Fanboi Channel

นิทานเด็กดีบทที่ 41 (DDN XLI) จักรวาลโม่งที่หยุดหมุน เกานิ่งตั้งตรงตามต้นกก แสงเหลืองเรื่องจากปลายก้น ผลุดหนีหลุดจากร่าง ลอยเรียดลู่ลมบนผิวน้ำ ไหลไถลดิ่งจม หายไปตลอดกาล

Last posted

Total of 445 posts

349 Nameless Fanboi Posted ID6:pq8/OJAy5Q

>>348 เออ ใช่เมาเมา ลืมไปได้ไง

350 Nameless Fanboi Posted ID:VX.EneYNZz

>>344 >>345 คุณสมบัติพระเอกของมึงนี่เป็นตัวเอกนิยายจีนยุคค่อนข้างเก่าเลย เดี๋ยวนี้หาอ่านแบบนี้ยากแล้ว เพราะมันดันแต่งแบบตรงกันข้ามกับที่มึงว่าเสียเกือบหมด ไอ้แบ่งผิด-ถูก ดำ-ขาว ขัดเจนนี่ยังพอหาได้ แต่พระเอกทำตัว Chad ไม่หลงมัวเมาในหีและเป็นคนถ่อมตัวนี่โคตรหายากเลยวะ

351 Nameless Fanboi Posted ID6:jeBm4/l3Ir

>>344 จะว่าไป ทำไมต้องรอ 10 ปี เกืดใหม่ new game plus เรอะวะ

352 Nameless Fanboi Posted ID:VX.EneYNZz

>>351 มันหมายถึงมุกหนังจีนเก่าๆ ที่ตัวเอกต้องวางแผนไว้ล่วงหน้านานมากเพื่อให้ตัวเองได้เปรียบตอนจะเข้าต่อสู้ เพราะถ้าสู้กันตรงๆ กับตัวร้ายไม่ไหวมีแต่จะโดนฆ่าตายฟรี อธิบายแบบนี้คงเข้าใจยาก เดี๋ยวกูจะให้ตัวอย่างมึงอ่านก็แล้วกัน

เรื่องมันเริ่มตรงที่ตัวร้ายเคยฆ่าพ่อแม่ตัวเอก ตัวเอกรอดตาย ถึงจะแค้นมากแค่ไหนแต่ก็ทำไรไม่ได้เพราะตอนนั้นยังกากอยู่ ระหว่างที่ตัวเอกเร่ร่อนไปตามเมืองต่างๆ แบบคนไร้บ้าน ได้อาจารย์ท่านหนึ่งเมตตาช่วยรับเลี้ยงเพราะเห็นว่ามีหน่วยก้านดีพอจะฝึกวิชาได้ ก็ฝึกวรยุทธควบคู่กับวิชาลมปรานไปตามปกติ พร้อมกับเก็บความแค้นไว้ในใจ

สาเหตุที่ตัวร้ายมาฆ่าครอบครัวตัวเอกเป็นเพราะตระกูลของตัวเอกมีสูตรยาเพิ่มพลังลมปรานอะไรสักอย่าง ตัวร้ายอยากได้ยานี้มากแต่ขอซื้อเท่าไหร่พ่อกับแม่พระเอกก็ไม่ยอมขายสูตรปรุงยาให้ สุดท้ายเลยวางแผนเข้าปล้นหนังสือสูตรยาตัวนั้นแล้วฆ่าทุกคนในบ้านเพื่อปิดปาก

ตัวเอกที่ควรจะตายไปแล้วจากคมกระบี่รอดมาได้ราวกับปาฏิหาริย์ ด้วยเหตุที่เป็นทายาทสายตรงหนึ่งเดียวที่ได้รับการสืบทอดความรู้ทางยามาจากผู้เป็นพ่อ พอรู้ว่าตัวร้ายชิงสูตรยาตัวไหนไปก็เริ่มปูทางวางแผนตั้งแต่ตอนได้รับการชุบเลี้ยงทันที

ตัวเอกรู้ว่ายาเพิ่มพลังลมปรานนั้นมีผลข้างเคียงที่ไม่ได้เขียนไว้ในตำรา ว่าถ้าใช้ยาตัวนี้แล้วลมปรานจะเพิ่มพูนได้อย่างรวดเร็วก็จริงแต่ความต้านทานต่อวิชายุทธสายพลังเย็นจะลดต่ำตามไปด้วย เลยจงใจขอให้อาจารย์สอนวิชาฝ่ามือสายน้ำแข็งให้ตน ฝึกวิชากระบี่เงินอ่อนที่เน้นการกวัดแกว่งมากกว่าการทิ่มแทง แล้วทำงานเก็บเงินสะสมไว้ซื้อแร่เหล็กที่ขุดได้จากยอดเขาเก้าหิมะ เอาไว้ตีเป็นกระบี่อ่อนที่แผ่รังสีความเย็นได้เมื่อได้รับปรานจากมือผู้ใช้

ตามหลักการแล้วเมื่อเวลาผ่านไป ยิ่งอายุมากขึ้นพลังของผู้ฝึกยุทธก็จะเพิ่มขึ้นตามเวลาที่ฝึนฝน ทำให้ตัวเอกที่ตอนแรกเป็นแค่เด็กในตระกูลทำยาไม่มีทางตามทันตัวร้ายที่ฝึกพลังยุทธมาตั้งแต่แรกได้แน่ๆ แต่คนเขียนก็ทำให้คนอ่านได้พอมองเห็นว่าตัวเอกมีการพัฒนาทางวิชายุทธที่ดี และเตรียมพร้อมสำหรับการสู้ศึกสุดท้ายมาพอสมควร แต่การเตรียมตัวนั้นจะเพียงพอหรือไม่ก็ต้องตามอ่านกันดู

พอเดินเรื่องมาถึงจุดที่ 70-80% ก็เป็นฉากตัวเอกบุกไปยังสำนักที่ตัวร้ายเป็นเจ้าของอยู่เพื่อท้าดวล ประกาศตัวว่าเป็นใคร มาเพื่อแก้แค้นที่ตัวร้ายเคยฆ่าพ่อแม่ตัวเองไว้ ถ้าไม่อยากเสียชื่อต่อหน้าบรรดาลูกศิษย์ก็ให้ออกมารับคำท้าแต่โดยดี แล้วก็ตามสูตรแนวนี้คือตัวร้ายก็จะใช้ลิ่วล้ออย่างพวกลูกศิษย์ที่มีฝีมือหน่อยมาตัดกำลังตัวเอกก่อน อาจส่งมาสัก 3-4 คน จะได้ดูเชิงว่าตัวเอกต่อสู้แบบไหนพร้อมกับทำให้ตัวเอกเหนื่อยล้าไปด้วย

พวกศิษย์เอกจะสู้กับตัวเอกได้อย่างสูสีแต่ก็แพ้ไปทั้งๆ ที่ช่วยกันรุม ตัวเอกจะไว้ชีวิตคนพวกนี้เพราะไม่ได้มีความแค้นต่อกันและเข้าใจว่าทำตามคำสั่ง จากนั้นพวกศิษย์ที่กระจอกกว่านี้ก็จะเข้ามาหิ้วปีกศิษย์พี่อาการปางตายออกไปจากลานประลอง เป็นสัญญาณให้บอสใหญ่ต้องลุกขึ้นแล้วลงมาจัดการด้วยตัวเอง

353 Nameless Fanboi Posted ID:VX.EneYNZz

เปิดฉากด้วยการต่อสู้อย่างดุเดือด แต่ด้วยความที่ต้องสู้อย่างต่อเนื่องทำให้ตัวเอกค่อนข้างเสียเปรียบ สถานการณ์จะค่อยๆ เลวร้ายลงจนตัวเอกเข้าตาจนได้แผลเพิ่มขึ้นและแทบจะพลาดท่าเป็นพักๆ แต่ระหว่างนั้นตัวร้ายรู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่างที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ พอตัวเอกสังเกตเห็นก็เริ่มพูดอย่างเบียวๆ ว่า "มันเริ่มต้นขึ้นแล้วสินะ ผลกรรมที่เจ้าก่อเอาไว้"

ตัวร้ายจู่ๆ ก็สายตาพร่ามัว การมองเห็นค่อยๆ มืดลงจนแทบจะคล้ายคนตาบอด ร่างกายขยับได้ยาก การตอบสนองก็ช้าลงไปอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งทั้งหมดเกิดจากสาเหตุสองประการ คือการสูดเอาไอเย็นในพื้นที่ต่อสู้เข้าไปเรื่อยๆ หลังจากพระเอกแอบปล่อยไอเย็นจากคมกระบี่ออกมา กับฤทธิ์ของยาพิษที่จะกำเริบเฉพาะในเวลาที่เหยื่อได้รับไอเย็นจากวิชายุทธเข้าสู่ร่างกายต่อเนื่องนานเกินไป

ตอนที่ตัวร้ายกำลังสั่นสะท้านเพราะพิษไอเย็น ตัวเอกก็อธิบายว่าไม่เสียแรงที่คอยแวะมาปลูกต้นไม้บางชนิดไว้รอบๆ สำนักนี้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา คงไม่มีใครนึกว่าเด็กหนุ่มหน้าตามอมแมมที่มาเก็บของป่าขาย จะเป็นลูกชายของคนปรุงยาผู้ล่วงลับ ดอกของต้นไม้ที่ว่าจะส่งกลิ่นหอมจางๆ ไปเป็นวงกว้างแต่ไม่มีผลอะไรกับผู้ดมจึงไม่สามารถตรวจพบได้ว่ามีพิษ

"ข้ารอเวลาอยู่นานหลายปีให้ต้นไม้เหล่านี้เติบโตพอจะออกดอกและใช้ประโยชน์จากมันได้ และในวันนี้ยามที่ดอกหิมะโปรยเบ่งบาน นั่นก็ถือเป็นวันตายของเจ้า!"

ว่าจบตัวเอกก็ซัดผ่ามือภูติเหมันต์เข้ากลางหน้าอกตัวร้ายจนกระอักเลือด แม้พลังยุทธจะแตกต่างกันอย่างมากแต่ผลจากการกินยาเพิ่มลมปรานติดต่อกันเป็นเวลานาส่งผลให้วิชาสายเย็นทะลุการป้องกันของกำแพงลมปราน ตัวร้ายทำอะไรไม่ได้กลายเป็นเป้านิ่งให้ให้ตัวเอกตัดหัวด้วยกระบี่เงินอ่อนอย่างง่ายดาย ปิดฉากการแก้แค้นที่ต้องใช้เวลาเตรียมการนานหลายปีลงในพริบตา

บรรดาลูกศิษย์หลายสิบคนได้แต่ยืนมองด้วยแววตาพรั่นพรึง ตอนตัวเอกถีบร่างเจ้าสำนักจนหงาย เช็ดเลือดจากคมกระบี่ด้วยเสื้อผ้าบนตัวศพ แล้วเดินจากไปพร้อมสายลมเย็นยะเยือก

ตัวเอกจงใจหายไปจากยุทธภพ เปลี่ยนชื่อแซ่ตัวเองใหม่ จ้างแพทย์ขูดกระดูกเพื่อเปลี่ยนแปลงโครงหน้า แล้วไปเข้าทำงานในสำนักคุ้มภัย ส่งตั๋วแลกเงินไปยังบ้านของอาจารย์ที่เคยสอนวิทยายุทธให้ ลูกสาวอาจารย์ตอนรับของมาก็พบตั๋วแลกเงินจำนวนมากอยู่ภายในพร้อมกับจดหมายสั้นๆ

"โปรดดูแลท่านอาจารย์แทนข้าด้วย"

จบเรื่องตามหลักการ -บุญคุณต้องทดแทน หนี้แค้นต้องชำระ- ที่ตัวเอกไม่กลับไปสำนักเดิมเพราะคิดว่าตัวเองมือเปื้อนเลือดไปแล้ว ถึงรู้ว่าลูกสาวอาจารย์มีใจให้แต่ตนคงไม่คู่ควรพอจะโอบกอดนางอีกต่อไป ก็เลยเลือกทำแบบนี้แทน

ตอนแรกว่าจะเล่าย่อๆ สุดท้ายล่อซะเก็บเต็มเรื่อง กูนิ

354 Nameless Fanboi Posted ID:VX.EneYNZz

มีข้อมูล 2 ข้อที่กูลืมบอกไปข้างบนคือคนเขียนอ้างเรื่องเซตติ้งเกี่ยวกับสถานที่ตั้งของสำนักตัวร้ายว่าอยู่ในหุบเขา ซึ่งกูเข้าใจว่าถ้าสำนักตั้งอยู่บนยอดเขาแล้วมุกใช้พิษทางอากาศด้วยการปลูกต้นไม้ล้อมสำนักไว้จะใช้ไม่ได้ เพราะมันจะดูไม่สมเหตุสมผล (ต้นไม้อยู่ต่ำกว่าพื้นที่และอากาศไหลเวียนได้ง่ายกว่าบนยอดเขา) กับเรื่องที่ว่าตัวเอกก็ดมไอเย็นจากกระบี่เหมือนกันทำไมถึงไม่โดนพิษ ตอบได้ง่ายๆ ว่าเป็นเพราะกูแดกยาต้านพิษก่อนมาบุกแล้วไงสัส

เอาจริงๆ นิยายจีนเก่าๆ ที่ดีมีเยอะนะ มุกอาจจะซ้ำไปบ้าง อย่างบังเอิญเจอคัมภีร์วิชาเทพซ่าส์ก่อนขึ้นเป็นเจ้าสำนัก หรือการแก้แค้นกันไปมาของตัวละครในเรื่อง (ซึ่งไม่ต่างอะไรกับไปต่างโลกที่ฮิตกันตอนนี้) แต่เรื่องการวางโครงเรื่องกับข้อคิดและคติสอนใจมันทำได้ดีจริงๆ ทำให้คนมองเห็นว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว และการหนีไปอยู่ชนบททำไร่ไถนาของพระเอกนางเอกตอนจบเรื่อง ทำให้ชีวิตสงบสุขมากกว่าการท่องยุทธภพเป็นไหนๆ เพราะถ้าไม่ต้องเจอผู้คน มึงก็ไม่ต้องเจอความขัดแย้ง แต่ปัจจุบันนี้มันทำได้ยากแล้ว ถ้าไม่อยู่ทำงานในเมืองใหญ่ก็มีแต่จะอดตาย ใครอยู่ในวัยทำงานแบบกูก็สู้ต่อไปนะ

355 Nameless Fanboi Posted ID:7T+sOwONyG

>>352 >>353 >>354 ถูกตามนี้ เลย
กุชอบเตรียมตัวให้พร้อม สั่งงานวันนี้เสร็จเมื่อวาน
แบบทำให้คนอื่นแปลกใจได้ตลอดอะ

กุก็แค่อ่านนิยายที่ชอบ โดยไม่สนว่าแนวไหนฮิต
หลักๆมันก็แค่นี้แหละ แต่จะได้แนวคิดใหม่จากที่อ่านไหม จนคู่แค้นเคยมาบอกกับกูละนะ
ว่า3ปี กุยังไม่ลืมความแค้นหรอ
กุจะเป็นความหวาดกลัวไร้สิ้นสุดให้เมิงเอง55555+ ไม่ว่าหน้าไหนก็ดาหน้าเข้ามาพร้อมกันเลย!

https://i.imgur.com/5JjaSDj.png
ถ้าชีวิตจริงเหมือนในนิยายกุคงเป็นตัวแบบนี้

356 Nameless Fanboi Posted ID6:pq8/OJAy5Q

>>355 เอารูปมาจากไหนละนั่น

357 Nameless Fanboi Posted ID:7T+sOwONyG

>>356 รูปจากกุเนี่ยละ นิยายในอนาคตที่กุแต่งจะใช้รูปนี้ พระเอกคือกูเนี่ยละ แต่เป็นเวอชั่นผญ

358 Nameless Fanboi Posted ID6:+jnKmaXYdG

ว่าไปคงเป็นเพราะกูไม่เคยอ่านนิยายจีนแท้ๆ ด้วยล่ะมั้งถึงไม่อินกับแนวนั้น นอกจากสามก๊ก (ฮา)

สมัยก่อนกูอ่านแต่นิยายไต้หวันที่จะมีความเป็น RPG ค่อนไปคล้ายกับฝั่งญี่ปุ่นค่อนข้างสูง จะต่างกันแค่ตัวละครและวิธีการพูดคุยจะออกไปทางจีนหน่อยๆซึ่งวิธีการดำเนินเรื่องจะต่างจากนิยายจีนที่โม่งยกตัวอย่างขึ้นมาแบบคนละด้านเลย

ส่วนที่เคลมว่านิยายจีนได้ กูเคยอ่านแค่พวกเรื่องดังๆ อย่างมังกรหยก เซียวฮือยี้ อะไรพวกนี้ ซึ่งก็นับว่าเป็นนิยายจีนไม่เต็มปากอะ มันเขียนในยุคที่ยังเป็นฮ่องกงอยู่ วัฒนธรรมแล้วความคิดตัวละครมันเลยต่างกันสุดๆ เมื่อเทียบนิยายจีนยุคนี้ ส่วนเรื่องที่กูยังอ่านจนถึงปัจจุบันเหลือแค่หงสาจอมราชันย์ละ ซึ่งโดยเทคนิคแล้ว ...มันก็การ์ตูนฮ่องกงว่ะ กูสัมผัสไม่ได้เลยถึงความเบียวสุดโต่งแบบนิยายจีนที่ยกมาเลยซักนิด ถถถถ

359 Nameless Fanboi Posted ID:7T+sOwONyG

>>358 สามก๊ก มันสอนการอ่านใจคน และมองคนทะลุปุโปร่งหลักๆมีแค่นี้
เช่นกวนอู ยึดถือความซื่อสัตย์ ไม่เคยทรยศหัวใจตัวเอง แม้จะมีจุดจบอย่างอนาถสิ้นดี

แต่ถ้าย้อนเวลาไปได้ จะทำแบบเดิมหรือเปล่า
กุจะทำแบบเดิม! บางทีจุดจบในชีวิตกุก็คงจะตกตายโง่ๆ แบบนั้นก็ได้ ชีวิตมนุษย์มันไม่ได้มีค่าขนาดนั้นหรอก แต่สิ่งที่ทำให้มนุษย์มีค่า คือหัวใจที่กล้าแกร่งต่างหาก

เปราะบางไร้ค่า ไร้ความหมาย แต่ก็เจิดจรัส อย่างที่สุดในช่วงเวลานั้นเช่นกัน
ความตายไม่น่ากลัวสักนิด

360 Nameless Fanboi Posted ID6:QbJVwJfLLa

>>350 อันที่จริงแล้ว การที่พระเอกติดกีนี่ไม่ใช่ว่าทำให้พระเอกดูมีความเป็นมนุษย์สมจริงขึ้นไม่ใช่เหรอโม่ง

ชายใด เจอญ สวยๆหน่อยตรงสเปคก็ติด simp กันทั้งนั้น นอกจากจะบรรลุแล้วนะ

361 Nameless Fanboi Posted ID:6aHO0.OSv3

>>350 >>360 กุเนี่ยละ พระเอกในนิยาย
นางเอกก็ต้องเป็นคนจีบกุเก่งๆหน่อย

362 Nameless Fanboi Posted ID:RWUajxOhXk

นิยายจีนกุซื้ออ่านล่าสุดคือเจินหวน​สนุกดีอ่านจนตาแฉะ

363 Nameless Fanboi Posted ID6:FZaPg+KUu/

>>361 สงสัยต้องเปลี่ยนชื่อเรียกจากโม่งเบียวเป็นโม่งพระเอกแล้วว่ะ ฟังดูเท่ดี 5555

ช่วงนี้กูปิดเล่มนิยายที่เขียนอยู่ไปแล้ว กำลังนั่งคิดละว่าจะขึ้นเล่มต่อหรือหนีไปลองเขียนเรื่องใหม่เลยดีหว่า แต่เขียนเรื่องใหม่ก็นึกไม่ออกอยู่ดีว่าควรเขียนแนวไหน เฮ้อออ

364 Nameless Fanboi Posted ID:.JURUgIiE6

>>363 ลองเขียนแนวทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ จนต้องอ้าปากค้างไหม เวลาคนมอบงานให้กุ กุจะทำเสร็จก่อนdeadline จนคนสั่งงานทึ่ง จริงดิ จริงหรอ กุว่ามันฟินดี สิ่งที่ให้เวลาอาทิตย์นึง แต่กุทำคืนนึงเสร็จ

ลองสร้างพระเอก ที่ซ่อนงำประกาย แล้วก็ระเบิดพลังขยี้ตัวร้ายในเสี้ยววิ จนตัวร้ายร้องว่า ไม่จริง เป็นไปไม่ได้ ข้าไม่เชื่อ!

ถ้าเมิงเขียนได้ทัชใจ กุอุดหนุนแน่นอน ยันเมิงเขียนจบ แล้วก็สอดแทรกแนวคิด สัจธรรม ความจริงเข้าไปในเรื่องก็ดี พระเอกแนว บงการ ไม่เน้นต่อสู้ แต่ถ้าลงมือ ก็เด็ดขาด เผด็จการ ไร้ต้าน

จนอีกฝ่าย เยี่ยวราด คุกเข่า สั่นกลัว จนเสียสติน้ำลายไหล

365 Nameless Fanboi Posted ID6:3dr9J5y/zn

>>364 กูเบื่อพระเอกแล้ว ถ้าเอาเป็นโลลิแนวบงการ บ้าง โม่งจะเอาไหม

366 Nameless Fanboi Posted ID6:LYy3hj4+kK

>>364 พูดคอนเซ็ปมันง่ายนะ แต่ระหว่างเรื่องนี่ล่ะกูนึกไม่ออกว่าจะดำเนินเรื่องยังไงดี เพราะมันจะโคตรไม่สมเหตุสมผลเลยที่ตัวเอกจะเอาแต่หนีแค่แรกแต่สุดท้ายมาระเบิดพลังบรึ้มใส่ตัวร้ายจนขี้แตกเนี่ย

367 Nameless Fanboi Posted ID:.JURUgIiE6

>>366 36 กลยุทธ์พิชัยสงคราม ซุนวู หนี คือกลยุทธ์คือ กลยุทธ์ที่ดีที่สุด
เมิงจะต้องการสมเหตุสมผลอะไร
ผู้แข็งแกร่งไม่ใช่ผู้อยู่รอด แต่คนที่อยู่รอดต่างหากคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด

เมิงแต่งนิยายเป็นไลเนียร์ เส้นตรงหรือไง
ตราบใดที่กุชนะในท้ายที่สุดก็พอ ไม่สำคัญ กุต้องเสียสละอะไร

ถ้าในเกมที่ต้องสู้กันอย่างตรงไปตรงมา กุตุ๋ยบ้านมันให้แตกก็พอ กลยุทธ์ที่ดีกว่า รบร้อยครั้งชนะ100ครั้ง คือการที่ไม่ต้องรบเลย คือการชนะที่ดีที่สุด

พิชัยสงครามซุนวู เมิงแต่งได้เยอะเลย คิดว่ากุต้องสู้อย่างยุติธรรมหรือไง ค้านสายตาก็ช่างแม่ง

สงสัยกุต้องแต่งนิยายเองซะแล้วแบบนี้ ต้องเป็นคนที่เล่นหมากรุก pokerเป็นหน่อย ไม่ใช่เขียนแต่อะไรไร้สาระ

368 Nameless Fanboi Posted ID6:r68+PjsIV0

ขอถามตามตรง สมัยนี้ พวกคนไทยที่ชอบเขียนนิยายจีนโบ จะมีสักกี่คนอยากอ่านสามก๊ก แม้มีแปลไทยวางขายมานานแล้ว

369 Nameless Fanboi Posted ID6:LhFt7xO/Si

>>367 เขียนเรื่องหักเหลี่ยมมันไม่ง่ายหรอกนะ
มึงอาจจะวางโครงเอาไว้แล้วว่าจะให้จบยังไงได้ แต่การที่จะหาใส่ระหว่างทางนี่ล่ะมันไม่ใช่ว่าจะทำได้ง่ายๆ หรอกนะ ไม่งั้นทุกคนคงเขียน Death Note กันหมดแล้ว

อีกอย่างถ้ามึงบอกไม่เลือกวิธีการ และจะเสกให้ตัวเอกชนะทันทีแต่หาเหตุและผลมาอ้างอิงการกระทำตัวละครไม่ได้ว่ายังไง เมื่อไรและตอนไหน สุดท้ายมันก็จะเข้าอีหรอบอภินิหาริย์ Deus Ex machina หรือ Plot armor หนาเตอะและกลายเป็นเรื่องให้คนด่านั่นล่ะ

ยกตัวอย่างเด็กยุคนี้น่าจะรู้จักกันทันจิโร่ที่จู่ๆ ใช้ปราณตะวันได้นี่ กว่าจะแถว่าใช้ได้ไงก็อธิบายยาวอยู่นะ ว่าพ่อเคยได้รับการสอนมาจากคนอื่นแล้วเอามาทำตาม แล้วทันจิโร่ก็จำมาลองทำตามดูอีกต่อ ซึ่งถ้าลองไม่มีความเป็นมาอ้างอิงดูดิ มันจะกลายเป็นเด็กเส้นเหมือนแก้งแมลงสาปโกลด์เซนต์เลย

370 Nameless Fanboi Posted ID6:LhFt7xO/Si

>>369 ผิดๆ ต้องบรอนซ์เซนต์ดิ

371 Nameless Fanboi Posted ID:2yyN9gQM+C

>>365 โลลิบงการมึงต้องทำให้ถึงแบบบท​ทาเนียนะ​ ไม่งั้นมันจะออกมาน่าต่อยแทนที่จะสะใจ

372 Nameless Fanboi Posted ID:Cib/vFZd3C

>>371 โลลิบงการ กาตูนญป กุก็ชอบดีนะ เข้าใจการเอาคนไปเป็นปุ๋ยดี กุชอบแบบนั้นมันให้ข้อคิดด้วย
แต่แบบนั้นคนไม่เกลียดหรอ

ว่าไปมีผญคนนึงที่กุชอบจะเขียน หนังสือ แต่เขียนนิยายไม่ได้ ก็ไปเขียนเริ่มจากข้อคิดแทนก็ได้ เหมือนถ้ามาจากประสบการณ์คนคนนี้เราซื้อแน่นอน

373 Nameless Fanboi Posted ID6:EDKIbjLDaB

>>372 ถ้ามือถึง ต่อให้สารเลวแค่ไหนคนมันก็ชอบก็หลงได้ทั้งนั้นอะ ทั้งรักทั้งเกลียดยังได้เลย ตัวร้ายเห้ๆหรือตัวดีเหี้ยๆมันก็มีเสน่ห์ของมันอยู่ ไม่งั้นแนวๆตบจูบโรคจิตมันไม่ขายออกมาจนถึงทุกวันนี้หรอก

374 Nameless Fanboi Posted ID:hBRV/cgvW.

>>373 ไม่เกี่ยวว่ะ กุไม่ชอบคนเลว สิ่งที่เมิงคิดมันผิด แต่คนมักจะแยกแยะคนดีกับคนเลวไม่ออก
เหมือนผู้ชาย badbad ผญ มักชอบคิดว่าผู้ชายคนนี้ดี ไม่โง่

ส่วนผู้ชายที่เป็นคนดี ก็บอกว่าไอนี่โง่ หลอกง่าย
พูดอะไรก็เชื่อ ผชแบบนี้ละที่เป็นคนเลว

อะไรคือความเลวและความดี
ฆ่าคนคือความเลวจริงไหม ถ้ามันช่วยให้คนหมู่มากรอดได้

การช่วยเหลือคนคือความดีจริงไหม ถ้ามันทำให้คนเหล่านั้นสามารถกลับมาทำความเลวได้อีก

เหมือนกับเหรียญที่มี2ด้าน และกุไม่คิดว่า ทาเนียมันเลวนะ มันเป็นคนดี

ต่อให้คนส่วนใหญ่ชอบ และกุต้องชอบตามคนส่วนใหญ่หรือไง ถึงจะเป็นคนดี
ถ้าต้องเป็นคนดีของสังคม ตัวฉันคงเหลือทางเดียวคือต้องทำลายสังคมทิ้งซะ!

375 Nameless Fanboi Posted ID6:o7VDiK6E6F

ถ้าตัวละครออกมากลวง ต่อให้เป็นคนดีหรือคนเลวก็ไม่แตกต่างกัน เป็นได้แค่ปั้นน้ำเป็นตัว

376 Nameless Fanboi Posted ID6:+NxAf4rQXB

บอร์ดเด็กดวกถามอะไรเยอะแยะ ไม่ถามโม่งบ้างเหรอวะ

377 Nameless Fanboi Posted ID:fUYMFFwxMR

>>376 ที่หนีมาเล่นโม่งก็เพราะไม่อยากตอบคำถามจำไมพวกนั้นนั่นแหล่ะ ปล่อยให้กูรู เซียนคีย์บอร์ด กับสุดยอดไลฟ์โค้ชตอบกันเอา มันมีขาประจำคอยตอบให้อยู่แล้ว จะให้คนเหี้ยๆ อย่างพวกกูไปตอบ เดี๋ยวจะเสียบรรยากาศทุ่งลาเวนเดอร์เอา พูดมากเดี๋ยวเจอหาว่าอวดฉลาดอีก เอาไว้มีคนอยากรู้อะไรจริงๆ มาพิมพ์ถามในนี้ค่อยมาตอบตอนมีเวลาว่างเอา

378 Nameless Fanboi Posted ID6:Sx3.D2NnWY

ตอนนี้นิยายเด็กดี มีแต่สายจีน

ไอ้แนวย้อนอดีต ที่กำลังดังตอนนี้ เอาจริงๆ ก็แค่แนวจีนโบราณ ไม่ก็จีนยุค90-80 ทั้งนั้น

ตอนแรกนึกว่า แนวใหม่จะทำให้เลิกฮิตจีนโบ เสียอีก กลายว่า แนวจีนโบมันแค่กลายพันธุ์ เท่านั้น

379 Nameless Fanboi Posted ID6:rNM49pyKgE

>>378 นิยายสัญชาติไทยกำลังจะตาย เพราะ soft power จีนแดงจะเปลี่ยนพวกเขาเป็นนักเขียนไทกั๋ว ความเป็นไทยกำลังจะจบแล้ว

380 Nameless Fanboi Posted ID:YXVLKCw+P.

กุจีน75% อ่านนิยายจีนผิดด้วยหรอ

381 Nameless Fanboi Posted ID6:Au2uiw1jW0

แนวจีนมันกลืนเด็กดวกมาตั้ง 5-6 ปีแล้ว แล้วความนิยมก็เหมือนจะไม่ตกด้วยมั้ง
กูก็ไม่เข้าใจเหมือนกันนะว่าทำไมถึงยังฮิตติดลมมานานแบบนี้

382 Nameless Fanboi Posted ID:DSFnKkQX.B

>>381 ส่วนใหญ่มาจากนิยายแปลถูกลิขสิทธิ์ตามร้านขายหนังสือ และนิยายแปลผิดลิขสิทธิ์จากเว็บ

383 Nameless Fanboi Posted ID6:eVRleyq1kE

แนวระบบนี่ยังนิยมต่อเนื่องเลยแฮะ ไม่ตกเลย แต่ระบบต้องน่าสนใจหน่อย ไม่ซ้ำซาก

384 Nameless Fanboi Posted ID6:8WZADYSbLZ

>>383 สมัยนี้คนติดเกมเยอะ แต่คนที่เล่นเกมเยอะๆจะไม่อ่านนิยายระบบกัน เพราะเล่นเกมด้วยตัวเองสนุกกว่าดูคนอื่นเล่น

385 Nameless Fanboi Posted ID6:Df1YtHGBJA

ไม่ใช่เล่นเองสนุกกว่าดูคนอื่นเล่นหรอก แต่ทนอ่านไม่ได้เพราะระบบเกมที่เขียนมาแม่งห่วยแตกเหมือนคนไม่เคยเล่นเกมมาเขียนต่างหาก
เกือบทุกเรื่องเลยคือบาลานซ์ระยำหมาชนิดว่าถ้าเกมพรรค์นี้มีอยู่จริงๆ บนโลก มึงไม่มีทางฮิตคนเล่นเป็นล้านแบบที่เขียนอวยตามเนื้อเรื่องหรอก เจ๊งบ๊งตั้งแต่ปีสองปีแรกแน่ๆ

386 Nameless Fanboi Posted ID6:LF3GhuIbKZ

>>385 ก็นั้นแหละ เพราะระบบที่นักเขียนออกแบบมันมีอยู่ 2 ประเภท
1. เขียนระบบเพราะจำมาจากมังงะหรือนิยายของคนอื่น (หรืออนิเมะ)
2. เขียนระบบจากเกมที่ตัวเองเคยเล่น

ปัญหาของข้อ 1. อย่างที่มึงบอกเลย เป็นแบบนี้ตั้งแต่ยุคนิยายเกมออนไลน์ ตัวนักเขียนไม่รู้ว่าระบบที่ลอกจากของคนอื่น เอามาจากเกมจริงๆรึเปล่า ส่วนข้อเสียของ 2. คือเกมที่นักเขียนเคยเล่นมักจะไม่ตรงกับเกมที่คนอ่านเล่น บางคนแม่งเขียนระบบยังกะ mod จนคนอ่านไม่อินแล้ว จนบางทีเล่นเกมเองยังอินกว่า

ไอ้ที่น่าเศร้าจริงๆคือ สมัยนี้มีเกม idle ระบาดชิบหาย พวกนักเขียนที่โตมากับเกมแนวนี้อย่างเดียว แม่งไม่รู้อะไรซะเลยเกี่ยวกับการ Dungeons & Dragons สาย GM เพราะคอร์หลักของเกม idle คือเก่งด้วยเก็บรับของรายวัน กดสั่งบอท และเล่นกาชา พอนักเขียนตัดกาชาออกไป แม่งกลวงโบ๋เลย กลายเป็นนิยายระบบพิกลพิการ เพราะเกม idle แม่งคือทุนนิยมเหี้ยๆ ความเก่งของผู้เล่นไม่ได้มาจากฝีมือเลย แต่ได้มาจากเปิดตู้กาชาแล้วได้ตัวเทพมามั้ย พวกด่านหลังๆแม่งออกแบบสำหรับตัวเทพชุดใหม่โดยเฉพาะ ควักเงินหมุนกาชาจนกว่าจะได้ตัวเทพ ถึงจะผ่านด่านไหว พวกสเตตัสแม่งไร้สาระชิบหาย กลายเป็นเกมที่ระบบเก๋งๆก้างๆ พอเอาระบบพวกนี้ไปใส่นิยายตัวเอง ตัวเลขแม่งเวอร์สัสแต่ไร้แก่นสาร

387 Nameless Fanboi Posted ID6:LF3GhuIbKZ

ลืมๆ ปัญหาของเกม idle มาจากคลิปหมอนี้เลย https://youtu.be/8hlXY_kPJdY?si=2x11RFd2M8V91_Dk

388 Nameless Fanboi Posted ID:urdi.TX8Zc

เล่นเกม กุก็ ใช้บั๊กเอาชนะเกมตลอเ
หรือรู้ความลับของกาชา ก็เปิดได้ตัวเทพรัวๆ
ใช้มาโคร สคริปต์ afk farming อะไรก็ได้

ถ้าโลกนี้คือเกมก็ย่อมมีช่องโหว่ เหมือนกัน
เช่น กฏฟิสิกส์ ที่ทุกคนในโลกนี้ต้องทำตาม

แต่คนไทยสมองกลวง แต่งเรื่องซับซ้อนไม่เป็นหรอก แล้วก็มาร้องมุแง้ ทำไมแนวระบบ ถีงขายได้นิยายที่กุแต่งขายไม่ได้ ก็เพราะไม่มีประสบการณ์การเล่นเกมแบบกุไง

อย่างกุก็เล่นมาราธอน 26 วัน เลเวล 100 คนแรกของเซิฟไทย ทุดคนก็ ชื่นชม กุหมด ว่าทำได้ยังไง เวลาที่กุทำสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้ แล้วที่ง กับความสามารถกู แม่งฟินดีวะ ก็เอาเรื่องพวกนี้ไปแต่งนิยายได้ แต่กุทำได้ในชีวิตจริงหลายอย่าง

389 Nameless Fanboi Posted ID6:SOuTxV8M8M

>>388 อย่างกุก็เล่นมาราธอน 26 วัน เลเวล 100 คนแรกของเซิฟไทย

นี่มันคิริโตะนี่หว่า ปั้มเวลจนเทพก่อนเพื่อน

390 Nameless Fanboi Posted ID:qtldxOY9PW

>>389 พูดตรงๆ ตามประสบการณ์คนเล่นเกมออนไลน์มาเยอะนะ ไอ้โตะนี่เป็นไปไม่ได้ที่จะไปอยู่กับกลุ่มแนวหน้า เพราะต่อให้เคยเล่น CBT มาก่อน ตามนิยายความรู้ก็นำคนอื่นไปถึงแค่ชั้น 8

ความเป็นจริงกลุ่มคนที่จะเลเวลเยอะได้เร็วในช่วงแรกคือปาร์ตี้สมดุลที่แต่ละคนเล่นเก่งกันหมด อย่างไอ้โตะที่เป็นสายโซโล่ถึงเก็บเวลได้เองแต่พอถึงจุดนึงก็จะโดนข้อจำกัดบางอย่างทำให้ช้าลงเพราะเรื่องจำนวนคน

กูเองก็พอเข้าใจคนเขียนนะว่าอยากให้โตะดูเด่น (ก็แม่งเป็นพระเอกอะ) แต่พอมองตามความเป็นจริง เกมไหนกูเล่นโซโล่มันจะเวลขึ้นช้าช่วงกลางๆ เพราะมอนฯ มันเก่งขึ้นมาก บางตัวที่พลังป้องกันเยอะก็ฆ่าช้า หรือบอสเควสตามเนื้อเรื่องที่จำเป็นต้องสู้ (เควสเปลี่ยนอาชีพหรือเควสให้อุปกรณ์ดีๆ) ถ้าไปคนเดียวนี่เหนื่อยมากเพราะถ้าไปหลายคนเวลาบอสเล็งใคร คนที่เหลือก็หรอยตีฟรีได้ พอไปเองนี่ต้องระวังเพราะมันเล็งเรายังไม่พอต้องมาหาจังหวะสวนอย่างปลอดภัยอีก

รวมๆ แล้วการลากมอนเป็นกลุ่มมาลงท่าหมู่โดยที่มีพระช่วยในตี้ยังไงก็เวลง่ายกว่าลุยเดี่ยวแบบต้องแบกยาไปตีเองคนเดียว

ดังนั้นแนวคิดเรื่องหมาป่าเดียวดายจึงเป็นการขายฝันให้เด็กเบียวไม่เคยเล่นเกมได้รู้สึกดีเวลาอ่านความ OP ของตัวเอกเฉยๆ เพราะต่อให้ได้ของดรอปมาแล้วไม่ต้องหารเพื่อนแต่การต้องลงทุนทั้งซื้อยาเอง ทั้งซ่อม ชุด/อาวุธ ที่เสียหายเพราะไม่มีเพื่อนสลับกันช่วยชนมอนฯ ทำให้ซื้ออุปกรณ์สวมใส่ดีๆ ได้ช้า ไม่เหมือนปาร์ตี้ที่เน้นจำนวนแล้วหารเท่า ยิ่งฆ่าเยอะโอกาสดรอปของหายากก็มีมากขึ้น ลงทุนไม่มาก ถึงกำไรน้อยแต่มันมาเรื่อยๆ

เรื่อง EXP ก็ด้วย ระหว่างเดี่ยวๆ ตีเอง 1 ตัวได้ exp 100 กับปาร์ตี้ 4 คน ลากมอน 5 ตัวลงท่าได้เท่ากับ 500/4 = 125 ต่อมอนฯ 1 กอง บางทีก็ฆ่ามอนฯ จบไวกว่าตีเองคนเดียว ทำให้ช่องว่างมันค่อยๆ ห่างออกไปอีก สุดท้ายปาร์ตี้ที่ทุกคนเป็นงานก็นำไปทั้งเรื่องเงินและเลเวลอยู่ดีวะโม่ง

เออ กูลืมไปว่าคนอ่านมันไม่ได้เล่นเกมทุกคน งั้นก็ช่างแม่งละกัน

391 Nameless Fanboi Posted ID6:YFQEisJNtt

>>390 ตามนั้น เกมสมัยก่อนพึ่งระบบปาร์ตี้หนักมากในช่วงกลาง - ท้ายเกม
กูยกตัวอย่างง่ายๆ คือ RO ที่คนเรารู้จักกันดีเลย เอาแบบ Classic แพทเก่าเลยด้วยเอ้า
ช่วงเลเวล 1-70 นี่จะรู้สึกว่าเก็บเลเวลคนเดียวเร็วมาก เพราะมอนฯ ที่เราตีนั้นอ่อนแอ HP เราอยู่ซักราวๆ 4-6 พัน มอนตีเข้าทีละ 300-500 โอกาสโดนตีอยู่ราวๆ 30% ผู้เล่นยังพอที่จะตีมอนตายก่อนที่มันจะตีเราโดนอยู่ทำให้เก็บเลเวลเป็นไปได้ง่าย เพราะเน้นการฆ่าทีละตัวๆ

แต่พอหลังจากนั้นตัวเกมจะอัพความเก่งมอนฯ ขึ้นแบบก้าวกระโดด ตอนเลเวลซัก 80 เราต้องไปตี Raydric งี้ ซึ่งมันเป็นมอนฯ ตัวแรกๆ เลยที่ตีเรา 1000+ ในขณะที่ HP เราตอนนั้นถ้าไม่ใช่ Knight อัพ Vit เต็มก็จะอยู่ราวๆ 4-6 พันนี่ล่ะ โดนมันฟันเข้าทีก็ร้องกรี้ดละเพราะกดยาเติมเลือดก็ไม่คุ้ม ท้ายที่สุดก็ต้องไปไหนมาไหนเป็นปาร์ตี้ พ่วงพระไปด้วยเพื่อเอาบัพให้ตัวเก่งขึ้น + ประหยัดค่าใช้จ่าย และกลายเป็นที่มาของพรีสการกุศลที่เข้าร่วมปาร์ตี้โดยไม่แชร์ exp อะไรแบบนั้น

เรื่อง exp เองก็เช่นกัน เกมเก่าๆ ระบบ exp จะมีตัวคูณเพิ่มขึ้นตามจำนวนผู้เล่นในปาร์ตี้ จากที่เคยตีได้ตัวละ 100 พอปาร์ตี้กันคูณเพิ่มก็กลายเป็นตัวละ 180 งี้ ก่อนจะเฉลี่ยหารกันไป ยิ่งลากมากองแล้วลงเวททีเดียวหมดยิ่งได้ exp ไว ฉะนั้น Solo player แล้วเก่งแบบไอ้โตะนี่กูรู้สึกได้ว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยตั้งแต่เรื่องมันออกมาแรกๆ ทำให้กูขยาด SAO มาตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงทุกวันนี้

และกูเล่นเกมออนไลน์มาตลอด ก็ไม่มีเกมไหนที่ Solo แล้วได้ดีนะ ขึ้นชื่อว่า MMORPG เกมมันบังคับเก็บเลเวลเป็นปาร์ตี้อยู่ละ ยิ่งช่วงหลังๆ ก่อนยุคล่มสลายของ MMORPG นี่ยิ่งบังคับเลย เพราะมันเปลี่ยนไปเป็นระบบเก็บเลเวลในดันเจี้ยนส่วนตัว ถามว่า Solo ได้มั้ยก็บอกว่าได้ แต่มอนเก่งเท่าเดิมจึงไม่มีทางเร็วกว่าลงดันฯ 4 คนรุมกระทืบบอส แล้วทุกคนได้ reward เท่ากันแน่นอน

ถ้าเกมที่เล่น Solo แล้วเร็วกว่ากูยกให้แค่ Monster Hunter เกมเดียว เพราะไอ้เกมบ้านี่เลือดมอน Scaling ตามจำนวนผู้เล่นไม่พอ ถ้าผู้เล่นเยอะยิ่งทำให้มอนฯ กระจายการโจมตีไปยังคนอื่นๆ ทำให้ยิ่งสู้วุ่นวายขึ้น เทียบกับยืนดวล 1v1 กับมอนฯ รอหลบ/สวนกลับ แบบหลังจะเร็วกว่าเยอะ

ส่วนคนใช้บอท afk ใช้โปรฯ ใช้ explore นี่กูมองว่าเป็นสวะ ไม่นับว่าเป็นเกมเมอร์

พูดมาซะยาว สุดท้ายไม่เกี่ยวกับนิยายเลย ถถถถ

392 Nameless Fanboi Posted ID6:qcJ5krupYR

ต่อให้เกมกาชาครองตลาดมือถือ ก็ไม่มีนิยายใส่ระบบกาชาตามกระแสแล้วรุ่งโรจน์สักเรื่อง เพราะคนเขียนหมกมุ่นอยู่กับ P E R F E C T I O N I S T ของตัวเอกจนกลายเป็นจุดขาย ส่วนการเขียนบท ด้านตัวละคร วิธีการนำเสนอ เทียบเท่าเดอะสเน็ก

393 Nameless Fanboi Posted ID6:4nJwGT1+4p

พูดถึงแนวเกมออนไลน์ ในไทยมันยังพอขายได้อยู่ไหม มีเรื่องไหนดังๆแต่แหวกแนวบ้างเปล่า เช่นมีตัวเอกหญิง เป็นnpc ไรงี้

394 Nameless Fanboi Posted ID:Gt0BriF.3B

แฟนตาซีที่ไม่ใช่ระบบยังขายได้ป่ะวะ

395 Nameless Fanboi Posted ID:9ajs35JQzM

>>393 มันขายได้เรื่อยๆ อะ แค่ไม่ฮิตระเบิดเหมือนสมัยก่อน ถ้าเขียนดีก็มีคนอ่าน ตัวเอกมีหลายแบบมากแต่แปลกสุดที่เคยเจอคือไปเป็นมาสคอตในกิจกรรมเกมแล้วออกจากชุดไม่ได้เลยติดในเกมออกไม่ได้ซ้ำอีกรอบเพราะตัวละครบั๊ก ร่างกายในโลกจริงเลยต้องย้ายไปนอนโรงบาลแบบเติมสารอาหารทางสายยางกับใส่แพมเพิสแบบทำความสะอาดอัตโนมัติให้

396 Nameless Fanboi Posted ID:9ajs35JQzM

>>394 ขายได้นะ ที่จริงแม่งก็ขายได้ทุกแนวอะแหล่ะถ้าคนเขียนเก่งพอ แต่แนวนิยมมันเหมือนได้บัพพิเศษเพิ่มโอกาสที่คนจะเขัามาดูมากขึ้น แบบเดียวกับยุคนิยายเกมออนไลน์เฟื่องฟูไง เรื่องไหนๆ ชื่อก็ต้องมีคำว่าออนไลน์ต่อท้าย

ถ้าเทียบเป็นอนิเมะก็แบบเรื่องฟรีเรนหรือดันเมชิ แฟนตาซีดาบและเวทมนตร์ของแท้ ไม่มีเลขสเตตัสหรือระบบเกมในเรื่อง เรตติ้งดีจากการออกแบบโลก ตัวละคร กับการเล่าเรื่อง

397 Nameless Fanboi Posted ID6:4nJwGT1+4p

เล่าเรื่องเก่ง แต่สำนวนเขียนไม่เก่ง

กับ

สำนวนเขียนเก่ง แต่เล่าเรื่องไม่เก่ง

โม่งเป็นนักอ่านจะอ่านเรื่องไหน แบบไหนขายได้มากกว่ากันสำหรับนักเขียนมือใหม่

398 Nameless Fanboi Posted ID:rz0TK5ePlU

>>397 กูเลือกแบบแรกแฮะ

ถึงภาษาสำนวนไม่สวย คำผิดมี แต่เล่าแล้วสนุกน่าติดตามก็ยังพอไหว (เพราะเรื่องพวกนี้มันแก้ไขได้) ในทางกลับกันสำนวนสวยภาษาดีคำผิดน้อยแต่เล่าเรื่องชวนง่วง เล่าได้ไม่สนุก หรือขาดความสมเหตุสมผล อ่านไปร้องอิหยังวะไป แบบนี้กูทนไม่ได้

ส่วนปัจจัยว่าขายได้ไม่ได้ก็วนกลับไปที่เดิมคือมันสนุกหรือเปล่า ถ้าไม่สนุกก็ขายยากหน่อย บางเรื่องไอเดียสดใหม่ พล็อตแหวกแนว เล่าได้สนุกหรือเน้นตลก ช่วงแรกถึงจะทุลักทุเลหน่อย พอแต่งจบก็รีไรท์ขายทีหลังได้อยู่

ก็คือไปหามาก่อนว่าอันที่อ่านสนุกก้บกำลังเป็นกระแสมันเป็นแบบไหนแล้วก็แต่งตามเลย ง่ายดี

399 Nameless Fanboi Posted ID:AX8yLgK+jr

กุมีระบบเหมือนกัน ใช้งาน chatgpt
กับสั่งชอปปี้ จากต่างแดน

>>397 สำนวนเขียนมาก่อน เรื่องเล่าทุกเรื่องพื้นฐานมันเหมือนกัน

คือพระเอกกากไปจนจุดสูงสุด
ทุกเรื่องมันมีแค่นี้

แต่สำนวนเขียนมันคือ อธิบายให้คนเข้าใจง่าย ให้เด็ก ป.4 เข้าใจได้ ซึ่งหลายเรื่องแม่งเขียนอย่างกากใครจะอ่านต่อ อย่างในโม่ง
กุรู้สึกว่า นักเขียนหลายคน ยังคิดเยอะไป จับต้นชนปลายไม่ถูก

จำไว้แค่ว่า simple is the best

400 Nameless Fanboi Posted ID:c5OS8jbzwC

เออ และ เนื้อเรื่อง ปราบจอมมาร ไม่สำคัญ เท่าระหว่างการผจญภัย ว่าเราจะได้อะๆมาบ้าง มิตรภาพ ผูัคน รอยยิ้ม กุว่า นักเขียน ในโม่ง แม่ง
พยายามเกาผิดที่คัน

เหมือนที่กุเล่นเกมออนไลน์ ได้เจอผู้คน เจอสถานการณ์ที่บีบคั้น มันทำให้เราพัฒนาตัวเอง

เล่นไฟนอลแฟนตาซี เรือเหาะลอยฟ้า ภาค9 การผจญภัย ที่คาดเดาไม่ได้ เพราะแบบนั้นการผจญภัยที่มีทุกคน มันถึงสนุกไง

401 Nameless Fanboi Posted ID6:2NgN9Oig+Z

อืมมมม กูว่าติดปัญหาเรื่องนิสัยการเขียนของตัวเองว่ะ

คือลองสังเกตดูแล้วกูชอบให้พวกตัวเอกเผชิญปัญหาอะไรซักอย่างที่อยู่เกินมือตัวเอง ถึงจะเขียนให้พยายามแก้ไขจนถึงที่สุดแต่ก็ไม่สำเร็จแล้วสุดท้ายก็จะจัด Deus Ex machina ลงมาจัดการปัญหาทุกที ไม่ว่าทั้งในรูปแบบเหนือธรรมชาติ หรือในรูปแบบใครซักคนที่เก่งกว่ามาจัดการให้ตลอด

เรื่องเก่าๆ ที่กูเขียนมาก่อนหน้านั้นเกือบสิบปีก็ออกทำนองนั้น แล้วเรื่องปัจจุบันก็เขียนแบบนั้นอีก ซึ่งตรงนี้กูว่ากูไปเขียนขัดใจคนอ่านยุคนี้แหงเลย

ยกตัวอย่างแบบง่ายๆ นะ ตัวเอกสู้กับตัวร้ายในศึกสุดท้าย อัดอีกฝ่ายเกือบตายแต่โดนตัวร้ายระเบิดพลังสวนกลับหรือซัดทีเผลอจนร่วงงี้ และในช่วงเข้าตาจนก็จะมีตัวละครหรือเหตุการณ์อื่นเข้ามาแทรก แล้วจัดการตัวร้ายให้แทนที่จะเป็นฝึมือตัวเอกล้วนๆ ไปเลยงี้

402 Nameless Fanboi Posted ID:mB8gSChxuH

>>401 ไม่ต้องไปซีเรียสหรอกมึง เอาจริงกูว่าการจัด Deus Ex Machina สำหรับกูคือไม่มีปัญหาเท่าไหร่นะ ตราบเท่าที่ถ้าว่ามันมีเหตุผลมารองรับที่มาที่ไปของมัน อารมณ์ประมาณว่า 'ปาฏิหาริย์แม่งเกิดขึ้นได้'

กรณีแบบนั้น กูจะแก้ด้วยการแง้มเล็ก ๆ ให้ Hints กับคนอ่านก่อนในช่วง ๆ นึง ให้รู้ว่าตัวเอกอาจมี 'พลังแฝง' บางอย่างที่ไม่รู้จะโผล่มาตอนไหน ซึ่งถ้าเป็นงั้นสำหรับกูคือเป็นมุขที่แม่งว้าวสัสมากเลยนะ

สรุปคือถ้าจะแก้ปัญหาจริง ๆ กูแนะนำให้มึงอาจลองวางบทให้ตัวเอกได้วางแผนการก่อนหน้าไปอัดกับตัวร้ายดู อารมณ์ประมาณว่า แผน A ไม่ได้ผลก็ไปใช้แผน B, C, D แม่งไปตามลำดับ พอถึงจังหวะจะโคนโดนตัวร้ายจะสี้แล้ว ก็หันไปบอกว่า 'I'm two step ahead, my man'

403 Nameless Fanboi Posted ID6:2NgN9Oig+Z

>>402 เรื่องทิ้ง Hints กับมีที่มาที่ไปน่ะเขียนอยู่แหละ
แต่ที่กูกังวลคือตัวเอกทำตัวไม่สมกับเป็นตัวเอกนี่ล่ะ เพราะดันเขียนให้คนรอบข้างมาจัดการปัญหาตลอด

ถ้าให้กูยกตัวอย่างเพิ่มใกล้เคียงก็คงประมาณบักชุนใน เซนต์เซย่า อะ คือตามสเปคมันเก่งนะแต่เจอตัวร้ายเก่งกว่างี้ พอสู้ไม่ได้ก็ร้องพี่ค๊าบแล้วอัญเชิญพี่อิคคิมากระทืบตัวร้ายแทนอะไรแบบนั้น เพราะในเรื่องที่กูเขียนนี่อยู่นี่ ช่วงต้นเรื่องกูให้พระรองมาลาสคิลบอสหมดเลย ถถถถ

404 Nameless Fanboi Posted ID:pk4dza.cQ5

งงว่าทำไมพวกเมิงต้องเขียนให้พระเอก เข้าตาจน แล้วต้องสู้ให้ชนะ

ถ้ากุเขียนนิยาย เจออะไรก็ตาม สู้ไม่ได้ ก็หนี
ต่อให้ต้องสละ ทุกอย่าง ลูก เมีย เงินทอง
ตราบใดที่มีชีวิตอยู่ยังกลับมาสู้ได้
ไม่จำเป็นต้องสู้ตลอด เหมือน กลยุทธ์ของซุนวู ที่บอกว่าใน36 กลยุทธ์ ถ้าทุกกลยุทธ์ใช้ไม่ได้
กลยุทธ์หนีดีสุด ในชีวิตจริง กุก็เหมือนกัน

405 Nameless Fanboi Posted ID:WtDK5k.8mW

>>404 พวกนักอ่านมันรับไม่ได้กับพระเอกขี้ขลาด ต้องสู้ตายจนกว่าจะชนะด้วยวิธีไหนก็ได้ที่นักเขียนมันโม้มา เคยลองแต่งพระเอกโง่ พลาดท่า ถูกหลอก จะแพ้แล้วรีบหนี กูแม่งโดนด่าแล้วเลิกอ่าน เรตติ้งตกหลังตอนนั้นเป็นต้นไปแถมลงทุนรีวิวตรงหน้านิยายดาวเดียวว่าพระเอกกากใจเสาะอย่าเสียเวลาอ่าน

406 Nameless Fanboi Posted ID6:d+Ezevria5

>>405 ถามหน่อย โม่งแต่งแนวอะไร มีแท็คอะไรบ้าง เลยโดนคาดหวังขนาดนั้นให้พระเอกต้องเก่ง ห้ามกาก

407 Nameless Fanboi Posted ID:vNDh1gcZRd

นิยาย ลดตอนละ 6เหรียญสักที
8เหรียญกุไม่ซื้อ ไม่ได้เสี่ยนขนาดนั้น

408 Nameless Fanboi Posted ID:p2wp5y44Gk

>>406 ต่างโลกทั่วไป วางแผนรบ พระเอกเรียนประวัติศาสตร์ต่างประเทศมาบ้างในคาบชมรมกับวิชาเลือก แล้วกูกำหนดให้มันเป็นแค่เด็ก ม.ปลาย ไม่ใช่เซียนสงครามยุคกลางหรือเนิร์ดการทหาร ก็เลยมีพลาดท่าเสียทีเป็นบางคราวช่วงงานยุทธวิธี ตัวเอกกูไม่ได้เทพซ่ากำลังพยายามเรียนเวทมนตร์สายไฟอยู่ กะจะไปให้ถึงเวทเมเทโอเพราะเวลาลงใส่กองทหารในสนามรบแล้วมันชิบหายเป็นวงกว้างดี ที่โดนหาว่ากากเป็นเพราะบู้เองไม่ได้ ถ้าโดนเข้าถึงตัวก็ซี้ม่องเซก โดนบังคับว่าต้องไปทางเวทเพียวๆ มีฝึกสมาธิ เพิ่มมานา อ่านตำราเวทนั่นนี่ ถ้ามัวมาครึ่งๆ กลางๆ ไปไม่สุดสักทางก็จะใช้เมเทโอไม่ได้เพราะมานาพื้นฐานพระเอกมีน้อย (เป็นคนธรรมดาและไม่ได้มีพรสวรรค์ทางเวทมนตร์ติดตัว) ใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างแอบปนแนวฮาเร็มให้พวกทหารเก่งๆ เป็นสาวๆ รอบตัวพระเอก อยากให้ตัวเอกมีพัฒนาการทางบุคลิก แรกๆ ก็แพ้บ้าง โดนหลอก โดนหักหลังบ้าง แล้วค่อยทันคนขึ้นเรื่อยๆ เรื่องต่อสู้ก็เรียนเวทไฟไปตามเรื่อง แรกๆ ใช้ได้แค่เผาป่าล้อมศัตรูหรืออำพรางการเดินทัพด้วยควันไฟ แล้วกะจะให้เก่งแบบก้าวกระโดดตอนได้เยกับเอลฟ์แล้วคุณเธอทำสัญญาโอนภูติไฟมาให้ใช้ แต่เจ้าตัวจะมองไม่เห็นภูติในธรรมชาติและใช้เวทมนตร์ไม่ได้อีกต่อไป แถมอายุขัยหาย 99% (กลายเป็นอายุเท่ามนุษย์ซึ่งก็อาจจะเข้าทางว่าทีเมียหลวงอย่างเธอพอดี) คือกูยังแต่งไปไม่ถึงตอนนั้นไง คนอ่านมันรอไม่ได้ ติดนิสัยต้องเทพตั้งแต่แรก กะว่าให้พระเอกกูเสกอุกกาบาตมาลงกลางเมืองหลวงประเทศอื่นพร้อมกันทีเดียว (แล้วกูจะเขียนแผนการรบได้ไงถ้าจบเร็วแบบนั้น)

กูแค่อยากให้สาวๆ มีบทสลับกันใกล้ชิดกับมาช่วยพระเอกตอนมันยังกากอยู่ คือตอนจบก็เย้ดรอบวงสุกี้หม้อรวมอยู่แล้วแหล่ะแต่คนอ่านมันรอไม่ไหว

พระเอกโดนหลอกแล้วไม่รู้ ไหวตัวไม่ทัน = กาก
พระเอกเป็นนักเวท สู้ประชิดไม่ได้ = กาก
พระเอกต้องให้ผู้หญิงปกป้องช่วงแรก = กาก
พระเอกถอยตามยุทธวิทีตอนเสียเปรียบ = กาก
พระเอกโดนคนที่ช่วยตอนแรกหักหลัง = กาก
พระเอกแกล้งโดนจับแล้วแอบไปเผาเสบียง = กาก
พระเอกหมดตัวเพราะพัฒนากองกำลัง = กาก

1/5 กาก กาก กาก ไม่ต้องอ่านนะครับเรื่องนี้ โดยมิตรสหายนักอ่านหัวเกรียนผู้ชอบแนวเทพซ่าส์ท่านหนึ่ง

409 Nameless Fanboi Posted ID6:8k5g/G8WkU

พระเอกเป็นนักเวท สู้ประชิดไม่ได้ = กาก
พระเอกถอยตามยุทธวิทีตอนเสียเปรียบ = กาก
พระเอกแกล้งโดนจับแล้วแอบไปเผาเสบียง = กาก

มันกากไงวะ งงใจนอ จริง

410 Nameless Fanboi Posted ID6:slnTNNORL.

ตามนั้นเลย >>408 สมัยก่อนกูล่ะกลุ้มมากเจอความเห็นแบบนี้
มาเรื่องปัจจุบันคนอ่านน้อยเลยไม่ค่อยเจอ แต่ก็ยังมีบ้างอยู่ดี

411 Nameless Fanboi Posted ID:L3LUihCqbC

>>409 มันชอบพระเอกจับดาบเข้าฟันแบบเท่ๆ ส่วนข้อหลังคือจะแกล้งแพ้ไม่ได้ต้องชนะตลอด

412 Nameless Fanboi Posted ID:F76GM0aQOt

>>409 >>410 กุว่าพวกนี้มันติดอ่านนิยายตัวเอกข้ามโลกปุ๊บโหดสัสทันที กับติดนิยายแนวระบบที่มีเอไอคอยบอกวิธีการต่างๆ ให้ตลอดเวลา คือมันจะไม่ผิดพลาดอะไรเลยถ้าทำตามเอไอแนะนำ ถ้ามีเรื่องต้องคำนวนหรือออกแบบเอไอมันก็ทำให้ได้ง่ายๆ ชินกับอะไรที่สะดวกเกินเหตุแล้วมาเจอนิยายค่อยๆ เก่งมันเลยรู้สึกไม่ทันใจมั้งน่ะ

413 Nameless Fanboi Posted ID:hV8yW3NBA+

เตรียมตัวครับ อ.มาเตือน
https://www.youtube.com/watch?v=RVY25QTPUfY&t=1s

414 Nameless Fanboi Posted ID6:gTinm0ZeUX

โม่งเกลียดอะไรในนิยายแนวระบบมากที่สุด

แล้วถ้าแก้ไขได้อยากแก้ไขอะไรในแนวระบบ โดยที่ยังมีระบบอยู่นะ

415 Nameless Fanboi Posted ID6:LNA1c2HIY8

กูเคยอ่านแต่นิยายระบบจีนนะ ไมมึงมองว่านิยายแนวระบบ คือระบบอิงเกมที่ต้องสมเหตุสมผลวะ มองแม่งเป็นโปรแกรมโกงที่จีนชอบใช้พอ มันเอามาใช้กันเพื่อคุมเรื่อง+โกงให้คนอ่านพึงพอใจกันเร็วๆ คนอ่านเดี๋ยวนี้สมาธิสั้น(กูเอง)จะให้มานั่งอ่านความทุลักทุเลพระเอกบ่อยๆกูปิดไปหาเรื่องอื่นดีกว่า ป.ล.ไม่ได้อ่านนิยายเด็กดีนานละแค่อยากเสือก

416 Nameless Fanboi Posted ID6:gTinm0ZeUX

>>415 เสือกได้ถ้าให้ข้อมูล ขอบใจมาก

417 Nameless Fanboi Posted ID6:BLFm3rbdPL

แนวแฟนตาซี แอคชั่น ตลก พระเอกสลับเพศเป็นหญิง เราควรนับตัวเอกเป็นพระเอก หรือเป็นนางเอกดี? ยิ่งถ้าตัวละครรองส่วนใหญ่เป็นชายด้วย

แล้วเราควรตั้งเป้าขายนักอ่านเพศไหน วัยไหนดี? ชายแท้? หญิงแท้?เกย์? ยูริ?

418 Nameless Fanboi Posted ID:aNnQCA9VQR

กุใช้ chatgpt อวยพรวันเกิดน้องสาว อยู่เนี่ย และน้องสาวกุไม่น่ารู้ แบบนี้กุใช้พลังของระบบไหม

ระบบอะไรกุไม่รู้ ไม่ได้เกลียดชนะระบบให้ได้พอ
ถ้าโลกนี้เป็นเกม กุต้องชนะ

419 Nameless Fanboi Posted ID6:13OX+DwKT7

>>418 ไม่นับมึงแค่ใช้ Tools
เอาจริงนิยามของระบบนี่แม่งเริ่มเพี้ยนขึ้นเรื่อยๆ นะ ระบบในตอนแรกน่ะ มันคือหน้าต่างเควสที่จะมอบของหรือพลังให้หลังจากบรรลุเงื่อนไข เพื่อให้ตัวเอกมันเก่งขึ้นข้ามหัวตัวละครอื่นๆ หรือทำอะไรเหนือความคาดหมายได้ ซึ่งบางเรื่องก็อาจจะดีไซน์ให้ระบบกลายเป็นตัวร้ายคอยชี้โน้นชี้นี่ให้ตัวเอกทำอะไรซักอย่างเพื่อเอาตัวรอด นั่นก็เป็นระบบในอีกรูปแบบหนึ่ง

แต่บางเรื่องที่ไม่เข้าใจระบบคือมันแค่เอา Google มาใส่ แล้วบอกว่าเป็นระบบ ทำหน้าที่ถามตอบแนะนำวิธีแก้ปัญหา ฯลฯ ซะงั้น ซึ่งพวกนี้มันคือ Tools ต่างหาก

420 Nameless Fanboi Posted ID6:bhcSfP719q

เอาเวลาที่เล่นโม่ง พอให้เก็บเงินได้หลาย ๆ แสน
แล้วเอาไปเทรด Forex ได้แล้ว
ผมเทรดไม่กี่วันได้มาแล้ว 450,000

421 Nameless Fanboi Posted ID6:3v+y6ZfzzQ

ฮาสัส
"หือ นี่มันอะไรตัวละครหลักเปิดสูตรโกง หรือว่าเป็นโหมดคลั่งก่อนตาย" พระเอก กล่าว

ชอบพระเอกแนวนี้ว่ะ

422 Nameless Fanboi Posted ID6:yeW9pBlwOq

>>421 กุเกลียดตัวหลักแบบนี้มาก ติดเล่นไม่จริงจังชอบอยู่ในพวกนิยายเบียวๆ เทพซ่า

423 Nameless Fanboi Posted ID:.d0AC2rE7Y

มาอ่านห้องนี้เป็นครั้งแรก กุก็นึกว่าไอเบียวมันเรื้อนแค่ไม่กี่ห้อง นี่เล่นเรื้อนไปทุกห้องเลยหรอวะ วันๆไม่มีอะไรทำรึไงนั่งรีเฟรชโม่งทั้งวัน

424 Nameless Fanboi Posted ID:ohuTl4J.Np

นิยาย 8,500 ตัวอักษร 4 บาท ถือว่าแพงไหม หรือกุจน

425 Nameless Fanboi Posted ID:9a2F+/Ejfr

>>424 เรทปกติ เพราะกูขาย 5000 ตัว 3 บาท

426 Nameless Fanboi Posted ID6:9WwA5VPyMT

>>424 ถูกเกินบางคนแค่ 3000+ ก็ 3 บาทแล้ว

427 Nameless Fanboi Posted ID6:XZavjLH/.Q

ถามหน่อย นิยายเน็ต ทำไม นางเอกหรือโลลิ ไม่ค่อยมีคนเขียนให้เป็นพวกเทพซ่า ทั้งๆที่ส่วนใหญ่มีพลังop ไม่แพ้ผู้ชายทั้งนั้น

มีแต่พระเอกที่ชอบเขียนให้เทพซ่า ตีคนไปทั่ว สร้างฮาเร็ม สร้างอำนาจ สร้างอาณาจักร แต่ทีนางเอกพลังopไม่ทำแบบเดียวกัน

ตัวละครญ เทพซ่า มันไม่ค่อยได้อารมณ์เหรอ หรือแค่ตลาดไม่ชอบ

428 Nameless Fanboi Posted ID:JAjPK+TQ3a

>>427 ผญ ที่เทพซ่า มันมีจริงที่ไหนวะในโลกนี้เมิงเคยเจอ ผญ สายกล้ามเนื้อซัดกับผู้ชายหรอ
แค่โดนผู้ชายต่อยก็ร้องไห้แล้ว หมัดผู้ชายกับผญ แตกต่างกันหลาย50กิโล หรือมากกว่านั้น

ไม่ได้อยากดูถูก ผญ นะ แต่ ผญคงสนแค่ว่า ฉันมีผัว op อยู่ละ ฉันจะเก่งไปทำไม ก็พึ่งผัวสิ
ว้นๆก็คอยกีดกัน ไม่ให้ผัว นอกใจ ไปตลอดรอดฝั่ง ผญ ก็จะสู้ก้บ ผญ ด้วยกันแย่งผัว

ส่วนผู้ชาย ไม่เกี่ยว เพราะ ผช มอง ผญ 2คนแย่งตัวเอง เหมือนเด็กแย่งของเล่น ครั้นจะกระทืบเด็ก 2คน ก็หาว่ารังแก ผญ อีก

429 Nameless Fanboi Posted ID6:USY5cwjuVO

นางเอกพลัง OP กูเคยเห็นส่วนใหญ่เป็นนักฆ่าที่มากับรถแลนโบกินี่

430 Nameless Fanboi Posted ID:QVgEafI1T7

เห็นโม่งพูดถึงเทพซ่า

แล้วเทพซ่า คือยังไงหว่า พระเอก นางเอกเทพซ่า มันต้องทำตัวยังไงบ้าง

431 Nameless Fanboi Posted ID6:8KfGdgtA57

ทำไมตัวละครหญิงจะไม่มีเทพซ่า มันมีเว้ย แต่มันอยู่ในหมวดนิยายจีนโบราณซะส่วนใหญ่ หรือหมวดอดีตปัจจุบันอนาคตของเด็กดวก ไม่ได้มาอยู่ในหมวดแฟนตาซี ถ้าลองไปอ่านดูแต่ละเรื่องแม่งมาแนวเดียวกับแนวตัวเอก OP เลยสัด ย้อนเวลาไปอยู่อดีตงี้ เอาความรู้มาประยุกต์ใช้ ได้พลังนั่นโน้นนี่ อยู่เหนือชาวบ้านงั้นงี้

ที่มีไม่เหมือนกันก็คือตัวร้ายไม่มีสมองที่จะโผล่มาให้ตัวเอกตบทิ้งในหน้าเดียว ส่วนใหญ่จะเปลี่ยนตัวร้ายเป็นชายแทร้ หรือตัวละครหญิงร่านเงียบ ตอนผงาดนี่ขึ้นอย่างหงส์ แต่พอโดนตัวเอกตบตอนลงนี่อย่างหมาต้องคลานมาขอขมาอะไรเทือกนี้

สเกลเรื่องจะย่อลงมาอยู่ในระดับประเทศเท่านั้นและมักจะจบในไม่กี่เล่ม ในขณะที่เรื่องที่ตัวละครชาย OP แม่งจะยิงยาวไปเรื่อยๆ หลายเล่มหลายร้อยตอน สเกลเรื่องอัพขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นไปตบกับเทพในท้ายที่สุดอะไรทำนองนั้น

432 Nameless Fanboi Posted ID6:4Zndd0US9c

>>431 ฟังแล้วดูดีกว่าหน่อยแหะ ไม่ออกทะเล

433 Nameless Fanboi Posted ID:47O.xl3gzF

>>431 เออ พูดเห็นภาพ
ตัวละครเอก ญ ในนิยาย มันจะเรื่อยเปื่อย มักจะมีคนOP อยู่รอบตัว ไม่ต้องสู้เอง

แต่ตัวละครชาย มันจะมี event ที่ทำให้ต้องถีบตัวเอง ก้าวข้ามขีดจำกัดเรื่อยๆ
กุเลยชอบไอดอลญี่ปุ่น ในชีวิตจริง เพราะมันจะมีตัวเอก ที่ต้องใช้ความพยายาม ตลอด
แข่งขันกันสูง และมีคนโดนไล่ออกจากวง ประจำ เพราะทำผิดกฏซ้ำซาก หรือลาออกเอง มันเลยสนุก

434 Nameless Fanboi Posted ID6:RvGQXwLQfd

>>433 แต่กูคิดต่างกัน พระเอก OP บางเรื่องแม่งไม่ต้องใช้ความพยายามอะไร แค่หาข้ออ้างให้คนอ่านหลงเชื่อว่าตูกำลังฝึกฝน เพราะผิดพลาดนิดเดียวจะโดนประจานว่าพระเอกแม่งกาก อย่าอ่านดีกว่า พูดง่ายๆ เอาพระเอกเก่งไปเล่น easy mode โชว์ให้ทุกคนเห็นว่ากูเก่ง จริงๆแล้ว แค่ตบกับคนที่อ่อนแอกว่าตน

435 Nameless Fanboi Posted ID6:FzLDDh+TWb

กูที่อยู่หน้าคอม และขอ บอก ว่า กู ไม่ได้อยู่ลำปาง

436 Nameless Fanboi Posted ID6:ed+/SO8odl

#รีวิว หลังจากอ่านนิยาย ระบบ 1200 ตอน 900 ตอน
ตอนจบพระเอก i have no enemy และให้ข้อคิดแง่คิดระหว่างทางตลอด
กุยังไม่จุใจเลย

437 Nameless Fanboi Posted ID6:iZXenZjSK3

ถ้าพวกมึงยังอยู่ กูถามอะไรหน่อย
เพศของนักเขียนมีผลต่อการสร้างพระเอกและนางเอกแค่ไหน ตอบแง่ไหนก็ได้ เอาหมดๆ

438 Nameless Fanboi Posted ID:GJWRS4GniO

>>437 ในช่วงพีคของชีวิต แต่ยังไม่ใช่สุดยอดนะ
เขาเตะกูลงพื้น แต่กูยังยืนหยัดอยู่
จากห้องนั่งเล่นที่เคยสบาย ไปสู่ท้องถนน
ชีวิตมันสู้แม่ง ทุกอย่างคือการต่อสู้ แต่เชื่อเถอะ กูพร้อมลุยสัส
เรื่องมันเป็นแบบนี้แหละ
ถนนสู่สวรรค์ กูขับไปคนเดียว
ถูกไล่ออกจากวงการ ทิ้งกูไว้ตายอย่างเหี้ย
ใจแข็งจนไม่เหลือใคร แต่กูยังเชื่อในพระเจ้า
จิตใจอยู่ใต้ดวงอาทิตย์ กูจะทำให้ได้
ชีวิตมันยากซะเหลือเกิน กูถือพวงมาลัย
แก้ปัญหาที่มันทิ้งไว้ให้
ไม่มีใครจะช่วยมึงในวันที่ลำบาก
ชีวิตนี้จะสอนมึงให้ล้มลง แต่กูไม่ยอมแพ้
อยู่ในเรื่องเหี้ย นี่แหละวิธีที่มันเป็นไป
ทุกคนรู้ดีว่าชีวิตไม่เคยง่าย
แต่กูยังเดินต่อไปด้วยหัวใจที่ไม่ยอมแพ้
ในโลกที่แสนโหดร้าย กูจะสู้ต่อไปเรื่อยๆ

439 Nameless Fanboi Posted ID:pu8KUghDoZ

>>437 เพศ ญ ต้องให้เพศชายชี้แนะ
นอกจากชอบอ่านนิยาย มโน delusion สวยใสไร้สมอง
อย่างเขาบอกว่า ผญ ที่ดีพ่อจะสอนมาดี และทำตามอย่างพ่อ ผญ ที่เกิดมาพ่อทิ้ง อันนี้กุเห็นปัญหาหนัก

เพศ ญ เท่าที่กุเจอถ้าอยู่ในความเป็นความตาย
จะมีความลังเล ไม่กล้าตัดสินใจ นั้นก็ตัดสินผลแพ้ชนะได้แล้ว

ยกตัวอย่าง ผช คิดใหญ่จะไปอวกาศ ยังไง
แต่ ผญจะถาม เรื่อง ที่ทำงาน ผู้ชาย ทำไมถึงไม่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ ทางเพศ
ดังนั้นมันก็ต่างแน่นอน เพราะ ผญ เขียนนิยายจอมบงการ ไม่ได้ (ไม่ใช่เล่นเกมตามจับผช)

440 Nameless Fanboi Posted ID:pu8KUghDoZ

>>439 เออ ลืมบอกไป นางเอกในนิยายที่กุอ่านไม่มีวะ เป็นแค่ตัวประกอบหลัก แต่กุชอบตัวนางเอก ที่เปย์พระเอก หรือสนใจพระเอกก่อน

ทุกตัวละครคือ ตัวประกอบหมด ยกเว้น พระเอก
กุอ่านแนวนี้

441 Nameless Fanboi Posted ID6:xxEz9wTwZL

>>437 อาจจะไม่ทั้งหมดแต่ก็คิดว่าคงมีผลอยู่ อย่างที่กูเห็นบ่อยๆ ก็แบบถ้าพระเอกหรือนางเอกมีฝั่งใดฝั่งนึงที่รวยหรือบารมีล้นฟ้าเหี้ยๆ เนี่ย กูจะนึกไว้ก่อนเลยว่าอันนี้ผู้หญิงแต่ง ส่วนผู้ชายก็ตรงกันข้ามคือสองฝ่ายอาภัพพอกันทั้งคู่แล้วให้สาวหรือหนุ่มอื่นมาติดด้วยเหตุผลแบบอื่นแทนอย่างฝีมือเก่งกาจ รูปลักษณ์หล่อสวย หรือความใจดีอะไรงี้
ส่วนตัวคิดว่ามันสะท้อนความต้องการลึกๆ ของคนแต่งและคนอ่านทั้งสองเพศนี้ด้วยน่ะแหละ ผู้ชายอยากได้การยอมรับจากคนอื่น ผู้หญิงอยากได้ความมั่นคงความเอาใจใส่

442 Nameless Fanboi Posted ID:pu8KUghDoZ

เออ มีอีกอย่างที่ชัดว่า ผญ เขียน ประมาณชอบแนวตัวเองโดนรังแก และก็็ไต่เต้ามาจนล้างแค้นคนที่้คนรังแกให้สาสม แม่งมีแค่นี้ละเนื้อเรื่องหลักๆ

ซึ่งกุงง ว่าเมิงจะเขียนให้ตัวเองโดนกลั่นแกล้ง
ผช จะเป็นNPCโง่ๆ เทพบุตร
ในเรื่องมีแค่การสู้กัน ระหว่าง ผญ สเมือนว่า ผู้ชายไม่มีตัวตน

กุก็งง ว่า พวกเมิงชอบเรื่องพวกนี้ไปได้ไง น้ำเน่าขัดๆ หลักๆ เป้าหมายของนางเอก คือ การชำระแค้น

443 Nameless Fanboi Posted ID6:YAbJARAE8x

437 ไม่มีผลใดๆทั้งสิ้น

เวลามึงเขียนนิยาย มึงคือพระเจ้า มึงคือผู้สร้างโลก มึงคือผู้ปกปักรักษา(ให้ใครรอด ใครสมหวังก็ได้) มึงคือผู้ทำลายจะให้ใครอยู่ใครตายก็ได้)

ยกตัวอย่าง กูเองเป็นผู้ชาย

แต่กูเคยจินตนาการสร้างนางเอกสาวสวย ที่มีพลังที่ควบคุมทุกสรรพสิ่ง บิดเบือนธรรมชาติ บิดเบือนทุกตรรกะ เป็นอมตะ ฆ่าไม่ตาย ไม่สามารถถูกสาป แต่สาปใครก็ได้ แปลงกายได้ ไปได้ทุกที่ถ้าอยากไป ร่างกายสะอาดสะอ้าน มีแต่ความหอม ไม่มีอะไรทำให้เธอป่วยได้ ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ไม่มีใครมอบความเลวร้ายให้เธอได้ กุนิยามธรรมชาติคือสิ่งที่ใหญ่ ทุกอนู ทุกสสาสร ทุกสิ่งที่มีและไม่มี คือธรรมชาติ แม้แต่พระเจ้าก็เอาชนะนางเอก เพราะนางเอกคือธรรมชาติ ทั้งยังสวยงามสวยจนแม้แต่พระพุทธเจ้ายังต้องตกหลุมรัก เกิดราคะได้ โดยไม่มีข้อยกเว้น มีความสามารถทุกอย่าง เรียนรู้เร็วเพียงชั่วพริบตา อิ่มทิพย์ ไม่มีวันหิวกระหาย แต่จะกินอะไรก็กินได้ มีพลังทุกอย่างไร้ขีดจำกัด อวัยวะทุกส่วน สามารถแปลงเป็นวัตถุหรือสสารอะไรก็ได้ สร้างโลก สร้างจักรวาลก็ได้ ถล่มสรรพจักรวาลได้ เพียงแค่คิดเท่านั้น

เห็นมั้ยว่า ในโลกจินตนาการ หรือผลงานการเขียน เราคือพระเจ้ากำหนดหรือสร้างตัวละครอะไรก็ได้ ให้เก่งแค่ไหน สวยแค่ไหน ร้ายแค่ไหน ห่วยแค่ไหน ลักษณะแบบไหน นิสัยแบบไหนก็ได้

แต่ว่าลูกค้าหรือผู้บริโภค ก็คือพระเจ้าของนักเขียนอีกที เพราะเป็นคนจ่ายเงิน จงสนแค่ว่า เขียนยังไงให้คนอ่านชอบและขายได้เป็นพอ ไม่ต้องกังวลเรื่องเพศตัวเองหรอก

444 Nameless Fanboi Posted ID:pu8KUghDoZ

>>443 ความสามารถขนาดนี้ ต้องมี bg ที่ยิ่งใหญ่ด้วย ถ้ามีไม่มากพอ ก็จะเหมือนตัวละครโง่
และโดนตัดจบ

กุเคยถามเพื่อนนะ ถ้ามีเงินใช้ไม่หมดจะซื้ออะไร
เพื่อนบอกต้องคิดด้วยหรอ ก็ใช้เงินซื้อทุกอย่าง
ในโลกนี้ให้หมด นั่นละความดิบเถื่อนของมนุษย์ เมื่อมีพลังอำนาจก็จะกลายเป็นคนเลว
ซื้อทุกอย่าง มันทำให้คนเดือดร้อนไง

445 Nameless Fanboi Posted ID6:uPKlXe.A7o

>>443 งั้นนางเอกของมึงเป็นแค่ mary sue ศูนย์กลางจักรวาล

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.