแบบนี้ไม่น่าที่จะมีคนอ่านแค่ 250 คน ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะให้คนที่เขียนนิยายแนวเกมลองอ่าน เผื่อจะมีประโยชน์ต่อการวางโครงเรื่องของตัวเองมากยิ่งขึ้น วันนี้ฝากไว้แค่นี้ สวัสดีครับ
>>170 อันนี้แนะนำแบบหวังดีนะ เวลาส่งต้นฉบับก็แนบกันไปเป็นปกติจริงๆ ว่าเรื่องนี้เคยเอาไปลงที่ไหนบ้าง บก. ก็จะตามดูว่าแฟนคลับเยอะไหม อะไรยังไง ถ้านิยายโอเค แฟนคลับพอมี โอกาสผ่านมันก็ง่ายขึ้น กลับกัน ถ้าแทบไม่มีแฟนคลับและเนื้อเรื่องไม่ได้ปังมากๆ สู้เอานิยายระดับเดียวกันที่ไม่เคยเผยแพร่ที่ไหนมาก่อนไปจะดีกว่า เขาพิจารณากันแบบนี้ด้วย บอกไว้เป็นความรู้นะ
แล้วนี่มียอดมนุษย์โผล่มาจากไหนอีกเนี่ย เลิกเถอะนะไอ้แบบที่ตั้งชื่อเสร่อๆแล้วต้องลงท้ายประโยคด้วยชื่อตัวเองทุกเม้น ไม่คูลว่ะ
>>171 มึงอย่าไปตกหลุมพรางมันดิ อีนี่มันนักล่อตีน เถียงกับมันไปมู้ก็เน่าซะเปล่าๆ พวกกูเมินมันมา 2-3 โพสแล้วข้างบน ตอนนี้มันคงกำลังหาทางกวนตีนอยู่ มันหิวอยากโดนฟีดใจจะขาด ส่วนมึงจะตัดสินใจยังไง ก็แล้วแต่มึง สำหรับกูตอนนี้กำลังหานิยายสับอยู่ว่ะ อยากถกเพิ่มกับให้ตัวอย่างนิยายที่เปิดเรื่องมาแบบแปลกๆ มั่ง เอาให้มันหลุดพ้นพล็อตคลิเช่ห่วยๆ ไปบ้าง เบื่อพวก ว้ายยย สายแล้วๆ วิ่งชนสบตาปริ๊งๆ ละ
หวัดดีเซฮุนเอง วันนี้มีอะไรมั่งเพื่อนโม่ง?
อากาศก็เย็นทำไมหัวร้อนง่ายจังวะ
>>177 ไม่นะ ปกติสำนักพิมพ์ดูเรื่องแฟนคลับเป็นอันดับแรกๆ คือถ้านิยายมึงไม่เหี้ยจริงเขาก็รับพิจารณาอะถ้าแฟนคลับเยอะ ยังไงเรื่องยอดขายก็สำคัญ เว้นแต่ว่านิยายของมึงจะอลังการงานสร้างจริง แบบนั้นสำนักพิมพ์ก็อาจลองเสี่ยง ซึ่งดูจากการตอบกระทู้ของมึงแล้วไม่น่าจะมีความสามารถถึงระดับนั้นอะ
>>184 อันนี้โทรลล์หรือไม่รู้จริงๆน่ะ สำนักพิมพ์สนใจงานที่ขายได้พอๆกับงานดีๆนั่นล่ะ เขามีทีมงานเกลาสำนวนกันอยู่ทุกสำนักพิมพ์ ถึงงานมันจะห่วยยังไงแต่ถ้ามีแฟนคลับก็ถือว่าไม่แก่เกินแกง ก็ช่วยเกลาสำนวนกัน ปรับพล็อตกัน ใส่นู่นนิดใส่นี่หน่อยก็พิมพ์ขายได้ เหมือนงานของนักเขียนที่ชอบจัดทอล์กโชว์อะ เขียนห่วยจะตายห่าแต่แฟนคลับเยอะ สำนักพิมพ์ไหนๆก็อยากจะอ้าแขนรับ จับเกลาสำนวนหน่อยก็ขายได้ละ
มึงไม่ต้องไปต่อความยาวมัน เมินไป
ลาก่อยอาปาเช่
>>>/meta/2804/519-521
>>192 มึงคือเซฮุนเหรอ ประมาณว่ามาด่าตัวเองเพื่อให้คนอื่นมองเซฮุนในแง่ที่ดีขึ้น แล้วมองคนที่มาด่าเซฮุนว่าเหี้ยอะไรงี้
คืองงว่ามาด่าแบบนี้มันมีคนเจ็บจริงเหรอวะ มึงด่าแม่กูเป็นกะหรี่โดนมึงเย็ดจนหีบานอะไรก็ได้ คือกูเฉยๆมากอะ แต่กูไม่เข้าใจว่ามันเจ็บยังไง ไหนมึงลองด่ากูบ้างดิ๊ อยากรู้รสชาติว่ะ
อ้าวโดนแบนไปซะและ อยากลองโดนมันด่าดูหน่อย ไม่รู้ว่ามันเจ็บตรงไหน เห็นแล้วรำคาญมากกว่า
เซฮุนมันเป็น เซเลป หรอ บอกกุเซฮุน นั่น กุเซฮุนนี่
เงียบเป็นป่าช้าเลยค่ะ สัส
มีใครสนใจสับนิยายในมู้แนะนำนิยายเด็กดีอันนั้นบ้างมะ
แฮปปี้แลนด์อยู่ใกล้เดอะมอลล์บางกะปิป่ะ คุ้นๆ
https://writer.dek-d.com/happyland7025/story/view.php?id=1529266&track=ws
ฝากไว้เรื่อยๆ ได้เลย จะได้มีรอไว้สับ
ห้องสงบแล้ว
กูอยากจะลองเปิดใจอ่านงานแวมนะแต่เคยอ่านเจอเรื่องเสียวธัญวลัยกับเรื่องที่นางเอกเล่นมุกให้กินเลือดเมนส์ กูก็ขยาดว่ะ เหอๆ
มานั่งรออ่านสับเก็บความรู้ต่อ
ห้องเงียบ เลยอยากลอง ถถถ เราสับไม่เก่ง และเพิ่งอ่านไปแค่สองบท...
จาก https://writer.dek-d.com/VampireAntares/story/view.php?id=1541910
บทนำ
เปิดมามีอธิบายถึงเมืองที่ตัวเอกอยู่ ซึ่งมันเป็น"ใจกลางโลก" อันนี้เราเข้าใจที่เขาสื่อ แต่"ใจกลางโลก"นี่คือที่มีแม็กม่าป๊ะ... ควรเป็นคำว่า"ศูนย์กลาง"จะตรงตามควมมหมายมากกว่า และในย่อหน้าแรกนี้ก็กล่าวถึงปัญหา ความจำเป็น สภาพของโลก/เมือง คือมันควรแทรกอยู่ในเนื้อเรื่องทำให้ผู้อ่านเข้าใจมากกว่าเอามาปะหน้าไว้แล้วในบทต่อ ๆ มาไปเขียนถึงเรื่องรอบนอกอื่น ๆ ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องเลยสักนิด
ในย่อหน้าต่อมาก็พูดเรื่องเมืองอีก... เพิ่มเติมคือเอาลักษณะตัวเอกมาปนด้วยทั้งทีาไม่มีความเกี่ยวข้องกับประโยคก่อนหน้าเลยแม้แต่น้อย คือใส่มาทำไมวะ ถถถ
อึก... อึก... แล้วบรรยายว่าเขาดื่มน้ำ คือถ้ารู้อยู่แล้วว่าเป็นเสียงอะไร/ไม่ก่อให้เกิดผลตามมา เราก็ไม่เข้าใจว่าจะใส่เสียงมาให้มันซ้ำซ้อนทำไม
ดื่มน้ำเสร็จก็เรียกขวัญหน้ากระจก แล้วเดินไปที่หน้าต่าง เห็นนักเรียนเตรียมทหารเข้า ระลึกชั่วดีของนักเรียนเตรียมทหาร แล้วก็โมโหต่อยกระจกแตก
อ่านมาถึงตรงนี้ รู้สึกว่าตัวละครอารมณ์ไม่สุดสักอย่าง ตอนแรกเรียกขวัญตัวเองหน้ากระจก พูดถึงเป้าหมาย เราอ่านไปก็ไม่ได้รู้สึกถึงแรงผลักดัน แรงจูงใจอะไรให้ตัวเอกตัวนี้ต้องมายืนตะเบ็งเสียงซ้อมร้องเพลงเพื่อหาเงินจ่ายค่าห้องเอง ต่อมาหันไปเจอนักเรียนเตรียมทหาร แล้วโมโห... โอเค เขาอธิบายบอกเราว่าคนพวกนั้นชั่วแค่ไหน แต่ไม่ได้ทำให้รู้สึกถึงเหตุอะไรให้ต้องไปบรรดาลโทสะใส่กระจกจนมือแหกเลยสักนิด =w=
พอระบายอารมณ์จนได้แผล ตัวเอกก็บ่นกับตัวเองว่าโลกไม่ยุติธรรม รู้สึกอยากเปลี่ยนโลก... หะ ? อยู่ดี ๆ ก็มาไม่ทันตั้งตัว คือทำไมเมิงถึงอยากเปลี่ยนโลกกก อะไรดลใจ อะไรที่ทำให้คุณรู้สึกว่ามันคุ้มที่จะทำ อะไรที่ทำให้คุณรู้สึกทนไม่ได้อย่างถึงที่สุด แค่นักเรียนทหารทำร้ายคนอ่อนแอกว่าเหรอ? เราว่าง่อยไป
บทที่หนึ่ง
อีกแล้วครับท่าน... อธิบายเกี่ยวกับเมืองอีกแล้ว(ว้อย) ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาในตอนซึ่งกล่าวถึงงานประกวดที่ตัวเอกไปเข้าร่วมโดยสิ้นเชิง
ย่อหน้าต่อมา ตัวเอกกำลังจะตื่น ย้อนกลับไปเล่าเรื่องความฝันแบบสั้น ๆ แล้วกลับมาบรรยายว่าเขาตื่นเพราะเสียงนาฬิกาปลุก บรรยายซ้ำซ้อน วนไปวนมา
แล้วแม่ก็เรียกเขาไปกินข้าว เขายืนเทียบชุดอยู่ครู่หนึ่ง แม่ก็ตะโกนไล่ขึ้นมาอีกครั้งว่าถ้าผ่านจะให้รางวัล แต่เธอไม่บอกว่ามันเป็นอะไร "ความลับจ๊ะ...ความลับ" จ๊ะอัลไล ... จ้ะเถอะ
ในระหว่างที่ตัวเอกกำลังอาบน้ำ แม่ก็แอบเอาล็อกเก็ตไปใส่ในกระเป๋าเสื้อเขา แล้วพูดกับตัวเองว่าลูกของเธอโด่งดัง พ่อจะตามหาพวกเขาเจอ ตัวเอกได้ยินเข้าเลยกลับไปเอาน้ำราดหัวตัวเองอีกทีแล้วพูดว่า "ไม่จริง" อะไรคือไม่จริง? อะไรทำให้เขารู้สึกว่าจำเป็นต้องทำให้ได้ ไม่มีหัวไม่มีหาง จู่ ๆ ก็ "ไม่จริง" ขึ้นมาลอย ๆ
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ เขาก็ซ้อมร้องเพลง บอกลาแม่แล้วเดินทางไปเข้าร่วมงานประกวดร้องเพลง... ตอนต้นบอกว่าแม่เรียกมากินข้าว แต่พอลูกจะออกไปโดยไม่กินข้าวกลับไม่ได้ว่าอะไรสักคำ? ซ้ำยังให้กำลังใจไปตามปกติ โอเคค่ะ ถถถ
พอได้ยินคำพูดให้กำลังใจของแม่ เขาก็รู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองขึ้นมา กลัวทำให้แม่ผิดหวัง โอเค ตรงนี้เคลียร์
ย่อหน้าต่อมาบอกว่าเด็กหนุ่มในชุดคลุมขาวแขนยาวสีฟ้า ซึ่งตอนต้นบอกว่าแขนเสื้อสีเดียวกับนัยน์ตาของตัวเอก และนัยน์ตาของตัวเอกสีน้ำเงินเข้ม งงเลยผม
เขาไปยืนรอรถ หมดเนื้อที่หน้ากระดาษไปหลายย่อหน้าโดยใช่เหตุ พอรถมาถึงก็มีสองสาวเข้ามาเกาะแกะเขา ตรงนี้ชวนให้รู้สึกเกลียดชอบกลแฮะ คำบรรยายดูสัปดนไร้ศิลปะสิ้นดี ถถถถ โอเค เข้าใจว่าบรรยายสาวนมใหญ่ กับสาวโสดสึดฮอต และประเทือง แต่ไอ้ "สาววัยเจริญหน้าอก" "สาวน้ำนม" "ชายที่รักเพศเดียวกัน" นี่มันจะดูเหยียด/ทะลึ่งไปไหม? แล้วไอ้ "สาวโสด" ไปรู้ได้ไงว่าเขาโสดวะ ถถถถ เราเข้าใจว่าต้องการเขียนให้มันดูฮา(?) แต่มันก็ควรดูด้วยว่าเหมาะสมไหม
ต่อ ๆ มาตัวเอกก็โปรยเสน่ห์ไป แบบต้องการบอกให้โลกรู้ว่ากูหล่อ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยบรรยายให้ทราบถึงความหล่อของมันเลย ทั้งที่นี่คือการบรรยายแบบบุรุษที่สาม แบบมุมมองบุคคลภายนอกที่ควรมีรายละเอียดตรงส่วนรูปร่างหน้าตา สภากพแวดล้อมอะไรครบถ้วน
พอขึ้นแสดง ตัวเอกก็โปรยเสน่ห์ใส่ผูชม ส่งสายตา "ปิ้ง ๆ " ปิ้งอะไรวะ หมู ไก่ หรือ หนมปัง? แล้วก็มีสาวทวิรดทลมากรี๊ดสลบ จบ
ต่ออีกนิด
โอเค จบบทนำกับบทหนึ่งไป สรุป
- อารมณ์ การแสดงออกของตัวละครดูโอเวอร์ผิดกับอารมณ์ในเรื่องที่สื่อมามานิดเดียว แทบไม่สื่อออกมาเลย
- เขียนวกวน
- ใช้คำฟุ่มเฟือย และไม่หลากหลาย
- คำผิดมีบ้างประปราย
- เรื่องดูเหมือนเขัยนไปดรื่อย ไม่ได้ทบทวนเลย เขียนเองย้อนแย้งเอง รายละเอียดไม่ครบ
- อะไรที่ควรเน้น ไม่เน้น อะไรที่ไม่ควรเน้นนี่เน้นจัง
- บทบรรยาย ประโยค เว้นผิด ๆ ถูก ๆ ดูมั่ว ๆ ประโยคยาวติดกันเป็นพืดเหมือนปุ่มspace barเสีย
พอ ไม่อาจทำใจอ่านต่อ @-@
อ่านยากขออภัย พิมพ์ในโทรศัพท์ไม่ถนัด
อ้าว ตกลงอันนั้นตายจนิงเหรอ นึกว่าแค่เปรียบเปรย
ฮือ กูว่างเลยกดผ่านๆ เจอตอนสามแม่หนูทวินเทลหัวใจวายตาย แต่ดูคนแม่งไม่ตกใจอะไรกันเล้ย มีการที่พิธีกรปรึกษากันแล้วบอกให้แก้ข่าวว่าตายเองเพราะเป็นโรคอยู่แล้ว พระเอกไม่ผิดด้วย /กุมขมับ คนตายทั้งคน ทำไมบรรยากาศใจเย็นกันอยู่ได้วะเฮ้ย!! อ้อ อีกอย่าง เหมือนจะขึ้นบทด้วยบทบรรยายเมืองทุกบทด้วยสิเอ้า กูล่ะอ่านไปขำไป 555
>>228 มึงรู้มั้ยตอนกูอ่านถึงประโยค "ก็ล้มสลบไปตายคาที" คือกูอยู่บนรถไฟฟ้าละกูหยุดขำไม่ได้ ขำก็ขำ อายก็อาย คือมึงจะตายหรือมึงจะสลบก็เอาซักอย่างดิวะ อีกอย่างแค่คนลืมตาขึ้นมาแล้วสบตากับมึง ต่อให้ปลื้มแค่ไหนมันก็ไม่น่าถึงตายแบบนี้ พระเอกแม่งเป็นเมดูซ่ากลับชาติมาเกิดรึไงวะ
กูรู้สึกเหมือนนิยายแวมแม่งเป็นนิยายคัลท์ๆเรื่องหนึ่งอ่ะมึง เอาใจความสาระอะไรไม่ได้ ตรรกะป่วงวิบัติแต่เสือกมีคนกลุ่มหนึ่งอวย อารมณ์หนังคัลท์แบบดึกดำดึ๋ย ผู้หญิงห้าบาปไรงี้
คัลท์ มีลักษณะเป็นอุดมคติของผู้สร้าง/กลุ่มผู้เสพเกินไป อาจเป็นไปในทางที่ดีหรือไม่ดีก็ได้
>>233 มาจากหนังคัลท์
https://th.m.wikipedia.org/wiki/ภาพยนตร์เกินวิสัย
https://writer.dek-d.com/soramumei/story/view.php?id=1552115 << มีใครลองสับยัง เดือนเดียวหมื่นกว่าวิว กูดูแล้วท่าทางจะเป็นแนวเด็กๆ ชอบ
นิยายแวมนี่ตัวพระเอกออกแนวโคตรหล่อตลอด ทำให้กูเห็นเลยว่าคนเขียนมีความคิดไง หลงตัวเองชัดๆ 555 แล้วก็จะมีสาวๆ มาตามกรี๊ดเสมอ โดยเฉพาะสาวหุ่นสะบึมๆ
>>244 มึงไม่รู้อะไรซะแล้ว ดราม่าเก่าๆ มันมีเยอะแยะมากมาย แต่ละเรื่องเหี้ยๆ ทั้งนั้น ตอนกูไปเล่นบอร์ดทันช่วงที่มันมีดราม่าลวนลามด้วยคำพูด จนเจอขู่จะฟ้องอนาจาร ไอ้หลับถึงขั้นแต่งกลอนสดไว้อาลัยส่งมันเข้าคุกเลยนะมึง แต่สุดท้ายคดีพลิกเพราะอีหนูคนนั้นเหมือนจะถอนแจ้งความ เหี้ยโคตรตลก มันมีการขู่จะฆ่าตัวตายโพสรูปปืนรัวๆ ด้วยนะไอ้สันดานนี่
แล้ววันนี้มีสับอะไรมั่งไหม
ทำงานกะดึกไม่มีเหี้ยไรอ่านเลย เดี๋ยวไปอ่านนิยายไอ้แวมแม่งดีแมะ
>>250 เรื่องที่ 1 เพลงเปิดเล่นอัตโนมัติ พื้นหลังโคตรตาลาย ไม่อ่าน
เรื่องที่ 2 น่าสนใจ เดี๋ยวจะลองอ่านแบบละเอียด
เรื่องที่ 3 ฟอนต์เละเทะ นิยายบทละคร (มีแต่บทคุยแทบทั้งตอน) ไม่อ่าน
เรื่องที่ 4 ใช้ คะ ค่ะ ค่า ไม่ถูกตั้งแต่ในข้อมูลเบื้องต้น ถ้าไม่มีอะไรให้อ่านจริงๆจะกลับมาอ่าน
เรื่องที่ 5 นิยายเด็กจูนิเบียวแต่ง ไม่อ่าน
เรื่องที่2 โอเคอยู่นะ ถ้าจำไม่ผิดมีคำผิดนิดหน่อย
>>252 กูลองไปอ่านตามที่มึงบอกละ ภาษาดีนะ ผิดน้อยด้วย แต่ไม่รู้ทำไมมันบ่นกับตัวเองเยอะเกินไป อีกอย่างผ่านไป 5 ตอน กูหาความเชื่อมโยงระหว่างบทไม่ค่อยได้เลย การตัดฉากมันข้ามไปข้ามมา ปริศนาของมันก็ยังไม่ดึงดูดเท่าที่ควร คือกูอยากรู้นะ แต่มันไม่ได้ชวนติดตามขนาดนั้น เพราะมันเว้นช่องว่างมากไป กูงงด้วยแหล่ะ จู่ๆ พระเอกดูคลิปแล้วเอาอิฐฟาดหัวคนร้ายนี่คือไร เข้าไปในมิติไซเบอร์ แล้วไปเจอโทรศัพท์ ละค่อยกด ล็อคอินอีกทีรึไง งงมากเลย มันไม่ต่อเนื่องอะเพื่อนโม่ง จากความอยากรู้ว่าเรื่องลึกลับมันคืออะไร เลยกลายเป็นความเซ็ง
จุดสำคัญของการเล่าเรื่องคือ มึงต้องทำให้ผู้อ่านอยากรู้ตอนต่อไป สร้างแรงจูงใจอะไรก็ได้ให้มันเปิดหน้าต่อไป เพราะถ้าทำแบบนั้นไม่สำเร็จ เป็นกอง บก. ของญี่ปุ่นใหญ่ๆ งานของมึงมีสิทธิ์ปลิวลงตะกร้าตั้งแต่หน้า 2 หมายถึงอ่านปกแล้วยังไงก็ต้องมีอะไรดึงดูดให้เข้าไปอ่าน แต่พอถึงหน้า 2 แล้วมันเฉยๆ งั้นๆ เค้าก็ไม่สนไง เรื่องนี้มีการวางปมให้สงสัยอยู่ก็จริง แต่การตัดฉากแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยทำลายอารมณ์นั้นวะ อ่านตอนท้ายๆ ก็มีอะไรหวือหวาอยู่บ้าง แต่ทำให้กูอยากอ่านต่อไปไม่ได้ เพราะมีคำถามค้างมาตั้งแต่ต้นเรื่องที่กูคิดแล้วมันไม่สมเหตุสมผล กูก็เลยตัดสินใจเท
ขอชม 2 ข้อ ตรงที่คำผิดน้อย และความยาวต่อตอนไม่สั้นเกินไป
ให้คะแนนแบบปรานีสุดๆ เอาไป 5 โม่งพอ หวังว่าจะไปปรับปรุงความเชื่อมโยงให้ดีขึ้นนะ
>>254 กูไม่งงนะ กูอ่านเข้าใจ พระเอกมันจะหาคลิปมาดูแก้เครียด ในระหว่างนั้นก็มีผู้หญิงโดนลวนลาม มันหันไปเห็นเข้า คิดเชื่อมโยงเสร็จสรรพ ฉุนขาด เอาอิฐทุบหัวแม่งแล้วไปเอาโทรศัพท์เขามากดด้วยความเผือก
แต่ก็ตามนั้นแล ยังไม่ดึงดูดมาก และกูค่อนข้างรำคาญจุดยาวเหยียดที่เหมือนเว้นไว้เติมชื่อสกุลนั่น
ตรงส่วนที่ไปเอาโทรศัพท์เขามากด เห็นคำว่าแอสการ์ด ตัวเอกควรเอะใจไรบ้างนะ แล้วก็ติตรงที่เอาข้อมูลมาแปะตรงหน้าแล้วในเรื่องไม่บอกกูเลยว่าระบบแอสการ์ดอันคืออัลไล บอกตามตรงว่าลืมและงงมากต้องกลับไปอ่านบทนำนางอีกรอบ
แต่เรื่องนี้กูอ่านต่อนะ ชอบการให้ความหมายเขา กูอาจจะไปเสนอหน้าสับให้เขาด่ากูเล่นในข้อความลับ ถถถถ
สาธุ
https://www.dek-d.com/writer/43678/
ถ้าเห็นอยู่ในธัญวลัย กูคงไม่คิดอะไร แต่พออยู่ในเว็บนี้กูปรับอารมณ์ไม่ถูกว่ะ ไม่เรตนะ แต่แบบ กูพูดไม่ถูกแฮะ รู้สึกเริ่มมีอคติกับเว็บนี้ตอนสตาฟมาตอบคราม่านิยายแปลนั่นแหละ
สมาชิกเด็กดีโชว์ควยผิด ทีมงานเด็กดีโชว์ควยกลับไม่ผิด
แม่งสองมาตรฐานนี่หว่า
ทีมงานแม่งหื่นเอง แต่ไม่ยอมรับความจริง
จากมู้ถกนิยายกลายเป็นเน็ตวอช
เรื่องอื่นกูอดทนอ่านไม่ได้มากพอจะสับอะ รอท่านอื่น ๆ พลีชีพ ถถถ
ช่วงนี้กูปัญหารุมเร้า เครียดๆ ไม่ค่อยได้เข้ามา ขอเฝดหน่อยนะ ไว้พอมีรมณ์จะมาสับเหมือนเดิม ฮิ_ฮิ
กูก็อยากสับนะ แต่บางเรื่องคือแบบ บทแรกก็ทำกูปิดทิ้งแล้วอ่า กูพ่ายแพ้แล้วจะให้ฝืนอ่านต่ออีกก็เสียเวลากู
กูหาแป๊บ เดี๋ยวเอามาสมทบ ให้พวกมึงเลือกสับ
https://my.dek-d.com/cherry-ann/writer/view.php?id=1540694
https://my.dek-d.com/domemanager13233/writer/view.php?id=1547598
https://writer.dek-d.com/kittikan111/story/view.php?id=1430201
https://writer.dek-d.com/audra/story/view.php?id=1541315
https://writer.dek-d.com/fuyuno-hirage/story/view.php?id=1474399
>>283 เพื่อนโม่งสับเลย แสกนมาระดับนึงแล้ว เชิญๆ
แบบนี้สิวะถึงค่อยน่าสับหน่อย
การหานิยายดีๆมาสับยากพอกับการ์ดแมงสาบทอง
เริ่มมีคนแปลนิยายเด็กดีเป็นภาษาอังกฤษแล้ว ในแง่นึงก็ดีนะ คนจได้รู้จักนิยายไทยมากขึ้น แต่แบบ เรื่องที่เลือกไปแปลเนี่ย.... เอาอันที่มันดูดีหน่อยไม่ได้เหรอ
>>300 คือมันแปลตามไทยเป๊ะๆอ่ะ มันไม่ได้เล่นคำแบบฝรั่ง ไอ้คนแปลเคยอ่านงานฝรั่งไหม (ไม่สิ ไม่เคยแหงๆ) การบรรยายแบบฝรั่งกับไทยมันไม่เหมือนกันนะเว้ย อ่านแล้วงงตั้งหลายประโยค อย่างเรื่องล็อกอินอะไรนั่น ประโยคที่ว่าทำไมกรุงเทพถึงไม่มีต้นไม้มาให้ร่มเงาบ้างนะ มันก็แปลเป็น Why doesn't Bangkok has tree to make shadow อะไรซักอย่างนี่แหละ มันไม่น่าเรียงยังงี้ไม่ใช่เรอะ อ่านแล้วติดใจชิบหาย
เซฮุนได้เกรดสี่ภาษาอังกฤษนะครับ มีไรถามได้
มีเรื่องดี ๆน่าแปลมั้ยล่ะ
เออเสริม กูเห็นมีคนแปลบารามอสเป็นอังดฤษลงเด็กดีอยู่นะ
วันนี้ครบกำหนดที่เว็บมาสบอกแล้ว มารอดูทิศทางกันทั้งนิยายบ้าน และนิยายแปล
จะหมด 15 แล้ว พรุ่งนี้เดี่ยวรู้ผล
มีอะไรรอสับมั้ย
สับเรื่องนี้หน่อย
เห็นสถาพรประกาศลิขสิทธิ์เรื่องทรราช กูนี่สตั้นเลย นึกว่าพวกห้องสมุดหรือแจ่มใสจะซื้อ แสดงว่าสถาพรจะเปิดไลน์นิยายแปลอย่างเป็นทางการแล้วสินะ
ปล.เรื่องท่านอ๋องกูเชียร์ให้แจ่มได้ไปว่ะ หรือสนพ.อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่สถาและห้องสมุด
สถาเริ่มลดนักเขียนไทยตั้งนานแล้ว นักเขียนบางคนโดนตัดเล่ม เรื่องที่มีฐานแฟนซื้ออย่างยาวนานพากันจบแล้ว เรื่องใหม่ นอกจากสามคน กัลฐิดา มาซาลัน วีรอนเดลนี้ไปยาก
เห็นพักนี้สถาชอบออกแบบบ็อกมาก
โซเคนโย ก็มา4เล่มจบ เหมือนกัน แต่ฐานคนเขียนคิวบิกน่าจะไปได้
เซวีน่า ออกภาคใหม่ต่อ
ส่วนโรเซเนีย ไม่ใช่วงในคงยากเดาว่ายอดเป็นไง
ถ้าอาศัยดูจากฐานebook ยังไม่เปรี้ยงเท่าสายแฟนตาซีรุ่นพี่ๆของสถา
ในเมพเห็นสายแฟนตาซีสายไทยนวหิมพานต์ขายดีอยู่มากกว่าคนอื่น
><327 เป็นวิธีโฆษณาป่าว วางไว้ที่เคาท์เตอร์เผื่อคนสนใจ แต่วางเฉยๆก็เกะกะเลยให้เป็นประโยชน์หน่อย 555
สับหน่อยดิ https://writer.dek-d.com/marshmallowshy/writer/view.php?id=1518846
ไม่นับเพลง
>>334 ถ้าตัดเรื่องเพลงที่กูไม่ชอบออกไป เรื่องนี้ก็ใช้ได้อยู่ พบคำผิดบ้างนานๆ ที อย่างคำว่า น่าด้าน**หน้าด้าน เรื่องภาษากูให้ผ่าน ส่วนการดำเนินเรื่องก็เนิบๆ เหมือนนิยายกลุ่มนิยายรักปกติ พึ่งจะแต่งได้ไม่เยอะ ที่เหลือคงเป็นความสม่ำเสมอของเจ้าของเรื่องเอง ว่าจะจริงจังแค่ไหนกับงานนี้ ถ้าลงเรื่อยๆ น่าจะมีคนตามเยอะขึ้น ดูจากรีดเดอร์ทั้งหลายที่ทะยอยเพิ่มขึ้น
คนนี้กูให้เยอะหน่อยเอาไป 7 โม่งเลย หัก 1 โม่งโทษฐานแปะเพลง บอกกี่ทีแล้วว่าวางหน้าต่างใหญ่ๆ ไว้ก็ได้ แล้วเขียนว่าเป็นเพลงประกอบ ถ้าสนใจก็ลองกดฟังดู มันดีกว่ายัดเยียดผู้อ่าน เผื่อบางคนต้องการสมาธิ
https://writer.dek-d.com/xyzclub2/story/view.php?id=1556715 เทคนิคใหม่ บรรยายยังกับ log ข้อมูล และด้วยพลังแนวตลาด ออนไลน์+ต่างโลก+พระเอกชื่อจีนทำให้บางคนคิดว่าเป็นนิยายแปล ทำให้วิวพุ่งปริ้ดดดด
พวกมึงอ่านแต่แฟนตาซีกันหรอวะ นิยายรัก กูควรไปเสือกห้องไหนดีล่ะ
จัดนิยายรักดี ๆ สักเรื่องมะ ถถถถ
กูไม่ชอบนิยายรัก เพราะส่วนใหญ่รับอิทธิพลจากเกาหลีมากเกินไป
นิยายรักในเว็บเด็กดอก พลอตซ้ำๆกันหมดเลยว่ะ พระเอกนางเอกนี่ นิสัยเหมือนกันแทบจะทุกเรื่อง ยิ่งพวกติดทอปนี่ ยังกับรวมเรื่องเสียว
สาเหตุนิยายรักไทยพลอตโหล่ซ้ำซาก เพราะคนเขียนส่วนใหญ่ไม่ยอมศึกษาความรู้ใหม่มาสร้างความแปลกใหม่ ไม่สิ ขนากูเกิ้ลก็ไม่ยอมหา ญาติกับคนไทยอ่านไม่เกิน 3 บรรทัด
วิวัฒนาการชื่อนิยายเด็กดี ไอ้สัส ภาพแม่งลอยมาเลย https://www.dek-d.com/board/view/3712342/
กูหมดหวังกับหมวดรักหวานแหววมาก
อันนี้คุ้ยมาจากซึ้งกินใจ(นับว่านิยายรักแหละใช่มะ :v ) พวกมาเฟีย เล่สวาท ซาตาน บลา ๆ เยอะฉิบหาย พล็อตซ้ำโคตรเยอะจริง ที่กูเลือกมาคือดูจากชื่อ และภาษาโอเค ถถถ
https://writer.dek-d.com/maii-sakiya/story/view.php?id=1511884
https://writer.dek-d.com/angkalung/story/view.php?id=1437544
หมวดรักดราม่า แทบไม่ต่าง กูพยายามสุด ๆ แล้วที่จะหาอันที่มันดูเข้าเค้า ได้มา "ตั้ง" เรื่องหนึ่ง และอันนี้กูเชียร์เลย ถถถ ไม่ดีมาก แต่จัดว่าดีอยู่ และแปลกดี (หรือเพราะกูไม่ดูเมะเรื่องที่มันยกมาก็ไม่แน่ใจ)
https://writer.dek-d.com/shinnarat/story/view.php?id=1551465
หมวดรักคอเมดี้ ไม่รู้ค่ะ ไม่ใช่แนว และกูยังไม่ขำกับเรื่องไหนในนั้น
หมวดรักสีเทา... เทาเหี้ย สัตว์ มีแต่ชื่อเร่องส่อ ๆ กูข้ามนะ ไม่อ่าน ถถถ
เท่าที่กูดู กูโอเคแค่นี้จริง ๆ เปิดไปสิบหน้ากว่าจากห้าหมวดกูได้มาเท่านี้แหละ ไม่สันทัดแนวนี้หวะ
แค่เห็นชื่อก็ไม่อยากกดอ่านละ เบียวแหงๆ กูล่ะเบื่อพวกชอบตั้งชื่อโต้งๆงี้จังเลยว่ะ
กูสงสัยว่าหมวดรักสีเทานี่มันเป็นแนวไหน
เออ แล้วนิยายที่เว็บแนะนำดีไหมวะ กูเคยเข้าไปตอนที่เอานิยายมาเฟียมาแนะนำ แม่งกะโหลกกะลาชิบ
มีประเด็นอะไรบ้างเพื่อนโม่ง?
หนังสือนิยายใน 7-11 มีค่าแค่ที่ทับกระดาษ
https://writer.dek-d.com/intention-artist/story/view.php?id=1538127
สนุกดี แต่ย้อนยุคจีนนะ
อ่านมามันวายตรงไหนวะ
>>369 เอ่อ กดส่งพลาดไป
คือเราหน้าใหม่อ่ะ อ่านทั้งวายไม่วาย
แมร่งเรื่องนี้ตอนแรกว่าจะผ่านนะเบื่อจีนย้อนยุคกลับชาติมาเกิด แต่เปิดอ่านแล้วคำผิดน้อยมากเลยอ่านต่อ
เรื่องอ่านเอาเพลินๆ ทั้งปมทั้งพล็อตไม่ได้ซับซ้อนมาก
ยังไม่เห็นว่าจะมีเรื่องความรักอะไรสักกะนี้ด
ไม่แน่ใจว่าจั่วหัว yaoi มาทำไมว่ะ ไล่แขก?
ใครรับแนวนี้ไม่ได้ผ่านไปเลยดีกว่าเผื่อมีมาจริงๆ
คือสรุปรวมว่าเป็รเรื่องของอีสาวนักบัญชี ตายแล้วเกิดใหม่เสือกไปเป็นม้าตัวผู้ แล้วสุดท้ายก็ทิ้งไปแม้แต่จิตสำนึกของมนุษย์ ประมาณนั้น
หรือเรื่องนี้กูควรแปะห้องสาววายวะ
ใครที่เคยถามหารูปบ็อกซ์โรมาเนียรองคอม กูหาเจอแล้วนะ โดยบังเอิญ ไปตอบมู้แล้วเลื่อนเจอพอดี 555
https://fanboi.ch/literature/3089/104/
เอาชื่อเกมดังมาหากินก็ได้เรอะ https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1542902
นอกจากจะเอาชื่อมา ยังทำออกมามุ้งมิ้งอีก กูปวดซีรีบรัม
น่าจะยังนะ ไม่แน่ใจเหมือนกันแฮะ
ท๊อปเด็กดีเขาจัดยังไงวะ บางทีก็เห็นมีเรื่องวิวน้อยๆโผล่มาแทรกเอาดื้อๆซะกลางเดือนงี้
Slow forest
ป่าช้าจัง
มัวแต่ไปมุงดราม่าบิงซูกันหมด
มึงดูมู้โฆษณานี้ แค่ชื่อเรื่องกูก็มองบนแล้ว
'-') แบบนี้ก็ได้เหรอ
มึง พระเอกที่หักหลังนางเอกไปเป็นตัวร้ายจะมีสิทธิ์กลับมาเป็นพระเอกเหมือนเดิมได้ป้ะ
https://www.dek-d.com/board/view/3713908/
เอามาแปะนิยายไม่ติดท๊อป เห็นฝากๆ กันเรื่องไหนพอได้บ้างวะ สถานะตอนนี้คือกูกำลังแสกนอยู่
Merry Christmas นะพวกมึง
ลงชื่อ เซฮุน
เกรงว่าคนสับหนีเที่ยวกันทุกคน จะสิ้นปีแล้ว
แหม เพิ่งขุดเจอ ช่วยวิจารย์เรื่องนี้หน่อยดิ มีแค่สามตอนแถมดองตั้งแต่ปี56ก็จริง แต่กูอยากรู้ว่ามันเขียนดี อ่านง่าย เหมือนที่มีคนอวยมั้ย อิอิ
>>412 จากการส่องบทนำแบบผ่าน ๆ สองสามรอบ
ในแง่ว่าอ่านเข้าใจง่ายมันข้าใจง่ายอยู่ เน้นบรรยายทางกายภาพเป็นส่วนใหญ่ สั้น ๆ ค่อนข้างห้วน จัดว่าทำดีอยู่ แต่ความรู้สึกตัวละครยังดึงออกมาได้ไม่มาก และยังใช้คำไม่หลากหลายนัก บางย่อหน้าแปลก ๆ เขียนวกไปวนมาบ้างเป็นบางช่วง
ไม่รู้ว่าความยาวแต่ละตอนเท่ากันไหม แต่บทนำสั้นมาก ถถถถ
เดี๋ยวกูแก้งานเสร็จแล้วจะมาสับดี ๆ ให้สักทีนะ
ตอนนึงค่อนข้างสั้น บรรยายอ่ะดี แต่ใช้คำฟุ่มเฟือยหลายจุด สกิมผ่านๆ มีหลายที่เลย อ่านแล้วสับสนวะ มันข้ามไปข้ามมาเกินไป
ไม่มีใครสับ งั้นขอถามความเห็นยังไงกับมู้นี้
https://www.dek-d.com/board/view/3713253/
>>418 กูว่าคำถามมันตลก กระทู้แบบนี้มีมาตลอด พอๆกับพวก "จะเขียนนิยายแนวไหนดีคะ" "นิยายแนวไหนที่ชอบอ่าน" นั่นล่ะ คือมันเป็นปัจเจกน่ะ คนนี้ชอบคนนั้นไม่ชอบ
ที่ตลกอีกอย่างคือ ในกระทู้นี้มีคนตอบว่าแนวที่ไม่ชอบคือฮาเร็ม พระเอกเทพทรู แต่ถ้าสมมติ จขกท. ไปตั้งอีกกระทู้ว่า "นิยายแนวไหนที่คนอ่านเยอะๆคะ" ก็จะมีคนมาตอบว่าฮาเร็ม กับพระเอกเทพทรูเหมือนกัน
ตามนั้น ถถถ
มันเป็นที่นิยมคนเลยแต่งเยอะ พอออกมาเยอะมันก็เลยเบื่อมั้ง กุก็เอียนนะเวลาอ่านไปหลายเรื่องแล้วเจอ pattern เดียวกันหมด ยิ่งอ่านของจีน ของญุี่ปุ่นมาก่อนนี่ กลิ่นแรงบันดาลใจหึ่งเลย อย่างน้อยก็น่าจะพยายามให้ดูเนียนๆหน่อยไม่ใช่ว่าอ่านปุ๊บ ฉากของนิยายอีกเรื่องโผล่เข้ามาในหัวเลย
มาต่อ สับนิยายตาเอก เนื่องจากกูยังไม่หมดสิ้นเวรกรรมกับงาน ขอแบบมาไวไปไวแล้วกัน ถถถ
เหมือนอย่างที่กูว่าไปก่อนหน้านี้ เพิ่มเติมคือการเว้นย่อหน้าแปลก ๆ บวกกับเว้นวรรคที่แปลกไม่แพ้กัน
ไม่ใช่ว่าพี่แกเขียนติดกันเป็นพืด แต่เว้นเยอะเกิน เช่น "ตุ๊กตาที่เธอไม่อยากได้ จากมือเขา" หรือตรงที่บอกว่ามีเสียงฝีเท้าอะไรสักอย่างแล้ววรรค "เคลื่อนที่เร็ว" กูว่ามันแปลก ๆ นะ เหมือนแยกส่วนประโยคกับส่วนขยาย ซึ่งจริง ๆ มันควรอยู่ด้วยกัน
การย่อหน้า ที่เห็นได้ชัดคือตรงที่บรรยายวงดนตรีนักแคสเกม ถถถ คือติดมากกกก ติดกันโคตร ๆ คือเว้นลงมาย่อหน้าละคนสองคนก็ได้ครับ
มุมมองบุคคลยังมีบางย่อหน้าใช้สับสนอยู่ ที่เห็นชัด ๆ เช่น
จากบทที่หนึ่ง "...เวย์ดันตัวเองขึ้นจากที่นอน ตรงไปยังห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ร่างสูงกำลังยืนส่องกระจก..." ตรงส่วน "...เวย์ดันตัวเองขึ้นจากที่นอน ตรงไปยังห้องน้ำอย่างรวดเร็ว..." เป็นส่วนของเวย์ ส่วน "...ร่างสูงกำลังยืนส่องกระจก..." ดูจะเป็นมุมมองบุคคลนอกมากกว่า ซึ่งถ้ายกตั้งแต่ "...ร่างสูงกำลังยืนส่องกระจก..." ไปไว้อีกย่อหน้าจะโอเคกว่า ไม่งั้นก็เปลี่ยนร่างสูงเป็น "เขา"
การใช้คำยังไม่หลากหลายมาก การเลือกตัดคำ ตัดประโยคให้สั้นยังทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ทำให้บางประโยคชวนงง
อารมณ์ของเรื่องยังสื่อออกมาได้ไม่น่าตื่นเต้นพอ บรรยากาศของเรื่องค่อนข้างน้อย
แล้วก็คำผิดไม่มี จะมีก็แต่ภาษาพูด "มั้ย" เอาตามตรงกูไม่หนับหนุนให้ใช้นะ แต่ก็ใช้ได้ เพราะมันอยู่ในอัญประกาศ
พอจบ ชมบ้าง ก่อนกูลืม ถถถ
เดินเรื่องค่อนข้างเร็ว บรรยายห้วนดี
(หมายเหตุ* กูเกลียดร่างสูง ร่างบางไรพวกนี้จริง ๆ ให้ตายเถอะะะะะะ)
กุkyหน่อย ในที่สุดลาสก็มาแล้วววว กุรอมาเกือบเดือน ปลื้มปลิ่ม
>>432 https://writer.dek-d.com/tongfar/story/view.php?id=1368677
ถึงบางบทจะน่ารำคาญและบรรยายไร้สาระเยอะไป แต่ก็ดีที่สุดในสายแฟนตาซีตอนนี้แล้ว
>>431 MSOกูยังไม่มาเลย จะสิ้นปีแล้วเนี่ย
ไหนใครบอกนิยายแสนวิวไม่มีดีไงวะ
>>434 แนวการเขียนของท้องฟ้าที่กูคิดว่ามันทำได้ดี หรือจะว่าเป็นเอกลักษณ์ของมันคือ time skip โดดไปข้างหน้าได้ดี เนื้อเรื่องก็ไปไว 50 ตอน ผ่านไป 10 ปีก็ไม่น่าเกลียด แต่ตอนนี้มันดันติดนิสัยบรรยายมากขึ้น เรื่องเก่าอย่าง ALL Online จะบรรยายน้อยกว่า แต่บทนึงจะให้ความรู้สึกว่าเป็นบทสรุปมากกว่านิยาย ตอบโจทย์ what when when who how why ได้ แต่ก็ไม่ค่อยคิดว่ามันเป็นนิยายเท่าไหร่
จะว่าเป็นเอกลักษณ์ก็คงได้มั้ง อย่างแดน บราวน์อ่านแล้วเหมือนดูหนังฮอลลิวู้ด กูเข้าใจว่าเขาออกแบบงานเขียนตัวเองให้ไปทางนั้นด้วย ง่ายต่อการทำหนัง ส่วนของท้องฟ้าจะให้ความรู้สึกเหมือนเวลามีคนมาสรุปอะไรให้ฟัง สาระอยู่ครบแต่ไม่รู้สึกเชื่อมกันเป็นเส้น มันเป็นเหมือนจุดที่ให้เราเติมเองมากกว่า ถึงตอนแรกกูจะไม่ค่อยชอบ แต่ไปๆ มาๆ ดันชอบการเขียนแบบนั้นมากกว่าตอนนี้อีก
>>433 แต่ยอดขายอาจได้อีกแบบ ต้องลงขายจริงถึงรู้ว่าเป็นยังไง
กูหมายถึงจะมีแฟนคลับยอมซื้อเท่าไร
MSO เป็นตัวอย่าง ปล่อยให้อ่านฟรีนานเกิน ผลเห็นชัด ยอดขายไม่ไป
ของท้องฟ้ายิ่งปล่อยนาน ถ้าย้อนกลับมาตีพิมพ์จริง คงยากทำยอด
ปล.กูมองมุมเรื่องธรุกิจนะ ของสดๆจึงกระตุ้นให้คนซื้อได้ดีที่สุด ยิ่งช้ายิ่งโรย กูเห็นมาหลายเรื่องมากแล้ว
>>439 ใช่แต่ยังไม่พอไง
มึงสังเกตปกหนังสือนิด จะเข้าใจได้เลยว่าสยามทำเหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไรเลย
คล้ายอยากเปิดขึ้นมาตามกระแสเกมออนไลท์ยุคนั้น แล้วพอทำยอดไม่ดีก็ยุบ
กูเห็นปกแล้ว โครตเสียหายแทนจริงๆ มันไม่ชวนให้ซื้อมาเก็บเลยสักนิด
รอให้หลุดลิขสิทธิ์ก่อน ให้คนเขียนเอามาทำเองอาจจะดีขึ้น
แต่ปัญหาคือ
คนเขียนต้องเลือกว่าจะให้แฟนคลับชมต่อไปในการเปิดอ่านฟรี
กับการปิดตอนแบบปกติที่คนขายนิยายยุคนี้เค้าทำกันถึงจะขายได้
คนเขียนต้องเลือกสักอย่าง จะเอาคำชม หรือ จะขายให้มีรายได้
แต่ถ้าไม่สนใจก็เรื่อยๆ ต่อไปแบบนี้แหละ
ปล.กูเลยเฉยๆ กับคำชมในเรื่องนี้ เพราะยังต้องพิสูจน์ว่าลงขายจริงจัง ไม่เปิดให้อ่านฟรี จะเป็นยังไง
เช่นเดียวกับเรื่องอื่นๆ ไปถึงจุดที่ทำรายได้ให้นักเขียนยืดอกได้ กูถึงคิดว่าผ่านเกณฑ์ปกติของนิยายอ่านสนุกได้
>>441 เรื่องยอดขายอย่าเทียบสมัยในช่วงรุ่งเรืองตอนนั้น กับ ยุคตกต่ำสมัยนี้
แฟนตาซีให้แน่จริงในตอนนี้ ยังไงไม่เกิน 2000-3000 เล่ม สำหรับพวก สนพ.
ทำมือตัวท็อป 500-1000 กว่าเล่ม สำหรับสายนี้ ดีที่มันขายได้เรื่อยๆ เท่านั้น
ปัจจัยคือคนรุ่นใหม่ซื้อน้อยลงเยอะ เทียบไม่ได้กับสมัยก่อน
ตอนนี้พวกพิมพ์กับ สนพ. ผ่านหลัก 1000 กว่าเล่มไปได้ก็ถือว่าเยี่ยมแล้ว แต่บอกตรงว่าช่วงนี้หายาก ถ้าไม่ใช่ตัวท็อปในสายจริงๆ
ขอถามนอกเรื่องหน่อยนะ ถ้ามียอดแฟบนิยายซัก 200 กว่าๆ นี่ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ ได้รึยัง เข้านั้นประมาณนิยายทั่วไปที่พออ่านได้แต่ไม่ปังมั่งไหม
ยอดเฟบ ยอดเม้น ยอดวิว ยอดลูกหาบ ไม่บอกเท่ากับยอดขาย มึงขายได้ 2000-3000 ก่อนค่อยตีหน้ามั่น
ยอดวิวกับแฟ่บเยอะแค่ไหน ยอดขายน้อยกว่ามันมาก ขาดทุนอยู่ดี
>>450 ถ้าไม่ตั้งจุดหมายอะไรไว้ ปกติการเขียนอาจไม่มีพลังหรือการพัฒนาเท่าไร
ประมาณคนเราต้องมีแรงจูงใจ ในการสร้างผลงาน
ใช้การตั้งเป้าหมายเอาไว้ เช่น อยากจะส่งสนพ. อยากมีงานขายได้ในคนยอมรับ เป็นแรงผลักดัน
นอกจากเป็นอารมณ์ศิลปินไม่สนใจอะไรก็จะเป็นอีกแบบ
แต่พอจะถามถึงการวัดผล สุดท้ายจริงๆก็ไม่พ้นต้องได้ตีพิมพ์หรือขายทำมือให้แฟนคลับของตนได้
นั่นถึงแสดงการมีคนยอมรับในระดับหนึ่งของงานเขียนเรา
เห็นกระทู้นี่
https://www.dek-d.com/board/view/3714650/
แฟนคลับ 200 กว่าคน เขียนเสร็จลง e-book และต่อยอดทำมือเอง
ส่องในเฟสเห็นบอกได้เลยครึ่งหมื่นกับยอดebook คำนวณก็ราวๆ 30 กว่ายอดโหลด
นี่เป็นการพิสูจน์ความตั้งใจของคนเขียนที่เขียนจนสำเร็จจบเรื่องหนึ่งๆ
กุลืมอีกแล้วววว อยู่ในหมวดแฟนตาซี
>>458 แล้วพวกมึงก็มาบ่นกันว่า โอ๊ย ในเว็บมีแต่นิยายกากๆ เรื่องที่ได้พิมพ์ก็กาก ไม่รู้ว่า สนพ. ตาต่ำไปเอามาได้ยังไง เออนั่นล่ะ ก็ช่วยเข้าใจกันหน่อยนะว่าไม่ได้อยากผลิตงานกากๆ ขายงานกากๆ หรอก แต่กลุ่มลูกค้ามันกาก มันชอบแบบนี้ เขียนเริ่ดไปแม่งไม่อ่าน พล็อตล้ำไป บก. แม่งหาว่าขายไม่ออก เขาก็ต้องเขียนกันแบบนี้ ขายกันแบบนี้ กลุ่มลูกค้าแม่งก็เป็นแบบนี้ และมีแนวโน้มว่าจะยิ่งชอบเสพอะไรที่มันง่ายๆแบบนี้ (และง่ายกว่านี้) ไปอีกนาน
ระบาย
>>459 555+
แต่สำหรับกูไม่เคยบ่นนะ
กูมีมุมมองหลุดพ้นเรื่องนิยายดี ไม่ดีแล้ว ประเภทโลกสวยไปตั้งนานแล้ว
สำหรับกูมีแค่ อ่านสนุก กับ อ่านไม่สนุก
และทำให้กูซื้อได้ กับ กูไม่ซื้อ
สิ่งนี่แหละ ชี้วัดระดับนิยายในความคิดกู
ปล.บอกก่อนสไตล์กูอ่านแต่แบบสุขนิยมเท่านั้น แบบบ้านๆ ทั่วไป เลยไม่คิดเรื่องสำนวน แง่คิด สะท้อนสังคมอะไร ขอแค่สนุกพอ
>>460 มึงก็เป็นหนึ่งในกระบวนการที่ทำให้นิยายในตลาดแม่งมีแต่ไอ้พวกนี้ยังไงล่ะ
แต่ถ้าพูดกันตรงๆ ถึงนิยายในเว็บ ก็ต้องบอกว่ากลุ่มลูกค้าของมันก็เป็นพวกฉาบฉวยอยู่แล้วอะนะ คือไม่ได้จำกัดแค่ว่าต้องเป็นเด็กๆ มันรวมไปถึงคนที่สามารถอ่านงานยากๆเข้าใจ แต่รู้สึกสบายใจที่จะอ่านงานเบาสมองมากกว่า คือไอ้นิยายในเว็บเนี่ยมันเปิดอ่านง่าย แค่หยิบโทรศัพท์มากดๆ ก็ได้อ่านละ แถมเกือบทั้งหมดก็เป็นนิยายที่ยังเขียนไม่จบ ถามตรงๆว่าจะมีไอ้บ้าที่ไหนอยากอ่านนิยายแบบจริงจังแต่เสือกมาหาดูในเด็กดี ประเภทเปิดเรื่องมาพระเอกเป็นง่อย พ่อตาย แพ้ตัวร้ายตลอด กากเดนชิบหาย ดูยังไงก็ไม่มีวันเจริญ อ่านมาถึงตอนล่าสุดก็มีแค่นี้ ไล่ดูประวัติคนเขียน อีสัส อัพเดือนละตอน
ถ้าจะอ่านนิยายในเว็บ กูก็อยากจะอ่านแบบพระเอกซูๆเหมือนกันนะ ไม่ต้องมีดราม่าอะไรให้มันมากมาย พระเอกเก่งเทพ มีของเทพๆ อีเวนท์ต่างๆก็เอื้อให้พระเอก ตัวโกงก็มีมิติแบนๆ เกิดมาเพื่อโกง แถมถูกลดไอคิวให้เหลือเท่าลิง พระเอกจะได้กระทืบให้สะใจหน่อย ที่สำคัญคือต้องมาอัพบ่อยๆ อย่าให้ขาดช่วง อยากดูพระเอกโชว์เกรียนไง สบายอารมณ์สัสๆ
แต่พอกูปิดนิยายออนไลน์ ตั้งใจว่าอยากจะหาวรรณกรรมดีๆ สักเล่มมาอ่านเพื่อเพิ่มพูนสมอง แม่งเสือกไม่มีเหี้ยไรดีๆให้ซื้อเลย หันซ้ายก็นิยายรักลากไปเย็ด หันขวาก็อีเหี้ย นิยายพระเอกซูที่กูติดตามอยู่ในเน็ตนี่หว่า ห่าเอ๊ย ช่วยเหลืออะไรที่มันจะยกระดับสมองของคนได้ไว้ให้หน่อยเถอะ
>>462 ปัญหาคือคนอ่านมากกว่าไม่ได้คิดอย่างมึงไง
เขาอ่านเพื่อความบันเทิง
ถ้าอยากยกระดับสมองมึงต้องไปมองพวกชนะประกวดนู๊น อันนั้นจะได้เพิ่มรอยหยักในสมองได้
นิยายในเว็บก็รู้ดีนี่หว่า คนเขียนเน้นความบันเทิง ไร้สาระ
กูก็ขำนะ มาหาสาระในนิยายทั่วไปที่คนเขียนเน้นบันเทิง โลกมันเลยกลับด้านไง ในความคิด
วัดนิยายจริงๆ ที่คนทั่วไปซื้อกันก็ได้ โลกความจริงเป็นอย่างที่รู้ๆ กัน นักเขียนบ้านเราเขียนตามๆ กันอยู่แล้ว
(อย่าวัดอันดับจากร้านหนังสือเน้อ อันนั้นเครือใคร หรือสปอนเซอร์ใคร เขาหนุนให้เอาไปวางบนยอดเด่นๆ ว่าขายดีพวกกันเองเป็นธรรมดา)
ลองดูเว็บ e-book meb ที่รวมรวมทุกค่าย สนพ. ทุกแบบจากยอดขาย หานิยายยกระดับสมอง มาสักเรื่องในหน้าแรกที่ขายดีให้ดูตัวอย่างหน่อยดิ
ในสายที่เพื่อนโม่งบอกว่าต้องไม่ซู ไม่น้ำเน่านะ อยากรู้จริงๆว่ามีมั้ย
เราจะไปประณามพฤติกรรมเสพย์ติดความสุขความบันเทิงไม่ได้หรอก ยิ่งเป็นสังคมที่เต็มไปด้วยฝูงแกะด้วยน่ะนะ ก็ทำตามอุปทานตลาดไปสิ แล้วมึงก็เอาเงินที่ได้มาไปทำประโยชน์ จบ
ต้องเข้าใจ เวลาสารในสมองมันหลั่ง จะมีกี่คนที่จะฉุกคิดวะ (ถ้าไม่ใช่คนเคร่งพุทธจัดๆน่ะนะ) แบบเฮ้ยกูมีความสุขเกินไปไหม การที่กูตะโกนสุโก้ยเนี่ยมันขาดสติหรือเปล่า ฟินเว่อ ใจสั่น น้ำเดิน ไม่มีหรอก
ถ้าผู้บริโภค ผู้อ่านเป็นผีปอป มึงก็ขายไส้ขายเครื่องใน ถ้าเป็นซอมบี้มึงก็ขายสมอง เป็นแมงดามึงก็เปิดไฟสีม่วง เป็นหนูมึงก็เอาชีสล่อ
รวยแล้วไม่มีใครว่ามึงหรอก ตอนนี้มันยุคทุนนิยม สู้ๆและสวัสดีปีใหม่
ลงชื่อ เซฮุน
สงสัย กูรำคาญเลย เปิดโลกทัศน์ใครบางคนสักหน่อย
เอาแบบระดับโลกเลยกันเลยดีกว่า
หนังสือขายดีที่สุด
ไม่นับ หนังสือศาสนา เทคนิคการเงิน(ทุนนิยมนี่หว่า) ประวัติบุคคล
มองดูชาวโลกเขาซื้อหนังสือนิยายแนวไหนอ่านกัน นิยมกัน
3 แฮร์รี่ พอตเตอร์ (Harry Potter)
4 The Lord of the Rings
5 ขุมทรัพย์ที่ปลายฝัน (The Alchemist)
7 Twilight – The Saga
8 Gone with the Wind หรือชื่อแบบไทย ๆ ว่า “วิมานลอย”
เห็นชัดเจนมั้ย ว่าโลกใบนี้เป็นยังไง
แบบขอขำส่งท้ายปีกับความคิดแปลกๆ หน่อย
>>473 มีคนเคยบอกงานดีไม่ได้แปลว่าจะขายได้ และงานขายได้ไม่ได้แปลว่ามันเป็นงานที่ดี ส่วนตัวกูเป็นพวกแต่งสนองนี้ดกูเลยไม่แคร์เรื่องรายได้(คือกูก็มีเงินพอตัว) อยากจะอินดี้ จะแหวก จะนอกกระแสยังไงก็ไม่เดือดร้อน ส่วนความจริงเรื่องคนชอบอ่านงานเบียว คนแต่งเลยแม่งแต่งอะไรเบียวๆ ออกมา มันก็เป็นไปตามนั้นแหล่ะ แล้วมันก็ยากจะกลับไปเป็นเหมือนก่อน ที่บางช่วง(ย้ำว่าบางช่วง)มีงานดีๆ ออกมาและมีคนนิยมชมชอบจริงๆ
ปัจจุบันอีลุ่ยฉุยแฉก อีลุงตุงนัง เป็นกะละมังก้นรั่วไปหมดทั้งคนอ่านคนแต่ง(ไม่ได้เหมารวมนะ แต่ส่วนใหญ่แม่งเป็นงั้นกันเยอะ)
นิยายจริงๆ มันต้องเน้นความบันเทิงเป็นหลัก
คำว่าดี ไม่ดี มันเป็นมุมมองของแต่ละคน สามารถบังคับให้คิดเห็นเหมือนกันได้หรือ?
เอาแค่วรรณกรรมเด่นๆ จากอดีตของทุกประเทศ มาคิดก็ได้
ไซอิ๋วที่สอนหลักผิดถูก เทพเด่นๆ อย่างเห้งเจียก็มีความซู มีอารมณ์ดิบทำลายล้างไหม
ความรักหอแดง เน้นโลกีย์ หรือสามก๊กยังนี้ เหล่าตัวเอกเน้นฉลาด มีซู มีโชคดีตลอดเวลา
ระดับยอดสุดของจีนแล้วนะ
ทางญี่ปุ่น มุซาชิล่ะ เน้นอะไร
ของไทยเรา ขุนช้างขุนแผน พระอภัย เจาะลึกก็เน้นปัญหาของผัวเมียตบตีกันมาตลอดไม่ใช่หรือ?
อินเดียก็รามายะณะ เน้นอะไร หนุมานเทพหรือซู มีบทรักเร่าร้อนขนาดไหน
ไม่ใช่ในปัจจุบันหรอก ในอดีต นิยายก็เป็นเรื่องบันเทิงมาตลอด
คนเราไม่สามารถตัดสินด้วย มุมมองหรือคติส่วนตัวได้หรอก
>>480 ตายละชิบหาย อย่างงี้กุต้องติดคุกปะวะ เยด ฝูงแกะ 5555 ไหนมึงบอกซิว่ามันด่ามึงตรงไหน โยงมาที่ตัวบุคคลยังไง?
อ่ะอันนี้กุใช้ตรรกะมึงนะ
มึงมีสิทธิ์มาว่าใครเดียงสาไม่เดียงสาด้วยเหรอ? มึงวิเศษมาจากไหนกัน
อย่าเอาศาสนามาอ้าง นี่ไม่ใช่ห้องศาสนา พาลจะโดนเหยีดเอาเปล่าๆ ประเด็นที่มันเขียนก็ชัดเจนยุแล้วแค่เรื่องแนวนิยาย การซื้อขาย demand supply มึงจะมองแค่ประโยค "ฝูงแกะ" อันเดียวจริงๆว่างั้น?
กูพึ่งรู้ว่าฝูงแกะคือคำด่า เปิดโลกทัศน์กูเลย
>>481
ต้องเข้าใจ เวลาสารในสมองมันหลั่ง จะมีกี่คนที่จะฉุกคิดวะ (ถ้าไม่ใช่คนเคร่งพุทธจัดๆน่ะนะ) แบบเฮ้ยกูมีความสุขเกินไปไหม การที่กูตะโกนสุโก้ยเนี่ยมันขาดสติหรือเปล่า ฟินเว่อ ใจสั่น น้ำเดิน ไม่มีหรอก
ถ้าผู้บริโภค ผู้อ่านเป็นผีปอป มึงก็ขายไส้ขายเครื่องใน ถ้าเป็นซอมบี้มึงก็ขายสมอง เป็นแมงดามึงก็เปิดไฟสีม่วง เป็นหนูมึงก็เอาชีสล่อ
รวยแล้วไม่มีใครว่ามึงหรอก ตอนนี้มันยุคทุนนิยม
...............................................................................................
ถ้ามึงยังไม่เข้าใจว่าถูกหลอกด่า กูหมดคำพูดแล้วจริงๆ
>>482 นี่เป็นคำเปรียบทางศาสนาจะได้เปิดสมองกันหน่อย
แกะเป็นหนึ่งในจำนวนสัตว์ที่ฉลาดน้อยที่สุด พวกมันอ่อนแอ และขี้ตกใจ วิ่งช้า และปกป้องตัวเองไม่ได้ นอกจากนั้นพวกมันยังต้องการการดูแลเอาใจใส่ตลอดเวลา รู้กันดีว่าแกะจะตามกันไป แม้มุ่งไปสู่ความตาย มีบันทึกว่าถ้าแกะตัวหนึ่งตกจากหน้าผา ตัวอื่นๆก็จะกระโจนตามลงไป
>>477 นิยายจริงๆ มันต้องเน้นความบันเทิงเป็นหลัก
ไม่เกี่ยวเลย ความคิดมึงแคบไป สื่อในไทยมันถึงได้มีแต่หนังตลก "สื่อ" ทุกอย่างเป็นเพียง "เครื่องมือ" ในการสื่อความ เช่นเดียวกับที่นักดนตรีใช้บทเพลงสื่อความหมายของตัวโน๊ต นิยายก็คือเครื่องมือในการแสดงออกถึงความคิดของคนเขียน ไม่ว่าจะบันเทิงหรือไม่ก็ตาม การจำกัดกรอบให้นิยายอยู่เพียงความบันเทิงจึงเป็นมุมมองที่คับแคบอย่างมาก
คำแนนำเวลาเขียนนิยายของไทย 90% ก็ไม่พ้นเขียนให้อ่านง่าย ใช้ภาษาธรรมดาไว้ก่อน ก็ไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่มันก็เป็นได้แค่การหยุดนิ่งไม่พัฒนาอะไรนั่นละ เพราะมองว่านิยายเป็นความบันเทิง ถ้าไม่บันเทิง=อ่านง่ายก็ไม่ใช่นิยาย ผลก็คือนิยายที่เห็นอยู่เต็มบ้านเต็มเมืองตอนนี้ละ
คำเปรียบทางศาสนาจะได้เปิดสมองกันหน่อย
แกะเป็นหนึ่งในจำนวนสัตว์ที่ฉลาดน้อยที่สุด พวกมันอ่อนแอ และขี้ตกใจ วิ่งช้า และปกป้องตัวเองไม่ได้ นอกจากนั้นพวกมันยังต้องการการดูแลเอาใจใส่ตลอดเวลา รู้กันดีว่าแกะจะตามกันไป แม้มุ่งไปสู่ความตาย มีบันทึกว่าถ้าแกะตัวหนึ่งตกจากหน้าผา ตัวอื่นๆก็จะกระโจนตามลงไป
>>500 ไอ้สัส มิน่าดิ้นจัง 555555ุุง555555555
มึงทำเหมือนตัวเองจะฉลาดทันคนไรงี้นะ แต่มึงเข้าใจผิดน่ะ ไม่แปลกใจเลยที่มึงดิ้นเพราะเรื่องแค่ฝูงแกะเนี่ย นี่ถ้าเซฮุนตัวจริงมันมาโต้กับมึงนะ กูจะมีอะไรเพลินๆให้อ่านเลย ไร้สาระดีนะ บันเทิงสุดๆ 5555555
และอีกอย่างนะ มึงตามเซฮุนไม่ทันหรอก
และเกี่ยวกับนิยายที่ขายได้จากนักเขียน ไม่เกี่ยวมุมมองเรื่องอื่นใด เน้นเรื่องนิยายที่เขียนขายจากการกระทู้ที่แนะนำการการ ebook ลองไล่อ่านดู
มา=มัน
กูพึ่งเคยเห็นคนกลายเป็นควายเพราะฝูงแกะ เปิดโลกทัศน์กูอีกแล้ว
พวกมึงนี่เถียงอะไรไร้สาระกันเจรง ๆ เลิกๆๆ ไปๆๆๆ
หึๆ กูว่ากูเขียนชัดเจนนะ คนธรรมดาปกติจะไม่เข้ามายุ่ง(เสือก) เกี่ยวกับเรื่องนี้หรอก มันมีอะไรต้องให้หงุดหงิดด้วยหรือ
ง่ายๆ ตอนนี้ใครออกอาการมาเป็น กูเดือดร้อน นี่ชัดเจน
หึๆ กูว่ากูเขียนชัดเจนนะ คนธรรมดาปกติจะไม่เข้ามายุ่ง(เสือก) เกี่ยวกับเรื่องนี้หรอก มันมีอะไรต้องให้หงุดหงิดด้วยหรือ
ง่ายๆ ตอนนี้ใครออกอาการมาเป็น กูเดือดร้อน นี่ชัดเจน
พวกมึงรู้จักกันอย่างนี้กูก็ต้องเป็นเซฮุนแล้วสิ
>>534 มึงก็ช่างหาเหาให้กูได้นะ ชิบหาย กูไม่เคยคอสเป็นเซฮุนเว้ย
แล้วมึงไม่ต้องแปลกใจ ไอ้แกะมันแค่มีความหมั่นไส้เซฮุนก็เท่านั้น เลยกะฉีกโม่งมัน แต่มันแค่ประเมินเซฮุนต่ำไปหน่อยอะนะ ตอนแรกกูกะเบลอมันไปละ แต่เห็นตรรกะกับการใช้คำของมันดูโง่ดี กูเลยอยากพิสูจน์ว่าโง่จริงมั้ยน่ะ
>>536 กูไม่ได้ประเมินอะไรในพวกมันเลยวะ เพราะเห็นมันมาหลอกด่าแล้วยังมีเม้นต่อๆมารับมันเป็นช่วงๆ และเน้นวนเวียนอยู่แต่คำพูดเดิมๆ
กูบอกแล้วไงคนธรรมดาจะไม่มายุ่งหรอก ถ้าไม่มีอะไรกระแทกเข้าไปในจิตใจมืดบอดของมัน
กูเดาต่อได้อีกมันเป็นคนที่ขาดความอบอุ่นทางบ้านขั้นรุนแรงถึงได้ทำตัวแบบนี้
เอาจิงๆกุคิดว่าความคิดมันเข้าท่าดีนะ คือแม่งก็ต้องขายให้ตรงจุดแหละ ถ้าขี้ขายได้มันก็ต้องขายปะวะ? แล้วจะให้ไปยกตัวอย่างนิยายดีๆแต่ทำเงินอย่างแฮร์รี่มางี้ เยดเข้ เหมือนมึงบอกบิลเกตแม่งเรียนไม่จบแต่เสือกรวยอ่ะ คือแม่งไม่ได้ดูเลยว่าอัตราคนเรียนไม่จบแต่รวย กับคนที่เรียนไม่จบแล้วนอนอยุข้างสะพานลอยอันไหนเยอะว่า
คือไม่ได้บอกว่านิยายจะต้องเหี้ย ต้องไม่มีสาระ แต่มองว่าคนเขียนไม่ได้เสกเงินขึ้นมาจากอากาศ
แล้วถ้าจะไม่ให้มีนิยายกากๆออกมามันก็ทำได้ แต่ต้องเริ่มที่ผู้บริโภาคเว้ย สาบานเลยว่าตอนกุอ่านเม้นมัน กุจับสาระได้แค่ตรงนี้จริงๆ ไอ้แกะห่าเหวอะไรเนี่ยมันสำคัญนักเหรอวะ?
หึๆ กูว่ากูเขียนชัดเจนนะ คนธรรมดาปกติจะไม่เข้ามายุ่ง(เสือก) เกี่ยวกับเรื่องนี้หรอก มันมีอะไรต้องให้หงุดหงิดด้วยหรือ
ง่ายๆ ตอนนี้ใครออกอาการมาเป็น กูเดือดร้อน นี่ชัดเจน
มึงเป็นเหี้ยอะไรต้องเม้นเยอะๆวะ รวบมาทีเดียวไม่ได้?
อ่อลืม มึงโง่
กุก็ฟีดโทรลยุได้เนาะ 5555555 เปลืองโรมมิ่งชิบหาย
หึๆ กูว่ากูเขียนชัดเจนนะ คนธรรมดาปกติจะไม่เข้ามายุ่ง(เสือก) เกี่ยวกับเรื่องนี้หรอก มันมีอะไรต้องให้หงุดหงิดด้วยหรือ
ง่ายๆ ตอนนี้ใครออกอาการมาเป็น กูเดือดร้อน นี่ชัดเจน
555+ กูว่ากูอยู่ที่นี้มาหลายปีนะ
หึๆ กูว่ากูเขียนชัดเจนนะ คนธรรมดาปกติจะไม่เข้ามายุ่ง(เสือก) เกี่ยวกับเรื่องนี้หรอก มันมีอะไรต้องให้หงุดหงิดด้วยหรือ
ง่ายๆ ตอนนี้ใครออกอาการมาเป็น กูเดือดร้อน นี่ชัดเจน
หึๆ ก่อนที่กระทู้นี่จะแยกตัวออกมา ย้อยกลับไปอีก
กูอยากรู้ว่าถ้าไม่ใช่คนธรรมดาปกติ มักจะเป็นลูกตุ๊ดมุดใต้กระโปร่งรอเมนออกให้เลียเหมือนอีแวมเหรอว่ะ
ตกลงพวกมึงจะไม่สับนิยายกันแล้วเหรอวะ?
อรุณสวัสดิ์เพื่อนโม่ง พอดีกูเพิ่งตื่น ทะเลาะเหี้ยไรกัน ตามอ่านแป็ป
ลงชื่อ เซฮุน
เรื่องการขายนิยายกันมั้ง
แต่สับนิยายไป ความจริงถ้าเจ้าของเรื่องเค้าไม่รู้ก็ไม่เกิดการพัฒนางานเขียนได้หรอก นอกจากเอาคำแนะนำไปบอกในคอมเมนเขาบ้าง แต่ปัญหาคือนักเขียนโครตอ่อนไหว ใครติหน่อยหน้าใหม่ๆ นี่รับไม่ค่อยได้ทั้งนั้น เลยมองว่ามาเถียงอะไรในนี่เสียเวลาเปล่าๆ อยากให้นข.ก้าวหน้าไปคอมเมนแซะในหน้านิยายเลยได้ประโยชน์กว่ามาทะเลาะไร้สาระในนี่
แถมวัดคุณภาพนข.ไปด้วยว่ามีใจเปิดกว้างได้หาไม่
เออ... เมื่อวานเราจำได้ว่ายังคุยกันเรื่องที่เรามาถามเรื่องการวัดระดับงานเขียนจากยอดแฟบอยู่ดีๆ วันนี้ไหงเปิดมามันกลายเป็นสงครามครูเสดไปแล้วล่ะเนี่ย (=_=') ต...ตามไม่ทัน
>>575 กูพยายามจินตนาการตามมันอยู่ว่าทำไมถึงต่อว่ากูมีมิจฉาทิฏฐิ ดื่มมัชฉะกรีนที แล้วเสือก หยิบ analogy คำเปรียบเปรย 'ฝูงแกะ' ของกูมาเล่นเป็นสงครามชิงกรุงเยรูซาเล็ม หาว่ากูยกตนข่มท่าน ทำตัวเป็นเทวดาจำแลงแปลงร่างลงมาเล่นโม่ง
กูว่ากูค่อนข้างเปิดรับมากนะกับความไม่รู้เรื่องรู้ราวของมนุษยชาติเนี่ย
แต่กูพอจะจับจุด จับใจความได้ว่ามันคือ 'อีโม่งหลายปี' อีสัด Happy New year 2017
ลงชื่อ เซฮุน ผู้ลืมเปลี่ยนไอพีในโม่ง
ตอนแรกไร้สาระ ต่อมาถกเถียง จบด้วยความจริงจังเรื่องปรัชญาเหี้ยๆ
>>574 อันนี้เห็นด้วย บางคนทนการปูเรื่องนานๆไม่ไหว ส่วนเรื่องที่กูเคยเข้าแซะในบางคนแต่มีชมสลับจุดดีไปด้วย เจอคนเขียนที่รับได้และแก้ไขบางจุดให้ สุดท้ายไปมาเรื่องนั้นได้รับตีพิมพ์จริงๆ เรื่องนั้นกูแซะเรื่องราชาศัพท์ กับการตัดบทเนื้อเรื่อง คำแทนตัวที่ดูมั่วๆอยู่ คนเขียนหน้าใหม่แต่ดูเหมือนอายุเยอะยอมรับปรับปรุง แล้วต่อมาเขียนดีขึ้นมาก
แต่ถ้าไปเจอแบบติเรื่องคำผิดนิดหน่อยไม่ได้เลยอันนั้นก็ไม่ไหวเหมือนกัน กูปล่อยเลยไม่ตามอ่านอีก
สมมติว่าคุณนุ้ยจำเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ มึงว่าเด่นชัยจะสามารถทำใจให้ลืมแล้วหันไปรักคนอื่นได้อีกปะวะ
กุอยากให้เด็กดีทำระบบหานิยายจากแท็กมากกว่าแฮะ ไม่ก็ให้ใส่หมวดหลักกับหมวดรองได้จะได้เลือกถูก.... ตอนนี้ตากุหลายจากการสกรีนนิยายหมดแล้ว
>>584 แท็กมีสองสามปีแล้ว แต่คนเขียนเสือกใส่แท็กไม่เป็น
จะปีใหม่แล้ว เลี้ยง KFC เลยมั้ย พ.ศ.2560 เป็นปีไก่นี่นา
แดกมังกรบาบิก้อนหน้าร้าน
ปีที่แล้วปีวอกนี่ ไปกินลิงที่ไหนมา
สับนิยายๆ
นิยาย Doombringer the 5th นี่เห็นดังมานานแล้วไม่มีสนพ. ไหนทาบทามออกหนังสือบ้างเลยหรอ
แทรกกลางวงหน่อยนะพวกมรึง
เดี๋ยวนี้มีนิยายที่เอาตัวเหี้ยเป็นสัตว์เลี้ยงด้วยว่ะ
https://my.dek-d.com/Trish/writer/view.php?id=1184132
มีใครเคยอ่านงานเฌอมามั่งวะ
เป็นไงๆ
เพื่อนโม่งอ่านนิยายเว็บของจีนกันป่าววะ กุอยากได้คนคุยกุเหงา
ในบอร์ดมีกระทู้นิยายดิสโทเปียโผล่มา 3-4 กระทู้แล้ว พวกมึงมีเรื่องแนวนี้ที่เด่นๆ แนะนำป่าววะ
แนวดิสโทเปียที่เด่นๆของเอ็นเธอร์คือ dear noir มั้ง จัดว่าใช้ได้เลยถ้ามองข้ามสิ่งที่โม่งเคยติ
>>613 มรึง กูไม่ชอบ dear noir อย่างเเรง คนเขียนแมร่งภาษาไม่เสถียร ตัวเอกโง่เกิน จับจุดหลักของเนื้อเรื่องไม่เจอ แล้วที่กูขัดใจมากที่สุดนะ คือคนเขียนแมร่งไปก้อปสุนทรพจน์ของเนลสัน แมนเดล่ามาทั้งดุ้น แล้วเอามาดัดแปลงเล็กน้อยแล้วให้ตัวละครเป็นคนพูด คือแบบมรึงเขียนนิยายนะเว้ย อย่าไปก้อบของคนอี่นมา ทุเรศว่ะ กูยังไม่เข้าใจเลยว่ากองบก.ปล่อยออกมาได้ยังไง
>>615 ก็อปและดัดแปลงคำพูด เนลสัน มันเดลดา มันไม่ผิดกฎหมายลิขสิทธิ์ไงมึง แต่มันก็ผิดเรื่องศีลธรรมและมารยาทนะ ยิ่งอวดอ้างว่ากูเขียนเองยิ่งสันดานเสีย
เอาจริงๆนะมึง ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนี่ ถ้ามึงค้นตำราเศรษฐศาสตร์ดีๆ ถึงไม่ใช่ชื่อ sufficient economy ตรงๆ แต่โมเดลนี้ มีคนคิดก่อนแล้ว และไม่ได้ผลด้วย
>>616 กู615 นะ คือคนเขียนเขาไม่ได้อวดอ้างว่าเขียนเอง แต่คนเขียนเขาก็อปมาทั้งดุ้นแล้ววงเล็บเล็กๆไว้ว่าดัดแปลงมาจากสุนทรพจน์ของเนลสัน มันเดลล่าอ่ะ อย่างงี้กูไม่รู้ว่าผิดกฏหมายมั้ย แต่กูเสียความรู้สึกในฐานะนักอ่านว่ะ ถ้ารู้ว่าตัวเองเขียนเรื่องใหญ่ขนาดนี้ไม่ได้ก็ไม่ต้องไปเขียน คนเขียนซื้อหนังสือมาเพื่ออ่านงานของคนเขียน ไม่ใช้สิ่งที่คนเขียนไปก็อปคนอื่นมา
แต่ขอออกตัวก่อนว่า เห็นด้วยเรื่อง ภาษาไม่เสถียร ตัวเอกโง่เกิน และจับจุดเนื้อหาไม่ได้ เมื่อกี้ไปอ่านมาหน่อยสองตอน
ลงชื่อ เซฮุน
อืมมมหรือว่าเทรนด์ใหม่ของแฟนตาซีจะเป็นแนวดิสโทเปีย แต่ถ้างั้นก็ค่อนไปทางไซไฟปะวะ
>>620 ยุคแนวโรงเรียน=แฮรี่พอตเตอร์ ยุคออนไลน์=ข้ามเพราะช่วงนั้นกุไม่ได้เล่นเด็กดี ยุคต่างโลก=ไลท์โนเวลญี่ปุ่น ยุคแฟนตาซีพลังปราณ จิต กำลังภายใน =นิยายจีนที่รับอิทธิพลต่างโลกของญี่ปุ่นมาดัดแปลงให้เข้ากับวัฒนธรรมตัวเอง
สรุปง่ายๆ แฟนตาซีในเด็กดีฮิตตามกระแสจากต่างประเทศทั้งนั้นแหละ
>>624 ต้องเข้าใจก่อนนะ ว่ากรณีนี้คือ แค่มึงเข้าใจผิด ไม่ใช่มึงทำบาปหรือละเมิดอะไรนะ
มึงก็ดูที่เจตนาของคนเขียนไง
(1)เขาไม่ได้แอบอ้าง อย่างที่มึงพูดมาคือ เขาก็อปมาดัดแปลง ซ้ำยังบอกที่มาชัดเจนว่ามาจากไหน ถ้าเขาทำให้มึงผิดหวังเพราะเขาไม่ได้คิดเอง กูว่ามึงใจแคบไปนิด ด่วนผิดหวังไปหน่อย
(2) มึงต้องเข้าใจก่อนนะว่า "น้อยคนที่จะมีประสบการณ์ตรงอย่างเนลสัน มันเดลล่า" นะมึง การที่คนเขียนได้อ่านค้นคว้ามาและรับการถ่ายทอดประสบการณ์มา แล้วเกิดอยากหยิบยก มีความตั้งใจที่จะส่งมอบ นั่นคือเขาได้อะไรบางอย่างมาแล้วนะ
ยิ่งไม่ได้แอบอ้างว่าคิดเอง บอกที่มาเสร็จสรรพ ให้มึงไปต่อยอดเอาเอง ว่าเนลสัน มันเดลล่า มันคือใครวะ กูว่ามันเป็นคุณูปการนะมึง
สรุปถ้าตรรกะการผิดหวังของมึงถูกนะ: มึงก็ต้องผิดหวังกับครูที่โรงเรียนทุกคนที่สอนมึงมาอ่ะนะ (อะนะ เพราะ อะ เป็นคำตาย ไม่มีรูปไม้เอก) เพราะอาจารย์ประจำวิชาของมึงทุกคนตั้งแต่มึงเกิดมา ก็ไม่ได้คิดเองทั้งหมดนะมึง
ลงชื่อ เซฮุน ผู้ลืมเปลี่ยนไอพี
>>625 มึง ขอบคุณที่มาตอบ กูเข้าใจสิ่งที่มึงคิดนะ แต่กูอยากให้มึงลองอ่านไปถึงตรงที่เขาก้อปคำพูดของเนลสันมาใส่ดู แล้วมึงจะเข้าใจเลยว่ามันOut of context มาก ความรู้สึกตอนกูอ่านถึงตอนนั้นนะ เหมือนคนเเต่งเป็นเด็กที่มีความพยายามจะใส่คำพูดสวยหรูลงไป แต่เนื้อหาและพล็อตไม่รองรับเลยว่ะ พวกประโยคพูดสวยหรูพวกนี้ ในเน็ตก็มีให้เห็นเยอะ มันหามาก้อปไม่ยากหรอกมึง มึงลองอ่่านให้จบนะ กูอยากรู้ว่ามึงมีมุมมองยังไงกับเรื่องนี้มาก เพราะกูว่าคนเขียนไม่ค่อยเข้าใจเรื่องการแบ่งชนชั่นหรือสิทธิความเท่าเทียมเท่าไหร่ ออกมาแล้วงานเลยเป็นแบบนี้ ปกติกูไม่ค่อยอ่านYAแต่เห็นเรื่องนี้เอนเทอร์ออกมาโฆษณาว่าเป็นดิสโทเปียนเล่มแรกของค่าย กูเลยสอนมาอ่านดู แล้วผลก็กลายเป็นแบบนี้
>>625 กูลืมบอกไปอีกอย่าง กูไม่เห็นด้วยเรื่องที่มึงยกเรื่องครูขึ้นมาพูดนะ ครูสอนสิ่งที่เป็นfact เป็นความรู้แก่เรา ครูไม่จำเป็นต้องรู้ทุกอย่างและไม่จำเป็นต้องคิดเอง เขามีหน้าที่เป็ผู้ถ่ายทอดความรู้ แต่ต้องรู้ลึกถึงสิ่งที่ต้องการจะสอนเรา อย่างให้อาจารย์แพทย์มาสอนคณะวิศวะก็คงไม่ได้แต่อาจารย์ก็จะรู้ลึกเฉพาะด้านที่เขาจบมา เราจะผิดหวังก็ต่อเมื่อจริยธรรมอาจารย์มันเสื่อมจัดหรือความรู้ที่อาจารย์สอนมานั้นผิดแล้วยังดึงดันสอนลูกศิษย์ต่อๆไป แต่สำหรับนักเขียน เราซื้อจินตนาการ ซื้อความคิดเขาว่ะ นิยายที่เขียนออกมาเกิดจากความคิดที่กรองออกมาเป็นคำพูดของเขา แน่นอนว่าเขาอาจจะมีการนำความรู้ที่มีมาเป็นพื้นฐานของเรื่อง เราจะไม่ว่าอะไรเลยถ้าคนเขียนค้นคว้าเรื่องของเนลสัน แมนเดอล่า มาอย่างดี ออกจะดีใจด้วยซ้ำที่เด็กไทยสมัยใหม่สนใจเรื่องพวกนี้ แต่กูไม่ชอบที่เขาก้อปมาแบบนั้น แน่นอนอยู่แล้วว่าคนเขียนคงไม่เจอประสบการณ์แบบเนลสัน แต่อย่างน้อยเขาก็น่าจะสามารถเขียนสุนทรพจน์ออกมาได้ ไม่ต้องดีถึงขนาดเนลสัน แต่แค่สามารถถ่ายทอดสิ่งที่คนเขียนคิดและมุมมองของคนเขียนก็น่าจะดูเป็นสิ่งที่ถูกต้องกว่า หากคนเขียนต้องการให้คนอ่านบองไปอ่านเกี่ยวกับเนบสันเพิ่ม เขาก็สามารถบอกกล่าวในคำนำหรือคำทิ้งท้ายก็ได้ ว่าเขาได้แรงบันดาลใจมาจากบุคคลเหล่านี้
>>627 จริงๆยกมาเลยก็ดีนะ หรือแปะลิ้งค์ก็ได้ เพราะกูไม่สะดวกตามไปดูว่ะ เอาจากที่มึงพูดมาละกันนะ ด่วนๆ
ถ้ามึงชี้แจงมาขนาดนี้ว่า (1) ประหนึ่งเด็กเขียน หยิบคำคมมาแล้วหลุดบริบท ขาดความเข้าใจอย่างถ่องแท้ และ (2) บรรณาธิการปล่อยปละละเลยอย่างที่มึงว่านะ มันก็เป็นความขาดๆเกินๆของวงการนี้ไง
อันนี้บรรณาธิการและสำนักพิมพ์อาจจะมองข้ามไป หรือ แม่งก็ไม่มีความรู้ด้านนี้กันทั้งหมด ถือเป็นความซวยซ้ำซ้อนเลยก็ว่าได้
จริงๆเจตนาดีก็ส่งผลร้ายได้เหมือนกัน คิดเสียว่าเป็นอุทาเห่าละกันมึง
เออใช้เหตุผลคุยกันแม่งมีอารยธรรม เอฮาเก็ตดีนะมึง
ลงชื่อ เซฮุน ผู้ลืมเปลี่ยนไอพี
ข่าวล่าช้าหลังปีใหม่
-กัลฐิดาออกเรื่องใหม่ Glodano's Tale คำเชิญจากผืนป่า เป็นเรื่องก่อนเซวีน่า
-demon bakery จบล่ะ
-ตุ๊ดทะลุมิติเล่มจบเดือนมีนาคม
-100 อันดับขายดี7วันล่าสุดหมวดวรรณกรรม ของse-ed แฮรี่กับนิยายรักแจ่มใสครองหลายลำดับ
-โซเคนโยโปรโมทเยอะดี
อ่า ยังไม่หลุดจากจักรวาลเซวีน่าอีกรึ หากินมากี่ปีแล้ววะ กูไม่เคยอ่านแต่สงสัยว่าออกแนวเดิมๆทุกเรื่องเลยป่ะวะ
เซวีน่า มันคือแฮรี่ พ๊อตเตอร์ภาคจีบหนุ่มใช่ป่ะ
ใครว่าง ลองสับหน่อยดิ กูไม่ง่าวแล้ว
https://writer.dek-d.com/nakarin0o/writer/view.php?id=1566978
ky ถามเพื่อนโม่งเล่นๆ เด็กดีและเว็บโนเวลควรจะมีระบบอะไรเพิ่มขึ้นดี
>>642 กูมั่วนะ ไม่ได้ลงนานล่ะ
ระบบที่เน้นแท๊ก แบบพันทิป
ระบบอ่านคอมเม้นย้อนหลังในหน้านิยายรุ่นเก่าที่ไม่อัพ
ระบบที่โปรไฟล์ของสมาชิกหน้าเล่นน่าส่อง และดูสะดวก มีช่องทางเข้าที่ชัดเจนไม่ปนกัน
ระบบแก้ไขคอมเม้นไหลลื่น
ระบบที่เพิ่มลดหรือปรับตัวอักษรหรือสีให้ดูอ่านง่ายสำหรับผู้อ่านบางคน
ย้ำอีกที กูมั่วนะ
เด็กดีขอแค่เอาไอ้ที่แต่งโค๊ดปรับธีม script css อะไรออกไปก็จะเป็นพระคุณแล้ว โคตรน่ารำคาญ บางคนแต่งซะจนไม่อยากจะอ่าน
นิยายดิสโทเปียที่พูดๆ กันความหมายเดียวกับอันนี้ป่ะว่ะ กูนึกถึงพวกเคนชิโร่ว่ะ
https://th.wikipedia.org/wiki/ดิสโทเปีย
เคนชิโร่ก็คล้ายๆ นะ
แต่โลกในนิยายดิสโทมันไม่จำเป็นต้องเป็นโลกหลังสงครามนิวเคลียร์แบบในเรื่องหมัดฯ หรือแบบแมดแม็กก็ได้ อาจเป็นทวีปที่โคตรแห้งแล้ง หรือโลกที่ถูกต่างดาวยึด หรือความผิดปกติอื่นๆ ที่ทำให้ผู้คนต้องอยู่อย่างยากลำบาก ไร้ศีลธรรมนำทาง ไม่มีขื่อมีแป กลุ่มนอกกฎหมายเป็นใหญ่ ทรัพยากรในการดำรงชีวิตมีจำกัด หรือถ้ามีอะไรดีๆ ก็จะมีเฉพาะฝั่งที่กุมอำนาจ แล้วอีกฝั่งก็จะถูกกดขี่ข่มเหง จนมีคุณภาพชีวิตต่ำกว่าสัตว์
นิยายดิสส่วนใหญ่เนื้อเรื่องมันคล้ายๆ กัน ถ้าไม่พวกโดนกดพยายามปลดแอกตัวเองสู่อิสระภาพ ก็เป็นทาสหนีออกจะที่คุมขังหวังจะไปใช้ชีวิตใหม่ในดินแดนอื่น ถ้าเป็นแนวมนุษย์ต่างดาว,สัสประหลาด,ไดโนเสาร์ ก็คือจัดการยานแม่ ฆ่าตัวนางพญา ทำลายรังของแม่งได้
พวกนิยายฆ่ากันอย่างฮังเกอร์เกมก็ถือว่าใช่ เพราะมีอันที่บอกไปเกือบครบ บางทีอาจเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับการกดขี่ แต่เป็นความเสื่อมถอยเกี่ยวกับความเป็นมนุษย์ จนต้องมาไล่ล่ากันเองเพราะค่านิยมแปลกประหลาด เหมือนหนังเรื่องพาวเวอร์ที่คนแย่งแบตเตอร์รี่กับแผงโซล่าเซลล์ เพราะโลกมันพังหลังทุกคนผ่าตัดเป็นกึ่งไซค์บอร์กกันหมด ใครแบตหมดก็อวัยวะล้มเหลวตายไรงี้
https://www.dek-d.com/writer/44016/
ตกลงยัยพี่หญิงนี่เป็นแค่สตาฟแน่เรอะ มีเขียนบทความสไตล์อตินด้วย
อาจจะอยู่ทีมเดียวกันล่ะมั้ง
กุเฉยๆนะ ยกเว้นอันดับสุดท้าย
แต่เอาจริงๆก็มีหลายเรื่องไม่ใช่เหรอ นอกจากถนนขาว
กูตลกที่แม่งพิมพ์ชื่อไวท์โรดผิดเป็น ไวท์โรส คือชื่อเรื่องแม่งก็อยู่บนรูปปกที่เอามาลงเว็บอะ เขียนผิดแบบนี้ไม่น่าให้อภัย จากถนนกลายเป็นกุหลาบเฉย
เหยด แนะนำนิยายบอกว่ารู้จักมานานแต่ดันเขียนชื่อผิดเฟสปาร์มชิบหาย
>>653 เคนชิโร่นั่นแหละดิสโทเปีย เคนชิโร่มีต้นแบบจากแมดแม็กซ์
>>655 อารยธรรมล่มจม ผู้หญิงโดนจับเป็นทาสกาม เด็กโดนจับมาใช้แรงงาน เมียพระเอกโดนเพื่อนสนิทฉุด พอไปช่วยก็โดนพี่ตัวเองฉุดอีก เห็นคนดีๆโดนฆ่าตายเป็นสิบๆรอบ ฆ่าพี่ร่วมสำนัก ฆ่าเพื่อน ดูเพื่อนตาย แม่งไม่ใช่แค่ "คล้าย" แล้วล่ะ มึงไม่เคยดูหรืออ่านก็บอกมา
>>653 >>669 >>670 เคนชิโร่เคยสปอนเซอร์มาก่อน https://www.youtube.com/watch?v=fzZM2ecbzyA
ซามูไรพเนจรมันดิสโธเปียตรงไหนวะ?
แหกตาซะ นี่คือเคนชิน https://www.youtube.com/watch?v=wuDZ7sbUYOs
กลับฝั่งหาสับนิยายต่อได้และสัส รออ่านพวกมึงสับนิยายอยู่นะ
มึงเลิกถามนะเคนชิน หรือโมโมทาโร่
ซามูไรพเนจร มันอิงประวัติศาสตร์ อ่อนๆ
ยุคนั้นมีความวุ่นวายในสังคม คือโลกไม่สวย ค่อนข้างดิสโทเปีย ไม่ใช่ยูโทเปีย ใช่จริง แต่มันจัดอยู่ในประวัติศาสตร์มากกว่า
ดิสโทเปีย เป็นสังคมในจินตนาการที่เน้นถึงความเลวร้าย นิยายไซไฟมีแนวนี้เยอะ แต่แฟนตาซีก็มีพอสมควร
หานิยายมาสับกันเพื่อนโม่ง
เห็นยกตัวอย่างดิสโทเปียแต่ละเรื่องมาแล้วรู้สึกสมเพช มีความรู้แค่นี้แต่เสือกอยากวิจารณ์นิยายคนอื่น
เรื่องโรงเรียนเยโลเมลเทียร์ที่ถอนออกจากรสต.จะได้ตีพิมพ์อีกรอบแล้วนะพวกมึง บิบิ
กรุว่านะ แนวดิสโทเปียที่ดังๆ คือแนวเรื่อง brave new world, 1984 ถ้าเป็นตามเมะยุ่นก็พวก shin sekai yori, psyco pass อะไรเงี้ย
พวก mad max หรือ เคนชิโร่ มันออกแนวโลกหลังสงคราม apocalypse มากกว่า
แยก Dystopia กับ Post-Apocalypse ไม่ออกยังมากระแดะวิจารณ์งานคนอื่น ไปเสิร์ชกูเกิ้ลดูเลยไป แต่ถ้ามึงใช้เกิ้ลไม่เป็น กูก็ใจดีเอามา feed ให้นะ Dystopian fiction tends to focus on character vs. society, whereas post-apoc often leans toward character vs. nature or character vs. character. แยกออกยัง ที่พวกมึงพ่นๆกันมาเนี่ยมันใช่ไหม ใช้หัวหรือหนังหุ้มปลายคิดวะ ทำไมถอกออกมาถึงเจอแต่ขี้เปียก
>>697 มึงก็เกินไป ไม่จำเป็นต้องเปิดวอร์กันก็ได้ แค่ช่วยเปิดสมองให้ชาวโม่งก็พอแล้ว
https://www.dek-d.com/writer/33569/
https://www.dek-d.com/writer/35801/
กูคิดถึงแอดมินคนนี้จังวะ สมัยนั้นมีแต่บทความสาระล้วนๆ อ่านเพลินดี
>>698 คือการที่ตัวละครต้องต่อสู้กับโครงสร้างทางสังคม เช่น ใน 1984 ตัวเอกต้องต่อสู้กับการปิดกั้นและการควบคุมของรัฐ ที่บงการทุกอย่างแม้กระทั่งภาษาและความคิด ส่วน Post-Apocalypse ก็อย่างเช่นตัวเอกต้องเอาชีวิตรอดท่ามกลางสภาพอันเลวร้ายของโลกหลังจากเกิดสงครามนิวเคลียร์ หรืออาจต้องสู้กับความปลิ้นปล้อนของเพื่อนมนุษย์ เช่น the walking dead
>>701 ก็ไม่จำเป็นเท่าไหร่ เกมลูกแก้วก็อาจนับเป็นดิสโทเปียได้ถ้าอยากนับ โดยหลักแล้วมันก็แค่แสดงให้เห็นโลกที่เลวร้าย ไม่ว่าด้านใดด้านหนึ่ง และการตีวามก็เป็นสิ่งสำคัญมากอย่างหนึ่ง
อย่างนิยายเรื่องหนึ่งกล่าวถึงเมืองในอนาคตที่ทุกคนมีความสุขสมบูรณ์ แต่ต้องแลกด้วยการให้เด็กผู้หญิงคนหนึ่งแบกรับโชคร้ายทั้งปวงไว้ ซึ่งชาวเมืองทุกคนต้องยอมรับเรื่องนี้ด้วย เรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตีความว่าเป็นดิสโทเปียหรือยูโทเปีย แม้แต่ยูโทเปียของมอร์เองก็เคยถูกค่อนคอดจากมาร์กซ์ว่าเป็นดิสโทเปีย
แล้วซามูไรพเนจรมันโพสต์อะพอคคาลิปซ์ตรงไหนวะ?
>>705 กูเห็นด้วยว่าUtopiaกับDystopiaมันขึ้นอยู่กับมุมมอง มันคือสังคมในอุดมคติของคนคนนั้นที่ตตีความออกมาเองว่าสังคมที่มีความสุขกับไม่มีความสุขมันเป็นแบบไหนเเค่นั้นแหละ
เรื่องเด็กกับเมืองเเห่งความสุขนั่นกูก็เคยอ่าน มันเอาไว้เปรียบเทียบแนวคิดอรรถประโยชน์นิยมอะ น่าสนใจดี นักเขียนลองไปอ่านดูเผื่อได้materialมาเขียนนิยายดูก็ได้
อ้าวลืมเปลื่ยนไอพี อีกแล้ว แม่งเอ๊ย!
ซูโทเปีย ชัดเจนสุด
>>705 ไม่หรอก Dystopia บางทีก็เป็นแค่ Stabilized Post-Apocalypse แค่นั้นละ
เพราะโลกพวกนี้มักมี plot device พวก breaking event=Apocalypse บางอย่างที่เปลี่ยนโลกโดยสิ้นเชิง
ดังนั้นคิดซะว่า Dystopia - Utopia คือ Stabilized Post-Apocalypse ก็ได้ แต่จะมาในแนวทางไหนก็อีกเรื่อง
Dystopian fictions focus on character vs. society, while post-apoc often about character vs. nature or character vs. character.
Common Themes in Dystopian Stories
what it means to be human
1-corruption
2-abuse of power
3-authority
4-injustice
5-class system
6-freedom and the price of freedom
7-oppression
Common Themes in Post-Apocalyptic Stories
1-what it means to be human
2-survival
3-civility
4-rebuilding civilization
5-starting over
6-learning from our mistakes
ดันๆ
นิยายย้ายจากหมวดสงครามไปหมวดแฟนตาซีได้ปะวะ ถ้ามันไม่แฟนตาซีมาก
แนวmass คืออัลไลว่ะ https://www.dek-d.com/board/view/3718179/
พูดถึงย้ายหมวด ทำไมดุจตะวันมันย้ายมาแฟนอีกแล้วว่ะ อยู่รักแฟนก็ดีอยู่แล้ว (เพราะกูไม่ได้อ่าน) เห็นแล้วเกะกะลูกตาชิบหาย
จากกู โม่งที่เคยถูกนางประจาน
ทำไมเดี๋ยวนี้เอากำลังภายใน แฟนตาซีมาปนกันมั่วละเนี่ย
พวกมึงว่า...การเขียนนี่มันจะมีหยุดพัฒนาไหมมึง?
ประมาณว่า...เมื่อถึงจุดๆหนึ่ง นักเขียนมันจะเขียนได้แค่นี้แหละ นักเขียนแต่ละคนจะไม่มีทางก้าวไปสู่การเป็นเจเค คนต่อไป หรือ สตีเฟนคิง คนใหม่ แต่จะเป็นตัวของเขาเอง เก่งไม่เก่ง ไอเดียเจิดไม่เจิด ก็อีกเรื่อง
พอดีกูอ่านนิยายของ Ray มา กูว่ามันคงพัฒนาไปไหนไม่ได้อีกแล้วว่ะ ความเป็นตัวมันยังวกๆวนๆอยู่ที่เดิม กูพูดในฐานะแฟนคลับมันคนหนึ่งนะ
จุดสูงสุดของฝีมือการเขียนไม่มีอะไรมากนะมึง แค่ปิดชื่อคนเขียนไว้ เขียนเหี้ยอะไรก็ได้สักเรื่องสักหน้า แต่พอเอาไปให้ใครที่ไหนนอ่าน ก็บอกได้ทันทีว่า
เฮ้ย! เซฮุนนี่หว่า!?
ใครแอบอ้างกูวะ?
ลงชื่อ เซฮุน
>>735 กูว่าหมอนี้แหละ https://www.dek-d.com/board/view/3718411/
ออ กูโนคอมเมนต์วะคนนี้ :v
>>738 ไม่เชิงอะ กูไม่ขออกความเห็นเพราะรู้สึกไม่ค่อยชอบงานเขา ภาษาอะไรก็ดีนะ แต่บางอย่างในเรื่องทำให้กูรู้สึกไม่ชอบ ถถถ
ไม่อวยให้ไปอ่าน ถ้าถามว่าเป็นไง งานเขาก็ดี แต่อย่างที่บอก บางจุดทำให้กูรู้สึกไม่ชอบ(อาจเพราะงานเขาไม่ถูกจริตกูก็ได้ ถถถถ) เหมือนถามว่างานคุณกิ่งเขียนดีไหม ดี ภาษาโอเค แต่กูไม่ชอบรายละเอียดและหลาย ๆ จุดในเรื่องอะ ถถถถ
>>741 ภาษากิ่งน้าก็ไม่ได้ดีอะไรนาจา คือถ้ามึงจะเทียบกับพวกเบียวๆในเว็บ สำนวนของคนในบอร์ดมันก็จัดว่าดีกันทุกคนนั่นล่ะ แต่ถ้ามาดูกันจริงๆแล้วคำๆฟุ่มเฟือยก็ยังเยอะอยู่ การบรรยายฉากก็ยังเป็นน้ำ นี่ยังไม่ได้พูดถึงบทสนทนาที่ไม่ค่อยเป็นธรรมชาติอีก
คือพอพูดถึงบทสนทนาเนี่ย นักเขียนส่วนมากมันจะชอบเขียนบทสนทนาตามคาแร็คเตอร์ของตัวละคร ซึ่งบางทีแม่งก็ยึดติดจนไม่สมจริง อย่างตัวละครเมด แม่งก็จะนายท่านๆ เจ้าคะๆ ไม่ว่าแม่งจะอารมณ์ไหนมันก็จะโก๊ะๆ เปิ่นๆ ตลอด (ขนาดโมโหยังพยายามใช้คำพูดให้ดูน่ารัก) เช่น เพื่อนถูกตัวโกงทำร้ายจนหมดสภาพ แม่คุณก็ยังพูดกับตัวร้ายทำนอง "งั้นต่อไปนี้จะไม่มีการออมมือให้แล้วนะเจ้าคะ" เจ้าคะพ่องสิ
หนูไม่รู้ ว่ามีแฟน เห็นมาดแมนสุดเฉียบเนี๊ยบหนิง...
เดธมันชอบอยู่กะอีนัทหรอ?
กว่า King of the North จะใส่ 'the' ได้ก็ใช้เวลานานพอสมควรนะเมิงงงงงงง
สับในนี้ไปก็เท่านั้น ไปเมนต์บอกคนเขียนตรงๆหรือค่อยๆแซะดีกว่า
จะได้ประโยชน์เกิดผลมากกว่า
แต่ถ้าแม่งรับไม่ได้หรือไม่ปรับปรุง ก็สมควรปล่อยๆไปเถอะ
>>752 กุไปเจอนักเขียนนิยายกำลังภายในแฟนตาซีเม้นตอบโต้กับคนอ่านแล้วขนลุกเบย
คนอ่าน : "ทำแนวนี้ต้องทำการบ้านเยอะครับ วางโครงเรื่องอย่าให้หลุด ต้องหาเมนหลักของเรื่องให้ได้ มันไม่มีการฝึกมันจึงต้องมีเรื่องให้พระเอกทำที่มันน่าสนใจขึ้น ซึ่งส่วนมากที่เจอจะเป็นพวกพัฒนาเมือง ลดเรื่องสาวๆลงหน่อยไม่ใช่แนวอิโรติก
เหมือนเรื่องสาวแกร่งต่างโลกเลย ออกทะเลแล้วดับ แรกๆทำมาน่าสนใจมากๆ
ยังไงก็สู้ๆนะครับ อ่านพวกคอมเม้นเยอะๆ กับอ่านนิยายแนวนี้หลายๆเรื่อง จะได้แนวคิด แล้วจะลองมาอ่านใหม่นะ"
คนแต่ง :"ผมไม่สนใจคอมเมนท์ นิยายคือจินตนาการของนักเขียน ไม่ใช่ของนักอ่านครับ เพราะอย่างนั้น เหตุใดต้องสนใจคอมเมนท์ คอมเมนท์ผมอ่านเพื่อเพิ่มกำลังใจ ไม่ได้เพื่อรับความคาดหวัง เเละคำติเพื่อเป็นภาระในใจของผม ท่านครับ ผมอยากลองอ่านนิยายของท่านครับ ช่วยเเต่งให้ผมอ่านสักเรื่องได้รึไม่ ข้าน้อยอยากอ่านนิยายที่ท่านเขียนขึ้นมาเป็นบทเรียนอ่ะครับ"
พูดแล้วก็สงสัยถ้าแต่งแนวตลาดๆ กำลังภายในมาเกิดใหม่แบบนั้น ลงหมวดไหนคนอ่านเยอะกว่าวะ
เออ พอบอกอะไรไปเจอสวนประมาณว่า "เก่งจริงแต่งมาให้กูอ่านสิ" เซ็งจริงว่ะ 555
มีความโหดเหี้ยมอำมหิตพิชิตมาร
ประกาศผล Top of The Year 2016 บนแอปพลิเคชัน meb
+++Top of The Year 2016+++
ประเภท นิยายแฟนตาซี
https://www.facebook.com/mebmarket/photos/a.1199140610154788.1073741839.173682066033986/1201184069950442/?type=3&theater
หมายเหตุ : รายละเอียดรูปภาพมิได้มีการเรียงตามอันดับแต่อย่างใด โปรดเข้าใจ เราให้ชื่อหนังสือเรียงตาม ก.ไก่ ถึง ฮ.นกฮูก จ้า
กูเซฮุนเอง มู้นี้ แอบอ้างกู
>>765 สัญลักษณ์อะไรของเมิงงง?
กูเป็นคนสถาปนา เซฮุนขึ้นมา ชื่อกูก็เลือก บทบาทกูก็เป็นคนเล่นมาตลอด ใครแอบอ้างกู กูก็ท้วงตามสิทธิของกู แต่ใครจะเนียนคอสกูหรอ? ตามสบาย
แต่จริงๆ เลียนแบบกูงี้ ไม่ต่างอะไรจากมาม่านิยายแปลเลยนะ โควต "ไม่โดนกับตัวเองไม่รู้หรอก" จบโควต
อีกอย่างอยู่ๆกูเห็นมู้ "ลงชื่อเซฮุน" กูเป็นตัวจริง กูเห็นก็ขำนะมึง
ลงชื่อ เซฮุน ตัวจริง แผ่นแท้ 4K ชัดมาก
>>767 มันมียอดขายและยอดจ่ายเงินให้รับรู้กันในวงแคบอยู่แล้ว
meb จัดอันดับตามยอดเงินนั้น
ความเที่ยงตรงมากกว่าแบบหน้าร้านเยอะ (อันนั้นคือเส้นจริงๆ พนักขายร้านจัดตามคำสั่งผู้จัดการร้านเลย)
เพราะ meb แจ้งยอดให้ทราบกันเดือนต่อเดือน ยอดคนคลิ๊กเข้าดูแบบนับรายหัว ละเอียดถึงเพื่อนโม่งสั่งซื้อจากทางเว็บไหนมาอีก
ถ้าเพื่อนโม่งเคยขาย หรือเข้าไปสังเกตแนวทางเรื่องที่ขายได้ จะรู้เลยว่ายังไง
เนื่องจากรายได้การแบ่ง 9% ตรงนั้น กรณีอยากช่วยคนเขียนให้มากที่สุดต้องสั่งซื้อจากหน้าเว็บที่ลงนิยายเค้าเลย คนเขียนถึงจะได้จากตรงนี้
ซึ่งกูเห็นมีคนหากินด้วยการนำลิงค์ Seller นิยายไปรวมๆ ให้คนคลิ๊กเข้าไปซื้อจากเว็บที่รวมลิงค์เอาไว้ เพื่อได้รับ% ตรงนี้อีก
ปล. พอเดาได้อีกว่า ที่จัดอันดับมา ยอดขายเกินหกหลักกันทั้งนั้นนาจ๊ะ
ต่ำสุดคือปริ้มๆ ระดับนั้น
ไม่ขอลงรายละเอียดเดี๋ยวโม่งแตก
แต่อีก 8 เรื่องน่ะขายดีจริง ต่ำสุดคือข่ยได้ 50กว่า k แต่บางเล่มทะลุไป 2-3 แสนบาท
กูว่าง กูต่อเลยละกัน ระบบ meb จะให้สายสะพาย bestseller ไม่ได้ยอดถึงปุ๊บแล้วจะได้เลยนะ สายสะพายหรืออีโบว์แดงเนี่ย มันจะติดให้สัปดาห์ละ 1 ครั้งรอกจากวางวันแรกมึงขายทะลุ 500 โหลด 1000 โหลด แต่ว่าดันง่ายๆว่าสมมุติมึงขายได้ 150 ชุดตั้งแต่วันแรกที่วาง (เกิน 100 ชุด meb ให้โบว์แดงแล้ว) สมมุติมึงขายได้ 150 ชุด มึงเกินที่กำหนดแล้ว มึงควรได้โบว์แล้ว แต่ในทางปฏิบัติ มจะได้โบว์ตอนเมพตัดยอด ซึ่งก็คืออย่างที่บอกว่าอาทิตย์-2อาทิตย์ครั้ง มึงก็รอโบว์เบสเซลเลอรไป
แต่มันมีเรื่องประหลาด มีสนพหนึ่งที่ลง ebook กับ meb แล้วสามารถได้โบว์แดงตั้งแต่ 3-4 ชั่วโมงแรกที่ลง ทั้งที่ยอดโหลดไม่ได้มากมายอลังการอะไร ไม่ต้องรอเช็คยอดแบบที่นักเขียนดังอื่นๆต้องรอด้วย ลงปุ้บเบสเซลเลอร์ปั๊บ
แปลกดีไหม?
ต้องดูหมวด เพราะกูรู้ว่าหมวดไลท์โนเวทที่ไม่ค่อยมีคนเข้า อันนั้นง่ายจริงเพราะเฟซนักเขียนบอกเองว่าไม่กี่สิบเล่มก็ได้แล้ว แต่meb ไม่จัดเข้าอันดับ
แต่หมวดแฟนตาซีใหญ่จะต่างกันไป เป็นโค็ดมาตราฐาน
ขอเดา ตัดนิยายแปลไปก่อน
หน้าปกหอระฆังคว่ำกับมีดกริช ยอดโหลดต่อเล่มคงเป็น 1-2 ในระดับตัวแม่
ที่3 กูเดาว่า ปกเงามังกร อันนี้จากที่สังเกตส่วนตัว ค่ายนี้พร้อมเปิดให้ นข. ออกจากค่ายมาทำมือได้เลยหรือแช่ไม่ออกเล่มต่อ ถ้ายอดไม่น่าพอใจ
กูถือนข.เป็นสายแข็งอินดี้ไม่สนไม่แคร์ ก่อดราม่ามาแล้ว แม้แต่จะเปิดเฟซติดต่อกับคนอ่านก็ไม่เปิด
ที่4 ปกเจ้าชายเจ้าหญิง คนเขียนมีฐานแฟนคลับมานาน
ที่5 ตุ๊ดช่วงแรกกระแสดีแต่ปลายแผ่ว บวก โดนสแกนเถื่อนเล่นงานเต็มๆ ยอดคงลดพอควร
ที่6 ปกเกมออนไลท์สีฟ้า เหตุผลเดียวกับตุ๊ด แผ่วปลายบวกโดนเถื่อน
ที่7 เกมออนไลท์ ยาว16 เล่ม น่าจะขายได้เรื่อยๆ มีโดนเถื่อนมาหน่อยเล่มท้ายๆ แต่ยอดน่าติดอยู่แล้ว
ที่8 เกิดใหม่เป็นหญิง จากเหตุผลที่บอกอันดับที่3ว่าค่ายนี้ พร้อมให้นข.ทำมือเอง ถ้ายอดไม่ไป กูเลยให้ท้ายสุด เพราะเห็นทำมือเล่ม2-4เอง
อันดับนี่กูเดาจากการส่องบ่อยๆ นะ รวมถึงส่องเฟซนักเขียนแต่ละคน ซึ่งไม่มีเปิดเพียงคนเดียว(ปกมังกร) ส่วนเปิดแล้วปิดก็มีเกมออนไลท์ยาวนั่น เคยส่องพอรู้อยู่ว่า ยอดขายทำมือรวมมากระดับน่าตกใจ เลย เพราะขายยกเซต16เล่มแล้วมันเหมือนคูณทบเข้าไปนั่นเอง
หมวดแฟนตาซีนี่แหละ คนรู้จักกูเอง เขามีสังกัดสนพ.หนึ่งเห็นนิยายตัวเองขึ้นเบสเซลเลอร์ตั้งแต่วันแรกก็ดีใจรีบเปิดดูว่ายอดขายได้เท่าไรต้องเยอะแน่ สุดท้ายเปิดดู ขายได้ 2 เล่ม แต่ได้ bestseller ซึ่งตอนแรกเขาคิดว่าบัค แต่ปรากฏว่ามีคนสนพ.เดียวกันก็ได้ bestseller ทั้งๆที่ขายไม่ถึง 10เล่มเหมือนกัน
>>778 มึงสังเกตเหมือนกูเลยและที่กูบอกว่าเร็วผิดปกติกูไม่ได้หมายถึงเรื่องดังแบบดังสัดๆนะมึง แต่กูหมายถึงพวกที่ลงวันไหนได้วันนั้นเลยทั้งๆที่ก็เป็นเรื่องที่ไม่ได้ดังทะลุโลกแบบใครๆก็รู้จักแบบหอระฆัง ที่กูพูดถึงคิอสนพ.เล็กๆ เรื่องที่ออกก็ไม่ค่อยดัง แต่โบว์แดงตั้งแต่ 4 ชั่วโมงแรกที่ลงน่ะ มันแปลกกก!!!
>>779 กูไม่รู้ระบบสนพ.นั่นๆนะ แต่ปกติกว่าจะที่รู้ยอดโหลดแน่นอน
ส่วนใหญ่นักเขียนจะรู้ตอนที่ได้รับเงินงวดหลายเดือนไปแล้ว เพราะถือเป็นความลับกั้นนข. อยากออกไปทำเอง
และจ่ายกันแบบปีหนึ่งละครั้งไม่กี่ครั้ง
คือสนพ. จะสรุปให้เอง คนเขียนที่ขายงานให้สนพ.จะรู้แค่ยอดกดคลิ๊กที่มีคนเข้ามาดู
มันต่างจากกรณีทำมือที่รู้เห็นข้อมูลตั้งแต่วันแรกๆ เองได้เลย
เพื่อนโม่งต้องเข้าใจในแง่ธรุกิจด้วย
>>781 มึงคิดว่ากูไม่เข้าใจ? มึงคิดว่าทุกสนพ.นักเขียนเช็คยอดebook จากบางเวปไม่ได้? ใช่ที่ว่าหลายสนพ.นักเขียนไม่มีสิทธิ์รู้ยอด แต่มันก็มีสนพ.ที่นักเขียนรู้ยอดโดยเฉพาะตอนตั้งสนพ.ใหม่ๆ กูไม้รู้มึงเป็นใคร มึงอาจเป็นนักเขียนที่ไหนสักแห่งกูไม่รู้ สนพ.มึงอาจไม่ให้มึงรู้ยอด แต่มันมีสนพ.ที่ให้นักเขียนรู้ได้โว๊ย!
มึงบอกกูไม่รู้เรื่องธุรกิจ กูถามกลับหน่อยว่ามึงเองรึเปล่าที่ไม้เข้าใจโลก ถ้ามึงคลุกคลีในวงการนี้ลึกๆจริงๆมึงต้องรู้ข่าวที่พูดกันว่าเวปขาย ebook ดังที่สุดในไทยเป็นนายทุนให้สนพ.หนึ่ง แล้วหนังสือสนพ.นั้นทุกเล่มได้โบว์แดงจากเวปที่ว่าหมดสิ ถ้ามึงไม่เคนได้ยินไม่เคยรู้เลย มึงอย่าด่ากูว่ากูไม่เข้าใจธุรกิจ เพราะอาจเป็นมึงเองที่ไม่เข้าใจโลก
กูพอแระโม่งกูจะแตกระ อยากเข้าใจอย่างไรกันตามที่เห็นควรเลย กูไปละเดี๋ยวโม่งแตกหนักกว่าเดิม
เซฮุน กูว่ามึงควรปลงนะ มึงจะก่อตั้ง หรือสานต่อ หรือทำเหี้ยอะไร สุดท้ายแล้วมึงก็เป็นแค่โม่งตัวนึง
โม่งก็คือไม่มีตัวตน โอเคนะ
>>784 กูรู้ว่ามึงหมายถึงสนพ.ไหน แต่มึงต้องแยกให้ออกด้วย สายสะพายอาจดันกันได้อันนี้กูพอรู้
แต่มึงเห็นการลอยแพกลายๆไหม มึงเห็นการปล่อยนข.ออกมาทำเองหรือเปล่า
ระบบมันคัดเลือกให้อยู่แล้วว่าใครอยู่ใครไป จากหลายๆเรื่อง ตอนนี้สนพ.นั้นเหลือที่ทำต่อมากี่เรื่อง
กูยังเชื่อว่ายอดขายที่ meb ประกาศมาโดยรวม เพราะไม่แปลกใจว่ามันมีการคัดผู้เหลือรอดจริงๆอยู่ในนั้นด้วย ซึ่งถือเป็นเคสที่บอกอะไรให้เห็นได้ในตัวอยู่แล้ว
ว่าแต่มึงรู้สึกเชียร์เวปนี้จังเลย---
>>787 มึงต้องเข้าใจการทำงานจริงบางอย่างก่อนว่าสไลต์สนพเป็นยังไง
ที่กูเห็นคือช่วงแรกอาจช่วยบ้างแต่ถ้าไม่ไหวคือสนพปล่อยทิ้งเลย ว่ากันแฟร์ๆ
พูดง่ายๆคือไม่ดันทุรังลงทุนออกมาให้ครบเอาที่เรื่องเหลือรอดพอ
ความแปลกคือไม่มีการโปรโมทอะไรให้เลยในหน้าสนพ ซึ่งสไตล์แนวนี้คือการวัดว่าเรื่องไหนไม่ไหวก็ปล่อยไป แถมเพิ่งเห็นว่าสายแฟนไปไม่ไหวก็เปิดสายรักใหม่อีกสายหนึ่ง
เห็นได้ชัดเจนสไตล์สนพ วัดที่ยอดขายเป็นหลักว่าจะรอดอยู่ได้ไหม
ประมาณอ่อนแอก็ถอยไปก่อน
กูเลยมองว่าเค้าไม่จำเป็นต้องหนุนอะไรอีกแล้ว เพราะวัดกันแล้วว่าเรื่องไหนรอดก็อยู่ต่อ
กูแค่รู้สึกแปลกๆตรงมีคนเอา 10 อันดับไปแปะซะหลายห้องของโม่ง แล้วต่อมาก็มาชี้แนะทุกคนว่าคิดผิด ไม่โปร ไม่รู้เรื่องธุรกิจ เหมือนจะบอกว่า 10 อันดับจองจริงหมดนะมต้องเชื่อ เอ้อออหรือมีนักเขียน 1 ใน 10 เรื่องนัานอยู่ในโม่งวะ
ในนี้กูว่านักเขียนจริงๆไม่ต่ำกว่าสิบ พวกขายได้ขายดีก็ไม่น้อยหรอกมึง ที่กูจะพูดคือมีอีกหลายคนที่รู้อะไรเป็นอะไรแต่เขาไม่พูดกันนักแค่นั้นละ
แถมนักเขียนกลุ่มที่สังกัดสนพ ม. ยังเห็นเข้ามาส่องเข้ามาตอบบ่อยๆด้วยนะ
อ่านข้างบนแล้ว เป็นคนเขียนก็ยาก เป็นคนอ่านหาเรื่องอ่านก็ยาก
ลงกระทู้ลงชื่อเซฮุนอีกรอบ
https://www.dek-d.com/board/view/3719001/
ปอลิง ตกลงนิยายต้นเรื่องที่เถียงกันในกระทู้คือเรื่องอะไร โม่งชี้เป้าที
>>796 https://writer.dek-d.com/SernMuLhang/story/view.php?id=1503565
น่าจะอันนี้เพรากุก็อบประโยคไปลงกูเกิลก็ขึ้นมาเลย
อ่านดูผ่านๆ แล้ว เรื่องเว้นวรรคประโยคกับแบ่งฉาก นี่เป็นปัญหาใหญ่ก่อนแรกเลย ทำให้เรื่องไปไม่ลื่นเท่าไร แต่ต้องรอดูเวอร์ชั่นปรับปรุงใหม่จะแก้ตรงนี้หรือเปล่า
But baby now ha how wa how!
Take me into your loving arms
Kiss me under the light of a thousand stars
Place your head on my beating heart
Thinking out loud
That maybe we found love right where we are!
Everyone!
We found love right where we are!
http://www.tunwalai.com/story/134318/the-red-artifact-part-1-prince-suthon-the-beginning-of-legend-พระสุธนกับห้าอาณาจักร ลองตามดู กุว่าพล็อตแม่งแนวดีว่ะ ถึงจะไม่ใช่เด็กดีก็เหอะ
กูเห็นว่าคนเขียนบอก nc หรือไม่ nc ดี
คิดว่าในใจคนเขียนคงเทไปแนวนั้นแล้ว เพราะถ้าไม่เน้น nc คงมาที่ ดด. ไปแล้ว
กุก็อยากรู้ว่ะ ว่ามีเว็บไหนลงนิยายดีๆได้บ้างวะ ไม่จำเป็น nc ก็ขายออก ไม่เอา ธัญวลัยกับเด็กดวกนะ
>>811 ลองดูที่ https://fictionlog.co/ เพิ่งโปรโมทคนเข้าไปอ่านยังน้อยอยู่บ้าง
>>812 แต่ไปลงที่นั่น แนวทางมันชัดเจนเหมือนกันนะ ว่ากลุ่มคนอ่านที่ไปวลัย ส่วนใหญ่สายหื่นมากกว่าแนวไหน
https://writer.dek-d.com/vitn/story/view.php?id=1569658 นักเขียนเรื่องนี้เค้าต้องการพิสูจน์อะไรหรือเปล่าเนี่ย... ถถถถ
10kวิว top20หมวดแฟนตาซี
คำผิดมีแทบทุกประโยค มันก็ไม่ไหวเหมือนกัน แต่เข้าใจคนอ่านออนไลน์เน้นอ่านแบบเร็วเป็นหลัก
สไตล์ลงเร็ววันหนึ่ง 3-4ท่อนได้นี่กูนึกถึงเรื่องที่คนเขียนชื่อใบอ่อนเขียน อันนั้นก็ขึ้นอันดับ1-2อย่างเร็ว แต่เป็นแนวโลลิหื่นเด็กที่ไม่ค่อยเหมาะกับ ดด. เลยหยุดอัพไปแล้ว
plot น่าสนใจดีเพื่อโม่งว่าไงกันบ้าง
รู้สึกไปเองหรือเปล่าหว่าว่าพวกท๊อปใหม่ๆหมวดแฟนตาซีแต่ไส้ในเป็นกำลังภายในยัดชื่อจีนนี่อีโก้สูงกันทั้งนั้น ไม่ค่อยรับฟังคำวิจารณ์สักเท่าไหร่ จะเอาแต่คำอวยอย่างเดียวทั้งที่มันสำคัญต่อการพัฒนางานเขียนมากๆเลย
บางเรื่องก็ก็อปนิยายแปลจีนแล้วก็โหนกระแสช่วงแอนตี้ที่นิยายแปลหนีไปเว็บอื่นแล้วเข้ามาชิงพื้นที่แทนทั้งไม่ได้ดีเด่อะไรเลยแต่ทนงตนราวกับนักเขียนใหญ่....
>>825 ระบบท็อปเขาเน้นอัพถี่ๆ แบ่งตอนซอยเยอะๆ ก็ได้แบบนั้นไง
เป็นเทคนิคพิมพ์นิยมไปแล้ว
ส่วนนิสัยคนเขียน เตือนหรือพูดอะไรไม่ได้ ก็ปล่อยๆไปเถอะ นิยายในหมวดแฟนมี4-5หมื่นเรื่อง หาที่ตรงรสนิยมก็พอ ถูกใจก็เมนต์ชมหน่อย ถ้าขัดใจเมนต์บอกแล้วเถียงกันกับคนเขียน ก็เลิกเมนต์เรื่องนั้นไปก็พอ
ไม่ชอบก็ไม่ต้องอ่านครับ ไม่ใช่ สนพ ไม่ใช่คนจ้าง ไม่มีอำนาจเหนือคนเขียน
ผมด่าลอยๆ
เอาเถอะ จะมีกี่เรื่องที่ขายออกล่ะ โดยเฉพาะนิยายแฟนตาซีกำลังภายในของไทย
ไอ้เครื่องดูท่าไม่รู้จัก infodump ไม่สิ ทุกคนในมู้นี่เลย
>>825 ทำไมกุนึกถึงเรื่องนี้วะ https://writer.dek-d.com/inwzaaa2222/story/view.php?id=1559832
ถ้าอัพนิยายสม่ำเสมอ อัพทุกวันยังงี้ คนจะค่อยๆเข้ามาอ่านหรอ
ใครก็ได้หาอะไรมาสับทีดิ๊ ครึ่งเดือนผ่านไปได้อ่านแต่เกร็ดเล็กๆ น้อยๆ
คนสับอู้กันหมดแล้วโว้ย
อีพี่หญิงนี่เห็นมีคอลัมเป็นของตัวเองแนะนำนิยาย แรก ๆเห็ยอวยดะอย่างกับหน้าม้า แต่ตอนนี้ก็เริ่มคิดว่านางคือโม่งเปล่าวะ บางเรื่องแนะนำแบบมีบอกนะว่านึกถึงเรื่องนั้นเรื่องนี้ คล้ายจะบอกกลาย ๆ ว่ากลิ่นแรงบันดาลใจมันแรง เช่นเรื่องนี้
>>839 ก็อยากจะหานิยายอ่านอยู่หรอกนะ แต่พอลองไล่ๆดูแล้วไม่เห็นจะมีอะไรถูกใจสักเรื่อง พอไม่ถูกใจก็ทนอ่านถึงตอนล่าสุดไม่ได้ พอทนอ่านถึงตอนล่าสุดไม่ได้ก็สับไม่ได้ อีกอย่าง สับนิยายไปก็ไม่ได้ตัง กำลังคิดว่าจะไปเปิดเพจวิจารณ์นิยายดีกว่า ตอนแรกก็เขียนตามจริง พอคนเริ่มรู้จักก็รับจ้างอวยนิยาย มีรายได้เสริมดีกว่ามาเขียนวิจารณ์ยาวๆในนี้ แต่เอาไปทำอะไรไม่ได้
สับในนี้ กับ ไปเมนบอกคนเขียนตรงๆ
คอมเมนยังเกิดประโยชน์มากกว่า ในการบอกจุดดีจุดด้อยให้คนเขียนได้รู้
ถ้าคนเขียนรับได้และปรับปรุงก็นับเกิดประโยชน์อย่างแท้จริง ส่วนคนเขียนรับไม่ได้ก็ปล่อยๆไปเถอะ
สับนิยายวายกันไหม? (รู้สึกว่าเมนท์หลังจากนี้กูจะโดนระเบิดลง)
อยากสับนะ แต่กูยังหาเรื่องที่กูอ่านได้เกินสามตอนไม่ได้เลย ;w;)
สับนิยายแปลแทนได้ไหมเนี่ย ของไทยนี่น่าจะไม่มีเรื่องไหนที่กูอ่านบทนำจบแล้วล่ะแต่ล่ะคนแต่งกันแบบอยากเอาตีนก่ายหน้าผาก
บอกแล้วว่าตั้ง โม่ง Academy สุ่มนิยายมาจากหลายๆ ที่ แนวไหนก็ได้ กรองกันมาด้วยว่าพอไปรอดมั้ย ถ้าใช้ได้ พอไหว ก็สับลงนี่แล้วกอปไปวางที่นิยายเจ้าตัว ถ้ามันไม่บอกใจก็บอกมันลบเม้นแล้วแดกหญ้าต่อไป
ถ้าอยากให้มู้ไม่ร้างก็พยายามอย่าเล่นมุกตลกที่มันไม่ตลกนะ กูเห็นกูยังยี้เลย นี่ถ้าไม่อยากมาเตือนด้วยความหวังดีกูคงปิดหนีไปแล้วนะเนี่ย
>>853 หวัดดีเซฮุนเอง คนที่ี่ปล่อยมุกเสี่ยวเรื่องถั่ว เดี๋ยวว่าเหยียดเชื้อชาติ อ่ะมุขฝืดละกัน (พจนานุกรม มติชน)
คุณโม่งครับ ขนาด'เล่น'โม่งยังจริงจังนะ แบบนี้ตอนเรียนคงเรียนเก่งน่าดูนะเนี่ย นิยงนิยายนี่คงมุมานะบากบั่นเขียนขุดหาข้อมูลมากๆ เกมก็คงไม่เล่น เพลงตลาดก็คงไม่ฟัง เผลอๆนิยายตลาดๆก็ไม่อ่าน คงอ่านอะไรยากๆอยากเดียวสินะ
ขอบคุณที่เตือนด้วยความหวังดี แต่ มึงฟังนะแต่ แต่ช้าแต่ อย่าร้องโอ๋ๆ แต่ว่า
มันร้างเพราะไม่มีใครสับนิยายครับ ไม่ใช่เพราะกูปล่อยมุขฝืด มึงจะโทษกูเสียทุกอย่างเลยหรอครับ?
กูไม่ใช่ทักษิณนะ อะไรก็กู เซฮุนซื้อโม่งไปแล้ว
โอ้ยยย เตือนด้วยความหวังดี หมาเฟียตัวไหนกันเนี่ยหนอ เตือนจังเลย
ตะเตือนไตว่ะ!
ลงชื่อออออออ เซ motherfucking ฮุน
กูถามจริงเหอะ บทที่ 7 จะอยู่เยี่ยงไรว่ะ
ใครก็ได้ สับทีเถอะวะ กูอยากอ่านอะไรประเทืองปัญญาหน่อย ที่อื่นแม่งอ้อมค้อม อ่านแล้วเฟคเหี้ยๆ
สรุปว่าแนวทางของห้องนี้ จะเป็นสับ/วิจารณ์กัน แล้วเอาไปแปะในหน้านิยายของนักเขียน เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อนักเขียนด้วยใช่ป่ะ? (แต่ต้องมีปรับสำนวนเพราะโม่งเถื่อนเกิน) ถ้าเป็นแนวทางนี้กูว่าก็ดีนะ ห้องนี้จะได้ไม่เงียบ(และไม่ถูกหาว่าเอาแต่นินทา) นักเขียนได้พัฒนางาน(ถ้ารับฟัง)
แล้วถ้าจะสับ/วิจารณ์/คอมเม้น นี่จำเป็นต้องอ่านจนจบป่ะ คือสำหรับกู ถ้าเรื่องไหนมันไม่ไหวจริงๆ กูก็ทำใจอ่านหลายสิบตอนไม่ลงว่ะ
>>863 ถ้าอ่านตั้งแต่ต้นจนจบจะได้สับพล็อต สับตัวละคร สับองค์รวมได้ แบบนั้นจะมีประโยชน์กับการรีไรต์ ถ้าสับตอนน้อย ๆ ก็จะลงลึกเป็นตอน ๆ กับเรื่องภาษา พอเป็นแนวทางให้นักเขียนได้พิจารณาตนเอง ซึ่งกูขอมโนว่านักเขียนอ่านบทวิจารณ์ ขอตำหนิแล้วก็คงพอจะเชื่อมโยงไปหาข้อผิดพลาดของตนเองในตอนอื่น ๆ ได้ อยู่ที่ใครก็แก้ไม่แก้เท่านั้น
แต่เอาจริง ๆ ถ้าไม่ซีอะไร แค่ห้าตอนขึ้นก็พอ เพราะบางเรื่องกูก็ทนอ่านเป็นสิบไม่ไหวเหมือนกัน ห้าตอนคือมาตรฐานกูนะ
กูถือว่าห้าตอนก็เหมือนอ่านหนังสือไปแล้วเกือบห้าสิบหน้า ถึงแม้จริง ๆ ห้าตอนนั้นอาจยาวไม่ถึงห้าหน้า หรือเกินกว่าห้าสิบหน้าไปก็ตาม แต่มันต้องดึงแนวเรื่อง หรือมีจุดอะไรสักอย่างให้กูสามารถจับทาง รู้สึกอยากอ่านต่อ และวิเคราะห์ออกมาได้
พวกมึงอย่าลืมถ้านักเขียนเค้าไม่ได้ขอ วิจารณ์อะไรไปอาจหมาแล้วจะโดนด่ากลับด้วย ถึงโม่งจะคิดดีหวังดีแต่มึงก็เลือกคนหน่อยขอเตือน เด๋วจะเหนื่อยฟรึ นินทาในโม่งฮาๆสบายๆ แต่ในหน้านิยายคนอื่นไม่ใช่ว่ะ มันเป็นพื้นที่เค้า
มู้มันร้างเพราะไม่มีใครสับนิยาย มึงเขียนมาว่า
"ถ้าอยากให้มู้ไม่ร้างก็พยายามอย่าเล่นมุกตลกที่มันไม่ตลกนะ กูเห็นกูยังยี้เลย นี่ถ้าไม่อยากมาเตือนด้วยความหวังดีกูคงปิดหนีไปแล้วนะเนี่ย"
มึงไม่โทษใคร แต่มึงโยนสาเหตุความร้างของมู้ให้มุกฝืด แถมมึงยัง ประชดปล่อยตัวอย่างมุกฝืดอีก
"ไม่เคยโทษมึงนะ อันที่จริงก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ว่าใครเป็นใครหรอก แค่เห็นพวกพยายามเล่นมุกแบบไม่คำ เอ้ย ไม่กำ เอ้ย ไม่ขำ เอ้ย ถูกแล้ว แล้วมันน่ารำคาญอะ รู้สึกเหมือนหาสาระอะไรไม่ได้แล้ว ทำได้แค่นี้เหรอ? ประมาณนั้น"
ข้อโต้แย้งของกูคือ
1-มู้มันร้างเพราะไม่มีใครสับนิยาย อันนี้ถูกไหม?
2-สาเหตุของสาระและความไม่มีสาระ มันไม่ได้มาจากมุกอย่างเดียว อันนี้ถูกไหม?
คือมึงบอกว่ามึงรำคาญ มึงเลยอ้างมู้ร้าง มึงเอาประโยชน์ส่วนรวมมาอ้างประโยชน์ส่วนตัว และกล่าวหาชี้โทษความผิดกูเสียอีก มันถูกหรอเพื่อนโม่ง?
ข้อไหนกูผิด รบกวนชี้แจ้งด้วย
ลงชื่อ เซฮุน ลืมเปลี่ยนไอพีเและมุกฝืด
อิดอกกกกก ในโม่งก็ห้ามเล่นมุก มุกไม่ขำก็ไม่ได้ด้วย โถ...แม่ม้าโพนี่...นี่มึงคิดว่าที่นี่คือ โพนี่แลนด์เรอะไง ชิบหาย
ถ้ามู้มันร้างมึงก็สับนิยายมาสิอิดอก มึงฟาดง่วงฟาดงาหาอ้อยแดกเหรอคะ
อ้อ กูแถมให้อีกอย่าง ที่มู้มันร้างเพราะพวกมึงคิดไปเองว่ามาจากการที่ไม่มีคนเข้ามาสับนิยาย กูเข้าโม่งทุกวันกูก็เห็นมู้นี้มีคน reply ทุกวัน ลองเทียบกับมู้อื่นสิวะบางอันตั้งแล้วก็เงียบเป็นป่าช้าเลย ดังนั้นสาเหตุน่าจะไม่ได้มาจากไม่มีคนสับนิยายหรือเล่นมุกฝืดแต่อย่างใด โอเคนะพวกมึงไม่ต้องทะเลาะกันแล้ว จุบุจุบุ
มีใครเคยอ่านนิยายของเม้น 5 บ้าง ดีมั้ยวะ
https://www.dek-d.com/board/view/3720514/
https://writer.dek-d.com/vitn/story/view.php?id=1569658
ความเทพของเรื่องนี้คือ แม้กระทั่งชื่อเรื่องยังเขียนผิด ไอ้สัส คนอ่านเดือนนี้ 22,993 วิว 172 คอมเมนต์ มีคอมเมนต์ด่าเรื่องเขียนผิดบ้างประปราย และมียอดเฟบ 593 คน
เทพ เทพ เทพ เทพ เทพ กูนี่นับถือแม่งจริงๆ
>>877 คือตอนนี้กำลังคิดว่าจะเปิดเรื่องใหม่แบบเน้นเย็ดอะ อารมณ์ประมาณชีคเถื่อนทะเลทราย นางทาสบำเรอสวาทอะไรทำนองนี้ แต่มีเรื่องของการผจญภัยเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย และให้ตัวเอกมันซูๆ นิดหน่อย ไอ้เขียนแบบนี้กูก็พอทำใจเขียนได้นะ แต่ถ้าจะถึงขั้นต้องลดระดับการใช้ภาษาของตัวเองมาเหมือนเด็กหัดเขียนแบบนี้ กูทำไม่ได้อะ
เสริมนะ กูรู้มาว่านิยายเล่มละ 99 บาทตาม7 เขียน 100 หน้าเอสี่ส่งจะได้เงิน 10,000 บาทเป็นค่าลิขสิทธิ์นะ
>>871 เออนั่นสิ ว่าแต่ แล้วมึงจะจริงจังกับพวกกูทำไม?
ดูมึงตั้งใจอ่านพยายามเถียง ช่วยแถนะ
คือมันมาหาเรื่องกู กูก็ป้องกันตัวเอง หรือกูควรขอโทษมันแล้วสัญญาว่าไม่ทำอีกแล้ว?
กูเรียงเป็นข้อๆไปแล้วครับน้อง ประเด็นน่ะ
ถ้ามึงจะเอาประเด็นจริงจังอีก กูก็จะเล่นกับมึงนะ
เริ่มนะ...ตอนแรกมีมันคนเดียวที่จริงจัง พอมีกูก็เป็นสองถูกไหม? มึงมาอีกคนก็เป็นสามครบนะ
คราวนี้ภายใต้ความจริงจังเนี่ย ใครกล่าวหาใคร มันเริ่มมาจากอะไร สาเหตุคืออะไร มุกกูตามที่มันกล่าวหาหรือเปล่า? หรือกูจริงจังกับมัน กูเลยกลายเป็นผิด มันไม่ผิดแล้วใช่ไหม?
คือมึงจะหาเรื่องกูให้ได้น่ะนะ ขนาดขุดเอาข้อจริงจังมาเล่นเนี่ย อายุเท่าไหร่วะเนี่ย? แถยังกับเด็กติดเกม
ลงชื่อ เซฮุน กูไม่ได้จริงจัง แต่กูจริงใจ ตึ่งโป๊ะๆ
เอาอีกละ เริ่มทะเลาะกันอีกละแล้วก็เป็นเซฮุนกับโม่งอีกละ...
>>883 เดี๋ยวๆ เซฮุนเอง
เซฮุนไม่ได้เริ่ม เซฮุนแค่ปล่อยมุกแล้วมันไม่ตลก คราวนี้ก็
(1)มีคนมากล่าวหาว่า การปล่อยมุกเป็นสาเหตุของมู้ร้าง ทั้งๆที่มันไม่ใช่
(2)แล้วก็มีคนมาเสริมเรื่อง 'จริงจัง'
ตอนนี้ก็(3)มีคุณที่บอกว่าเซฮุนอีกแล้วที่ทะเลาะกัน
ลงชื่อ เซฮุน นั่นมุกหรือเปลือกหอย
เซฮุน อายุป่านนี้มีเมียแล้วยัง
พยายามลากมาเรื่องสับนิยายแล้วนะ หยุดทะเลาะกันเหอะ ใครว่างเอานิยายที่ยังไม่เคยโดนสับมาดีกว่า จะได้ลองทำดูตามที่คุยๆกันไปข้างบน
>>874 กูสงสัยมากว่าเรื่องนี้แม่งมีคนอ่านจริงหรือ ปรากฎว่ามีคนอ่านจริง มีคอมเมนต์จริง หลายๆ คอมเมนต์ก็ทำให้กูปวดตับมาก นี่กูไล่อ่านได้ 15 บทละ เรื่องก็งงฉิบหาย แต่สรุปได้ว่า พระเอกถูกจับมาทดลองโดยการเอาไปปล่อยในที่แห่งหนึ่งซึ่งเหมือนเกมออนไลน์ และพระเอกก็โชว์เทพ จบ
ส่วนคอมเมนต์ที่น่าปวดใจก็เช่น "สนุกอะ ถึงมีคำผิดก็ไม่เห็นเป็นไร อ่านแล้วรู้เรื่องก็พอ อิอิ"
ส่วนที่อ่านแล้วแทบร้องไห้คืออันนี้ "เรื่องภาษา อ่านแล้วตลกดี แบบนี้แหละดีแล้วไม่ต้องเปลี่ยนนะ ส่วนตัวแล้วชอบความแปลกใหม่ ทั้งๆที่ก็ชอบอ่านนิยายแฟนตาซี แต่เจอเนื้อเรื่องซ้ำซ้ำเดิมเดิมๆการเขียนภาษาก็เดิมเดิมๆ ไม่ได้มีจินตนาการอะไรกันเลย พอเจอตัวประหลาดเอ้ยไม่ใช่ ความแปลกใหม่เลยรู้สึกดีนะ"
การเขียนภาษาไทยให้ถูกต้องคือภาษาเดิมๆ ไม่มีจินตนาการไหมล่ะ พ่อมึงสิไอ้สัส ไอ้เหี้ย การเขียนภาษาส้นตีน แม้กระทั่งชื่อเรื่องยังสะกดผิดแบบนี้คือความแปลกใหม่เหรอ ไอ้เวรเอ๊ย กูไม่รู้จะด่ายังไงดี ไอ้เหี้ย หัวร้อน กูโมโห
>>887 เอิ่ม ความแปลกใหม่มันอยู่ที่พลอตเว้ย เขียนผิดก็คือผิด มันจะไปแปลกใหม่ได้ไง งั้นสมมติกูใช้คำว่าเฆียรแทนเขียนไรงี้ นี่แปลกใหม่โคตรๆ ยิ่งกว่าเขียนผิดเลยสินะ เหอะๆ
"แต่เจอเนื้อเรื่องซ้ำซ้ำเดิมเดิมๆการเขียนภาษาก็เดิมเดิมๆ" ตัวคนเม้นทืยังเขียนอะไรประหลาดๆ อ่านแล้ววกวนชวนงงเลย เฮ้อ
เลื่องพาสา อ่ารแร้วตะหลกดี บั่บนี้แล่ะดีแหล้วมั่ยต้องเปรี่ยรน้ะ ส่วลตัวแร้วฉ่อบฆวำแปรกไหม่ ถั๊งฯที่ก้อฉ่อบอ่าลณิ้ญายแฟนตาซี แต่เจอเณื้อเลื่องส๊ำส๊ำเดิมเดิมฯกานเขียรพาสาก้อเดิมเดิมฯ มั่ยด้ายมีจิณตะนากานอ่ะไลกัลเรย พอเจอตัวปะล่าดเอ้ยมั่ยชั่ย ฆวำแปรกไหม่เรยลู้สึกดีน้ะ
ลองเอาคอมเม้นท์มันมาแปลง เอ้า แปลกใหม่พอมั้ย 555
นี่คือสาระแล้วสินะ
>>895 หวัดดีเซฮุนเอง
เอาเลยเล่นเลย? ดิ้น? ตลกดี? มึงมาจากรายการอะไรครับ?
ระดับเซฮุนไม่ดิ้นไม่แถครับ ผิดก็ขอโทษ ไปปรับปรุงตัวครับ โตแล้วครับ โกนไข่เองได้แล้ว
เขาสับนิยายกันแล้วครับ ถ้าใช้เหตุผลไม่เป็นก็เงียบปากไปเถอะครับ ผมไม่อยากรังแกโม่งอ่อนแอกว่า
ลงชื่อ เซฮุน จริงจังก็มีคนตลก แล้วจะปล่อยมุกฝืดทำไมให้เหนื่อย
อะ อันนี้เรื่องที่กูกดมาดองไว้ เหมือนจะยังไม่มีสับกันในนี้นะ
ลำนำราชินีเอล์ฟ : https://writer.dek-d.com/Writer/story/view.php?id=1552466 อันนี้มีเพลงออโต้
เรื่องเล่า๐ใน๐เงาสะท้อน : https://writer.dek-d.com/peecee/writer/view.php?id=806375
เสียงเห่าหอนของหมาป่า : https://my.dek-d.com/mamamoosap321/writer/view.php?id=1553827
The Wolf : เสียงเห่าหอนของหมาป่า
https://my.dek-d.com/mamamoosap321/writer/view.php?id=1553827
ชื่อเรื่อง : ดึงดูดใจพอสำหรับกู เพราะกูชอบหมาป่า
คำแนะนำเรื่อง : ใช้ได้ เขียนกระจับแต่ชวนให้คลิกเข้ามาอ่าน พอมาดูคู่กับชื่อเรื่องแล้ว ก็ทำให้เดาๆ ว่านางเอกน่าจะเป็นมนุษย์หมาป่าไม่ก็ใกล้เคียง
บทนำ :
ย่อหน้าแรก : ปัญหาเรื่องเว้นวรรค : เช่นตั้งแต่คำว่า “เด็กหญิงลืมตาขึ้นมา...” จนถึง “…ตลอดทางว่า” จริงๆ ตรงนี้แยกเป็นสองประโยคได้ ควรเว้นวรรคตรงคำว่า “ความทรงจำล่าสุด...” แล้วก็อาจจะไปเว้นวรรคอีกทีตรงคำว่า “ที่พร่ำบ่น...” ด้วยก็ได้ ตอนใกล้ๆ จบย่อหน้า เว้นวรรคตรง “สามารถนอนหลับ...” ได้อีกเหมือนกัน /// ตรงนี้มีคำซ้ำด้วย คือคำว่า ‘สามารถ’ ควรใช้คำอื่นแทน /// ตรงประโยค “ทั้งเจ็บปวดเหมือนร่างกายกำลังฉีกกระชาก” น่าจะเป็น “ถูกฉีกกระชาก” มากกว่า
ย่อหน้าที่สอง : คำผิด : ประโยคสุดท้าย เขียน “จ้างวาน” เป็น “จ้างวาล”
ย่อหน้าที่ห้า : การเว้นวรรคหลังไม้ยมก : หลัง ‘ๆ’ ควรเว้นวรรค(บางสำนักพิมพ์ให้เว้น บางสำนักพิมพ์ก็ไม่ต้องเว้น แต่ฝึกเว้นไว้น่าจะดีกว่า แต่ก็ไม่บังคับหรอก ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพียงแต่มันจะช่วยเป็นเว้นวรรคเอาไว้พักสายตาได้ด้วย) /// มีคำผิดตรงกลางๆ ย่อหน้า เขียน “เชือก” เป็น “เชือด”
ย่อหน้าที่สิบ : เว้นวรรค : ระหว่าง “เธอค่อนข้างชินกับสภาพอากาศ” กับ “ส่วนหนึ่งเพราะ...” สามารถเว้นวรรคได้ ตรง “…และอีกส่วนคือ” ก็เช่นกัน
แซมเปิ้ลแค่นี้พอ ปัญหาหลักๆ ที่หนักๆ คือ เว้นวรรค ประโยคส่วนใหญ่ติดกันเป็นพรืดเลย ด้านสำนวนภาษาถือว่าโอเคเลย คำผิดนับว่าน้อย คำซ้ำไม่ค่อยมี แต่ที่ไม่ชอบคือเปิดเรื่องด้วยการบรรยายมากไปหน่อย คนที่ไม่ชอบการเปิดเรื่องด้วยการอธิบายโลกอาจจะไม่ค่อยชอบ (เช่นกูคนนึง) แต่ก็เขียนได้ดีนะ
บทที่หนึ่ง :
จู่ๆ ก็ข้ามช็อทมาเป็นอนาคตตอนอายุสิบสี่แล้วซะงั้น เล่นเอามึนไปแป๊บนึงเลย บทนี้ปูดราม่าภายในครอบครัวของนางเอก และคนอ่านก็ได้เห็นนางเอกออกล่าครั้งแรก ไม่ค่อยตื่นเต้นนักเพราะทำสำเร็จอย่างง่ายดาย เข้าใจว่าคนเขียนต้องการแนะนำตัวละคร กับปูให้เห็นความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวมากกว่า …ซึ่งตัวละครก็เยอะแยะยุ่บยั่บจริงๆ จนกูจำแทบไม่ได้ การโถมตัวละครเข้ามาในฉากครั้งเดียวหลายๆ ตัว ถ้าบริหารบทได้ไม่ดีพอนี่ แทนที่คนอ่านจะเกิดความประทับใจกับตัวละคร ก็อาจจะกลายเป็นพยายามมองข้ามเพราะจำไม่ได้เหมือนกัน ต้องระวังให้มากๆ
บทนี้ประโยคยาวเฟื้อยเยอะมาก คนเขียนน่าจะเขียนเพลินจนลืมเว้นวรรคอ่ะแหละ เพราะบางทีก็เว้นได้เหมาะสม แต่บางทีก็ยาวจากเชียงใหม่ถึงนราธิวาสเลย
บทที่สอง :
เปิดบทมาด้วยการเล่าเรื่องของตัวละครอีกตัว นี่ก็ทำให้สับสนอีกแล้ว เพราะบทก่อนๆ ตัวละครก็เยอะ แต่นี่ก็ตัวละครใหม่อีกแล้ว กูยิ่งจำไม่ได้ไปใหญ่เลย อีกอย่างการสลับไปมาบ่อยๆ มันทำให้ขาดความผูกพันกับตัวละครด้วยอ่ะ เหมือนรอบตัวมีแค่คนรู้จัก ไม่มีเพื่อนเลย ยังไม่ทันรู้เรื่องนางเอกดี ก็ต้องมารู้เรื่องคนอื่นไปซะงั้น โฟกัสยากมาก
แล้วก็บทนี้มีการตัดกลับไปมาระหว่างอดีตกับปัจจุบัน ตอนที่บรรยายถึงสามีนั้นกูถึงกับต้องอ่านซ้ำสามรอบ งงว่านี่กำลังเล่าเรื่องในอดีตหรือปัจจุบันกันแน่ คิดว่าน่าจะเป็นเพราะขาดคำที่บ่งบอกเวลา เช่น “เธอยังจำได้ดีถึงตอนที่...” / “เมื่อนึกย้อนไปแล้ว...” อะไรเทือกนี้ คนเขียนไม่ได้ใส่เข้าไปอ่ะ
และบทนี้ก็มีข้อผิดพลาดสุดๆ ข้อนึง คือจู่ๆ ตัวละครตัวนึงก็เปลี่ยนชื่อไปเฉยเลย...เดิมชื่อเรโอนาร์ดอยู่ดีๆ แต่มาบางย่อหน้ากลับชื่อว่าปีเตอร์ อันนี้น่าจะเป็นเพราะตอนแรกชื่อปีเตอร์แล้วเปลี่ยนเป็นเรโอนาร์ดทีหลัง แต่คนเขียนแก้ไม่หมดอ่ะแหละ บางบรรทัดเป็นโอนาร์ดเฉยๆ ก็มี
ต่อเรปหน้า
ต่อจาก >>904
บทที่สาม :
เปลี่ยนตัวเล่าเรื่องเป็นผ่านสายตาแม่เลี้ยงของนางเอก เอาเถอะ เรื่องนี้ใช้มุมมองพระเจ้าเล่าล่ะนะ เรื่องสลับไปสลับมาทำให้ผูกพันกับตัวละครน้อย คงปกติแหละ
ตอนนี้ก็เปิดตัวตัวละครใหม่อีกเยอะแยะอีกแล้ว
บทที่สี่ :
เปลี่ยนตัวเล่าเรื่องอีกรอบ นางเอกกลับมามีบท
มีบรรทัดนึงแหม่งๆ มาก คือตรง
l เจ้าชายหนุ่มคิด ก่อนแนะนำตัว “ข้าชื่อไรรีย์ เด็กคนนี้ชื่อเอ็ดมอร์น เจ้าล่ะ” l
คือคำพูดประโยคนั้นมันเป็นของนางเอก...แต่ตัวบุคคลที่อยู่หน้าประโยคดันเป็นผู้ชายที่เข้าฉากด้วย แบบนี้มันเลยทำให้เข้าใจว่าเจ้าชายเป็นคนพูด ซึ่งมันไม่ใช่ไง ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขียนแบบนี้ น่าจะเบลอ
เหมือนว่าผู้ชายคนนี้จะมีสิทธิเป็นพระเอกไม่ก็พระรองแหง
———————————————
เนื้อเรื่อง : ดูมีความขัดแย้งให้ตามไขปริศนาเยอะ ไม่รู้จะมีกี่ภาค ปมมันดูยิ่งใหญ่อยู่
ข้อเสีย : การเว้นวรรค(หนักสุด),คำผิด, ตัวละครเยอะภายในไม่กี่บท
ข้อดี : ถ้าชอบบทบรรยายก็อ่านได้เรื่อยๆ
รวมๆ : หนักไปทางบทบรรยาย สำนวนดีใช้ได้ บรรยายเห็นภาพ แต่บางทีก็บรรยายมากไป และยัดตัวละครใส่มาในแต่ละบทมากเกินไป อ่านจบแล้วรู้สึกเหมือนจำอะไรไม่ได้เลย ยังไม่มีตัวละครไหนโดดเด่นแม้แต่นางเอก เพราะสลับบทไปมาตลอด
โดยสรุปคือ ถือว่าพอใช้ได้สำหรับกู
ปล. กูสับหรือวิจารณ์ไม่เป็น คิดซะว่านี่เป็นคอมเม้นเฉยๆ ละกัน
มีคำแนะนำสำหรับนิยายแฟนตาซีที่ไม่ใช่แนวตลาดบ้างไหม เขียนมายี่สิบกว่าตอน ยอดคนดูเริ่มนิ่ง ไม่มีพวกหน้าใหม่เข้ามาfav แล้ว
ถ้าอัพตอนใหม่แบบหลอกๆ (เน้นข้างในเป็นอะไรมั่วๆ) ให้มันเด้งนิยายอัพเดตไปที่หน้าแรก แล้วรีบลบตอนนั้นทิ้งทันที นิยายมันจะหายไปจากหน้าแรกอัพเดตปะวะ
เคยมีทีมสับคนนึงพูดว่า เบื่อที่มีคนมาทะเลาะกันในมู้ เบื่อโทรล เบื่อพวกล่อตีน เลิกโทษกันไปมาแล้วหาเรื่องมาสับเหอะ จะได้เป็นไปตามทิศทางที่สมควรของมู้ซะที
กูเริ่มสงสัยว่ะ ว่าการสับนี่ทำให้นักเขียนพัฒนาได้จริงเหรอวะ บางคนเห็นโดนสับซ้ำแล้วซ้ำเล่า งานก็กากแล้วกากเล่าเหมือนเดิม บางคนมันฟังเหมือนจะเข้าใจ แต่ก็ไม่เข้าใจจริงจัง ไม่เข้าใจการมองจุดบอด ชัดเจนสุดก็ตรงภาษา อะไรคือยืดเยื้อ อะไรคือน้ำท่วมทุ่ง ตกลงการสับมันช่วยทำให้พวกนี้แตกฉานได้มั้ยวะ หรือจริงๆ แล้วต้องอาศัยกาลเวลา ให้มันขัดเกลาตัวเอง
อีกอย่าง บางคนที่สับคนอื่นเยอะแยะ พอไปดูงานมันก็ขากถุยไม่แพ้กัน คืออะไรวะ
>>922 กูว่าต้องดูด้วยว่าคนสับสับตรงจุดมั้ย อธิบายเข้าใจมั้ย และคนเขียนเปิดใจพอมั้ย อีกอย่างบางคนสับครั้งเดียวมันแก้ได้ไม่หมดก็มี คนสับอาจจะต้องมีติดตามผลและคอยไกด์เรื่อยๆ(เหมือนบก.แต่ทำฟรี) ซึ่งคนที่ว่างขนาดนั้นหายากมาก... ส่วนเรื่องคนสับกากซะเอง อืม...กูว่าการหาข้อเสียคนอื่นมันง่ายกว่าหาของตัวเองอ่ะ และคนสับก็ไม่จำเป็นต้องเขียนดีกว่าคนโดนสับด้วย งานเขียนชิ้นนึง ถ้าให้คนสองคนมาดูอาจจะเห็นข้อเสียคนละข้อคนละมุมก็ได้อ่ะ ...โทษทีกูพูดวกไปวนมา ถ้าไม่เข้าใจก็ขอโทษที orz
>>922 การที่ผู้เขียนได้รับคำวิจารณ์(สมมติให้คำวิจารณ์นั้นปราศจากอคติ และผู้วิจารณ์มีความสามารถทางการเขียนจริง) จะช่วยให้เขารู้ถึงข้อดีและข้อเสียของตนเอง หน้าที่ของผู้เขียนคือการที่จำนำคำวิจารณ์นั้นมาปรับแก้ด้วยความสามารถของตัวเอง เช่น ถูกตำหนิว่าการใช้ภาษาไม่ดี คลังศัพท์ไม่หลากหลาย ผู้เขียนก็ต้องไปหานิยายที่มีชั้นเชิงในการเขียนมาอ่าน และหมั่นเพิ่มพูนคลังศัพท์ ถ้าสักแต่ ค่ะๆ ครับๆ จะจดจำไว้แก้ไข น้อมรับคำวิจารณ์ แต่มึงไม่หาทางพัฒนาตัวเองเลย งานมันก็กากอยู่แบบนั้นล่ะ นักวิจารณ์ไม่ใช่ บก. นะ ที่จะได้ต้องมาคอยนั่งจ้ำจี้จ้ำไช ตรงนั้นตัดออกสิ ตรงนี้คำซ้ำ เปลี่ยนเป็นคำนี้ดีกว่า บลาๆ
ส่วนคำถามข้อที่สอง ที่ว่าทำไมนักวิจารณ์บางคนถึงเขียนงานกาก ถ้าจะตอบเอาใจพวกมึงก็คงต้องบอกว่า ไอ้พวกนั้นมันกากไงล่ะ แถมกากแล้วยังไม่เจียม กระแดะมาสับนิยายคนอื่นเขาอีก แต่ถ้ามองแบบกลางๆ ก็ต้องบอกว่า นักวิจารณ์แต่ละคนก็มีความถนัดไม่เหมือนกัน เช่น บางคนเชี่ยวชาญเรื่องการใช้ภาษา นิยายของเขาก็จะใช้ภาษาดี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเนื้อเรื่องจะน่าสนใจ ทำให้คนอ่านรู้สึกว่านี่มึงกำลังเขียนเหี้ยอะไรเนี่ย หรือบางคนอาจถนัดการจับกลุ่มตลาด คือสามารถวางพล็อตและเขียนเรื่องที่ทำให้คนรู้สึกสนุกตามไปด้วยได้ ซึ่งนักวิจารณ์พวกนี้อาจไม่ได้เชี่ยวชาญด้านการใช้ภาษาเท่าใดนัก คนนอกมองก็อาจหยามว่ากากได้เช่นกัน
ก็นะ ตามนี้ล่ะ
คิดอีกแง่นะ คือบางทีการที่ต้องมาตามแก้คอยพัฒนานิยายตัวเองมันก็เหนื่อยไปว่ะ ไหนจะงานส่วนตัวที่ต้องทำเพราะซื้อข้าวแดก ไหนจะธุระอะไรต่างๆอีก บางทีคนพวกนี้เขาก็อยากแค่เขียนนิยายขาดๆเกินๆเพื่อผ่อนคลายอย่างเดียวก็ได้ ขอแค่มีคนมาเม้นมาชมมันก็ถือว่าคลายเครียดดีนะ
ยกเว้นว่ามึงกะจะสร้างรายได้ ทำเป็นงานหลัก เพราะไม่งั้นกุยังมองไม่เห็นอะไรที่คนเขียนต้องรีบพัฒนาว่ะ นี่กุมองมุมของคนที่ทำงานต้องเลี้ยงดูลูกเมีย พ่อแม่นะ อาจจะไม่ถูกใจพวกมึงก็โทดด้วย
>>935 เพื่อติดท็อป พอท็อปคนก็จะเข้ามาอ่านมากขึ้น มีคนคอมเมนต์มากขึ้น รู้สึกฟินขึ้น ตั้งใจเขียนมากขึ้น เขียนจบไวขึ้น เข้าตาแมวมองง่ายขึ้น ได้ตีพิมพ์ง่ายขึ้น มีโอกาสเป็นหนังสือรางวัล ได้รับการแปลเป็นภาษาต่างประเทศ รวยขึ้น ได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม หนังสือถูกจัดอันดับโดยไทมส์ว่าเป็น 1 ใน 100 เรื่องที่ควรอ่านก่อนตาย นาซ่าส่งหนังสือของเราออกไปยังนอกโลก มนุษย์ต่างดาวเก็บได้และชื่นชอบ ได้รับการตีพิมพ์ไปทั่วจักรวาล ได้รับเกียรติเอาชื่อไปตั้งเป็นชื่อกาแล็คซี่ เกิดการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมทำให้มนุษย์เจริญขึ้น ก้าวสู่ความเป็นอมตะ
ดังนั้น การย้ายหมวดมีส่วนช่วยดำรงเผ่าพันธุ์ของมนุษยชาติ
อย่าคิดว่ากูเพ้อเจ้อนะ ทุกคนที่ย้ายหมวดเขาก็คิดแบบนี้กันทั้งนั้นล่ะ คิดว่าย้ายเล่นๆ ย้ายเอาฮากันรึไง
กูขอออกตัวก่อนนะว่า กูไม่มีความเห็น กูจะสับนิยาย
ลงชื่อ เซฮุน
https://writer.dek-d.com/wildlord/story/view.php?id=1557474 กุจัดมาให้แล้ว น่าจะดีอยู่ เชิญสับ
>>941 อ่านแบบตั้งใจไปสามตอน แล้วลวกๆไปจนถึงตอนที่ 5
หมายเหตุ**คือกูพยายามจะอ่านไปให้ถึง first plot point นะ
สับนิยาย Chosen of The Ragnarok โดย เซฮุน
ลิ้งค์นี้ https://writer.dek-d.com/wildlord/story/view.php?id=1557474
นักอ่านบางคนอาจจะไม่ชอบวิธีการเล่าแบบนี้ แต่กูมองว่านักเขียนคนนี้บรรยายดี บรรยายเก่ง เล่าเป็นเห็นภาพ ก็จงเก็บความดีนั้นไว้นะ
แนะนำคนเขียน ถ้าจะให้ดีขึ้นเอาเสียงเอฟเฟกต์ออกไปให้หมด สำนวนโวหารมึงงดงามดังกุลสตรีแล้วแต่มา ตึง! เปรี้ยง! นี่มันไม่งามว่ะ
แล้วประโยคความซ้อนยาวเหยียดพยายามอย่าเขียนแบบนั้น ยกตัวอย่าง (ตอนเธียน่าโผล่ ตอน 2) บรรยายว่า "ชายผู้มีผมสีขาวทั้งหัวและร่างอันกำยำที่เต็มไปด้วยบาดแผลได้หัวเราะร่าด้วยท่าทีอันเป็นมิตรภายในห้องรับรองซึ่งติดกับโถงที่ใช่ขึ้นลงรถม้า" อ่านแล้วเหนื่อยมาก กูเห็นหลายจุด แต่อันนี้สุดๆละ สุดเขตชายแดนป้อมปราการมาก (สถานที่ในเรื่อง)
ตอนที่สาม info-dump เรื่องแร็กฯ สามสี่ย่อหน้า คนเขียนคงกะปูไปก่อนสู้แหละ แต่ไม่รู้คนอ่านคนอื่นจะอึนไหม กูเกือบจำได้ไม่หมด เหนื่อยใจ
ตอนที่สี่กับตอนที่ห้าคือ first plot point จะว่าสนุกก็สนุก "กูให้ผ่านละกันอะ" แต่ตัวละครไม่มีสเน่ห์เลยว่ะ เหมือนการบรรยายเน้นความเป็นมา ไม่มีความรู้สึกตัวละครเท่าไหร่
พล็อตดูซับซ้อนนะ มีนอกรีตจ้างรีดศาสนาห่าเหว บรรยากาศได้ น่าสนใจไหม? ลองอ่านเอาเองสักห้าตอน
ลงชื่อ เซฮุน กูไม่ใช่สาเหตุของมู้ร้าง
>>927 ด้วยความสงสัยว่ามีแบบนี้ด้วยเหรอ พอกูลองไปคุ้ยดู มีจริงว่ะ เลยเอาที่ติดท็อปเมื่อวานมาให้ดู เอาที่ไม่ถึงสิบตอนนะ
รักแฟนตาซี
ท็อปสาม 9 ตอน https://writer.dek-d.com/goodprincess/story/view.php?id=1573911
ท็อป 13 9 ตอน แฟนคลับ 509 https://writer.dek-d.com/syncava/story/view.php?id=1571689
ท็อป 18 5ตอน แฟนคลับ 316 https://writer.dek-d.com/JenJiranan/story/view.php?id=1573972
แฟนตาซี มีติดท็อปแค่เรื่องนี้ 73 ตอน https://writer.dek-d.com/nahero40/story/view.php?id=1557980
ที่ไม่ติดท็อปกับมีตอนไม่ถึงสิบก็มีเรื่องที่กูตามอ่านเรื่องนึง และที่เห็นมันเด้งขึ้นมาล่าสุด 10 หน้าแรก กับค้นหาด้วยคีย์เวิร์คนางร้าย
7 ตอน แฟนคลับ 72 https://writer.dek-d.com/maru-sama/story/view.php?id=1523638
12 ตอน แฟนคลับ 244 https://writer.dek-d.com/Loveanime14/story/view.php?id=1532561
อันนี้เกิดในนิยาย
2 ตอน แฟนคลับ 9 https://writer.dek-d.com/stella-/story/view.php?id=1545630
14 ตอน แฟนคลับ 324 https://writer.dek-d.com/sixchomphoo/story/view.php?id=1542930
หมวดไซไฟ คนอ่านแค่วันละ 20 คนก็ติด top 10 แล้วครับ
>>955 งั้นพอดีเลย กูกำลังจะสับเรื่องนี้ มีอะไรจะสั่งเสียไหม?
Night Walker บุรุษรัตติกาล
ยิดีด้วยๆ ฉีเตี้ยน เว็ปนิยายจีนต้นทางที่พวกเด็กดวกชอบเอามาแปล (แต่จริงๆ แปลจากภาษาอังกฤษ) ลงมาเล่นตลาดอินเตอร์แบบ Webtoon แล้ว แถมมี "ภาษาไทย" ด้วย ทีนี้นิยายแปลก็น่าจะหายไปจากเด็กดวกแล้ว เพราะเจ้าของเขาลงมาทำเอง น่ายินดีจริงๆ
เซฮุนสับนิยาย Night Walker บุรุษรัตติกาล
https://writer.dek-d.com/parn1112/story/view.php?id=1572369
เปิดเรื่อง ก็ได้งานเลย "เมื่อตะวันลับเหลี่ยมขอบฟ้า"
สอง ล ลิงฟังดูดีนะ แต่เหลี่ยมขอบฟ้าไม่มีนะมึง อีกอย่างที่คุ้นตามันต้อง ตะวันลับเหลี่ยมภูผา หรือคนแต่งสับสนกับเรื่อง รอยรักหักเหลี่ยมตะวันวะ?
บทนำโดยรวม เสื้อผ้าหน้าผม อาวุธพระเอก บรรยายให้ดูเท่จะลอบเข้าตึก แล้วหักมุมแบบเมะญี่ปุ่น เข้าผิดตึก! แต่ก็ไม่ได้ปังอะไรมาก เปิดบทสั้นๆ บอกโทนเรื่องว่าจะไม่ซีเรียสละ ก็คงจะใช้ตัวละครเป็นจุดขาย ไม่ใช่พล็อต
ตอนสอง บทที่ 1 โย แอล คูเปอร์ นั่นไงเดาไม่ผิด ชื่อตอนก็เป็นชื่อตัวละคร (>>957 นี่คือมึงสินะ)
เปิดตอนมาน่าสนใจ ใช้เหตุการณ์ปมอดีตอันโหดร้าย เก็บไปฝันจำจนวันนี้ของตัวละคร แล้วก็ปูไปสู่ปมปัจจุบัน รวมๆพล็อตกูว่าจืดชืดว่ะ แต่บรรยายรู้เรื่อง ให้ผ่านละกัน
ตอนที่สาม บทที่ 2 วางแผน
คนเขียนขออนุญาตรวมตอน กูว่ายาวแน่ ก็ยาวจริงๆ แต่ไม่เป็นไร
เค มีนักสืบ มีตำรวจ มีคดี มีพระเอกที่เป็นโขมย มีกลิ่นโคนัน มีกลิ่นแคทอายส์ มีกลิ่นลูแปง หอมหรือเหม็นอย่าถาม กูแค่ได้กลิ่น
ท้ายตอนคนเขียนแจ้งว่า ใครมีไอเดียชื่อตอนแนะนำได้ และตอนต่อไป 30%40% ขอไม่อ่าน
สรุป โดยรวม ก็เขียนได้แหละ เล่ารู้เรื่อง แต่ว่าจุดขายของเรื่องคือตัวเอกแบบนี้ คนเขียนต้องคิดหนักๆ ว่าทำไมคนอ่านต้องอยากรู้เรื่องราวและติดตามชีวิตของไอ้หมอนี่ด้วย ปมล้างแค้นหรอ? พระเอกโชว์เทพหรอ? แก้ไขปัญหาหรอ? มันจืดชืดพอสมควรนะ
สงสัยด้วยว่าจะเขียนจบไหม?
ลงชื่อ เซฮุน กูไม่ใช่ต้นเหตุของมู้ร้างไอ้สัด
สับอีกๆ เดี๋ยวกูไล่เอาเรื่องที่แปะไว้แล้วไม่ได้สับมาลงให้
>>964 กูเอง กูมาแล้ว เหนื่อยโคตร
รวมรายชื่อนิยายแปะไว้แล้วไม่ได้สับประจำปี 2559-2560
https://writer.dek-d.com/NepMoD/story/view.php?id=1535962
https://writer.dek-d.com/kradaikaew/story/view.php?id=1520316
https://writer.dek-d.com/Hestia/story/view.php?id=121556
https://writer.dek-d.com/kung-chun/story/view.php?id=1149251
https://writer.dek-d.com/magiciancosmic/story/view.php?id=1553152
https://writer.dek-d.com/tfyumeiholysmy/story/view.php?id=144469
https://writer.dek-d.com/Zeitokung/story/view.php?id=1518446
https://writer.dek-d.com/dragool/story/view.php?id=1543107
https://writer.dek-d.com/soramumei/story/view.php?id=1552115
https://writer.dek-d.com/hellokotori/story/view.php?id=1547491
https://writer.dek-d.com/ilga0079/story/view.php?id=1547125
https://writer.dek-d.com/atithp/story/view.php?id=1535749
https://writer.dek-d.com/kunnate18/story/view.php?id=1540287
https://writer.dek-d.com/Malisza/story/view.php?id=1498891
https://my.dek-d.com/cherry-ann/writer/view.php?id=1540694
https://my.dek-d.com/domemanager13233/writer/view.php?id=1547598
https://writer.dek-d.com/kittikan111/story/view.php?id=1430201
https://writer.dek-d.com/audra/story/view.php?id=1541315
https://writer.dek-d.com/fuyuno-hirage/story/view.php?id=1474399
https://www.dek-d.com/board/view/3711427/
https://my.dek-d.com/misterheart/writer/view.php?id=958701
https://writer.dek-d.com/kahathanan/story/view.php?id=1529577
https://writer.dek-d.com/Fungq/story/view.php?id=1547378
https://writer.dek-d.com/vvviiinnn2/story/view.php?id=1545559
https://writer.dek-d.com/kingtozing/story/view.php?id=1548832
https://writer.dek-d.com/sakur/story/view.php?id=1539350
https://writer.dek-d.com/peedee2111/story/view.php?id=1545285
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1429036
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1442437
https://my.dek-d.com/pleumfortune/writer/view.php?id=1287834
https://my.dek-d.com/domemanager13233/writer/view.php?id=1547598
https://writer.dek-d.com/Nakatokung/story/view.php?id=65732
https://writer.dek-d.com/kittikan111/story/view.php?id=1512736
https://writer.dek-d.com/jeepsuper/story/view.php?id=1552281
https://writer.dek-d.com/kradaikaew/story/view.php?id=1520316
https://writer.dek-d.com/Hestia/story/view.php?id=121556
https://writer.dek-d.com/kung-chun/story/view.php?id=1149251
https://writer.dek-d.com/rize1230/story/view.php?id=1497469
https://writer.dek-d.com/magiciancosmic/story/view.php?id=1553152
https://writer.dek-d.com/tfyumeiholysmy/story/view.php?id=144469
https://www.dek-d.com/board/view/3708416/ <<< ในกระทู้
https://www.dek-d.com/board/view/3713908/ <<< ในกระทู้
จองตามนี้นะ
The Curse เมื่อคำสาปสูญสลาย
https://writer.dek-d.com/rize1230/story/viewlongc.php?id=1497469&chapter=1
Loligend ตำนานสาวน้อยจอมเผด็จการ
https://writer.dek-d.com/jeepsuper/story/view.php?id=1552281
สาปรักห้วงวารี
https://writer.dek-d.com/kradaikaew/story/view.php?id=1520316
Guildmystic มนตราพันธนาการ
https://writer.dek-d.com/kung-chun/story/view.php?id=1149251
ลงชื่อ เซฮุน กูไม่ใช่สาเหตุของมู้ร้างไอ้สัด
หานิยายติดท๊อปมาสับบ้างดีไหม?
พวกมึงเป็นแบบกูรึป่าว ไม่ค่อยเชื่อถือนิยายติดท๊อปหมวดต่างๆ เลยไม่ได้อ่านซักที
สับนิยายครั้งแรก...
เรื่องSnowwhite Is My Sin
https://writer.dek-d.com/Hestia/story/view.php?id=121556
โครงเรื่องดูแฟนตาซีลึกลับ น่าค้นหา จะจริงไหม เดี๋ยวพวกมึงรู้
เรื่องนี้เกี่ยวกับคำสาป สโนว์ไวท์ ราชีนีแดง
บทย่อ หน้าเพจ กูไม่ได้อ่าน กูตาลาย แต่บทนำของเรื่องทำมาให้กูและพวกมึงต้องปวดสมองเลยทีเดียว
ประโยคแรกที่กูได้อ่าน หยิบยกมาจากคัมภีร์ไบเบิล จะเกี่ยวกับเนื้อหาไหมกูไม่กูรู้
การบรรยายละเอียดยิบ ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม ร่างสูงบาง มือผอมเรียว ตาตกคม แมร่งทุกอย่างกูอ่านจนเอียน
ดูเหมือนคนเขียนอยากให้เห็นภาพตาม แต่มันเยอะเกินจนทนไม่ไหวจริงๆ
การสลับฉากทำมาให้สับสนมาก จนงงว่าอันไหนเรื่องจริงอันไหนความฝัน และที่สำคัญ ใครฝันว่ะ!!!
มันไม่บอกเลยว่าตัวละครชายเริ่มแรกเป็นใคร นี่กูอ่านหลายรอบเลยนะ หรือกูโง่เกินก็เลยไม่เข้าใจ
ในเรื่องนี้จะมีองค์สีแดง ที่มีไว้สืบสวนอะไรซักอย่างเกี่ยวกับโลกแห่งความฝัน
และสาวน้อย เรริน อาราฟรอนเทียร์ [เป็นพวกมึงจะอ่านยังไง]
อาราฟ-รอนเทียร์ หรือ อารา-ฟรอรเทียร์
ครั้งแรกกูอ่านอาราฟนะ แต่ช่างมัน ว่าต่อ
นางเรรินเนี่ย ไปยืนหัวโด่อยู่ในสุสาน ของเมืองคลาร์กเชน ที่เป็นเมืองร้างจากเรื่องในอดีต
ทันใดนั้นก็มีหนุ่มหล่อโฮก ปานเทพบุตรโผล่มาทักทายจนนางเรรินต้องหน้าแดง
[มึงไม่คิดบ้างเหรอว่ามันอาจจะเป็นผีก็ได้] สร้างความประทับใจให้กูมาก เจอชายงามในป่าช้า GOOD!
เขาชื่อแลนสลอต จากนั้นก็พูดเหี้ยอะไรก็ไม่รู้ เล่นมุกให้กูไม่ขำ พร้อมถูกแซวว่ากระโปรงเปิดแต่จริงๆก็ไม่
เลยโดนตบ จากนั้นเพื่อนร่วมทีมสืบสวนของอีตาแลนหอยหลอด ก็เจอโลงศพหรูๆ ข้างในมีร่างที่ไม่เน่าเปื่อย
บรรยายละเอียดทุกสัดส่วนจนกูจินตนาการไม่ออก
ทิ้งท้ายด้วยประโยคสีแดงเข้มๆว่า "ราชีนีแดงรุ่นที่สอง กำลังจะตื่นขึ้นมาแล้ว"
นี่บทนำนะโว๊ย อ่านก็ยาก สรรพนามยั่วเยียะไปหมด โดยรวมคำผิดน้อย
น่าติดตามตรงที่มึงจะมีแต่คำว่า อะไรวะ อะไรวะ นี่มันอะไรวะ อยู่ในหัว...
คะแนนความประทับใจเริ่มแรกต่อเรื่องนี้ กูให้ 6/10
ปล. ยังไม่จบนะ เรื่องนี้ทำกูเคืองจริงๆที่อ่านแล้วแทบไม่เข้าใจ เดี๋ยวกูมาเขียนต่อใหม่ รอติดตามได้เลย
ยังงี้ก็ได้เรอะ https://www.dek-d.com/board/view/3721933/
มีคนคิดถึงพวกมึง https://www.dek-d.com/board/view/3722328/
อรุณสวัสดิ์ กูเซฮุนเอง มาพร้อมงานสับ
The Curse เมื่อคำสาปสูญสลาย
https://writer.dek-d.com/rize1230/story/viewlongc.php?id=1497469&chapter=1
โดยรวม นิยายมีสิบตอน แต่ละตอนสั้นเป็นหมอยมด ถ้าไม่นับแทรกข้อมูลและบทนำ เนื้อหานิยายก็มีแค่6-7 ตอนได้ กูก็อ่านหมดเมื่อกี้ในห้องน้ำ
นิยายบรรยายบุรุษที่หนึ่ง มุมมองของนางเอก ไอรีน เคิร์ส
การเล่าของอีหนูไอรีนนี่เวิ่นพอสมควร ตัวอย่างเช่น ฉากเปิดโรงเรียนของแม่ง ประโยคแรกเลยนะ
"ภายใต้ชุดกระโปรงลายลูกไม้นั้นฉันเดินเข้าไปในห้องเรียนเพียงคนเดียวถึงแม้ว่าฉันจะมีพี่สาวเรียนอยู่สถาบันแห่งนี้ด้วยก็ตามทีเถอะแต่เขาอยู่คลาส 3ซึ่งต่างจากฉันที่อยู่คลาส 1 เป็นแค่เด็กนักเรียนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น"
ยาวยืดยาดไม่พอ แม่งเริ่มจากใต้กระโปรงบอกว่ากูมาคนเดียว (อ้าวอีห่าราก! ใครใส่กระโปรงตัวเดียวกันสองคนมาโรงเรียนวะ!?) ประโยคเดียวไล่จนถึงพี่สาวไปยันระดับการศึกษาได้ด้วย (รบกวนแยกทุกอย่างออกจากกันหน่อย!)
ประโยคต่อไปย่อหน้าเดิม 'เจน' ถึงส่งฉันมาเรียนที่นี่ เพราะฉันร่ายเวทย์แรง อยากให้คุมได้ ไม่พอ! ในย่อหน้าเดียวกันเสือกยัดอันนี้มาส่งๆ "วิชาฟิสิกส์ใช้ในการคำนวณอัตราการเร่งของการร่ายเวทย์" อีไอรีนบอกเกลียดเข้าไส้มาก จบย่อหน้าด้วย "มันเป็นวิชาที่คนทั้งโลกเกลียดด้วยเลยมั้ง"
เค นางเอกเวิ่น คอนเฟิร์มจากแค่ย่อหน้าแรก
อ่ะต่อไป ลีลาการเล่าของคนเขียน ฉากแรกในห้องเรียน บทสนทนากับเพื่อนใหม่ (เค dialogue) คือชีลืมเอาหนังสือฟิสิกส์มา ชีชื่อ เจส ก็แนะนำตัวแล้วถามว่า แล้วชื่อเธอล่ะ? นางเอกก็ตอบ
"ฉันชื่อไอรีน เอ่อ...ค...เคิร์สจ้ะ"
นางเอกเริ่มพลังพลุ่งพล่าน ตาเปลี่ยนสี สักพักจู่ๆ เพล้ง! เสียงเอฟเฟกต์กระจกแตก
คืออธิบายว่าเพราะพูดนามสกุล (ดูพล็อตแม่งดิ) ไม่พอ อาจารย์ในห้องโวย ใครใช้เวทย์? อีไอรีนก็หนูเองค่ะ (อ่ะจานต่อ) เธอชื่ออะไร? ไอรีน เคิร์สค่ะ (แต่รอบนี้ไม่เป็นไรว่ะ ห่าอะไรเนี่ย?)
แล้วก็เสียงซุบซิบของคนในห้อง น่ากลัวเนอะเธออย่าไปยุ่งกับมันเลย...(เท่านั้นไม่พอโว้ย)
จู่เสียงแม่แว่วมาในหัว เชิญชวนเข้าสายมืด 4-5 บรรทัด (กูนี่ฮามาก แม่งรีบได้ใจกู) อาจารย์บอกไปห้องพยาบาลไหมสัด? อีนี่ก็ดันขึ้นกับเสียงแม่ในหัว กูไม่เป็นเหมือนแม่หรอก โครม! พลังน้ำแข็งจัดทุกโต๊ะแข็ง อีไอรีนจะลมจับ เลือนลางอีเจสมาประคองกับผู้ชายคนหนึ่ง ประมาณว่าก่อนหมดสติ เห็นผู้ชาย ยังอุตส่าห์ละเมอในใจถาม เขาเป็นใครกันนะ? แล้วจบตอน (มึงบรรยายไปเลยว่าหล่อก็ได้ ดีออกกก ถ้ามึงจะ cliffhanger ไปตอนสอง)
ตอนสอง อยู่ในห้องพยาบาล บ่นเรื่องเวทย์กะนังเจส เวทย์วายุทำกระจกแตก น้ำแข็งบลาๆ ถ้าเวทย์ปฐพีมีหวังตึกถล่มแน่ (จ้ะๆ ตามสบาย) สักพักบลาๆอัพเดท นักเรียนถูกจานปล่อยกลับ อ่ออออ อีไอรีนสนใจที่ไหน นึกได้ปุ๊ป ถามผู้ชายล่ะๆ ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร (แม่งรีบจริงๆ) เจสก็บอกแม่งยังรอข้างนอกอยู่เลย อีไอรีนรีบขอร้องเลย เจสพาฉันออกไปหน่อย อยากเห็นใบหน้าเขาจริงๆ (กูส่ายหัว) อีเจสตอบ ได้ แต่ไม่แน่ใจว่ายังอยู่หรือเปล่านะ (อะอีนี่ เมื่อกี้มึงบอกอยู่ข้างนอก!) อยู่ๆทันใด ก็มีเสียง เจน! ดังในหัว (เหี้ยมาไง) อ่า! พวกมึงลืมยัง เจนคนที่บอกให้มาเรียนที่นี่ หลังจากใต้กระโปรงลูกไม้เดินเข้าห้องจากตอนที่หนึ่ง (กูก็ความจำดีไปนะบางทีกับเรื่องไร้สาระเนี่ยชื่อ เจส เจน ดูสับสนแต่ทำอะไรกูไม่ได้จริงๆ)
ไม่มีห่าอะไรสาระ เสียงเจนเชียร์ให้เดินไปดูผู้ชาย ส่วนเพื่อนเจส เปิดประตูเสียงเอฟเฟกต์ดังเป็นนักร้องนำวงคาราบาวกับ ด เด็ก อีกสามตัว แต่ไม่เจอ! (มึงจะสร้าง scene หาพ่อง!?) อีไอรีนผิดหวังไหม? ไม่รู้ไม่ได้บรรยาย ถามชื่อผู้ชายเลย เจสก็ตอบ อีธาน อีธาน ก็อดวู้ดส์
แล้วก่อนจบตอนก็ตัดไปเช้าวันต่อมา มาเรียนอีก (เห็นไหมกูบอกว่ารีบ cause and effect ไม่มีเหี้ยไรเลย) รอบนี้เจอเพื่อนเจส มีเจนโทรเข้า (อ่าว!? มึงไม่ใช้เสียงในหัวแล้วหรอ?) นั่นแหละ แล้วมาที่ ห้องเรียนวิชาควบคุมเวทย์...จบตอน
หลังจากนี้กูอ่านลวกๆละ นั่นแหละ มีปมแม่ หลังๆมีพี่สาวมาอีก มีปมผู้ชาย มีปมคำสาป มีความรัก "เธอเป็นมนุษย์! ฉันเป็นคำสาป!" (กูงี้น้ำตา ลาลาแลนด์)
สรุป เนื้อหาน้อย ตัดจบไปแล้ว ก็บายยยยยยนะ
ให้เดานี่คือนิยายด้นสด คนแต่งเป็นวัยรุ่น (ถ้าเป็นป้าเขียนกูขอด่าเถอะ เขียนห่าอะไรของมึง) นิยายดูไม่มีการวางแผนก่อนลงมือเขียน draft แรก เพราะทุกอย่างแกว่งไปมาชิบหาย
สุดท้าย ฝีมือคนเขียนไม่ได้สิ้นหวังขนาดนั้น ยังพัฒนาได้อีก แต่กูคงไม่มีอะไรจะแนะนำหรอกนะ ชีวิตมึงเอง
ลงชื่อ เซฮุน กูไม่ใช่สาเหตุของมู้ร้างอีสัดนรก
สองเรื่องที่พวกมึงสับมาก็เป็นแนวที่กูชอบนะ กูอยากอ่านที่คนเขียนออกมาดีๆได้จัง
พรุ้งนี้ทันป่ะ
กว่ามึงจะเปิดบทที่7
มีใครรออ่านประกวดเรื่องสั้นด.ด.เหมือนกูมั้ย
งั้นกูก็โบราณรองจากคันดะคุงอ่ะดิ แต่กูจืดจางมาก
ตัวบุคคลมู้นินทานะคะซิส
แวะมาถม
นอกเรื่องนิด กรุกลับมาอัพเรื่องในเด็กดีที่กรุดองไว้ตั้งแต่ปี 56 ยังมีคนตามอ่านอยู่ด้วยแฮะ เป็นปลื้ม
ยินดีด้วยมึง
ตั้งมู้ใหม่ยัง?
ขอเลขสวยก่อนปิดมู่
เบื่อเหี้ยๆ
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.