>>373 ไม่เกี่ยวว่ะ กุไม่ชอบคนเลว สิ่งที่เมิงคิดมันผิด แต่คนมักจะแยกแยะคนดีกับคนเลวไม่ออก
เหมือนผู้ชาย badbad ผญ มักชอบคิดว่าผู้ชายคนนี้ดี ไม่โง่
ส่วนผู้ชายที่เป็นคนดี ก็บอกว่าไอนี่โง่ หลอกง่าย
พูดอะไรก็เชื่อ ผชแบบนี้ละที่เป็นคนเลว
อะไรคือความเลวและความดี
ฆ่าคนคือความเลวจริงไหม ถ้ามันช่วยให้คนหมู่มากรอดได้
การช่วยเหลือคนคือความดีจริงไหม ถ้ามันทำให้คนเหล่านั้นสามารถกลับมาทำความเลวได้อีก
เหมือนกับเหรียญที่มี2ด้าน และกุไม่คิดว่า ทาเนียมันเลวนะ มันเป็นคนดี
ต่อให้คนส่วนใหญ่ชอบ และกุต้องชอบตามคนส่วนใหญ่หรือไง ถึงจะเป็นคนดี
ถ้าต้องเป็นคนดีของสังคม ตัวฉันคงเหลือทางเดียวคือต้องทำลายสังคมทิ้งซะ!
ถ้าตัวละครออกมากลวง ต่อให้เป็นคนดีหรือคนเลวก็ไม่แตกต่างกัน เป็นได้แค่ปั้นน้ำเป็นตัว
บอร์ดเด็กดวกถามอะไรเยอะแยะ ไม่ถามโม่งบ้างเหรอวะ
>>376 ที่หนีมาเล่นโม่งก็เพราะไม่อยากตอบคำถามจำไมพวกนั้นนั่นแหล่ะ ปล่อยให้กูรู เซียนคีย์บอร์ด กับสุดยอดไลฟ์โค้ชตอบกันเอา มันมีขาประจำคอยตอบให้อยู่แล้ว จะให้คนเหี้ยๆ อย่างพวกกูไปตอบ เดี๋ยวจะเสียบรรยากาศทุ่งลาเวนเดอร์เอา พูดมากเดี๋ยวเจอหาว่าอวดฉลาดอีก เอาไว้มีคนอยากรู้อะไรจริงๆ มาพิมพ์ถามในนี้ค่อยมาตอบตอนมีเวลาว่างเอา
ตอนนี้นิยายเด็กดี มีแต่สายจีน
ไอ้แนวย้อนอดีต ที่กำลังดังตอนนี้ เอาจริงๆ ก็แค่แนวจีนโบราณ ไม่ก็จีนยุค90-80 ทั้งนั้น
ตอนแรกนึกว่า แนวใหม่จะทำให้เลิกฮิตจีนโบ เสียอีก กลายว่า แนวจีนโบมันแค่กลายพันธุ์ เท่านั้น
กุจีน75% อ่านนิยายจีนผิดด้วยหรอ
แนวจีนมันกลืนเด็กดวกมาตั้ง 5-6 ปีแล้ว แล้วความนิยมก็เหมือนจะไม่ตกด้วยมั้ง
กูก็ไม่เข้าใจเหมือนกันนะว่าทำไมถึงยังฮิตติดลมมานานแบบนี้
แนวระบบนี่ยังนิยมต่อเนื่องเลยแฮะ ไม่ตกเลย แต่ระบบต้องน่าสนใจหน่อย ไม่ซ้ำซาก
ไม่ใช่เล่นเองสนุกกว่าดูคนอื่นเล่นหรอก แต่ทนอ่านไม่ได้เพราะระบบเกมที่เขียนมาแม่งห่วยแตกเหมือนคนไม่เคยเล่นเกมมาเขียนต่างหาก
เกือบทุกเรื่องเลยคือบาลานซ์ระยำหมาชนิดว่าถ้าเกมพรรค์นี้มีอยู่จริงๆ บนโลก มึงไม่มีทางฮิตคนเล่นเป็นล้านแบบที่เขียนอวยตามเนื้อเรื่องหรอก เจ๊งบ๊งตั้งแต่ปีสองปีแรกแน่ๆ
>>385 ก็นั้นแหละ เพราะระบบที่นักเขียนออกแบบมันมีอยู่ 2 ประเภท
1. เขียนระบบเพราะจำมาจากมังงะหรือนิยายของคนอื่น (หรืออนิเมะ)
2. เขียนระบบจากเกมที่ตัวเองเคยเล่น
ปัญหาของข้อ 1. อย่างที่มึงบอกเลย เป็นแบบนี้ตั้งแต่ยุคนิยายเกมออนไลน์ ตัวนักเขียนไม่รู้ว่าระบบที่ลอกจากของคนอื่น เอามาจากเกมจริงๆรึเปล่า ส่วนข้อเสียของ 2. คือเกมที่นักเขียนเคยเล่นมักจะไม่ตรงกับเกมที่คนอ่านเล่น บางคนแม่งเขียนระบบยังกะ mod จนคนอ่านไม่อินแล้ว จนบางทีเล่นเกมเองยังอินกว่า
ไอ้ที่น่าเศร้าจริงๆคือ สมัยนี้มีเกม idle ระบาดชิบหาย พวกนักเขียนที่โตมากับเกมแนวนี้อย่างเดียว แม่งไม่รู้อะไรซะเลยเกี่ยวกับการ Dungeons & Dragons สาย GM เพราะคอร์หลักของเกม idle คือเก่งด้วยเก็บรับของรายวัน กดสั่งบอท และเล่นกาชา พอนักเขียนตัดกาชาออกไป แม่งกลวงโบ๋เลย กลายเป็นนิยายระบบพิกลพิการ เพราะเกม idle แม่งคือทุนนิยมเหี้ยๆ ความเก่งของผู้เล่นไม่ได้มาจากฝีมือเลย แต่ได้มาจากเปิดตู้กาชาแล้วได้ตัวเทพมามั้ย พวกด่านหลังๆแม่งออกแบบสำหรับตัวเทพชุดใหม่โดยเฉพาะ ควักเงินหมุนกาชาจนกว่าจะได้ตัวเทพ ถึงจะผ่านด่านไหว พวกสเตตัสแม่งไร้สาระชิบหาย กลายเป็นเกมที่ระบบเก๋งๆก้างๆ พอเอาระบบพวกนี้ไปใส่นิยายตัวเอง ตัวเลขแม่งเวอร์สัสแต่ไร้แก่นสาร
ลืมๆ ปัญหาของเกม idle มาจากคลิปหมอนี้เลย https://youtu.be/8hlXY_kPJdY?si=2x11RFd2M8V91_Dk
เล่นเกม กุก็ ใช้บั๊กเอาชนะเกมตลอเ
หรือรู้ความลับของกาชา ก็เปิดได้ตัวเทพรัวๆ
ใช้มาโคร สคริปต์ afk farming อะไรก็ได้
ถ้าโลกนี้คือเกมก็ย่อมมีช่องโหว่ เหมือนกัน
เช่น กฏฟิสิกส์ ที่ทุกคนในโลกนี้ต้องทำตาม
แต่คนไทยสมองกลวง แต่งเรื่องซับซ้อนไม่เป็นหรอก แล้วก็มาร้องมุแง้ ทำไมแนวระบบ ถีงขายได้นิยายที่กุแต่งขายไม่ได้ ก็เพราะไม่มีประสบการณ์การเล่นเกมแบบกุไง
อย่างกุก็เล่นมาราธอน 26 วัน เลเวล 100 คนแรกของเซิฟไทย ทุดคนก็ ชื่นชม กุหมด ว่าทำได้ยังไง เวลาที่กุทำสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้ แล้วที่ง กับความสามารถกู แม่งฟินดีวะ ก็เอาเรื่องพวกนี้ไปแต่งนิยายได้ แต่กุทำได้ในชีวิตจริงหลายอย่าง
>>389 พูดตรงๆ ตามประสบการณ์คนเล่นเกมออนไลน์มาเยอะนะ ไอ้โตะนี่เป็นไปไม่ได้ที่จะไปอยู่กับกลุ่มแนวหน้า เพราะต่อให้เคยเล่น CBT มาก่อน ตามนิยายความรู้ก็นำคนอื่นไปถึงแค่ชั้น 8
ความเป็นจริงกลุ่มคนที่จะเลเวลเยอะได้เร็วในช่วงแรกคือปาร์ตี้สมดุลที่แต่ละคนเล่นเก่งกันหมด อย่างไอ้โตะที่เป็นสายโซโล่ถึงเก็บเวลได้เองแต่พอถึงจุดนึงก็จะโดนข้อจำกัดบางอย่างทำให้ช้าลงเพราะเรื่องจำนวนคน
กูเองก็พอเข้าใจคนเขียนนะว่าอยากให้โตะดูเด่น (ก็แม่งเป็นพระเอกอะ) แต่พอมองตามความเป็นจริง เกมไหนกูเล่นโซโล่มันจะเวลขึ้นช้าช่วงกลางๆ เพราะมอนฯ มันเก่งขึ้นมาก บางตัวที่พลังป้องกันเยอะก็ฆ่าช้า หรือบอสเควสตามเนื้อเรื่องที่จำเป็นต้องสู้ (เควสเปลี่ยนอาชีพหรือเควสให้อุปกรณ์ดีๆ) ถ้าไปคนเดียวนี่เหนื่อยมากเพราะถ้าไปหลายคนเวลาบอสเล็งใคร คนที่เหลือก็หรอยตีฟรีได้ พอไปเองนี่ต้องระวังเพราะมันเล็งเรายังไม่พอต้องมาหาจังหวะสวนอย่างปลอดภัยอีก
รวมๆ แล้วการลากมอนเป็นกลุ่มมาลงท่าหมู่โดยที่มีพระช่วยในตี้ยังไงก็เวลง่ายกว่าลุยเดี่ยวแบบต้องแบกยาไปตีเองคนเดียว
ดังนั้นแนวคิดเรื่องหมาป่าเดียวดายจึงเป็นการขายฝันให้เด็กเบียวไม่เคยเล่นเกมได้รู้สึกดีเวลาอ่านความ OP ของตัวเอกเฉยๆ เพราะต่อให้ได้ของดรอปมาแล้วไม่ต้องหารเพื่อนแต่การต้องลงทุนทั้งซื้อยาเอง ทั้งซ่อม ชุด/อาวุธ ที่เสียหายเพราะไม่มีเพื่อนสลับกันช่วยชนมอนฯ ทำให้ซื้ออุปกรณ์สวมใส่ดีๆ ได้ช้า ไม่เหมือนปาร์ตี้ที่เน้นจำนวนแล้วหารเท่า ยิ่งฆ่าเยอะโอกาสดรอปของหายากก็มีมากขึ้น ลงทุนไม่มาก ถึงกำไรน้อยแต่มันมาเรื่อยๆ
เรื่อง EXP ก็ด้วย ระหว่างเดี่ยวๆ ตีเอง 1 ตัวได้ exp 100 กับปาร์ตี้ 4 คน ลากมอน 5 ตัวลงท่าได้เท่ากับ 500/4 = 125 ต่อมอนฯ 1 กอง บางทีก็ฆ่ามอนฯ จบไวกว่าตีเองคนเดียว ทำให้ช่องว่างมันค่อยๆ ห่างออกไปอีก สุดท้ายปาร์ตี้ที่ทุกคนเป็นงานก็นำไปทั้งเรื่องเงินและเลเวลอยู่ดีวะโม่ง
เออ กูลืมไปว่าคนอ่านมันไม่ได้เล่นเกมทุกคน งั้นก็ช่างแม่งละกัน
>>390 ตามนั้น เกมสมัยก่อนพึ่งระบบปาร์ตี้หนักมากในช่วงกลาง - ท้ายเกม
กูยกตัวอย่างง่ายๆ คือ RO ที่คนเรารู้จักกันดีเลย เอาแบบ Classic แพทเก่าเลยด้วยเอ้า
ช่วงเลเวล 1-70 นี่จะรู้สึกว่าเก็บเลเวลคนเดียวเร็วมาก เพราะมอนฯ ที่เราตีนั้นอ่อนแอ HP เราอยู่ซักราวๆ 4-6 พัน มอนตีเข้าทีละ 300-500 โอกาสโดนตีอยู่ราวๆ 30% ผู้เล่นยังพอที่จะตีมอนตายก่อนที่มันจะตีเราโดนอยู่ทำให้เก็บเลเวลเป็นไปได้ง่าย เพราะเน้นการฆ่าทีละตัวๆ
แต่พอหลังจากนั้นตัวเกมจะอัพความเก่งมอนฯ ขึ้นแบบก้าวกระโดด ตอนเลเวลซัก 80 เราต้องไปตี Raydric งี้ ซึ่งมันเป็นมอนฯ ตัวแรกๆ เลยที่ตีเรา 1000+ ในขณะที่ HP เราตอนนั้นถ้าไม่ใช่ Knight อัพ Vit เต็มก็จะอยู่ราวๆ 4-6 พันนี่ล่ะ โดนมันฟันเข้าทีก็ร้องกรี้ดละเพราะกดยาเติมเลือดก็ไม่คุ้ม ท้ายที่สุดก็ต้องไปไหนมาไหนเป็นปาร์ตี้ พ่วงพระไปด้วยเพื่อเอาบัพให้ตัวเก่งขึ้น + ประหยัดค่าใช้จ่าย และกลายเป็นที่มาของพรีสการกุศลที่เข้าร่วมปาร์ตี้โดยไม่แชร์ exp อะไรแบบนั้น
เรื่อง exp เองก็เช่นกัน เกมเก่าๆ ระบบ exp จะมีตัวคูณเพิ่มขึ้นตามจำนวนผู้เล่นในปาร์ตี้ จากที่เคยตีได้ตัวละ 100 พอปาร์ตี้กันคูณเพิ่มก็กลายเป็นตัวละ 180 งี้ ก่อนจะเฉลี่ยหารกันไป ยิ่งลากมากองแล้วลงเวททีเดียวหมดยิ่งได้ exp ไว ฉะนั้น Solo player แล้วเก่งแบบไอ้โตะนี่กูรู้สึกได้ว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยตั้งแต่เรื่องมันออกมาแรกๆ ทำให้กูขยาด SAO มาตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงทุกวันนี้
และกูเล่นเกมออนไลน์มาตลอด ก็ไม่มีเกมไหนที่ Solo แล้วได้ดีนะ ขึ้นชื่อว่า MMORPG เกมมันบังคับเก็บเลเวลเป็นปาร์ตี้อยู่ละ ยิ่งช่วงหลังๆ ก่อนยุคล่มสลายของ MMORPG นี่ยิ่งบังคับเลย เพราะมันเปลี่ยนไปเป็นระบบเก็บเลเวลในดันเจี้ยนส่วนตัว ถามว่า Solo ได้มั้ยก็บอกว่าได้ แต่มอนเก่งเท่าเดิมจึงไม่มีทางเร็วกว่าลงดันฯ 4 คนรุมกระทืบบอส แล้วทุกคนได้ reward เท่ากันแน่นอน
ถ้าเกมที่เล่น Solo แล้วเร็วกว่ากูยกให้แค่ Monster Hunter เกมเดียว เพราะไอ้เกมบ้านี่เลือดมอน Scaling ตามจำนวนผู้เล่นไม่พอ ถ้าผู้เล่นเยอะยิ่งทำให้มอนฯ กระจายการโจมตีไปยังคนอื่นๆ ทำให้ยิ่งสู้วุ่นวายขึ้น เทียบกับยืนดวล 1v1 กับมอนฯ รอหลบ/สวนกลับ แบบหลังจะเร็วกว่าเยอะ
ส่วนคนใช้บอท afk ใช้โปรฯ ใช้ explore นี่กูมองว่าเป็นสวะ ไม่นับว่าเป็นเกมเมอร์
พูดมาซะยาว สุดท้ายไม่เกี่ยวกับนิยายเลย ถถถถ
ต่อให้เกมกาชาครองตลาดมือถือ ก็ไม่มีนิยายใส่ระบบกาชาตามกระแสแล้วรุ่งโรจน์สักเรื่อง เพราะคนเขียนหมกมุ่นอยู่กับ P E R F E C T I O N I S T ของตัวเอกจนกลายเป็นจุดขาย ส่วนการเขียนบท ด้านตัวละคร วิธีการนำเสนอ เทียบเท่าเดอะสเน็ก
พูดถึงแนวเกมออนไลน์ ในไทยมันยังพอขายได้อยู่ไหม มีเรื่องไหนดังๆแต่แหวกแนวบ้างเปล่า เช่นมีตัวเอกหญิง เป็นnpc ไรงี้
แฟนตาซีที่ไม่ใช่ระบบยังขายได้ป่ะวะ
>>393 มันขายได้เรื่อยๆ อะ แค่ไม่ฮิตระเบิดเหมือนสมัยก่อน ถ้าเขียนดีก็มีคนอ่าน ตัวเอกมีหลายแบบมากแต่แปลกสุดที่เคยเจอคือไปเป็นมาสคอตในกิจกรรมเกมแล้วออกจากชุดไม่ได้เลยติดในเกมออกไม่ได้ซ้ำอีกรอบเพราะตัวละครบั๊ก ร่างกายในโลกจริงเลยต้องย้ายไปนอนโรงบาลแบบเติมสารอาหารทางสายยางกับใส่แพมเพิสแบบทำความสะอาดอัตโนมัติให้
>>394 ขายได้นะ ที่จริงแม่งก็ขายได้ทุกแนวอะแหล่ะถ้าคนเขียนเก่งพอ แต่แนวนิยมมันเหมือนได้บัพพิเศษเพิ่มโอกาสที่คนจะเขัามาดูมากขึ้น แบบเดียวกับยุคนิยายเกมออนไลน์เฟื่องฟูไง เรื่องไหนๆ ชื่อก็ต้องมีคำว่าออนไลน์ต่อท้าย
ถ้าเทียบเป็นอนิเมะก็แบบเรื่องฟรีเรนหรือดันเมชิ แฟนตาซีดาบและเวทมนตร์ของแท้ ไม่มีเลขสเตตัสหรือระบบเกมในเรื่อง เรตติ้งดีจากการออกแบบโลก ตัวละคร กับการเล่าเรื่อง
เล่าเรื่องเก่ง แต่สำนวนเขียนไม่เก่ง
กับ
สำนวนเขียนเก่ง แต่เล่าเรื่องไม่เก่ง
โม่งเป็นนักอ่านจะอ่านเรื่องไหน แบบไหนขายได้มากกว่ากันสำหรับนักเขียนมือใหม่
>>397 กูเลือกแบบแรกแฮะ
ถึงภาษาสำนวนไม่สวย คำผิดมี แต่เล่าแล้วสนุกน่าติดตามก็ยังพอไหว (เพราะเรื่องพวกนี้มันแก้ไขได้) ในทางกลับกันสำนวนสวยภาษาดีคำผิดน้อยแต่เล่าเรื่องชวนง่วง เล่าได้ไม่สนุก หรือขาดความสมเหตุสมผล อ่านไปร้องอิหยังวะไป แบบนี้กูทนไม่ได้
ส่วนปัจจัยว่าขายได้ไม่ได้ก็วนกลับไปที่เดิมคือมันสนุกหรือเปล่า ถ้าไม่สนุกก็ขายยากหน่อย บางเรื่องไอเดียสดใหม่ พล็อตแหวกแนว เล่าได้สนุกหรือเน้นตลก ช่วงแรกถึงจะทุลักทุเลหน่อย พอแต่งจบก็รีไรท์ขายทีหลังได้อยู่
ก็คือไปหามาก่อนว่าอันที่อ่านสนุกก้บกำลังเป็นกระแสมันเป็นแบบไหนแล้วก็แต่งตามเลย ง่ายดี
กุมีระบบเหมือนกัน ใช้งาน chatgpt
กับสั่งชอปปี้ จากต่างแดน
>>397 สำนวนเขียนมาก่อน เรื่องเล่าทุกเรื่องพื้นฐานมันเหมือนกัน
คือพระเอกกากไปจนจุดสูงสุด
ทุกเรื่องมันมีแค่นี้
แต่สำนวนเขียนมันคือ อธิบายให้คนเข้าใจง่าย ให้เด็ก ป.4 เข้าใจได้ ซึ่งหลายเรื่องแม่งเขียนอย่างกากใครจะอ่านต่อ อย่างในโม่ง
กุรู้สึกว่า นักเขียนหลายคน ยังคิดเยอะไป จับต้นชนปลายไม่ถูก
จำไว้แค่ว่า simple is the best
เออ และ เนื้อเรื่อง ปราบจอมมาร ไม่สำคัญ เท่าระหว่างการผจญภัย ว่าเราจะได้อะๆมาบ้าง มิตรภาพ ผูัคน รอยยิ้ม กุว่า นักเขียน ในโม่ง แม่ง
พยายามเกาผิดที่คัน
เหมือนที่กุเล่นเกมออนไลน์ ได้เจอผู้คน เจอสถานการณ์ที่บีบคั้น มันทำให้เราพัฒนาตัวเอง
เล่นไฟนอลแฟนตาซี เรือเหาะลอยฟ้า ภาค9 การผจญภัย ที่คาดเดาไม่ได้ เพราะแบบนั้นการผจญภัยที่มีทุกคน มันถึงสนุกไง
อืมมมม กูว่าติดปัญหาเรื่องนิสัยการเขียนของตัวเองว่ะ
คือลองสังเกตดูแล้วกูชอบให้พวกตัวเอกเผชิญปัญหาอะไรซักอย่างที่อยู่เกินมือตัวเอง ถึงจะเขียนให้พยายามแก้ไขจนถึงที่สุดแต่ก็ไม่สำเร็จแล้วสุดท้ายก็จะจัด Deus Ex machina ลงมาจัดการปัญหาทุกที ไม่ว่าทั้งในรูปแบบเหนือธรรมชาติ หรือในรูปแบบใครซักคนที่เก่งกว่ามาจัดการให้ตลอด
เรื่องเก่าๆ ที่กูเขียนมาก่อนหน้านั้นเกือบสิบปีก็ออกทำนองนั้น แล้วเรื่องปัจจุบันก็เขียนแบบนั้นอีก ซึ่งตรงนี้กูว่ากูไปเขียนขัดใจคนอ่านยุคนี้แหงเลย
ยกตัวอย่างแบบง่ายๆ นะ ตัวเอกสู้กับตัวร้ายในศึกสุดท้าย อัดอีกฝ่ายเกือบตายแต่โดนตัวร้ายระเบิดพลังสวนกลับหรือซัดทีเผลอจนร่วงงี้ และในช่วงเข้าตาจนก็จะมีตัวละครหรือเหตุการณ์อื่นเข้ามาแทรก แล้วจัดการตัวร้ายให้แทนที่จะเป็นฝึมือตัวเอกล้วนๆ ไปเลยงี้
>>401 ไม่ต้องไปซีเรียสหรอกมึง เอาจริงกูว่าการจัด Deus Ex Machina สำหรับกูคือไม่มีปัญหาเท่าไหร่นะ ตราบเท่าที่ถ้าว่ามันมีเหตุผลมารองรับที่มาที่ไปของมัน อารมณ์ประมาณว่า 'ปาฏิหาริย์แม่งเกิดขึ้นได้'
กรณีแบบนั้น กูจะแก้ด้วยการแง้มเล็ก ๆ ให้ Hints กับคนอ่านก่อนในช่วง ๆ นึง ให้รู้ว่าตัวเอกอาจมี 'พลังแฝง' บางอย่างที่ไม่รู้จะโผล่มาตอนไหน ซึ่งถ้าเป็นงั้นสำหรับกูคือเป็นมุขที่แม่งว้าวสัสมากเลยนะ
สรุปคือถ้าจะแก้ปัญหาจริง ๆ กูแนะนำให้มึงอาจลองวางบทให้ตัวเอกได้วางแผนการก่อนหน้าไปอัดกับตัวร้ายดู อารมณ์ประมาณว่า แผน A ไม่ได้ผลก็ไปใช้แผน B, C, D แม่งไปตามลำดับ พอถึงจังหวะจะโคนโดนตัวร้ายจะสี้แล้ว ก็หันไปบอกว่า 'I'm two step ahead, my man'
>>402 เรื่องทิ้ง Hints กับมีที่มาที่ไปน่ะเขียนอยู่แหละ
แต่ที่กูกังวลคือตัวเอกทำตัวไม่สมกับเป็นตัวเอกนี่ล่ะ เพราะดันเขียนให้คนรอบข้างมาจัดการปัญหาตลอด
ถ้าให้กูยกตัวอย่างเพิ่มใกล้เคียงก็คงประมาณบักชุนใน เซนต์เซย่า อะ คือตามสเปคมันเก่งนะแต่เจอตัวร้ายเก่งกว่างี้ พอสู้ไม่ได้ก็ร้องพี่ค๊าบแล้วอัญเชิญพี่อิคคิมากระทืบตัวร้ายแทนอะไรแบบนั้น เพราะในเรื่องที่กูเขียนนี่อยู่นี่ ช่วงต้นเรื่องกูให้พระรองมาลาสคิลบอสหมดเลย ถถถถ
งงว่าทำไมพวกเมิงต้องเขียนให้พระเอก เข้าตาจน แล้วต้องสู้ให้ชนะ
ถ้ากุเขียนนิยาย เจออะไรก็ตาม สู้ไม่ได้ ก็หนี
ต่อให้ต้องสละ ทุกอย่าง ลูก เมีย เงินทอง
ตราบใดที่มีชีวิตอยู่ยังกลับมาสู้ได้
ไม่จำเป็นต้องสู้ตลอด เหมือน กลยุทธ์ของซุนวู ที่บอกว่าใน36 กลยุทธ์ ถ้าทุกกลยุทธ์ใช้ไม่ได้
กลยุทธ์หนีดีสุด ในชีวิตจริง กุก็เหมือนกัน
>>404 พวกนักอ่านมันรับไม่ได้กับพระเอกขี้ขลาด ต้องสู้ตายจนกว่าจะชนะด้วยวิธีไหนก็ได้ที่นักเขียนมันโม้มา เคยลองแต่งพระเอกโง่ พลาดท่า ถูกหลอก จะแพ้แล้วรีบหนี กูแม่งโดนด่าแล้วเลิกอ่าน เรตติ้งตกหลังตอนนั้นเป็นต้นไปแถมลงทุนรีวิวตรงหน้านิยายดาวเดียวว่าพระเอกกากใจเสาะอย่าเสียเวลาอ่าน
นิยาย ลดตอนละ 6เหรียญสักที
8เหรียญกุไม่ซื้อ ไม่ได้เสี่ยนขนาดนั้น
>>406 ต่างโลกทั่วไป วางแผนรบ พระเอกเรียนประวัติศาสตร์ต่างประเทศมาบ้างในคาบชมรมกับวิชาเลือก แล้วกูกำหนดให้มันเป็นแค่เด็ก ม.ปลาย ไม่ใช่เซียนสงครามยุคกลางหรือเนิร์ดการทหาร ก็เลยมีพลาดท่าเสียทีเป็นบางคราวช่วงงานยุทธวิธี ตัวเอกกูไม่ได้เทพซ่ากำลังพยายามเรียนเวทมนตร์สายไฟอยู่ กะจะไปให้ถึงเวทเมเทโอเพราะเวลาลงใส่กองทหารในสนามรบแล้วมันชิบหายเป็นวงกว้างดี ที่โดนหาว่ากากเป็นเพราะบู้เองไม่ได้ ถ้าโดนเข้าถึงตัวก็ซี้ม่องเซก โดนบังคับว่าต้องไปทางเวทเพียวๆ มีฝึกสมาธิ เพิ่มมานา อ่านตำราเวทนั่นนี่ ถ้ามัวมาครึ่งๆ กลางๆ ไปไม่สุดสักทางก็จะใช้เมเทโอไม่ได้เพราะมานาพื้นฐานพระเอกมีน้อย (เป็นคนธรรมดาและไม่ได้มีพรสวรรค์ทางเวทมนตร์ติดตัว) ใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างแอบปนแนวฮาเร็มให้พวกทหารเก่งๆ เป็นสาวๆ รอบตัวพระเอก อยากให้ตัวเอกมีพัฒนาการทางบุคลิก แรกๆ ก็แพ้บ้าง โดนหลอก โดนหักหลังบ้าง แล้วค่อยทันคนขึ้นเรื่อยๆ เรื่องต่อสู้ก็เรียนเวทไฟไปตามเรื่อง แรกๆ ใช้ได้แค่เผาป่าล้อมศัตรูหรืออำพรางการเดินทัพด้วยควันไฟ แล้วกะจะให้เก่งแบบก้าวกระโดดตอนได้เยกับเอลฟ์แล้วคุณเธอทำสัญญาโอนภูติไฟมาให้ใช้ แต่เจ้าตัวจะมองไม่เห็นภูติในธรรมชาติและใช้เวทมนตร์ไม่ได้อีกต่อไป แถมอายุขัยหาย 99% (กลายเป็นอายุเท่ามนุษย์ซึ่งก็อาจจะเข้าทางว่าทีเมียหลวงอย่างเธอพอดี) คือกูยังแต่งไปไม่ถึงตอนนั้นไง คนอ่านมันรอไม่ได้ ติดนิสัยต้องเทพตั้งแต่แรก กะว่าให้พระเอกกูเสกอุกกาบาตมาลงกลางเมืองหลวงประเทศอื่นพร้อมกันทีเดียว (แล้วกูจะเขียนแผนการรบได้ไงถ้าจบเร็วแบบนั้น)
กูแค่อยากให้สาวๆ มีบทสลับกันใกล้ชิดกับมาช่วยพระเอกตอนมันยังกากอยู่ คือตอนจบก็เย้ดรอบวงสุกี้หม้อรวมอยู่แล้วแหล่ะแต่คนอ่านมันรอไม่ไหว
พระเอกโดนหลอกแล้วไม่รู้ ไหวตัวไม่ทัน = กาก
พระเอกเป็นนักเวท สู้ประชิดไม่ได้ = กาก
พระเอกต้องให้ผู้หญิงปกป้องช่วงแรก = กาก
พระเอกถอยตามยุทธวิทีตอนเสียเปรียบ = กาก
พระเอกโดนคนที่ช่วยตอนแรกหักหลัง = กาก
พระเอกแกล้งโดนจับแล้วแอบไปเผาเสบียง = กาก
พระเอกหมดตัวเพราะพัฒนากองกำลัง = กาก
1/5 กาก กาก กาก ไม่ต้องอ่านนะครับเรื่องนี้ โดยมิตรสหายนักอ่านหัวเกรียนผู้ชอบแนวเทพซ่าส์ท่านหนึ่ง
พระเอกเป็นนักเวท สู้ประชิดไม่ได้ = กาก
พระเอกถอยตามยุทธวิทีตอนเสียเปรียบ = กาก
พระเอกแกล้งโดนจับแล้วแอบไปเผาเสบียง = กาก
มันกากไงวะ งงใจนอ จริง
เตรียมตัวครับ อ.มาเตือน
https://www.youtube.com/watch?v=RVY25QTPUfY&t=1s
โม่งเกลียดอะไรในนิยายแนวระบบมากที่สุด
แล้วถ้าแก้ไขได้อยากแก้ไขอะไรในแนวระบบ โดยที่ยังมีระบบอยู่นะ
กูเคยอ่านแต่นิยายระบบจีนนะ ไมมึงมองว่านิยายแนวระบบ คือระบบอิงเกมที่ต้องสมเหตุสมผลวะ มองแม่งเป็นโปรแกรมโกงที่จีนชอบใช้พอ มันเอามาใช้กันเพื่อคุมเรื่อง+โกงให้คนอ่านพึงพอใจกันเร็วๆ คนอ่านเดี๋ยวนี้สมาธิสั้น(กูเอง)จะให้มานั่งอ่านความทุลักทุเลพระเอกบ่อยๆกูปิดไปหาเรื่องอื่นดีกว่า ป.ล.ไม่ได้อ่านนิยายเด็กดีนานละแค่อยากเสือก
แนวแฟนตาซี แอคชั่น ตลก พระเอกสลับเพศเป็นหญิง เราควรนับตัวเอกเป็นพระเอก หรือเป็นนางเอกดี? ยิ่งถ้าตัวละครรองส่วนใหญ่เป็นชายด้วย
แล้วเราควรตั้งเป้าขายนักอ่านเพศไหน วัยไหนดี? ชายแท้? หญิงแท้?เกย์? ยูริ?
กุใช้ chatgpt อวยพรวันเกิดน้องสาว อยู่เนี่ย และน้องสาวกุไม่น่ารู้ แบบนี้กุใช้พลังของระบบไหม
ระบบอะไรกุไม่รู้ ไม่ได้เกลียดชนะระบบให้ได้พอ
ถ้าโลกนี้เป็นเกม กุต้องชนะ
>>418 ไม่นับมึงแค่ใช้ Tools
เอาจริงนิยามของระบบนี่แม่งเริ่มเพี้ยนขึ้นเรื่อยๆ นะ ระบบในตอนแรกน่ะ มันคือหน้าต่างเควสที่จะมอบของหรือพลังให้หลังจากบรรลุเงื่อนไข เพื่อให้ตัวเอกมันเก่งขึ้นข้ามหัวตัวละครอื่นๆ หรือทำอะไรเหนือความคาดหมายได้ ซึ่งบางเรื่องก็อาจจะดีไซน์ให้ระบบกลายเป็นตัวร้ายคอยชี้โน้นชี้นี่ให้ตัวเอกทำอะไรซักอย่างเพื่อเอาตัวรอด นั่นก็เป็นระบบในอีกรูปแบบหนึ่ง
แต่บางเรื่องที่ไม่เข้าใจระบบคือมันแค่เอา Google มาใส่ แล้วบอกว่าเป็นระบบ ทำหน้าที่ถามตอบแนะนำวิธีแก้ปัญหา ฯลฯ ซะงั้น ซึ่งพวกนี้มันคือ Tools ต่างหาก
เอาเวลาที่เล่นโม่ง พอให้เก็บเงินได้หลาย ๆ แสน
แล้วเอาไปเทรด Forex ได้แล้ว
ผมเทรดไม่กี่วันได้มาแล้ว 450,000
ฮาสัส
"หือ นี่มันอะไรตัวละครหลักเปิดสูตรโกง หรือว่าเป็นโหมดคลั่งก่อนตาย" พระเอก กล่าว
ชอบพระเอกแนวนี้ว่ะ
มาอ่านห้องนี้เป็นครั้งแรก กุก็นึกว่าไอเบียวมันเรื้อนแค่ไม่กี่ห้อง นี่เล่นเรื้อนไปทุกห้องเลยหรอวะ วันๆไม่มีอะไรทำรึไงนั่งรีเฟรชโม่งทั้งวัน
นิยาย 8,500 ตัวอักษร 4 บาท ถือว่าแพงไหม หรือกุจน
ถามหน่อย นิยายเน็ต ทำไม นางเอกหรือโลลิ ไม่ค่อยมีคนเขียนให้เป็นพวกเทพซ่า ทั้งๆที่ส่วนใหญ่มีพลังop ไม่แพ้ผู้ชายทั้งนั้น
มีแต่พระเอกที่ชอบเขียนให้เทพซ่า ตีคนไปทั่ว สร้างฮาเร็ม สร้างอำนาจ สร้างอาณาจักร แต่ทีนางเอกพลังopไม่ทำแบบเดียวกัน
ตัวละครญ เทพซ่า มันไม่ค่อยได้อารมณ์เหรอ หรือแค่ตลาดไม่ชอบ
>>427 ผญ ที่เทพซ่า มันมีจริงที่ไหนวะในโลกนี้เมิงเคยเจอ ผญ สายกล้ามเนื้อซัดกับผู้ชายหรอ
แค่โดนผู้ชายต่อยก็ร้องไห้แล้ว หมัดผู้ชายกับผญ แตกต่างกันหลาย50กิโล หรือมากกว่านั้น
ไม่ได้อยากดูถูก ผญ นะ แต่ ผญคงสนแค่ว่า ฉันมีผัว op อยู่ละ ฉันจะเก่งไปทำไม ก็พึ่งผัวสิ
ว้นๆก็คอยกีดกัน ไม่ให้ผัว นอกใจ ไปตลอดรอดฝั่ง ผญ ก็จะสู้ก้บ ผญ ด้วยกันแย่งผัว
ส่วนผู้ชาย ไม่เกี่ยว เพราะ ผช มอง ผญ 2คนแย่งตัวเอง เหมือนเด็กแย่งของเล่น ครั้นจะกระทืบเด็ก 2คน ก็หาว่ารังแก ผญ อีก
นางเอกพลัง OP กูเคยเห็นส่วนใหญ่เป็นนักฆ่าที่มากับรถแลนโบกินี่
เห็นโม่งพูดถึงเทพซ่า
แล้วเทพซ่า คือยังไงหว่า พระเอก นางเอกเทพซ่า มันต้องทำตัวยังไงบ้าง
ทำไมตัวละครหญิงจะไม่มีเทพซ่า มันมีเว้ย แต่มันอยู่ในหมวดนิยายจีนโบราณซะส่วนใหญ่ หรือหมวดอดีตปัจจุบันอนาคตของเด็กดวก ไม่ได้มาอยู่ในหมวดแฟนตาซี ถ้าลองไปอ่านดูแต่ละเรื่องแม่งมาแนวเดียวกับแนวตัวเอก OP เลยสัด ย้อนเวลาไปอยู่อดีตงี้ เอาความรู้มาประยุกต์ใช้ ได้พลังนั่นโน้นนี่ อยู่เหนือชาวบ้านงั้นงี้
ที่มีไม่เหมือนกันก็คือตัวร้ายไม่มีสมองที่จะโผล่มาให้ตัวเอกตบทิ้งในหน้าเดียว ส่วนใหญ่จะเปลี่ยนตัวร้ายเป็นชายแทร้ หรือตัวละครหญิงร่านเงียบ ตอนผงาดนี่ขึ้นอย่างหงส์ แต่พอโดนตัวเอกตบตอนลงนี่อย่างหมาต้องคลานมาขอขมาอะไรเทือกนี้
สเกลเรื่องจะย่อลงมาอยู่ในระดับประเทศเท่านั้นและมักจะจบในไม่กี่เล่ม ในขณะที่เรื่องที่ตัวละครชาย OP แม่งจะยิงยาวไปเรื่อยๆ หลายเล่มหลายร้อยตอน สเกลเรื่องอัพขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นไปตบกับเทพในท้ายที่สุดอะไรทำนองนั้น
>>431 เออ พูดเห็นภาพ
ตัวละครเอก ญ ในนิยาย มันจะเรื่อยเปื่อย มักจะมีคนOP อยู่รอบตัว ไม่ต้องสู้เอง
แต่ตัวละครชาย มันจะมี event ที่ทำให้ต้องถีบตัวเอง ก้าวข้ามขีดจำกัดเรื่อยๆ
กุเลยชอบไอดอลญี่ปุ่น ในชีวิตจริง เพราะมันจะมีตัวเอก ที่ต้องใช้ความพยายาม ตลอด
แข่งขันกันสูง และมีคนโดนไล่ออกจากวง ประจำ เพราะทำผิดกฏซ้ำซาก หรือลาออกเอง มันเลยสนุก
>>433 แต่กูคิดต่างกัน พระเอก OP บางเรื่องแม่งไม่ต้องใช้ความพยายามอะไร แค่หาข้ออ้างให้คนอ่านหลงเชื่อว่าตูกำลังฝึกฝน เพราะผิดพลาดนิดเดียวจะโดนประจานว่าพระเอกแม่งกาก อย่าอ่านดีกว่า พูดง่ายๆ เอาพระเอกเก่งไปเล่น easy mode โชว์ให้ทุกคนเห็นว่ากูเก่ง จริงๆแล้ว แค่ตบกับคนที่อ่อนแอกว่าตน
กูที่อยู่หน้าคอม และขอ บอก ว่า กู ไม่ได้อยู่ลำปาง
#รีวิว หลังจากอ่านนิยาย ระบบ 1200 ตอน 900 ตอน
ตอนจบพระเอก i have no enemy และให้ข้อคิดแง่คิดระหว่างทางตลอด
กุยังไม่จุใจเลย
ถ้าพวกมึงยังอยู่ กูถามอะไรหน่อย
เพศของนักเขียนมีผลต่อการสร้างพระเอกและนางเอกแค่ไหน ตอบแง่ไหนก็ได้ เอาหมดๆ
>>437 ในช่วงพีคของชีวิต แต่ยังไม่ใช่สุดยอดนะ
เขาเตะกูลงพื้น แต่กูยังยืนหยัดอยู่
จากห้องนั่งเล่นที่เคยสบาย ไปสู่ท้องถนน
ชีวิตมันสู้แม่ง ทุกอย่างคือการต่อสู้ แต่เชื่อเถอะ กูพร้อมลุยสัส
เรื่องมันเป็นแบบนี้แหละ
ถนนสู่สวรรค์ กูขับไปคนเดียว
ถูกไล่ออกจากวงการ ทิ้งกูไว้ตายอย่างเหี้ย
ใจแข็งจนไม่เหลือใคร แต่กูยังเชื่อในพระเจ้า
จิตใจอยู่ใต้ดวงอาทิตย์ กูจะทำให้ได้
ชีวิตมันยากซะเหลือเกิน กูถือพวงมาลัย
แก้ปัญหาที่มันทิ้งไว้ให้
ไม่มีใครจะช่วยมึงในวันที่ลำบาก
ชีวิตนี้จะสอนมึงให้ล้มลง แต่กูไม่ยอมแพ้
อยู่ในเรื่องเหี้ย นี่แหละวิธีที่มันเป็นไป
ทุกคนรู้ดีว่าชีวิตไม่เคยง่าย
แต่กูยังเดินต่อไปด้วยหัวใจที่ไม่ยอมแพ้
ในโลกที่แสนโหดร้าย กูจะสู้ต่อไปเรื่อยๆ
>>437 เพศ ญ ต้องให้เพศชายชี้แนะ
นอกจากชอบอ่านนิยาย มโน delusion สวยใสไร้สมอง
อย่างเขาบอกว่า ผญ ที่ดีพ่อจะสอนมาดี และทำตามอย่างพ่อ ผญ ที่เกิดมาพ่อทิ้ง อันนี้กุเห็นปัญหาหนัก
เพศ ญ เท่าที่กุเจอถ้าอยู่ในความเป็นความตาย
จะมีความลังเล ไม่กล้าตัดสินใจ นั้นก็ตัดสินผลแพ้ชนะได้แล้ว
ยกตัวอย่าง ผช คิดใหญ่จะไปอวกาศ ยังไง
แต่ ผญจะถาม เรื่อง ที่ทำงาน ผู้ชาย ทำไมถึงไม่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ ทางเพศ
ดังนั้นมันก็ต่างแน่นอน เพราะ ผญ เขียนนิยายจอมบงการ ไม่ได้ (ไม่ใช่เล่นเกมตามจับผช)
>>437 อาจจะไม่ทั้งหมดแต่ก็คิดว่าคงมีผลอยู่ อย่างที่กูเห็นบ่อยๆ ก็แบบถ้าพระเอกหรือนางเอกมีฝั่งใดฝั่งนึงที่รวยหรือบารมีล้นฟ้าเหี้ยๆ เนี่ย กูจะนึกไว้ก่อนเลยว่าอันนี้ผู้หญิงแต่ง ส่วนผู้ชายก็ตรงกันข้ามคือสองฝ่ายอาภัพพอกันทั้งคู่แล้วให้สาวหรือหนุ่มอื่นมาติดด้วยเหตุผลแบบอื่นแทนอย่างฝีมือเก่งกาจ รูปลักษณ์หล่อสวย หรือความใจดีอะไรงี้
ส่วนตัวคิดว่ามันสะท้อนความต้องการลึกๆ ของคนแต่งและคนอ่านทั้งสองเพศนี้ด้วยน่ะแหละ ผู้ชายอยากได้การยอมรับจากคนอื่น ผู้หญิงอยากได้ความมั่นคงความเอาใจใส่
เออ มีอีกอย่างที่ชัดว่า ผญ เขียน ประมาณชอบแนวตัวเองโดนรังแก และก็็ไต่เต้ามาจนล้างแค้นคนที่้คนรังแกให้สาสม แม่งมีแค่นี้ละเนื้อเรื่องหลักๆ
ซึ่งกุงง ว่าเมิงจะเขียนให้ตัวเองโดนกลั่นแกล้ง
ผช จะเป็นNPCโง่ๆ เทพบุตร
ในเรื่องมีแค่การสู้กัน ระหว่าง ผญ สเมือนว่า ผู้ชายไม่มีตัวตน
กุก็งง ว่า พวกเมิงชอบเรื่องพวกนี้ไปได้ไง น้ำเน่าขัดๆ หลักๆ เป้าหมายของนางเอก คือ การชำระแค้น
437 ไม่มีผลใดๆทั้งสิ้น
เวลามึงเขียนนิยาย มึงคือพระเจ้า มึงคือผู้สร้างโลก มึงคือผู้ปกปักรักษา(ให้ใครรอด ใครสมหวังก็ได้) มึงคือผู้ทำลายจะให้ใครอยู่ใครตายก็ได้)
ยกตัวอย่าง กูเองเป็นผู้ชาย
แต่กูเคยจินตนาการสร้างนางเอกสาวสวย ที่มีพลังที่ควบคุมทุกสรรพสิ่ง บิดเบือนธรรมชาติ บิดเบือนทุกตรรกะ เป็นอมตะ ฆ่าไม่ตาย ไม่สามารถถูกสาป แต่สาปใครก็ได้ แปลงกายได้ ไปได้ทุกที่ถ้าอยากไป ร่างกายสะอาดสะอ้าน มีแต่ความหอม ไม่มีอะไรทำให้เธอป่วยได้ ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ไม่มีใครมอบความเลวร้ายให้เธอได้ กุนิยามธรรมชาติคือสิ่งที่ใหญ่ ทุกอนู ทุกสสาสร ทุกสิ่งที่มีและไม่มี คือธรรมชาติ แม้แต่พระเจ้าก็เอาชนะนางเอก เพราะนางเอกคือธรรมชาติ ทั้งยังสวยงามสวยจนแม้แต่พระพุทธเจ้ายังต้องตกหลุมรัก เกิดราคะได้ โดยไม่มีข้อยกเว้น มีความสามารถทุกอย่าง เรียนรู้เร็วเพียงชั่วพริบตา อิ่มทิพย์ ไม่มีวันหิวกระหาย แต่จะกินอะไรก็กินได้ มีพลังทุกอย่างไร้ขีดจำกัด อวัยวะทุกส่วน สามารถแปลงเป็นวัตถุหรือสสารอะไรก็ได้ สร้างโลก สร้างจักรวาลก็ได้ ถล่มสรรพจักรวาลได้ เพียงแค่คิดเท่านั้น
เห็นมั้ยว่า ในโลกจินตนาการ หรือผลงานการเขียน เราคือพระเจ้ากำหนดหรือสร้างตัวละครอะไรก็ได้ ให้เก่งแค่ไหน สวยแค่ไหน ร้ายแค่ไหน ห่วยแค่ไหน ลักษณะแบบไหน นิสัยแบบไหนก็ได้
แต่ว่าลูกค้าหรือผู้บริโภค ก็คือพระเจ้าของนักเขียนอีกที เพราะเป็นคนจ่ายเงิน จงสนแค่ว่า เขียนยังไงให้คนอ่านชอบและขายได้เป็นพอ ไม่ต้องกังวลเรื่องเพศตัวเองหรอก
>>443 ความสามารถขนาดนี้ ต้องมี bg ที่ยิ่งใหญ่ด้วย ถ้ามีไม่มากพอ ก็จะเหมือนตัวละครโง่
และโดนตัดจบ
กุเคยถามเพื่อนนะ ถ้ามีเงินใช้ไม่หมดจะซื้ออะไร
เพื่อนบอกต้องคิดด้วยหรอ ก็ใช้เงินซื้อทุกอย่าง
ในโลกนี้ให้หมด นั่นละความดิบเถื่อนของมนุษย์ เมื่อมีพลังอำนาจก็จะกลายเป็นคนเลว
ซื้อทุกอย่าง มันทำให้คนเดือดร้อนไง
445 ตัวละครที่กูคิด มันยิ่งกว่าMarry Sue ความคิดหรือจินตนาการกู มันเป็นแค่เศษเสี้ยว มันอาจจะมีคนจิตนาการได้เหนือกว่ากูอีกมากมาย ถ้าเทียบกับดินในมหาปฐพี
แต่ที่กูกำลังสื่อให้เข้ากระบาลคนถามที่กังวลเพศสภาพ คือ นิยายของมึง มึงจะแต่งแบบไหน ตัวละครเพศอะไร มึงกำหนดได้หมด ไม่ว่าชีวิตจริงมึงจะมีเพศสภาพเป็นอย่างไรก็ตาม
และกูยังได้แสดงขอบเขตเพิ่มเติม เพื่อให้มันได้เข้าใจยิ่งขึ้น ว่างานเขียนมันไร้ขอบเขต เป็นโลกที่เราสร้างขึ้นมาเอง จากจิตนาการเท่านั้น มันคือโลกของคนเขียน
เพราะงั้นไอ้คนจะแต่งนิยาย 437ที่มันกังวลเพศสภาพตัวเอง ว่าจะส่งผลต่อการเขียนตัวละคร จะได้เลิกกังวล แล้วผลิตผลงานได้อย่างมั่นใจ
กูไม่แคร์ ว่าจะเป็นแมรี่ซูหรือไม่แมรี่ซู เพราะกูไม่ได้ขายนิยาย
สุดท้ายนักเขียนต้องยอมรับว่า ผลงานของตัวเอง คนตัดสินคือ ผู้บริโภค หรือนักอ่าน
ถ้าไม่มีเหี้ยอะไรจะแขวะ ว่างๆไปให้แม่มึงโอ๋!!!
>>447 กุเคยอ่านตัวละคร นิยายจีนนะ ตัวละครญ ที่มันเทพสัสๆ สวยก็สวยจนกุคิดว่า มันมีคนแบบนี้ในโลกด้วยหรอวะ แต่ถ้าเป็น ผช แบบกุ
มันจะไม่สงสัยไง พระเอกขี้ระแวงแบบกุ
หรือพระเอกที่เร่งยกระดับตัวเอง เพื่อสู้กับตัวร้าย
แล้วชนะแบบฉิวเฉียด
คำถามคือนางเอกเมิงอยู่ดีๆเทพเลยไม่มี สตอรี่เป็นไปไม่ได้ เพราะมันจับต้องไม่ได้จริง
เอาง่ายๆ ผญ ก็ไม่มีทางเทพเท่าผู้ชายได้
ลองดูกีฬาจากโลกนี้ก็ได้ ไม่ว่าจะใช้สมอง หมากรุก หรือใช้จิตใจ บงการคน ล้วนสู้ ผช ไม่ได้
ดังนั้นถ้าเมิงจะสร้างตัวละคร ญ ก็ต้องโรคจิตให้มากพอที่จะเป็นเทพได้
รวมทั้งคนแต่งเพศ ญ ด้วย
มึงโพสแบบนั้นเดี๋ยวก็โดนจิกข้อหาด้อยค่าคนอื่นหรอก
อย่างน้อยไม่มีไอ้พวกทรานเจนเด้อมาแจม ไม่งั้น โว๊กชิบหาย
แนวจีนเสิ่นเจิ้นยังน่าเอาลงเด็กดีอยู่ไหม
นิยายจีนเสิ่นเจิ้น = พวกมักเกิ้ลจีนเป็นผู้ประพันธ์ หรือพูดง่ายๆเลย นิยายจีนที่ผู้เขียนดันไม่ใช่ชาวจีนแท้
เออนิยายที่กุอ่าน ปี2002 ปี2017 ก็มี แต่ไม่ได้รู้สึกเก่าเลย ทำไมกว่าจะLC มาขายต้องรอหลายปีวะ
สมัยนี้มันน่าจะทำขาย แปลต่อตอน ไทย ชน จีน
ชน ENG เลย ว่าไปกว่ากุจะหานิยายอ่านได้สักเรื่องนึง เรื่องนั้นต้องดีจริงๆ
กุแทบไม่เคย dropกลางทางเลย จะต่อรวดเดียวจนจบ 1000+ ตอน คือนิยายที่ดีอย่างน้อย950ตอนก็ได้ ถ้านิยายไม่ถึง1000ตอนกุนับว่าขยะทั้งหมด ตอนละ8000ตัวอักษร
และนิยายที่ดีติดลม คือฉากต่อสู้ สุดเดือด เดือดจนเลือดในกุแล่นพล่านๆเลย แม่งวางไม่ลงต้องต่อเหรียญเรื่อยๆ
วิธีหาอ่านนิยายของกุคือ ดูเรื่องย่อ ไปหาในเว็บที่บอกว่าtag อะไรบ้าง มีฮาเร็มไหม ถ้ามีฮาเร็ม ส่วนมากกุจะข้าม เพราะกุรักเดียวใจเดียว ไม่ชอบ เรื่องผิดศีลธรรม
เรื่องรักใคร่ ขัดแย้ง แก้แค้น ไม่สน
ตัวเอกต้องสนแต่พัฒนาตัวเอง จนไปสู่จุดสูงสุด ไม่มีใครต่อต้านได้ มันดูเหมาะกับกูดี
I have no enemy
น้องๆจะกลับคอกห้อง lifestyle เมื่อไหร่จ๊ะ
https://i.imgur.com/dHFeK6b.png
ดูท่า ผญ ชอบอะไรแบบนี้เหลือเกิน
เริ่มมาโดนกลั่นแกล้ง วางแผนแก้แค้น ชำระแค้น
เผลอๆ ไอพวกนี้มันเอามาใช้ในชีวิตจริงด้วย
กุถึงไม่ชอบ ผญ ที่ทำดีกับกูเลย เพราะเหมือนมันมีเป้าหมายอยู่ กุชอบ ผญที่จริงใจ ไม่มีลับลมคมในมากกว่า
เจ็ตแพ็คบินได้ ด้วยพลังโฟลจิสตัลสกัดเย็นจากคูคูซอเรียน มอไซค์ของเทพไฟนี่ทั้งบิน ทั้งไต่กำแพง ทั้งแล่นบนน้ำได้นี่ สกัดเย็นจากซอเรี่ยน 3 ชนิดแน่นอน 🦕🦕🦕🔪
คือกูไม่แน่ใจว่ามาถามหานิยายในมู้นี้ได้ไหม ถ้าใครคุ้นๆ มันเป็นนิยายแนวเกมออนไลน์ ลงในเด็กดีสมัยฮิตๆ 10 ปีที่แล้วได้ หยุดเขียนไปราวๆ ช่วง 70/80 ตอนนี่แหละ
พระเอกเป็นนักศึกษาที่เพื่อนสนิทห้องข้างๆลากไปเล่นด้วยกัน ใช้ชื่อ ขอบฟ้า ในเกม (ธีมพลังของเจ้าตัวคุ้นๆ ว่าเป็นสีแดง) พระเอกก็เข้าไปเล่นแต่ดันเวลขึ้นยากกว่าชาวบ้านเขา ติดเงื่อนไขเควสมังกรอะไรสักอย่าง ห้ามตายไม่งั้น exp หายยับ เพราะไปทำไข่มังกรแตกจนรวมเข้าด้วยกัน แล้วไปเจอนางเอก(พึ่งมารู้ทีหลังว่าอยู่ห้องข้างกัน นางเอกมีน้องชายที่ในเกมใช้ชื่อ ไข่ตุ๋น) รวมตี้ไปทำเควสที่เขตหิมะ แล้วก็ได้หมาป่าเหมันต์มาเป็นสัตว์เลี้ยง พอเสร็จเควสก็สลายตี้
พระเอกเดินทางต่อ ไปเจอทะเลสาบที่มีมังกรเฝ้าอยู่ ที่กลางทะเลสาบมีของแดง เสร็จแล้วไปหาเพื่อนสนิทที่เมืองอื่น ไปลงดันมั้ง แต่ดันเป็นดันพิเศษ เจอแร่รุ้งหายาก พวกพระเอกก็เอาแร่ไปใส่ในโพชั่น ทำโพชั่นฮิล 3000% แค่ขวดเล็ก ราดแผลแผลหาย ขายกิลใหญ่ๆ กำไรอื้อซ่า
ขายเสร็จก็แยกกันเพราะพระเอกต้องไปเปลี่ยนคลาสของเควสมังกรต่อ ได้เจอครอบครัวมังกรที่ทำเหมือนพระเอกเป็นครอบครัวจริงๆ แล้วครอบครัวในโลกจริงก็ไม่ได้ให้เวลาพระเอกมาตั้งแต่เด็ก พระเอกเลยรักครอบครัวมังกรมาก พอว่างก็เที่ยวแวะไปแวะมาตลอด
ระหว่างเดินทางไปเรื่อยก็ไปเจอนางเอกกับน้องชายที่ชื่อไข่ตุ๋น แล้วดันมีคนเห็นตอนใช้พลังมั้งเลยจับตัวน้องนางเอกไปเป็นตัวประกัน กว่าจะช่วยได้ก็เกือบตาย ถ้าตายมันจะกลับจุดเซฟเขตคนลักพาตัว เลยต้องใช้วิธีเดียวกันแบบที่พระเอกโดน เปลี่ยนเผ่าแล้วก็จะได้จุดเซฟใหม่เป็นรังมังกร
อันนี้เป็นสรุปรวมเนื้อเรื่องที่พอจำได้ก่อนจะคนเขียนจะหยุดเขียนไป อาจจะมีอะไรผิดบ้าง แต่มันสิบปีแล้วให้อภัยกูเถอะเพื่อนโม่ง ใดๆ ก็ตามแต่โปรดช่วยใบ้ทีว่ามันชื่อเรื่องอะไรหรือเรื่องลบทิ้งไปแล้ว
กูจะได้นอนอย่างสงบสักที เพราะกูหาไม่เจอ t.t
เป็นคนนึงที่อ่านงานไทยก็เยอะ แต่ตอนหลังมาอ่านงานต่างชาติเยอะกว่า ความเห็นสต.คือการเล่าเรื่องมีสมูทกว่า เนื้อเรื่องเข้มข้นน่าติดตาม แนวนิยายแฟนตาซี จีนโบราณ ไซไฟ ในความรส.เราคือต่างชาติทำถึงมากกว่า การบรรยายต่างๆอ่ะ น่าติดตามกว่า มีพลอตใหม่ๆแนวใหม่ๆเยอะกว่ามากๆๆๆ
>>468 เรื่องค่าครองชีพกับการต่อยอดสื่อมันมีผลสูงจริงๆ น่ะแหละ ต่างประเทศพอเขียนอะไรแล้วคนส่งเสริมให้มึงใช้หากินได้มากกว่า เอาไปต่อยอดอะไรได้ไกลกว่า คนมันก็เลยเขียนงานที่มีคุณภาพออกมาได้หลากหลายมากกว่า แม้การแข่งขันจะสูงกว่าก็เถอะ
เทียบกับประเทศเราที่ถ้าอยากจะขายงานให้ออกก็ต้องเขียนแนวกระแสก่อน แล้วพอคนมันคิดแบบเดียวกันโถมเขียนกันแต่งานแนวเดียวกันหมด ความหลากหลายของพล็อตมันก็เลยน้อยตามไปด้วยอ่ะเด่ะ
เทคนิคเขาก็ดีนะ แต่แปลกดี นขไทนส่วนใหญ่กลับทำจริงไม่ค่อยได้
ทำปากเก่งสอนคนอื่นเหมือนตัวเองเป็นกูรูด้านงานเขียนซะเต็มประดา แต่กระทั่งศัพท์เฉพาะพื้นๆ ก็ยังไม่รู้จักอะเนอะ
แค่นี้เขาก็รู้แล้วว่ามึงแม่งดีแต่เห่าไปวันๆ เท่านั้นแหละ ไม่เคยลงมือเขียนฟิคเขียนนิยายจริงๆ หรอก
ตอนนั้นกุเขียนนิยายให้น้องสาวอ่าน น้องสาวยังไม่เชื่อว่ากูเขียนเลย เพราะกุเขียนได้ดีมาก
เหมือนอยู่ในโลกยุทธภพจริงๆ
แล้วกุไม่ใช่นักเขียน ไม่ได้เรียนวรรณกรรมมา
กุอ่านนิยาย เป็นงานอดิเรก ตั้งแต่ป.6แล้ว
ในขณะที่คนอื่นอ่านหนังสือกาตูนญี่ปุ่น
และกุไม่จำเป็นต้องรู้จัก แกรี่มด อะไร กุอ่านนิยายจบ1000ตอนรู้เรื่องก็พอ
เมิงทำตัวน้ำเต็มแก้ว เขียนสิ่งที่สังคมไม่ได้อะไรจากนิยายพวกเมิง แล้วก็บ่นทำไมไม่แมสสักที
โทษนั่นโทษนี่ แต่ไม่เคยโทษตัวเอง ก็จมปลักเน่า เป็นป้าไดโนเสาร์หลงยุคต่อไปละกัน
และคนกินอาหาร ไม่มีสิทธิ์เลือกกินอาหารหรอวะ
ถ้าอาหารมันขยะ กุก็บอกขยะ
กุเลือกแต่สิ่งดีๆให้ตัวเอง ถือว่าไม่ผิดนะ
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.