Fanboi Channel

นิทานเด็กดีบทที่ 40 (DDN XL) ภาคโม่งกำลังตายทั้งเป็น แต่พระครูบัวเตือนสติทันหวุดหวิด จึงกลับไปฝึกวิชานาฏยุทธ์ ในที่สุดก็กลายเป็นโม่งบาก 3

Last posted

Total of 1000 posts

947 Nameless Fanboi Posted ID:TEZNA27zt9

ปาร์ตี้มีกันทั้งหมด 5 คนไปล่ามอนสเตอร์ 1 ตัว
เข้าไปลุย 4 แล้วให้ไอ้ฟิวโด้ไปหลบอยู่ห่างๆ
พอมอนตายคนที่สร้างความเสียหายจะได้รับ EXP หารเท่า
สมมุติว่ามอนสเตอร์ให้ EXP 400 หาร 4 คนได้คนละ 100
สกิลของฟิลโด้ boost เพิ่มจาก 100 เป็น 3,000 สำหรับทุกคนในปาร์ตี้
เท่ากับว่ามอนสเตอร์ตัวนี้ถูกปรับแต่งให้มอบ EXP 15,000 แทน
ฟิลโด้ที่ได้ EXP พิเศษมา 3,000 สั่งโอน EXP ของตัวเองไปให้คนอื่น
แต่ละคนในปาร์ตี้จึงได้ EXP 3,000 + 750 = 3,750 หน่วย
ส่วนพระเอกของเราไม่ได้เหี้ยอะไรเลยนอกจากเศษเงิน

นอกจากการเป็นสมาชิกปาร์ตี้แล้ว ฟิลโด้ยังเป็นสมาชิกกิลด์ของไอ้หัวตี้ด้วย นั่นเท่ากับว่าสมาชิกที่มาสมัครเข้ากิลด์ของไอ้คล้อด (ชื่อหัวตี้ตัวร้าย) จะได้รับผล EXP x30 ทันทีเมื่อออกล่ามอนสเตอร์แม้จะไม่ได้อยู่ในตี้เดียวกันกับพระเอก ตามที่คำอธิบายสกิลบอกว่าจะมีผลทันที "เมื่อเข้าร่วมกลุ่มใดๆ"

กลับมาที่ส่วนต่อไปของเนื้อเรื่อง กลางดึกวันเดียวกันนายดิลโด้ เอ๊ย! ฟิลโด้ โดนไอ้คล้อดเรียกไปคุยบอกว่าแต่วันนี้เป็นต้นไปมึงถูกไล่ออก พระเอกของเราก็ดิ้นรนเฮือกสุดท้ายตามประสาพระเอกแนวโดนไล่อย่างสุดจะคลิเช่ว่า ถึงจะไม่ได้ออกรบแต่สกิลที่มีก็ช่วยให้ทุกคนเก่งขึ้น ทำเควสปราบปรามเสร็จกูก็ช่วยขนของกลับให้ พอมาถึงเมืองก็เป็นธุระหาซื้อของใช้จำเป็นแทนพวกมึงจนแทบจะกลายเป็นคนใช้ การมีส่วนร่วมทดแทนพวกนี้มันไม่มีความหมายอะไรเลยเหรอ พอได้ยินอย่างนั้นไอ้หัวกิลด์ก็หัวเราะลั่นแล้วบอกว่าในเมื่อพวกกูเวลเยอะกันแล้ว ความโด่งดังของกิลด์ก็มาถึงจุดสูงสุดแล้ว (เป็นกิลด์ที่มีอัตราความสำเร็จภารกิจอันดับ 1) booster อย่างมึงก็ไม่จำเป็นอีกต่อไปยังไงล่ะ

กวยปลอมช้ำใจน้ำตาแทบจะไหลขึ้นหน้าผากถามไอคล้อดเป็นครั้งสุดท้ายว่ามึงแน่ใจนะว่าจะไล่กูออกจากกิลด์ ถ้ากูออกไปจริงๆ นอกจากปาร์ตี้ของเราแล้วสมาชิกในกิลด์ก็จะได้รับผลกระทบไปด้วยนะ ไอ้หัวกิลด์ได้ยินก็ไม่พูดอะไรแต่ถีบยอดหน้าพระเอกจนกระเด็นออกจากประตูทางเข้ากิลด์แทนคำตอบ พอประตูสำนักงานกิลด์ปิดลง ไอ้ฟิลโด้ที่ตาสว่างก็สั่งปลดสกิลตัวเองออกจากปาร์ตี้และกิลด์ของไอ้คล้อดแล้วเดินจากไปพร้อมเสียงแจ้งเตือนที่ดังว่า "เลเวลของท่านเพิ่มขึ้น" ทุกๆ 3 วินาที

ตรงจุดนี้เรื่องจะเล่าแค่ว่าเลเวลของฟิลโด้มันพุ่งขึ้นอย่างเว่อร์ (แต่ไม่รู้เป็นเหี้ยอะไร ถึงไม่ยอมบอกว่าเวลเท่าไหร่) สเตตัสต่างๆ ในหน้าจอก็เยอะสัสหมา พระเอกของเราพอไม่มีกิลด์อยู่ก็เลยไปของานทำที่สมาคมนักผจญภัยกลางซึ่งเป็นกิลด์นักผจญภัยประจำเมือง *** พอถึงจุดนี้กูคิดว่า setting ของคนเขียนมันไม่ได้กำหนดว่าให้มีกิลด์อยู่หลายกิลด์ แต่กำหนดให้ Clan ถูกเรียกว่ากิลด์เหมือนกัน พอไอ้โด้โดนเตะออกจากแคลน เลยไปหางานทำที่กิลด์นักผจญภัยแทน *** สมัครเสร็จพระเอกจำได้ว่าเมื่อคืนฝันถึงเนื้อมังกรที่เคยอยากกิน เลยขอเควสล่ามังกรจากพี่สาวพนักงานต้อนรับ คุณเธอก็ลังเลอยู่ว่าเควสแรกมามึงจะลุยมังกรเลยเหรอ ระหว่างที่กำลังชั่งใจอยู่ว่าจะให้ทำเควสดีหรือไม่ ตาลุงนักผจญภัยคนนึงก็โผล่มาหาเรื่องให้พระเอกโชว์เทพและได้เควสปราบมังกรมาอย่างสะดวกสบาย (จนนักเขียนดูมักง่าย) ตรงนี้กูมีความเอ๊ะ! นิดๆ เพราะปกติกิลด์นักผจญภัยจะไม่อนุญาตให้รับเควสข้าม Rank ขนาดนี้ แต่ก็เอาเถอะ บางทีในโลกของเรื่องนี้อาจอนุญาตก็ได้ ช่างแม่ง

948 Nameless Fanboi Posted ID:TEZNA27zt9

ช่วงที่ฟิลโด้เดินทางไปปราบมังกร สมาชิกใหม่ที่จะมาเข้าตี้พี่คล้อดแทนพระเอกกำลังทดสอบฝีมืออยู่ที่สนามประลองของกิลด์ นักดาบสาวฉายา sword saint โชว์เทพจนสอบผ่านเสร็จแล้วก็ถามหาไอ้โด้ทันที อืม... ตามสูตรเป๊ะ สมาชิกใหม่เป็นผู้หญิง, เข้าตี้มาเพราะอยากเจอตัวเอก พวกมึงคงพอเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อใช่มั้ย

พี่คล้อดได้ยินแล้วก็เหงื่อแตกเหมือนคนท้องเสีย บอกน้องนักดาบชื่อ "ลูนาซิส" ว่าฟิลโด้มันลาพักร้อนไปเที่ยวอีก 2-3 วันถึงจะกลับให้เธอรอไปก่อน ที่ต้องโกหกแบบนี้เพราะกลัวว่าสมาชิกใหม่สุดแกร่งจะออกจากกิลด์ไปหาไอ้โด้แทนถ้ารู้ความจริง พอคิดว่าจะไปเชิญพระเอกกลับมาก็ไม่อยากเสียหน้าอีก แล้วจู่ๆ พี่คล้อดก็ทำตัวช่องคลอด คิดไปว่าถ้าไม่มีพระเอกแล้วน้องนักดาบก็ไม่มีเป้าหมายให้ไล่ตาม เลยจะออกไปตามหาไอ้โด้แล้วฆ่าทิ้งแบบให้ดูเหมือนเป็นอุบัติเหตุระหว่างไปเที่ยว (WTF! มึงคิดได้ไงวะไอ้นักเขียนนน)

เรื่องราวโดยสรุประหว่างนี้คือ ฟิลโด้เดินทางไปถึงพื้นที่เป้าหมาย เจอคณะเดินทางของพ่อค้าจากหอการค้าเมืองหลวงที่เดินทางต่อไม่ได้เพราะเห็นว่ามีมังกรอยู่บนถนนไม่ไกลนัก พระเอกของเราบอกว่าผมมาล่ามังกรตัวนั้นพอดีให้ลุงรอแป๊บนึง ฉากต่อสู้นี่น่าสมเพชดี เพราะไอ้โด้ไม่เคยต่อสู้แนวหน้า เลยเจอทั้ง ตีน, ไฟ, และหางมังกรไปจนน่วม ที่ยังไม่ตายเป็นเพราะเลเวลเยอะกับสเตตัสสูงมากเฉยๆ สู้ไปสู้มาก็ตัดหัวมังกรได้แต่ตอนกลับไปแจ้งข่าวให้ลุงพ่อค้า พี่ช่องคลอดกับพวกก็จับลุงเป็นตัวประกันเพื่อขู่ไม่ให้พระเอกขัดขืน ทว่าพอถึงตอนที่จะสู้กันก็เกิดความผิดปกติขึ้นหลายอย่าง เช่น ไอ้ช่องคลอดยกดาบที่เคยใช้ไม่ขึ้น เจ๊นักเวทใช้สกิลน้ำแข็งฟรอสไบท์แต่สิ่งที่ออกมาจากปลายไม้เท้ากลายเป็นสายลมเย็นสบาย ตัวชนเจอเตะทีเดียวอ้วก พระฮิลให้ก็ไม่ดีขึ้น พอเห็นว่าสู้ไม่ได้ก็เลยพากันหนีไป ส่วนพระเอกขอให้ลุงย่างสเต๊กเนื้อมังกรให้เป็นการตอบแทน

สาเหตุที่พวกพี่คลอดกากลงเป็นเพราะเมื่อฟิลโด้ออกจากกิลด์ EXP พิเศษที่เคย boost ด้วยสกิล Point Gifter ทั้งหมดจะถูกดึงกลับไปหาเจ้าของนั่นก็คือตัวพระเอกเอง เรื่องนี้เป็นอะไรที่เลวร้ายมากจนไม่น่าแปลกใจที่พวกตี้เก่าจะสู้พระเอกไม่ได้ หลังจากโดนยึดโบนัส EXP ไปแล้ว จำนวน EXP ที่อยู่ในตัวของสมาชิกกิลด์คนอื่นจะเหลือแค่จำนวนปกติก่อน boost สิ่งนี้ส่งผลให้เลเวลของทุกคนลดลงฮวบฮาบ ดังนั้นการที่พี่ช่องคลอดจะยกดาบไม่ขึ้นจึงเป็นเรื่องปกติ เหมือนกับพวกอาวุธในเกมที่ใส่ได้ตอนเลเวล 95 และต้องมี Str พื้นฐาน 200 พอเลเวลลดเหลือ 50 และ Str มีไม่ครบตามข้อกำหนดก็เลยใช้ไม่ได้ไปโดยปริยาย

แล้วก็มาถึงจุดที่นักอ่านโปรดปราน... ความฉิบหายของปาร์ตี้เก่านั่นเอง พวกพี่คลอดโดนพระราชาเรียกเข้าวังไปพบ เพราะมีข่าวว่าปาร์ตี้พี่คลอดจับตัวประกันและพยายามฆ่านักผจญภัยคนอื่น สมาชิกในตี้ได้คุกเข่าตัวสั่นแต่พี่หัวตี้ของเราตีหน้านิ่งอ้างว่า เป็นแค่พวกคนหน้าเหมือนมาแอบอ้างชื่อแล้วก่อเหตุ พระราชาเลยสั่งว่าให้กิลด์ของพี่คลอดหยุดการรับภารกิจไปก่อนจนกว่าจะจับตัวคนร้ายพวกนั้นได้ (ซึ่งคงเป็นไปไม่ได้) เรื่องนี้ทำเอาพี่คลอดหมดทางหากินเลยทีเดียว หลังจากปาร์ตี้เก่าออกจากวังไป พระราชาก็เรียกฟิลโด้เข้ามารับรางวัลปราบมังกรพร้อมเชิญให้มาเป็นขุนนาง เจ้าพระเอกของเราปฏิเสธเพราะคิดว่าตัวเองอายุยังน้อยและอยากออกไปท่องโลกกว้าง ราชาก็ไม่ว่าอะไรแล้วบอกให้หัวกิลด์จากกิลด์ใหญ่อีกกิลด์คอยจับตาดูเจ้าหนุ่มไว้ อันที่จริงพระราชารู้ความจริงหมดแล้วเพราะพ่อค้าที่ฟิลโด้ช่วยไว้เป็นคนสนิทส่วนพระองค์ ก็เลยสั่งยุบกิลด์พี่คลอดทางอ้อม ไม่ช้าก็เร็วกิลด์ที่รับงานไม่ได้ก็ต้องล่มสลายอย่างแน่นอน

949 Nameless Fanboi Posted ID:TEZNA27zt9

หลังจากนั้นก็มีความฉิบหายเกิดขึ้นกับพวกพี่คลอดอีกหลายอย่าง เช่น สมาชิกกิลด์ที่รับงานค้างไว้ก่อนโดนห้าม พากันกากลงจนเควสไม่สำเร็จทุกปาร์ตี้ คนที่บาดเจ็บกลับมาต้องใช้เงินของกิลด์รักษา นักผจญภัยส่วนใหญ่ก็พากันย้ายกิลด์เพราะอยู่ต่อไปก็รับงาน เหลือไว้แค่พวกไม่ออกไปทำเควสแต่กระดิกตีนรอรับเงินเดือน (ซึ่งตรงนี้แหล่ะทำให้กูคิดว่ามันเป็นแคลนมากกว่ากิลด์) เงินกองกลางของกิลด์ก็ลดลงเรื่อยๆ พอรับเควสไม่ได้ก็ต้องไปทำงานสาธารณะประโยชน์ เก็บขยะ ทำความสะอาด พอทนรับความอับอายไม่ไหวก็แอบไปรับเควสเถื่อนโดยตรงมาทำ แล้วเสือกสู้มอนสเตอร์ระดับกลางไม่ไหวจนเควสล่ม ได้รับบาดเจ็บมาพระในตี้ก็รักษาได้แค่ไม่กี่ครั้งเพราะเลเวลกากลง ต้องขายของเทพๆ ที่เคยมีประทังชีวิตแล้วเปลี่ยนมาใช้ของธรรมดาที่ขายในร้านอุปกรณ์ ทุกอย่างมันเลวร้ายลงเรื่อยๆ จนกระทั่ง... (อยากรู้ว่าพวกนี้จบยังไงก็ไปหาอ่านกันเอง)

เนื้อหาต่อจากนั้นเป็นการเข้าสู่ arc ใหม่อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย นายฟิลโด้เดินหาซื้อของในเมืองอยู่ดีๆ ก็โดนนักดาบสาวสมาชิกใหม่โผเข้ากอดแบบไม่ทันตั้งตัว บอกชื่ออะไรเสร็จก็อวยพระเอกจนออกนอกหน้า แล้วบอกว่าขอเข้าตี้กันได้มั้ย ไอ้โด้ที่ยังตกใจไม่หายก็ปฏิเสธ (เป็นกู กูก็ไม่เอาเหมือนกันวะ ทำตัวน่าสงสัยเกินอีนี่) ตรงนี้นะ เป็นความคลิเช่อีกเช่นเคย เพราะตัวละครไวฟุแคนดิเดตมีจุดมุ่งหมายว่าจะมาเข้ากิลด์พบตัวพระเอก น้องลูนาซิสหาข้อมูลมาเป็นอย่างดี รู้ว่าฟิลโด้มีสกิลบูสและแบ่ง EXP ในกลุ่มได้ แถมยังใจดีแบ่ง EXP ให้ทุกคนในกิลด์ทั้งหมดอีกซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายกย่องมาก ยิ่งรู้แบบนี้ไอ้โด้ยิ่งระแวงหนักขึ้นไปอีกว่ามึงวางแผนอะไรอยู่กันแน่วะ

หลังจากนั้นฟิลโด้พยายามหนีเข้าห้องสมุดเพราะทนฟังเสียงลูนาซิสตามตื้อขอเข้าตี้ไม่ไหว จนถึงจุดนึงพระเอกหยิบหนังสือเกี่ยวกับเอลฟ์มานั่งอ่าน ลูนาซิสเลยกระซิบถามว่าสนใจเรื่องเอลฟ์เหรอ ถ้าอยากเห็นเผ่าเอลฟ์ตัวเป็นๆ ล่ะก็ เรานำทางไปประเทศของเอลฟ์ได้นะ เจ้าหนุ่มถึงขั้นหูผึ่งตาเป็นประกาย คิดว่าถ้าน้อง sword saint เป็นนักผจญภัยระดับสูงแบบนี้ก็น่าจะเคยไปเมืองเอลฟ์มาแล้วจริงๆ เลยยอมทำตามข้อตกลงว่าจะเข้าร่วมปาร์ตี้กันชั่วคราวแล้วค่อยออกหลังทัวร์เมืองเอลฟ์เสร็จแล้ว

ช่วงกลาง arc รวบสั้นๆ ได้ว่าพากันเดินทางไปเมืองเอลฟ์ได้สำเร็จ แต่พอไปถึงจริงๆ พวกเด็กๆ ก็วิ่งมาทักแม่สาวน้อยของเราเหมือนรู้จักกันอยู่แล้ว สมาชิกฮาเร็มรายแรกเลยต้องเฉลยด้วยการดึงต่างหูปลอมตัวออก หูคนก็ยืดกลายเป็นหูเอลฟ์เหมือนประชาชนที่นี่ กลายเป็นว่าเอลฟ์ที่อยากเจอมันอยู่ข้างตัวกูมานานแล้ว นอกจากเรื่องนี้ลูนาซิสยังบอกอีกว่าที่อยากเจอตัวฟิลโด้เป็นเพราะประเทศเอลฟ์กำลังประสบปัญหาหนักที่อาจทำให้เอลฟ์สูญพันธุ์ได้ ก็เลยอยากขอความช่วยเหลือจากพระเอก ตรงนี้ก็เป็นความคลิเช่เหมือนกัน

ปัญหาที่ว่าคือประชากรเผ่าเอลฟ์วัยรุ่นขึ้นไปกำลังป่วยจากสภาวะ "มานาแห้งเหือด" ปกติแล้วเอลฟ์จะได้รับมานาจากธรรมชาติเรื่อยๆ พอได้มานาเพียงพอก็จะสามารถมีลูกได้ แล้วพอเด็กโตเต็มวัยก็จะมีการคืนมานาในตัวเอลฟ์กลับคืนสู่ธรรมชาติ แต่ว่าพักหลังๆ มานี้เอลฟ์โดนล่าโดยพวกมนุษย์เพราะรูปโฉมที่งดงาม พอโดนล่าไปมากๆ เข้า จำนวนเอลฟ์ที่จะคืนมานาสู่ธรรมชาติก็น้อยลง ทำให้ปริมาณสมดุลของมานาในวงจรลดต่ำป่าป่วย เอลฟ์ก็ป่วยตามกันยกประเทศ จนไม่สามารถมีลูกได้ ทำให้จำนวนมานาก็ยิ่งลดตามไปอีก ลูนาซิสในฐานะเจ้าหญิงของเผ่าเห็นว่าวิธีการที่พ่อ (ราชาเอลฟ์) ใช้ทำได้แค่ประวิงเวลาแต่แก้ไขอะไรไม่ได้ เลยหนีออกจากป่ามาเก็บเลเวลเองเพื่อเพิ่มจำนวนมานาในตัวจนหายป่วย แล้วตามหาวิธีช่วยประชาชนด้วยวิธีใหม่แทน

หวยก็มาออกที่นายฟิลโด้ของเรา เพราะถ้ารับพระเอกเข้าเป็นคนของเผ่า เท่ากับว่าเจ้าตัวได้กลายเป็นสมาชิกของประเทศเอลฟ์และสกิล Point Gifter จะทำงานทันที ถ้าให้พระเอกเข้าร่วมคณะสำรวจไปปราบปรามมังกรโบราณ แล้วแบ่ง EXP ให้ทุกคน ด้วยการบูสโบนัส EXP ที่โหดสัสจากการปราบสัตว์อสูรระดับเทพนิยาย ทุกคนในประเทศก็จะเลเวลอัพแล้วได้มานามาใช้ส่งคืนสู่ธรรมชาติ ตอนแรกลูนาซิสคิดว่าพระเอกจะเกลียดตัวเองเพราะพยายามใช้เขาเป็นเครื่องมือ แต่พอฟังคำอธิบายแล้วเจ้าหนุ่มก็เข้าใจถึงความจำเป็นของอีกฝ่าย แล้วรับปากว่าจะช่วยก่อนถามว่าต้องทำอะไรบ้าง

950 Nameless Fanboi Posted ID:TEZNA27zt9

จากนั้นก็ไม่มีอะไรมาก ราชาให้ดาบเทพกับพระเอกเอาไปใช้ ยกพวกกันไปรุมมังกรตัวใหญ่เท่าภูเขา มังกรคงคิดในใจ กูนอนนิ่งๆ ตรงนี้มาพันกว่าปีแล้วกูผิดอะไรพวกมึงถึงมาตัดหัวกูถึงบ้านเนี่ย ปราบเสร็จแล้วก็กดแบ่ง EXP ไปให้ประชาชน ทุกคนก็หายป่วยเพราะมีการหมุนเวียนมานาในวงจรอย่างเพียงพอ พวกที่แก้มตอบซูบผอมก็กลับมาหน้าอิ่ม น้องสาวของลูนาซิสที่ตอนแรกใกล้ตายก็กลับลุกขึ้นมายืนได้ มีการจัดงานเฉลิมฉลองในวัง ประกาศเป็นวันหยุดสำคัญของปีให้รื่นเริงได้ 7 วัน 7 คืน เลี้ยงอาหารจากเนื้อมังกรไม่อั้น (สัส ฆ่ากูเอา EXP แล้วยังเอาเนื้อกูไปแดกด้วย) ฟิลโด้กลายเป็นแขกระดับสูงพิเศษที่สามารถ เข้า-ออก เมืองเอลฟ์ผ่านบาเรียในป่าลวงตาได้ตามต้องการ แถมราชาเอลฟ์ยังพยายามจะมอบตำแหน่งราชาองค์ต่อไปให้ด้วย (แต่ลูนาซิสมาห้ามไว้ทัน)

พอตกดึกคืนนั้นฟิลโด้ที่ไม่ถูกโรคกับการอยู่ท่ามกลางความสนใจแอบหนีออกจากเมืองหลวงเอลฟ์ แต่โดนลูนาซิสจับได้เสียก่อน พอถูกถามว่าจะไปไหน พระเอกของเราก็บอกว่าดาบที่พ่อเธอให้มามันสุดยอดมาก เป็นอาวุธที่พวกคนแคระตีขึ้นอย่างประณีต เลยคิดว่าจะหาทางไปเที่ยวเมืองคนแคระต่อ ลูนาซิสเลยบอกว่างั้นเดี๋ยวจะไปด้วย เพราะถ้ามึงเดินทางในป่าลวงตาคนเดียวตอนกลางคืนก็มีแต่จะหลงป่าตาย แล้วพอออกเดินทางกันมาได้สักพักก็พบว่าน้องสาวของลูนาซิสแม่งตามมาด้วยเพราะอยากไปเมืองคนแคระเหมือนกัน เท่ากับว่าเจ้าหญิงเผ่าเอลฟ์ทั้ง 2 คนตามไอ้โด้ออกมาหน้าตาเฉย (แล้ว พ่อ-แม่ พวกเธอไม่ว่าอะไรเหรอวะ) คือไม่มีคำอธิบายอะไรให้ แต่ตัดฉากไปถึงการเดินทางวันใหม่ในเมืองหลวงแบบงงๆ พร้อมกับภาพพี่ช่องคลอดที่ตอนนี้กลายเป็นฆาตกรเต็มตัว จ้องจะเล่นงานฟิลโด้ด้วยของอันตรายต่างๆ เพราะแค้นใจว่าที่ตัวเองตกต่ำแบบนี้เป็นความผิดของพระเอก

โอ้โห... ไม่เคยเห็นจุดเปลี่ยนแบบนี้เลยนะเนีย เป็นครั้งแรกของโลกจริงๆ ที่มีการเดินเรื่องแบบนี้ (ประชด)

โดยรวมคือแนวออกตี้ที่ใช้ trope เดิมๆ มาเปิดเรื่องในช่วงแรก ฝั่งปาร์ตี้เก่ากากลงทันทีหลังเตะตัวเอกออก กูเดาว่าหลังจากปราบพี่ช่องคลอดได้ก็คงไปหลั่นล้าตามประสาพระเอก OP ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์กับ 2 พี่น้องชาวเอลฟ์เหมือนที่อาจารย์แดงเคยบอกว่า มี 2 xี ดับเบิ้ล xี แล้วก็คงเจอพวก damsel in distress ตามเมืองต่างๆ ให้ช่วยแล้วพาเข้าฮาเร็มอีก เจอศัตรูใหม่ๆ ที่เก่งขึ้นแต่ใช้พลังมิตรภาพและความเทพซ่าของตัวเอกปราบได้ แปลงร่างเป็นแนวฮาเร็มเทพซ่าส์ไปโดยสมบูณ์

951 Nameless Fanboi Posted ID:TEZNA27zt9

ส่วนตัวแล้วกูมีความไม่เข้าใจเกี่ยวกับวิธีคิดของตัวละครต่างๆ อยู่หลายจุด เช่น ทำไมพี่ช่องคลอดตอนคิดจะฆ่าฟิลโด้ต้องจับตัวประกันให้มีพยานรู้เห็นด้วย ถ้ากูจะทำเรื่องผิดกฏหมายอะไรสักอย่าง กูต้องแน่ใจว่าจะมีคนรู้เรื่องนี้น้อยที่สุดดิวะ เรื่องเตะพระเอกออกกิลด์นี่ก็เหมือนกัน กูว่าไม่เห็นมีประโยชน์อะไรเลย รู้ทั้งรู้ว่าสกิลของพระเอกโคตรจะสำคัญก็ยังจะทุบหม้อข้าวตัวเองอีก (พาลูกกิลด์ซวยเกือบตายไปด้วยอีกตั้งหลายคน) แล้วเรื่องนางเอกคนแรกที่โผล่มาเนี่ยก็เหมาะเจาะเกินไปเรื่องที่เป็นเอลฟ์อย่างที่พระเอกสนใจอยู่พอดี มันเป็น plot device ที่ง่ายและสะดวกเกินจนน่าขำ ความไม่สมเหตุสมผลของการอนุญาตให้รับเควสมังกรของพนักงานต้อนรับ

ตัวเอกที่ไม่คิดทดสอบความสามารถของตัวเองก่อนลุยว่าเก่งถึงขั้นไหน ต่อให้เทพซ่าส์ขึ้นมาแบบฉับพลันยังไงก็ช่าง ก็ควรวัดเสียหน่อยว่าไหวพอสู้มังกรจริงรึเปล่า โดยเฉพาะกับคนที่ปกติไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการต่อสู้มาก่อนอย่างไอ้พระเอกด้วย การตัดฉากกับ Pacing นี่อีกอย่าง ออกกิลด์ได้คืนเดียวฝันเห็นเนื้อมังกรที่มีคนเคยกินให้ดูก็เลยจะไปล่าบ้าง (?) เดินเรื่องมาตั้งนานไม่มีการพูดถึงความชื่นชอบเอลฟ์ของตัวเอก แต่จู่ๆ ก็พูดถึงขึ้นมาตอนไปห้องสมุด (?) เรื่องเมืองคนแคระก็ด้วย เดินเรื่องแบบตามใจกูดีมาก อ่านเทียบระหว่างนิยายกับมังงะ ตอนแรกคิดว่ามังงะมันตัดออกเยอะเพื่อประหยัดหน้ากระดาษ ที่ไหนได้ในนิยายมึงก็ตัดฉากแบบเรื่อง Top up NOW ของจระเข้ผึ่งพุงเลยนี่หว่า วิธีการเล่ากูยังไม่ให้ผ่าน เรื่องที่ชอบจริงๆ คงเหลือแค่ลายเส้นมังงะที่คล้ายดาบพิฆาตอสูรล่ะวะ

สรุปรายละเอียดความคลิเช่ที่ถูกใช้ไปในเรื่องช่วงแรก

☑ ปาร์ตี้เก่าโง่และกาก (ประมาทเกินไปว่าถึงโดนหัก EXP แล้วก็คงจะยังเทพอยู่+มีการตัดสินใจที่ไม่สมเหตุสมผล)
☑ ปาร์ตี้เก่าเติบโตขึ้นเพราะตัวเอกอยู่เบื้องหลัง
☑ ตัวเอกเป็นอาชีพสาย support (เป็น booster ที่ความสามารถทางการรบ = 0)
☑ โดนเตะออกจากปาร์ตี้ด้วยข้ออ้างว่าเป็นตัวถ่วง
☑ ออกจากตี้แล้วชีวิตดีขึ้นทันตาเห็น และเทพซ่าส์ขึ้นเรื่อยๆ
☑ ปาร์ตี้เก่าเกิดเรื่องร้ายแบบกรรมติดจรวด
☑ สมาชิกใหม่ที่จะเข้ามาแทนตัวเอกเป็นผู้หญิง
☑ ผู้หญิงคนที่ว่าไปเข้าตี้ใหม่กับตัวเอก (และรายนี้มาเพื่อใช้ประโยชน์จากตัวเอกด้วย)
☑ โดนปาร์ตี้เก่าตามล่า
☑ ปาร์ตี้เก่าตกต่ำจนน่าทุเรศ
☑ ปาร์ตี้เก่า cumback จากโอกาสที่ได้มาใหม่หรือใช้พลังที่ยืมมาจากด้านมืดเพื่อแก้แค้นพระเอก

เรื่องนี้เขียนซะยาวเลย แต่เรื่องหน้าอาจจะยาวกว่าเพราะต้องอธิบาย setting หลายๆ อย่าง ยังไม่รู้ว่าจะว่างลงวันไหน ระหว่างนี้เชิญต่อยกันรอไปก่อน

952 Nameless Fanboi Posted ID:Mck+Uk86c5

อุดมไปด้วยคนโง่และเลว ในนามตัวแทนแห่งความดี
คนดีจะเก่งแบบไม่มีเหตุผลเพื่อไปกระทืบคนชั่วและเลวมันผิดตรงไหน

กุรู้ว่ากูฟินก้พอล่ะ

953 Nameless Fanboi Posted ID6:NI6j6AkZYi

สักวัน จะมีนิยายล้อเลียนปาร์ตี้ไล่ตัวเอกออกแบบ Scary Movie

954 Nameless Fanboi Posted ID6:fFl/XgcIFw

>>953 มีแล้วนะ

955 Nameless Fanboi Posted ID6:OuLTiVcvpi

ร้อนชิบหายเลย อ่านไม่ไหว

956 Nameless Fanboi Posted ID:rhw/NjBygS

>>953 เรื่องที่โม่งคุยกันข้างบนไง ที่โดนไล่ออกตี้ครบ 100 จักรวาลแล้วได้สกิลเทพๆ มา รอบละ 1 สกิล สุดท้ายย้อนไปจักรวาลแรกแล้วเทพซ่าส์

957 Nameless Fanboi Posted ID:RpXckgdMbH

เคยเจอแบบยัยผมทองเหมือนกัน แต่เสริมหน่อยว่าดีกว่า(แบบแปลกๆแตกต่าง)ตรง..ผมมีเอกลักษณ์กว่าที่ค่อนข้างมืดมน

.

ผมสมัยเรียนปีแรกๆมองโลกแง่ร้าย ยิ้มบ่อยแต่เหมือนเสเเสร้งปนเหยียดและประชดเรียกว่าวอนตีนล้วนๆ แต่แปลกดีที่ไม่มีคนเกลียด การใช้บวกปรับสายตา(การขยัยกล้ามเนื้อรูปหนังตากับคิ้ว)เพื่อแสดงออกนี่ถ้าดูจากกระจกยังอึกเองเลยว่าตัวเองกำลังคิดไรอยู่ก็ไม่รู้ แถมทั้งหมดถูกจดจำมีแต่คนเป็นมิตรมาอยู่รอบตัวซึ่งทำสงสัยตัวเองมีดีอะไรนะถึงมีแต่คนคอยพยุงตลอดเวลา ตัวผมจะต่าง(กับตัวละครข้างบน)ที่ตรงไม่ค่อยเจอสายตื้อที่อยากเป็นเพื่อนแบบยันทอมในเรื่องแหะ ...

.
อ๊ะ!ใช่ว่าจะไม่เคยเจอนะ ผมเจอแค่ครั้งเดียวตอนปีหนึ่งเป็นหนุ่มหล่อขี้สงสัยจากคณะครุศาสตร์(ที่จ้วงหัวว่าแม่งตื้นเขินน่ารำคาญชะมัดแต่ก็ไม่เกลียด) และดูเหมือนผมจะถูกตีตัวออกห่างเองในหนึ่งวันแห่งความพยายามของเจ้าหมอนั่นซึ่งวันนั้นฝนตกซะด้วย ผมก็ไม่เห็นเจ้านั้นอยู่หลายปี.... ตื้นชะมัดเลยนะ ทั้งที่ทางนี้อุตสาห์เปิดหัวข้ออภิปรัชญา เช่น ความหมดศรัทธาว่ามนุษย์เป็นสัตว์ผู้มีเหตุผลหลังผ่านยุคโพสโมเดิร์น กับแนะนำหนังสือโลกของโซฟี่และนักปรัชญารุ่นเดอะ ต่างๆแท้ๆ การเมืองนู่นนี่ ความเป็นจริงและสิ่งที่ต้องจ่ายแม้จะทำตัวเมินเฉยในนาม "เป็นกลาง" ที่อ้างๆ กันของคนกลุ่มหนึ่งว่าตามจริงการอยู่เฉยก็มีราคาที่ต้องจ่ายเช่นเดียวกัน ....... ผมพูดแต่เรื่องเครียดรึไงไอ้บ้านั้นเลยหนี เฮ้อ น่าขยะแขยงชะมัด

958 Nameless Fanboi Posted ID6:lv/d+9NXY0

เงียบเหงาจัง

959 Nameless Fanboi Posted ID:GApOqDatVG

E rank ไร้ค่าแก้แค้นเทพธิดา ได้ทำอนิเมะอีกเรื่องละ

ตอนแรกแนวออกตี้ ตอนนี้แนวแก้แค้น สงสัยกูต้องแต่งแนวนี้เพิ่มไว้บ้างเพราะดูเหมือนว่ากระแสมันกำลังมา ไอ้ที่เคยทำนายว่าจะได้ทำอนิเมะก็ทะยอยกันเป็นจริงมาทีละเรื่อง (ผู้กล้าฮิล - พี่เทพชายแดน - อยากเป็นพลังในเงามืด - เทมเมอร์กับน้องแมว - มนุษย์เทพในทัพมาร - เอลฟ์อ้วนลดน้ำหนัก)

ตอนนี้คือขึ้นอยู่กับเวลาว่า

6 เรื่องในตัวอย่างแนวแก้แค้น/ออกปาร์ตี้ กับพวกเรื่องชื่อ นิโตะฮิลกาก, การปฏิวัติของมังกรดูดวิญญาณ, คุคุคุ~ ขุนพลมารกากสุดได้เป็นครูฝึกปาร์ตี้ผู้กล้า, Live dungeon ฯลฯ อะไรพวกนี้จะได้ทำเมะตอนไหน เพราะเรตติ้งนิยายมันดีจนได้ทำมังงะ พอเป็นมังงะเรตติ้งก็ดีอีก ตามระบบเว็บโนเวลญี่ปุ่น โอกาสที่เรื่องพวกนี้จะได้ทำอนิเมะแม่งสูง เหลือแค่นายทุนค่ายไหนจะหยิบไปทำเฉยๆ

กูแม่งเสียดายที่ในไทยไม่มีระบบแบบนี้วะ ส่วนนึงมันเป็นเพราะถึงทำเมะก็ขายแผ่นไม่ได้แบบญี่ปุ่น รัฐและเอกชนก็ไม่สนับสนุน คนรักการอ่านก็ไม่ค่อยมี เลยต้องอาศัยแพลตฟอร์มอย่างเว็บนิยายต่างๆ ไป แล้วต่อให้ติดท้อปก็ไม่ค่อยได้ทำมังงะต่อเหมือนเดิม ยกเว้นคนแต่งไปจ้างนักวาดทำขึ้นมา หน้าละ 3,500 (แพงสาส)

บ่นเหี้ยไรไม่รู้ตั้งนาน จริงๆ จะมาบอกแค่ว่ากูติดงานเลยไม่ได้มาลงตัวอย่างแนวออกตี้เรื่องที่ 3 อีกไม่นานคงมาลงต่อ

บาย

960 Nameless Fanboi Posted ID6:R+kLoqblQC

>>959 เรต หน้าละ3500 เอามาจากไหนอะ อยากรู้ หน้าขาวดำใช่มะ

เออ พึ่งนึกได้ ไม่เคยเห็นโม่งสับนิยายแนวสลับเพศเลย แบบชายเป็นหญิงไรงี้ อยากเห็นใครสับบ้างจัง

961 Nameless Fanboi Posted ID:up3t+23QeT

>>960 ขาวดำ เส้นเนี้ยบอยู่ แต่ต้องร่างสตอรี่บอดร์ดกับวาด stickman ให้เขาคร่าวๆ แล้วเขาจะวาดสตอรี่บอร์ดแบบเต็มให้ดูตอนบรีฟรอบ 2 ก่อนเริ่มงานจริง

ส่วนมากกูจ้างวาดแทรกหน้าเดี่ยวแบบไลท์โนเวล (มีรูปท่าทางกับสีหน้า แต่ไม่มีตัวอักษร) ราคาจะถูกกว่าวาดมังงะเต็มรูปแบบ

กูบอกแหล่งไม่ได้วะ เดี๋ยวโม่งแตก

นิยายสลับเพศกูเคยสับไปเรื่องนึงแนวแฟนตาซี แต่มันไม่ใช่สลับเพศแบบ TS เป็นแนวสลับเฉพาะตอนแปลงร่างต่อสู้ก็เลยไม่นับว่าเป็นแนวสลับจริงๆ อยู่ในมู้ไหนวะ ไม่ 23 ก็ 24 เนี่ยละมั้ง

962 Nameless Fanboi Posted ID6:R+kLoqblQC

>>961 ส่วนมากกูจ้างวาดแทรกหน้าเดี่ยวแบบไลท์โนเวล (มีรูปท่าทางกับสีหน้า แต่ไม่มีตัวอักษร) ราคาจะถูกกว่าวาดมังงะเต็มรูปแบบ

ถูกกว่าเยอะไหม เหลือกี่บาทอะแบบนี้

963 Nameless Fanboi Posted ID:jLGgq95eP3

>>962 เหลือ 800 แฮะ

มันเป็นงานกึ่งคอมมิชชั่น มึงต้องมีตัวละครที่ออกแบบไว้เองอยู่แล้วก่อน บอกอุปนิสัยกับสีหน้าพื้นฐาน (อาจจะวาดกากๆ หรือใช้เว็บสร้างตัวละครที่มีปรับแต่งได้เยอะๆ ทำขึ้นมา) นอกนั้นคือขึ้นอยู่กับว่าเอาคุณภาพไหน (ร่างรัฟสเก๊ทช์หรือตัดเส้น) เอาพื้นหลังด้วยหรือไม่เอา (มีพื้นแพงกว่า) สัดส่วน (หัวถึงอก หัวถึงเอว หัวถึงเข่า เต็มตัว) ในภาพมีกี่ตัว (เพิ่มราคาตามจำนวนตัว) คอมโพสกับท่าทางต้องหาเรฟจากภาพอื่นมาว่าอยากได้ท่าประมาณไหน (ถ้าท่าพิสดารเกินอาจโดนเรียกเก็บเพิ่ม)

ล่าสุดกูเอาหันข้าง 2 ตัวละคร หัวถึงเอว สถานการณ์แบบตัวเอกำลังคว้าคอเสื้อตัวบี ตัดเส้นให้คม เอาฉากหลังโถงทางเดินโรงเรียนแบบไม่ต้องละเอียด (ได้บันไดกับบอร์ดมาอย่างละครึ่ง) รอบนี้โดนไป 800 แต่คนวาดใจดีเขาปรับ Resolution กับเว้นขอบให้วางใน A16 ได้เลยแบบภาพไม่แตก (มันสะดวกกว่าถ้าจะทำอีบุ๊ค) กับปรับ contrast รูปให้จางลงนิดๆ เหมือนภาพไลท์โนทั่วไป (เผื่อเวลาพิมพ์เล่มจะได้ไม่เจอปัญหาหมึกเลอะ) เอาจริงๆ ราคานี้ค่อนข้างถูกเพราะกูจ้างงานเขาบ่อยมาก ถ้าเป็นราคากลางในตลาดนี่กูไม่รู้แต่คิดว่าคงแพงขึ้นไปอีกไม่มาก

ตอนบรีฟเนี่ยพวกนักเขียนอย่างเราจะได้เปรียบหน่อย โยนนิยายให้อ่านแล้วนักวาดก็เข้าใจเหตุการณ์ อารมณ์ สีหน้าได้ทันที เวลาวาดตัวอย่างมาก่อน ตัดเส้น/ลงสี ก็เลยไม่ค่อยได้แก้อะไรนัก

964 Nameless Fanboi Posted ID6:i.yOm3mx6I

>>963 ละเอียดดีขอบใจมาก

เรตนี้อนาคตหน้ามันคงแพงขึ้นอีกซินะ เดาเลย
ถ้าหน้าละ 1000 5 หน้า ต่อเล่มก็5000 ยังไม่รวม หน้าสี กับปก

ทุนต่อเล่มก็ร่วมหมื่นแล้ว จะได้กำไรหลักพันมันต้องขายให้ได้กี่พันเล่มหว่า

965 Nameless Fanboi Posted ID:moA3rt1fLJ

>>964 ในไทยยังไงก็ไม่คุ้มหรอกโม่ง ถ้าเงินมึงไม่ได้เหลือใช้จริงๆ จนเอามาจ้างวาดได้แบบไม่คิดอะไร อีกอย่างคือเดี๋ยวนี้ถ้าไม่ใช่แนวเฉพาะจริงๆ คนไม่ค่อยซื้อรูปเล่มเก็บกัน

ถ้าคิดหวังทำกำไรระยะยาวมันต้องใช้เวลาเยอะพอสมควร แต่มันก็พอมีโมเดลที่ยืมมาใช้ได้อยู่ เช่น เรื่องแรกๆ ถ้ายังไม่มีต้นทุน มึงต้องเริ่มด้วยแนวตลาดแบบไหนก็ได้ที่ขายง่าย แต่ใช้ปกฟรีจากเว็บแจกภาพปลอดลิขสิทธิ์ไปก่อน เพื่อนกูใช้วิธีนี้อยู่ก็พอไปได้

ปัญหาคือมันต้องใช้เวลาสร้างฐานแฟนนานด้วยไง ถ้าไม่มีพวกแฟนคลับเดนตายที่ชอบมากขนาดเปย์ซื้อทุกตอน ทุกแพ็คแบบไม่มีเงื่อนไข ก็จะไปยังขั้นต่อไปลำบาก

สมมุติเรื่องแรกๆ ปัง จนพอมีเงินจ้างวาด เรื่องต่อมาคือเอาแค่ปกก่อน เพราะส่วนมากโดนปกหลอกเข้ามาอ่าน ได้ปกแล้วหาจ้างคนทำงานอาร์ตให้เขาวางชื่อเรื่อง กับ ผู้แต่ง, วาดปก ไปตามปกติ ไอ้เรื่องที่ 4-5 เนี่ยเป็นขั้นตอนสำคัญ เพราะถ้าปกสวยแล้วยังรักษาฐานคนอ่านไว้ได้ มันจะไปต่อได้ยาวๆ

แรกๆ คือจะไม่มีกำไรเลยนะ ถ้ามึงยังเรียนอยู่ก็ต้องประหยัด หรือถ้าทำงานแล้วก็กอดงานไว้ทำงานไปก่อน อย่าให้ขาดรายได้ จนถึงจุดที่มั่นใจว่าขายได้ต่อเดือนเกิน 7-8k ช่วงนี้ถึงจะเริ่มคืนทุน แล้วไปจ้างวาดได้เต็มที่ถ้ารักษายอดขายแบบนี้ไปได้นานๆ ถ้านิยายติดลมแบบเอาไปลงเว็บไหนก็เกาะกลุ่มกลางตารางขึ้นไปได้ตลอด คราวนี้จะจ้างวาดแทรกแบบไลท์โนเวลทุกๆ 5 ตอนก็ยังไหว หรือถ้าเล่นใหญ่หน่อยก็จ้างวาดมังงะสั้นตอนพิเศษสัก 10 หน้าฉลองปีใหม่ก็ยังได้

แต่อย่าหาทางลัดคิดใช้ภาพจาก AI มาทำปกนะ ถ้าวันนึงมีคนรู้เข้ามันชอบเอาเรื่องนี้มาโจมตี แฉให้คนถ่มถุยนิยายมึงได้ง่ายๆ แต่จะใช้ก็ได้ถ้ามึงใจถึงพอแล้วก็ไม่มีอะไรจะเสีย หรือไม่คิดจะขายนิยาย

966 Nameless Fanboi Posted ID6:i.yOm3mx6I

>>965 พูดถึงปก เอไอ ความจริงตามกฎหมายเขาก็ยืนยันแล้วว่าไม่ผิดกม. แค่ไม่มีลิขสิท ดังนั้นจะใช้ขายของก็ได้ เอาจริงสำนักข่าวทุกวันนี้ภาพอินโฟ มันก็ใช้เอไอกันทั้งนั้นแต่คนไม่สังเกต

แต่เหมือนวงการนักเขียน นักวาดไทย รู้สึกถูกแย่งงานเลยต่อต้าน อารมณ์ อัศวินแบนผงดินปืน สมัยก่อนเพราะกลัวโดนแย่งอำนาจ
มือถือสากปากถือศีลอะวงการศิลปินไทยเรา บอกให้เคารพกม. แต่พอกม.ไม่เข้าข้างก็แบนกันเอง แล้ววงการนิยายเรามันจะเจริญได้ยังไง

967 Nameless Fanboi Posted ID6:Ce1ZhtAcZb

>>966 เจริญกวยไรไอ้สัส ai มันดูดงานคนอื่นไปเจน มันไม่ได้เสกออกมาได้เองจากอากาศ เหมือนมึงไปซื้อข้าวกล่องเซเว่นมาเวฟ มึงจะเรียกตัวเองว่าเป็นเชฟมั้ย

968 Nameless Fanboi Posted ID6:i.yOm3mx6I

>>967 นักวาดอะลำบากแน่นอน มึงพูดไม่ผิด แต่ในฐานะนักเขียน อะไม่ใช่

ถ้านักเขียนใช้เอไอได้ แปลว่าจะลดต้นทุนได้อีกมาก แถมไม่ต้องต่อคิวรอเป็นเดือนเป็นปีด้วย

ถ้าต้นทุนลด นักเขียนก็ขายงานตัวเองได้มากขึ้น เร็วขึ้น ง่ายขึ้น หน้าใหม่มันก็เพิ่มขึ้น แนวทีาเขียนก็เปิดกว้างมากขึ้น ไม่ใช่มีแต่ตลาดซ้ำซากเพราะทุนจมเลยต้องเอากำไรไว้ก่อน

ส่วนคิดว่าไม่แฟร์อะไร คำพิพากษาศาลมันก็ออกมาแล้ว เปลี่ยนแปลงไรไม่ได้ อีกหน่อยไม่นานกระแสคงเป็นตามนี้

แต่นี่กูพูดโดย มองจากฝั่งนักเขียนนะ ไม่ใช่นักวาด

969 Nameless Fanboi Posted ID6:Ce1ZhtAcZb

>>968 ai มันก็ดูดงานนักเขียนคนอื่นมาเจนอีกเหมือนกันล่ะว่ะ มึงกระสันอยากใช้ ai ขนาดนั้นมึงก็อย่าเรียกตัวเองเป็นนักเขียนเลย เป็นนักตัดแปะ นักก็อปปี้อะไรก็ว่าไป นักเขียนเขาเอาไว้เรียกคนที่สร้างงานผ่านสมองตัวเองด้วยสองมือตัวเอง ไม่ใช่ป้อนคำสั่งคีย์เวิร์ดให้คอมพิวเตอร์สร้าง อีพวกใช้ ai สร้างงานก็เหมือนอีพวกซื้อข้าวเซเว่นมาเวฟแล้วเสร่อเรียกตัวเองว่าเชฟ

970 Nameless Fanboi Posted ID6:i.yOm3mx6I

>>969 อ้อ สงสัยเราคุยกันผิดเรื่อง

กูกำลังคุยเรื่องเอไอกับภาพวาด ไม่ใช่เอไอกับงานเขียน อย่าพึ่งหัวร้อน ถ้าอ่านดีๆ กูไม่ได้พูดถึงเรื่องงานเขียนเลย มีแต่ภาพวาด คำพิพากษาที่กูพูดมันก็ให้สิทธิแค่ภาพวาด

ถ้านักเขียนเราใช้เอไอเจนภาพใช้เองได้ ไม่คิดหรอว่าจะได้เปรียบมากขึ้น

971 Nameless Fanboi Posted ID:nq8iBAAH8d

คนทำงานสร้างสรรค์แต่ไม่สนับสนุนงานสร้างสรรค์ ไม่ต้องพูดต่อแล้วมั้งว่าอนาคตจะไปอยู่ตรงไหน ไม่ต่างกับโรงงานจีนก๊อบผลิตภัณฑ์ออกขายคิดแต่ต้นทุนกำไรโดยไม่ให้ราคางานสร้างสรรค์

972 Nameless Fanboi Posted ID6:i.yOm3mx6I

>>971 ถ้าลดต้นทุนได้ กำไรก็มากขึ้น กำไรมากขึ้น ก็ไม่ต้องเขียนแนวตลาดมาก เมื่อมีอิสระที่จะคิดมากขึ้น ความคิดสร้างสรรค์ก็จะมาอัตโนมัติ

ทุกวันนี้วงการนิยายเน็ตเรามีความคิดสร้างสรรค์ซักเท่าไหร่ละ ถ้าเขียนเอากำไร

973 Nameless Fanboi Posted ID6:Ce1ZhtAcZb

>>970 อันบนกูก็พูดถึงงานวาดจ้าว่ามันไปดูดงานคนอื่นมา มึงก็แถแถกๆว่าในมุมนักเขียนห่าแตดอะไรของมึง ทำงานสร้างสรรค์แต่ไม่สนับสนุนการสร้างสรรค์ คิดแต่จะเอาเปรียบคนในสายงานอื่นด้วยข้ออ้างหัวดอพรรค์นี้กูก็อวยพรให้นะว่าขอให้มึงโดนดูดงานเขียนไปเจน ai หัวกวยนี่ออกมาเป็นนิยายบ้าง เผื่อจะมีสำนึกว่าไม่ควรเอาเปรียบใคร

แต่จริงๆงานมึงอาจจะไม่โดนดูดไปเจนก็ได้เพราะงานมึงแม่งกระจอกเกินกว่าจะเอาไปป้อนให้ ai เจน ก็คนมันมีความคิดกระจอกขนาดนี้มันจะไปเขียนอะไรดีๆได้ ก็ได้แค่อะไรกระจอกๆเสร่อๆแบบนี้แหล่ะ

974 Nameless Fanboi Posted ID6:i.yOm3mx6I

>>973
ai มันก็ดูดงานนักเขียนคนอื่นมาเจนอีกเหมือนกันล่ะว่ะ มึงกระสันอยากใช้ ai ขนาดนั้นมึงก็อย่าเรียกตัวเองเป็นนักเขียนเลย เป็นนักตัดแปะ นักก็อปปี้อะไรก็ว่าไป นักเขียนเขาเอาไว้เรียกคนที่สร้างงานผ่านสมองตัวเองด้วยสองมือตัวเอง ไม่ใช่ป้อนคำสั่งคีย์เวิร์ดให้คอมพิวเตอร์สร้าง

มึงก็เขียนมาชัดเจนว่ามึงหมายถึงเอไอดูดงานนักเขียน แล้วจะพูดได้ไงว่ากำลังพูดถึงงานวาด เขียนเองลืมเองเปล่า

975 Nameless Fanboi Posted ID:12u+rqozki

>>972 นักเขียนมันไม่ต้องมีรูปไว้ดึงคนหรอกถ้าเก่งอ่ะ เจนมาเป็นร้อยรูปก็ไม่ได้ทำให้นิยายขายดีขึ้น ดีไม่ดีพวกนักอ่านที่มีความรู้หน่อยเห็น AI มันก็ไม่ซื้อละ กลุ่มนักอ่านขาประจำกุที่คุยกันไม่มีคนซื้อนิยายปก AI เลย เพราะมีความเห็นตรงกันว่าคนเขียนมันดูมักง่าย จะขายทั้งทียังใช้ปก AI จะใช้ก็อย่าใช้ให้มัน AI ชัดเกินคนซื้อมันไม่ได้โง่หรอก

976 Nameless Fanboi Posted ID6:Ce1ZhtAcZb

>>974 กรุณาย้อนกลับขึ้นไปอ่าน >>967

977 Nameless Fanboi Posted ID6:Ce1ZhtAcZb

>>976 หรือถ้าพื้นที่ในสมองน้อย เกิดมาไม่พกสมองจากท้องแม่ ไม่สามารถประมวลผลได้ กูก็จะพิมพ์ให้ว่าทั้งงานเขียนและงานวาด ai มันคือการดูดงานคนอื่นมาเป็นร้อยเป็นพันเป็นหมื่นมาตัดแปะให้มึงเป็นภาพ 1 ภาพ เป็นนิยาย 1 เรื่อง หากินบนหยาดเหงื่อแรงงานคนอื่นนี่ฟินเลยป่ะล่ะ

978 Nameless Fanboi Posted ID6:i.yOm3mx6I

>>976 อ่านแล้วไม่มีตรงไหนเขียนถึง งานเขียนนิยายนะ แต่บริบทก่อนหน้าคือคนเขาคุยเรื่องภาพวาดประกอบอยู่
มึงต้องโทษตัวเองแล้วว่าหัวร้อนเลยเขียนออกมากำกวม ไม่บอกว่างานอะไร

แล้วถามจริงคิดว่าอีกซัก 5-10 ปีนี้คิดว่าคนมันจะยอมรับภาพจากเอไอมากขึ่นหรือน้อยลงละ ตอนนี้คนมันก็ต่อต้านละ กูก็ไม่รู้สึกแปลกอะ เรื่องปกติ ใครจะใช้งานเอไอตอนนี่ก็ระวังสังคมหน่อย แต่เดี๋ยวสุดท้าย พอสังคมยอมรับมากขึ้น ใครไม่ใช้ ใช้ไม่เป็น ไม่ยอมใช้ ก็ตกกระบวนเอง

อ้อ อย่าลืมไปอ่านคำพิพากษาศาลเมกากับจีนด้วย มันไม่ได้ก็อปปี้ดูดงานคนอื่นแบบที่เข้าใจผิดกันนะ ถ้าดูดมาแบบนั้นศาลไหนก็ช่วยไรไม่ได้อะ

979 Nameless Fanboi Posted ID6:Ce1ZhtAcZb

>>978 บริบทก่อนหน้ากูก็ด่า ai อยู่ไง มึงบอกมึงพูดถึงในมุมนักเขียน กูก็ด่า ai ต่ออีก เข้าใจไรยากจริง แต่โหง้สมเป็นเอไอโบรดี ทั้งโหง้และกระจอก เชิญยึดคำสั่งศาลแล้วผลิตงานกระจอกๆไม่มีปัญญาฉายแสงต้องพึ่งภาพ ai มาดึงดูดคนให้มาดูงานไปเถอะ งาช้างไม่งอกจากปากสุนัขฉันใด คนความคิดกระจอกก็ไม่มีปัญญาสร้างงานดีๆได้ฉันนั้นล่ะ แต่ก็มโนเพ้อฝันไปว่าลดต้นทุนงานภาพที่ทำนาบนหลังคนอื่นเพื่อมาพัฒนางานตัวเอง เอาแค่ตอนแรกมึงก็ไปไม่รอดเพราะคิดจะเอาเปรียบคนอื่นแล้ว

มีคำถามลับสมองประลองปัญญา ถ้าไม่ได้ก็อปปี้ดูดงานคนอื่นมาแล้วมันจะเอาอากาศจากไหนมาเจนเป็นผลงานน้า ติ๊กต่อกๆๆๆๆ แต่คนแบบมึงคงนึกไม่ออกหรอก มันคงเสกมาจากกาแลคซี่อันโดรเมด้าออกมาเป็นงานสวยๆให้มึงล่ะมั้ง

980 Nameless Fanboi Posted ID6:i.yOm3mx6I

>>979 หัวมึงร้อนจนเริ่มเขียนมั่วซั่ว ตีกันเองละ อ้างนู้นอ้างนี้วนไปวนมา อ้างอย่างพอสู้ไม่ได้ก็ถอยไปอ้างอีกอย่างที่ไม่ได้พูดถึง ตอบคำถามกูก็ตอบไม่ได้ กูเกิ้ลมีแต่ไม่ใช้

คุยกับมึงคงเสียเวลาเปล่า

แต่เผื่อมีคนอื่นอ่านแล้วยังไม่ทราบ ถ้าสงสัยว่าเอไอมันเสกภาพมาได้ไง ถ้าไม่ได้ดูดภาพ

ลองหาว่า neuron learning หรือ machine learning มันทำงานไงดูนะ เอาง่ายๆมันแค่เรียนรู้ว่าวาดภาพอะไรยังไงแล้วมันก็รับคำสั่งมาแค่นั้น ถ้ามันดูดภาพมานิ้วมือไม่เน่าหรอก นิ้วมันเรียนยาก ภาพนิ้วมันเลยเน่าๆอยู่

ส่วนอีกประเด็น วงการนักเขียนไม่ต้องห่วงหรอก เอไอมันไม่เข้าใจมุก ความรู้สึก กาว โมเอะ มันเขียนไปก็ไร้อารมณ์ขายไม่ออก แถมของพวกนี้ต่างกันไปตามวัฒนธรรม มันทำได้แค่เขียนพล็อตอะ สุดท้ายไงๆนักเขียนต้องเขียนเองหมด

ณ จุดนี้เอไอทำให้นักเขียนนิยายได้เปรียบด้วยซ้ำ

981 Nameless Fanboi Posted ID:sCYpFBja+e

>>980 กูว่ากูคุยกับมึงก็เสียเวลาเปล่าเหมือนกันว่ะ มึงมีความเชื่อจริงดิว่าเอไอไม่ดูดงานคนอื่นมาเจน อ๋อ มันเป็นแค่ neuron learning แต่ไอ้เลินนิ่งของมึงนี่มันเลินนิ่งจากไหนน้าาาาาาาา อ๋อๆ มันเสกออกมาจากความว่างเปล่า ไม่ได้ดูดงานใครมาจริงจริ๊งงง

982 Nameless Fanboi Posted ID:OIrdx60nS/

เหี้ยไรเนี่ย กูพูดถึงเอไอย่อหน้าเดียว ด่ากันรัวๆ จนมู้จะเต็มแล้ว โม่งนี่มันโม่งจรืงๆ (แต่กูชอบอ่านนะ)

983 Nameless Fanboi Posted ID6:r4/T94dKVc

กุงง คำพิพากษาที่ไหนวะแปะลิงก์ข่าวหน่อยดิ กุรู้ว่าaiไม่มีลิขสิทธิ์เพราะไม่ใช่มนุษย์ แต่ไม่ยักรู้ว่าไม่ผิดกฏหมายกรณีเอาภาพนักวาดต่างๆมาเจน ข่าวที่กุรู้คือนักวาดหลายคนฟ้องศิลปินai ตอนนี้ศาลยกฟ้องไปเพราะสำนวนกว้างไป ให้ทำคำฟ้องแคบลงแล้วส่งใหม่ เรื่องมันยังไม่จบนะ เคสอื่นๆ กุก็ไม่เห็นจบสักคดี มึงสนับสนุนให้ใช้aiภาพทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่าผิดต่อนักวาด? กุควรจัดมึงเป็นคนประเภทไหนวะ

984 Nameless Fanboi Posted ID6:E5UPZPw6wZ

>>960 จัดไป แต่กูไม่ได้เขียนแม่ง https://writer.dek-d.com/dekd/writer/view.php?id=2354228

985 Nameless Fanboi Posted ID6:i.yOm3mx6I

>>983 ที่ศาลจีน เอไอชนะ มีลิขสิทธิ์ด้วย https://mgronline.com/china/detail/9670000004632

แต่เขาบอกว่าจะดูเป็นรายกรณีด้วย ก็แล้วแต่prompt ที่ใส่ไปอะนะ

นิยายจีนตอนนี้เต็มเว็บระวังอนาคตมันใช้ปกเอไอเอามาขายด้วยละ ถ้าทุนมันถูกกว่ามันก็ลดราคาแข่งได้ วิธีเดียวที่เราจะรอดคือต้องปรับตัวให้ทัน ไม่งั้นก็เปิดอ่านฟรีไป

ส่วนที่บอกว่าตรงไหนบอกว่าไม่ผิดกม. ก็โม่งเขียนไว้เลยไงว่ายกฟ้อง
กม. ถือว่าผู้ต้องหาบริสุทจนกว่าจะพิสูจว่าผิดจริง ถ้ายังไม่ตัดสินว่าละเมิด ก็ถือว่าวันนี้ไม่ผิด

ส่วนมันจะผิดต่อนักวาดไหม นั่นคือความเห็นของแต่ละคน มึงอยู่ฝ่ายนักวาด ก็เห็นว่าผิด แต่คนพัฒนากับบางคนเขาบอกว่าไม่ผิด ก็ไม่ผิด เพราะศาลเองก็ยังบอกไม่ได้ว่าผิดไหม หรือถ้าผิดแบบไหนมันจะผิด ไม่ผิดก็ถือว่าใช้ได้ไปก่อน

ไอ้ที่บอกน่าจะผิด ถ้าอนาคตบริษัทมันตกลงกันได้ว่าให้ใช้เจนภาพได้ แล้วมันก็ไม่ผิด พวกที่บอกผิดจะทำยังไง? ถ้าต่อไปเขาระบุให้มันเจนภาพได้เฉพาะแหล่งไม่ไปเรียนจากรูปที่อื่นละ? ธุรกิจเดี๋ยวมันคุยกันได้แหละ ไม่นาน โม่งอย่ากลัว

ความรู้สึกก็อีกอย่าง แต่ความจริงคือตรงนี้ละ พวกโม่งก็รู้อยู่เดี๋ยวคนมันก็ยอมรับได้ไม่นานหรอก ส่วนพวกวาดคนก็อาจจะขายไปอีกสายเลย

แต่เผื่อพวกมึงหงุดหงิด คิดว่าไม่ชอบ กูจะบอกข่าวดีให้ เดี๋ยวมันก็ต้องมีกฎหมายมาคุมการใช้เอไอ กำหนดว่าเจนจากไหนได้บ้าง ระดับไหน ตอนนั้นก็เจนกันได้ถูกกม.เยอะแล้ว ตอนนี่อียูเริ่มคิดละ พวกโม่งสายนักวาดไม่ต้องกลัวเกินเหตุ

กูว่าลึกๆคือนักวาดบางกลุ่มกลัวโดนแย่งงานแค่นั้นแหละ แล้วgaslight ทุกคนไม่ให้ใช้

ส่วนนักเขียนใช้ภาพเอไอได้จะประหยัดทุนไปกี่บาท จะได้ไม่ต้องเขียนแต่เรื่องตลาด ระบบ ตัวเอกเทพ ปลูกผัก จีนโบ ต่างโลก ที่โม่งเบื่อไรงี้มากเพื่อคืนทุนไวๆ ก็คิดเอา

986 Nameless Fanboi Posted ID:8D5ysGQ1zN

>>985 กรวยเถอะ ถ้าเมิงพูดว่าจิตสำนึกเป็นเรื่องของความรู้สึก ก็เท่ากับว่าเมิงไม่มีข้อจำกัดขีดล่างแล้ว ถ้ามีเครื่องมือเสกนิยายสุดวิเศษเพียงแค่เอาลิ้นเลียอุปกรณ์รูปร่างเหมือนตืน พวกเมิงก็พร้อมจะทำและมีข้ออ้างอันแสดงความเป็นอัจฉริยะ เหนือพวกโง่ที่ไม่ใช้อุปกรณ์รูปตีนสุดวิเศษนั้น จำเริญ ๆ นะไอ้สึด

987 Nameless Fanboi Posted ID:kKdjLAjYj4

ไหนๆ พวกมึงก็พูดขึ้นมากันละ งั้นกูขอเสริมบ้าง

เรื่องผลงานจาก ai ไม่มีลิขสิทธิ์ = ถ้ามีคนกดเจนรูปขึ้นมารูปนึงแล้วมันสวยสัสๆ พออีกคนมาเห็นแล้วถูกใจ ดูดรูปนั้นไปใช้บ้าง คนที่เจนรูปไม่สามารถอ้างตัวเป็นเจ้าของได้ เหมือนตกเป็นสมบัติสาธารณะ

เรื่องการเรียนรู้ของ ai = กูว่าสุ่มเสี่ยงจะผิดกฏหมายวะ ถึงตอนนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปและการฟ้องร้องก็ยังไม่จบด้วย แต่เรื่องนึงที่เถียงไม่ได้คือ ก่อน ai จะเจนภาพออกมาได้เราต้องป้อนรูปให้มันดู ให้มันเรียน จะได้เลียนแบบลายเส้นกับท่าทางได้ ทีนี้ปัญหามันเลยเกิดขึ้นเพราะมีพวกนักเจนเอาผลงานต่างๆ มาให้ ai เรียนโดยไม่ได้ขออนุญาตจากเจ้าของภาพ มันก็คือการขโมย, ละเมิดลิขสิทธิ์ กลายๆ นั่นแหล่ะ

พวกที่ชอบเรียกตัวเองว่า AI artist = เป็นชื่อที่เสนียดปากเหี้ยๆ บ่องตงนะ ไม่ควรใช้คำว่า artist ในชื่อเลย เพราะผลงานที่ได้มามันไม่ใช่ศิลปะ ถึงจะอ้างว่าต้องเสียเวลาป้อนรูปให้มันเรียน กับกดเจนเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ภาพที่ดูดีออกมามันก็ฟังไม่ขึ้น เพราะภาพที่ใช้เรียนก็ขโมยของคนอื่นมา ในกระบวนการสร้างก็ไม่ใช่ตัวเองแต่เป็น ai ต่างหากที่สร้างขึ้น คนที่ทำแค่กดคลิ้กเพื่อสั่งเจนภาพน่ะ ไม่คู่ควรกับการเป็นศิลปินหรอก

กูพอเข้าใจอยู่นะว่าการใช้ ai เชิงสร้างสรรคมันก็มี เหมือนพวกที่เจนภาพวิวทิวทัศน์แบบเหนือจริงต่างๆ ขึ้นมาผ่าน promt ที่ใส่ลงไป แต่การเอาภาพวาดมีลิขสิทธิ์มาเป็นตัวตั้งต้นในการเรียนแล้วเจนภาพจาก ai มาขายนี่แม่งน่าเกลียดเกิน มีค่าไม่ต่างอะไรกับเด็กประถมทำงานภาพตัดปะ แค่เปลี่ยนจาก กระดาษ+กาว มาเป็นปัญญาประดิษฐ์+คอมพิวเตอร์เฉยๆ

ก่อนหน้านี้มีงานจัดแสดงและขายผลงานของพวก AI artist เปิดขึ้นมา ผลเป็นยังไงรู้ป่าว? ไม่มีใครเข้ามาในงานเลยแม้แต่คนเดียว เท่าที่เห็นคือมีแค่สตาฟจัดงานกับคนที่มาตั้งโตะขายสื่อต่างๆ ที่ผลิตจาก ai เท่านั้น เห็นได้ชัดว่านอกจากตัวคนเจนเองแล้ว การตอบรับที่สังคมมีให้งานจาก ai มันเป็นไปในทางที่โคตรแย่ ก็นั่งตบยุงกันไปจนกระทั่งงานเลิกนั่นแหล่ะ

ตราบใดที่ยังไม่มีกฏหมายควบคุมผลงานอย่างชัดเจน งานจาก ai ก็จะถูกมองแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ อะ

การเปรียบเทียบงานจริงกับงาน ai = ในโม่งนี่คุยกันไปเยอะละ ถ้าเป็นงานภาพก็คือบ่อนทำลายวงการทางอ้อม นักวาดจะทะยอยกันวางมือเพราะคิดว่าวาดไปทำไมในเมื่อมีคนรอดูดงานกูไปเจนหาแดก กว่าจะเส้นเทพขนาดนี้ฝึกวาดกันมาเป็น 10 ปี เจอพวกกดคลิ้กไม่ถึง 1 วินาทีแย่งงานไปแบบหน้าด้านๆ เลิกดีกว่าแม่ง

ฝั่งงานเขียนก็มีโดนกันหลายแบบ หลักๆ คือเอานิยายให้ ai อ่าน แล้วเจนเรื่องใหม่ขึ้นมา คนแต่งเองก็แต่งตามไม่ทัน ผิดกับฝั่งใช้ ai ที่มีนิยายลงทุกวัน เจ้าของนิยายที่โดนเอาไปเรียนก็เจอละเมิดแบบทำอะไรไม่ได้ อีกแบบก็คือพวกนักแปลที่จะโดน ai แปลแย่งงานในอนาคต เพราะตอนนี้มันจะยังแปลออกมาไม่เป็นภาษาคน

ความเห็นส่วนตัว : ถ้าคิดจะใช้ ai เป็นตัวช่วย ก็ต้องเตรียมตัวเตรียมใจรับผลกระทบด้านต่างๆ ไว้ด้วย ถึงนิยายที่เจนมาจะสะดวกกว่าแต่งเอง แต่มันก็เขียนรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง ต้องคอยมาเกลาให้หรืออาจต้องแต่งแก้ทั้งย่อหน้า ในหลายๆ ครั้งที่กูลองอ่านเรื่องแล้วจับได้ว่าเป็นนิยายจาก ai สิ่งนึงที่รู้สึกได้เหมือนกันทุกเรื่องคือมัน "ขาดความมีชีวิตชีวา" ยิ่งใช้ไปนานแค่ไหน สกิลการเขียนก็มีแต่จะลดลง (แล้วได้สกิล บก.+พิสูจน์อักษร มาแทน)

อ่านแล้วมันจะมีความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้นในใจมึง แบบที่บอกไม่ถูกว่าคืออะไรแต่รับรู้ได้ว่ามันผิดปกติ ทางนึงมึงอาจพบว่ามันบกพร่องโคตรๆ เหมือนไม่ใช่มนุษย์แต่ง กับอีกทางก็คือสมบูรณ์แบบเกินไปจนน่ากลัว แถมสามารถเดาทางได้ง่ายด้วย

ภาพวาดนี่ก็พอกัน ดูรูปแล้วเห็นแววตามึงก็ดูออกว่าแม่งไม่ใช่แววตาที่บอกอารมณ์ได้ บางรูปมือเบี้ยว แขนขาด ขาลอย วิธีการลงสีก็เหมือนๆ กันไปหมด ถึงจะเปลี่ยนลายเส้นจากการให้เรียนมากแค่ไหน ก็ยังดูออกได้ว่านี่มันไม่ใช่ศิลปะที่สร้างจากการฝึกฝนมานานปี

จะเทียบความรู้สึกยังไงดีวะ... เหมือนมึงใช้จิ๋มกระป๋องกับเย้ดหีของจริงอะ มันแตกต่างกันมากๆ เลยนะเว้ย

988 Nameless Fanboi Posted ID6:D+6h/yEVes

>>985 เขาก็พูดกันไปแล้วว่ามันละเมิดลิขสิทธิ์ ดูดงานนักวาดมาเจน มึงก็ยังจะมาประหยัดต้นทุน ไม่ต้องมาเขียนแนวเรื่องตลาด โถ อีเถาะ แค่จ้างนักวาดไม่กี่พันก็ได้รูปดีๆ มึงพูดเหมือนขาดทุนระดับล้านต้องมาหาทางประหยัดต้นทุน นักเขียนถ้ามันมีหัวคิดสร้างสรรค์มันก็เขียนแนวอื่นนอกจากแนวตลาดได้ว่ะ มึงมันก็แค่พวก loser เฉยๆ ทั้งจนและขี้แพ้ หาข้ออ้างมาเอาเปรียบคนอื่นแบบหน้าด้านไม่ละอายใจ มึงนี่ต้องเป็นคนเหี้ยได้ขนาดไหนถึงได้มองว่ามันเป็นผลดีกับนักเขียน แล้วนักวาดที่ไปดูดงานเขามาคือช่างหัวแม่งไม่ต้องสนใจเพราะมึงได้ประโยชน์งั้นสิ ไอ้ขยะ

989 Nameless Fanboi Posted ID6:LdoCRt3aoX

>>985 555ข่าวอะไรเนี่ย กุ>>983 เองนะ กุไม่ได้เหยียดนะแต่นึกว่าจะเป็นข่าวฝั่งเมกาหรือยุโรป หรืออะไรที่เป็นสากลพอยึดเป็นหลักแนวทางคำวินิจฉัย55 แล้วแมร่งเป็นข่าวมือเจนaiฟ้องมือขโมยภาพai ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับนักวาดเลย555 แล้วคำพิพากษาคือ
'ในคดีนี้ได้รับการคุ้มครองจากกฎหมายลิขสิทธิ์ก็เพื่อสนับสนุนการสร้างสรรค์งานด้วยเทคโนโลยีเอไอ และส่งเสริมอุตสาหกรรมเอไอที่เพิ่งเกิดใหม่'
คือศาลไม่ได้เอ่ยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลในการเจนภาพที่ถูกต้อง หรือไม่ อย่างไร จะขโมยมารึเปล่าก็ช่างศาลไม่ตัดสินเรื่องนั้น สรุปคนละเรื่องกับที่ถกกันในโม่งเลย555
ขอแก้ไขเรื่องที่กุบอกครั้งที่แล้ว ไปถามผู้รู้มาล่ะ กุใช้คำผิดเองแหละ ศาลไม่ได้ยกฟ้อง เรียกว่าศาลยกคำร้องมากกว่า และคนที่แนะนำให้ฝ่ายนักวาดเขียนคำร้องส่งใหม่คือศาลเอง ไม่ใช่ทนายโจทก์ คดียังไม่จบนะจ๊ะ ไม่ใช่ถือว่าaiไม่มีความผิด
กุบันเทิงมากๆกับข่าวจีนของมรึง ฮาปวดท้องเลย ชดใช้ตั้ง500หยวน555 แต่กุขอตามข่าวฟ้องหลายล้านเหรียญต่อดีกว่า สุดท้ายถ้ามรึงอยากยึดตามศาลจีนก็เอาที่สบายใจ แต่กุอยากให้มรึงจำประโยคข้างล่างไว้นะ หวังดี
'คำตัดสินของศาลอินเทอร์เน็ต พิจารณาเป็นรายกรณีไม่ใช่คุ้มครองทั้งหมด และสามารถถูกกลับคำวินิจฉัยได้ในศาลที่มีลำดับเหนือกว่าตามกฎหมายลิขสิทธิ์'

990 Nameless Fanboi Posted ID6:.38VCLFgvr

ถ้า AI ถูกต้องหมด ป่านนี้มนุษย์ไม่ต้องเขียนนิยายแล้ว ให้ AI ทำแทน ส่วนมนุษย์แค่ไปเที่ยวข้างนอก

991 Nameless Fanboi Posted ID6:72n3VquwRQ

>>989 เอาเหี้ยไรกับไอ้กากชั้นต่ำนี่ล่ะ ขนาดกูถามไปว่าเอไอเลินนิ่งของมันเอาข้อมูลจากไหนมาเลินนิ่ง แม่งไม่ตอบเลยว่ะ มันเชื่อสนิทใจจริงเหรอว่าอีเอไอเหี้ยนี่เสกข้อมูลได้เองจากเลขไบนารี่ แค่คีย์คำสั่ง จ๊างงง ได้รูปปกนิยายสวยๆแล้วจ้า

992 Nameless Fanboi Posted ID6:.38VCLFgvr

เฮ้ยๆ ต้องขึ้นบทใหม่แล้วนะ ถึง 1000 เรปต้องย้ายห้อง

993 Nameless Fanboi Posted ID:DjGbv1Y1Gg

กุเริ่มก้ได้
นิทานเด็กดีบทที่ 41 (DDN XLI) จักรวาลโม่งที่หยุดหมุน เกานิ่งตั้งตรงตามต้นกก แสงเหลืองเรื่องจากปลายก้น ผลุดหนีหลุดจากร่าง ลอยเรียดลู่ลมบนผิวน้ำ ไหลไถลดิ่งจม หายไปตลอดกาล

994 Nameless Fanboi Posted ID6:ydjD+yUU.S

ต๊ะตึงโป๊ะๆๆๆ

995 Nameless Fanboi Posted ID6:vk.KSp78ST

อยากขึ้นบทใหม่ แต่กูลืมว่าควรทำอะไรฟ่ะ

996 Nameless Fanboi Posted ID6:IQaPSdMfdK

ไม่ได้มาแวะเกือบเดือน อ้าง จะจบแล้วเหรอ

997 Nameless Fanboi Posted ID6:LomOYgdZ21

ใครก็ได้ช่วยเปิดห้องใหม่รอไว้ที กูไม่เคยทำ

998 Nameless Fanboi Posted ID:KDItH9nGNN

>>>/webnovel/18245/

เชิญคั้บ

999 Nameless Fanboi Posted ID:xG4EQuj+KU

เอ้า ถมมมมม 999

1000 Nameless Fanboi Posted ID:xG4EQuj+KU

>>998 ทำมู้แล้วทำ Highlight ด้วยเด้อ

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.