กระทู้สำหรับพูดคุยนิยายที่ลงอยู่ในเว็บเด็กดี จะด่า จะวิจารณ์ จะอวยก็สามารถทำได้
คลังกระทู้เก่า
นิยายเด็กดี บทที่ 1 -- https://fanboi.ch/webnovel/2403/
ตั้งรอไว้ ใช้กระทู้แรกให้เต็มก่อนนะจ๊ะ อีกนิดเดียว
Last posted
Total of 1000 posts
กระทู้สำหรับพูดคุยนิยายที่ลงอยู่ในเว็บเด็กดี จะด่า จะวิจารณ์ จะอวยก็สามารถทำได้
คลังกระทู้เก่า
นิยายเด็กดี บทที่ 1 -- https://fanboi.ch/webnovel/2403/
ตั้งรอไว้ ใช้กระทู้แรกให้เต็มก่อนนะจ๊ะ อีกนิดเดียว
มู้เก่าเต็มแหล่ว /ย้ายผ้าผ่อนมา
กูขอตอบ 991 มู้แรกนะ
มุมมองบุรุษที่1 ไม่ต้องมีช่วงพรรณนามโนที่ตัวเอกหรอวะ ต้องเพ้อหน่อยให้คนอ่านอินใกล้ชิดเสมือนเป็นตัวเอกเอง มันเป็นงานโม่งก็ค่อยๆคิดไปละกัน ตั้งร้อยตอนไม่ต้องรีบคิดให้ปวดขมอง เด๋วก็เจอทางสว่างเองแหละเพื่อน
บ่นต่อ กูอยากปลดปล่อยความเบียวโว้ย 555 อยากรู้เหมือนกันว่าจะได้แฟนคลับตามมั้ย
http://www.dek-d.com/writer/41315/ อ่ะ กระทู้แนะนำนิยายโดยพี่เว็บ โม่งอารีอยากสับเรื่องไหนบ้างไหม
ตอนนี้กำลังลองคิดพลอตเบียวๆแต่แตกต่างจากคนอื่นอยู่ จริงๆกูไม่สนอะไรทั้งนั้น จะติดท็อปมั้ยก็ช่าง กูแค่อยากแต่งแต่ต้องทำใจเรื่องเห่อหมอยมาติดพันชีวิตนี่สิ 555 กูไม่อยากข้องเกี่ยวกับพวกนี้เล้ยให้ตายสิ แต่ดูเหมือนไม่มีทางเลือกว่ะ
ตัวข้าแข่งแกร่งยิงกว่าจอมมาร มีผมสีเงิน ตาสีเงิน แถมหน้าตาข้าหล่อสุดๆ
แต่งแค่นี้เองมึง สู้ๆ
หัวเงินตาเงินดีแล้ว ใส่เสื้อโคดสีเงินด้วยถึงจะดี อย่าลืมช่วยหญิงฆ่าล้างบางแล้วได้ทาสมาปี้ไปตอนๆ ด้วย
กูขอเปิดประเด็นอีกเรื่อง นิยายเบียวของเด็กดีจะมีส่วนนึงที่ขัดใจกูมาก นั่นคือ"การโกง"
ความคิดกูอาจจะโบราณเต่าล้านปี แต่เด็กเด๋วนี้มีค่านิยมโกงแล้วเก่งหรอวะ โกงเป็นเท่ากับคือคนฉลาด
นิยายแฟนตาซีเมื่อก่อนมีแต่ตัวเอกต้องพยายามค่อยๆเก่งทีละนิด อย่างมากก็เผอิญเจอไอเทมเทพ คัมภีร์ลับอะไรก็ว่าไป
กูอ่านนิยายเบียวติดท็อป แค่รายละเอียดเปิดตัวก็บอกว่าโกงอะไรบ้าง สกิลโกง พลังโกงเยอะฉิบ
ไม่ได้เข้ามาวันเดียว แม่งตามอ่านไม่ทันเลย สรุปมึงอยู่ประเด็นไหนกันเนี่ย กูยังอยู่แค่โรเซนเนียอยู่เลย
>>20 กูว่าค่านิยมเด็กตอนนี้คือต้องการความเร็วป่ะ คืออะไรก็ตามขอให้เร็วไว้ก่อน ไม่ค่อยชอบการรอ เพราะงั้นถึงต้องอัพนิยายวันละหลายตอนถึงจะติดท็อป แต่พล็อตก็ต้องเอื้อให้ตัวเอกเก่งให้เร็วที่สุด เต็มไปด้วยคนมารุมรัก ไปให้สุดในทุกๆทางภายในระยะเวลาที่สั้นที่สุด
>>21 ตอนนี้ประเด็นอยู่ที่โม่งจะแต่งนิยายปลดปล่อยความเบียวบ้าง เพราะแต่งไม่เบียวแล้วมันไม่รุ่งจีจี
>>28 เพราะงั้นถ้าอยากเด่นอยากดังในยุคที่เด็กดีเป็นแบบนี้ โม่งอาจจะต้องถอดสมองแล้วยัดความซูสตูให้เต็มที่ป่ะวะ...
>>29 เอ้า มึงคือโม่งที่เคยเปรยๆในมู้ก่อนว่าจะแต่งนิยายที่พระเอกลวงคนเข้าฮาเร็ม แล้วฆ่าทีละคนเพราะอะไรสักอย่างป้ะ? ตามมามู้นี้ด้วยสินะ 5555
>>30 โอเค แล้วนิยายเขาไม่มีอะไรให้พูดถึงเลยเหรอวะ 555555
ก็มึงบอกว่าสับนิยายจนละเอียดแล้ว ก็นึกว่าหนูพริม ถ้ามึงจะนินทาก็ไปเปิดประเด็นมู้นินทาเด็กดีดิ ดีไม่ดีมึงไม่ต้องแฉเองด้วยซ้ำ ไปปล่อยให้อีป้ามันอยากเสือกหน่อย เดี๋ยวมันขุดมาให้มึงเอง
มึงเห็นมั้ยว่าคนรอเสือกเต็มไปหมด บอกแค่พฤติกรรมมาก็ได้ อาจมีคนสืบต่อเอง
แค่ชื่อนิยายเอง สับก็สับไปแล้ว โม่งจะหลุดได้ไง
พูดถึงพริมณารา กูไปส่องเฟซนางมา นางน่ากลัวชิบหาย มีพูดถึงพระมงพระแม่ ปกติป่ะเนี่ย ทำเอากูนึกถึงอีกไอดีนึงที่มาแนวนี้เลย
>>39 เรื่องบารามอสนะความเห็นกูคือไม่น่าโดน แต่ที่กูบอกว่าไปนอกอ่วมคือโรเซเนีย ถ้าอยากลองก็ให้แปลเป็น Eng ไปลงกูว่าต้องโดน ดีแค่ไหนแล้วที่ภาษาไทยไม่ได้แพร่หลาย ใจจริงกูก็อยากให้โดนนะจะได้เข็ดๆไปแต่ชีวิตกูไม่ได้ว่างขนาดนั้นน่ะสิ ภาษากูก็กลางๆไม่ได้ดีอะไรให้ไปแฉให้ต่างชาติมาเล่นก็ไม่ไหวกูอายสกิลภาษาตัวเอง ทุกวันนี้แค่อ่านออก เขียนพอเป็นประโยค พูดได้นิดหน่อยก็เหลือเชื่อแล้ว
เรื่องเตือนภัยคือคนเขียนแม่งจิตน่ะสิมึง แล้วก็ทำเรื่องเอาไว้เยอะด้วย ถ้ากูโม่งแตกคือกูคงโดนวอเต็มๆคนเขียนแม่งพวกหัวรุนแรงด้วยกูแค่โม่งตัวน้อยๆเอง ที่บอกว่าวงในเพราะกูไม่ได้คุยตรงๆกับคนเขียนแต่บังเอิญสังเกตได้
อ่ะ กูไปทำลิสต์มาแล้วว่าโม่งเคยสับนิยายเรื่องไหนบ้าง แบบสับละเอียดหน่อยอ่ะนะ ถ้าบอกว่าเป็นนักเขียนหน้าใหม่ แปลว่าพวกข้างบนตัดทิ้งได้หมด ที่เหลือมึงใบ้หรือชี้เป้าหน่อย
- พริมณารา => ยมทูต?
- ลูเซีย => แรดฤทัยมังกร
- พี่ริ => เจ้าชายน้ำแข็ง?
- มู่ => ????
- dohrock12 => มหาจักรพรรดิจอมมนตรา
- Laf Kung => Guardian of Life
- LE@RN => Ability High School
- ???? => เกิดใหม่ที่ต่างโลกกับหนังสือแห่งพระเจ้า => ลบทิ้งไปแล้ว บัยส์
- 5CD081 => Exylyst's Effect
- Sword of Fenrir => Sorcerer Lord จ้าวมนตรา ราชันย์แดนต้องสาป
- อรุณรุ่งและสนธยา => St.Augarsia มหาสงครามจักรภพ
- Hestia Grandier => Endless Forms
- minikikaboo => โรเซนเนีย
แคตตาล็อกพระเจ้าลบทำไมวะ ใครช่วยบอกกูหน่อย
สงสัยว่าโดนด่ามากเกินมั้ง เลยลบทิ้งแม่ง
อ้าว แคตตาล็อกพระเจ้าลบแล้วเรอะ กูน
รู้สึกผิดที่เอามันมาวิจารณ์เลย ฟฟฟฟฟฟ
มัวแต่แต่งนิยายจนลืมแฟนมั้ง เลยโดนแฟนสั่งลบทิ้งแม่มเลย กุมโน เดาจากสเตตัสล่าสุด
>>60 เขาอาจจะไม่ได้ลบเพราะมึงก็ได้ คือจริงๆกูว่าก็มีคนไปเม้นในนิยายเขาเยอะอยู่นะ (แต่ไม่รู้เม้นแซะด้วยรึเปล่า) เคยอ่านที่นักเขียนออกมาพูดประมาณว่า ผมก็ไม่รู้ว่าเรื่องนี้ติดท็อปได้ยังไง มีคนมาถามผมเยอะมาก ในเฟซก็มี ถ้าไม่พอใจอะไรกันนักเดี๋ยวผมลบนิยายก็ได้นะ อะไรแบบนี้อ่ะจำได้ไม่เป๊ะ
จะใช่เรื่องหญิงจริงหรอวะ แฟนสั่งอะไรพรรคนี้ยอมทำตามด้วย ทำไมกูคิดว่าน่าเป็นมีดราม่าอะไรมากกว่าแต่ลบไปแล้วไม่รู้จะสืบไงต่อ
ปัญหาเรื่องส่วนตัวเขาหรือเปล่าอย่าไปขุดคุ้ยเลย หานิยายมาสับต่อดีกว่าไหมพวก
กลับสู่ประเด็นที่มีคนเปิดไว้ ตกลงว่าคนไหนที่มึงอยากจะออกมาเตือนภัย กูลิสต์มาแล้วเนี่ย ใบ้หน่อย
มันต้องมีดราม่าแหละถึงได้ลบ ถ้าแค่ปัญหานิดๆ หน่อยๆ อย่างเปิดเทอมแล้ว แค่หยุดอัพก็ไม่น่าจะมีใครมีปัญหาอะไร
เอาที่กูคิดว่ามีประเด็นน่าสนใจนะ
http://writer.dek-d.com/ukariojung/story/view.php?id=1466255 อัพบ่อย ตอนเยอะ แต่ไม่รู้ทำไมไม่มีคนเม้นเลย
http://writer.dek-d.com/yaoimask/story/view.php?id=1466360 แนวต่างโลก ตัวเอกโดดเด่นด้วยความเป็นมาโซคิสม์
http://writer.dek-d.com/isarang/story/view.php?id=1475786 นี่น่าจะนักเขียนคนเดียวกับที่บอกเคยให้สัมภาษณ์กับเด็กดีว่า เคยโดนคนดูถูกว่านิยายตัวเองเป็นนิยายขยะ (ไม่ชัวร์นะ แต่เรื่องนี้คนละเรื่องกับที่เคยโดนว่า)
http://writer.dek-d.com/thewayyoulie/story/view.php?id=1400433 เรื่องนี้อัพย่อยมาก เจ้าหมวดแฟนคาซีตอนเช้าสายบ่ายเย็นก็เห็นเรื่องนี้อัพตลอด(อัพหลอกมั้ยไม่รู้นะเพราะไม่ได้จำจำนวนตอน) เฟ็บเยอะ ลองอ่านคร่าวๆภาษาพอใช้ได้
http://writer.dek-d.com/gigza1234/story/view.php?id=1418080 นางเอกเป็นเยติ น่าจะแนวโรงเรียน
แค่นี้ก่อน พิมพ์ในมือถือลำบากมั่ก ไม่เลือกไม่เป็นไรนะนี่สุ่มมาจากที่เพิ่งอัพในหมวดแฟนตาซีเลย
เห็นคนเขียนโรเซเนียบอกว่าถ้าไม่มีนิยายเรื่องดราก้อนเดลิเวอรี่ก็จะไม่มีโรเซเนียในวันนี้ เพราะเป็นนิยายที่ทำให้เกิดแรงบันดาลใจขึ้นมา ใครเคยอ่านเรื่องดราก้อนช่วยเปรียบหน่อยสิว่ากลิ่นแรงบันดาลใจมันฟุ้งไหม
เรื่องที่ 5 น่าสนใจแต่เสียดายบทนำเป็นเนื้อหาวิชาภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์ ความอยากเลยลดลงไปนิด
เรื่อง : เชื่อสิ ข้าน่ะธรรมดาที่สุดในเรื่องแล้ว
ผู้แต่ง : TheWickedWarlock
link : http://writer.dek-d.com/TheWickedWarlock/story/view.php?id=1472958
จำนวนตอน : 5 (ยังไม่จบ)
ไม่ใช่นิยายที่เลิศเลอ แถมภาษาและการบรรยายก็ไม่ได้เด่นดีอะไรแถมดูออกจะแป๊กๆ ด้วย แต่ไม่รู้ทำไมกูถึงอ่านแล้วยิ้มได้แฮะ
เกริ่นขึ้นมาที่หน้าแรกว่านางเอกเป็นแม่มดธรรมดาๆ ที่พ่อและแม่ตายไปตั้งแต่ยังเล็ก เลยต้องอาศัยอยู่กับป้าๆแม่มดในหมู่บ้านห่างไกลแห่งหนึ่ง พอเจ้าหล่อนอายุได้ 16 ปี ก็ต้องไปเข้าเรียนในเมือง (เป็นกฎหมาย) และเรื่องก็เริ่มจากจุดนี้
บรรยายแบบบุคคลที่หนึ่งเหมือนตัวเอกกำลังคุยกับคนอ่าน ตัวเองดูโก๊ะๆ เปิ่นๆ อึนๆ สำหรับกูๆว่ามันน่ารักดีนะถึงแม้จะไม่ได้บรรยายดีเท่าไหร่ เรื่องก็เริ่มขึ้นแบบที่บอก นางเอกต้องไปเข้าโรงเรียนในเมืองหลวง ก็มีการปูฉากเมืองหลวงให้พอรู้นิดหน่อย ประมาณว่าป้าๆแม่มดในชนบทน่ะใจดี แต่คนในเมืองหลวงออกจะดุและแล้งน้ำใจ ประมาณนั้น นางเอกไปถึงเมืองหลวงวันแรกหาทางไปโรงเรียนเวทมนตร์ไม่เจอ ถามใครก็ไม่มีใครเต็มใจตอบเลยลองขี่ไม้กวาดหาดู ปรากฏว่าการขี่ไม้กวาดในเมืองเป็นสิ่งผิดกฎหมาย (เพราะว่าถ้าตกลงมาใส่คนข้างล่างคงแย่) นางเอกถึงโดนตำรวจจับไปเสียค่าปรับ แต่ตำรวจก็ยังใจดีมาส่งที่โรงเรียนให้ แต่พอมาถึงโรงเรียนแล้วนางเอกก็ยังมึนๆอยู่ดีว่าต้องไปที่ไหน พอดีเจอผู้ชายเย็นชาคนนึงอยู่แถวนั้น นางเอกก็เลยเดินตามเขาไปจนถึงห้อง ไอ้ผู้ชายเย็นชาก็เอ่ยปากไล่ แต่นางเอกกลับคิดว่าอีตาคนนี้ใจดีจัง พามาส่งด้วย ก็เลยยิ้มๆตอบกลับไป
ข้ามมาถึงเรื่องการเข้าเรียนที่โรงเรียน ก็ตามสูตรนิยายแนวนี้ ต้องมีการทดสอบ แต่การทดสอบในเรื่องนี้เริ่มต้นจากการสอบข้อเขียน ต้องสอบข้อเขียนวิชาพื้นฐานเวทมนตร์ให้ได้มากกว่า 60% ถึงจะได้เข้าไปสอบปฏิบัติ ตอนแรกนางเอกคิดว่าชิวๆ เพราะตัวเองก็อยู่ในสังคมแม่มดมาตั้งแต่เล็กๆ แต่ปรากฏว่าข้อสอบแม่งเสือกเน้นเรื่องประวัติบุคคลสำคัญ นางเอกก็รู้สึกแย่มาก แต่อย่างน้อยก็มีบางข้อที่นางเอกตอบได้ เมื่อสอบเสร็จนางเอกก็ไปนั่งทำท่าซังกะตาย เพราะทำได้ไม่ถึง 200 จาก 300 ข้อ ขณะที่นางเอกกำลังนั่งเซ็งอยู่นั้นก็มีผญ. 3 คน (หรือตน เพราะเป็นพราย) มาพูดกระแนะกระแหน แล้วก็จะมีเรื่องกับนางเอก แต่จู่ๆก็มีสาวสวยคนหนึ่งเข้ามาห้ามไว้ เป็นเจ้าหญิงชื่อยาวๆ (ซึ่งในเรื่องมันเรียกกันเต็มยศเลย น่าขัดใจชิบหาย ใครเขาเรียกทั้งชื่อทั้งนามสกุลกันแบบนี้ตลอดวะ) เจ้าหญิงก็เข้ามาช่วยปกป้องนางเอกเอาไว้ แถมยังมีเพื่อนๆเจ้าหญิงซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตมากมาย (เจ้าชาย ดยุค อัศวิน บลาๆ) เข้ามาช่วยอีก แล้วทั้งหมดนี่ก็มานั่งกินข้าว (เล่นมุกโปเกม่อนด้วย ไม่ชอบเลย ยัดเยียดข้ามโลกแบบนี้ไม่ตลก) ตกลงเป็นเพื่อนกัน เลยเป็นที่มาของชื่อเรื่อง "เชื่อสิ ข้าน่ะธรรมดาที่สุดในเรื่องแล้ว"
ต่อไปเป็นการให้คะแนน
คำผิด : ไม่ค่อยเห็น จริงๆคือไม่เห็นเลยทั้งสะกดผิดหรือพิมพ์ตก แต่กูอาจพลาดๆไปบ้าง กูให้ 9/10
การบรรยาย : บรรยายไหลลื่นนะ แต่ไหลลื่นแบบบุคคลที่หนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่ากูจะหักคะแนนในส่วนนี้ (ไม่ได้บอกว่าการบรรยายแบบบุคคลที่ 1 สู้บุคคลที่ 3 ไม่ได้ แต่การบรรยายแบบบุคคลที่ 1 มีข้อจำกัดของมันอยู่ คือจะบรรยายสิ่งที่ไม่ได้อยู่ในสายตาของตัวเอกได้ยาก) แต่ถึงจะบอกว่าไหลลื่นก็ยังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น เช่น มีการใช้ตัวหนังสือเสียง "ปรี๊ดดดดด" หรือการพยายามพูดคุยกับคนอ่าน การพยายามยกเรื่องในโลกจริงๆ(อย่างเรื่องโปเกม่อน) ซึ่งไม่มีอยู่ในจักรวาลของเรื่องเข้ามาเป็นมุก กูให้คะแนนส่วนนี้ 7/10
ตัวละคร : กูรู้สึกได้ถึงความซูนะ แต่นางเอกก็ดูน่ารักน่าเอ็นดูดี ใสๆ อึนๆ มึนๆ งงๆ ทำให้กูยิ้มได้ไปกับความคิดของมัน ตัวละครตัวอื่นๆที่ถูกยัดความเทพเวอร์เข้ามาก็ดูเหมือนว่าจะยัดความเทพเอาฮามากกว่าที่จะทำให้มันเป็นกลุ่มโกงเทพ แน่นอนว่ามันแบนไปหน่อยๆ แต่ก็พอรับได้นะถ้าคิดว่ามันเป็นตัวตลกคาเฟ่หรืออะไรสักอย่าง ให้ 7/10 นะคะ
เนื้อเรื่อง : คือ อันนี้เหี้ยสุด ตั้งห้าตอนเสือกบอกได้แค่ว่านางเอกมาจากบ้านนอกเพื่อเข้าโรงเรียน ได้เพื่อนใหม่เป็นคนมีชื่อเสียง จบ มันยังดูไม่เห็นทิศทางการดำเนินเรื่องเลยว่าจะไปทางไหน จะเป็นไดอารี่เล่าชีวิตประจำวันของนางเอก จะเล่นตลกคาเฟ่กันทั้งเรื่อง จะผจญภัยในโรงเรียน หรือจะตามหาเชื้อสายของนางเอกซึ่งเป็นความลับอยู่ (น่าจะมาแนวนี้ ประมาณว่าจริงๆแล้วนางเอกก็ไม่ใช่แม่มดธรรมดาๆนะเออ) แต่กูยังไม่รู้เลยไง ให้ 5/10 แล้วกัน ฟฟฟฟฟฟฟ
28/40 พยายามได้ดีนะคะ
>>88 มึงงงงง มึงอ่านเรื่องเดียวกับกู กูก็เพิ่งไปอ่านตอนล่าสุดมา เรื่องนี้กูชอบนะ อ่านแล้วยิ้มเหมือนมึงเลยทั้งๆที่เรื่องแม่มไม่ค่อยมีอะไร...และมุกโปเกม่อนข้ามจักรวาลนั่นกูก็ไม่ชอบเหมือนกัน แต่โดยรวมเรื่องนี้ก็โอเคอ่ะ กูหวังเหมือนกันว่าประเด็นหลักของเรื่องจะโผล่มาเมื่อไร
ปล. กูว่าเขาคิดคำโปรยชวนคนเข้ามาอ่านนิยายได้ดีว่ะ กูเห็นครั้งแรกนี่คลิกทันทีเลย
กู >>90 กูส่องบ่อยอยู่ช่วงแรก พอคิดจะอ่านจริงจังก็ปิดตั้งแต่ตอนแรก ไม่ใช่อะไร กูแสบตา แถมยาวแล้วเวิ่น กดดูตอนห่างๆกันก็ดูไม่ออกว่าจะเข้าเรื่องตอนไหน แล้วบทโปรยเกริ่นว่าจะเปลี่ยนจากชายเป็นหญิง (หน้าแรกบทความจั่วว่า ไม่วายแต่บรรยากาศเหมือนอ่านนิยายวายอีกนะ) กูไล่อ่านคอมเม้นต์มีคนถามว่าจะเปลี่ยนเพศตอนไหน คนเขียนบอกตอนที่ 14 ...ลาก่อนมึง ยืดเรื่องชัวร์
เปิดตำนานจักรพรรดิแห่งดวงดาว (The lost sphere)
ตอน1
เปิดเรื่องมาด้วยการพาชมสารคดีมนุษย์ต่างดาวที่อยู่ดวงอื่น แนะนำคนวิเศษที่ชื่อว่าเซียร์ที่มีพลังเร้นลับเหมือนมานาในเกม(?) มีกลุ่มผู้พิทักษ์ อาณาจักรออโรเรียน สายเลือดสีขาว เทคโนโลยี แนะนำอาณาจักรอื่นๆ กษัตริย์เป็นใคร บ้านเมืองเป็นยังไง สิ่งก่อสร้างแบบไหน
คือโลกมึงมีสิ่งก่อสร้างฉบับจีนกลาง หรือเมดิเตอร์เรเนียนด้วยช่ะ? ส่วนตัวแล้วกูอคติกับเรื่องที่เปิดมามึงก็อัดข้อมูลจักรวาลนิยายเต็มไปหมด เป็นนิสัยเสียที่เห็นแล้วเลื่อนอ่านข้ามไปเลยของกูเอง แถมเรื่องนี้เล่าเหมือนรายงานอะไรสักอย่าง จะบอกว่าเป็นสารคดีก็ยังไม่ได้ อย่างน้อยสารคดีมันก็เล่นสำนวนภาษา เอาเป็นว่าตอนแรกเปิดมาเหมือนกำลังอยู่ในบทความแนะนำโลก อาณาจักร และเผ่าพันธุ์ น่าเบื่อยิ่งกว่าเปิดมาด้วย กาลครั้งหนึ่ง...ประวัติศาสตร์โลกที่กูยี้เสียอีก
ตอน 2
เปิดมาเล่าเหมือนเล่านิทาน พูดถึงเจ้าหญิงแล้วก็ข้ามไปเล่าเรื่องมอนสเตอร์ อื่ม... แม่งมีเลเวลด้วย มอนสเตอร์ตายแล้วเสือกดรอปของอีก นี่กูเริ่มงงแล้วว่าโลกต่างดาวมึงหรือว่าเกมออนไลน์กันแน่ แล้วก็อัดข้อมูลอีกแล้ว ทั้งมอนสเตอร์ คริสตัลที่ใช้แทนหลอดไฟ... กว่าจะเข้าเรื่องได้ กูต้องอ่านข้อมูลอะไรของมึงมากมายเนี่ย
ประมาณว่ามีกลุ่มตี้มาสวมรอยเป็นเจ้าชาย มีพี่น้องอิริว-คิริว เทพมาก มานาเยอะแบบ 60,000 (hp เหรอ??) ก็อธิบายความเทพกันไป กว่าจะเรียกดาบ กว่าจะแปลงร่าง โชว์เทพฆ่าองครักษ์เจ้าชายได้ เสือกมานั่งนับอาวุธกันอีก...สรุป 2 ตอน กูยังไม่รู้เรื่องว่าเนื้อเรื่องแม่งคืออะไร เอ้า แล้วอีเจ้าหญิงถึกถึนตอนต้นตอนมันมาทำไม??
ตอน 3
โอเค อีเจ้าหญิงกลับมาแล้ว เรื่องคือมันปลอมตัวเป็นเจ้าชายมางานเลือกคู่เจ้าหญิงกัน..แล้วแม่งก็กลับมาเกรดความรู้วันนี้ ชาวออโรเรียนจ่ายภาษีแพงมาก บรรยายเมือง เอกลักษณ์เมือง ลักษณะประชากรและภูมิประเทศ... ชื่อเมืองมึงมีความหลากหลายมาก ตั้งแต่เป่ยจิง อีสเทิร์นบลู บริทิชคูเวอร์....ไปๆมาๆมีเซียนด้วย...อะไรเนี่ย?? มึงลืมแก้คำผิดหรือเปล่า? มันต้องเป็นเซียร์ป่ะ?
จู่ๆก็พูดถึงผู้พิทักษ์ที่เข้ามาทำสงครามประสาท(?) พูดถึงว่าแผนพรุ่งนี้จะสำเร็จ แผนอะไรวะ? แล้วจู่ๆคิริวแม่งก็ใช้ตาอสูรมองทั่วงาน ไปเจอผู้หญิงที่จิตวิญญาณดีงามมากๆ แล้วเหมือนผู้หญิงที่ว่าก็เห็นคิริว แล้วก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่น เกิดสายสัมพันธ์(?) .....จบตอน
ตอน 4 พอแล้ว หมดความอดทน
สรุป
การบรรยาย - ไม่ถูกจริต อ่านแล้วรำคาญ เหมือนจะเล่าเรื่องได้แต่ก็ยังงงๆ สำนวนภาษาไม่ได้ดีอะไร เหมือนยังทำได้แค่เล่าตรงๆแบบ who what where when why how แล้วมึงจะที่จริงแล้ว ความจริงแล้ว อันที่จริง จริงๆแล้ว เพราะว่า เนื่องจาก อะไรนักหนา...มึงบอกมาตรงๆก็ได้นะ บางย่อหน้าเล่นมีสันธานอธิบายเหตุ-ผล 2-3 ครั้ง ใช้คำว่า "ที่" ซ้ำมากกว่า 5 ครั้งในหนึ่งย่อหน้า กัวแล้วจ้า แต่จุดที่รำคาญที่สุดคือการแทรกเกร็ดความรู้มาตลอด แล้วทำได้ไม่เนียน มุกแม่งก็แป้ก...เหมือนจู่ๆกูจะเล่นมุกก็เล่น มีปัญหาไรมะ
เนื้อเรื่อง - อ่านมา 3 ตอน ยังจับไรไม่ได้มากนัก เนื้อเรื่องแทบไม่เดิน ยังไม่เห็นปมอะไรของเรื่องเลย ยืดมาก อืดมาก อ่านแล้วมีเครื่องหมาย ? เต็มไปหมด คิริวกับอิริวมาทำภารกิจอะไรกันก็ยังไม่รู้ เห้อ
คะแนน รำคาญ
ว่าไปควรทำสารบัญ รีวิวมั้ยวะ
กูตั้งแชทแบบที่ใช้ในมู้นินทานิยายไว้ เผื่อมึงจะมาคุยเล่น กูออนอยู่
https://chatstep.com/#dek-dnovel
ช่วยแนะนำนิยายแฟนตาซีที่แม่งทำการบ้านเกี่ยวกับข้อมูลทางวิชาการดี ๆ ที ตัวอย่างแบบเรื่องนี้
http://writer.dek-d.com/thelegendofm/story/view.php?id=586507
คนเขียนข้อมูลด้านฟิสิกส์แน่นดี อะไรประมาณนี้
>>97 http://www.dek-d.com/board/view/3647866/ ล่าสุดคนเขียนก็ยังคิดว่าคนอ่านหายเพราะนิยายมันวายไปว่ะ แม่งไม่มีใครเตือนนางเลยเหรอ
>>110 เห็นจากในคอมเม้นท์ แปลว่ามันต้องมีฉากอะไรสักอย่างที่วาย แต่จั่วหัวว่าไม่วาย กูเลยขอใช้สกิลเปิดผ่านๆ ไล่ดูหน่อยว่าเป็นยังไงกันแน่
Aggressive Review ต่อจาก >>97
อ่านไป 5 ตอน เพิ่งบอกปมว่าอิริว-คิริวมันมีปัญหาอะไรกับราชวงศ์ออโรเรียนของอีเจ้าหญิง แล้วมันก็วายปักธงอิริว-กาโตะ มีการสบตาปิ๊งกัน แล้วก็มาช่วยกันตอนอิริวจะตาย เหตุการณ์เกิดขึ้นสองเหตุการณ์พร้อมกันด้วย ทั้งคิริว-อิริว คือถ้ายังเล่าไม่เก่งไม่ควรจะตัดฉากสลับมาสลับไปแบบนี้ เล่าเป็นเรื่องๆ ให้จบไปก่อน แล้วค่อยไปเล่าอีกเหตุการณ์จะดีกว่า นี่มันซ้อนกัน เข้าใจนะว่าต้องการให้ไทม์ไลน์มันบรรจบกันพอดี แต่พอฝีมือไม่ถึงมันก็ไม่ไหวนะ
ย้ำคำเดิมว่าดำเนินเรื่องช้ามากกกก เสียเวลาไปกับการบรรยาย อธิบายอะไรก็ไม่รู้ ไม่ได้มีความจำเป็นต่อการดำเนินเรื่องเลย อยากจะมีไฮไลต์เหลืองไม่ก็ปากกาแดงสักอัน จะเอามาป้าย ๆ เอามาขีดทิ้งแม่งให้หมด ไม่นับเรื่องการยัดบทอธิบายใส่ปากตัวละครอีก เฮ้อ เข้าใจว่าคนเขียนต้องการสร้างเซตติ้ง แต่พอจับมายัดมันก็มากไป กลายเป็นว่าเทน้ำหนักไปที่การสร้างแบ็คกราวด์มากกว่าการดำเนินเรื่อง
คืออ่านไปหลายตอนมันก็พอจับเนื้อเรื่องได้ แต่มันไม่ควรจะหลายตอนขนาดนี้ ยืดไป 7-8 เพิ่งเข้าปม..อืม ขอสรุปเรื่องจากการอ่านผ่านๆแบบแค่กวาดสายตาก็แล้วกัน เรื่องมีอยู่ว่าออโรเรียนขยายอาณาจักรเลยไปฆ่าเผ่าเซียร์มังกรของคิริว-อิริวเข้า สองคนนี้เป็นเจ้าชายที่เหลือ จัดตั้งกลุ่มลับตัวเองเพื่อแก้แค้นออโรเรียน เลยมีภารกิจแฝงตัวเข้าไปในงานหาคู่ของเจ้าหญิงซีเพียน่า อิริวสู้กับน้องชายเจ้าหญิง แต่มีกาโตะมาช่วยไว้ ซึ่งอีสองคนนี้วาย ส่วนคิริวสู้กับเจ้าหญิง สองคนนี้ปิ๊งๆกัน สู้กันสองรอบ รอบแรกแพ้เพราะเจ้าหญิงแผนดีกว่า แล้วก็สู้กันรอบสองเลยคิริวแม่งยอมตาย เพื่อใช้เวทให้ตัวเองกลับไปเป็นเด็ก เจ้าหญิงเลยเอาเด็กคนนั้นไปเลี้ยง ส่วนกาโตะบอกให้อิริวทำใจให้เจ้าหญิงเลี้ยงพี่ชายตัวเองไป แล้วแม่งก็หนีตามอิริวไปเมืองลับในตำนาน แล้วก็สกิปไป 15 ปี คิริวในชื่อหลุยส์โตเป็นหนุ่มแล้วจ้า ก็เป็นเรื่องของการเรียนของหลุยส์นั่นล่ะ ทั้งบุ๋น ทั้งบู๊ แล้วก็โดนจับหมั้นกับเจ้าหญิงสักที
มีตัวละครชื่อฟุยุคุงโผล่มา เหมือนเป็นเพื่อนสนิท หล่อ เทพ เก่งมาก มีสาวมาอ่อยเต็มไปหมด แต่ฮีปักธงวายกับหลุยส์ มีส่งแมสเสจหากันด้วย ช่วยกันกลัดกระดุมเสื้อ อืม มึงบอกไม่วายมันก็คงไม่วายแหละ แต่ใส่ฉากมาเต็มที่เลยนะ ขัดใจที่โลกมึงเรียกฟุยุว่าฟุยุคุงนี่แหละ มึงจะเอายังไงมึงว่ามา ชื่อแม่งฝรั่งกันหมด แต่อีเจ้าหญิงซีเพียน่าเสือกเรียกฟุยุว่าฟุยุคุง... แหม่
คนเขียนบอกว่าฟุยุคุงนี่วายกับคนอื่นก็ได้นะ ชื่อแดเนียล เป็นตัวละครที่เป็นผู้พิทักษ์หล่อขั้นเทพ กูถอนหายใจเบาๆ คือจั่วหัวว่าไม่วาย แต่ทอล์คก็ออกตัวเองอีกว่าถึงไม่วายก็จะเขียนให้จิ้นวายจนได้ คือ... มึงไม่ต้องพยายามก็ได้นะ คนอ่านถ้าจะจิ้นวาย ต่อให้ตัวละครมันเกลียดกันมาก ไม่เคยมีโมเม้นท์ใด ๆ ต่อกัน ก็จิ้นได้
สรุป อ่านถึงตอน 14 ยังไม่เห็นปมของเรื่อง หรือโครงเรื่องหลังจากที่คิริวกลายเป็นหลุยส์ ยังงงๆ มึนๆ ไม่เห็น direction ของเรื่องว่าจะไปในด้านไหน
คำผิด... เซียร์!! มึงบอกเองว่าคนมีพลังพิเศษถูกเรียกว่าเซียร์ แต่ทำไมพอถึงในเรื่องมึงถึงเป็นเซียนผู้พิทักษ์? นี่กูอยู่ในนิยายจีนกำลังภายในเหรอ ถึงได้มีเซียนเนี่ย??
จุดที่เกลียด...การบอกค่ามานาเป็นพ้อยต์ อีสัส นี่เกมเหรอ แถมอีคนเขียนมึงสปอยเนื้อเรื่องตอนทอล์คท้ายตอนอีกอีห่านจิก แล้วมึงลบตอนลงใหม่ได้โหดมาก ตอน 11 มี 0 วิว กูเป็นวิวที่ 1 คือไม่แปลกใจเลยที่คนอ่านจะลดลง ไม่มีใครอยากอ่าน มึงเล่นทำงี้ ใครจะมาอ่านนิยายมึงล่ะ
มีคนไปเม้นว่าเรื่องอัพหลอกในกระทู้ที่คนเขียนเรื่อง Lost Sphere ออกมาบ่นเรื่องนักอ่านหายละ เป็นพวกมึงเองใช่มั้ยโม่ง 5555555
14.54 แม่งมาอีกละ ไม่มีเวลาแต่งนิยาย แต่เสือกว่างมานั่งลบตอนแล้วอัพใหม่ถี่ๆแบบนี้
เขาก็ไม่ได้คิดอ่านข้อความที่พวกมึงเมนท์ในกระทู้เลยนี่หว่า คุยยากคุยเย็นฉิบหาย
กุว่าเห็นแล้วแต่เมิน ปล่อยนางอัพหลอกต่อไป หรืออัพทีละ 5% ก็ด้านดี
ปล่อยผ่านไปเถอะ เยอะทั้งนิยายทั้งคนเขียน พูดมากไปเดี๋ยวร้องอีก
บอกแล้วไม่แก้ก็ปล่อยไปเหอะ ไม่ได้เน้นเล่นคนนิ ไปนิยายเรื่องอื่นต่อดีกว่า
แต่เห็นโม่งสับละเอียดขนาดนี้แล้วอยากเอานิยายของกุมาให้สับบ้างจัง
กดปุ่มระเบิดตัวเองใน1..2..3 เอาเป็นว่าพิมพ์ sorcerer ในหน้าค้นหาน่าจะเจอ
อ่ะ ลองคัดๆ มาเฉพาะเรื่องที่ไม่ยาวมากนะ (แฟนตาซีล้วนนะเพราะกูสิงอยู่หมวดนี้เป็นหลัก)
http://writer.dek-d.com/ladama/story/view.php?id=1473912 อันนี้น่าจะแนวหนักๆ หน่อย เกี่ยวกับการแก่งแย่งอำนาจกัน เซ็ตติ้งเหมือนจะเป็นยุคโบราณราวๆ ยุคสามทหารเสือ
http://writer.dek-d.com/kalaya0147/story/view.php?id=1475561 เรื่องนี้กูเห็นตั้งแต่วันแรกที่เขาเปิดนิยาย แรกๆ ฟีดแบคยังไม่ดี วิวน้อยเม้นน้อย แต่วันนี้เข้าไปดูดูเหมือนจะเริ่มอยู่ได้ละ อาจจะเป็นนิยายที่มีพัฒนาการ แต่สำหรับกูเขายังตั้งชื่อเรื่องกับคำโปรยได้เรียบไปหน่อย
http://writer.dek-d.com/rebonza001/story/view.php?id=1439802 โทนมืดๆ(มั้ง) อีกหนึ่งเรื่อง มีตัวละครที่ถูกเรียกว่าผู้ร่วงหล่น ( The Faller) ถูกซาตานและพระเจ้ารังเกียจ สูญสิ้นศรัทธาทั้งหมดบนโลก
http://writer.dek-d.com/Bluesection/story/view.php?id=1476244 เมื่อคืนโม่งฮิหรือโม่งอารีนี่แหละบอกกูว่ามีนิยายจีนที่ตัวเอกเป็นแม่มดแล้วถูกส่งไปโลกจีนโบราณ เรื่องนี้ก็คล้ายๆ กัน เป็นผู้ใช้เวทย์ที่พระเจ้าสั่งให้ไปสอนเส้นทางการเป็นเซียนให้เหล่าจอมยุทธ์
http://writer.dek-d.com/cookie-monster/story/viewlongc.php?id=1462026&chapter=2 นางเอกเป็นคนไทยชื่อจูเบียร์(ตอนแรกกูเข้าใจว่านางไม่ใช่คนไทย) ตอนเด็กๆชอบนิทานที่ยายเล่าให้ให้ฟังมาก อยู่มาวันนึงจะเดินไปเรียนแต่ดันทะลุมิติไปยุคอัศวิน แล้วไปเจอยายตัวเองที่นั่น...
แค่นี้ก่อน ถ้าเรื่องไม่โดนพวกมึงเดะหามาเพิ่มให้ T A T
Sorcerer Lord จ้าวมนตรา ราชันย์แดนต้องสาป เคยมีคนรีวิวแล้วนี่ กูยังใส่ไว้ในลิสต์รีวิวอยู่เลย
>>>/webnovel/2403/654
กูไปอ่านตอนแรกผ่าน ๆ มา ยังไม่ได้อ่านละเอียด แต่พอเห็นว่ามีคนเคยรีวิวไว้แล้วเลยไม่ได้อ่านต่อ ไม่รู้ว่ามึงอยากสับเพิ่มมั้ย แต่อยากให้สับเพิ่ม อาจจะมีคนสับให้ อ่อ อยากถามว่า มึงจะ เฮ้ย!! เฮ้ย!!!! อะไรมากวะ มันไม่ต้องร้องเฮ้ยออกมาก็ได้นะ บทแรกมึงมีเฮ้ยกี่คำ ลอง ctrl+f แล้วหาดูนะ เยอะไปจนแบบนี้ตลกคาเฟ่ตบมุกเหรอ แล้วก็ ! ถี่จนกูสงสัยว่ามันจะขยันตกใจอะไรกันขนาดนั้น เห้อ
กูขอ KY แปปเดี๋ยวนี้มันมี code ปิดบังชื่อนิยายแล้วเหรอวะ? เจอนิยายหมวดแฟนตาซีแต่คลิกไปเป็นแฟนฟิคเกาหลี หน้ากูนี่เบลอเลย
>>129 เรื่องแรก กูตามอ่านมานิดหน่อย กูว่าเสียเวลาเปิดเรื่องมากไปหน่อย สามตอนแล้วยังวนเวียนอยู่ในคฤหาสน์พระเอกอยู่เลย
ตอนแรกสุดพระเอกมันซ้อมดาบกับเพื่อน ตอนต่อมามันเปิดอ่านจดหมาย ตอนต่อมา อามันมาและอ่านจดหมายอีก
เสียเวลาชิบหาย อ่านแล้วกูเบื่อ
แต่เก่งที่คนอ่านสร้างโลก สร้างชุด สร้างยศศักดิ์อะไรได้ละเอียดดี แต่จะมีคนอ่านสักกี่คนเข้าไปอ่านๆ จำๆ กันวะ อย่างมากก็พอผ่านตา แต่ก็จำไม่ได้มากหรอก กูก็เช่นกัน
>>137 มี 5 คำ แต่เวลาเขียนกุก็ไม่ได้สังเกตนะว่ามันบ่อยจนน่ารำคาญ ก็ดี เดี๋ยวลองไปปรับแก้ใหม่ ส่วนเรื่องเครื่องหมาย! กุใช้เน้นอารมณ์พวกคำพูดกระโชกโฮกฮากกับเสียงตะโกนแล้วก็ตกใจ รวมกันๆแล้วก็เยอะในตอนแรก
ถ้ามันมีมากจนตงิดๆลูกตา กุจะไปลองหาวิธีใหม่ที่ใช้เน้นอารมณ์แล้วกัน
โม่งๆ ถ้าโม่งคนไหนว่างช่วยไปดูนิยายให้เราที เราแต่งแนวแฟนตาซี เกี่ยวกับนักอัญเชิญ เพิ่งลงได้ไม่นาน หาไม่ยากหรอก 55555
กลายเป็นมู้รับสับนิยายไปแล้ว...
อ่านระหว่างรอเกทเปิด ขอเรื่องที่ตอนน้อย ๆ ก่อนแล้วกัน อนึ่งการสับของกู subjective มาก ๆ
Summoner in Another World เมื่อนักอัญเชิญเดินทางไปยังต่างโลก
ชื่อเรื่องไม่ดึงให้เข้าไปอ่านเท่าไหร่นะ
ตอน 1
เปิดมาด้วยการบรรยายโลกอื่น เผ่าพันธุ์ และความโหดร้ายของมนุษย์ที่รุกรานเผ่าอื่น และเผ่าปีศาจที่เป็นศัตรูของมนุษย์ สองเผ่าทำสงครามกันมานานแล้ว.....เบื่อ! เอะอะก็ขึ้นแบบนี้ ทำไมกูอ่านเรื่องไหนก็ขึ้นต้นแบบนี้ตลอดด้วยวะ มันฮิตเหรอ?
สรุปง่าย ๆ คือมีสงคราม สู้ไม่ไหวละ เชิญผู้กล้าแม่ง แต่มีกฎการแลกเปลี่ยนผู้อัญเชิญเลยต้องไปแทนผู้กล้า
ปมมันคือการที่เรจิสย้ายมาโลกแทนผู้กล้า ซึ่งส่วนต้นที่ไปบรรยายสารคดีโลกบลา ๆ ไม่ได้ส่งเสริมเลย เล่ามาไม ไปขยี้ปมเหตุที่ทำให้เรียกผู้กล้ามาดีกว่าป่ะ
ตอน 2-3-4
บริบทที่บอกว่าโลกเก่ามีมังกร ตรงนี้แหละที่มึงควรใส่ข้อมูล มันดีกว่าการเล่าสารคดีเปิดโลกอีก
เรจิสไปโผล่งานคอส คนนึกว่าคอสได้เหมือนมาก แล้วก็โดนผู้ชายแปลกหน้าสอยตัวไปเพราะเป็นลม ไปโผล่บ้านนักวิจัย แต่... คุณหลอกดาว สรุปต่างโลกที่เรจิสไปโดนแลกตัวไปก็ดันเป็นโลกไฮเทค มีแคปซูลรักษาโลก คุยกันเรื่องโลกต่างมิติอะไรก็ว่าไป แล้วก็คุยเรื่องคนที่หายไป เรจิสตื่นเต้นเรื่องหุ่นยนต์
สรุปคือ 2-3-4 มึงเรื่องไม่คืบหน้าเลย ยังไม่เห็นว่าจะอะไรยังไงต่อ ก็คุยอัพเดทกันแล้วก็คุยๆๆๆ แล้วไงอ่ะ มึงจะมีปมไรหน่อยมั้ย ปมย่อยก็ได้
การบรรยาย - บรรยายโอเค อ่านได้ไม่ขัดมาก แต่ส่วนตัวไม่ชอบการใช้ "เรา" ในการบรรยาย เราจะมาพูดถึง.... เราคือใคร? มันคือการคุยกับคนอ่าน ทำลายกำแพงที่ 4 เหรอ? มันดูอิลักอิเหลื่อแบบแปลก ๆ เพราะเล่าจากบุรุษที่ 3 ตั้งแต่แรก จริง ๆ การใช้คำว่าเรา มันเหมาะกับการเขียนบทความ/คอลัมน์ที่ต้องการย่นระยะระหว่างคนอ่านและคนเขียน ให้ความรู้สึกเหมือนคนเขียนเป็นเพื่อน คิดว่าเป็นสรรพนามที่ละได้
ส่วนมุก กูไม่ค่อยขำ
คำผิด - ประปราย พิมพ์ตกหล่มตรึม ปรู๊ฟหน่อยเถอะ
เนื้อเรื่อง - พอโดนเชิญไปโลกต่างมิติที่แฟนตาซีเหมือนกันทำให้อารมณ์การอยากอ่านต่อตกลงไปหน่อย ถ้าเป็นโลกปัจจุบันคงถูกจริตกูมากกว่านี้ แต่ก็คงมีคนชอบแหละ รู้สึกขัดกับการที่บอกว่าเวทอัญเชิญแม่งโบราณ เก่าแก่ ไม่มีคนเชื่อแล้ว แต่คนที่เคยอัญเชิญดันเป็นปู่ของเรจิส มึงคิดดิ ว่าแค่รุ่นปู่มันแค่ 2 เจเนอเรชั่น แค่ 50-60 ปี มันเก่าแก่ตรงไหน เรื่องมันง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน ไม่เห็นปมปัญหา เรื่อยเกินไปหน่อย อยากเห็นความยากในการปรับตัว หรือเหี้ยอะไรก็ได้
คะแนน - อ่านได้เรื่อย ๆ
เรียกขึ้นเครื่องละ พอแค่นี้ก่อย บาย
ลองกดๆ ดูเจอคนนึงปิดนิยายตัวเองไปเกือบหมด แล้วบอกว่าต่อต้านพวกนิยายผิดลิขสิทธิ์
มันหมายถึงนิยายแปลเถื่อนอย่างพวก ไลท์โนเวล กับนิยายจีนที่เอามาแปลกันเองรึเปล่า
ช่วงนี้โม่งคึกคักมู้นี้สับนิยายเพลินอีกโม่งแฉหนูพริมกัน มีไรให้อ่านเยอะจนเผือกไม่ถูกจริงๆ 555
>>156 ใบอ่อนปะ กูเห็นแวบๆนะ ก็งงว่าแม่งมีปัญหาอะไรรึ แค่ร้องเรียนเว็บมาสแล้วเขาไม่จัดการก็งอนหนีไปละ พูดประมาณว่าเว็บไม่จริงจังกับการป้องกันลิขสิทธิ์
แต่คือมึงลืมไปปะว่าเรื่องลิขสิทธิ์เนี่ย ผู้เสียหายต้องมาร้องเองเว้ย และถ้านิยายมึงโดนลอกจริง กูก็เห็นเว็บมาสลบให้นะ แล้วมึงเป็นใครไปโวยวายแทนเจ้าของลิขสิทธิ์วะ
>>158 มึงนี่ตัวอย่างของคนอ่านฟรีจนเคยตัว ไม่รู้ไม่สนจะละเมิดใครที่ไหนก็ช่างว่างั้นเถอะ จากต่างชาติยิ่งไม่แคร์ สมมติถ้าเขาเอาเรื่องขึ้นมาเด็กดีซวย ไทยก็งามหน้าด้วยสัส
เรื่องเป็นไงกูไม่รู้ไม่ได้ตามข่าว เขาเรียกร้องเรื่องลิขสิทธิ์แทนเจ้าไม่ได้ก็จริง แต่เขาแสดงจุดยืนไม่สนับสนุนได้ คือมึงไม่ช่วยไม่มีใครด่า แต่เสือกอวดฉลาดแล้วเอาตรรกะเสื่อมๆตัวเองเป็นที่ตั้ง โคตรน่ารังเกียจฉิบหาย
>>158 กูสังเกตมึงหลายรอบแล้ว(สังเกตจากสร้อย "ป่ะวะ" ของมึง) มึงนี่ชอบหาข้ออ้างด่าชาวบ้านเขาไปเรื่อย โม่งมันเป็นอะไรที่ด่าใครโดยที่เขาไม่รู้ว่าเราเป็นใครได้ยากก็จริง แต่มึงควรคิดถึงใจเขาใจเราและความถูกต้องสมเหตุสมผลเป็นหลัก ไม่ใช่เอาแต่ความคิดสั่วๆ มาแพล่มหาพรรคพวกด่าเอามันส์เพื่อความสะใจของตัวเอง
>>161 กูไม่ทันสังเกตแบบโม่ง แต่จำได้ว่าเจอหลายครั้งจริงๆที่มีบางตัวเข้ามาโยนหินปลุกกระแสเชี่ยไรไม่รู้ในโม่ง ถึงโม่งปากดีไม่กล้าในที่แจ้งแต่กูมีสมองมีความคิด ถูกผิดถ้ามันชัดเจนกูก็คิดเองได้ ไม่ต้องมีใครเสี้ยม
กรณีนี้อยากให้มึง>>158 คิดดูนะ วอลเล่ย์หญิงเราโดนโกงมึงชอบมั้ยล่ะ ทำให้เราขาดสิทธิ์ที่ควรจะได้มึงชอบมั้ย อย่าคิดว่ามันเป็นคนละเรื่อง เรื่องเดียวกันนี่แหละเรื่องของคนโดนเอาเปรียบ โอเคมึงฟินน้ำแตกชอบละเมิดคนอื่น แต่คนที่ไม่ชอบแล้วเรียกร้องสิทธิมันก็มี
ปล.ขอโทษทีเพื่อนโม่งมี่กูขึ้นไปหน่อย กูเกลียดพวกเอาเปรียบชาวบ้านแล้วไม่สำเหนียก
http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1472880 เห็นว่าเป็นนิยายที่ชนะการประกวดenterว่ะ อัพได้ 3 ตอนละ เกี่ยวกับมนุษย์ที่มีพลังวิเศษกับอสุรกายแห่งกาลเวลา เลิกตีกันแล้วหันมาสับนิยายต่อเถอะเพื่อนโม่ง
หืมมมม กู >>158 เผลอหลับไป และกูงงว่าพวกมึงพูดอะไรกัน
พวกมึงเอาเรื่องโกงอะไรมาเปรียบกับเรื่องลิขสิทธิ์ไม่ได้ปะวะ คือเรื่องลิขสิทธิ์เนี่ยแม่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อน มันเป็นความพึงพอใจส่วนบุคคลของเจ้าของผลงาน ว่าอยากจะให้เอางานของเขาไปเผยแพร่ต่อไหม ตัวอย่างง่ายๆก็คือการเขียนแฟนฟิคต่างๆ นั่นน่ะถามจริงว่าเคยไปขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ต่างๆไหม? ถ้าไม่แล้วถามว่าเว็บควรจะลบแฟนฟิคทุกเรื่องออกจากระบบรึเปล่า?
คือพวกมึงประสาทแดกกันจนเกินกว่าที่จะเข้าใจว่าเว็บแม่งมีขอบเขตอำนาจของมันอยู่ไง ทั้งเจ้าของลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นนิยายที่เอามาแปล หรือเอามาเป็นต้นแบบแฟนฟิคมันก็ได้ประโยชน์จากการไพเรทรูปแบบนี้อยู่ อย่างน้อยๆก็คือขยายฐานแฟนคลับของตัวเอง ทำให้นิยายของตัวเองเป็นที่รู้จักมากขึ้น ใช่ว่าคนแปลจะอ้างว่านิยายเรื่องนี้เป็นของตัวเองเสียเมื่อไหร่
เพราะฉะนั้นถ้ามึงไม่พอใจที่เห็นคนเอางานนอกมาแปลโดยไม่ขอ สิ่งที่มึงควรทำจึงไม่ใช่การไปร้องห่มร้องไห้ดราม่าใส่เว็บมาส แต่เป็นการรีบแจ้งเรื่องนี้ให้กันเจ้าของงานตัวจริงทราบ ถ้าเจ้าของงานตัวจริงไม่พอใจเขาจะได้แจ้งไปยังเว็บเด็กดี แบบนี้ล่ะได้ผลแน่นอน ยังไงๆเว็บมาสก็ลบให้แน่
กฎหมายก็เขียนโคตรชัด ขนาดตำรวจยังมาจับลิขสิทธิ์เองไม่ได้เลยถ้าเจ้าของลิขสิทธิ์ไม่มาร้องขอ ใช่ว่าฟังคนร้องเพลงพี่แอ๊ดที่ร้านข้าวต้มแล้วจะเอากุญแจมือไปคล้องนักร้องกับเจ้าของร้านได้ซะเมื่อไหร่ล่ะ มึงเป็นใคร อยู่เหนือกฎหมายหรือ?
ป.ล. ส่วนคอมเมนต์ที่พยายามจะจับผิดว่ากูเป็นใครนั้นกูบอกเลยว่าหยาบคายมาก เว็บไซต์นี้เขาปกปิดตัวตนเพื่อให้มึงสนใจว่ากูพูดอะไร ไม่ใช่กูเป็นใคร มึงเข้าใจไหม? กูจะเป็นใครก็ช่าง ถ้ามึงไม่พอใจความคิดเห็นของกู มึงก็ตอบโต้ในส่วนของความคิดเห็นนั้น ไม่ใช่พยายามบอกว่ากูต้องเป็นคนนั้นคนนี้ ซึ่งมึงไม่มีหลักฐาน จับมือใรรดมก็ไม่ได้เลยจะดิสเครดิตยังไงก็ได้ สวะ
กูเกลียดมากเวลาเข้าไปแล้วเจอนิยายเอารูปอะไรไม่รู้มาแปะแล้วบอกว่าเป็นตัวละครชื่อนี้ในเรื่อง คือถ้ามึงวาดรูปเองไม่เป็น ไม่ต้องแปะก็ได้ กูจินตนาการเองดีกว่า ที่หนักกว่าคือบางทีแม่งบรรยายหน้าตาตัวละครมายังไม่ค่อยจะตรงกับรูปเลย(แหงดิก็รูปของคนอื่นนี่หว่า)
>>166 ก็ต้องเข้าใจว่าคนอ่านมีหลายระดับว่ะ
สำหรับคนที่อ่านมาเยอะๆ ประสบการณ์เยอะ พลังจินตนาการสูง มันก็ไม่มีปัญหาอะไร
อ่านการบรรยายรูปพรรณ ภาพมันก็ลอยขึ้นมาเองเลย
แต่สำหรับคนที่พลังจินตนาการต่ำหรืออ่านมาไม่เยอะ ให้บรรยายเป็นหน้าๆก็นึกไม่ออก
อย่างกูเนี่ยเคยอ่านพวกนิยายแปลที่ลงในเว็บก่อนจะไปดูรูป ปรากฏว่าแม่งจินตนาการคาแรคเตอร์ผิดเกือบหมดเลยว่ะ
ดังนั้นสำหรับบางคน มีรูปเป็นไกด์ไลน์มันก็ดีมั้ง
แต่ถ้าเอาตัวละครแบบดังๆที่อิมเมจแรงๆมาแปะ อันนี้กูว่าเป็นผลเสียมากกว่า เพราะคนอ่านที่รู้จักตัวละครแล้วจะจิ้นทั้งตัวละครและคาแรคเตอร์ไปในอีกแบบนึง(เพราะคาแรคเตอร์จากรูปมันแรงกว่าคาแรคเตอร์ที่คนเขียนนำเสนอ)
ก็เป็นดาบสองคมแหละ
>>161 กู >>158 กูนั่งอ่านข้อความโจมตีของมึงอีกครั้งแล้วกูรู้สึกโกรธมาก
1. คือ มึงไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไรกับความคิดเห็นของกูเลย แต่เสือกเอาคำกากๆที่คนไทยสักครึ่งค่อนประเทศพูดกันอย่าง ป่ะวะ อะไรเนี่ยมาโยงมั่วๆว่ากูเป็นคนนู้นคนนี้ มาบอกว่ากูชอบหาข้ออ้างด่าชาวบ้านเขาไปทั่ว แถมมีมาสอนกูต่ออีกด้วย ถามจริงว่ามึงสนุกไหมกับการเหมาโทษกูเนี่ย มึงรู้แน่เหรอว่ากูเป็นไอ้คนนั้นคนนี้อย่างที่มึงกล่าวหา ถ้ากูบอกว่ากูรำ เนี่ย กูต้องเป็นโม่งฮิไหม หรือถ้ากูบอกว่า มึงงงงงง กูต้องเป็นโม่งอีกคนนั่นรึเปล่า หรือถ้ากูให้คะแนนคนอื่นก็ต้องเป็นโม่งใจดีงั้นเหรอ
ถ้ามึงไม่พอใจความคิดเห็นของกูก็แย้งที่ความคิดเห็น อย่ามาเหมาโทษกูว่าเลว เพื่อที่มึงจะได้เป็นคนดี หน้าหี
>>165 มึงยังไม่เลิกใช่มั้ย
มึงก็ยังทำเป็นอวดฉลาดอยู่แบบเดิม ที่มึงบอกคิดว่าคนอื่นไม่รู้รึไง มึงคิดว่านักเขียนไม่รู้สิ่งที่เขาทำได้หรอ มึงรู้ได้ไงว่าเขาไม่ได้แจ้งเจ้าของลิขสิทธิ์ ซึ่งไม่ว่าเจ้าของจะใส่ใจมั้ย เขาก็แค่อยากแสดงจุดยืนที่เขายืดถือ แล้วเขาก็แสดงออกมาจริงๆไม่ดีแต่ปากร้องไห้ใส่เว็บมาสอย่างมึงบอกแล้วไม่ทำอะไร
คือนอกจากมึงทำตัวเก่งรู้เห็นโลกเหี้ยๆไปซะหมด มึงก็ยังคิดไปเองว่าเจ้าของลิขสิทธิ์ได้ประโยชน์จากคนละเมิดสิทธิ์ มึงถูกเพราะมันมี แต่ก็ไม่ทุกคนที่ได้
ไม่งั้นก็ไม่มีกรณีเพชรพระอุมาหรอกสัส มึงอย่ามาโบ้ยว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน มันมีแค่ถูกกับผิด ขอเจ้าของเขาให้ได้ก็จบอย่าสะเออะแถ
กูจนใจกับตรรกะเหี้ยของมึงมาก มึงคิดอะไรก็เข้าข้างตัวเองสัสๆ ข้อดีมึงเอา ส่วนข้อเสียมึงก็แขวะ โลกต้องยอมมึงคนเดียวรึไงสัส
แล้วกูก็ไม่สนใจอยากรู้จักคนเหี้ยๆ อย่างมึง
เรื่องมันเริ่มที่ >>156 โยนประเด็น กูเห็นตั้งแต่แรกแต่ไม่คุยด้วยเพราะไม่ตามข่าว ก็กะว่าจะมีโม่ช่วยอธิบายเรื่องต่อ
แต่มึง>>158 โดดมาเบลมรีบดิสเครดิตคนชื่อใบอ่อนซึ่งกูไม่รู้จัก ดีเนอะปล่อยวาทกรรมสกัดด้วย "ป่ะวะ"
>>171 นั่นล่ะ มึงพูดตรงประเด็นเลย เรื่องเพชรพระอุมา
อย่างที่กูบอกไป เรื่องลิขสิทธิ์น่ะแม่งต้องดูที่เจ้าของเป็นสำคัญ กรณีเพชรพระอุมาน่ะมีอยู่ว่า จู่ๆลุงพนมเทียนไปเจอแฟนฟิคนิยายตัวเอง ที่เอาผู้กองกับแงซายมาอัดตูดกัน เจอฟิคเชษฐาเย็ดดารินแล้วลุงแกรับไม่ได้ เลยใช้สิทธิ์ของเจ้าของลิขสิทธิ์สั่งห้ามแต่งแฟนฟิคเพชรพระอุมา
มึงเห็นพ้อยท์ไหม เจ้าของไม่พอใจ สั่งห้าม จบ ไม่ใช่ว่ามึงจะเป็นแฟนเพชรพระอุมา เห็นเชษฐาแดกดารินแล้วรับไม่ได้ ประนามคนเขียนฟิครัวๆ ห้ามทำนะ ผิดนะ มึงต้องหยุด แบบนี้ไม่ได้ปะวะ ต้องให้พนมเทียนมาบอกเองถึงจะครบคอร์สและมีผลทางกฎหมาย
แล้วมึงคิดเหรอวะว่าจู่ๆพนมเทียนจะเปิดเน็ตเจอฟิคนิยายตัวเอง ลุงแกขนาดประกาศห้ามเขียนฟิคยังพิมพ์ลงพิมพ์ดีดเลยมึง ยังไงๆที่แกรู้เรื่องนี้ก็ต้องเพราะมีแฟนๆไปบอกแกนั่นล่ะ นี่ไง วิธีแก้ไขปัญหาที่ถูกต้องยั่งยืน คือให้มึงไปแจ้งเจ้าของผลงานซะ
ส่วนเรื่องใบอ่อน พอดีกูเคยกดเฟบนิยายเขาเรื่องนึง มันเลยเด้งมาที่มายไอดีกูว่าเขาจะหยุดเขียน กูก็เเค่เอามาบอก ไม่รู้ว่าใช่คนเดียวกับ >>156 รึเปล่าด้วย
กูไม่เข้าใจว่ามึงจะงอแงอะไรเพราะเห็นๆกันอยู่ว่าการประท้วงแบบนี้มันไร้สาระ คือประท้วงว่าเว็บมาสไม่ยอมลบนิยายที่ตัวเองแจ้งว่าผิดลิขสิทธิ์ คือระ? เจ้าของผลงานก็ไม่ใช่จะเอาอะไรไปห้ามเขา วิธีที่ถูกอย่างการไปแจ้งเจ้าของผลงานก็ไม่ทำ(เท่าที่กูทราบ) เออ ถ้าแจ้งเจ้าของผลงานแล้วเว็บมาสไม่ลบนี่สิค่อยเป็นเรื่องหน่อย
ไปอ่านกฎหมายลิขสิทธิ์เยอะๆ มันค่อนข้างสากลนะหนู แฟนอ๊งแฟนอาร์ตอะไรเข้าข่ายหมดละ เอารูปดารามาเป็นอิมเมจตัวละครนี่ก็คาบเกี่ยวด้วย มันเยอะมากจนเขาต้องให้เจ้าของลิขสิทธิ์เป็นคนร้องไง ไม่งั้นไม่ไหว วันๆนึงคงมีคนฟ้องกันตาย
ไม่ค่อยเข้าใจ แต่นี้เกี่ยวกับบุคคลปะวะไป net ดีกว่ามั้ย
>>175 เกี่ยวกับงานเขียนบนเว็บตรงๆเลยจ้า
>>176 นั่นก็ถูก แต่ในเมื่อเว็บตัดสินใจไม่ลบ มันก็ไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไร ไม่อย่างนั้นแฟนฟิคเกาหลีก็คงหายไปทั้งหมวด เพราะไม่มีใครไปขออิมเมจมาถูกต้องแน่ๆ
ที่ต้องใช้เจ้าของผลงานเป็นหลักนี่มันเพื้อป้องกันความวุ่นวายตรงๆเลย คือลองคิดดูว่าคนเรามันร้อยพ่อพันแม่ ชอบไม่เหมือนกันอยู่แล้ว สมมติว่าเป็นฟิคแฮร์รี่ก็แล้วกัน เกิดมีคนไม่ชอบวาย แฮร์รี+เดรโก มาแจ้งเว็บมาส บอกว่าเนี่ย ต้องลบนะมันผิดลิขสิทธิ์ อีกคนนึงเห็นแฮร์รี่+เฮอร์ไมโอนี่ บอกว่ากูสงสารรอน มาอ้างว่าแบบนี้ผิดลิขสิทธิ์ ต้องลบ แบบนี้เว็บไม่ตายเหรอวะ
แต่ถ้ามีคนไม่พอใจจริงๆ ส่งเรื่องไปบอกเจเคกับสนพ.ที่ถือสัญญา ถ้าพวกนั้นไม่โอเคก็ออกประกาศมาว่าต่อแต่นี้ห้ามเขียนฟิคแฮร์รี่ เท่านี้ก็จบ ยังไงเด็กดีก็ลบแน่ๆ ถ้าไม่ลบงานนี้ก็มีฟ้อง
พอมองเห็นขั้นตอนคร่าวๆบ้างไหม กูพยายามยกหลักมาอธิบายนะ โดนหาว่าอวดฉลาดนี่น่ารำคาญฉิบหาย ต้องใช้หัวใจตัดสินแทนเหตุผลเหรอวะ
ผิดก็คือผิดยังจะเถียงให้เป็นถูกให้ได้
แล้วดูเจตนาไอ้พวกที่เอามาแปลกันด้วยว่ามันอยากเผยแพร่ขยายฐานแฟนของใครกันแน่ ของคนเขียนตัวจริงหรือของตัวมันเอง
แต่ละคนแม่งแค่แปลแถมแปลมาหลายต่อด้วยยังเสือกทำตัวเหมือนเป็นคนเขียนเอง ถุย
>>178 กูกราบก็ได้ ช่วยอ่านที่กูเขียนหน่อยเถอะ กูบอกตรงไหนว่ามันถูก กูบอกว่า ถ้ามึงจะจัดการเรื่องพวกนี้ ไม่ใช่ให้มึงไปงอแงกับเว็บ แต่ให้มึงไปบอกเจ้าของผลงาน
มึงก็แค่เมลไปบอกเจ้าของผลงาน บอกเลยว่าไอ้อีตัวเนี้ย มันเอางานมึงมาแปลนะ มึงยอมเหรอ เล่าพฤติการให้เจ้าของเขาฟัง ส่วนเจ้าของจะว่ายังไงมันก็ไม่เกี่ยวกับมึงแล้ว มันไม่ใช่งานของมึง
ช่วยอ่านแล้วทำความเข้าใจหน่อยได้ไหม กูพิมพ์ กูไม่ได้สีซอ
บอกให้เลยนะไอ้การละเมิดแบบนี้น่ะถึงเจ้าของจะรู้แต่เค้าก็ไม่ทำอะไรอยู่ดีเพราะกระบวนการต่างๆมันยุ่งยากเกิน
อย่างนิยายญี่ปุ่น ถึงมีคนส่งข้อความไปบอกเค้าก็คงไม่ลงทุนมาติดต่อเว็บ dek-d ให้เอาออกหรอกเพราะคุยกันไม่รู้เรื่อง
คนญี่ปุ่นส่วนมากไม่เก่ง eng ด้วย
เอะอะก็บอกให้แจ้งคนเขียนตัวจริงนี่งี่เง่าว่ะ
>>180 กูวิจารณ์โดยชอบ พ้อยท์มันคือ ในเมื่อเขาไม่ได้ทำเรื่องให้ถูกต้องตามระเบียบ (แจ้งเว็บเอง ไม่ได้ไปแจ้งเจ้าของลิขสิทธิ์) เว็บก็ไม่ได้มีหน้าที่ที่จะต้องทำอะไรตามคำขอนั้นอยู่แล้ว ถูกไหม แต่พวกเขาก็ยังตีโพยตีพายตำหนิเว็บ ซึ่งไม่ถูกต้อง
ลองอธิบายง่ายๆดู อาจไม่ถูกต้องตามหลักตรรกะนัก สมมติว่าตำรวจจับคนร้ายฆ่าข่มขืนได้ ประชาชนก็บอก เนี่ย จับมันประหารตรงนี้เลย พอตำรวจบอกว่า ไม่ได้ ต้องขึ้นศาลก่อน ประชาชนก็ด่าตำรวจ บอกว่ากฎหมายเรามันอ่อน ให้เป็นลูกหลานมึงโดนบ้างแล้วกัน
พอเข้าใจไหม
>>183 ก็ระเบียบมันเป็นแบบนี้ สากลด้วย แล้วจะให้ทำยังไง เราจะไปคิดแทนักเขียนก็ไม่ได้ ถูกไหม
ถ้างานชิ้นนั้นมันมีลิขสิทธิ์ที่นั่นอยู่แล้วก็อาจทำการติดต่อผ่านทางบริษัทที่ถือลิขสิทธิ์ก็ได้ ถ้าเราอยากจะทำสิ่งที่ถูกก็ควรต้องทำให้มันถูกด้วยนะ คิดเองเออเองมันไม่เหมาะหรอก
>>181 ในที่สุดก็มีคนสนใจกู น้ำตาจะไหลไอ้ห่า 555555 กูก็คิดว่างั้นว่ะ เอาตรงๆมันดูเงียบเหงาตั้งแต่ออกข่าวประกวดแรกๆละมั้งกูว่า เป็นที่อะไรวะ การโปรโมทของสนพ.เหรอ? ส่วนเรื่องที่ชนะนี่กูอ่านละก็เฉยๆนะ สงสัยเค้าไม่ค่อยโปรโมทนิยายตัวเองมั้ง ดูทรงแล้วน่าจะไม่เล่นเด็กดี
>>185 กูล่ะปวดหัวกับมึงจริงๆ "อ้างว่า" "กูถือว่า" "เค้าจะ" ถามจริงๆว่ามึงคุยกับกูเนี่ย เคยใช้เหตุผลบ้างไหม มึงจะเอาใจมึงมาคิดแทนอะไรทั้งหมดไม่ได้หรอกนะ
แล้วถ้ามึงอ่านดีๆเนี่ยจะพบว่ากูไม่ได้ด่าจิกอะไรเรื่องที่คนพวกนั้นลบนิยายตัวเองด้วยซ้ำ ที่ด่าคือมึงทำไม่ถูกแล้วยังจะหวังให้เว็บมาโอ๋มึงอีกเหรอต่างหาก
คนเขียนจะลบนิยายตัวเองทิ้งก็เรื่องของคนเขียนสิวะ
มึงจะแสดงความไม่พอใจทำไม กูงง
ประเด็นแจ้งไม่แจ้งนี่อีกเรื่องนึงว่ะ
อย่างน้อยมันก็เป็นการแสดงจุดยืนน่ะถึงเว็บจะไม่ลบให้ก็เถอะ
รู้ๆกันอยู่ว่าแจ้งคนเขียนตัวจริงไปก็ไม่ได้อะไรหรอก
>>190 แจ้งคนเขียนตัวจริงไปแล้วได้ผลก็มี อย่างเพชรพระอุมานั่นไง คือในมุมของนักเขียนแล้ว ถ้าเป็นการแปลนี่แม่งถือว่าข้ามตลาดนะ สมมติกูเป็นคนญี่ปุ่น เขียนเป็นภาษายุ่น ขายตลาดยุ่น ต่อมาพบว่ามีคนไทยเอาไปแปล ถ้าไอ้คนแปลนั่นบอกชัดเจนว่าแปลมาจากกูกูก็ไม่มีปัญหาอะไรปะ เพราะยังไงฐานนักอ่านกูที่เป็นคนญี่ปุ่นก็คงไม่ตามไปอ่านงานไทยอยู่ละ แถมถ้าแม่งแปลดี เผลอๆสนพ.ไทยจะซื้องานกูอีก กำไรสองต่อ
อันนี้พูดในกรณีแปลโดยไม่ได้ขออนุญาตเฉยๆ ถ้าลอกมาแบบไม่ให้เครดิตก็อีกเรื่องนึง
ส่วนถ้าจะแสดงจุดยืนน่ะก็ทำไปเถอะ แต่มันตลกตรงที่ตัวเองก็ไม่ได้ทำตามขั้นตอนอะไร พอเว็บไม่เล่นด้วยก็ตีโพยตีพาย คือถ้าแม่งแจ้งคนเขียนมาเอาเรื่องแล้วเว็บยังเฉย นี่สิถึงจะชอบธรรมในการแสดงออก
อยากรู้ว่านักเขียนญี่ปุ่นบางคนอ่อนไหวแบบนักวาดป้ะ มารีโพส/รีทวีตสุ่มสี่สุ่มห้า ไม่บอกไม่ขอ ก็ระเบิดงานตัวเองเลย
โคตรรำคาญมึงเลย ID:LAcH2iGyJ ตัวทำงานกร่อยจริงๆจนป่านนี้มึงคนเดียวนี่แหละที่ไม่รู้เรื่อง แล้วก็แถไปเรื่อย เก่งฉิบหายพ่อฉลาดอีเก่งสัส
มึงคิดแทนคนอื่นตั้งแต่ด่าคนที่ชื่อใบอ่อนไรนั่น แล้วก็คิดแทนว่าเจ้าของลิขสิทธิ์ว่าได้ประโยชน์ แต่ถ้าเสียหายก็ช่างแม่งเพราะไม่มีคนไปฟ้อง เหี้ยมั้ย?
มึงเหี้ยมากตั้งแต่แรกเพราะอะไร? เพราะมึงสรุปเองเสร็จสรรพว่าเขาตีโพยตีพายร้องไห้เพราะเว็บมาสไม่ทำ คือกูไม่รู้จักกูเลยไม่ฟันธงหรอกว่าเขาคิดยังไง เขาเตรียมมาตราการแสดงจุดยืนตั้งแต่แรกก็ได้ มึงก็ย้ำจังว่าเขาไม่เล่นตามกฏหมาย คิดว่ามีมึงรู้กฏหมายคนเดียวรึไง ใครก็รู้อะไรทำได้หรือทำแล้วมี-ไม่มีผล มึงสอนตัวมึงเองก่อนนะ เข้าใจมั้ยว่าประเด็นนี้เขาทำอะไรก็เรื่องของเขา เขาแสดงจุดยืนก็สิทธิ์ของเขา ส่งนมึงด่าเขาด้วยเหตุผลเหี้ยๆเพราะมึงคิดไปเอง
กูบอกแล้วเรื่องละเมิดอย่าสะเออะบอกว่าเจ้าของได้ประโยชน์โง้นงี้ กูถามง่ายๆขออนุญาตเขามั้ย คนเอามาน่ะขอเขามั้ย ไม่ใช่ต้องให้คนอื่นไปแจ้งไอสัส
่
Kyแป้บ นิยายเด็มได้ทำซีรี่ย์แล้วเหรอวะ ที่เป็นนิยายนอมอลอ่ะ กูไม่เคยอ่านแต่แบบมันจะออกมาแบบเดีบวกับงานอื่นๆของนางปะวะ
>>193 มิน่าล่ะ กูไม่ได้สังเกตหมวด ก็ว่าทำไมร้างชิบหาย แล้วงี้เวลาตีพิมพ์นิยายออกมาจะมีฐานคนอ่านเหรอวะ หรือกะจะเสี่ยงดวงดู เรื่องนี้ตัวเอกเป็นผู้หญิงด้วย ถ้าอยู่ในหมวดรักแฟนตาซีงี้แสดงว่าดูแล้วน่าจะเล่นพล็อตเรื่องความรักหนักกว่าความแฟนตาซีสินะ แต่ถ้าไม่ขายกระแสจิ้นจะไปรอดมั้ยเนี่ย
>>196 กูเห็นโปรโมทซีรี่ส์นานละเรื่องนั้นของอีเด็ม เคยอ่านอยู่เนื้อเรื่องก็แนวนั้นแหละมึง ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ถถถถถ
ปล. เชี่ยกูว่ากูกดเอาอีbumpออกละนะ ทำไมยังติดbumpวะสาสสสส
>>195 กูควรจะคุยกับมึงไหม? กูว่าเป็นมึงนะที่ดูเหมือนจะมีปัญหา กูว่ากูพยายามจะมีเหตุผลที่สุดแล้วถึงกูจะถูกพวกมึงเหมาโทษว่าเป็นคนนู้นคนนี้ หาว่ามาขวาง หาว่าเข้าข้างคนโกง คืออะไร ถามจริงๆว่าได้อ่านที่กูเขียนไหม
ใครจะคุยอะไรก็คุยไป กูเคยห้ามพวกมึงเหรอ แต่ในเมื่อมีคนข้องใจกูก็ตอบ กูต้องยอมให้พวกมึงพูดอะไรสั่วๆใส่กูก็ได้ว่างั้น?
มึงไปพิจารณาตัวเองดีๆเถอะว่าข้อความที่มึงพิมพ์มามีสาระอะไรบ้างไหม ใช้เหตุผลอะไรรึเปล่า หรือมีแต่หลักกู ตัวกู ใครจะว่าไงไม่สน กูคิดของกูแบบนี้ มึงผิด นี่เหรอคือสิ่งที่มึงต้องการ?
กูพยายามยกกฎหมาย ยกอะไรที่เป็นสากลขึ้นมาเป็นหลัก เวลาเถียงหลักมันจะได้ไม่ลอย ไม่กลายเป็นด่ากราดอย่างที่มึงกำลังทำอยู่ ถ้ามึงไม่พอใจเหตุผลของกู มึงก็ตีออกมาเป็นประเด็น กูโตแล้ว ถ้าความคิดมึงมันมีเหตุผลกูก็พร้อมรับฟังและคิดตาม แต่เท่าที่กูเห็น มึงก็เเค่เข้ามาด่ากู มึงจะเอาแบบนี้ๆ อย่ามาอวดฉลาด คิดว่ารู้กฎหมายคนเดียวเหรอ คำพวกนี้คืออะไร?
กูว่า ถ้ามึงไม่พร้อมที่จะแสดงความคิดเห็นแบบที่ปัญญาชนเขาทำกัน มึงก็นอนไปนะ อย่ามาทำให้ตัวเองดูแย่แบบนี้เลย
>>194 เยอะแยะนะมึง เช่นเคสแฟนอาร์ตแฮร์รี่แบบอนิเม คนวาดเขาเสียใจมากที่มีคนเอาไปรีโพสต์ในเว็บอื่นโดยไม่บอกกล่าว เขาบึ้มไอดีทิ้งเลย
แล้วก็พวกแฟนอาร์ตคู่จิ้น บางคนเขากลัวว่ามีเรื่องรบกับแฟนคลับคู่จิ้นอื่น ถ้าในไทยกูเคยเจอของคุณนักวาดคนนึงที่บึ้มทุกอย่างแล้วเอาไปอัพโหลดใหม่ในเว็บเก็บพอร์ตงานตัวเอง
(แต่อันนี้ต้องไปที่มู้นักวาดไม่ใช่เรอะ)
>>197 จริงๆแล้วมันเคยมีกรณีที่เรื่องชนะประกวดแต่ไม่ได้ตีพิมพ์อยู่นะมึง แต่เคยเป็นแค่ของคนได้ที่2,3ว่ะ ที่1ได้พิมพ์หมด แต่ถ้าเน้นรักชายหญิงจะรอดรึเปล่ากูยังสงสัย เอนเทอร์ไม่ใช่ว่าเน้นจิ้นเราะ ปล.จริงๆฟินดส์ที่1ปีที่แล้วก็ไม่เคยลงเด็กดีแต่ตีพิมพ์เลยนะ ขายได้พอประมาณแบบเงียบๆ
>>206 กูคิดเหมือนมึง สงสัยเอนเทอร์อยากเปลี่ยนแนวมั้ง กูคงคอยดูเงียบๆแหละว่าจะออกมาหมู่หรือจ่า แต่ใจนึงกูก็แอบเชียร์ว่ะ กูเบื่อกระแสนิยายจิ้นๆละ ขอแค่ให้มันโรแม้งแบบสมเหตุสมผลแล้วกัน ถ้าได้อ่านตอนออกรวมเล่มแล้วรู้สึกโอเคกูคงอุดหนุน
>>207 ที่กูแปะนี่ไม่แน่ใจว่ะ กูยังเดาทางไม่ถูก 5555555 นิยายอีเดมนี่ตอนแรกกูนึกว่าเป็นแค่นิยายทำมือ ไปๆมาๆแม่งได้ขึ้นวางขายบนเชลฟ์ ยังงงๆว่าตกลงมันตีพิมพ์กับสนพ.หรือทำเองแน่ ถ้าทำเองนี่กูมั่นใจว่าทีมปรู๊ฟก็ตัวมันเองนี่ล่ะ /ว่าแต่ประเด็นอีเดมเราควรไปคุยที่netwatchมั้ยวะ
>>206 เพราะว่าที่ 2,3 ไม่ติดสัญญาไง ถ้าที่ 1 เอนเทอร์บังคับเข็นให้ออกเป็นเล่มอยู่แล้ว ยังไงก็ต้องได้พิมพ์ กำหนดเลยด้วยว่าต้นฉบับต้องเสร็จเดือนไหน เพราะจะเร่งให้ทันสัปดาห์หนังสือ
ส่วน 2,3 แล้วแต่ว่ามึงจะเขียนต่อเองแล้วส่งสำนักพิมพ์มั้ย ส่งแล้วผ่านการพิจารณาหรือเปล่า อย่างเรื่อง แด่เด็กชายผู้เฝ้ารอฤดูใบไม้ผลิ กับ ท่านประธานบริษัทผู้เป็นอมตะ ส่วนเรื่องที่ได้รางวัลแต่ต้นฉบับไม่ผ่าน ไปตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์อื่นก็มี อย่างเรื่อง SSS วัตถุวิญญาณ
อุ่ย โม่งหลุดไปครึ่งหน้าแล้วมั้งเนี่ย //กุมโม่งแน่นๆ
ไม่สับนิยายกันแล้วอ่อ
>>209 กูสงสารมึงนะบอกตรงๆ กะอีแค่เหตุผลง่ายๆยังไม่เข้าใจเลย วนไปวนมาอยู่แต่กับเรื่องเดิมๆน่ะ
เจตนาชัดเจนตั้งแต่แรกอยู่แล้วนี่แม่งคืออะไรวะ ที่บอกว่าไม่ใช่เจ้าของไม่มีสิทธิ์ไปแจ้งนี่ข้อเท็จจริงล้วนๆ มึงงงอะไรเหรอ
อะ เผื่อมึงไม่ชอบอ่านยาวๆ สรุปให้สั้นๆนะ "ถ้าอยากให้เว็บแก้ไขปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ ก็ต้องเอาเจ้าของลิขสิทธิ์มาแจ้ง ไม่ใช่ว่ามาคิดเองเออเองว่าเจ้าของเขาจะไม่พอใจแล้วไปแจ้งเว็บ ในเมื่อคนแจ้งไม่ใช่เจ้าทุกข์ ไม่มีสิทธิ์ห่าอะไรในตัวผลงาน เว็บก็ไม่ลบให้ แล้วมึงจะงอนเว็บให้ได้ประโยชน์อะไรในเมื่อผิดที่วิธีการของมึงเอง"
ตามกฎหมายสากลว่าด้วยเรื่องลิขสิทธิ์ การแปลโดยไม่ได้รับอนุญาตถือเป็นความผิดตามกฎหมายระหว่างประเทศอยู่แล้วโดยไม่ต้องมีผู้ร้อง ประเด็นคือการดำเนินการทางกฎหมายร้องอาศัยผู้ร้อง แต่ไม่ได้แปลว่าการไม่มีผู้ร้องจะทำให้มันไม่ผิดกฎหมาย
ยกตัวอย่างแฟนซับ ตามหลักแล้วมันผิดทุกรณี ยกเว้นเจ้าของลิขสิทธิ์ทพเองอย่างgundaminfo หรือcrunchy roll นอกนั้นผิดหมดแม้ไม่มีผู้ร้อง ดังนั้นพวกที่เย้วๆ ว่าไม่ได้ทำผิดนี่ถ้าไม่โง่ก็หลงผิด หรืออาจจะทั้งคู่
การทีรเขาให้เจ้าของลิขสิทธิ์เป็นผู้ร้องก็เพื่อไม่ให้เกิดการหาประโยชน์โดยมิชอบอย่างะวกจับลิขสิทธิ์เถื่อน ไม่ใช่การให้หน้าด้านโขมยแล้วบอกว่าอยากได้ก็ฟ้องมา เพราะเขาหวังให้มันมีสำนึกว่าอะไรควรไม่ควรด้วย
ถ้าเจ้าของลิขสิทธิ์อนุญาตก็เรื่องหนึ่ง แต่มึงก็น่าจะรู้ว่าส่วนใหญ่ไม่ได้ขอ และที่ไปขอส่วนใหญ่ก็ขอจากแปลอังกฤษ ไม่ใช่แปลจากจีนหรือญี่ปุ่น ดังนั้นมันผิดแน่ๆ เพราะแปลอังกฤษหลาสอันก็ละเมิดเขามาอีกที
>>214 กูขี้เกียจคุยกับมึงละ ช่วยมีเหตุผลหน่อย ไปอ่านที่มันแจ้งแฟนคลับไว้สิ
>>215 ถูก การเอามาแปล ทำซับ แฟนฟิค แฟนอาร์ตอะไรมันก็ละเมิดลิขสิทธิ์ทั้งนั้น กูไม่เคยบอกว่ามันถูกอย่างที่มีใครหลายๆคนพยายามที่จะดิสเครดิตกู
แต่ประเด็นที่จะสื่อมันก็คืออย่างที่มึงบอกนั่นล่ะ คนที่มีอำนาจดำเนินการคือเจ้าของ ไม่ใช่ตาสีตาสาที่ไหนก็ได้ การที่คนกลุ่มนั้นไปแจ้งเว็บแล้วมาร้องแร่แห่กระเฌอว่าเว็บไม่สนใจน่ะทำผิดขั้นตอน ถามจริงว่าถ้าเว็บบ้าจี้ลบนิยายแปล(ทั้งๆที่เจ้าของลิขสิทธิ์ไม่ได้สั่ง)จริงเนี่ย ต่อไปหมวดแฟนฟิคก็ต้องโดนเหมือนกัน ซึ่งเว็บมันก็มีเหตุผลที่จะรั้งคนเอาไว้ถูกไหม ถ้ามีคนไปแจ้งเจ้าของผลงานให้มาเอาเรื่องกับเว็บแล้วเว็บไม่ลบนี่สิถึงค่อยเป็นเรื่องหน่อย
ทุกอย่างมันมีขั้นตอนของมันอยู่ เปรียบเทียบแบบตรรกะป่วยๆหน่อยจะได้ว่า มีโจรฆ่าข่มขืนถูกตำรวจจับ นาย ก. เป็นไทยมุงตะโกนบอกตำรวจว่า แม่งเป็นคนเลว ยิงหัวแม่งให้กระจุยเลย แต่พอตำรวจไม่ทำ นาย ก. ก็ออกมาโวยวายว่า ทำไมไม่ลงโทษคนผิด ตำรวจมันเหี้ย กูไม่เชื่อในระบบยุติธรรมของประเทศนี้แล้ว ถามว่านาย ก. พูดถูกไหม? ไม่ต้องตอบก็ได้เพราะมันไม่เกี่ยวกับกรณีนี้ แต่ช่วยคิดตามบ้าง
ข้ออ้างปัญญาอ่อน เรื่องการมีผู้ร้องคือการเรียกค่าเสียหาย ในกรณีแค่ลบไม่จำเป็นก็ได้ อย่างห้างที่เมืองนอกมีกฎว่าห้ามขายของปลอมเพราะมันละเมิดลิขสิทธิ์ ดังนั้นเด็กดีก็สามารถลบได้เลยเพราะมันเป็นความผิดซึ่งหน้า
มันำม่ใช่ความรับผิดชอบของเจ้าของลิขสิทธิ์อย่างเดียว อย่างในพันทิพหรือเฟสบุคถ้ามีการกดแจ้งว่าผิดลิขสิทธิ์เขาก็มีสิทธิ์ลบได้แม้เจ้าของลิขสิทธิ์ไม่ฟ้อง กรณีแฟนซับหรืองานแปลเป็นความผิดที่ครบองค์ประกอบแล้ว การลบทันทีสามารถทำได้โดยไม่ผิดขั้นตอนแม้แต่น้อย
>>218 อืม จะมองในมุมนี้ก็มีเหตุผลนะ แต่มึงต้องอย่าลืมว่าเรื่องกระเป๋าปลอมอะไรปลอมนั่นมันเป็นเชิงการค้า ซึ่งมันเห็นกันอยู่ชัดๆอยู่แล้วและโดยปกติ สินค้าแบรนด์ก็จะมีการตรวจสอบเรื่องก๊อบปี้อยู่เสมอๆ
แต่ไอ้กรณีความผิดซึ่งหน้าอะไรนี่กูว่าไม่เข้าแก๊ปนะ แถมงานแปลในเว็บเท่าที่กูเห็นก็ใช่ว่าจะเอาไปทำในเชิงการค้า ไม่ได้ลอกมาแล้วอ้างเอาว่าเขียนเองด้วยซ้ำ อย่างที่บอกไป ถ้าเว็บตัดสินใจลบนิยายแปลโดยที่ไม่ได้มีใครแจ้งอะไร หมวดแฟนฟิคนั่นก็ลอยไปทั้งหมวดด้วยแน่ๆ มันก็วนมาที่เรื่องเดิมที่กูพูดแต่แรกคือขั้นตอนการแจ้งของคนกลุ่มนั้นมันผิด มึงจะเอาผิดคนผิดด้วยวิธีการที่ผิดมันก็ไม่ได้ผลเป็นธรรมดาอยู่แล้ว นี่กูต้องพูดซ้ำกี่ครั้งถึงจะพอใจกัน
เค้าประท้วงแสดงจุดยืน มึงก็จะให้เค้าผิดให้ได้เลยใช่มั้ย
แถมอีกหน่อยนึง คือกูอ่านที่มึงเปรียบเทียบนิยายแปลกับการขายของก๊อปในห้างแล้วงงแตกมาก คือไม่เข้าใจว่ามันโยงกันมายังไงด้วยซ้ำ
มึงดูอะไรที่มันค่อนข้างใกล้เคียงกันอย่างเพลงก็ได้ นักร้องตามร้านอาหาร หรือเปิดซีดีเพลงในร้านอะไรงี้ค่อยใกล้เคียงกว่า สมมติมึงรักพี่แอ๊ดมากแล้วนักร้องแม่งร้องเพลงคาราบาว มึงไปโวยใส่เจ้าของร้านก็ได้แต่ร้านจะเลิกทำหรือไม่ก็เป็นเรื่องของร้าน แถมมึงก็ไม่มีสิทธิ์ไปตามตำรวจมาจับ ทำได้แค่แจ้งค่ายเพลงให้เขาจัดการ และถึงมันจะเป็นแค่การตีความในด้านกฎหมาย แต่ก็มีฎีกาออกมาแล้วว่าถ้าแค่เป็นการเปิดเพลงให้ฟังเฉยๆโดยที่ร้านไม่ได้เก็บค่าฟังเพลง ค่ายเพลงจะมาเรียกเอาอะไรจากร้านก็ไม่ได้ อันนี้สิถึงจะเทียบกับนิยายแปลได้หน่อย ไม่ใช่กระเป๋ารองเท้าอะไรเทือกนั้น
>>219 กูเริ่มชอบความกากของมึงว่ะ พยายามแก้ต่างให้พวกละเมิดลิขสิทธิ์โดยเอากฎหมายมาอ้าง กฏหมายน่ะถูกแต่มันดูบริบทด้วยเว้ยอีหี
เอะอะมึงก็จะให้เจ้าของรับผิดชอบ คนแจ้งต้องรับผิดชอบโดยการแจ้งเจ้าของ แต่คนละเมิดไม่ต้องรับผิดชอบอะไรสบายแฮร์
มึงอ่าน >>215 >>218 อธิบายกฏหมายดีและชัดกว่ามึงมาก มึงก็ยกประเด็นเดิมพวกช่องโหว่งกฏหมาย มึงนี่ฝึกเป็นทนายแก้ต่างป่าววะ แต่ยังใช้ไม่ได้นะ สมองมีไม่พอ แต่ความกวนตีนเต็มร้อย
เจ้าของสถานที่สามารถกำหนดได้ว่าจะไม่สนับสนุนของที่ละเมิดลิขสิทธิ์ แม้ไม่ก่อให้เกิดผลเสียทางการค้า เฟสบุคลบภาพผิดลิขสิทธิ์กับเด็กดีลบนิยายแปลต่างกันตรงไหน
มึงแค่มโนกฎขึ้นมาว่าควรเป็นแบบนี้แบบนั้นแล้วให้คนอื่นทำตาม ทั้งๆ ที่เจ้าของเว็ปสามารถทำทุกอย่างโดยไม่ต้องสนเรื่องที่มึงบอกมาเลยก็ได้ เพราะมันผิดกฎหมายมาตั้งแต่แรก และเว็ปก็สามารถกำหนดกฎเองได้ ไม่เกี่ยวหรอกว่าใช่เพื่อการพาณิชย์หรือไม่ เพราะการแปลไม่ใช่faire useอยู่แล้ว มึงมึนเอง
>>223 ดูบริบทอะไรช่วยขยายความหน่อย งานแปลพวกนั้นขายเหรอ หรือให้ตามไปกดไลค์เพจคนแปลแล้วขายครีม หรือแอบพิมพ์ขาย
และแม่งก็ไม่ใช่ช่องโหว่อะไรเลยด้วย มันเป็นขั้นตอนทั่วๆไปที่เห็นๆกันอยู่อย่างที่ >>215 ก็ออกมาพูดนั่นไง
และกูจะชอบมากถ้ามีคนอย่าง >>215 มาเถียงกูแบบตรงประเด็นแบบนี้ พูดเรื่องข้อเท็จจริงไม่ใช่ "กูว่า" อะไรแบบที่พวกมึงหลายๆคนพูดกัน ไม่ก็พยายามดิสเครดิตอย่างที่พวกมึงอีกหลายๆคนทำ
>>225 แค่มึงยกเฟซบุคมาก็ลาก่อยแล้ว ลองไปอ่านกฎดูหน่อยว่าจริงๆมันเขียนว่ายังไง อย่าใช้อารมณ์ตัดสินว่าเห็นอะไรผิดแล้วจะทำยังไงก็ได้นะ
กูตัดจากเฟซมาให้มึง
"If you believe someone is using your copyrighted work without your permission, you may wish to fill out this form..."
ต้องให้แปลไหม
เรื่องลิขสิทธิ์น่ะผิดชัวร์ ๆ แต่นั่นก็เรื่องนึง อีกเรื่องคือจุดยืนของเว็บซึ่งกูว่าจุดยืนเว็บเด็กดีค่อนข้างชัดแล้วนะ ว่ารับเรื่องละเมิดลิขสิทธิ์ได้ในระดับนึง อ้างอิงจากการที่แม่งเปิดหมวดแฟนฟิคเพิ่มมานี่แหละ กูงงว่าตกลงพวกมึงเถียงเรื่องอะไรกัน
เรื่องenters มึงคิดว่าเค้าจับแนวใหม่เพราะดราม่าป้ะ ที่มีคนออกมาบ่นในเพจเฟซว่าเบื่อแนวจิ้นวาย
กูว่าแฟนฟิคไม่ผิดเท่านิยายแปลนะ
>>232 อื้ม ก็เคยรู้มาเหมือนกัน จริงๆการก๊อปของเฟซบุคนี่ก็แตกต่างกับการแปลนิยายพอดูนะ ส่วนใหญ่ก็เป็นการดูดมาอัพอะไรงี้มากกว่าจะเป็นการแปล แต่ก็อย่างที่เห็น เฟซก็เขียนกันเรื่อง your copyrighted ไว้เหมือนกัน มันก็แปลว่าถ้าไม่ใช่เจ้าของผลงานจริง เฟซบุคอาจจะเพิกเฉยก็ได้
อย่างที่กูย้ำไปแต่แรกแล้วว่าการกระทำพวกนี้น่ะมันผิด แต่ทุกอย่างมีขั้นมีตอนของมัน จะมาอย่างนู้นอย่างนี้ก็ใช่ว่าจะถูกต้องนะ
แล้วที่มันประท้วงลบนิยายตัวเองเพราะเว็บ dek-d ไม่สนใจเรื่องลิขสิทธิ์ก็เป็นการกระทำที่ถูกต้องแล้วไม่ใช่รึไง มันจะประท้วงเว็บแล้วมึงจะด่าบอกให้ไปแจ้งคนเขียนแทนทำไมว่ะ บ้ารึเปล่า
ยังกัดกันไม่จบอีก กุไม่น่ามาโยนถามเลย 555 รู้สึกผิดหน่อยๆ
>>235 กูจะพูดครั้งสุดท้ายนะ การลบนิยายเป็นสิทธิ์ของมัน กูไม่ได้ด่ามันเรื่องนั้น
แต่เหตุผลมันงี่เง่าไง คือจู่ๆแม่งก็ไปบอกเว็บว่าเนี่ย เรื่องนี้ๆเป็นนิยายแปลนะ ลบหน่อย ทั้งๆที่ไม่ใช่เจ้าของสิทธิ์ พอเว็บไม่ลบให้(เพราะมันไม่ใช่เจ้าของไง) มันก็ตีโพยตีพาย ซึ่งนี่ล่ะที่กูขำ
ถ้ามันไปแจ้งเจ้าของเรื่องแล้ว แต่เว็บไม่ยอมลบให้ เลยประกาศลบ นี่สิถึงจะเป็นรีแอคที่เข้าใจได้ กูเลยบอกให้มันไปแจ้งเจ้าของเรื่องไงจะได้ชัดเจนถูกต้อง งงตรงไหน?
มึงเข้าใจความหมายของคำว่าประท้วงมั้ยนี่...
เอาง่ายๆละกัน ถ้ามีคนเริ่มประท้วงแล้วคนอื่นๆเห็นด้วยทำตามเยอะๆ ยังไงเว็บ dek-d ก็ต้องออกมาทำอะไรซักอย่างกับเรื่องลิขสิทธิ์
มึงจะประท้วงก็ประท้วงไปดิ โม่งมันก็ออกมาด่าว่าไร้สาระ เพราะแม่งไม่มีผลห่าอะไรหรอก
ถ้ามึงอยากเอาเรื่องกับเว็บมึงก็ต้องเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ ในเมื่อมึงไม่ใช่มึงประท้วงไปเว็บก็ไม่จำเป็นต้องทำตามมึงสักนิด
แล้วกูบอกตอนไหนว่าประท้วงเว็บผิด กูบอกว่าไร้สาระแค่นั้น ไม่ได้บอกว่าผิด
จบเรื่องแล้วกลับไปนครดาวตกเถิด
ตอนแรกบอกว่าผิด ต่อมาแถเป็นผิดขั้นตอน แล้วแถต่อว่าไร้สาระ
กูขี้เกียจคุยกับมึงแล้ว
กูหมายถึงชี้ว่ามึงผิด ไอ้ควายเอ้ยยย
โม่งตัวแรกมันไม่ได้บอกว่าจะประท้วงก็เรื่องของมึง มันบอกว่าจะลบก็ลบไปแต่อย่ามาโวยวาย แค่นี้ก็รู้แล้วว่ามันไม่เข้าใจความหมายของการประท้วง
ส่วนมึงไปหัดอ่านหนังสือตีความหมายดีๆก่อนค่อยกลับมาเล่นโม่งนะจ้ะ อย่าพยายามดึงออกทะเล
ไอ้โม่งที่ออกมาปกป้องคือโม่งตัวแรกที่ใช้คอม/มือถืออีกเครื่องมาตอบรึเปล่าวะ มีพิรุธแปลกๆ
เถียงไป 10 วันก็ไม่จบหรอก ถ้าแม่งเอาแต่ความรู้สึก ไม่แคร์เรื่องกฎหมาย
>>267 ใช่อันนั้นกูก็เห็นด้วยว่าเป็นไปได้ แต่กูมองว่าได้ไม่คุ้มเสียมาก ๆ มึงต้องคิดด้วยว่า ถ้าเว็บไม่ทำตามพวกที่ประท้วงจะไปลงนิยายกันที่ไหน ในขณะที่มีนักเขียนอีกเยอะที่พร้อมจะไม่สนเรื่องพวกนี้อยู่แล้วด้วย เท่ากับเสียโอกาสโดยที่อาจจะไม่ได้อะไรเลย แล้วสมมตินะ สมมติว่าถ้าเว็บลบแฟนฟิคลบนิยายแปล พวกนี้ก็แทบไม่ได้ประโยชน์อะไรอยู่ดี เพราะไม่ใช่เจ้าของลิขสิทธิ์แถมมันไม่มีอะไรรับประกันว่าคนอ่านนิยายแปลแฟนฟิคจะเข้าไปอ่านนิยายที่พวกนั้นเขียน
ในอีกแง่นึงคือแง่ที่เลวร้ายกว่า ถ้าเจ้าของงานเขาโอเคกับพวกแฟนฟิคหรืองานแปลขึ้นมา คนที่ประท้วงนี่หมาเลยนะ
เพิ่มนิดคือกูไม่เคยเห็นเคสเกี่ยวกับงานแปลนะ แต่เรื่องแฟนฟิคเท่าที่เห็นคือส่วนใหญ่ฝั่งญี่ปุ่นรับได้ บางเรื่องนี่โดนเอาไปเขียนโดจินเป็นกระหรี่มั่วเซ็กส์ด้วยซ้ำ เคสที่เห็นว่าไม่ยอมจริง ๆ คือโดจินโดราเอม่อนซึ่งเอาไปทำขายหลายครั้งแล้วทำให้คนเข้าใจผิดว่าเป็นออริจินัล กับเรื่องเอลเลนจากหนังสือสอนภาษาอังกฤษที่ขู่จะฟ้องคนที่เอาไปวาด 18+ เพราะถือว่าผิดวัตถุประสงค์
>>269 โปเกมอนเคยโดน Persona ก็เคยโดนตอนภาค 2 (แต่อันหลังนี่ข่าวไม่ใหญ่โต)
โปเกมอนโดนเพราะผู้ปกครองมาโวยว่าโปเกมอนขายเด็กนะ ไม่ควรจะมีอะไร R18
ส่วน Persona โดนเพราะมีผู้ปกครองมาเจอลูกดูแฟนอาร์ต R18 คาคอม
เอาเป็นว่าญี่ปุ่นไม่ได้ห้ามโดหรือแฟนอาร์ตหรือแฟนฟิค R18 หรอก เขาจะห้ามก็คือไม่ให้เด็กต่ำกว่า 18 มาดู ถ้าเป็นบนเน็ตก็ควรมีการกรองคน หรือใส่หน้าเตือนก่อนว่านี่เป็นผลงาน R18 นะ (เขาถือว่าเตือนแล้วยังกดเข้ามาดูอีก ก็เป็นความรับผิดชอบส่วนบุคคลล่ะ)
>>261 มึงอย่าปัญญาอ่อนดิ กูคือโม่งคนแรกที่เปิดประเด็น ไม่เคยใช้วิธีควายๆอย่างร่างแยก กูก็มีงานมีการทำเหมือนกันปะวะ บางทีก็ปิดเน็ตมือถือบ้าง เปิดใหม่บางทีไอพีก็เปลี่ยน หายไปทำงานนานๆบ้าง
โม่งที่ลงท้ายด้วย Te อะไรนั่นไม่ใช่กู กูก็ไม่รู้ว่ามันเป็นใคร แต่สงสัยว่ามึงจะพยายามดิสเครดิตอะไรกูนักหนา ทำไมวะ คือกูต้องคิดคนเดียวรึไง จะไม่มีใครคิดเหมือนกูเลยรึไง คิดว่ามีแต่คนคิดเหมือนมึงทั้งโลกเหรอวะ พวกมึงมันน่าสมเพชฉิบหาย
จะดิสเครดิสในโม่งกันทำไมในเมื่อไอพีแม่งเปลี่ยนง่ายยิ่งกว่าเปลี่ยนเสื้อผ้า ใจเย็นกันดิเฮ้ย นี่มู้นิยายไม่ใช่ให้มาตีกันเอง
ยังมีจัยจะเอานิยายเด็กดีมาสับกันต่อไหม 555
สงครามด้วย
http://www.dek-d.com/writer/41315/ นิยายแนะนำประจำเดือนนี้ของเด็กดี เห็นแล้วขัดใจเรื่องกริมม์ที่คนเขียนแม่งดังอยู่แล้วแถมขายออนไลน์ด้วย
กูเชื่อในความดี การละเมิดมันคือสิ่งผิด ถ้าพวกมึงยังพยายามจะเข้าใจหรือหาวิธีให้มันดูถูกต้องหรือเป็นเรื่องปกติที่ใครก็ทำ กูว่าพวกมึงมันแย่กว่าที่กูจินตนาการไว้เยอะว่ะ ความคิดใครความคิดมันถูกต้อง แต่ผิดชอบชั่วดีคืออะไรเสือกไม่รู้ พูดไปก็ป่วยการว่ะ
>>277 จ้า เอาที่มึงสบายใจเถอะ บรรทัดฐานเป็นยังไงไม่สนใจ ระเบียบวิธีการเป็นยังไงก็ไม่แคร์ ยึดถือเอาความดี(?) ห่าเหวที่โคตรเป็นนามธรรมขึ้นมาพูดตัดพ้อ น่าสงสารจริงๆ
คือพูดแบบนี้เหมือนมึงกอดเอาคำว่าความดีไว้คนเดียวไง ใครคิดไม่เหมือนมึง=เลว แบบนี้จะไปรอดเหรอวะ พูดเอาแต่ได้แบบนี้ป่วยการที่จะคุยด้วยว่ะ
สรุปมึงก็ตอบที่กูว่าไม่ได้อยู่ดี สงสัยจะไม่รู้จักความหมายของคำว่าประท้วง
กูแปะให้ จะได้เลิกถามคำถามโง่ ๆ นี่ซะที กูรำคาญ
ประท้วง กระทําการหรือแสดงกิริยาอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นการคัดค้านเพราะไม่เห็นด้วยหรือไม่พอใจอย่างยิ่ง เช่น อดข้าวประท้วง เขียนหนังสือประท้วง.
การที่บอกว่าคนอื่นไม่รู้ความหมายคำว่าประท้องนี่เป็นอะไรที่โง่มาก คำว่าประท้วงใครแม่งก็รู้ความหมาย
เขาพูดกันถึงวิธีประท้วงที่มึงควรจะทำ ผลลัพธ์ที่จะได้ ประท้วงโง่ ๆ โดยการลบนิยายมันก็ได้อยู่แค่นั้น
เพราะมึงไม่มีสิทธิ์ ไม่มีอำนาจในทางกฎหมาย
ประท้วง*
เออ เนื้อหามันดูจะไป net แล้วรึเปล่าวะ
โย่ว! กูเพิ่งมีเวลาว่างแวะมาสับนิยาย วันนี้กูมาสับเรื่องประกวดเอนเทอที่โม่งเอามาแปะละกัน
สำนวนภาษาสมกับได้ที่หนึ่ง คือไม่ค่อยเวิ่นหรือสั้นเกินไป มีคำผิดตกหล่นเล็กน้อยซึ่งก็พอมองข้ามได้ การบรรยายไม่ยืดยาดน่าเบื่อแต่ก็ไม่ได้น่าลุ้นให้กูอยากอ่านต่อทุกบท และเกริ่นเนื้อเรื่องส่วนที่เป็นจุดเริ่มต้นได้ดี คือเล่าเรื่องปรัมปราได้สั้นๆ ง่ายๆ กระชับ โลกกำเนิดขึ้นเพราะน้ำตากาลเวลา ต่อมามีอสูรขี้อิจฉาที่ไล่ทำลายสิ่งที่กาลเวลาสร้าง กลุ่มคนมีพลังคือสิ่งสุดท้ายที่กาลเวลาสร้างขึ้น ย่อๆ แบบนี้ก็โอเคนะ ถ้ามาแบบ กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว,เมื่อหลายพันปีก่อน มีเทพกับปีศาจตนหนึ่ง บลาๆ มาเป็นเทพนิยายแบบนี้กูจะกลอกตามองบน กว่าจะรู้เรื่องกูลืมเหตุการณ์ปัจจุบันไปแล้ว
แต่การเดินเรื่องบางจุดมีปัญหานิดหน่อย คือคนเขียนมันไม่ได้อธิบายชัดเจนว่านางเอกย้อนมาอดีตได้ไง เป็นเพราะพวกกลุ่มคนมีพลังเป็นสิ่งที่กาลเวลาสร้างเลยมีการสร้างมิติโลกคู่ขนานขึ้นมา? หรือว่าย้อนมาอยู่ในยุคอดีตจริงๆ แต่ที่เห็นมีการพูดถึงเรื่องร้านค้าที่มีสินค้าแปลกๆ เหมือนเป็นเวทมนตร์ก็คงเป็นอย่างแรก ซึ่งตรงจุดนี้กูก็อยากรู้เหตุผลว่าทำไมต้องเป็นอดีต? ถ้าเป็นโลกคู่ขนานจริงทำไมไม่ใช้ช่วงเวลาเดียวกัน คงจะเป็นปมปริศนาบางอย่างที่จะคลายออกในภายหน้า ไม่ก็คนเขียนอยากเซตติ้งโลกแฟนตาซีในยุคอดีตขึ้นมาเองเลยใส่มาดื้อๆ หรืออาจมีเหตุผลอื่นที่กูเดาไม่ถูก แต่จุดนี้คนเขียนมันควรอธิบายในบทต่อๆ ไปด้วยว่ะ นี่ผ่านมาสามบทก็แนะนำที่ไปที่มากลุ่มพวกมีพลัง หนึ่งในนั้นเป็นพวกหยิ่งๆ ชอบสร้างเรื่องชวนโมโห บลาๆ คือมันเร็วไปนะ นางเอกเพิ่งมาไม่ถึงอาทิตย์เลย มึงอัดปมมาซะกูงง อธิบายแง้มๆ อะไรหน่อยก็ไม่ได้ ทำไมไม่ให้มีใครเล่าเรื่องโลกนี้ให้ฟังคร่าวๆ บอกแค่ว่าเป็นอดีตและที่ตั้งของกลุ่มก็จบ สั้นไปเว้ย! จะบอกเพิ่มส่าเป็นช่องว่างของกาลเวลาหรือมิติคู่ขนานอะไรก็ว่าไปดิ มาแค่นี้กูล่ะมึน และนางเอกทำไมมันปรับตัวเร็วจังวะ มึงถูกคนแปลกหน้าพาแหกคุก ทะลุมิติมาอยู่อดีต เจอเรื่องกลุ่มคนแปลกหน้าใช้พลังเหนือธรรมชาติได้ บลาๆ แต่นางตกใจนิดหน่อยไม่ถึงหนึ่งย่อหน้า ก็ใช้ชีวิตตามปกติเหมือนกับมึงเคยเจอเรื่องแบบนี้มาตั้งเกิด เฮ้ย? มึงไว้ใจคนง่ายไปเปล่าวะนั่น และเพิ่งเคยเห็นการใช้เวทมนตร์(?)ทำไมดูไม่ค่อยตื่นเต้นตกใจอะไรเลย แค่ตกใจนิดสงสัยหน่อยมึงก็ชิน ปรับตัวเร็วเกินไปแล้วว้อย! และนางเอกเพิ่งรู้จักกับกลุ่มคนมีพลังได้ไม่กี่วัน ทำไมถึงพูดจากับโคลเหมือนกับรู้จักกันเป็นปี แค่ถูกแกล้ง(?) 2-3 รอบก็สวนกลับซะอย่างกับว่าถูกแกล้งมาเป็นปี ? พูดจาอย่างกับว่ารู้จักนิสัยเขาดีทั้งที่มึงได้เจอหน้ากันไม่ถึงสิบครั้ง อืม...คงเพราะโมโหล่ะมั้ง
และไม่รู้กูคิดไปเองรึเปล่า ได้กลิ่นแรงบันดาลใจจากเรื่อง X-men มาจางๆ แต่มันก็ไม่ได้แรงจนต้องสะดุด พอมองข้ามได้ การบรรยายสภาพแวดล้อมก็โอเค ไม่มีคำขยายคำซ้อนอะไรยืดยาดให้ปวดสายตา แต่ก็ไม่ได้สั้นจนน่าเกลียด บทพูดก็ใช้ได้ สิ่งเดียวที่กูสะดุดคือนางเอกแม่งปรับตัวเร็วจังวะ
สรุปคะแนน กูให้ 8/10
>>289 กูแบ่งพวกฟิคกับงานแปลให้เป็น 3 ประเภท
1.ละเมิดลิขสิทธิ์แล้วเจ้าของเอาเรื่อง
2.ละเมิดลิขสิทธิ์แต่เจ้าของไม่เอาเรื่อง
3.ไม่ละเมิด(เจ้าของอนุญาติก่อนแล้ว)
มึงจะเห็นว่าเคสที่เว็บมีสิทธิ์ลบได้มีแค่เคสที่ 1 ส่วนเคสที่ 2-3 เว็บไม่มีสิทธิ์ลบถ้าไม่ได้ไปทำผิดกฎอะไร
กูถามหน่อยว่าพวกมึงจะแยกยังไงว่าของที่ว่าอยู่เคสไหน
มันไม่ใช่ว่าคนประท้วงเยอะแล้วมึงจะไปละเมิดคนอื่นได้นะ มึงก็ต้องทำตามกฎอยู่ดี
>>289 กูเห็นมึงโวยวายแล้วเริ่มเข้าใจขึ้นมา เลยไปสร้าง change มาให้มึง
สำหรับใครที่ต้องการประท้วง เข้าไปลบนิยายในเว็บเด็กดีแล้วมาลงชื่อที่นี่ได้นะครับ
>>294 ขอโทษที่เข้ามารบกวนพื้นที่สับนิยายและขอโทษที่ >>293 ดูเหมือนประชด แต่รู้สึกสังเวชใจมากๆกับการพยายามแถเรื่องความดี ความเลว สิทธิ์การประท้วงอะไรนั่น
คือไม่เคยพูดเลยว่าการเอางานคนอื่นมาแปลน่ะถูก ไม่เคยบอกเลยว่าการที่คนพวกนั้นประท้วงนะผิด แค่บอกว่าวิธีร้องเรียนของคนพวกนั้นมันผิด มันไม่เป็นไปตามขั้นตอน ก็มีคนมาพูดเรื่องศีลธรรมความดีห่าเหวอะไรก็ไม่รู้ ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ยอมอ่านที่กูพิมพ์กัน
ก็อยากจะฝากคนดีช่วยกันประท้วงหน่อยนะ ลบนิยายออกจากเด็กดีซะแล้วมาร่วมรณรงค์ พลังของเราจะต้องช่วยเปลี่ยนโลกใบนี้ได้แน่ๆ
จบเรื่องแล้วมาสับนิยายกันต่อเถอะพวกเราาาาาาาา
แปะนิยายมาสิ
http://my.dek-d.com/machaiping/writer/view.php?id=743710
แปะนิยายเรื่องนี้ละกัน ไปขอให้เพื่อนแนะนำนิยายแนวแฟนตาซีสงครามแล้วมันแนะนำเรื่องนี้มา แต่มันยาวมากจนอยากรู้ว่าเพื่อนโม่งคิดยังไง
>>302 อิอิ เห็นมึงดิ้นแล้วโคตรขำอะ คือเหมือนแบบเด็กเห่อหมอยที่ไม่มีที่ยืนในสังคม อ่านหนังสือไม่แตกแต่เสือกเอาตัวเองเป็นใหญ่ กูดีสุดกูถูกสุด พอเถียงอะไรสู้ไม่ได้ก็คนนู้นควายคนนั้นควาย มึงไม่สงสารพ่อแม่ครูบาอาจารย์บ้างเหรอวะ ที่สุดท้ายพอคิดอะไรไม่ออกก็ใช้เรื่องต่ำตมแบบนี้มาโยนใส่คนอื่น
>>302 ขอต่ออีกหน่อย โคตรตลกเลย คือเท่าที่อ่านข้อความของมึงมาทั้งวันก็จะเห็นได้ว่า มึงแม่งนอกจากจะไม่ได้มีความรู้ ไม่มีเหตุผล ไม่มีปัญญาคิดวิเคราะห์ ไม่มีมารยาท ไม่มีอะไรที่มนุษย์ปกติควรมีแล้วเนี่ย สิ่งที่มึงมีคืออีโก้กากๆ ซึ่งกูมองว่าอีโก้เนี่ย ถ้ามันคู่กับปัญญาแล้วมันก็พอโอเคนะ คือเชื่อมั่นกับความคิดที่มั่นคงมีเหตุผลของตัวเอง แต่เผอิญมึงเสือกไม่มีปัญญาไง แม่งก็เลยกลายเป็นแค่ความเชื่อมั่นในตัวเองแบบโง่ๆ ซึ่งพอมารวมกับคุณสมบัติห่วยๆของมึง มันเลยทำให้มึงเป็นได้แค่ลูสเซอร์ ที่พอไม่พอใจอะไรก็ทำได้แค่ไม่กี่อย่าง คือถ้าไม่พูดซ้ำๆเดิมๆโดยไม่สนใจเหี้ยอะไร ก็จะออกมาด่ากราดแบบไร้ซึ่งความเป็นสุภาพชน น่าสมเพช น่าสมเพชจริงๆ
>>303 ความจริงกูไม่ได้สนใจอะไรนะ นอกจากรู้สึกสมเพชในความรู้สึกยินดีกับความไร้ตัวตนในโลกน่ารันทดที่มึงพยายามยัดเยียดให้บอร์อดโม่งเป็น มีใครไม่รู้บ้างว่ามึงแถ ไม่อายคนอื่นก็รู้จักอายตัวเองบ้างก็ดีนะ กูไกด์ทางค่อนข้างชัดให้คิดแล้วนะ หวังว่าคงจะไม่พยายามทำตัวโง่ๆ ต่อไปนะ หวังดีว่ะ
>>305 กูสมเพชมึงมากๆนะบอกตรงๆ ทำมาอ้างพูดว่ากูรักษาหน้า กูจะรักษาหน้าทำห่าอะไร มีเหตุผลอะไรให้ต้องแถ ที่นี่มันโม่งปะมึง หายไปแปปเดียว รีโมเดม กูก็กลายเป็นคนใหม่ละ ถ้ากูเงิบจริงกูก็ไม่จำเป็นต้องมาพิมพ์อะไรยืดยาวปะวะ หายไปก็ลอยตัวชิวๆละ จับมือใครดมไม่ได้
แต่กูเชื่อมั่นในความคิดของกูไง ซึ่งผ่านมาแล้วเป็นวันแม่งก็ยังไม่มีใครตีความคิดหลักของกูตกได้แบบจริงๆ ส่วนมากก็มีแต่พวกสวะอย่างมึงที่ไม่อ่านแล้วสักแต่ด่า ไร้ซึ่งความสามารถในการคิดวิเคราะห์โดยสิ้นเชิง เหมือนกับว่าสมองของมึงไม่ได้วิวัฒนาการตามเพื่อนร่วมสายพันธุ์มาด้วย พอคิดอะไรไม่ออกก็เรียกฝูงของตัวเองก่อน ควายยย ควายยย ไรงี้
>>308 กูจะบอกวิธีแก้โรคควายให้เอาไหม ที่มึงพล่ามมาตลอดทั้งวันเรื่องของตัวเอง(กูอนุมานจากที่มึงคิดว่ากูเถียงกับมึงมาทั้งวัน) เพราะมึงโดนสมาชิกหลายคนแทงใจดำมึงได้ แปลว่ามึงไม่ใช่คนฉลาดอย่างที่มึงคิด มึงกำลังโกรธทุกคนที่ทำให้มึงเสียหน้า มึงเลยตามแถทุกข้อความที่วิจารณ์มึง โถ่เอ๊ย ไอ้อวดฉลาด เลิกแถเถอะวะ ขยะแขยงว่ะ
>>309 แทงใจดำอะไรวะ 555 มีแต่อะไรก็ไม่รู้มึนๆมาทั้งนั้น
มีแต่มึงเท่านั้นล่ะที่โดนกูแทงใจดำ คนปกติเขาไม่มีใคนด่าคนอื่นว่าอวดฉลาดกันหรอกว่ะมึง มีแต่พวกมีปมด้านสติปัญญาเท่านั้นล่ะที่จะพูดแบบนี้ คือกูอ่านจากที่มึงเขียนนี่ก็พอเข้าใจได้้ว่ามึงคงมีปัญหานะ ถึงได้พูดคำด่าคำมาแบบนี้ มันเหมือนคนจนตรอกที่ไม่รู้จะทำอะไรดี ก็เลยพยายามด่าอีกฝ่าย หวังว่าอีกฝ่ายจะเจ็บเหมือนตัวเอง ซึ่งกูไม่ อย่างมากก็คันๆหงุดหงิดๆ เซ็งชีวิตตัวเองที่พยายามใช้เหตุผลเท่าไหร่ คำตอบที่ได้มาก็มีแต่ ควายยย ควายย อวดฉลาด แทงใจดำ อะไรงี้ แม่งเหมือนทะเลาะกับเครื่องอัดเสียงอะ
>>311 กูเห็นแล้วจ้าที่มึงบอกว่ายืมมา แล้วมันหมายความว่ายังไงวะ คือพอมึงยืมมาปุ๊บเนี่ยกูต้องห้ามด่ามึง ให้ไปด่าคนพูดคนแรกแทนเหรอ 555 มุกนี้ใช้ได้นะ
กูชิวๆว่ะบอกตรงๆ จะให้กูนั่งสวดมึงไปเรื่อยๆก็ได้นะ นั่งทำงานไปเรื่อยเปื่อย รีเฟรชหน้าดูว่ามึงด่ากูต่อรึยัง ถ้ามึงด่ากูต่อกูก็จะมาโอ๋มึงอีก ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจนกว่ากูจะง่วง กูง่วงแล้วกูก็นอน ปล่อยให้มึงดิ้นพล่านไปคนเดียว
คือกูเจอเด็กเกรียนโทรลวัยรุ่นขาดสติแบบมึงเยอะไง แม่งไทป์เดียวกันตลอดเลยคือจะพูดแบบคนปกติเขาไม่ได้ ต้องมีควายมีอะไรแถมมาตลอด น่าเบื่อชะมัด
เดี๋ยวกูเกาคางให้นะจ้ะคนดี ด่ากูต่อสิจ๊ะ
>>313 ในความเวทนาของกูที่มีให้มึง เสือกมีความชอบหลงมานิดหนึ่งด้วยว่ะเฮ้ย ชอบที่มึงยังหน้าด้านแถมันทุยๆ ไปเรื่อย ทั้งที่โดนใครต่อใครดักเสยปลายคางมาตลอดเส้นทางความเกรียน แต่ก็เสือกไม่ยอมรับมันหน้ามึนๆ เรื่อยไป สุดยอดจริงๆ ว่ะมึง แต่ขอทิ้งท้ายก่อนนอนแล้วกัน ไม่มีใครไม่รู้หรอกว่าน้ำหน้าอย่างมึงมันเกิดมาแถลูกเดียวจริงๆ 555+
>>314 คำก็แถ สองคำก็แถ ไหนมึงลองไปก๊อบมาสิ ว่าคำไหนมันเสยปลายคางกู อย่าไปก๊อบผิดคนมาล่ะมึงเดี๋ยวจะเสียหมาเอานะ บิบิ
และจริงๆเรื่องที่เถียงๆกันเรื่องลิขสิทธิ์เนี่ยมันซาไปตั้งแต่ช่วงเย็นๆละ มีแต่มึงนั่นล่ะที่เหมือนอารมณ์ค้าง ตามมาพล่ามอะไรไร้สาระซึ่งแม่งไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องที่เขาเถียงกันเลย สกิลการจับใจความต่ำนะเรา ไม่งั้นก็สกิลความโทรลล์มันสูงเกินไป
ทำการบ้านเสร็จแล้วก็นอนเถอะมึง พรุ่งนี้คาบคอมค่อยแอบครูมาตอบกูก็ได้ บิบิ
เรียกว่าอวดฉลาดน่ะถูกแล้ว
เค้าจะประท้วงเว็บดันเสือกไปบอกให้แจ้งคนเขียนแล้วยกกฎหมายมาอ้างมั่วๆ
พวกมึงไปคุยที่netกันเถอะกูขอ5555555
ประท้วงเว็บแล้วเกี่ยวอะไรกับห้องนิยายวะ ไปชิ่ว ๆ
กูอยากอ่านสับนิยายต่อ...
ถ้าลิขสิทธิ์กับนิยายบนเว็บมันก็ยังพอจะใช่อยู่ แต่ถ้าจะพูดเรื่องประท้วงเว็บ เชิญ Netwatch เลยครัช... คุณมาผิดห้องแล้ว
คิดมุกใหม่มาแถได้แล้วหรา
ถ้าประท้วงไม่เกี่ยว เรื่องละเมิดลิขสิทธิ์ก็ไม่เกี่ยวว่ะ ถถถ
การที่มึงบอกว่า "ถ้าประท้วงไม่เกี่ยว เรื่องละเมิดลิขสิทธิ์ก็ไม่เกี่ยวว่ะ" แสดงว่ามึงรู้อยู่แก่ใจว่ามันไม่เกี่ยว มึงก็ควรไป Netwatch ซะ พวกกูคนอื่น ๆ จะได้อ่านสับนิยายต่อ
กูก็ว่างั้นแหละ แยกย้ายๆ
กูตัดสินให้ว่ามันเกี่ยว เพราะแม่งเสือกลบ"นิยาย" เดี๋ยวมีพวกมาคุยอยู่ดีแหละเรื่องนิยายที่อ่านโดนลบไรงี้
แต่แม่งน่ารำคาญตรงที่พวกมึงช่วยเถียงกันแต่พองามได้มั้ย คนอื่นเขาเซ็งหมดแล้ว ยังไงพวกมึงก็เชื่อว่าฝ่ายตัวเองถูกจะคุยกันทำไม แยกย้ายไปเหอะ
กูคุยเรื่องแผนที่หน่อย จากที่ >>300 แปะ นิยายกูมีแผนที่ได้มั้ยวะ แนวแฟนตาซีนะ ไม่ใช่แนวสงคราม
คือกูคุยกะเพื่อนแล้วแม่งบอกว่าทำแผนที่โลกไรงี้ แม่งจะไม่ชอบที่มันเว่อร์วัง ถ้าเป็นแนวสงครามหรือออนไลน์มีก็โอเค เพราะต้องเห็นฉากเห็นโลก
ประเด็นคือ กูแค่อยากใส่ ถามว่าจำเป็นมั้ยก็ไม่ กูไม่ชอบแปะอิมเมจตัวละคร เลยกะจะใส่แผนที่ ขอความเห็นโม่งหน่อย
ไปเที่ยวไม่มีเน็ตใช้แปปเดียว กลับมามู้กลายเป็นสมรภูมิรบซะแล้ว กูไม่รู้จะตามจากไหนดีเลย สับนิยายกันต่อมั้ยล่ะ
สับนิยายมันเรื่องหลักของมู้นี้อยู่แล้ว
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.