แถมอีกหน่อยนึง คือกูอ่านที่มึงเปรียบเทียบนิยายแปลกับการขายของก๊อปในห้างแล้วงงแตกมาก คือไม่เข้าใจว่ามันโยงกันมายังไงด้วยซ้ำ
มึงดูอะไรที่มันค่อนข้างใกล้เคียงกันอย่างเพลงก็ได้ นักร้องตามร้านอาหาร หรือเปิดซีดีเพลงในร้านอะไรงี้ค่อยใกล้เคียงกว่า สมมติมึงรักพี่แอ๊ดมากแล้วนักร้องแม่งร้องเพลงคาราบาว มึงไปโวยใส่เจ้าของร้านก็ได้แต่ร้านจะเลิกทำหรือไม่ก็เป็นเรื่องของร้าน แถมมึงก็ไม่มีสิทธิ์ไปตามตำรวจมาจับ ทำได้แค่แจ้งค่ายเพลงให้เขาจัดการ และถึงมันจะเป็นแค่การตีความในด้านกฎหมาย แต่ก็มีฎีกาออกมาแล้วว่าถ้าแค่เป็นการเปิดเพลงให้ฟังเฉยๆโดยที่ร้านไม่ได้เก็บค่าฟังเพลง ค่ายเพลงจะมาเรียกเอาอะไรจากร้านก็ไม่ได้ อันนี้สิถึงจะเทียบกับนิยายแปลได้หน่อย ไม่ใช่กระเป๋ารองเท้าอะไรเทือกนั้น