Fanboi Channel

นิทานเด็กดีบทที่ 40 (DDN XL) ภาคโม่งกำลังตายทั้งเป็น แต่พระครูบัวเตือนสติทันหวุดหวิด จึงกลับไปฝึกวิชานาฏยุทธ์ ในที่สุดก็กลายเป็นโม่งบาก 3

Last posted

Total of 1000 posts

910 Nameless Fanboi Posted ID:Qlvh.V93CE

## ถูกไล่ออกจากปาร์ตี้ / ล้างแค้น ##

เอาจริงๆ ใจกูไม่อยากเรียก 2 อย่างนี้ว่าแนวเลยนะ เพราะการถูกไล่ออกจากปาร์ตี้มันเป็นได้แค่ "วิธีการเปิดเรื่อง" แบบหนึ่งของแนวเทพซ่าส์ ส่วนแนว ล้างแค้น/แก้แค้น ก็มีน้อยเรื่องเหลือเกินที่จะคงความเป็น "แนวแก้แค้น" ได้ตลอดจนถึงช่วงท้ายเรื่อง ถามว่าน้อยขนาดไหน... ถ้าจำนวนนิยายแฟนตาซีทั้งหมดเปรียบได้กับจำนวนเส้นxมอยของคนทั้งประเทศ จำนวนนิยายแนวแก้แค้นก็คงประมาณxมอยของคน 1 จังหวัด ส่วนเรื่องที่แก้แค้นแบบจริงๆ จังๆ จนถึงตอนท้ายเรื่องได้โดยไม่ออกทะเลหรือกลายพันธุ์เป็นแนวอื่นแม่งเหลือเท่าxมอยของคน 1 คน (ที่ค่อนข้างดก) บางทีทั้ง 2 หัวข้อนี้มันก็มาอยู่ในเรื่องเดียวกันได้ ถ้าการไล่ออกจากตี้มันเล่นใหญ่จนถึงขั้นวางแผนฆ่าตัวเอก

ก่อนจะคุยกันเกี่ยวกับ จุดแข็ง/จุดอ่อน ของทั้ง 2 อย่างนี้ กูอยากพูดถึงเรื่องของ Escapism ก่อน

Escapism ไม่ใช่เรื่องใหม่ มันถูกพูดถึงในโม่งมาหลายพันรอบแล้วเพราะเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับนิยายอย่างช่วยไม่ได้ ล่าสุดก็ตอนที่โดนโม่งแซะไปข้างบนว่า ถ้าเป็นพวกขี้แพ้แล้วอยากเยียวยาใจตัวเองจากความขี้แพ้เลยหาอ่านนิยายเพื่อให้รู้สึกฟินมันก็ไม่ผิด ขนาดตัวกูเองยังเคยพูดเลยว่า นักอ่านชอบอ่านอะไรที่ทำให้ตัวเองได้ผ่อนคลาย หลีกหนีจากปัญหาต่างๆ ในชีวิตจริงได้ (แม้จะแค่ชั่วคราว) ถึงจะเจ็บใจแต่ยอดขายของนิยายพวกนี้มันสูงจริงๆ ต่อให้นักอ่านส่วนใหญ่ไม่ใช่พวก loser เป็นคนธรรมดาที่ชีวิตดีๆ เขาก็ยังอยากอ่านเรื่องที่ตัวเอกโดดเด่นเหมือนกัน เพราะมันสนุกกว่าการตามอ่านเรื่องของพวกกระจอกหรือเป็นได้แค่เบี้ยล่างของคนอื่นในสังคม

หัวข้อ Escapism เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า พอชีวิตจริงมันเหี้ยแค่ไหน สังคมที่เจอมามันแย่เพียงใด พอเป็นนิยายหรือสื่ออื่นๆ แล้วมนุษย์เราย่อมถวิลหาสิ่งที่สามารถปลอบประโลมจิตใจจากเรื่องพวกนั้นได้ ถึงขั้นสมัยก่อนในการอภิปรายของโม่งยังมีการแซวกันเป็นข้อๆ ว่า

(1) ทำไมต้องไปต่างโลก : เพราะโลกที่กูอาศัยอยู่มันเหี้ย ขี้เกียจทำงานแล้ววะ โดนย้ายไปต่างโลกกลายเป็นฮีโร่ มีพลังโกงๆ ดีกว่า

(2) ทำไมต้องฮาเร็ม : เพราะเป็นคนธรรมดา หน้าตาทั่วไป บ้านไม่รวย *วยก็เล็ก คารมไม่ดี หลีสาวไม่เก่ง ไม่มีอะไรเด่นพอให้คนเหลียวแล

(3) ทำไมต้องเทพบุตรพิศวาส : ใช้ชีวิตอยู่ในกรอบมานาน ทำงานหนักลืมดูแลตัวเอง รู้ตัวอีกทีก็ใกล้จะขึ้นคาน หาผัวไม่ทัน เพราะแม่ห้ามมีแฟนแต่ตอนนี้เสือกอยากอุ้มหลาน

(4) ทำไมต้องย้อนไปอดีต : ชีวิตเต็มไปด้วยการตัดสินใจที่ผิดพลาด รู้งี้ไม่น่าทำงั้น มีความรู้สึกเสียใจภายหลังมาเยอะ อยากแก้ไขชีวิตตัวเอง

(5) ทำไมต้องเทพซ่าส์ : อยากเป็นคนสำคัญ อยากขึ้นเป็นใหญ่ อยากพ้นจากความเป็นเบี้ยล่าง อยากได้พลังที่มากพอจะเปลี่ยนแปลงโลกได้

และอื่นๆ อีกมากมายที่ช่วยให้ฟินน้ำแตกได้ง่าย โดยเฉพาะกับคนที่ชีวิตจริงมีปัญหาอะไรพวกนี้ แถมยังเป็นพวก low self-esteem อีก
** ว่าแล้วก็นึกขึ้นได้ว่ามีช่วงนึงคุยกันเข้มข้นมากเกี่ยวกับไลท์โนเวล ใครสนใจก็ตามอ่านได้ที่นี่ >>>/webnovel/10275/336-352 **

ดังนั้นจุดแข็งหรือจุดขายของแนวโดนไล่ออกตี้/ล้างแค้น เลยเกี่ยวข้องกับ Escapism ที่เหมาะกับคนที่รู้สึกว่าตัวเองไม่มีคุณค่า ถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม ถูกกลั่นแกล้งใส่ร้าย รู้สึกสิ้นหวังในระบบยุติธรรม อยากจัดการคนที่มาเอาเปรียบแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ยิ่งในโลกของเราที่เต็มไปด้วยอภิสิทธิ์ชน คนรวย คนมีอำนาจ ที่อยู่เหนือกฏหมายแล้ว ทั้ง 2 แนวนี้ก็ยิ่งเข้าถึงและอินได้ง่าย

911 Nameless Fanboi Posted ID:Qlvh.V93CE

เหมือนกับตัวเอกแนวโดนไล่ออกจากปาร์ตี้ ที่โดนสมาชิกคนอื่นเหยียดหยามสารพัด โดนโขกสับใช้งานเพียงเพราะมีส่วนร่วมในการสู้มอนสเตอร์น้อยกว่าเพื่อน วันดีคืนดีก็โดนเตะออกจากปาร์ตี้ด้วยเหตุผลบ้าๆ หรือข้ออ้างอย่าง "มึงมันหมดประโยชน์แล้ว เอาคนที่เก่งกว่ามาเข้าตี้แทนจะดีกว่า"

กับแนวแก้แค้นที่ตัวเอกถูกหลอกใช้ ถูกใส่ร้าย ถูกหักหลังจากคนที่ไว้ใจ บางเรื่องก็ตายไปทั้งๆ ที่ยังมีความอาฆาต บางเรื่องถูกส่งไปยังดันเจี้ยนมหาโหด ต้องหนีตายอย่างหวาดกลัวและสิ้นหวัง บางเรื่องอยู่ไปก็เหมือนตายทั้งเป็นเพราะถูกป้ายสีจนหมดอนาคต

สิ่งที่ทำให้ทั้ง 2 แนวนี้มัน work คือการเล่นกับความรู้สึกด้านลบของคนอ่าน การหากินกับสันดานดิบของมนุษย์ที่ลึกลงไปล้วนก้าวร้าวและแสวงหาความรุนแรง เพิ่มความ satisfying หรือ "ความสะใจ" เข้ามาในเนื้อเรื่อง จากที่ปกติมีแค่ความ comforting, relaxing

เคยสังเกตเห็นกันใช่มั้ยว่าทำไมคนถึงสนใจฝั่งปาร์ตี้เก่ามากกว่าปาร์ตี้ใหม่ของตัวเอก และทำไมคนถึงสนใจวิธีการแก้แค้นของตัวเอกมากกว่าเรื่องดีๆ ที่เกิดขึ้นภายหลัง คำตอบคือเพราะคนเรามันชอบความรุนแรงไง เหมือนรู้อยู่แล้วว่ายังไงตัวเอกมันก็ต้อง OP เทพซ่าส์ขึ้นเรื่อยๆ เลยไปโฟกัสกับความฉิบหายของพวกคนที่ไล่ตัวเอกออกมากับโฟกัสว่าอีกแนวจะแก้แค้นยังไงให้สาสมแทน กลายเป็นความบันเทิงรูปแบบใหม่ ได้ฟินจากทั้งเรื่องดีที่เกิดขึ้นกับตัวเอกและเรื่องร้ายที่เกิดขึ้นกับตัวโกง

แนวนึงมีบ่อเกิดมาจากความน้อยเนื้อต่ำใจ ไม่มีใครเห็นคุณค่า เลยอยากให้รู้ว่าถ้าขาดตัวเองไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้น กับอีกแนวก็คือต้องเจอกับความอยุติธรรม เจอเรื่องเหี้ยๆ แต่ไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้ เลยอยากเป็นศาลเตี้ย อยากได้พลังเอามาใช้แก้แค้น โดยสรุปแล้วก็มีอยู่แค่นี้ล่ะ

สำหรับจุดอ่อนกูขอยืมคำตอบส่วนหนึ่งจาก >>853 มาอ้างอิงว่า เนื้อเรื่องของทั้ง 2 แนวนี้มันตันเร็ว แนวออกตี้ถ้าตบคนในตี้ครบแล้วจะทำอะไรต่อ ? แนวแก้แค้นถ้าแก้ครบแล้วจะจบเลยมั้ย ? แล้วไอ้ช่วงต้นเรื่องกับกลางเรื่องนี่ก็ด้วย มันเขียนตามกันมาเยอะจนโดนคนอ่านเดาทางออกกันหมดแล้ว ว่าแนวแรกคือ โดนไล่ > ตี้พัง > เทพซ่าส์ > ตบเพื่อน กับแนวหลังคือ โดนฆ่า > รอดตาย/ตายแล้วฟื้น > เทพซ่าส์ > แก้แค้น ถ้าเลี้ยงเนื้อหาไม่ดีก็จะจบเร็วเกินไปหรือถ้าพยายามใส่ filler เข้ามายืดเรื่องก็จะโดนคนอ่านด่าเอาได้ แต่เรื่องนี้กูมีทางออกให้นะเพราะเคยอ่านเจอวิธีอย่างการขยายสเกลเรื่อง เช่น ตบตี้เก่าแล้วพบว่าพวกนี้โดนราชวงศ์สั่งมาอีกทีก็เลยตามไปล่อพระราชาต่อ แนวล้างแค้นก็เหมือนกันอาจตามไปเก็บคนที่อยู่เบื้องหลังพวกนักฆ่าอีกที

เดี๋ยวคืนนี้เอาแค่นี้ก่อน ช่วงต่อไปจะเป็นตัวอย่างแนวแก้แค้นกับแนวไล่ออกจากตี้ที่กูคิดว่าโอเค โดยเฉพาะวิธีเปิดเรื่องกับ setting ที่ใช้

912 Nameless Fanboi Posted ID6:vxM.GxEPml

กูแนะนำโม่งรวบรวมแล้วทำเป็นไฟล์ Docx เอาไว้ด้วย เพราะเป็นข้อมูลอ้างอิงให้คนอื่นได้ดีเลย
สำหรับกูรู้เรื่องพวกนี้อยู่แล้วยังนั่งอ่านเอาเพลินๆ ได้ จึงอยากจะแนะนำให้ทำเป็น Sheet docx เก็บเอาไว้เลย

913 Nameless Fanboi Posted ID6:6k+J1tu9ic

>>912 เห็นด้วย ถ้าเปิดมู้ใฟม่อย่าลืมใส่ในสารบัญโพสแรกด้วยละ

914 Nameless Fanboi Posted ID6:gt7S8BTP61

ชักเริ่มเห็นด้วยกับโม่งข้างบนแล้วล่ะ โม่งที่นี่คือแหล่งคนที่มีระดับการอ่านสูงกว่าเด็กดีซะแล้วว่ะ

915 Nameless Fanboi Posted ID:jkZZRWSJ75

สวัสดีปีใหม่ 2567 เพื่อนโม่ง

ก่อนเข้าสู่เนื้อหาส่วนของตัวอย่างเรื่องต่างๆ กูอยากคุยเกี่ยวกับการขยายสเกลเรื่องหลังจากหมดมุกแล้วความพีคมันดรอปลง แต่นักเขียนพยายามฝืนเดินเรื่องต่อโดยใช้วัตถุดิบเดิม ตัวอย่างหนึ่งที่ค่อนข้างชัดเจนคือเรื่อง tate no yuusha no nariagari (ผู้กล้าโล่)

ผู้กล้าโล่เปิดเรื่องด้วยการถูกใส่ร้ายจนตัวเอกต้องหลุดจากปาร์ตี้หลักของ 4 ผู้กล้า เป็นการผสมผสานกันระหว่างทั้งโดนไล่ออกและแก้แค้นในระดับปานกลาง เนื้อหาระหว่างทางมันก็ทำได้ดีอยู่ แต่ไม่ว่าจะเคยอ่านนิยายหรือดูเมะมาก็คงรู้สึกได้เลยว่า พอจบจากฉากลงโทษอีดอกตัวร้ายไปแล้ว สิ่งที่สามารถสร้างความ satisfy มันก็หมดลงไปด้วย เข้าใจกันใช่มั้ยว่าฉากที่ความจริงเปิดเผยมันเหมือนกับการได้เคี้ยวอ้อยแล้วน้ำหวานกระจายทั่วปาก กลืนเสร็จก็เหลือไว้แค่ซากอ้อยที่แทบจะไม่มีรสชาติ ต่อให้นักเขียนมันขยายสเกลเรื่องว่าพวกที่โผล่มาใน wave ต่างๆ เป็นผู้กล้าจากมิติอื่น ความน่าสนใจที่หลอกล่อให้คนติดตามช่วงแรกก็ลดลงไปอย่างช่วยไม่ได้ แล้วยิ่งใช้มุกอีดอกตัวร้ายตัวเดิมหลอกผู้กล้าคนอื่นๆ ให้หลงผิดอีกรอบ มันคือการบังคับให้คนอ่านเคี้ยวซากอ้อยในปากต่อ ซึ่งก็อาจพอเหลือความหวานอยู่บ้างแต่มันก็น้อยเต็มที ไม่น่าแปลกใจเลยที่คะแนนในอนิเมะ SS2 จะหล่นวูบขนาดนั้น แต่จะไปว่าเขาก็ไม่ได้เพราะเขาเป็นเจ้าของเรื่อง อยากยืดขายขนาดไหนก็คงต้องแล้วแต่เธอ

สิ่งที่กูอยากสื่อคือ ทั้ง 2 แนวนี้ถ้าวัตถุดิบหลักหมดไปแล้วมึงไม่แน่ใจว่าจะเอาเนื้อหาส่วนหลังจากนั้นอยู่ ขอแนะนำให้ตัดจบเสียดีกว่า

สำหรับอีกเรื่องที่กำลังอยู่ในกระแสหลักก็คือ Kingdom of ruins เรื่องนี้ถ้าไม่ติดว่านางเอกน่ารำคาญและโลกสวยเกินไปหน่อย ก็ถือเป็นแนวแก้แค้นที่ทำได้ดีพอสมควร มันใช้การแก้แค้นมาอธิบายแรงจูงใจและการกระทำของตัวเอกได้ชัด อันที่กูชอบมากคือการหักมุมไปมาแทบจะตลอดเวลา (จนบางทีกลายเป็นจุดอ่อนให้ถูกเดาเรื่องได้) เล่าเรื่องให้คนอ่านเข้าใจได้ว่าโลกเรามันก็เทาๆ ไม่ได้มีฝั่งไหนที่ดีจริงๆ หรอก ขนาดตัวเอกเองยังยอมรับเลยว่ามันไม่ใช่คนดี เรื่องนี้โดนนักอ่านบางส่วนติเรื่องพล็อตโฮล เกี่ยวกับตอนที่ตัวเอกถูกจับตัวได้แล้วทำไมไม่ฆ่า จะขังไว้รอจนโดนเจ้าตัวกลับมาเอาคืนไปเพื่ออะไร คำตอบมันอยู่ในเนื้อหาของภาคก่อนอย่าง Kingdom of Caliburn

**** ย่อหน้าถัดไปมีสปอย ถ้าอยากอ่านเองโดยไม่เสียอรรถรส ขอให้ข้ามกรอบสปอยไปได้เลย ****

916 Nameless Fanboi Posted ID:jkZZRWSJ75

[----------------- spoiler alert ----------------------]

โอเคก่อนอื่นกูอยากบอกว่า Kingdom of Caliburn ตั้งแต่ตอนที่ 9 จนถึง 176 หาอ่านในเน็ตไม่ได้อีกต่อไปเพราะเจ้าของลบเรื่องออกไปแล้ว ส่วน 177-186 ซึ่งเป็น arc สุดท้ายกูไปใช้กำลังภายในหาเวอร์ชั่นนิยายมาอ่านได้ (หายากจนเล่นเอาเหงื่อตกเลย) ถ้าจะให้อธิบายคือทั้ง 2 เรื่องนี้มันเป็นคนละจักรวาลกัน แต่มีวัฏจักรเดิมเกิดขึ้นแม้เนื้อหาจะแตกต่างกันอยู่บ้าง ไอ้วัฏจักรที่ว่าคือในแต่ละจักรวาล ตัวละครที่เป็นอาจารย์ของตัวเอกชายจะถูกฆ่า ตัวเอกชายกับตัวเอกหญิงที่มีเวทมนตร์แห่งรักจะหาทางไปสู้กับบอสใหญ่ด้วยกัน แต่จะจบลงด้วยตัวเอกชายถูกบอสใหญ่ตัดหัว แล้วเอาหัวตัวเอกชายไปต่อกับศพไม่มีหัวของตัวเอกชายจากจักรวาลก่อน ส่วนนางเอกในจักรวาลนี้จะหาทางข้ามมิติไปเป็นบอสจักรวาลใหม่เพื่อทำแบบเดียวกัน ถ้าอ่านแล้วงง ก็ให้อ่านต่อที่ย่อหน้าถัดไป

(1) ในจักรวาล-A พระเอก-A กับแม่มดชื่อดรอสเซลสู้บอสแล้วแพ้ พระเอก-A ถูกตัดหัว ดรอสเซลเสียใจเลยข้ามไปจักรวาลใหม่พร้อมร่างกายของพระเอก-A

(2) ในจักรวาล-B นายอัลเฟรด (พระเอกมิตินี้) กับโดโรธีสู้บอสแล้วแพ้ อัลเฟรดถูกตัดหัวไปต่อกับร่างกายพระเอก-A พระเอก-A ฟื้นคืนชีพ โดโรธีรับไม่ได้เลยพกร่างกายอัลเฟรดข้ามไปจักรวาลใหม่

(3) มาถึงจักรวาล-C โดโรธีกลายเป็นบอส สั่งกวาดล้างแม่มดซึ่งโคลเอ้ (อาจารย์ตัวเอก) ก็โดนด้วย นายอโดนิสกับโดโรกะเลยเดินทางไปสู้โดโรธี

ข้อ 2 คือเนื้อเรื่องในภาค Caliburn ส่วนข้อ 3 คือเนื้อเรื่องของภาคปัจจุบัน (ภาค ruins) เหตุผลที่พวกมนุษย์ไม่ฆ่าอโดนิสทันที เป็นเพราะโดโรธีสั่งไว้ การตัดหัวตัวเอกทั้งที่ยังไม่ได้เจอกับโดโรกะ (แม่มดที่มี Love magic ของจักรวาลนี้) จะทำให้เรื่องราวในวัฏจักรผิดเพี้ยนจนหัวของอโดนิสใช้คืนชีพให้อัลเฟรดไม่ได้ เหตุการณ์ในเรื่องมันเลยกลายเป็นอย่างที่เห็น

พอเป็นแบบนี้แล้วนักเขียนคงตัดสินใจลบเนื้อหาภาค Caliburn ออกหมดเพราะมันเป็นการสปอยเนื้อหาภาคใหม่ อย่างไรก็ตามลางสังหรณ์ของนักเขียนบอกกูว่าภาคนี้จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่หลวงเกิดขึ้น โดยเฉพาะการสิ้นสุดของวัฏจักรแห่งความทรมานเนี่ย ถ้าไม่ใช่ว่าบอสใหญ่พ่ายแพ้เป็นครั้งแรกก็อาจเป็นนางเอกภาคนี้ปลงตก ไม่คิดจะต่อหัวให้พระเอกอีกต่อไป cirle แห่งความจังไรก็จะจบลงได้เสียที

[----------------- end of spoil ----------------------]

เป็นเรื่องแนวแก้แค้นที่กูว่า lore มันทำได้ดี มีการผสมผสานการเล่าด้วยพื้นหลังและสถานที่อย่างมีสเน่ห์ ถ้าให้ลองเทียบเกี่ยวกับสไตล์การเล่าของทั้ง 2 ภาค มันทำให้กูนึกถึงเรื่อง "จอมโจรจิ๊ง" ทั้ง 2 ภาคขึ้นมาเพราะมันคล้ายกันมาก ภาคแรกจะเล่าด้วยเซตติ้งแบบแฟนตาซีคลาสสิคแล้วภาคหลังจะเล่าด้วยแฟนตาซีผสมกับอารมณ์แบบไซ-ไฟ (ในเรื่องมีเทคโนโลยีล้ำสมัย)

ที่ต้องพูดถึงเรื่องนี้ต่อจากผู้กล้าโล่ เป็นเพราะการขยายสเกลเรื่องของเรื่องนี้ทำได้ดีกว่าแบบเทียบไม่ติด ตัวเอกมันไล่ระดับการแก้แค้นสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ได้โดยไม่ทำให้ความพีคลงลงเพราะศัตรูที่ต้องแก้แค้นมีหลายกลุ่ม ส่วนหนึ่งกูว่ามันเป็นเพราะผู้กล้าโล่ไม่ได้จะเน้นการแก้แค้นแต่หนักไปทางชีวิตที่ดีขึ้นของตัวเอก ดังนั้นการนำเสนอของนักเขียน King of ruins เลยดูเข้าท่ากว่า แล้วคงจบลงได้แบบไม่ต้องยืดเนื้อหาต่อด้วยน่ะ

917 Nameless Fanboi Posted ID:jkZZRWSJ75

- ตัวอย่างเรื่องแนวแก้แค้น - (มีสปอยแน่นอน ถ้าไม่อยากโดนก็ดูแค่ชื่อพอ) ที่กูพอนึกออกว่าแก้แค้นจริงๆ มีอยู่แค่ 3 เรื่องคือ

Fukushuu O Koinegau Saikyou Yuusha Wa, Yami No Chikara De Senmetsu Musou Suru (หรือที่รู้จักกันในชื่อไทยว่าผู้กล้าราอูล)

Koibito o netorare, Yuusha party kara tsuihou sa retakedo, EX Skill [Kotei Dameeji] ni mezamete muteki no sonzai ni. Saa, Fukushuu o hajimeyou (แดมเมจธาตุมืดตายตัว 9999)

กับ [Nidome No Yuusha] Maou yo, Sekai no Hanbun wo Yaru Kara Ore to Fukushuu wo Shiyou (โดนหักหลังจนเสียคน)

เรื่องแรกเป็นแนวผู้กล้าโดนหักหลังตอนจัดการจอมมารได้สำเร็จ เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล เนื้อหาแม่งทำเอาผู้กล้าฮิลยอดนักเย้ดกลายเป็นเรื่องเด็กๆ ไปเลย เดินหน้าเอาคืนเรียงตัวไม่มีพัก ใครใจไม่แข็งพอแนะนำว่าอย่าหาอ่าน จะเวอร์ชั่นนิยายหรือมังงะก็มีความกุโระหนักพอกัน นอกจากความป่าเถื่อนชนิดที่ไม่มีความหวังว่าจะได้ทำอนิเมะแล้ว ตัวเอกแม่งเน้นแก้แค้นแบบไม่มีความเงี่ยนเข้ามาเกี่ยว เอาจริงๆ มันมีแก้แค้นอีกหลายเรื่องที่โอเค แต่ส่วนใหญ่ชอบมีการเอาคืนด้วยการเด้าเข้ามาปนในเนื้อหาเยอะไป กูเลยข้ามเพราะถ้าลองคิดแบบตัวเอกสายแก้แค้นดู มันยากที่จะมีอารมณ์กับคนนิสัยแบบนั้น (แค่คิดก็ขยะแขยงแล้ว) ถือเป็นเรื่องเดียวที่กูอ่านแล้วประทับใจในความจริงจังต่อแนวเรื่อง ตัวเอกเป็นตัวละครแนว Lawful Evil มีการผสมผสานความเชื่อระหว่างหลายศาสนาทั้งคริสต์ พุทธ ฮินดู เชน เกี่ยวกับโลกหลังความตาย หลายๆ คนเลือกตัดจบเรื่องนี้ถึงแค่ตอนล้างแค้นนักบุญสำเร็จ เพราะในขั้นตอนการอัพสเกลเรื่องมันเริ่มจะออกทะเลนิดๆ ย่อหน้าต่อไปมีสปอยเนื้อหา ถ้าใครอยากอ่านเองเพื่อให้ได้อรรถรสมากกว่าขอให้ข้ามไป

[----------------- spoiler alert ----------------------]

ในช่วง 60% แรกของเนื้อหายังเป็นแค่การแก้แค้นแบบตาต่อตาฟันต่อฟันอยู่ หลังจากจัดการคนที่เกี่ยวข้องส่วนใหญ่บนโลกมนุษย์แล้ว ตัวเอกหลอกใช้น้องสาวจอมมารให้มาฆ่าตัวเองจะได้ลงนรกไปคิดบัญชีกับนักบุญต่อ เพราะอีนักบุญนี่มันมีความเชื่ออย่างแรงกล้าว่าทุกอย่างที่ตัวเองทำไปล้วนถูกต้อง (เพราะทำตามคำสั่งของเทพธิดา) ตัวละครแบบนี้แหล่ะที่สร้างความฉิบหายมานักต่อนัก ประเภท "ชั่วร้ายแต่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองชั่วร้าย" แยกแยะไม่ได้ว่าที่ตัวเองทำมันเลวหรือไม่ ไร้สามัญสำนึกทำตามความเชื่อของตัวเองแบบสุดโต่ง เป็นความชั่วที่อันตรายสุดๆ ไปเลย ทีนี้พอจบจากทำให้นักบุญ mindbreak เรียบร้อย ตัวเอกรู้ความจริงมาว่าทุกอย่างที่ต้องเจอ เป็นแค่รายการเรียลลิตี้โชว์ของพวกเทพเจ้า ทุกความเจ็บปวดที่กูต้องเผชิญกลายเป็นความบันเทิงของพวกแม่ง นั่งดูกูโดนกระทำกันอย่างสนุกสนานมาตลอดแบบนี้ เดี๋ยวพวกมึงเจอกูแน่ การขยายสเกลใน arc ใหม่เลยเข้ารูทเหมือนเกม God of war มีเป้าหมายคือไล่ฆ่าพวกเทพเริ่มต้นจากท่านยมในนรกที่กำลังเดินเรื่องอยู่เป็นตัวแรก

บอกตรงๆ เลยว่า ณ จุดๆ นี้ของเรื่องคือไม่มีใครที่สภาพจิตปกติแล้วในกลุ่มตัวละครหลัก คนส่วนใหญ่ที่ติดตามเรื่องนี้อยู่ก็ทำได้แค่รอดูว่ามันจะจบยังไง

[----------------- end of spoil ----------------------]

เรื่อง 2 ก็โอเค ไล่เก็บทุกคนจนครบ ต้นเหตุของความฉิบหายมาจากความเงี่ยนของผู้กล้า กับแผนการใช้ตัวเอกเป็นเหยื่อสังเวยเพื่อให้ผู้กล้าเก่งขึ้น เพราะยิ่งตัวเอกจมดิ่งสู่ความมืดแค่ไหน พลังแห่งแสงของผู้กล้าก็ยิ่งมีอานุภาพมากขึ้นเท่านั้น ถ้าตัวเอกตายไปตอนต้นเรื่องทุกอย่างก็จบไปแบบเงียบๆ แต่เจ้าตัวดันรอดมาได้

เรื่องสุดท้ายพล็อตคล้ายกับเรื่องแรก แต่ต่างกันตรงตัวเอกเป็นผู้กล้าที่โดนอิเซไคมา ฆ่าจอมมารได้แล้วก็โดนเก็บเพื่อไม่ให้อยู่เป็นหอกข้างแคร่ เอาคืนแบบโรคจิตดีโดยมีจุดขายเป็นการแก้แค้นแบบ new game+ เพราะตายแล้วย้อนเวลากลับมาตอนแรกของเรื่อง คนบงการเบื้องหลังดันอยู่ในห้องอัญเชิญพอดีทีนี้ก็ว้าวุ่นเลย ชีวิตแรกเขาเป็นคนดีแต่ชีวิตนี้เขาจิตไปหน่อย น่าเสียดายตรงหาอ่านนิยายยากแล้ว เพราะ web novel โดนไล่ลบออกหลังได้ตีพิมพ์กับ kadokawa Jp.

แนวไล่ออกจากปาร์ตี้ เดี๋ยวมาต่อให้พรุ่งนี้

918 Nameless Fanboi Posted ID6:BJsY.Kx0pV

เออแล้ว ไอ้แนวไล่ออกจากปาร์ตี้ใครเป็นคนต้นคิดรายแรกของโลกว่ะ

919 Nameless Fanboi Posted ID:ZpK5XZO6h5

>>918 อันนี้ไม่รู้เหมือนกันว่ะ

ก่อนจะโดนหยิบเอามาใช้กันเกร่อแบบนี้มันต้องมีคนจุดประกายเริ่มใช้เป็นคนแรกๆ อยู่ละ แค่ตอนนั้นยังไม่ดังหรือยังไม่มีเรื่องที่ทำให้แนวนี้มันฮิตขึ้นมา

เหมือนสมัยก่อนอินุยาฉะก็เป็นแนวต่างโลก เมจิคไนท์เรเอิร์ธก็ต่างโลก มันก็ใช้พล็อตนี้กันมาเรื่อยๆ จนมันมาดังเพราะเรื่องแนวต่างโลกยุคหลังๆ แบบที่ลอกกันแล้วใช้วิธีโดนรถบรรทุกชนเหมือนกันหลายๆ เรื่องอะ

มีใครนึกออกมั้ยว่าแนวโดนไล่ออกมาแล้วเทพขึ้นทีหลังเนี่ยมีอะไรบ้างที่เป็นเรื่องยุคบุกเบิก (นอกจากผู้กล้าโล่)

920 Nameless Fanboi Posted ID6:347E7itDaN

>>919 กูรู้แต่ว่าแนวไล่ออกจากกิลดังมานานแล้วในเด็กดีนี่แหละ หลายปีมาแล้ว แฟนฟิคแฟรี่เทลยุคหนึ่ง มีแต่ลูซี่โดนไล่ออกจากกิล ไปตั้งกิลใหม่แล้วดียิ่งกว่าเดิม ไม่รู้ทำไมถึงฮิต กุยังแปลกใจแนวนี้มันมาดังในยุ่นได้ทีหลังงงใจจริงๆ 555

921 Nameless Fanboi Posted ID:I6/b/voNF1

>>918 >>920 แรกๆ มันไม่ใช่แนวที่เรียกว่าออกจากปาร์ตี้น่ะ โดยรวมคือเรื่องแนวนี้ในเว็บนิยายต่างๆ ของญี่ปุ่นเขาใช้ Tag ว่า 追放もの (exile - เนรเทศ) ไม่ได้จำกัดแค่สมาชิกปาร์ตี้ปราบจอมมาร, ปาร์ตี้ Rank S หรือปาร์ตี้ฮีโร่ แต่เป็นโดนขับไล่ในลักษณะอื่นๆ ได้ด้วย เหมือนที่กูเคยให้ตัวอย่างไปในหัวข้อ "ใครบ้างที่จะไปสมัครเป็นนักผจญภัย" (+แบบอื่นๆ ที่กูพอนึกออก)

- ลูกขุนนางสุ่มได้สกิลกากเลยโดนไล่ออกจากบ้าน
- เพื่อนสมัยเด็ก 4 คนสัญญากันว่าจะไปเป็นนักผจญภัย แล้ว 1 ใน 4 ดันได้สกิลกากเลยโดนขับออกตี้
- โดนใส่ร้ายจนต้องจากเมือง แล้วไปเจอของเทพที่เมืองใหม่
- ปาร์ตี้นี้มีพระคนเดียวก็พอ!! บทบาทในปาร์ตี้ไปซ้ำกับเพื่อนอีกคน แต่โดนไล่ออกเพราะไม่มีหี (น่าสงสาร...)
- เคยเทพมากๆ แต่เจอคำสาปแล้วกากลง เลยโดนเชิญออกจากความเป็นฮีโร่ ก่อนจะมีคนมาถอนคำสาปให้แล้วกลับมาเทพซ่าส์
- เป็นคนล้มบอสได้ แต่ราชาอยากยกผลงานให้เจ้าชาย เลยโดนเนรเทศไปอยู่บ้านนอก
- โดนทำนายว่าจะทำให้ประเทศล่มจมเลยโดนไล่ไปอยู่ที่อื่น

เอาเป็นว่าแนวนี้มันก็ไม่ใช่แนวใหม่เหมือนกัน มีมานานแล้วจนเหมือนตัวอย่างแฟนฟิคที่ >>920 บอก ซึ่งก็อาจยืมแนวทางของแนวนี้มาอีกที

ถ้าเอาตามที่กูไปค้นข้อมูลมาอ้างอิงจากแนว exile ที่ตอนนี้ serialized จากนิยายเป็นมังงะ หรือเป็นอนิเมะ 5 อันดับแรกเขียนขึ้นในปี 2020 (อันดับท้ายๆ เก่าสุดเขียนปี 2013) เลยสงสัยว่าเป็นเพราะความแค้นส่วนตัวช่วง โควิด-19 ระบาด โดนไล่ออกจากงานแล้วมาเขียนนิยายระบายอารมณ์กันรึเปล่าวะ ส่วนมากโดนไล่ออกแล้วเทพภายหลัง Epic cumback ไปมีฮาเร็มและใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์กันด้วยนะ ตกงานแล้วคงหา Escapism ปลอบใจตัวเองรึเปล่าหว่า

922 Nameless Fanboi Posted ID:TMfFw4ZW1V

พักหลังก็เห็นแนว​ กองทัพหลุดไปต่างโลกชักบ่อย​ แต่พอเห็นบอกว่าเป็นทหารจากมณฑลไท่กั๋วแล้ว​ กุนี่หลุดขำพรืด ทุกที

923 Nameless Fanboi Posted ID6:bGtkq5+gvZ

>>922 ยังมีพวกชอบดูถูกทหารไทยอีกแนะ ไปดูศักยภาพทหารไทยบ้างนะไม่ใช่เอะอะก็แซะโง่ๆ ว่าแต่บริษัทเต็มเมือง โรงงานยุ่นเยอะแยะ ทำไมไม่กล้าบอกว่ามลรัฐของทะกันหรือจังหวัดของยุ่นบ้างละ

924 Nameless Fanboi Posted ID:hk5qFth9z1

>>922 เห็นเรื่อง Gate jsdf กับอิเคไคไปยกประเทศ กระแแสตอบรับดีเลยทำตามรึเปล่า

>>923 ไม่เอา ไม่หัวร้อนแล้วโยงการเมือง

925 Nameless Fanboi Posted ID:TMfFw4ZW1V

>>923 Pffffft

926 Nameless Fanboi Posted ID:TMfFw4ZW1V

>>923 ไม่เยอะเท่าห้างร้านและบริษัทจีนว่ะ​
>>924 ก็คงงั้น​

927 Nameless Fanboi Posted ID:TMfFw4ZW1V

>>923 ผมไปศึกษาศักยภาพ​ทัพไทยมาแล้วผมนี่ตาสว่างเลย​ ผมได้รับรู้ว่าทหาร​เนี่ยไม่เกณฑ์คนก็แห่กันไปสมัคร ไปตุยกันที่ไหนเขาก็ไปกัน รบบ่อยคนยังอยากไปตุย ให้ทุนเรียนฟรี สวัสดิการรักษายกครอบครัว ตุยก็มีเงินเดือน​ ได้เป็นทหารผ่านศึกคือฮีโร่​ คนธรรมดาได้ยินยังต้องบอกว่าขอบคุณที่รับใช้ชาติ​ ผมนี่อยากแต่งนิยายทัพเมกา​ เย้ย! ทัพไทยไปต่างโลกเลย

928 Nameless Fanboi Posted ID6:bGtkq5+gvZ

>>927 ศึกษาจากนิยายเรื่องไหนครับ นิยายเขียนเองในหัวเปล่าครับ555
ลืมไปมึงเป็นนักเขียนต้องนั่งเทียนเขียนเอา หาข้อมูลรีเสิชไม่เป็น 555

929 Nameless Fanboi Posted ID:TMfFw4ZW1V

>>928 ศึกษาจากกลุ่มทหารจั๊บพรี่

930 Nameless Fanboi Posted ID6:mCclMx.gsL

ไหนๆพูดถึงทหารแล้ว กิลด์นักผจญภัยก็แล้ว ทำไมไม่เห็นพูดถึง "ทหารรับจ้าง" ล่ะ

931 Nameless Fanboi Posted ID:JH2+27Pdjs

>>930 ถ้าใช้เอาไปรบจริงๆ เมืองหลวงก็มาจ้างคนจากกิลด์นักผจญภัยเหมือนกันนะ พวกที่แยกไปตั้งแคลนก็จ้างเหมือนกัน

>>922-929 เนี่ย มันต้องแบบนี้ ถ้าโม่ง Active ทีไร เป็นต้องมีมวยให้ดูตลอด ถ้าไม่ต่อยกันเองแปลว่าไม่ได้เล่นโม่ง

932 Nameless Fanboi Posted ID:KHEQkoUE/x

ทหารปกครองประเทศนี้บ่อยผ่านการปราบนักการเมืองโกงกิน จนกุคิดว่าควรเอางบส่งพวกทหารเรียนสูง ๆ ประเทศกุจะได้เจริญสักที พวกเมิงว่าดีไหม เพราะถ้าพวกท่าน ๆ ฉลาดกันบ้านเมืองเราคงเจริญเหี้ยไปแล้ว

933 Nameless Fanboi Posted ID6:3aPcsQXsZY

>>932 เรียนสูงกับฉลาดมันคนละเรื่องนะ ไม่เห็นพวกwoke ที่จบดร. ฮาวาดหรอ
คนไทยเก่งแต่จำกับทำตาม มันคิดเองไม่ค่อยเป็น บ้ากระแสด้วย
ดูกระแสนิยายไทยได้อะ สะท้อนเลย สาละวันเตี้ยลงๆ คุณภาพต่ำลงๆ ภาษาที่ใช้ยังแย่ลงเรื่อยๆเลย แต่อีโก้ด้วยนะไม่ยอมรับ
คนไทยเก่งเรื่องวิชาชีพอะ แต่ไม่เก่งเรื่องวิชาการกับอะไรที่ต้องคิดเรื่องใหม่ๆ

934 Nameless Fanboi Posted ID:TRXqoWV/Jg

>>932 มึงจะได้แบบรัฐบาลทหารญี่ปุ่นสมัยเมจิ-ไทโช กับการศึกษาเกากลีเหนือที่ให้ความสำคัญกับอาวุธนิวเคลียร์มากกว่าสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน

935 Nameless Fanboi Posted ID:QLx.qHw7Su

เอาเรื่องพวกนี้ไปแต่งแนว AU ได้เลยนะ ในจักรวาลที่พวกอักษะชนะสงคราม

936 Nameless Fanboi Posted ID6:uDhks4YPgA

>>935 AU คืออะไรว่ะ Adobe Audition???

937 Nameless Fanboi Posted ID:OQjMHd7xqV

>>936 Alternate Universe

938 Nameless Fanboi Posted ID:LO0MfVOPR8

>>935 มีเป็นซีรี่ย์ไปแล้ว​ The Man in the High Castle​ โลกทีนาซีกับยุ่นชนะสงคราม

939 Nameless Fanboi Posted ID:57Qs0ntXn.

พวกมึงตีกันอีกแล้วเรอะ Mong ... Mong never changes จริงๆ (แต่ก็ดี กูชอบอ่านแล้วเอาไว้ทำพล็อตเรื่องใหม่ๆ)

ในที่สุดก็มาถึงหัวข้อหลักกันเสียที

เรื่องล่าสุดของแนวออกตี้ที่ได้ทำอนิเมะน่าจะเป็น Yuusha Party wo Tsuihou Sareta Beast Tamer, Saikyou Shu Nekomimi Shojo to Deau อืม... แน่นอนว่าทำมาแค่โปรโมตหลอกให้คนมาซื้อนิยาย กูเลือกเรื่องนี้มาคุยในแบบเดียวกับ Kingdom of ruins เพราะมันได้ทำอนิเมะเหมือนกัน และที่สำคัญคือแม่งเป็นเรื่องที่ "โคตรจะตามขนบแนวไล่ออกจากปาร์ตี้อย่างที่นิยายเรื่องหนึ่งจะเขียนตามสูตรสำเร็จออกมาได้" ไม่เคยเจอเรื่องออกตี้เรื่องไหนคลิเช่เท่านี้มาก่อน มีปาร์ตี้ผู้กล้าสมาชิกครบทุกบทบาท ตัวเอกไม่รู้ว่าตัวเองเทพ ด้านปาร์ตี้ก็คิดว่าที่ตัวเอกทำคือเรื่องปกติ ใช้ท่าไม้ตาย LN ทั้ง 3 ข้อได้ครบ (ตัวเอกที่ เซลฟ์-อินเซิร์ท ได้/สาวๆ ที่ใจง่าย/สกิลเทพที่มีมาตั้งแต่เกิด) และมีความสนุกในระดับพอใช้

ในหลายๆ จุดขาดความสมเหตุสมผล สาวๆ หลงรักตัวเอกง่ายเกินไป ปาร์ตี้ฮีโร่ที่โง่และกาก มีมุกหัวตี้เก่าแพ้แล้วพาลหาแหล่งยืมพลังมืดมาสู้ซึ่งถูกใช้มาแล้วหลายล้านครั้ง การควบคุม pacing ทำได้แย่ เล่นเอาบางช่วงกูต้องถอดสมองก่อนสกิมต่อไม่งั้นจะอดใจด่าทุกๆ 2 ย่อหน้าไม่ไหว จุดที่ควรเล่าเพราะมีโมเมนต์ซึ้งๆ เสือกเขียนนิดเดียว ฉากต่อสู้กับหัวตี้เก่า/ลูกขุนนางที่สามารถจบได้ใน 1 หน้า เสือกลากยาวเหมือนดราก้อนบอลยิงคลื่นเต่าทั้งตอนไม่เสร็จ แล้วได้ยินเสียงน้าต๋อยเซมเบ้พูดก่อนจบว่า "แล้วพบกันใหม่ในสัปดาห์หน้า" พร้อมตัวหนังสือ つづく มุมจอ เป็นแบบนี้กับการต่อสู้แทบทุกครั้งเพราะตัวเอกมีนิสัยตามขนบ MC ของญี่ปุ่นคือไม่อยากฆ่าคนและพร้อมให้อภัยถ้าอีกฝ่ายสำนึกผิด (naive จนบางทีน่าหงุิดหงิด) ซึ่งตรงกันข้ามกับตัวเอกจีน, เกาหลี ที่เดินหน้าฆ่าไม่เลี้ยง

สรุปว่า มันสนุกแบบพออ่านได้เพลินๆ เอาไว้อ่านตอนขี้หรือนั่งรอคิวนานๆ ก็น่าจะพอไหว แต่ถ้าหวังว่าเรื่องนี้จะ good read นี่ฝันไปเถอะ อย่างไรก็ตามใครอยากได้ตัวอย่างแนวไล่ออกจากปาร์ตี้ที่มีความเป็นแนวนี้โคตรๆ กูแนะนำให้ลองอ่านดู รับรองว่าจะสำเร็จวิชา "ออกจากตี้ไปเทพซ่าส์ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์กับไวฟุ 101" ได้ในระดับผลการเรียนยอดเยี่ยมเลยทีเดียว มีข้อนึงที่กูคิดว่าเรื่องนี้ทำได้ดีคือ มันใช้ความเป็นเทมเมอร์มาอ้างอิงความแข็งแกร่งตัวละครได้อย่างถูกต้อง พวกสาวๆ ที่โดนเทมเนี่ยเก่งอยู่แล้วส่วนพระเอกก็ได้รับพลังใกล้เคียงกันกับสาวๆ มาใช้ ทำให้ความเทพมันไม่โดดสูงขึ้นไปจนเสียสเกลพลัง และถึงจะเก่งขึ้นแบบจำกัดแต่หลายๆ อย่างที่ได้มานี่ก็ทำให้เทพกว่าตี้ฮีโร่ไปหลายขุม ยิ่งเทมสาวได้เพิ่มก็ยิ่งได้ความสามารถอื่นๆ มากตามไปด้วย

แต่สมมุติถ้าอยากได้แนวออกตี้แล้วเทพสัสหมา OP แบบไม่สนว่าสเกลพลังในเรื่องจะพังพินาศหรือไม่ กูขอแนะนำเรื่องพวกนี้แทน

Keikenchi Chochiku de Nonbiri Shoushin Ryokou (โดนไล่ออกแถมเมียทิ้งแต่ได้ราฟทาเลียก้อปเกรด A มาฮิลใจ)

Fuguushoku "Kanteishi" ga Jitsu wa Saikyou Datta: Naraku de Kitaeta Saikyou no "Shingan" de Musou suru (นักประเมินฮาเร็มต้นไม้โลก)

Kouryakuhon o Kushi Suru Saikyou no Mahoutsukai ~< meirei sa sero > to wa Iwa Senai Oreryuu Mao Tobatsu Saizen Ruuto ~ (จอมเวทโดนไล่กับสารานุกรมครอบจักรวาล)

รับรองว่าเทพซ่าส์ชนิดว่ากู่ไม่กลับของแทร่

940 Nameless Fanboi Posted ID:57Qs0ntXn.

- ตัวอย่างแนวออกจากปาร์ตี้ - (จะมีอธิบายเซตติ้งและระบบความสามารถพื้นฐานด้วย) หามาให้ 3 เรื่องที่ถูกพูดถึงอยู่บ่อยๆ

*** มีสปอยหนักหน่วงเพราะจะล้อเลียนเรื่องความคลิเช่ให้ฟังระหว่างทาง ใครไม่อยากโดนก็เอาแค่ชื่อไปอ่านเอง***

(1) S-Rank Party Kara Kaikosareta (ถูกเตะออกตี้เพราะเป็นนักทำไอเท็มต้องสาป)

สมาชิกปาร์ตี้เก่าโดนเนิฟสมองเหมือนทุกครั้ง เข้าใจว่าที่ฝ่าฟันมาถึงระดับสูงได้เป็นเพราะความเก่งของตัวเองก็เลยเตะตัวเอกออกตี้ เรื่องนี้โดนด่าเพราะตัวเอกแม่งขาดสามัญสำนึกบางอย่างไป เช่น ไอเท็มต้องสาปที่ทำขึ้นมามีเอฟเฟคโครตดีแต่เจ้าตัวดันคิดว่ามันเป็นของธรรมดา หรือดีบัพที่ใช้ใส่มอนสเตอร์จากแนวหลังช่วยให้เพื่อนในตี้สู้ได้โคตรง่ายมันไม่ได้เจ๋งเท่าไหร่ เป็นตัวละครสไตล์ปิดทองหลังพระที่โดนไล่ออกจากตี้เช่นเคย อาวุธและชุดเกราะของคนในตี้เป็นสิ่งที่ตัวเอกคราฟให้ ซึ่งเพิ่มสเตตัสให้อย่างมหาศาลแต่มีคำสาป "ลด exp ที่ได้รับ" กับ "ติดสถานะอ่อนแอตลอดเวลา" และเพื่อให้เพื่อนๆ ทุกคนไม่ต้องโดนคำสาปนี้ ตัวเอกเลยมัดรวมผลข้างเคียงของไอเท็มทุกชิ้นมาไว้ที่ตัวเองแทน จนสเตตัสต่ำลงอย่างมากและได้ exp น้อยจนเลเวลห่างจากเพื่อน

ก่อนออกจากตี้ตัวเอกเห็นว่าตัวเองไม่จำเป็นต้องแบกรับคำสาปแทนเพื่อนอีกต่อไป เลยสั่งใช้สกิล Dispell ล้างเอฟเฟคบนของทุกชิ้นที่ให้เพื่อนออก จนดีบัพ exp กับดีบัพอ่อนแรงในตัวหายเกลี้ยง แต่นั่นก็ทำให้เอฟเฟคเพิ่มความสามารถต่างๆ บนไอเท็มหายไปด้วยเช่นกัน สมาชิกใหม่ที่เข้ามาแทนที่ตัวเอกรู้สึกได้ว่าพวกในตี้อยู่ดีๆ ก็กากลงไปโคตรๆ ตอนเวท Dispell ทำงาน จนสงสัยขึ้นมาว่าที่ผ่านมาคนพวกนี้มันเก่งได้เพราะผลจากไอเท็มที่ตัวเอกคราฟให้รึเปล่าวะ (เออ หัวไวดี) หลังจากนั้นก็คือต่างคนต่างไปโดยที่ตัวเอกของเราเบนเข็มไปเอาดีด้านการค้า กะว่าจะเปิดร้านขายอุปกรณ์ต้องสาปที่ตัวเองคราฟขึ้นมา ตอนแรกเปิดร้านในเมืองหลวงแต่มีเรื่องให้ต้องหนีไปเปิดร้านแถวบ้านนอกแทน

แล้วความตามสูตรก็บังเกิด สมาชิกใหม่ที่มาแทนตัวเอกพบว่าพวกตี้เก่าแม่งกากสัสจนสุดท้ายเควสล้มเหลว ด้วยความปากหมาและการไม่ยอมรับความจริงของพวกแม่ง เลยโดนน้องบัฟเฟอร์สาวสุดอึ๋มซ้อมเพราะทนฟังไม่ไหว ออกตี้แล้วไปหาเมืองอื่นทำเควสแทน ตอนขึ้นรถม้าข้ามเมืองก็มาเจอกับตัวเอกพอดีในรถคันเดยวกัน มีฉากให้ต้องช่วยกันสู้เพื่อป้องกันพวกมอนสเตอร์นิดหน่อย จนน้องบัฟเฟอร์เข้าใจว่าพระเอกแม่งเทพสัสนี่หว่า นอกจากสเตตัสกับเลเวลที่แท้จริงจะกลับมาแล้ว อาวุธต้องสาปกับดีบัพที่พระเอกใช้แม่งเทพเว่อร์ เช่น ลดความเร็วในพื้นที่ 90% (มอนช้าจนสโลว์โมชั่น) โดนสภาวะหวาดกลัวจนโจมตีไม่ได้ (ติด fear ขั้นสูง) มีดสั้นมีสกิลโจมตีทะลุ DEF และมีโอกาสเล็กน้อยที่จะสาปเป้าหมายให้ตายทันที (ไอ้เหี้ยมีด one hit kill)

มีฉากให้กุ๊กกิ๊กกันนิดหน่อยหลังจบการต่อสู้ แต่ด้วยความเป็นตัวเอกชายที่โคตรจะญี่ปุ๊น-ญี่ปุ่น เลยทำตัวซื่อบื้อไม่รู้ว่าสาวเจ้าคิดยังไงแล้วจบตอนด้วยการเข้าตี้กัน (ซึ่งก็ตามสูตรอีกเช่นเคย) ไอเท็มที่ตัวเอกคราฟมาแต่ละอย่างมีผลดีโคตรโหด เช่นใส่แล้ว Agi x2 กับ Str x4 ในชิ้นเดียวกัน หรือพลังป้องกัน x3 กับ ไม่ติดพิษอย่างแน่นอน ในชิ้นเดียวกัน ตามปกติ Curse item พวกนี้มักมาพร้อมผลร้ายที่หนักหนาเหมือนเป็นการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม เช่น ใส่แล้วคุ้มคลั่งไม่รู้ว่าใครเป็นเพื่อนหรือเป็นศัตรู (โจมตีทุกเป้าหมายในระยะสายตา) หรือทุกครั้งที่โจมตีพลังชีวิตจะถูกหักออก 10% (ตีครบ 10 ทีก็เป็นลมตายเอง) แต่ๆๆ ... ด้วยความที่เป็น Cursifier ตัวเอกเลยสามารถถอดดีบัพนรกพวกนี้ออกจากไอเท็มได้ ทำให้ของที่มีเพียงข้อดีชิ้นนั้นกลายเป็นไอเท็มระดับสมบัติประเทศหรืออาจไปถึงขั้นเป็นอาร์ติแฟค, อุปกรณ์ในตำนาน (เพราะมีบางครั้งคราฟออกมาแล้วเสือกได้บัพ 3-5 ออฟชั่น)

ไอ้อาวุธกับชุดเกราะที่ว่านี้แหล่ะ ทำให้สมาชิกในตี้เก่ามันเทพเว่อร์ขึ้นในระยะเวลาช่วงสั้นๆ พอโดนลบออฟชั่นในอุปกรณ์สวมใส่มั้งหมดออกไป ความสามารถที่เคยคิดว่าเป็น A+ กำลังจะได้เลื่อนขึ้น S เลยกลับมาอยู่แถวๆ C หรือ D เท่านั้น พวกลูกค้าที่ซื้อของจากตัวเอกไปก็ประทับใจกันทุกคน เพราะเอฟเฟคด้านดีมันสุดยอด ผลข้างเคียงต่างๆ ก็ถูกลบออก เหลือแค่ข้อเสียที่ว่าติดตั้งแล้วจะถอดออกจากตัวไม่ได้ ซึ่งตัวเอกก็แถมแผ่นกระดาษเขียนสกิล Dispell ไว้ให้ลูกค้าไปคนละ 1 ใบ กรณีได้ไอเท็มใหม่ที่ดีกว่ามาแล้วอยากถอดชิ้นนี้ออก (แต่ของชิ้นนั้นจะกลายเป็นของธรรมดา)

941 Nameless Fanboi Posted ID:57Qs0ntXn.

พวกปาร์ตี้เก่าเข้าใจว่าที่พวกแม่งกากลงเป็นเพราะตัวเอกร่ายคำสาปแกล้งไว้ก่อนออกตี้ เลยพยายามตามหาเพื่อฆ่าทิ้ง แต่ด้วยความที่กากเกินทำให้เควสล้มเหลวรัวๆ ตกต่ำถึงขั้นไม่มีเงินเช่าห้องพักในทาเวิร์น ต้องนอนตามตรอกแคบๆ อย่างไรก็ตามนักเขียนก็มองเห็นแล้วว่าถ้าจบตรงนี้เดี๋ยวขายต่อยาก เลยเดินเรื่องให้พวกตี้เก่ามีโอกาส cumback ไปไลล่าตัวเอกทั้งๆ ที่อีกฝั่งกำลังหาทุนเปิดร้านขายของอย่างสงบสุขอยู่

เรื่องที่ทำให้นักเขียนถูกด่าคือความไม่รู้ประสาของตัวเอก บางทีโดนล้อว่าที่ผลิตของโหดๆ ออกมาได้นั้น ต้องแลกมาด้วยการโดนคำสาปทำให้สมองเสีย สามัญสำนึกขั้นพื้นฐานหายไป ซื่อตรงจนแอบปักธงสาวๆ ในเรื่องเพียบโดยไม่รู้ตัว แล้วก็ไม่เข้าใจด้วยนะว่าเขาเขินกันเพราะอะไร You dense motherf**ker !! คนอ่านเขาอาจหงุดหงิดปนสงสัย แต่กูเข้าใจดีเลยในฐานะผู้ผลิตเหมือนกัน ว่าการออกแบบตัวละครให้มีความออทิสติกอ่อนๆ แบบนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้มันออกมาสนุกแบบแนวตลกโปกฮา เท่าที่อ่านมาจนถึงตอนที่กูเล่า กูว่าเรื่องนี้ออกตี้แบบเน้นไปที่ความคอเมดี้มากกว่าซีเรียส ตัวเอกไม่รู้ตัวว่าตัวเองเก่ง คราฟไอเท็มมาโดยคิดว่าคงเป็นได้แค่ของตกแต่งบ้าน ปล่อยของขายราคาครึ่งเดียวจากของทั่วไปในตลาด ปักธงสาวแล้วไม่รู้ตัวว่าทำอะไรลงไป เป็นความ OP ที่มาพร้อมความไม่รู้เรื่อง ใช้ความเข้าใจผิดพวกนี้เป็นตัวขับเคลื่อนให้เนื้อหาเดินหน้าไปได้เรื่อยๆ

โดยรวมคือแนวออกตี้ที่ใช้ trope เดิมๆ มาเปิดเรื่องในช่วงแรก แต่ต่างไปตรงที่ไม่มีการปะทะกันระหว่างตัวเอกกับตี้เก่า เพราะฝั่งนึงหมดสมรรถภาพกับอีกฝั่งนึงเลือกไปทำการค้าในดินแดนใหม่ เป็นแนวออกตี้ที่อ่านสนุกได้และชวนให้ขำมากกว่าสะใจ เดินเรื่องไปเรื่อยๆ เจอสาวๆ ก็ช่วยไว้แล้วเป็นมิตรกันแบบไม่ถึงกับหลงหัวปักหัวปำอะไรปานนั้น สมแล้วที่เป็น 1 ใน 3 เรื่องที่ถูกจับตามองในขณะนี้

สรุปรายละเอียดความคลิเช่ที่ถูกใช้ไปในเรื่องช่วงแรก

☑ ปาร์ตี้เก่าโง่และกาก
☑ ปาร์ตี้เก่าเติบโตขึ้นเพราะตัวเอกอยู่เบื้องหลัง
☑ ตัวเอกเป็นอาชีพสาย support
☑ โดนเตะออกจากปาร์ตี้ด้วยข้ออ้างว่าเป็นตัวถ่วง
☑ ออกจากตี้แล้วชีวิตดีขึ้นทันตาเห็น และเทพซ่าส์ขึ้นเรื่อยๆ
☑ ปาร์ตี้เก่าเกิดเรื่องร้ายแบบกรรมติดจรวด
☑ สมาชิกใหม่ที่จะเข้ามาแทนตัวเอกเป็นผู้หญิง
☑ สาวคนที่ว่าไปเข้าตี้ใหม่กับตัวเอก
☑ โดนปาร์ตี้เก่าตามล่า
☑ ปาร์ตี้เก่าตกต่ำจนน่าทุเรศ
☑ ปาร์ตี้เก่า cumback จากโอกาสที่ได้มาใหม่หรือใช้พลังที่ยืมมาจากด้านมืด

เขียนไปเขียนมาเหมือนเป็นการรีวิวเรื่องไปแทนแล้วแฮะ
ก็เออ... ช่างมัน เดี๋ยวไว้ค่อยมาต่ออีก 2 เรื่องทีหลัง แต่ตอนไหนไม่รู้นะ ต้นปีมันค่อนข้างยุ่ง (ระหว่างนี้เชิญทะเลาะกันต่อไปพลางๆ ก่อน)

942 Nameless Fanboi Posted ID:6PjXwj6UfM

>>912 กุเห็นด้วยนะ​ มันควรค่ากับการจัดเก็บไว้ให้เป็นหลักแหล่ง

943 Nameless Fanboi Posted ID6:KsDksba1EP

พวกกูจะมีสารานุกรมของตัวเอง โดยพวกเด็กดีเลิกทำแล้วสินะเนี่น

944 Nameless Fanboi Posted ID6:uh8ydKQ89K

ใกล้จะครบ 1000 แล้ว อย่าลืมคิดชื่อเตรียมบทใหม่ล่วงหน้าด้วย

945 Nameless Fanboi Posted ID6:uh8ydKQ89K

Ky เลิกเขียนเกมล่าคนเพื่อแม่แล้วรึ https://www.dek-d.com/board/writer/4102506/

946 Nameless Fanboi Posted ID:TEZNA27zt9

เรื่องต่อไป...

(2) Point Gifter "Keikenchi Bunpai Nouryokusha" no Isekai Saikyou Solo Life (โดนเตะออกกิลด์เหมือนของใช้แล้วทิ้ง)

ก่อนคุยกันเกี่ยวกับเนื้อเรื่องขอคุยเกี่ยวกับมังงะที่วาดจากนิยายเรื่องนี้ก่อน คือถ้ากูรู้ว่านิยายเรื่องไหนมันมีมังงะแล้ว กูชอบตามไปดูว่ามันแปลงจากนิยายเขียนมาเป็นนิยายภาพในรูปแบบไหน เอาไว้เป็น ref กรณีใช้เขียนอธิบายให้ออกมาเห็นภาพมากขึ้น (หรือที่เรียกว่าพยายาม steal วิธีการเล่าจากตัวอย่างในฉากนั้นๆ) อืม... อ่านไปอ่านมาแล้วก็อดคิดในใจไม่ได้ว่า "ทำไมลายเส้นแม่งเหมือนดาบพิฆาตอสูรเลยวะ" หน้าตาพระเอกนี่มันคือทันจิโร่เวอร์ชั่นผมสั้นชัดๆ แถมยังชอบทำหน้าเอ๋อเหมือนกันอีก จากที่ลองไปค้นชื่อคนวาดเทียบกับทีมงานของจารย์เข้ (คนวาด Kimetsu no yaiba) กูยังไม่พบความเกี่ยวข้องใดๆ ทำได้แค่เดาว่าผู้ช่วยของนักวาดคนนี้อาจเคยอยู่ในทีมจารย์เข้มาก่อน ก็เลยติดนิสัยใช้ลายเส้นเดิมกับงานเรื่องใหม่

เรื่องนี้มีความไม่สมเหตุสมผลหลายข้อมาก อ่านที่กูเล่าเดี๋ยวพวกมึงก็จะเข้าใจเอง

เปิดเรื่องมาพระเอกชื่อฟิลโด้ (อ่านทีไรชวนให้นึกถึง*วยปลอมทุกที) โดนหัวหน้าตี้ใช้ให้ไปซื้อของ ถูกโขกสับสารพัดเพราะตัวเองมีหน้าที่แค่ไปอยู่ในกลุ่มเพื่อเร่ง EXP ให้ได้โบนัสมากขึ้น พอซื้อกลับมาถึงที่พักหัวหน้าตี้ที่ควบตำแหน่งหัวกิลด์ด้วยก็บอกว่า เงินตอบแทนจากเควสรอบล่าสุดของเอ็งจะถูกหักออกนะ เป็นหนึ่งในความคลิเช่ที่ไม่รู้เป็นเหี้ยอะไรชอบอ้างเรื่องความมีส่วนร่วมในแนวหน้า แล้วหักเงินของตัว support ไปจนแทบจะไม่พอแดก (เรื่องของต้องสาปข้างบนก็โดนทำนองนี้เหมือนกันแต่กูลืมบอก) หลังโดนหยามจากสมาชิกในตี้ทีละคนเสร็จ นายกวยปลอมของเราก็ไปนอนเหงาๆ ในห้องพักแล้วใช้สกิลของตัวเองจัดสรรจำนวน EXP ที่คนในตี้จะได้รับจากการไปลุยดันเจี้ยนรอบก่อนหน้านี้

การทำงานของสกิล Point Gifter ที่พระเอกมีคือ เมื่อเข้าร่วมกลุ่มใดๆ สมาชิกภายในกลุ่มนั้นจะได้รับโบนัส EXP จากการล่ามอนสเตอร์เพิ่มขึ้นอย่างมาก (ในเรื่องไม่ได้บอกไว้ว่าเพิ่มกี่เท่า แต่กูเดาได้เลยว่าโคตรเยอะ) นอกจากนั้นแล้วพระเอกยังสามารถควบคุม, แบ่งส่วน และจัดสรรผู้รับ EXP พิเศษนี้ได้อย่างอิสระ ซึ่งกลายมาเป็นความไม่สมเหตุสมผลข้อแรกที่กูรู้สึกข้องใจ ว่าทำไมพระเอกถึงยังอยู่แค่เลเวล 1 ในขณะที่คนในปาร์ตี้กลายเป็นนักผจญภัยแนวหน้าระดับประเทศ แถมยังเป็นตี้ที่มีเลเวลสูงสุดอีกด้วย

อ่านต่อไปเรื่อยๆ ก็ได้คำตอบว่า พระเอกอายุน้อยที่สุดในตี้และเป็นพวกหัวอ่อน ถูกหัวตี้ยัยเยียดความคิดว่า booster อย่างเอ็งไม่จำเป็นต้องเลเวลอัพก็ได้ รอโอน EXP กับแบกของดรอปกลับเมืองให้พวกกูก็พอ แล้วไอ้กวยปลอมก็เสือกเห็นด้วยเฉยว่าสกิลของเรามันใช้ในการรบไม่ได้จริงๆ โอน EXP ไปให้พวกแนวหน้าแทนดีกว่า ถ้ายังนึกไม่ออกว่าการโอน EXP ของ setting ที่นักเขียนมันบอกไว้เป็นแบบไหน เดี๋ยวกูจะเขียนให้เข้าใจง่ายขึ้นเป็นข้อๆ

947 Nameless Fanboi Posted ID:TEZNA27zt9

ปาร์ตี้มีกันทั้งหมด 5 คนไปล่ามอนสเตอร์ 1 ตัว
เข้าไปลุย 4 แล้วให้ไอ้ฟิวโด้ไปหลบอยู่ห่างๆ
พอมอนตายคนที่สร้างความเสียหายจะได้รับ EXP หารเท่า
สมมุติว่ามอนสเตอร์ให้ EXP 400 หาร 4 คนได้คนละ 100
สกิลของฟิลโด้ boost เพิ่มจาก 100 เป็น 3,000 สำหรับทุกคนในปาร์ตี้
เท่ากับว่ามอนสเตอร์ตัวนี้ถูกปรับแต่งให้มอบ EXP 15,000 แทน
ฟิลโด้ที่ได้ EXP พิเศษมา 3,000 สั่งโอน EXP ของตัวเองไปให้คนอื่น
แต่ละคนในปาร์ตี้จึงได้ EXP 3,000 + 750 = 3,750 หน่วย
ส่วนพระเอกของเราไม่ได้เหี้ยอะไรเลยนอกจากเศษเงิน

นอกจากการเป็นสมาชิกปาร์ตี้แล้ว ฟิลโด้ยังเป็นสมาชิกกิลด์ของไอ้หัวตี้ด้วย นั่นเท่ากับว่าสมาชิกที่มาสมัครเข้ากิลด์ของไอ้คล้อด (ชื่อหัวตี้ตัวร้าย) จะได้รับผล EXP x30 ทันทีเมื่อออกล่ามอนสเตอร์แม้จะไม่ได้อยู่ในตี้เดียวกันกับพระเอก ตามที่คำอธิบายสกิลบอกว่าจะมีผลทันที "เมื่อเข้าร่วมกลุ่มใดๆ"

กลับมาที่ส่วนต่อไปของเนื้อเรื่อง กลางดึกวันเดียวกันนายดิลโด้ เอ๊ย! ฟิลโด้ โดนไอ้คล้อดเรียกไปคุยบอกว่าแต่วันนี้เป็นต้นไปมึงถูกไล่ออก พระเอกของเราก็ดิ้นรนเฮือกสุดท้ายตามประสาพระเอกแนวโดนไล่อย่างสุดจะคลิเช่ว่า ถึงจะไม่ได้ออกรบแต่สกิลที่มีก็ช่วยให้ทุกคนเก่งขึ้น ทำเควสปราบปรามเสร็จกูก็ช่วยขนของกลับให้ พอมาถึงเมืองก็เป็นธุระหาซื้อของใช้จำเป็นแทนพวกมึงจนแทบจะกลายเป็นคนใช้ การมีส่วนร่วมทดแทนพวกนี้มันไม่มีความหมายอะไรเลยเหรอ พอได้ยินอย่างนั้นไอ้หัวกิลด์ก็หัวเราะลั่นแล้วบอกว่าในเมื่อพวกกูเวลเยอะกันแล้ว ความโด่งดังของกิลด์ก็มาถึงจุดสูงสุดแล้ว (เป็นกิลด์ที่มีอัตราความสำเร็จภารกิจอันดับ 1) booster อย่างมึงก็ไม่จำเป็นอีกต่อไปยังไงล่ะ

กวยปลอมช้ำใจน้ำตาแทบจะไหลขึ้นหน้าผากถามไอคล้อดเป็นครั้งสุดท้ายว่ามึงแน่ใจนะว่าจะไล่กูออกจากกิลด์ ถ้ากูออกไปจริงๆ นอกจากปาร์ตี้ของเราแล้วสมาชิกในกิลด์ก็จะได้รับผลกระทบไปด้วยนะ ไอ้หัวกิลด์ได้ยินก็ไม่พูดอะไรแต่ถีบยอดหน้าพระเอกจนกระเด็นออกจากประตูทางเข้ากิลด์แทนคำตอบ พอประตูสำนักงานกิลด์ปิดลง ไอ้ฟิลโด้ที่ตาสว่างก็สั่งปลดสกิลตัวเองออกจากปาร์ตี้และกิลด์ของไอ้คล้อดแล้วเดินจากไปพร้อมเสียงแจ้งเตือนที่ดังว่า "เลเวลของท่านเพิ่มขึ้น" ทุกๆ 3 วินาที

ตรงจุดนี้เรื่องจะเล่าแค่ว่าเลเวลของฟิลโด้มันพุ่งขึ้นอย่างเว่อร์ (แต่ไม่รู้เป็นเหี้ยอะไร ถึงไม่ยอมบอกว่าเวลเท่าไหร่) สเตตัสต่างๆ ในหน้าจอก็เยอะสัสหมา พระเอกของเราพอไม่มีกิลด์อยู่ก็เลยไปของานทำที่สมาคมนักผจญภัยกลางซึ่งเป็นกิลด์นักผจญภัยประจำเมือง *** พอถึงจุดนี้กูคิดว่า setting ของคนเขียนมันไม่ได้กำหนดว่าให้มีกิลด์อยู่หลายกิลด์ แต่กำหนดให้ Clan ถูกเรียกว่ากิลด์เหมือนกัน พอไอ้โด้โดนเตะออกจากแคลน เลยไปหางานทำที่กิลด์นักผจญภัยแทน *** สมัครเสร็จพระเอกจำได้ว่าเมื่อคืนฝันถึงเนื้อมังกรที่เคยอยากกิน เลยขอเควสล่ามังกรจากพี่สาวพนักงานต้อนรับ คุณเธอก็ลังเลอยู่ว่าเควสแรกมามึงจะลุยมังกรเลยเหรอ ระหว่างที่กำลังชั่งใจอยู่ว่าจะให้ทำเควสดีหรือไม่ ตาลุงนักผจญภัยคนนึงก็โผล่มาหาเรื่องให้พระเอกโชว์เทพและได้เควสปราบมังกรมาอย่างสะดวกสบาย (จนนักเขียนดูมักง่าย) ตรงนี้กูมีความเอ๊ะ! นิดๆ เพราะปกติกิลด์นักผจญภัยจะไม่อนุญาตให้รับเควสข้าม Rank ขนาดนี้ แต่ก็เอาเถอะ บางทีในโลกของเรื่องนี้อาจอนุญาตก็ได้ ช่างแม่ง

948 Nameless Fanboi Posted ID:TEZNA27zt9

ช่วงที่ฟิลโด้เดินทางไปปราบมังกร สมาชิกใหม่ที่จะมาเข้าตี้พี่คล้อดแทนพระเอกกำลังทดสอบฝีมืออยู่ที่สนามประลองของกิลด์ นักดาบสาวฉายา sword saint โชว์เทพจนสอบผ่านเสร็จแล้วก็ถามหาไอ้โด้ทันที อืม... ตามสูตรเป๊ะ สมาชิกใหม่เป็นผู้หญิง, เข้าตี้มาเพราะอยากเจอตัวเอก พวกมึงคงพอเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อใช่มั้ย

พี่คล้อดได้ยินแล้วก็เหงื่อแตกเหมือนคนท้องเสีย บอกน้องนักดาบชื่อ "ลูนาซิส" ว่าฟิลโด้มันลาพักร้อนไปเที่ยวอีก 2-3 วันถึงจะกลับให้เธอรอไปก่อน ที่ต้องโกหกแบบนี้เพราะกลัวว่าสมาชิกใหม่สุดแกร่งจะออกจากกิลด์ไปหาไอ้โด้แทนถ้ารู้ความจริง พอคิดว่าจะไปเชิญพระเอกกลับมาก็ไม่อยากเสียหน้าอีก แล้วจู่ๆ พี่คล้อดก็ทำตัวช่องคลอด คิดไปว่าถ้าไม่มีพระเอกแล้วน้องนักดาบก็ไม่มีเป้าหมายให้ไล่ตาม เลยจะออกไปตามหาไอ้โด้แล้วฆ่าทิ้งแบบให้ดูเหมือนเป็นอุบัติเหตุระหว่างไปเที่ยว (WTF! มึงคิดได้ไงวะไอ้นักเขียนนน)

เรื่องราวโดยสรุประหว่างนี้คือ ฟิลโด้เดินทางไปถึงพื้นที่เป้าหมาย เจอคณะเดินทางของพ่อค้าจากหอการค้าเมืองหลวงที่เดินทางต่อไม่ได้เพราะเห็นว่ามีมังกรอยู่บนถนนไม่ไกลนัก พระเอกของเราบอกว่าผมมาล่ามังกรตัวนั้นพอดีให้ลุงรอแป๊บนึง ฉากต่อสู้นี่น่าสมเพชดี เพราะไอ้โด้ไม่เคยต่อสู้แนวหน้า เลยเจอทั้ง ตีน, ไฟ, และหางมังกรไปจนน่วม ที่ยังไม่ตายเป็นเพราะเลเวลเยอะกับสเตตัสสูงมากเฉยๆ สู้ไปสู้มาก็ตัดหัวมังกรได้แต่ตอนกลับไปแจ้งข่าวให้ลุงพ่อค้า พี่ช่องคลอดกับพวกก็จับลุงเป็นตัวประกันเพื่อขู่ไม่ให้พระเอกขัดขืน ทว่าพอถึงตอนที่จะสู้กันก็เกิดความผิดปกติขึ้นหลายอย่าง เช่น ไอ้ช่องคลอดยกดาบที่เคยใช้ไม่ขึ้น เจ๊นักเวทใช้สกิลน้ำแข็งฟรอสไบท์แต่สิ่งที่ออกมาจากปลายไม้เท้ากลายเป็นสายลมเย็นสบาย ตัวชนเจอเตะทีเดียวอ้วก พระฮิลให้ก็ไม่ดีขึ้น พอเห็นว่าสู้ไม่ได้ก็เลยพากันหนีไป ส่วนพระเอกขอให้ลุงย่างสเต๊กเนื้อมังกรให้เป็นการตอบแทน

สาเหตุที่พวกพี่คลอดกากลงเป็นเพราะเมื่อฟิลโด้ออกจากกิลด์ EXP พิเศษที่เคย boost ด้วยสกิล Point Gifter ทั้งหมดจะถูกดึงกลับไปหาเจ้าของนั่นก็คือตัวพระเอกเอง เรื่องนี้เป็นอะไรที่เลวร้ายมากจนไม่น่าแปลกใจที่พวกตี้เก่าจะสู้พระเอกไม่ได้ หลังจากโดนยึดโบนัส EXP ไปแล้ว จำนวน EXP ที่อยู่ในตัวของสมาชิกกิลด์คนอื่นจะเหลือแค่จำนวนปกติก่อน boost สิ่งนี้ส่งผลให้เลเวลของทุกคนลดลงฮวบฮาบ ดังนั้นการที่พี่ช่องคลอดจะยกดาบไม่ขึ้นจึงเป็นเรื่องปกติ เหมือนกับพวกอาวุธในเกมที่ใส่ได้ตอนเลเวล 95 และต้องมี Str พื้นฐาน 200 พอเลเวลลดเหลือ 50 และ Str มีไม่ครบตามข้อกำหนดก็เลยใช้ไม่ได้ไปโดยปริยาย

แล้วก็มาถึงจุดที่นักอ่านโปรดปราน... ความฉิบหายของปาร์ตี้เก่านั่นเอง พวกพี่คลอดโดนพระราชาเรียกเข้าวังไปพบ เพราะมีข่าวว่าปาร์ตี้พี่คลอดจับตัวประกันและพยายามฆ่านักผจญภัยคนอื่น สมาชิกในตี้ได้คุกเข่าตัวสั่นแต่พี่หัวตี้ของเราตีหน้านิ่งอ้างว่า เป็นแค่พวกคนหน้าเหมือนมาแอบอ้างชื่อแล้วก่อเหตุ พระราชาเลยสั่งว่าให้กิลด์ของพี่คลอดหยุดการรับภารกิจไปก่อนจนกว่าจะจับตัวคนร้ายพวกนั้นได้ (ซึ่งคงเป็นไปไม่ได้) เรื่องนี้ทำเอาพี่คลอดหมดทางหากินเลยทีเดียว หลังจากปาร์ตี้เก่าออกจากวังไป พระราชาก็เรียกฟิลโด้เข้ามารับรางวัลปราบมังกรพร้อมเชิญให้มาเป็นขุนนาง เจ้าพระเอกของเราปฏิเสธเพราะคิดว่าตัวเองอายุยังน้อยและอยากออกไปท่องโลกกว้าง ราชาก็ไม่ว่าอะไรแล้วบอกให้หัวกิลด์จากกิลด์ใหญ่อีกกิลด์คอยจับตาดูเจ้าหนุ่มไว้ อันที่จริงพระราชารู้ความจริงหมดแล้วเพราะพ่อค้าที่ฟิลโด้ช่วยไว้เป็นคนสนิทส่วนพระองค์ ก็เลยสั่งยุบกิลด์พี่คลอดทางอ้อม ไม่ช้าก็เร็วกิลด์ที่รับงานไม่ได้ก็ต้องล่มสลายอย่างแน่นอน

949 Nameless Fanboi Posted ID:TEZNA27zt9

หลังจากนั้นก็มีความฉิบหายเกิดขึ้นกับพวกพี่คลอดอีกหลายอย่าง เช่น สมาชิกกิลด์ที่รับงานค้างไว้ก่อนโดนห้าม พากันกากลงจนเควสไม่สำเร็จทุกปาร์ตี้ คนที่บาดเจ็บกลับมาต้องใช้เงินของกิลด์รักษา นักผจญภัยส่วนใหญ่ก็พากันย้ายกิลด์เพราะอยู่ต่อไปก็รับงาน เหลือไว้แค่พวกไม่ออกไปทำเควสแต่กระดิกตีนรอรับเงินเดือน (ซึ่งตรงนี้แหล่ะทำให้กูคิดว่ามันเป็นแคลนมากกว่ากิลด์) เงินกองกลางของกิลด์ก็ลดลงเรื่อยๆ พอรับเควสไม่ได้ก็ต้องไปทำงานสาธารณะประโยชน์ เก็บขยะ ทำความสะอาด พอทนรับความอับอายไม่ไหวก็แอบไปรับเควสเถื่อนโดยตรงมาทำ แล้วเสือกสู้มอนสเตอร์ระดับกลางไม่ไหวจนเควสล่ม ได้รับบาดเจ็บมาพระในตี้ก็รักษาได้แค่ไม่กี่ครั้งเพราะเลเวลกากลง ต้องขายของเทพๆ ที่เคยมีประทังชีวิตแล้วเปลี่ยนมาใช้ของธรรมดาที่ขายในร้านอุปกรณ์ ทุกอย่างมันเลวร้ายลงเรื่อยๆ จนกระทั่ง... (อยากรู้ว่าพวกนี้จบยังไงก็ไปหาอ่านกันเอง)

เนื้อหาต่อจากนั้นเป็นการเข้าสู่ arc ใหม่อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย นายฟิลโด้เดินหาซื้อของในเมืองอยู่ดีๆ ก็โดนนักดาบสาวสมาชิกใหม่โผเข้ากอดแบบไม่ทันตั้งตัว บอกชื่ออะไรเสร็จก็อวยพระเอกจนออกนอกหน้า แล้วบอกว่าขอเข้าตี้กันได้มั้ย ไอ้โด้ที่ยังตกใจไม่หายก็ปฏิเสธ (เป็นกู กูก็ไม่เอาเหมือนกันวะ ทำตัวน่าสงสัยเกินอีนี่) ตรงนี้นะ เป็นความคลิเช่อีกเช่นเคย เพราะตัวละครไวฟุแคนดิเดตมีจุดมุ่งหมายว่าจะมาเข้ากิลด์พบตัวพระเอก น้องลูนาซิสหาข้อมูลมาเป็นอย่างดี รู้ว่าฟิลโด้มีสกิลบูสและแบ่ง EXP ในกลุ่มได้ แถมยังใจดีแบ่ง EXP ให้ทุกคนในกิลด์ทั้งหมดอีกซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายกย่องมาก ยิ่งรู้แบบนี้ไอ้โด้ยิ่งระแวงหนักขึ้นไปอีกว่ามึงวางแผนอะไรอยู่กันแน่วะ

หลังจากนั้นฟิลโด้พยายามหนีเข้าห้องสมุดเพราะทนฟังเสียงลูนาซิสตามตื้อขอเข้าตี้ไม่ไหว จนถึงจุดนึงพระเอกหยิบหนังสือเกี่ยวกับเอลฟ์มานั่งอ่าน ลูนาซิสเลยกระซิบถามว่าสนใจเรื่องเอลฟ์เหรอ ถ้าอยากเห็นเผ่าเอลฟ์ตัวเป็นๆ ล่ะก็ เรานำทางไปประเทศของเอลฟ์ได้นะ เจ้าหนุ่มถึงขั้นหูผึ่งตาเป็นประกาย คิดว่าถ้าน้อง sword saint เป็นนักผจญภัยระดับสูงแบบนี้ก็น่าจะเคยไปเมืองเอลฟ์มาแล้วจริงๆ เลยยอมทำตามข้อตกลงว่าจะเข้าร่วมปาร์ตี้กันชั่วคราวแล้วค่อยออกหลังทัวร์เมืองเอลฟ์เสร็จแล้ว

ช่วงกลาง arc รวบสั้นๆ ได้ว่าพากันเดินทางไปเมืองเอลฟ์ได้สำเร็จ แต่พอไปถึงจริงๆ พวกเด็กๆ ก็วิ่งมาทักแม่สาวน้อยของเราเหมือนรู้จักกันอยู่แล้ว สมาชิกฮาเร็มรายแรกเลยต้องเฉลยด้วยการดึงต่างหูปลอมตัวออก หูคนก็ยืดกลายเป็นหูเอลฟ์เหมือนประชาชนที่นี่ กลายเป็นว่าเอลฟ์ที่อยากเจอมันอยู่ข้างตัวกูมานานแล้ว นอกจากเรื่องนี้ลูนาซิสยังบอกอีกว่าที่อยากเจอตัวฟิลโด้เป็นเพราะประเทศเอลฟ์กำลังประสบปัญหาหนักที่อาจทำให้เอลฟ์สูญพันธุ์ได้ ก็เลยอยากขอความช่วยเหลือจากพระเอก ตรงนี้ก็เป็นความคลิเช่เหมือนกัน

ปัญหาที่ว่าคือประชากรเผ่าเอลฟ์วัยรุ่นขึ้นไปกำลังป่วยจากสภาวะ "มานาแห้งเหือด" ปกติแล้วเอลฟ์จะได้รับมานาจากธรรมชาติเรื่อยๆ พอได้มานาเพียงพอก็จะสามารถมีลูกได้ แล้วพอเด็กโตเต็มวัยก็จะมีการคืนมานาในตัวเอลฟ์กลับคืนสู่ธรรมชาติ แต่ว่าพักหลังๆ มานี้เอลฟ์โดนล่าโดยพวกมนุษย์เพราะรูปโฉมที่งดงาม พอโดนล่าไปมากๆ เข้า จำนวนเอลฟ์ที่จะคืนมานาสู่ธรรมชาติก็น้อยลง ทำให้ปริมาณสมดุลของมานาในวงจรลดต่ำป่าป่วย เอลฟ์ก็ป่วยตามกันยกประเทศ จนไม่สามารถมีลูกได้ ทำให้จำนวนมานาก็ยิ่งลดตามไปอีก ลูนาซิสในฐานะเจ้าหญิงของเผ่าเห็นว่าวิธีการที่พ่อ (ราชาเอลฟ์) ใช้ทำได้แค่ประวิงเวลาแต่แก้ไขอะไรไม่ได้ เลยหนีออกจากป่ามาเก็บเลเวลเองเพื่อเพิ่มจำนวนมานาในตัวจนหายป่วย แล้วตามหาวิธีช่วยประชาชนด้วยวิธีใหม่แทน

หวยก็มาออกที่นายฟิลโด้ของเรา เพราะถ้ารับพระเอกเข้าเป็นคนของเผ่า เท่ากับว่าเจ้าตัวได้กลายเป็นสมาชิกของประเทศเอลฟ์และสกิล Point Gifter จะทำงานทันที ถ้าให้พระเอกเข้าร่วมคณะสำรวจไปปราบปรามมังกรโบราณ แล้วแบ่ง EXP ให้ทุกคน ด้วยการบูสโบนัส EXP ที่โหดสัสจากการปราบสัตว์อสูรระดับเทพนิยาย ทุกคนในประเทศก็จะเลเวลอัพแล้วได้มานามาใช้ส่งคืนสู่ธรรมชาติ ตอนแรกลูนาซิสคิดว่าพระเอกจะเกลียดตัวเองเพราะพยายามใช้เขาเป็นเครื่องมือ แต่พอฟังคำอธิบายแล้วเจ้าหนุ่มก็เข้าใจถึงความจำเป็นของอีกฝ่าย แล้วรับปากว่าจะช่วยก่อนถามว่าต้องทำอะไรบ้าง

950 Nameless Fanboi Posted ID:TEZNA27zt9

จากนั้นก็ไม่มีอะไรมาก ราชาให้ดาบเทพกับพระเอกเอาไปใช้ ยกพวกกันไปรุมมังกรตัวใหญ่เท่าภูเขา มังกรคงคิดในใจ กูนอนนิ่งๆ ตรงนี้มาพันกว่าปีแล้วกูผิดอะไรพวกมึงถึงมาตัดหัวกูถึงบ้านเนี่ย ปราบเสร็จแล้วก็กดแบ่ง EXP ไปให้ประชาชน ทุกคนก็หายป่วยเพราะมีการหมุนเวียนมานาในวงจรอย่างเพียงพอ พวกที่แก้มตอบซูบผอมก็กลับมาหน้าอิ่ม น้องสาวของลูนาซิสที่ตอนแรกใกล้ตายก็กลับลุกขึ้นมายืนได้ มีการจัดงานเฉลิมฉลองในวัง ประกาศเป็นวันหยุดสำคัญของปีให้รื่นเริงได้ 7 วัน 7 คืน เลี้ยงอาหารจากเนื้อมังกรไม่อั้น (สัส ฆ่ากูเอา EXP แล้วยังเอาเนื้อกูไปแดกด้วย) ฟิลโด้กลายเป็นแขกระดับสูงพิเศษที่สามารถ เข้า-ออก เมืองเอลฟ์ผ่านบาเรียในป่าลวงตาได้ตามต้องการ แถมราชาเอลฟ์ยังพยายามจะมอบตำแหน่งราชาองค์ต่อไปให้ด้วย (แต่ลูนาซิสมาห้ามไว้ทัน)

พอตกดึกคืนนั้นฟิลโด้ที่ไม่ถูกโรคกับการอยู่ท่ามกลางความสนใจแอบหนีออกจากเมืองหลวงเอลฟ์ แต่โดนลูนาซิสจับได้เสียก่อน พอถูกถามว่าจะไปไหน พระเอกของเราก็บอกว่าดาบที่พ่อเธอให้มามันสุดยอดมาก เป็นอาวุธที่พวกคนแคระตีขึ้นอย่างประณีต เลยคิดว่าจะหาทางไปเที่ยวเมืองคนแคระต่อ ลูนาซิสเลยบอกว่างั้นเดี๋ยวจะไปด้วย เพราะถ้ามึงเดินทางในป่าลวงตาคนเดียวตอนกลางคืนก็มีแต่จะหลงป่าตาย แล้วพอออกเดินทางกันมาได้สักพักก็พบว่าน้องสาวของลูนาซิสแม่งตามมาด้วยเพราะอยากไปเมืองคนแคระเหมือนกัน เท่ากับว่าเจ้าหญิงเผ่าเอลฟ์ทั้ง 2 คนตามไอ้โด้ออกมาหน้าตาเฉย (แล้ว พ่อ-แม่ พวกเธอไม่ว่าอะไรเหรอวะ) คือไม่มีคำอธิบายอะไรให้ แต่ตัดฉากไปถึงการเดินทางวันใหม่ในเมืองหลวงแบบงงๆ พร้อมกับภาพพี่ช่องคลอดที่ตอนนี้กลายเป็นฆาตกรเต็มตัว จ้องจะเล่นงานฟิลโด้ด้วยของอันตรายต่างๆ เพราะแค้นใจว่าที่ตัวเองตกต่ำแบบนี้เป็นความผิดของพระเอก

โอ้โห... ไม่เคยเห็นจุดเปลี่ยนแบบนี้เลยนะเนีย เป็นครั้งแรกของโลกจริงๆ ที่มีการเดินเรื่องแบบนี้ (ประชด)

โดยรวมคือแนวออกตี้ที่ใช้ trope เดิมๆ มาเปิดเรื่องในช่วงแรก ฝั่งปาร์ตี้เก่ากากลงทันทีหลังเตะตัวเอกออก กูเดาว่าหลังจากปราบพี่ช่องคลอดได้ก็คงไปหลั่นล้าตามประสาพระเอก OP ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์กับ 2 พี่น้องชาวเอลฟ์เหมือนที่อาจารย์แดงเคยบอกว่า มี 2 xี ดับเบิ้ล xี แล้วก็คงเจอพวก damsel in distress ตามเมืองต่างๆ ให้ช่วยแล้วพาเข้าฮาเร็มอีก เจอศัตรูใหม่ๆ ที่เก่งขึ้นแต่ใช้พลังมิตรภาพและความเทพซ่าของตัวเอกปราบได้ แปลงร่างเป็นแนวฮาเร็มเทพซ่าส์ไปโดยสมบูณ์

951 Nameless Fanboi Posted ID:TEZNA27zt9

ส่วนตัวแล้วกูมีความไม่เข้าใจเกี่ยวกับวิธีคิดของตัวละครต่างๆ อยู่หลายจุด เช่น ทำไมพี่ช่องคลอดตอนคิดจะฆ่าฟิลโด้ต้องจับตัวประกันให้มีพยานรู้เห็นด้วย ถ้ากูจะทำเรื่องผิดกฏหมายอะไรสักอย่าง กูต้องแน่ใจว่าจะมีคนรู้เรื่องนี้น้อยที่สุดดิวะ เรื่องเตะพระเอกออกกิลด์นี่ก็เหมือนกัน กูว่าไม่เห็นมีประโยชน์อะไรเลย รู้ทั้งรู้ว่าสกิลของพระเอกโคตรจะสำคัญก็ยังจะทุบหม้อข้าวตัวเองอีก (พาลูกกิลด์ซวยเกือบตายไปด้วยอีกตั้งหลายคน) แล้วเรื่องนางเอกคนแรกที่โผล่มาเนี่ยก็เหมาะเจาะเกินไปเรื่องที่เป็นเอลฟ์อย่างที่พระเอกสนใจอยู่พอดี มันเป็น plot device ที่ง่ายและสะดวกเกินจนน่าขำ ความไม่สมเหตุสมผลของการอนุญาตให้รับเควสมังกรของพนักงานต้อนรับ

ตัวเอกที่ไม่คิดทดสอบความสามารถของตัวเองก่อนลุยว่าเก่งถึงขั้นไหน ต่อให้เทพซ่าส์ขึ้นมาแบบฉับพลันยังไงก็ช่าง ก็ควรวัดเสียหน่อยว่าไหวพอสู้มังกรจริงรึเปล่า โดยเฉพาะกับคนที่ปกติไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการต่อสู้มาก่อนอย่างไอ้พระเอกด้วย การตัดฉากกับ Pacing นี่อีกอย่าง ออกกิลด์ได้คืนเดียวฝันเห็นเนื้อมังกรที่มีคนเคยกินให้ดูก็เลยจะไปล่าบ้าง (?) เดินเรื่องมาตั้งนานไม่มีการพูดถึงความชื่นชอบเอลฟ์ของตัวเอก แต่จู่ๆ ก็พูดถึงขึ้นมาตอนไปห้องสมุด (?) เรื่องเมืองคนแคระก็ด้วย เดินเรื่องแบบตามใจกูดีมาก อ่านเทียบระหว่างนิยายกับมังงะ ตอนแรกคิดว่ามังงะมันตัดออกเยอะเพื่อประหยัดหน้ากระดาษ ที่ไหนได้ในนิยายมึงก็ตัดฉากแบบเรื่อง Top up NOW ของจระเข้ผึ่งพุงเลยนี่หว่า วิธีการเล่ากูยังไม่ให้ผ่าน เรื่องที่ชอบจริงๆ คงเหลือแค่ลายเส้นมังงะที่คล้ายดาบพิฆาตอสูรล่ะวะ

สรุปรายละเอียดความคลิเช่ที่ถูกใช้ไปในเรื่องช่วงแรก

☑ ปาร์ตี้เก่าโง่และกาก (ประมาทเกินไปว่าถึงโดนหัก EXP แล้วก็คงจะยังเทพอยู่+มีการตัดสินใจที่ไม่สมเหตุสมผล)
☑ ปาร์ตี้เก่าเติบโตขึ้นเพราะตัวเอกอยู่เบื้องหลัง
☑ ตัวเอกเป็นอาชีพสาย support (เป็น booster ที่ความสามารถทางการรบ = 0)
☑ โดนเตะออกจากปาร์ตี้ด้วยข้ออ้างว่าเป็นตัวถ่วง
☑ ออกจากตี้แล้วชีวิตดีขึ้นทันตาเห็น และเทพซ่าส์ขึ้นเรื่อยๆ
☑ ปาร์ตี้เก่าเกิดเรื่องร้ายแบบกรรมติดจรวด
☑ สมาชิกใหม่ที่จะเข้ามาแทนตัวเอกเป็นผู้หญิง
☑ ผู้หญิงคนที่ว่าไปเข้าตี้ใหม่กับตัวเอก (และรายนี้มาเพื่อใช้ประโยชน์จากตัวเอกด้วย)
☑ โดนปาร์ตี้เก่าตามล่า
☑ ปาร์ตี้เก่าตกต่ำจนน่าทุเรศ
☑ ปาร์ตี้เก่า cumback จากโอกาสที่ได้มาใหม่หรือใช้พลังที่ยืมมาจากด้านมืดเพื่อแก้แค้นพระเอก

เรื่องนี้เขียนซะยาวเลย แต่เรื่องหน้าอาจจะยาวกว่าเพราะต้องอธิบาย setting หลายๆ อย่าง ยังไม่รู้ว่าจะว่างลงวันไหน ระหว่างนี้เชิญต่อยกันรอไปก่อน

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.